พิมพ์หน้านี้ - [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: afterday ที่ 11-10-2014 18:55:04

หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 11-10-2014 18:55:04

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




(https://www.picz.in.th/images/2018/10/06/hw16Tf.jpg) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36869.msg3723439#msg3723439)



หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● 11 - 10 - 14
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 11-10-2014 18:59:43

●   แ ฟ น   ●






   คุณมีแฟนกันไหมครับ?

   แล้วเคยคิดไหมว่าทำไมต้องเป็นคนนี้? เคยคิดรึเปล่าว่าทำไมต้องเป็นมัน…จากในบรรดาคนนับร้อยพันหมื่นแสนล้านบนโลกคุณสามารถเลือกมาได้แค่คนเดียวเพื่อให้มาอยู่ข้างๆ มาแชร์ทุกๆอย่างในชีวิต

   แชร์นิสัย แชร์เวลาส่วนตัว แชร์เงิน แชร์แม่งทุกสิ่งที่มี…แชร์แม้กระทั่งตัวตนหรือทัศนคติที่ยึดมั่นมาตลอดเป็นสิบปีก่อนที่จะมี ‘มัน’ เข้ามามีเอี่ยวในชีวิต




   “เนม”
   “ว่า”
   “มึงว่าแฟนคือไรวะ”
   “ดราม่าไรอีกวะ”
   นั่นไงเคยตอบอะไรให้กูชื่นใจที่ไหน “มึงจะตอบกูดีๆได้ปะวะ”
   “มึงอยากให้กูตอบแบบไหนล่ะครับ”
   “วุ้ย กูไม่ถามมึงละ”
   “ทำไม? ทะเลาะกับเจ?”
   “แล้วทำไมมึงต้องมาเดาอะไรด้วยวะ แค่ตอบคำถามกูนี่มันยาก?”

   ให้ตายเหอะ นี่ผมไม่น่าหลุดปากพล่ามอะไรออกไปให้มันต่อความยาวเลย

   “มีไรเล่ามาดิ๊ กูพร้อมเผือก” ไอ้เนมว่าแล้วก็ขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ๆ


   ช็อปอ็อกเหล็กที่เมื่อครู่ยังพลุกพล่านไปด้วยคนจนแออัดเต็มห้อง แต่พอหลังจากส่งโปรเจคที่2กันครบ ฝูงชนที่อดนอนมาร่วมอาทิตย์ก็แยกย้ายสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว
   เหลือเพียงผมกับไอ้เนมที่นั่งแกร่วรอไปปลดปล่อยกับแก๊งค์เดิมต่างภาควิชาอยู่จนถึงตอนนี้

   “ทำไม หน้ากูมีคำว่าอยากแชร์แปะอยู่เหรอ?”
   “ไม่มี แต่หน้ามึงเป็นตูดมาตั้งแต่ส่งงานละ จะพล่ามอะไรก็ให้ว่อง พอเข้าร้านเหล้าเมื่อไหร่จะไม่มีการเสวนาใดๆ”
   “เออ! …กูว่า…แม่งไม่ใช่ว่ะ”
   “อะไรของมึง อะไรไม่ใช่”

   “เจกับกู”

   “โถ ไอ้มาย กูเห็นมึงพูดประโยคนี้มาหลายรอบละ แต่มึงก็คบกันมาได้ตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้จะเรียนจบอยู่แล้วจะมาดราม่าคำคมอะไรตอนนี้วะ”
   “เชี่ยมึงไม่เข้าใจ”
   “เออกูไม่เข้าใจ! ไม่เข้าใจตั้งแต่มึงไปคบกับมันละ เห็นลัลลาอยู่กับน้องนิ่มดีๆ ไหงไปๆมาๆเป็นแบบนี้ได้”

   “ก็ตอนนั้นมันใช่…”

   อย่างที่พูดไปเลย…ผมกับเจรู้จักกันตอนเข้ามหาลัย เราอยู่คณะเดียวกันแต่คนละภาควิชา ช่วงรับน้องสนิทกันมาก มากเสียจนมีอะไรบางอย่างเข้ามาแทนที่คำว่าเพื่อน…

   รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันขอเป็นแฟนนั่นแหละ

   นี่ก็จะเข้าปีที่4แล้ว อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปเยอะ…


   เยอะจนใจหาย










   tbc >




เดย์แวะมาเปิดเรื่องสั้นน คิดว่าคงไม่กี่ตอบจบ
ฝากด้วยนะค้า

 :pig4:
หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● 11 - 10 - 14 #1
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 11-10-2014 21:08:44
# 1





   ก็เพราะแฟนมีได้คนเดียว…เราถึงต้องดูให้แน่ใจเสียก่อน…
   จริงหรือ?
   อาจจะไม่…ในเมื่อ…’มันเลิกได้’

   สำหรับบางคนจะคบกับใครเป็นแฟนสักครั้งก็คุยแล้วคุยอีกคุยจนข้ามเดือนข้ามปีคุยนานแค่ไหนสุดท้ายบางคู่ก็ไม่ได้คบกัน ทำราวกับชีวิตนึงจะตกลงปลงใจกับใครสักคนได้แค่หนเดียว
   แต่กับบางคนก็ตกลงคล้องแขนกันง่ายๆในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือคุยได้ไม่กี่ครั้ง ส่วนจะคบกันได้ยืดยาวแค่ไหนก็แล้วแต่กรณีไป


   แต่สำหรับผมกับเจ…มันเกิดขึ้นในตอนเย็นของวันที่สิ้นสุดการรับน้องในคณะ ตอนนั้นเป็นการรับน้องครั้งสุดท้ายที่ต่างจังหวัด หลังจากได้รับรุ่นเรียบร้อยแล้ว…ริมทะเลตอนน3ทุ่มครึ่ง…

   แล้วทำไมผมจำละเอียดขนาดนี้วะ…?

   เอาเถอะ
   มันเกิดขึ้นด้วยคำสั้นๆเพียงไม่กี่อึดใจ

   “มึงกับกูอ่ะ…เป็นแฟนกันไหม”

   ท่าทางที่ดูล้อเล่นแต่มีกระแสความจริงจังอยู่ในที ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยอดข้าวหรือพลังน้ำเมาอะไรกันแน่ที่ทำให้คนที่นิ่งอึ้งไปในตอนแรกอย่างผมยอมพยักหน้าตกลงไป…
   ก็คบกันมาแบบเพื่อนล่ะนะ…อืม…หวานขึ้นเล็กน้อยล่ะมั้ง


   “มาย” นั่นไงเจ้าตัวเดินมานั่นแล้ว
   “งั้นกูเฟดล่ะ” ไอ้เนมว่าเสียงติดจะแซว แล้วขยับเก้าอี้เลื่อนออกไปห่างๆ เว้นระยะทั้งที่หูผึ่งเตรียมเผือกเต็มที่ ผมค้อนสายตาใส่มันไปวงใหญ่ แล้วก็หันไปหาคนที่กำลังเดินเข้ามา วันนี้เป็นวันที่เจมันมีเรียนที่วิทยาเขตผม…

   “อืม…มึงเลิกแล้ว?”
   “เลิกแล้ว เพิ่งส่งหัวข้อไป เหนื่อยมาก นวดให้หน่อยย” เจยกมือขึ้นบีบนวดบริเวณต้นคอ “แล้ววันนี้มายไปไหน?”
   ผมก็กวักมือเรียกให้มันมานั่งหันหลังให้ “วันนี้กลับบ้านโน้น จะไปข้าวสาร เพื่อนไปกันหมด” ยกมือบีบบริเวณต้นคอไล่ไปที่หัวไหล่ให้ตามคำขอ
   “อือ…ไปด้วย”
   นั่นไงอาการนี้มาอีกแล้ว “ก็ไปสิใครห้าม”

   ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน? จะหาว่าไม่ใช่ยังไงล่ะสิ ก็ดูแล้วรักกันดี งุ้งงิ้งฟรุ้งฟริ้งดีใช่ไหม?
   ไม่ๆ อย่ามองอะไรแค่ด้านเดียวสิครับคุณ…ถ้ามันดีไปเสียทุกอย่างแบบนั้นจริงๆ โลกนี้คงไม่ต้องมีใครเลิกกันแล้ว

   เวลาคนเราอยู่ด้วยกันก็อยู่เพราะความสุข แต่ถ้าจะเลิกกันก็เลิกเพราะปัญหาเนี่ยแหละ



   “มาย…กลับกี่โมง”

   ไม่รู้ทำไมอยู่ๆไอ้คนข้างๆถึงโน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูบ่อยเสียจนนึกรำคาญ…
   ไอ้เราก็กำลังเต้นมันส์ๆ แอลกอฮอลกำลังสูบฉีดเข้ากระแสเลือดได้ที่ จะมาขัดใจอะไรวะเนี่ย

   “ฮื่อ อีกพักใหญ่ๆ”
   “ตี2แล้วนะ กลับได้แล้วมั้ง”
   “มึงจะกลับก็กลับไปก่อนดิวะ”
   “มาย”
   นั่นไง…เสียงเริ่มแข็งแล้ว “เออ กลับก็กลับ” ผมว่าปัดๆ แล้วหันไปบอกลาพวกไอ้เนม

   ระหว่างเดินออกมาเรียกแท็กซี่ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับไอ้เจสักคำ
   ผมเป็นผู้ชาย…ไอ้เที่ยวเฮฮาเมาเหล้าซดเบียร์มันเป็นเรื่องปกติ เมื่อก่อนก็กินกันออกจะเป็นธรรมดา ไอ้เจเพิ่งจะมีอาการลากกลับมาเมื่อปี2ปีที่แล้วเนี่ยแหละ

   บางทีก็คิดนะ มีแฟนเป็นผู้ชายแล้วแม่งน่าจะเข้าใจกันมากกว่าผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะ…



   “ถึงแล้ว รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนล่ะ ก่อนนอนไลน์หากูด้วยนะ” เจเอ่ยปากทันทีที่แท็กซี่จอดนิ่งสนิทที่ประตูรั้วหน้าบ้านผม
   “เออ” ตอบรับมันไป แล้วก็เปิดประตูรถลงทันที

   มันก็คงรู้แหละว่าอารมณ์ผมตอนนี้มันไม่ได้ดีเหมือนหน้าตานะครับ แม่งไม่เคยได้ยินรึไงคนจะเมาอย่าขัด!

   เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กๆที่เกริ่นขึ้นมาแค่เริ่มแรก…มีปัญหาเวลาไปเที่ยว มันเป็นแค่ปัญหาเบาๆพอรับได้

   แต่ถ้าปัญหาเล็กน้อยสัก10ปัญหารวมกัน…มันจะเท่าๆกับปัญหาใหญ่แค่ปัญหาเดียวไหมนะ?


