บทสัมภาษณ์
วันนี้เป็นวันอาทิตย์…วันนี้วันหยุดแต่เดย์มีนัดกับ4หนุ่มที่มหาลัยแถวสนามหลวงตอนบ่ายโมงเพราะคิดว่าเช้าๆคงยังไม่ตื่น เพิ่งส่งโปรเจคกันไปเมื่อวันศุกร์ น่าจะนอนเอาแรงกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว
ขับมาถึงประมาณเที่ยงครึ่ง มาเร็วไปหน่อย เลี้ยวรถเข้าจอดในกองทหารเรือแถวนั้นแล้วก็เดินข้ามถนนเข้ามารอที่สวน
อย่างที่คิด…ยังไม่มีใครมา…จะว่าตรงเวลารึก็ไม่อยากจะพูด เดินไปซื้อไส้กรอกกับไก่ป๊อปมา3-4กล่องแล้วมานั่งรอที่โต๊ะ
“พี่เดย์!” มาแล้วหนึ่งหนุ่ม
“ไงเนม มานั่งก่อนๆ”
“พี่มาเร็วชะมัด นี่ผมคิดว่าจะมาถึงคนแรกนะเนี่ย”
“บ่ายโมงแล้ว เร็วยังไง?”
“โหยพี่ ปกติเวลานัดใครต้องเอาเวลานัดบวกครึ่งชั่วโมงถึงค่อยออก” มันว่าแล้วหันซ้ายหันขวา
“มองไร?” เห็นแบบนั้นแล้วก็ต้องถามสิคะ กิริยาแสดงชัดเจนเหมือนบอกใบ้ให้เอ่ยปากอยากบอกขนาดนี้
“มหาลัยเงียบเนอะ”
“วันนี้วันอาทิตย์นี่ยะ” ว่าแล้วก็มองตาม อากาศเย็นๆไร้ผู้คน ลมพัดยอดไม้เอนไหวน่านอนจริงๆ
“อ้าว ไอ้วิวมาแล้ว” เนมมันพูดขึ้นตามองไปข้างหลังแล้วยกมือโบกไปมา
“ดีครับพี่”
“เออๆ นั่งลงก่อน” บางทีก็คิดนะว่าอายุก็เท่าๆกันทำไมมันเรียกพี่วะ?
“แล้วมายยังไม่มาเหรอ?” คนมาทีหลังหันไปถามเพื่อนที่นั่งยัดไก่เข้าปากอยู่ข้างๆ กินไม่ขอเลยไอ้นี่
“อัง อำอังอา”
วิวพยักหน้า เห็นแล้วก็ต้องเลิกคิ้ว “ฟังออก?”
“ครับ มันบอกกำลังมา นั่นไงมาแล้ว”
ยังไม่ทันพูดจบก็ต้องหันไปมองทิศเดียวกับทางที่วิวมาเมื่อครู่
เจกับมายเดินง้องแง้งกันมาแต่ไกล
มองนาฬิกาใกล้จะบ่ายโมงครึ่งแล้วไอ้คู่นี้…
สายตลอด “พี่หวัดดี” มันประสานเสียงกัน แล้วฝ่ายไอ้เจก็หันไปจ้องหน้าวิวเขม็ง ดึงแขนมายให้นั่งลงอีกฝั่งนึง ข้างๆเดย์ ก่อนจะทิ้งตัวลงตาม
“…” บรรยากาศมาคุขึ้นเล็กน้อย นี่คิดถูกคิดผิดที่นัดมันมาพร้อมกันเนี่ย
“ไอ้เจพอเลย อย่ามาสร้างสงครามตอนนี้ ได้เอาคืนมันไปแล้วไม่ใช่เหรอไง”
“พี่ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม”
นั่นไง…มีย้อน “ยังโกรธฉันที่ให้วิวจูบ-”
“พอเลยพี่!”
“โอเคๆ ไม่พูดๆ” อารมณ์แรงเสียด้วยยยย ขนลุกไปหมดแล้ว หันไปหามายดีกว่า
“ที่เรียกมาวันนี้อ่ะก็ไม่มีไรมากหรอก แค่จะชวนมาพูดมาคุยกันนิดหน่อย ให้คนอ่านหายข้องใจ”
“อะไรอ่ะ? แล้วนี่มายกินได้เปล่าพี่เดย์”
“เอาเลย”
เห็นท่าทางมันจ้องไส้กรอกตรงหน้าแล้วก็ต้องเลื่อนให้ พอได้รับอนุญาตก็จิ้มใส่ปากทันที โดยไม่ลืมหันไปจ่อที่ปากแฟนด้วย
“…คนอ่านบอกว่ามายไม่รักเจ” เปิดประเด็นง่ายๆเลยแล้วกัน
“หึ”
“หัวเราะอะไรของมึง!”