   เจมันเป็นเด็กออกแบบภายใน ส่วนผมน่ะเรียนจิวเวอรี่ เราเรียนกันคนละวิทยาเขต เจอกันได้อาทิตย์ละครั้งหรือ2ครั้ง นิสัยก็ต่างกันสุดขั้ว การทำงานก็ไม่ได้ใกล้กันเลย ยิ่งมากชั้นปีเวลายิ่งน้อยลงเรื่อยๆ เวลาที่ได้เจอกันก็ยิ่งเว้นระยะยาวนานจากอาทิตย์เป็นเดือน แบบที่รู้ตัวอีกทีก็ห่างกันขนาดนี้แล้ว



   RRRrrrrrRrrrr
   RRrrrrRrrrRrrrrr


   โอ้ย…ใครแม่งโทรมาดึกขนาดนี้วะ ไม่หลับไม่นอนรึไง!
   “เออ…”
   [มาย…นอนแล้วเหรอ]
   “นอนแล้วดิวะ มึงคิดว่านี่กี่โมงละ” ผมยกมือถือออกมาดูเวลา “ตี3เชี่ยเจ กูเพิ่งได้นอน”
   [เครียดอ่ะ คิดงานไม่ออก]
   “มึงก็พูดแบบนี้ทุกที สุดท้ายก็เอตลอด”
   [มึงไม่เข้าใจ นี่กูเครียดจริง กูเหนื่อยคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก กูนั่งหน้าคอมมาตั้งแต่9โมงของเมื่อวานแล้ว]
   “กูเพิ่งกลับจากช็อปตอนเที่ยงคืนครึ่ง ชัดไหม?”
   [นี่กูไม่ได้คุยกับมึงมา2วันแล้วนะ]
   “คนเรามีหน้าที่ต้องทำปะวะ”
   [อืม หน้าที่ของแฟนไม่ต้องมีหรอก]

   ไม่ทันได้โต้กลับ พอมันประชดประชันจบก็ตัดสายวางหูใส่ผมทันที ทำเอาตื่นเลยครับ
   อะไรของแม่งวะ?!

   นี่โทรมาปลุกกูไม่พอ ยังชวนกูทะเลาะอีก สัดเอ้ย!

   ผมปาโทรศัพท์ไปที่ข้างเตียงแล้วล้มตัวลงนอนอย่างหัวเสีย
   คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่!




   “เป็นไรวะมาย”
   “อ่าว ไอ้วิว เออ ไม่มีไรหรอก”
   “เหม่อชิบหาย ว่างมากเหรอ โปรเจค3ผ่านแล้วรึไง?”
   ผมส่งเสียงหงุดหงิดในคอ “เหอะ…ก็เชี่ยละ”
   “แล้วเป็นไรของมึง ร่างคอนเซปถึงไหนละ”
   “ไม่ถึงไหน เมื่อคืนขึ้นโครงหาเมนหลักทั้งคืน…เหลว”

   ไอ้วิวเป็นเพื่อนในภาค แม่งออกตัวว่าชอบผมมาตั้งแต่วันรายงานตัว ก่อนเจอไอ้เจเสียอีก แต่คนใจๆแบบมัน พอผมไม่เล่นด้วยก็จบๆไปเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น นิสัยแบบนี้คบยืด


   “เลยนั่งเป็นหมาอดอยากแบบนี้ตั้งแต่เช้า ไหงซึมง่ายจังวะ”
   “ไม่ได้เกี่ยวไรกับงานสักนิด” ผมว่าแล้วเอนตัวลงนอน กลางห้องมันเนี่ยแหละ ไหนๆเสื้อก็เปื้อนแล้ว เอาให้สุด นั่นไง…ไอ้คนข้างๆดันบ้าจี้นอนตาม

   “กูพักสายตาแปป ทำงานมาเกิน 24ชั่วโมงแล้วหวะ”
   ผมเหล่ตามอง “เมื่อคืนมึงไม่ได้กลับหอเหรอวะ?”
   “โหย ไม่ได้ก้าวขาออกจากที่นี่สักวิครับคุณมาย อยู่กับไอ้ไทน์ทั้งคืน ซดกาแฟไปเป็นลังละ”
   “กูแบกเอ็มร้อยมา2ถุง” ผมว่าแล้วชี้นิ้วไปทางหลังห้อง ให้ไอ้วิวมันหัวเราะขำอย่างชอบใจ


   RrrRrrRr
   RRRrrrRrr


   เสียงโทรศัพท์คุ้นหูดังขึ้นแทรกเสียงหัวเราะไอ้วิว…

   “โทรศัพท์มึงปะวะ” พอเห็นผมไม่ได้ขยับตัวอะไร มันก็ออกปากทัก
   “เออ”
   “รับดิ” แล้วมันก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรออก ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง “กูเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้” ว่าแล้วไอ้วิวก็เดินหลบฉากออกไป

   ผมหัวเราะเล็กน้อยแล้วล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู

   ‘J’

   …นั่นไง…

   ถ้ากูรับจะทะเลาะกับกูต่อไหมเนี่ย…ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่


   “เออ”
   […อยู่ไหน]
   “ช็อป”
   [ตื่นแล้วไมไม่ไลน์มาบอกหน่อยอะมาย]
   “เออลืมหวะ กูตื่นสาย รีบไปหน่อย”
   [แค่กดโทรศัพท์วิสองวิ มึงจะตายเหรอวะ]
   “เฮ้ย กูไม่อยากทะเลาะตอนนี้นะเจ เหนื่อยอยู่”
   [แล้วกูไม่เหนื่อยเหรอไง กูก็งานเยอะ นอนก็ไม่ได้นอน ยังมีเวลาโทรหามึงได้ตลอด ถ้ากูไม่โทรจะได้คุยกันบ้างปะวะ]
   “มึงจะหาเรื่องกูทำไมวะ”
   [กูไม่ได้หาเรื่อง มึงนั่นแหละไม่ใส่ใจมาย]
   “กูว่ากูวางก่อนดีกว่าว่ะ”
   [อืม แล้วแต่มึงเลย]

   ตัดสายใส่กูอีกแล้ว?!

   โอ้ยยย! นี่กูก็เหนื่อยๆอยู่นะเนี่ย แทนที่ได้ยินเสียงแล้วจะสบายใจ จะอารมณ์ดีขึ้น แม่งยิ่งแย่ลงไปอีก


   แบบนี้จะมีแฟนไว้ทำไมวะ?!









   tbc >

   เจอกันตอนหน้าค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 11-10-2014 22:16:23
โถ่วววว มายเข้าใจคำว่าแฟนไหมเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: lovegoldfish ที่ 11-10-2014 22:26:16
เรารู้สึกว่าแฟนเก่าอารมณ์เดียวกับเจเลย  :mew6:
แบบบางทีก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังจะมาง่องแง่งใส่อยู่ได้

อ่านเรื่องนี้แล้วสะเทือนใจ นี้เพิ่งเริ่มเรื่องเองนะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-10-2014 22:37:23
 :ling3:นิยามคำว่าแฟนสองคนนี้อาจจะต่างกัน    :ling1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: Raiwyn ที่ 11-10-2014 23:00:00
สงสารเจอ่า คุยกันให้รู้เรื่องดิ ปล่อยอารมณ์แบบนี้ไหมยิ่งลามไปใหญ่  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 11-10-2014 23:05:21
ลุ้นๆ จะอยู่หรือจะไปนะแฟนคนนี้
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 11-10-2014 23:07:15
อย่าเครียดลูกเอ๋ย ค่อยๆคุยกัน  o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeQ ที่ 11-10-2014 23:33:31
ไปฟังเพลงนี้นะลูกนะ ตอนจบของคนไม่พูดกัน  :katai4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 12-10-2014 00:23:10
เหมือนทั้งคู่สไตล์มันต่างกัน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 12-10-2014 04:25:42
ณ ตอนนี้ทำไมเรารู้สึกรำคาญมายมากกว่าเจ
หรือคำว่าแฟนสำหรับมายคือแค่เอากันบนเตียง คิดถึงเวลาอยาก แค่นี้ป่ะ
ถ้าไม่แคร์ไม่ใส่ใจก็ไม่รู้จะใช้คำว่าแฟนรั้งเจไว้ทำไม ถ้าดูแลเขาไม่ดีไม่สมกับเป็นแฟนกัน
ก็บอกเลิกไปเถอะ ให้เจไปเจอคนดีๆที่ดูแลเขาได้จะดีกว่า เพราะเท่าที่อ่านมาถึงตอนนี้
เราก็ไม่ได้รูสึกว่าเจจะทำตัวน่ารำคาญอะไรขนาดนั้นเลยนะ อย่างตอนโทรไปที่มายนอนอยู่ก็บอกไปดีๆสิว่าง่วง
หรือที่เจบอกว่าไม่โทรหาเลยก็บอกไปดีๆพูดดีๆสิว่าเค้าลืมอ่ะขอโทษนะ แค่เปลี่ยนวิธีการและน้ำเสียงในการพูด
อะไรๆๆก็ง่ายขึ้นแล้วนะ ถ้ามายมันเป็นแบบนี้มาตลอดเราสงสัยนะว่าเจทนได้ยังไง
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: fullfeel ที่ 12-10-2014 11:12:00
ทั้ง2คนดูคิดคนละแบบ :mew2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-10-2014 12:06:10
ก็เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ แต่เราคงจะเป็นคนแบบมายอ่ะ :katai1:
คิดอยู่ว่าอะไรทำให้ทั้งสองคนคบกันยืดขนาดนี้นะ ปกติเป็นคู่อื่นอาจจะเลิกกันไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะรัก :mew2:
หวังว่าจะจบลงด้วยดีนะ คุยกันมากๆ จะได้เข้าใจกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #1 ' 11 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: yummiie ที่ 12-10-2014 19:29:39
พูดยากอะเรื่องแบบนี้ :m17:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 12-10-2014 19:55:49
# 2





   ทะเลาะกันจนเบื่อ
   ไม่เจอกันจนชิน
   ไม่คุยจนไม่รู้สึกอะไร
   จนถึงตอนนี้…เรายังจำเป็นต่อกันอยู่ไหม
   
   มีเหมือนไม่มีคือแบบนี้รึเปล่าวะ?



   ถ้านับพรุ่งนี้ก็จะครบเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน

   ถามว่าผมคิดถึงไหม?

   มันก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องเจอเดี๋ยวนี้

   มันจะอ้วนขึ้นผอมลงสิวขึ้นใหม่ตรงไหนหรือตัดดัดทำสีผมอะไรก็ไม่มีทางรู้ เราไม่ได้อัพเดทความเป็นไปทางกายภาพของกันมานานมากแล้ว
   เป็นแฟนกัน…แต่ไม่ได้รู้เรื่องของอีกฝ่ายเป็นคนแรกๆ

   มันก็แปลกดีนะ



   แสงไฟสีขาวจัดจนแสบตาของห้องช็อปทำให้ตาผมเบลอ อาการง่วงจากที่อดนอนยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อลืมตาได้ไม่เต็มที่ ผมหรี่ตาลง หัวผงกขึ้นผงกลงเพราะสติเริ่มติดๆดับๆ

   แปะ!