นั่นไง… “วิวอย่าแสดงอาการมากเก็บๆไว้มั่ง เดี๋ยวก็ได้อีกหมัดหรอก คราวนี้ไม่ให้เนมช่วยแล้วนะ”
พอขู่ไปวิวก็หน้าหงิก กรอกตาไปมาเซ็งๆ
“เอ้ามาย เคี้ยวแล้วกลืนๆลงไปเร็ว” พอปรามไอ้2ตัวนั้นแล้วก็หันมาเร่งเจ้าของประเด็น
“อึก…โอเคพี่” มายขานรับหันไปเช็ดปากที่แขนเสื้อเจ ให้โดนเขกหัว ก่อนจะเงยหน้ามาตอบ
“พี่ว่าไรนะ ขออีกรอบ”
“ฉันบอกว่า คนอ่านบอกแกไม่รักเจ”
“ทำไมงั้นอ่ะ?”
“โทษทีเพราะฉันเองอ่ะ ฮ่าๆ เฮ้ยแต่จะมาโกรธกันไม่ได้นะ ก็ตอนที่เขียนมันเป็นประเด็นนั้นอ่ะ”
พอหัวเราะเสร็จก็ต้องรีบแก้ตัวทันทีเมื่อเห็นเจ้าเด็กตาโตทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจ
“รักดิ โถ่”
เคยเห็นคนฟอร์มจัดแอบเขินเงียบๆคนเดียวไหมคะ? ตอนนี้ไอ้เจกำลังเป็นแบบนั้นเลย “เจยิ้มไร”
“ไรพี่ ผมยิ้มที่ไหน”
“เออไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้ม ตกลงมายไม่มีไรจะพูดมากกว่า รักดิ แล้วใช่ปะ จะได้เปลี่ยนประเด็นละ”
“เฮ้ย ยังพี่ ขออีกนิด ไหนๆจะได้แก้ตัวแล้ว เผื่อคนอ่านจะหายเกลียดผมขึ้นมาบ้าง”
คำที่คนตัวสูงกว่าหน่อยหันขวับมาทันที “ใครเกลียดมึง”
“เออน่ะ เงียบไปก่อนกูจะตอบพี่เดย์” มายมันว่าแล้วหันมาทำท่ากระตือรือร้น
“คือถ้าผมไม่รักอ่ะนะ ผมก็คงไม่คบกับมันจนจะ4ปีหรอกพี่ คบกัน2คน ถ้าคนนึงทุกข์อีกคนก็คงไม่มีความสุขหรอกจริงปะ ความเข้ากันไม่ได้แม่งเปลี่ยนยากมาก ไอ้เจมันก็ปากหมาอ่ะ"
อือหือ ดูมันพูด หวิดเปิดศึกจริงๆ "มันหวังดีแต่พูดดีๆไม่ได้ มันงานเยอะ แล้วงานผมเองก็ใช่จะน้อย เรียกได้ว่าแข่งกันเยอะเลยด้วยซ้ำ เจอก็ไม่ค่อยได้เจอ ระยะห่างแม่งสร้างความฟุ้งซ่านได้มากกว่าที่คิดนะ ยิ่งเวลาเจองานเครียดๆมาก็ทำให้อารมณ์อ่อนไหวกว่าปกติด้วยดิ แล้วตอนมีปัญหาดันมาเจอคนที่เข้าใจอย่างไอ้วิวอีก โอ้ย!”
คนอธิบายไปเรื่อยๆแบบไม่คิดอะไรร้องลั่นด้วยความเจ็บเพราะโดนตีเข้าที่หลังทันทีที่พูดจบ
“พูดให้มันดีๆ” เจเอ่ยเสียงเรียบหันไปค้อนสายตาใส่วิวที่ยิ้มกริ่มมาให้
“มึงแม่ง…ใจเย็นก่อนดิวะ…ต่อนะพี่” มายหันมาทางเดย์อีกครั้ง “มันก็เลยคิดฟุ้งซ่านอะพี่ ประมาณน้อยใจปนหงุดหงิด เลยมีความคิดโง่ๆแบบเช่น จะมีไปทำไมอะไรแบบนี้…แต่ไม่เคยคิดจะเลิกกับมันเลยสักครั้งนะ…ถ้าผมไม่แคร์คงไม่นั่งรถไปหามันตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งหรอกพี่”
พูดจบก็หันไปมองเจตาดุ แบบที่คนถูกจ้องก็รีบเอ่ยปาก
“ใครจะไปรู้ล่ะว่ามึงจะมาตอนนั้น…กูอยากโกรธนานๆให้มึงรู้สึกบ้างนี่หว่า แล้วก็กลัวใจอ่อน เลยไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวไว้ตอนไปบ้านไอ้นิว”
“เออ! แม่ง…ถ้าไม่ติดว่ากูไปเพื่อง้อนะ กูจะงอนกลับบ้าง”
“แต่จะว่าไปนะ ไอ้วิวมันก็บอกชอบมึงตั้งแต่วันรายงานตัว ทำไมไม่คบไปเลยวะ …กูแค่ถามไอ้เจไม่ต้องมองกูแบบนั้น” เนมที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆไปพักใหญ่ เอ่ยปากร่วมวงบ้าง
“ก็…ไม่รู้อ่ะ ความรู้สึกมันไม่ใช่” นั่นไงคุณ…พอมายมันพูดถูกใจหน่อย ไอ้เจก็แอบยิ้มอีกแล้ว
“แล้ววิวอ่ะตอนนี้คิดไร” หันไปถามวิวที่ตอนนี้เริ่มหน้านิ่งไปบ้างแล้วมั่งดีกว่าค่ะ
“ก็…” คนถูกถามหันไปจ้องตากับเจนิดนึงแล้วเบนสายตามาทางเดย์ “ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มายมันเดือดร้อนนะพี่ แต่ตอนนั้นแม่งเมาๆกันทั้งคู่อ่ะ แล้วหน้ามายมันก็แบบ…โคตร…”
“สัดวิว!”
โอยตายๆๆๆๆ นี่ก็ขี้หวงเหลือเกิน “เดี๋ยวๆเจใจเย็น นั่งลงๆ” หันไปสะกิดให้มายมันยึดบ่าเจไว้ไม่ให้ลุก พลางพูดปลอบ “แค่คุยกันเฉยๆ นี่ก็ขึ้นเร็วจริง”
“พี่นั่นแหละ ถามบ้าอะไรเนี่ย” เอ้า…โดนพาลเลย
“โอเค งั้นจบประเด็นนี้ก็ได้ เอ้าเนม ตอนอยู่ชะอำอ่ะที่มายมันนั่งอยู่ที่ล็อบบี้คนเดียว แกเป็นคนไปเคลียร์กับเจใช่ไหม เปิดโอกาสให้หล่อ เล่ามา”
เนมมันรีบขยับนั่งตัวตรง ยิ้มอย่างเป็นต่อ “อะแฮ่ม เปิดมาก็จัดไปครับ ผมแม่งโคตรนิสัยดีอ่ะ” มันชมตัวเองแล้วก็หัวเราะ
“คือวันนั้นพอลากไอ้มายไปปล่อยไว้ที่ล็อบบี้แล้วเห็นสภาพแบบนั้นผมก็ทนไม่ได้ เผอิญจิตใจดีมาก เลยวิ่งไปตามหาไอ้เจมัน หาอยู่พักนึงก็ดันเจออะดิพี่!” อือหือโคตรตื่นเต้น..
“เออ แล้วตอนนั้นเจไปอยู่ไหน” หันไปถามเจ
“นั่งอยู่บนรถ”
พอได้รับคำตอบก็ทำหน้าเหนื่อยใจส่งให้เนม “คือนั่นหานานแล้ว?”