   “เฮ้ย!” อะไรเย็นๆที่ตา?!
   พอจับดูถึงเจอผ้าเย็นหมาดๆแปะลงกลางหน้า เงยหน้าอีกทีก็เจอไอ้วิว
   “อะไรของมึง?”
   มันยิ้มมุมปาก “ก็เห็นจะหลับ เช็ดหน้าเช็ดตาไป กูเพิ่งแกะจากซองรับรองสะอาด”

   “วิว”
   “ว่า” มันขานรับแล้วทิ้งก้นลงหนักๆที่ข้างผม จนต้องยกมือปัดฝุ่นที่คลุ้งมาตรงหน้า

   แล้วดูหันมาทำหน้า…ถีบสักทีดีไหมเนี่ย

   “มึงยังคิดไรกับกูอยู่ปะเนี่ย”

   นั่น…นิ่งไปเลย

   ผมเป็นคนตรงๆนะ สงสัยไรก็ถาม ช่วงนี้มาใกล้ๆบ่อยๆยิ่งทำให้คิด

   “ทำไมวะ? คิดหรือไม่คิดแล้วต่างกันยังไง”
   “อ้าว ไอ้เชี่ยนี่ ต่างดิวะ กูมีไอ้เจแล้ว”
   มันยิ้มขำ “โอ้ ตรงขนาดนี้ เขินบ้างไหมวะ”
   “แซวกูทำเพื่อ กูดูเป็นคนขี้เล่นสินะ”
   “เออขี้เล่น…มึงมีไอ้เจแล้วเกี่ยวอะไร กูแค่เพื่อน” มันชะงัก “หรือเจมันห้ามอยู่ใกล้กูรึไง?”
   “เปล๊า”

   RrrrRrRrrrr
   RRRrrRrrrrr


   นั่น…ตายยากด้วย

   “กูไปรับโทรศัพท์แป๊ป” หันไปบอกคนข้างๆแล้วก็ลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ก้น เดินปลีกตัวออกมาไกลๆ


   “ว่าไง”
   [อยู่ไหน?]
   “อยู่ช็อป”
   [อืม…]
   “มึงอ่ะ?”
   [อยู่บ้านอ่ะ มึงทำไรอยู่]
   “พักอะ แสบตา”
   [ก็ต้องพักบ้าง ใช้งานหนักๆก็งี้แหละ]
   “กูก็พักอยู่นี่ไง”
   [มึงว่างเมื่อไหร่วะมาย]
   “น่าจะต้องพ้นพุธหน้าไป พรีเซ้นแบบร่างผ่านก่อน”
   [อืม…วันอาทิตย์เจอกันหน่อยได้ไหมวะ]
   วันอาทิตย์เหรอ…หมายความว่าวันศุกร์กูต้องกลับกรุงเทพ?!
   “คือ…กูไม่ได้กลับบ้านหวะ คงอยู่หอยาวถึงอาทิตย์หน้าเลย กลับไปแล้วกูไม่ได้ทำงาน”
   […]
   “…”
   [มาย]
   “หืม”
   [คิดถึงมึง]
   “…อะ” อารมณ์ไหนเนี่ย “กู…กูก็คิดถึงมึง”
   [อยากกอดมึง]
   “เออออออ”
   [อยากจูบ]
   “รู้แล้ววว”
   […อยากแล้วด้วย]
   “เชี่ยเจ”
   [คราวนี้ให้มึงอยู่บนก็ได้ กลับมาหาหน่อย]
   “จริงดิ? นี่หูกูฝาดปะวะเนี่ย”
   [นะ]
   “พฤหัสหน้านะมึง พรีเซ้นเสร็จกูได้หยุด”
   [อืม…ก็ได้]
   “อย่างอแงนะน้องนะ”
   [สัด]
   “รักมึงนะ”
   [คิดว่ากูไม่รักรึไงสัด มากกว่ามึงแน่ๆ]
   “โถ แค่นี้ยังจะข่ม”
   [หึ]
   “กูวางก่อนนะ รีบไปทำต่อละ”
   [สู้ๆมึง]
   “เออ เหมือนกัน”

   …นี่…ผม…หน้าผมต้องแดงแน่ๆ

   คิดแล้วก็เอาผ้าเย็นที่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยเย็นแล้วมาแปะลงเต็มหน้าก่อนจะเดินกลับไปลงมือทำงาน

   บางที…มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้
















   บางทีผมก็รู้สึกนะ…ว่าอารมณ์คนเราแม่งเปลี่ยนง่ายเหลือเกิน

   “กูไม่ไหวแล้วหวะ ”
   “กูต้องการกำลังใจ”
   “กำลังใจห่าไร ไม่ต้องการ ขอลิโพ! ลิโพด่วนๆ”
   “คิดถึงเมียยยยยยยย!!”
   “สัส แหกปากทำพ่อมึงเหรอ ไอเดียกูหล่นหายหมด”
   “มึงเคยมีด้วยเหรอ”
   “กูท้อหวะ…”

   เสียงเอะอะโวยวายของเพื่อนทั้งภาคที่รวมตัวกันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยวัสดุ และเครื่องมือผลิตเครื่องประดับหลากหลายรูปแบบลั่นห้องไปหมด

   พวกผมขนเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมาเต็มโต๊ะ เดินไปซดกันอย่างกับบุฟเฟต์

   คนปกติอาจจะทำงานเคล้าเสียงเพลง แต่ผมทำงานคลอไปกับเสียงบ่น

   หลากหลายอารมณ์มาก
   บ่นเอาฮา บ่นเอาเครียด บ่นเอาฟีล
   บ่นท้อๆแล้วดาวน์ๆก็มีนะครับ…
   แล้วสักพักเหมือนองค์ออกกัน หันหน้าเข้ามุม โทรหาพ่อหาแม่หาผัวหาเมียกันหมด…หากำลังจิตกำลังใจกันให้ขวั่ก

   “โอเค จุ้บๆนะครับ เนมไปทำต่อแล้วน้า”

   หึ…ตอแหล
   ผมด่ามันไปในใจ แต่เหมือนว่าเจ้าตัวจะมีหูทิพย์…

   “มองกูแบบนั้น ด่าไรกูในใจสัดมาย”
   “หาเรื่องกูนี่หว่า เดี๋ยวสาดด้วยเบอร์ดี้”
   มันยักคิ้ว “ไม่โทรหาผัวบ้างวะ”
   “เดี๋ยวนะ ทำไมมันถึงเป็นผัววะ” ไม่คิดว่ากูจะผัวบ้าง?!
   “พูดเมียเดี๋ยวคนไม่รู้ว่ามึงมีแฟนเป็นตัวผู้”
   “สัด”
   คำเดียวเรียบๆเลย ผมยกมือโบกไปมาตัดบท

   คิดแล้วก็โทรหาก็ได้…
   โทรได้2ครั้ง ปลายสายก็รับ
 
   [ฮัลโหล]
   เสียงงัวเงียหงุดหงิดมาเลย…ฟีลงอแงบอกคิดถึงหายไปแล้วสินะ
   “ทำไร”
   [งาน]
   “เหนื่อยไหมม”
   [เหนื่อยดิวะ]
   นั่นไง…เสียงแม่งไม่เล่น
   “ถึงไหนแล้วอ่ะ”
   [ก็ไม่ถึงไหนอ่ะ เรนเดอร์ช้ามาก คอมแม่งค้าง]
   “ยกคอมไปร้านดิ ไวรัสเปล่า”
   [ถ้ายกไปตอนนี้จะเอาไรทำล่ะ]
   “แล้วจะทนค้างแบบนี้อะนะ”
   [แม่ง ก็จะส่งอยู่แล้วจะให้กูทำไง?!]
   แล้วความผิดกูเหรอวะ?! “งั้นมึงก็ค่อยๆทำไป ใจเย็นๆ”
   [เออ]
   “…”
   ดีนะ…คนอื่นเครียดโทรหาแฟนแล้วยิ้มออก กูเครียดโทรหาแฟน จากบึ้งๆนี่เป็นน้ำตาไหลไปเลยดิ
   [แล้วงานมึงเป็นไงมั่ง]
   นึกว่าจะไม่ถามละสัด
   “ก็เครียดๆอะ คิดไม่ค่อยออก ว่าจะทำไปก่อนค่อยแถคอนเซป”
   [ได้เหรอวะ? มึงกลับไปคิดดีๆก่อนดิแล้วค่อยเริ่มทำ เริ่มไม่ดีปลายก็ห่วยนะเว้ยมาย]
   “มันไม่ทันแล้วปะเจ มันก็ต้องรวบรัด หาทางแก้เฉพาะหน้าไปก่อน”
   [มึงก็ทำจนติดนิสัยไง เดี๋ยวพอเข้าธีสีสมึงจะลำบาก จะ5ปีรึไง]
   อ้าวไอ้เหี้ย! พูดหมาๆละ
   “แล้วถ้าคอนเซปเป๊ะพรีเซ้นแน่น แต่งานไม่เสร็จล่ะวะ”
   [แล้วมึงรู้ได้ไงว่าจะไม่เสร็จ]
   “กูคำนวนเวลา”
   [แล้วแต่มึง กูเตือนแล้วไม่ฟัง มึงมันไม่เปิดรับความคิดคนอื่น]
   “นี่กูคุยอยู่นะเนี่ย ใครกันแน่วะไม่เปิดรับ กูไปทำงานต่อละ”

   พูดจบคำปุ๊ปผมก็ตัดสายทันที
   อารมณ์ขึ้นครับ! ขึ้นมาก!!
   คือโทรไปก็หวังจะคุยดีๆ ทำไมต้องมากระแทกเสียงใส่ด้วย พูดดีๆก็ได้!

   ตึ๊ง!

   ::ตัดสาย นิสัย::

   คือยังจะไลน์มาต่อคำอีก?! ไอ้บ้าเอ้ย!
   อย่างกับปกติมึงไม่ตัดเลยสายเนี่ย ถ้าแม่งเป็นเสื้อคงขาดวิ่นหมดสิทธิเย็บไปแล้ว!



   นั่งหงุดหงิดอยู่พักนึง ก็เริ่มสงบ…
   พอสงบ…จากหงุดหงิด ก็เริ่มฟุ้งซ่าน
   หรือกูจะผิดจริงๆวะ? เริ่มแย่ก็จบห่วยใช่ไหม?! นี่เริ่มเครียดละนะ

   “โว้ยย!!”