“โถ่ ใครจะรู้ว่ามันจะกลับไปที่จุดเริ่มต้นเล่า ก็นั่นแหละเข้าเรื่องนะพี่ คือพอเจอแล้วก็เลยไปขอร้องให้มันฟังมายสักครั้ง ยกแม่น้ำทั้ง5 6 7 8 มาหมดเลย พูดจนมันยอมเอนเอียงตามนั่นแหละ” เนมทำหน้าแหย “ไม่อยากจะฟ้องเลยว่าแม่งโกรธน่ากลัวชิบ ผมนี่ตัวสั่นไปขอร้องไป”
“แล้วเจยอมตกลงได้ไง” หันไปถามเจ้าตัวบ้างดีกว่าค่ะ
เจหันมาเลิกคิ้ว “ก็ไอ้เนมมันทุ่มสุดตัว ผมเองก็ไม่ได้อยากเลิกหรอก แต่แม่งโคตรโมโห ฟังมันพูดไปพูดมาก็โอเคตรงที่มันบอกว่าเดี๋ยวจะให้ไปแอบฟังว่ามายมันคิดยังไงกันแน่ ถ้าไม่พอใจจะเดินออกไปก็ตามใจ แต่ถ้าฟังแล้วอยากคุยก็ค่อยเคลียร์”
เนมยืดอกอย่างภาคภูมิใจ “มึงต้องเลี้ยงขอบคุณกูมื้อใหญ่เลยนะไอ้มาย”
“เออออ เดี๋ยวกูเลี้ยงแน่”
“เออมีคนสงสัยว่าตกลงใครรุกใครรับ” ถามขึ้นดื้อๆกลางวงสนทนาแบบนี้เลยค่ะ ฮ่าๆๆ
“พี่ถามอะไรเนี่ย!” เจ้ามายแหวขึ้นเสียงดัง แก้มเริ่มมีสีแดงจางๆ
“เออน่าหรือจะให้ฉันบอกเอง หึหึ ถ้างั้นละเอียดเลยนะ”
คำขู่ที่เจ้าตัวรีบละล่ำละลักตอบ “โอเค! ผมพูดเอง ฮึ่ยย” มันเกาท้ายทอยอย่างประหม่า “ก็…สลับกัน”
“หึ” คราวนี้คู่กรณีอีกคนหัวเราะในคอขึ้นมาทันที “สลับ 100-1 สิไม่ว่า”
“อะไรมึงไอ้เจ!”
“ก็จริงปะ?”
2คนเถียงกัน แบบที่ฝ่ายรุก(ครั้งเดียว)ตะโกนลั่นเพราะความอาย ให้ฝ่ายรับ(ครั้งเดียว) ยิ้มกริ่มอย่างติดจะแซว
“ว่าแต่ตกลงผมเป็นตัวร้ายใช่มั้ยพี่” วิวเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ให้ต้องยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูในคำถาม
“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกวิว มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์”
“ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันแตกแยกกันนะ…แต่ผิดก็คือผิดใช่ปะล่ะ”
“โถๆ ก็แก้ตัวใหม่นะวิวนะ ไว้สักวันก็จะเจอคนของตัวเอง”
วิวเบะปากลงอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปทางมาย “ชอบไปแล้วอ่ะ…”
“มึงยังไม่จบใช่ปะ!”
“เจๆๆๆ ใจเย็นก่อน มายล็อคแขนไว้ ห้ามมีเรื่องในสถานศึกษา!” รีบหันไปห้ามทันที ยื่นแขนไปกั้นกลางคนทั้งคู่ไว้
“เออน่า กูไม่แย่งมึงหรอก…มายแม่งรักมึง”
“รู้ก็ดี…มึงก็รีบๆเรียนจบได้แล้ว ไม่ต้องอยู่ใกล้กันแล้วแม่ง” คนขี้หึงหันไปพาลแฟนตัวเองอย่างไม่พอใจ ให้คนถูกพาลยิ้มขำ
“เอออออ กูไม่อยู่5ปีเหมือนที่มึงด่ากูหรอก”
“…เรื่องนั้นกูไม่ได้ตั้งใจจะพูด” เจช้อนตามองคนข้างตัว “ขอโทษ”
“พอๆๆ เลิกหวานได้ละ พอดีกันแล้วมดตอมเลยนะ จะกลับก็กลับกันไปได้ละไป หมดเรื่องถามละ” หรี่ตามองมันอย่างหมันไส้ได้ไม่นานก็ต้องเอ่ยปากแล้วยกมือปัดไปมาไล่
“ดีเลย ผมจะไปดูหนังกันต่อ” มายว่าแล้วลุกขึ้นยืน “หวัดดีพี่”
มองมันเดินไปกับเจแล้วหันมาหาอีก2หนุ่มที่ยังไม่ลุกไปไหน
“แล้วพวกเราอ่ะ ไม่ไปไหน?”