   “เฮ้ย เป็นไรวะมาย”

   ไอ้วิว… “เครียด”
   “เอ้า” มันส่งกาแฟสำเร็จรูปเย็นๆที่มีหยดน้ำเกาะพราวเต็มกล่องให้ “เครียดไร”
   “กูคิดคอนเซปไม่ออกว่ะ อยู่ๆของเก่ามันก็ไม่เวิร์ค พอร่างแบบไปแล้วก็ไม่อยากแก้” ผมถอนหายใจ “เวลาแม่งไม่พอ”
   “งั้นมึงก็แค่ทำไปก่อนแล้วหาคอนเซปยัดไปให้มันเนียนๆปะวะ”
   มันพูดขึ้นง่ายๆ ระหว่างงัดหูกระป๋องน้ำอัดลมเปิด ยกจรดปากแล้วกระดก

   ผมมองมันนิ่งไป…

   “เป็นไรไปวะ?”
   “อ่อ…เปล่า”

   กูแค่รู้สึกว่า…มึงคิดเหมือนกูจังเลยเนอะ…

   “เออ มึงศุกร์หน้ามีตติ้งภาคนะ จำได้ใช่ปะ?’
   “หะ?!”
   “กูว่าละมึงต้องลืม มึงแม่งลืมวันลืมคืนประจำ”
   “…”
   เป็นอีกครั้งที่ผมเงียบ…เพราะคำพูดของไอ้วิว…
   ซ้อนทับกับเจ

   ‘มึงก็เงี้ยลืมวันลืมคืนได้ตลอด เคยจำวันเชี่ยไรของกูกับมึงได้บ้างวะ’

   ทำไมอารมณ์มันต่างกันแบบนี้วะ…ยิ่งนานไป…ความรู้สึกผมยิ่งแปลก
   “เหม่อไรอีกแล้ววะมาย”
   “อ๋อ..เปล่าๆ”
   “เครียดไรนักหนา ไหนเอาแบบมาดูดิ๊ช่วยคิด”
   ผมยื่นโครงแบบ กับชุดงานทดลองให้มันไปอย่างเนือยๆ
   “เฮ้ย แม่งโอเคนะ” มันยกกระดาษ4-5แผ่นที่ถูกเลื่อนไปตรงหน้าขึ้นมาจ้องอย่างพิจารณา “กูว่าแม่งฟีลกลุ่มเมฆว่ะ”
   “ดูออกเหรอวะ?”
   “อ้าว ใช่เหรอกูมั่วนะเนี่ย”
   “สัด”
   มันหัวเราะเมื่อถูกผมผลักหัวจนเงิบ “กูพูดจริงๆ คอนเซปเก่ามึงว่าไง”
   “ตอนแรกกูคิดถึงวัฏจักรการเกิดฝน ฟีลตั้งแต่ฟ้าใสจนเกิดไอน้ำ กลุ่มก้อนเมฆครึ้ม สุดท้ายก็เป็นสายฝน”
   “เฮ้ย แล้วมันแย่ตรงไหนวะ?”
   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆอีกครั้ง “แม่งได้แค่2ระดับหวะ มันไม่สื่อ”
   “งั้นมึงก็เปลี่ยนใหม่ดิวะ ลดทอนมันลงมา เหลือแค่วันฟ้าใส หรือวันครึ้มฝน เอาบรรยากาศมันมาใช้ ใช้ฟีลก้อนเมฆมาสื่อ”

   ผมกระพริบตาปริบๆมองเสี้ยวหน้ามันที่จดจ้องอยู่กับแบบสเก็ตยุ่งเหยิงเต็มหน้ากระดาษของผมอย่างตั้งใจ

   “แต้งนะมึง”

   “เฮ้ย สบายมาก” มันหันมาหลิ่วตาให้ “มึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ เรื่องตัวเองเอาไม่รอด แต่เรื่องคนอื่นอะเก่งสัด”
   “เออๆ เข้าใจ งั้นมึงเอางานกูไปทำเลย ละมึงเอางานมึงมาให้กู”
   “กวนตีน! ทำไป กูไปทำงานละ”

   ผมมองตามหลังมันไปนิด ก่อนจะเบนความสนใจมาที่งานตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก

   “แหนะ” ไอ้เนมทำหน้าเผือกมาแต่ไกล
   “แหนะพ่องมึงสิ”
   “โหยเล่นพ่อ”
   “ไรของมึง”
   “กับวิวนี่ยังไง ไม่กลัวผัวมึงมาเฉ่งเหรอ”
   “อย่ามาเปิดประเด็นไอ้เนม” ผมเอาเข่ากระแทกข้างขามันไปที “เพื่อน!”
   “ให้มันจริง คนมันมีเชื้อ จุดนิดเดียวติดแล้ว อย่ามาทำไม่รู้”
   “…”
   
   “นั่นไงมึงเงียบ!” มันตะโกนลั่น “มึงคิดแล้วใช่ไหมสัดมาย!!”
   “พอเลยไอ้เนม ทำงานมึงไป” ผมผลักหัวมันแรงๆ แบบที่คนโดนทำร้ายก็หัวเราะลั่นแล้วหันไปสนใจงาน

   หางตาเห็นวิวมันมองมายิ้มๆ


   นี่มันได้ยินไหมเนี่ย…








   tbc >

   มาแล้วววว มาเร็วเคลมเร็ววว เรื่องนี้ว่าจะมาทุกวันเลย #เพื่ออออ
   เพราะคิดว่าน่าจะไม่เกิน4ตอนจบ ฮ่าๆ
   เรื่องสั้นไงงงง มันเป็นเรื่องสั้นน ><

   สำหรับเรื่องนี้เดย์อยากฝากไว้ว่าลองเปิดใจรับฟังและอ่านไปก่อนค่อยตัดสินใจแล้วกันเนอะ
   เพราะอยากให้เข้าใจทั้ง2มุมมอง ของทั้ง 2คน
   ยังไงรอดูบทสรุปความสัมพันธุ์ของเจและมายไปด้วยกันนะคะ

   เจอกันตอนหน้าน้า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-10-2014 20:12:19
กลัวใจมายเลยเนี่ย :hao5:
ระยะก็ห่าง เวลาก็ไม่ค่อยจะมีให้กัน แล้วความคิดอะไรๆก็ดูไม่ค่อยเข้ากัน ถ้ามายจะวอกแวกมาทางวิวบ้างก็ไม่แปลกใจอ่ะ :katai1:
แต่ก็จะรอดูตามที่คนเขียนว่านะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: yummiie ที่ 12-10-2014 21:16:53
เอาไงดี อยู่ฝั่งไหนดีเนี่ยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 12-10-2014 22:48:47
ไม่ชอยมายอ่ะ ไม่ได้อคตินะ แต่อ่านแล้วมันไม่ชอบขึ้นมาเฉยๆ
เหมือนไม่ได้รักเจเลย อย่างพอเจชวนให้กลับบ้านไม่ยอมกลับ
แต่พอเอาเรื่องเซ็กส์มาต่อรองกลับคึกอยากกลับซะงั้น แถมยังอารมณ์ดีอีก
จากที่บ่นๆว่ารำคาญ แค่นี้พอพอรู้แล้วว่ารักกันที่ตรงไหน ถ้าเจมีชู้นี่เราจะไม่แปลกใจเลย
เพราะทำตัวแบบนี้อ่ะ เป็นเราๆก็ไม่ทนคนแบบมายนะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 12-10-2014 22:56:43
ถ้าเจไม่ยกเรื่อง... มายจะกลับไปหามั้ย
พอเจพูดเรื่องนี้มายก็โอเคเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeQ ที่ 12-10-2014 23:33:01
พอแบบนี้แล้วก็เข้าใจทั้ง2ฝั่งนะ  :serius2:
คนใกล้ตัวเราก็มีประมานนี้ มันเหมือนว่าคิดในมุมตัวเองมากไปไม่เคยจะยอมลงให้กันไม่พอใจอยู่ในใจแล้วก็มาสรุปเอาเอง
มันคุยกันน้อยเกินไปอะเราว่า มายก้ไม่ผิดที่จะสับสนมุมเจก้ไม่ผิดที่จะเรียกร้องอ่ะ อ่านแล้วก็อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะยังไงกันแน่ :m15:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 13-10-2014 01:52:39
โห แล้วบทสรุปจะเป็นไงเนี่ย
=0= ไม่รู้จะชอบใคร หรือเอียงเอนไปทางใครดี
มีเหตผลของตัวเอง+ นิสัยส่วนตัว
แก้กันไม่ได้ รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-10-2014 07:31:50
อือ แอบเครียดตาม

เหมือนยังไม่ได้คุยกันดีๆมากกว่านะ เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #2 ' 12 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: fullfeel ที่ 13-10-2014 17:03:32
เฮ้ออ :เฮ้อ:
หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 13-10-2014 18:22:08
# 3





   ผิดนัด…
   เรื่องนี้แค่พูดชื่อ…ก็ผิดแล้ว
   แต่ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากผิดนัดหรอกใช่ไหม?
   ผมเองก็ไม่อยาก แต่โลกมันไม่ได้หมุนอยู่รอบตัวเรานี่หว่า แม่งมีปัจจัยอะไรตั้งเยอะแยะ…ควรทำยังไงดี?

   [พอมึงส่งงานเสร็จ มึงก็ยังมีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่ากู]   
   “เจ มึงเข้าใจกูหน่อยนะ นี่มีตครั้งสุดท้ายในชีวิตมหาลัยกูแล้วอ่ะ”
   […แล้วมึงเข้าใจกูบ้างไหมวะ]
   “กูขอโทษ”
   [แล้วมึงก็เพิ่งมาบอกกูเอาวันนี้]
   “กูเพิ่งส่งงาน กูลืม…กูขอโทษ”
   [มึงก็ลืมแม่งทุกอย่าง]
   “กูผิดเองเรื่องนี้ แต่เพื่อนกูไปกันหมดทั้งภาคเลย…มึงไปกับกูเหมือนปีที่แล้วก็ได้”
   [มึงพูดแบบนี้ นี่มึงไม่รู้ใช่ไหมว่ากูส่งงานบ่ายวันศุกร์ แล้วมึงเดินทางเช้าวันศุกร์ กูจะไปไง?]
   “มึงส่งศุกร์ งั้นก็พอดีปะวะ วันพฤหัสมึงก็ทำงานให้เต็มที่ไปก่อนเลยไง…นะ”
   เสียงระบายลมหายใจหนักๆดังมาจากปลายสาย
   [ใช่ไงมาย ขนาดกูส่งงานศุกร์ กูยังมีเวลาไปเจอมึง กูยังมีเวลาให้มึง แล้วมึงล่ะสนใจกูปะวะ!]
   “คือ เจ-”
   เฮ้ย?! ตัดสายอีกแล้ว???
   ผมอ้าปากค้างเมื่อเสียงสัญญาณดังตัดเสียงพูดผม…อีกแล้ว!!!