“เดี๋ยวผมไปหาแฟนต่อ” เนมว่า
“ผมคงเดินไปหอสมุดอะพี่ หางาน”
“ลำบากหน่อยนะวิว” เห็นหน้าซึมเล็กๆของมันแล้วก็สงสาร
“หมายถึงงานหรืออะไรพี่”
“ทุกเรื่อง” ส่งยิ้มอย่างรู้กันไปให้ อีกฝ่ายเองก็ส่งเสียงหึในคอ
“ตอนนี้ไอ้เจไม่อยู่แล้วก็ดี ไม่ต้องมาหวิดลุกต่อยกันอีก” วิวว่าแล้วถอนหายใจ
ไอ้เนมที่นั่งฟังอยู่ก็หันไปหา “มึงเองก็ตัดใจได้แล้วมั้ง เขาคบกันจะ4ปีแล้ว บ้าเปล่าวะ”
“กูก็ตัดใจไปหลายทีละไอ้เนม มองคนอื่นแล้ว แต่มายแม่งอยู่ใกล้นี่หว่า แล้วน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่”
เนมมันทำหน้าเซ็ง “นี่ถ้าไอ้เจอยู่มึงได้โดนอีก แล้วไอ้มายนี่มันมีคำว่าน่ารักแทรกอยู่ตรงไหนของใบหน้าวะ ไม่เข้าใจ หรือกูดูไม่ออก”
คืองี้ค่ะ มายมันไม่ได้น่ารักหน้าหวานอะไรหรอก มันก็ผู้ชายธรรมดาที่ตาโตหน่อย ตามายสวยนะ แต่ถ้าให้เดย์พูดสรุปก็คงไม่ใช้คำว่าน่ารักหรอก
มายมันหล่อแบบอินเทรน เกาหลีๆ ขณะที่เจมันจะเข้มๆหน่อย
“น่ารักก็คือน่ารักแหละน่า” วิวพูดปัดๆขึ้นมา แล้วหันมาหาเดย์ต่อ “แต่ก็ต้องขอบคุณพี่มาก ได้จูบไปครั้งก็พอใจละ”
“เดี๋ยวได้โดนด่าอีก”
ยังจะมาพอใจอีก รู้สึกผิดหน่อยดีไหม “โหยพี่ พี่ไม่เข้าใจหรอก คนมันรักมันชอบอ่ะ มันอยากได้เป็นของตัวเองเหมือนกันนะ ผมไม่ใช่คนแบบที่จะมาบอกว่า แค่เห็นเขามีความสุขก็พอใจแล้วไรงี้ด้วยดิ ผมก็คนปกติอ่ะ มีความเลวเล็กๆในตัวเหมือนกัน ทรมาณชะมัด…แต่ไม่ต้องกลัวเลยนะ ผมไม่ได้จะแย่งจริงๆ”
“เออรู้น่า”
“ตอนนั้นมันเมาอ่ะ บรรยากาศแม่งก็โคตรให้…”
“รู้แล้ว แต่ครั้งแต่ไปไม่มีแล้วนะยะ” คำที่ทำให้วิวยักไหล่
“ครับๆ ผมจะพยายามห่างๆมันแล้วกัน”
“ดี! กูจะได้ไม่เดือดร้อนช่วยเคลียร์อะไรอีก” ไอ้เนมพยักหน้าลงแรงๆแล้วตบที่บ่าวิว
“ผมไปละพี่ ถึงเวลานัดแฟนละ” เนมหันมาพูดแล้วยกมือถือให้ดูเวลา
“เอองั้นก็แยกย้ายไปเลย” พอจบคำเดย์ เรา3คนก็ลุกขึ้นพร้อมกัน ไอ้2หนุ่มนั่นยกมือไหว้ลาแล้วก็เดินแยกไปคนละทาง เดย์เองก็รุดไปสั่งน้ำปั่น ก่อนจะเดินกลับไปที่รถ
หวังว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้คงจะทำให้เข้าใจพวกเขาอย่างน้อยสักคนนึงมากขึ้นสักนิดก็ยังดีนะคะ
ปล. นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบนโลกแห่งความจริง
แต่พวกเขามีตัวตนจริงๆสำหรับเดย์นะ
ขอบคุณมากค่ะที่อ่านจนจบ
รัก