   ผมหยุดโทรหามันหลังจากสายที่3ตัดไปแบบที่ปลายสายไม่รับ…เหนื่อยชิบหาย


   “เฮ้ยมาย กลับเลยปะวะ? เฮ้ย! มึงร้องไห้ไมวะ?” ไอ้วิวที่เดินมาทักผมในทีแรก ทำหน้าตกใจทันทีที่สบตากัน มันรีบพูดรัวๆอย่างรีบร้อน
   “ไม่มีไร” ผมปาดน้ำที่ข้างแก้มลวกๆ
   “เชี่ยมาย มึงเป็นไร” มันเดินตามมาจับไหล่ผม แบบที่ผมก็สะบัดออกทันทีอย่างไม่ตั้งใจ
   “โทษที กูขออยู่คนเดียวสักพัก เดี๋ยวกูกลับละ เจอกันมะรืนนี้ตอนเช้า”
   ผมเดินหนีออกมาทันที ไม่ได้หันไปมองหน้าไอ้วิวอีก
ไม่อยากให้ใครเห็นตอนร้องไห้…


   ผมกับเจไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่สายนั้นตัดไป
   เจไม่รับโทรศัพท์ผม ไลน์ก็ไม่ตอบ…ผมเองจากที่ตั้งใจว่าจะไม่โทรไปอีก เวลาก็ผ่านไปนานจนตัดสินใจโทรใหม่ และพอโทรไปสักพักก็ตัดสินใจอีกว่าจะไม่โทรแล้ว แต่พอผ่านไปอีกนิดก็โทรไปอีก
   วนไปวนมาแบบนี้จนจะข้ามวัน…
   เจก็ยังไม่รับ

   “ฮัลโหล” ผมตัดสินใจโทรหาไอ้เนม
   [ว่าไงมึง]
   “มึง…เดี๋ยวกูจะกลับกรุงเทพ”
   [เฮ้ย?! ตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ]
   “เออ…เจมันไม่รับโทรศัพท์กู”
   [เชี่ย มึงใจเย็นก่อน แล้ววันศุกร์ไม่ไปแล้วเหรอมีตติ้ง]
   “กูไม่รู้…ถ้าเคลียร์เสร็จกลับมาทันก็ไป”
   [มายมึงอย่าเพิ่งใจร้อนดิวะ ป่านนี้รถตู้หมดไปหลายชั่วโมงแล้ว]
   “กูร้อน ไม่รู้อ่ะกูเหมาแท็กซี่ไปถึงบ้านเจไม่น่าเกินตี3 ยังไงกลับพฤหัสกลางคืนก็ได้”
   [จะดีเหรอวะ มึงรอมันรับโทรศัพท์ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ]
   “ไม่ดี กูรอไม่ไหว รอมาจะหมดวันแล้ว…คราวนี้กูเป็นคนผิด กูส่งงานแล้วกูไปได้”
   ปกติผมจะไม่ง้อนะถ้าผมไม่ผิด…แต่คราวนี้ผมผิดจริง
   [เอางั้นเหรอวะ…ให้กูไปเป็นเพื่อนไหม]
   “ไม่เป็นไร นี่กูเก็บของอยู่เดี๋ยวจะออกไปละ”
   [งั้นมีไรมึงโทรหากูนะ ไลน์ทะเบียนรถมาให้กูด้วยละกัน]
   “เค แต้งนะมึง”

   พอวางสายผมก็ออกไปเรียกแท็กซี่ ยืนรออยู่นานกว่าจะได้รถ ดีที่ได้พี่ยามยืนเป็นเพื่อน


   รถไม่ติด…วิ่งฉิว ไม่ถึงตี3ผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านเจ…
   อย่าถามว่าค่าเสียหายที่จ่ายให้พี่โชเฟอร์ไปเท่าไหร่...เจ็บปวดมาก
   แต่ประเด็นคือมันยังไม่รับโทรศัพท์…ไลน์ก็ไม่ตอบ…ไม่อ่านด้วย

   ทำไงดีล่ะ?

   ยุงก็เยอะชะมัด ผมทิ้งตัวลงนั่งที่ริมรั้ว ตบแขนตบขาไปมาเพราะยุงบินมาเกาะไม่หยุด


   RrRrrRrrRrr
   RRRrrrrrRrrr


   ผมสะดุ้งนิดนึงตอนโทรศัพท์สั่น รีบหยิบขึ้นมาดูคิดว่าน่าจะเป็นเจ แต่…

   ‘I’Name’

   “เออมึง”
   [ว่าไงเจอกันยังวะ]
   “มันไม่รับโทรศัพท์หวะ ไลน์ไปไม่อ่านด้วย”
   [อ้าวเชี่ย แล้วนี่มึงอยู่ไหน]
   “หน้าบ้านมัน”
   [ตี3ครึ่งแล้วนะ มึงกลับบ้านมึงก่อนดีกว่าปะวะ]
   “ไม่รู้หวะ เอาไงดีวะเนี่ย กลับเวลานี้แม่ต้องว่าแน่เลย”
   [กลับ! เดี๋ยวก็โดนปาดคอหรอกสัด]
   “แต่บ้านกูไกลจากนี่อ่ะ…อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว รอดีกว่าไหมวะ”
   [มาย มึงอย่าให้กูด่า]
   “เดี๋ยวดิวะ ขอกูคิดก่อน” ผมเงยหน้ามองหน้าต่างบ้านเจที่ตอนนี้มืดสนิท…

   ปกติมันทำงานโต้รุ่งประจำนี่น่า…ทำไมไฟไม่เปิด

   “กูว่ามันไม่อยู่บ้านแน่เลยอะมึง”
   [ไมวะ]
   “ไฟห้องมันปิดอ่ะ ปกติมันทำงานทั้งวันทั้งคืน”
   [มันเผลอหลับเปล่า]
   “งั้นก็ต้องไม่ปิดไฟดิวะถ้าเผลอหลับ”
   [เออจริง…เออมาย!]
   “อะไร! เชี่ย ตะโกนทำไมเนี่ย ตกใจหมด”
   [มึงไปร้านเฮียโกดิ ที่เลยบ้านเจไปนิดเดียว ไปนั่งรอเช้าไป]
   “เออหวะ กูลืมเลย ใจมากมึงงั้นเดี๋ยวกูไปนั่งกินข้าวต้มรอ”
   [ไงมึงโทรหากูด้วยละกัน กูขอนอนรอนะ ง่วงไม่ไหวแล้วหวะ]
   “เออ เดี๋ยวกูไปขอเฮียโกนอน”
   [มึงก็ฟิตสัด ส่งงานเสร็จก็บึ่งไปกรุงเทพเลย ไม่หลับไม่นอน น็อคมานี่กูไม่ไปเยี่ยมนะ]
   “ไปหลับไป บ่นกูจัง”
   [เออ ดูแลตัวเองฟาย]

   ผมรับคำเนมแล้ววางสาย มองขึ้นไปที่หน้าต่างมืดๆของห้องไอ้เจอีกครั้ง ถอนหายใจยาวๆ กดส่งไลน์หามันใหม่ก่อนจะเดินออกจากซอย


   ::กูมารอมึงหน้าบ้าน แต่มึงไม่รับสายกูเลย::
   ::ไปรอมึงที่ร้านเฮียโกนะ::
   ::มึงหลับเหรอ?::
   ::กูรอมึงตื่นก่อนก็ได้::
   ::ถ้าอ่านแล้วตอบกูหน่อยนะ::









   “มาย…เจ้ามาย”
   “อือ…”
   “6โมงครึ่งแล้ว ข้าปิดร้านเสร็จแล้ว เอ็งจะไปหาเจ้าเจมันไหมเนี่ย?”
   “เฮ้ย ไปครับๆ ขอบคุณมากครับเฮีย ผมไปก่อนนะ” พอตั้งสติได้ ลืมตามาก็เจอเฮียโกยืนท้าวเอวปลุกผมอยู่ ผมละล่ำละลักพูดแล้วลุกยืนยกมือไหว้เฮียแก ก่อนจะก้าวยาวๆออกจากร้าน

   เมื่อคืนมานั่งกินข้าวต้มโต้รุ่ง นั่งคุยกับเฮียโกจนเกือบเช้า เผลอฟุบหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ผมออกจากร้านโดดขึ้นรถมอไซด์รับจ้าง แล้วหยิบโทรศัพท์มาเปิดแชท

   มันยังไม่อ่าน…



   ผมมายืนอยู่หน้าบ้านมันอีกครั้งด้วยอาการหงุดหงิดที่ก่อขึ้นในใจเล็กน้อย…เอาไงดีวะกู

   “อ้าว ลูกมาย!” คิดหงุดหงิดได้ไม่นานเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น เงยหน้ามองก็เจอแม่เจยืนอยู่หน้าประตูด้านใน
   “อะ แม่หวัดดีครับ” ผมรีบยกมือไหว้ แล้วยิ้มให้แม่เจที่กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
   “ว่าไงสุดหล่อ มาแต่เช้าเลย มาหาเจเหรอจ๊ะ?”
   “ครับแม่ เจตื่นยังอ่ะครับ”
   “อ้าว มายไม่ได้โทรหาเจก่อนเหรอจ๊ะ เจไม่ได้อยู่บ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เห็นบอกไปนอนบ้านเพื่อน ขนอุปกรณ์อะไรไปด้วยเยอะแยะ”
   “…เหรอครับ” ผมเผลอขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว
   “เข้าบ้านก่อนไหมลูก?”
   “อ้อ…ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวมายกลับแล้ว”
   “เหรอจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นไว้เจกลับมาแล้วแม่บอกให้นะ ไว้มาบ้านอีกนะลูก”
   “ครับแม่ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้แม่เจอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากซอยมาช้าๆ กดโทรศัพท์หาเจอีกครั้ง…ปิดเครื่องไปแล้ว

   ผมกำหมัดแน่นระงับอารมณ์อยู่พักนึงถึงกดโทรศัพท์หาไอ้เนมต่อ แต่ไม่รับสงสัยยังไม่ตื่น

   ผมเลยนั่งแท็กซี่ไปเซนปิ่นเพื่อนั่งรถตู้กลับหอ…รอจน10โมง รถถึงออก

   บอกอารมณ์ไม่ถูกเลย









   “มายเอาปะ” แก้วกาแฟเย็นถูกยื่นมาตรงหน้า
   “แดกเลยไอ้เนม ไม่ใช่ช่วงโปรเจคกูไม่แตะ”
   คนมีน้ำใจ(?)ยิ้มเล็กน้อย ตบบ่าผมเบาๆ
   “หรือจะเอาแฮงเปล่า ซื้อมาเผื่อ”
   “ไม่เอาอ่ะ’
   “มึงนอนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวถึงแล้วกูปลุก” เนมมันว่า…ถึงมันจะปากหมาแค่ไหนแต่เวลาผมมีปัญหามันไม่เคยซ้ำเติมหรือทิ้งผมเลยสักครั้ง

   เมื่อวานผมกลับมาถึงตอนเที่ยงๆก็รุดไปหามันที่ห้องทันที กินเบียร์กันจนค่ำ ไม่สิ…ผมกินคนเดียว
   พอเช้าปุ๊ปก็โดนมันลากลงจากเตียงมาขึ้นรถไปมีตติ้งที่หน้าคณะแบบมึนๆ

   ผมยิ้มรับแล้วหยิบหูฟังยัดใส่หูทั้ง2ข้าง เบนสายตาออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดโฟกัส

   11โมง รถเคลื่อนตัวออกมาจนครึ่งทางแล้ว…จุดหมายไม่ใกล้ไม่ไกล

   ชะอำ







   “กูนอนเตียงนี้นะ”
   “กูขอนอนกลาง”
   “ไม่เอากูกลัว”
   “ไอ้เนม! มึงกลัวเป็นคนเดียวเหรออออ”
   “มึงก็เอาหมอนไปวางข้างๆดิวะมาย”
   “ไม่! มึงแหละไปนอนริมโน้น”
   “งั้นมึงก็ไปนอนเตียงโน้นดิ”
   “ไม่เอาไอ้อู๋แม่งนอนดิ้น”
   “งั้นมึงก็เขยิบไป!”
   “ไม่!”
   “กูก็ไม่!”

   “พอๆเดี๋ยวกูนอนริมนี้ แล้วให้ไทน์นอนริมนั้น”

   ระหว่างที่ผมกับเนมกำลังเถียงกันสุดใจ และถีบไล่กันออกจากกลางเตียง วิวก็เอ่ยปากขึ้นให้การกระทำทั้งหมดชะงักกลางอากาศ

   “เออดี” เนมมันว่าแล้วลุกขึ้นดื้อๆ ดิ่งไปที่กระเป๋าเดินทาง รื้อข้าวของออกมาวางระเกะระกะ
    “มึงไปเก็บของอะไรก็ไปเก็บเหอะ” ไอ้วิวหันมาพูดกับผม
   “เดี๋ยวกูนอนก่อน” ผมว่าแล้วทิ้งหัวลงหมอน “ว่าแต่รถแม่งขับช้าชิบหาย ชะอำครั้งที่แล้วขับมาไม่เกิน2ชั่วโมง นี่แม่งลากยาวมาบ่าย เพิ่งถึง!”
   “บ่นๆ นอนไปมึงอ่ะ” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน…ก่อนจะดับสติตัวเอง



   “ย…มาย…ไอ้มาย”
   ผมปรือตามองต้นกำเนิดเสียงที่รบกวนการนอน…ไอ้เนม?
   “อืออ…ไรวะ?”
   “ผัวโทรมาแล้ว”

   มันยื่นโทรศัพท์มาให้พอมองหน้าจอถึงได้เห็น ‘3 missed call’

   ผมลังเลไปสักพัก…ไม่อยากโทรกลับเลย…ยังรู้สึกโกรธๆอยู่

   “…”
   “เป็นไรวะ” พอเห็นผมวางโทรศัพท์แล้วนั่งหน้าบึ้ง ลิงเผือกอย่างไอ้เนมมีเหรอจะพลาด
   “แม่งไม่รับอีกแล้วหวะ”
   “มันไปทำไรแล้วเปล่า ไว้ค่อยโทรดิ ลงไปกินข้าวเย็นเหอะเดี๋ยวจะได้ไปเปิดฟลอร์” มันว่าแล้วส่ายก้นกวนตีนมาให้

   ผมก้มมองนาฬิกาที่โทรศัพท์แล้วก็ต้องตกใจ…ทุ่มกว่าแล้ว

   นี่นอนไปนานขนาดนี้เลย?




   บรรยากาศที่คุ้นเคย…
   งานมีตติ้งภาคเป็นอะไรที่มันส์ที่สุดแล้ว ปี1จนถึงปี4รวมไปถึงพี่ๆที่จบไปแล้วของภาควิชาผมจะมารวมตัวกันเยอะจนตาลาย
   พอเริ่มมืดเริ่มดื่มเริ่มเต้น การเข้าหากันก็จะเป็นไปได้ง่ายมาก ชนิดที่ปกติง่ายแบบไหนให้คูณไปสิบเท่า รู้จักกันง่ายๆสนิทกันง่ายๆ อารมณ์แบบนี้โคตรสบายใจ

   “เฮ้ยมาย!” เสียงคุ้นๆ ใครเรียกวะ?

   “พี่คิน! หวัดดีครับพี่ โหย ไม่ได้เจอพี่อย่างนานอ่ะ” สายรหัสผมเองครับ จบไป3ปีแล้ว พี่แกนิสัยดีมาก ขยันเลี้ยงเหล้ายาได้ตลอด
   “เออดิเป็นปีละ กูไปสร้างรากฐานที่มั่นคงมาเว้ย”
   “รวยแล้วดิ เลี้ยงน้องหน่อย”
   “เออๆ อยากแดกไรบอก กูเอาเตากุมา ไปแจมได้” พี่แกว่าแล้วพยักหน้าไปทางซ้าย หันไปมองเตาอย่างใหญ่ครับท่าน!
   “พี่แม่งคูลตลอด”
   “เออ กูไปละ เมียหายขอหาก่อน” พูดติดตลกไว้แล้วก็จากไป

   ผมมองไปก็เจอไอ้เนมกำลังเดินเซมาทางผมพอดี

   “มายยย”
   “ไรมึง”
   “กูจะไปแจมกุของพี่คิน ไปกับกูป๊ะะะะ”
   “โนหวะ เอาเลย”
   “ไรวะ อ่อนสัด”
   “หึ” ขืนไอ้เจรู้กูได้โดนด่ายับ “เออ ไปเหอะพ่อคนแข็ง”
   “ยาวด้วยนะ ไม่ได้แข็งอย่างเดียว”
   “สัด” ผมหัวเราะให้กับมุกเสื่อมๆของมัน
   “เออยืมมือถือหน่อยดิ” มันว่าแล้วแบมือ
   “ทำไรวะ?”
   “จะโทรหาแฟน แบตหมด”
   “เออๆ”

   ผมล้วงมือถือแล้วจะยื่นให้มัน…มองโทรศัพท์นิ่งไปนิด…จนป่านนี้เป็น10สายแล้ว เจมันก็ยังไม่รับ

   “เก็บไว้กะมึงก่อนแล้วกัน” ผมว่า
   “ครับพี่” มันรับคำกวนๆแล้วดิ่งไปทางเตาบารากุของพี่คิน

   ตอนนี้เพื่อนในกลุ่มกระจัดกระจายตามแรงเบียร์กันหมดแล้ว ผมเต้นจนหมดแรง…อยากจะพักสักนิด
   แต่คิดได้ไม่ทันไรก็โดนไอ้ไทน์ล็อคคอลากไปร่วมวงต่อ

   โอยยย…ร่างกายกูขับแอลกอฮอลไม่ทันแล้ววว





   กระป๋องเบียร์เปล่าๆปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป
   เพลงจากที่ตื๊ดๆชนิดผับยังอาย ค่อยๆเบาลงจนเป็นคลอเอื่อยๆชิวๆ
   ตอนนี้รู้สึกตัวร้อนๆ หัวหนักๆ ประมวลผลอะไรได้ช้าลงไปเยอะ

   ผมเดินแยกออกมานั่งที่ริมรั้วกำแพงหินเตี้ยๆกวาดตามองหาดที่ทั้งเงียบและมืด
   เสียงเพลงแว่วมาจากด้านหลัง…มาแบบนี้โคตรชอบ เหมารีสอร์ทจนเหมือนเป็นที่ส่วนตัว
   ผมสูดลมทะเลเข้าเต็มปอดแล้วเงยหน้ามองฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ บวกกับน้ำฉ่ำๆในตาเพราะแอลกอฮอลแล้วยิ่งทำให้มันดูแวววาวขึ้นไปอีกหลายเท่า

   บรรยากาศชวนเศร้าแปลกๆ
   รู้สึกร้อนๆที่ขอบตา…ไม่รู้เพราะเบียร์หรือเพราะอะไร

   ผมโกรธไอ้เจ…โกรธที่ไม่รับโทรศัพท์ ให้ผมไปหาไปรอไปเก้อ…

   แต่ผมก็คิดถึงมัน…


   “มาย”

   ผมหงายคอขึ้นไปมองด้านหลังตามเสียงทักที่ดังขึ้น…ไอ้วิว…

   “เฮ้ยเดี๋ยวคอหัก” มันยกหัวผมขึ้นตรงๆ  “เมาแล้วเหรอไงมึงอ่ะ?”
   “กรึ่มๆ ระดับกำลังชิว”
   “ฮ่ะๆ อย่าให้เห็นน็อค”
   ผมยิ้มรับแล้วยกกระป๋องเบียร์ในมือให้อีกฝ่ายชน “อากาศดีสัดเลยเนอะว่าปะ”
   “เออดิ ดีที่ฝนไม่ตก โชคดีชิบหาย” หางตาเห็นมันหันมามอง “เหงื่อมึงเยอะเนอะ ไหนบอกอากาศดี”
   “แหม่ เพิ่งเต้นมาอะดรีนาลีนมันสูบฉีด”
   “เอออออ พ่อขาแด๊นซ์”
   ผมกับมันหัวเราะ ฤทธิ์ของมึนเมาทำให้หัวโคลงไปมาอย่างทรงไม่อยู่

   “มึงเป็นไรปะวะมาย”
   อยู่ๆไอ้คนข้างๆก็พูดขึ้นมา ผมทิ้งน้ำหนักลงที่แขนทั้ง2ข้าง ยันตัวไปด้านหลัง หันไปมอง “ไมวะ?”
   “วันนั้นมึงร้องไห้ทำไม?”
   “…”
   “มีไรมึงบอกกูได้นะเว่ย”
   “…”
   “พร้อมฟังหวะ”
   “…ไม่มีไรหรอก แต้งนะมึง”

   พอผมพูดจบ มันก็เงียบ…ผมก็เงียบ

   ปวดหัว…


   รอบข้างเงียบ เสียงดนตรียังดังลอยมาจากด้านหลังเหมือนเดิม แต่กลับดูน่าอึดอัดกว่าเมื่อครู่
   เสียงคลื่นลมชัดขึ้นกว่าที่เป็น ผมพยายามโฟกัสความคิดไปที่น้ำเค็มๆด้านล่าง แม้จะมืดแต่ยังมีแสงระยับที่ผิวน้ำ แสงที่ส่องมาจากพระจันทร์บนท้องฟ้า…

   นานจนเหมือนจะเผลอหลับ เสียงไอ้วิวก็ดังขึ้นแผ่วๆ แผ่วจนต้องเงี่ยหูฟัง

   “กูห่วงมึงนะ”

   “…”

   ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหนของมันเสียงถึงได้ชวนใจสั่นขนาดนี้ ผมรู้สึกว่าพลาดไปจริงๆตอนที่เผลอเหลือบตาขึ้นไปสบกับมัน
   เหมือนตอนนี้ผมจะไม่ได้ยินเสียงเพลงอีกแล้ว แม้จะแว่วผ่านหูสักนิดก็ไม่มี
   แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆผมถึงโฟกัสใบหน้ามันไม่ได้ เบลอขึ้นเรื่อยๆเหมือนภาพใกล้…

   ผมสายตาเสียแล้วเหรอ

   “…”

   “กูห่วงมึงจริงๆนะ”

   “…”

   “ห่วงจริงๆ”

   เสียงสั่นๆของใครสักคนดังขึ้นใกล้หน้า…ใกล้เกินไป

   ใกล้ขนาดนี้มัน…

   “อื้อ…”

   ผมเบิกตากว้างเล็กน้อยตอนรู้สึกว่ามีอะไรมาแนบที่ริมฝีปาก อุ่น…ร้อน
   แต่นุ่ม…หยุ่น…สัมผัสสบาย
   สบายเสียจนเผลอขยับปากบดเข้าไปลึกกว่าเมื่อครู่
   สัมผัสชื้นแฉะแปะอยู่ที่ริมฝีปาก…ผมอ้าปากเล็กน้อยเพราะความเย็นจากอะไรนิ่มๆนั่น
   ให้ความเย็นนั้นแทรกเข้ามาด้านใน…

   มึนหัวชะมัด

   หนังตาเหมือนถูกแรงโน้มถ่วงของโลกเล่นงาน มันปรือลงต่ำเรื่อยๆจนปิดสนิท
   ผมรู้สึกเหมือนหัวหมุน คล้ายจะลอย ราวกับถูกแกว่งร่างไปมาบนอากาศไม่หยุด

   แต่มารู้สึกเหมือนโดนทุ่มลงพื้นก็ตอนที่…
   ได้ยินเสียงที่คุ้นหูที่สุดในความคิด


   “มาย…”


   ผมลืมตาโพลง หันขวับไปทางต้นเสียงเร็วจนเกิดเสียงจุ้บจากปากที่ผละออกจากกันแรงๆ
   ผมอ้าปากเปิดปิดอยู่2-3ครั้ง กว่าจะเปล่งเสียงที่แหบพร่าเล็กน้อยออกมาจากคอได้


   “จะ…เจ”














   tbc >

   มาแล้วววว
   แหะ…ตอนนี้หลากหลายอารมณ์มาก ความจริงว่าจะตัดตั้งแต่กลางเรื่อง
   แต่คิดไปคิดมาลงให้หมดไปเลยดีกว่า จะได้เห็นหลายๆมุมมอง

   สำหรับตอนที่แล้ว ประเด็นเรื่องที่ว่ามายดูสนใจแต่เรื่องมีอะไรกัน
   เดย์เลยอยากออกมาพูดแทนมายสักนิดนึงงง
   ความจริงแล้วมายไม่ได้สนใจว่าจะได้มีอะไรหรอกค่ะ แต่อารมณ์ดีขึ้นตั้งแต่เจบอกคิดถึงแล้ว
   เรื่องบนเตียงกระซิบบอกลับหลังว่าส่วนมากแล้วมายจะยอมเจตลอด ฮ่าๆๆๆ
   ตัวมายเป็นคนง่ายๆ อารมณ์ก็ขึ้นลงง่าย และรวมไปถึงสับสนง่ายด้วยเช่นกัน เลยทำให้ดูงงๆบ้างบางครั้ง
   เจเองก็อารมณ์แปรปรวณไม่ใช่น้อย เอาแต่ใจไม่เบาเหมือนกัน

   แต่ถึงแม้ทั้ง2คนจะเข้ากันไม่ค่อยได้ และไม่รู้จะรอดหรือไม่รอด
   แต่ที่แน่ๆไม่ว่าตอนจบจะออกมารูปไหน เดย์ยืนยันได้เลยว่าตลอด3-4ปีที่ผ่านมา ทั้ง2คนรักกันจริงๆค่ะ

   ตอนหน้าก็จบแล้ว ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ <3

หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-10-2014 18:36:18
เพราะเป็นนิยาย เราเลยมีความหวังว่ามันอาจจะจบลงด้วยดี มายกับเจอาจจะปรับความเข้าใจแล้วยิ่งหวานชื่นกว่าเดิม :o8:
แต่ถ้าเป็นเราจริงๆ ไปเจอแฟนกับเพื่อนจูบกันแบบนี้ ไม่ว่าจะอธิบายหรือมีเหตุผลอะไร เราทำใจไม่ได้จริงๆ :hao5:
แล้วเจตนาของวิวก็ไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่แรกแล้วอ่ะ (ในมุมมองของเรานะ) เจก็มาง้อถึงที่ แต่ดันมาเห็นอะไรแบบนี้ เกินกว่าจะทำยอมรับในเวลาอันรวดเร็ว :z3:
แต่ก็อยากให้จบด้วยดีอ่ะ เราอิน ปวดร้าวไปด้วยเลย  :mew6:
การบ้านก็ยังไม่เสร็จ (เกี่ยว? :m20:)
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 13-10-2014 20:53:47
 :ling2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: BeeQ ที่ 13-10-2014 20:55:15
จบตอนได้ปวดร้าวมาก :mew4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 13-10-2014 21:19:28
เลิกเหอะเจ ไอ้เพื่อนก็นะรู้ทั้งรู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เลวทั้งคู่
เอาเหตุผลอะไรมาอ้างเราก็ว่ามันเลวอยู่ดี ไม่ต้องเอารักเอาความห่างอะไรมาพูดหรอก
มันอยู่ที่จิตใจกับสันดารของคนมากกว่าที่ไม่มั่นคงและซื่อสัตย์พอ
แม้จะอ้างว่าห้ามความคิดความรู้สึกไม่ได้แต่เราสามารถห้ามการกระทำของตัวเองได้
นี่แหละที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกับสัตว์เดรัจฉาน เพราะถ้าเราเป็นเจเราก็คงโกรธไม่อยากรับโทรศัพท์
ไม่อยากคุยให้ทะเลากันหรอก นี่เรายังว่าเจดีนะเนี่ยที่ยังอุตส่าห์มาหามันถึงที่เหมือนมาง้อทั้งๆที่ตัวเองไม่ผิด
แล้วยังมาเจอภาพบาดใจอีก เป็นเราคงคิดต่างๆนาๆว่าที่มันไม่ยอมกลับหรือเริ่มเปลี่ยนไปเพราะมีคนใหม่
แล้วทีนี้จะมาบอกว่าเจไม่มีความเชื่อใจกันเลยก็ไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อตัวมึงทำตัวเองนะมาย สมน้ำหน้า
เราเชียร์ให้เลิกกันไปเลย เกลียดอีมาย(สรุปนางเป็นรับชิมิ ตอนแรกทึกว่าเป็นรุกซะอีก555555+++)
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-10-2014 21:26:56
อ่านเรื่ิองนี้แล้วทำให้เข้าใจ

การนอกใจมันทำได้ง่ายจริงๆ

ความห่างทำให้ความสัมพันธ์เจือจาง

ไม่ชอบวิวเลย ฉวยโอกาสตอนที่มายเมาอ่ะ -*-
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: fullfeel ที่ 13-10-2014 21:59:30
ถ้ามองเป็นกลางแล้วก็พอจะดูรู้อะนะว่าความจริงทั้งเจทั้งมายก้รักกันทั้งคู่
มายถึงจะผิดๆไปแต่ก้รักก้ไปง้อ
เจเองถึงจะพูดจาไม่ดีแต่ก็ทำเพื่อมายมาก
รักกันทั้งคู่แต่เข้ากันไม่ได้ สิ่งแวดล้อมก้ไม่เป็นใจ มีวิวเข้ามาอีก ก็ยากอ่ะ :เฮ้อ: :sad4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 13-10-2014 23:00:17
 :เฮ้อ: คนเราบางที ถ้ารู้จักห้ามใจตัวเองบ้างมันก็ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนหลอกนะ
เห็นแก่ตัว บอกเลยความห่วงใยที่เธอมีให้มาย มันไม่ใช่ความห่วงใยที่บริสุทธิ์ใจ...
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 14-10-2014 00:09:52
คือเรื่องแบบนี้ ถึงเรื่องจูบมายจะไม่ผิด
แต่ก่อนหน้านั้นเหมือนไม่แคร์แฟนเลยนะ
รักเจๆจริงๆรึเปล่า เราเป็นคนนอก อ่านก็รู้สึกได้แบบนี้
เบื้องหลังเขาคงมีอะไรที่แลดูรักกันมาก คนเขียนถึงกล้ายืนยัน

ถ้ามายไม่เคลียร์ตัวเองนี่จะจับมัน  :z6:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #3 ' 13 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 14-10-2014 01:05:20
ชิบหายแล้วมายยย !
วิว ผิดจังหวะ ฉวยโอกาส
= =' สงสารเจง่ะ
เข้าใจว่าแฟนกันถึงจะเหนื่อยใจ แต่ก็ยังรักกัน
เลยยังอยู่กันได้ คบกันได้
แต่ตามมาชะอำแล้วเจอฉากจูบก็....

รอตอนต่อไปค่าา
หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 14-10-2014 19:31:57
# 4





   เหมือนโดนทุ่มจนสมองโล่ง ที่มึนๆเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง

   ข้างๆเจมีเนมยืนอยู่ด้วย ท่าทางมันช็อคไม่ต่างกัน…
   ความเงียบที่โคตรจะสงัดเกิดขึ้นระหว่างพวกผมทั้ง4คน

   ผมไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าไอ้วิว สายตาผมตอนนี้จับจ้องอยู่ที่สีหน้าเจ็บปวดและไม่เข้าใจของคนที่ผมเรียกว่า ‘แฟน’

   เจไม่ได้พูดอะไร ผมก็ไม่ได้พูด วิวเงียบ และไม่มีอะไรออกจากปากเนม
   เสียงคลื่นซัดคงเป็นเสียงที่ดังที่สุดแล้วในตอนนี้…

   “เจ!” เหมือนว่าเสียงผมจะใช้งานได้กะทันหันตอนนี้เจมันหันหลังเดินไป

   ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่เพลงมันดังขึ้นมาและคนเริ่มขยับลุกมาเต้นกันอีกแล้ว
   ไม่มีใครสนใจพวกผม ไม่มีใครได้ยินเสียงตะโกนเรียกของผม และก็ไม่สะดวกพอที่ผมจะไปถึงตัวเจได้เร็วๆ

   “เจ!”

   พอหลุดจากฟลอร์มาได้ผมก็วิ่งไปรั้งแขนมันไว้ แต่โดนสะบัดทิ้งแรงๆ มันหันมามองด้วยสายตาที่มีความโทสะฉายอยู่เต็มที่

   “กู…”

   “มึงพอเหอะ”

   “เจคือกูไม่ได้..”

   “พอ”

   “กูไม่-”

   “มาย!”

   ผมสะดุ้งเมื่อมันตะโกนเรียกชื่อผมเหมือนจะสั่งให้หยุดพูด

   “เจ…กู”
   “เชี่ยเอ้ย!” มันหันหลังอีกครั้ง ผมก็รุดตามไปคว้าข้อมือมันไว้อีก
   “...”
   “เจ…เจมึงฟังกูก่อนนะ ฟังกูหน่อย กูขอล่ะ…กู…”
   “ปล่อย”
   “มันไม่ได้เป็นแบบที่มึงเห็น คือ-”
   “ปล่อย”
   “เจกูขอล่ะ แค่มึงฟังกูก่อน”

   “กูบอกให้มึงปล่อย”

   มาถึงตอนนี้น้ำตาผมไหลเรียบร้อยแล้ว ผมมองด้านหลังของมันแล้วเอ่ยปากเสียงสั่น “เจ”

   “เชี่ย!” มันสะบัดมือแล้วออกเดิน ผมรีบวิ่งตามไป
   “โอ้ย!”

   แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลกับทางเดินมืดๆทำผมสะดุดล้ม…พอเงยหน้ามอง
   เจหายไปแล้ว

   “ไอ้มาย…” เนมที่ตอนนี้ท่าทางมันดูเหมือนไม่ได้กินของมึนเมาเข้าไปเลย เดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ  วางมือลงที่บ่าผม

   เนมถอนหายใจเบาๆ “มันโทรเข้าเครื่องมึง แต่กูหามึงไม่เจอ พอรับแทนเลยรู้ว่ามันมาเซอร์ไพร์มึงที่นี่กูเลยอยากช่วยให้มันดูพิเศษกว่าโทรศัพท์บอก เลยออกไปรับมันเอง แล้วก็เดินหามึงด้วยกัน…กูไม่คิดว่า…มึงจะ…”

   “…กูผิดเอง…ฮึก…กูมันเหี้ยเองเนม”
   “คือ…มึงกับวิว…”

   “ไม่ใช่” ไม่ใช่เสียงผม…เสียงไอ้วิวดังขึ้นด้านหลัง ผมไม่ได้เงยหน้ามองอะไรทั้งนั้น สายตายังจ้องไปที่พื้นดินข้างหน้า เม้มปากแน่น

   “มึงจูบมายทำไมวะ” เสียงเนมแข็งขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
   “…กูกับมันเมา…ไม่มีใครตั้งใจ”
   “มึงอย่ามาอ้างไอ้วิว…มึงคิดกูรู้!”
   “…”
   “…เออ กูคิด…แต่กูไม่ได้จะตั้งใจจะทำ” วินาทีที่ได้ยินคำพูดวิว ผมหลับตาลงแล้วก้มหน้าต่ำกว่าเดิม…

   เจ…มึงไปไหน


   “ฮึกก…ก”
   “มาย…”
   “อย่า! เดี๋ยวกูดูเอง”

   ผมได้ยินเสียงวิวกับเนมดังขึ้นเหนือหัว แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะสน ไม่สนแม้กระทั่งมือที่ดึงตัวผมขึ้นลากให้เดินออกจากตรงนั้น

   รู้ตัวอีกทีก็ตอนทิ้งตัวลงที่เบาะโซฟาตรงลอบบี้ที่ไร้ผู้คนคนเดียว
   ความเงียบทำผมฟุ้งซ่าน
   ผมไม่รู้ทำไมเรื่องมันถึงดำเนินมาแบบนี้…ผมไม่เข้าใจ
   ผมแค่…

   เท่าที่รู้ตอนนี้ผมเสียใจ…เหลือเกิน

   ผมมันเหี้ยเอง ผมผิดเอง…ใครก็ได้ อะไรก็ได้…จะให้ผมทำอะไรก็ได้…ขอแค่เจมันยอมฟังผม…


   “…เช็ดหน้าก่อน”

   ไอ้เนมที่หายไปไหนไม่รู้เสียนานเดินกลับมายื่นผ้าชุบน้ำเย็นๆบิดจนหมาดให้ผมที่ก้มหน้างุดไม่ยอมเงย

   “กูรู้มึงไม่อยากให้ใครเห็นตอนร้องไห้”

   ผมรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ
   เสียงมันพ่นลมหายใจดังขึ้นอีกครั้ง “มึงเป็นอะไรวะมายช่วงนี้ กูรอให้มึงเล่าเองแต่มึงก็ไม่เล่า…คราวนี้มึงจะพูดได้ยัง”

   “…”
   “ขนาดนี้แล้วนะเว้ย”

   ผมเม้มปากแน่นชั่งใจไปนิด ใบหน้าท่าทางเจ็บปวดของเจแวบขึ้นในหัวของผม ทำให้น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง…

   “กูไม่รู้…กูสับสน”
   เนมถอนหายใจอีกแล้ว “พูดมา กูจะฟัง พูดให้หมด…เอายาวๆ” มันลูบหัวผม “ใส่มาเลย”

   “…”

   “มาย…มึงมีไรจะพูดมึงก็พูดเหอะ พ้นตอนนี้ไปกูก็ช่วยไรมึงไม่ได้แล้วนะ”

   มันเขยิบมานั่งข้างๆผมแล้วขยี้หัวผมแรงๆ “กูรู้มึงมีอะไรในใจ มึงไม่ใช่คนแบบนั้น มึงไม่ได้จะนอกใจไอ้เจ แต่มึงต้องเข้าใจนะว่าภาพนั้นแม่งโคตรเหี้ยอะ…ขนาดกูไม่ใช่แฟนมึงกูยังช็อคเลย”
   “กูไม่ได้ตั้งใจ!” ผมรีบสวนกลับ เงยหน้ามองมัน ก่อนจะเอาผ้ามาซับหน้า เนมมันดูชะงักนิ่งไปตอนเห็นหน้าผม…หน้าคงดูไม่ได้เลยสิ

   “มึงใจเย็นๆก่อนนะมาย กูอยู่นี่” รู้สึกได้ถึงสัมผัสหนักๆที่บ่าระหว่างที่มันพูด ยิ่งทำผมน้ำตาไหลหนักขึ้น “มึงคิดอะไร อยากบอกอะไร มึงบอกกูนะ…”

   “…กูแค่สับสน กูรู้สึกว่ามันกับกูไม่ใช่ ยิ่งคุยยิ่งแย่ ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งไม่โอเค” ผมเช็ดน้ำตาแรงๆ “เหมือนคุยกันคนละภาษา เหมือนไม่เข้าใจกัน เหมือนสื่อความรู้สึกไปไม่ถึง นับวันยิ่งห่างนับวันยิ่งเป็นอื่น ไม่มีวันไหนที่จะดีกันไปได้ครบทั้งวัน” เสียงผมอู้อี้ขึ้นจมูก จนต้องหยุดพักแล้วยกมือปาดน้ำที่ไหลเต็มแก้มไปหมด
   “มันไม่เข้าใจกู กูไม่เข้าใจมัน มันคิดอย่างนึงกูคิดอย่างนึง แปลความหมายไปคนละทาง พูดอะไรไปก็ผิดหมด บางทีกูไม่ได้ตั้งใจให้รู้สึกแบบนั้น แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาตรงกันข้าม กูสื่อสารผิดพลาด… เหมือนแม่งรวนไปหมด ไม่มีอะไรถูกคอกันสักอย่าง…กูรักมันนะ…แต่กูเหนื่อย…เหนื่อยจนทรมาณ กู…ฮึกก..เหมือนกูกับมันจะไม่รอด” ผมเม้มปากกลั้นสะอื้น
   “…แต่กู…อึก…ไม่ อยาก เลิก”

   ผมพูดได้ถึงแค่นั้นก็ถูกน้ำหูน้ำตาไหลโจมตีจนต้องซบหน้าลงกับผ้าสะอื้นจนตัวโยน
   ไม่รู้เพราะอะไรอาจจะเพราะฤทธิ์เหล้าและเหตุการณ์สุดช็อคที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้ผมพ่นความรู้สึกออกมาขนาดนี้

   “มาย...”
   “กูแค่…ฮึก…แค่…อึกก…” ผมพูดต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

   ไอ้เนมเงียบไป รู้สึกว่ามันลุกขึ้น เบาะยวบขึ้นลงเล็กน้อย แต่ผมก็เครียดเกินจะสนใจอะไรแบบนั้น

   สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า…สงสัยไอ้เนมจะเดินกลับมาแล้ว

   “กูขอล่ะ ไหนๆมึงก็ได้ยินที่มันคิดหมดแล้ว…ส่วนมึงก็คุยกับมันเองแล้วกันมาย”
   “หะ?…เฮ้ย!!”

   ระหว่างที่ผมซุกหน้าลงกับผ้าในมืออยู่แบบนั้น ไอ้เนมก็พูดอะไรที่ผมไม่เข้าใจ แต่ก่อนจะได้เงยหน้าก็รู้สึกเหมือนตัวลอยขึ้นแล้วถูกคว่ำหัวลงพื้น แรงสั่นสะเทือนจากการเดินเร็วๆทำผมเบลอไปหมด

   พอปรับสายตาได้ถึงรู้ว่าผมโดนแบกขึ้นบ่า?

   ผมเอี้ยวตัวไปมอง…

   “เจ?!”

   มันไม่ตอบก้าวเท้ายาวๆไม่หยุดและเหมือนจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าบึ้งตึงของมันบังคับให้ผมเงียบสนิท...



   พลั่ก!

   “โอ้ย!” ผมหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกจากการถูกโยน…แต่ไม่เจ็บมาก?

   พอลืมตาแล้วมองไปรอบๆถึงรู้ว่านั่งอยู่บนเตียงในห้องพักผมเอง?

   “เฮ้ย!” มันตามมาคร่อมตัวผมไว้ โน้มหน้าลงมาจนหน้าผากชิดกัน นัยน์ตายังคงความดุดันไม่ลดลงจากเมื่อครู่
   “เจ…กูขอ..อื้อ!”

   ไม่ทันได้พูดจบมันก็ประกบปากลงมาแรงๆจนรู้สึกได้ถึงความคาวของเลือดในน้ำลาย จูบดึงดัดขบกัดเหมือนลงโทษ ผมหลับตาปี๋ไม่ขัดขืนอะไรปล่อยให้มันได้ระบายความโกรธจนพอใจ

   ลิ้นร้อนๆของมันไล่ต้อนจนผมหมดทางหนี รู้สึกตัวอีกทีหลังก็แนบไปกับที่นอนแล้ว
   เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังก้องห้อง ลมหายใจร้อนๆประสานจนเริ่มหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ
   มันเอื้อมมือมาล็อคท้ายทอยผมดึงเข้าหาแล้วเอียงองศาหน้าให้แนบสนิทขึ้น

   เจ็บ…

   “อือ..”
   ผมปรือตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าผละออกไป สัมผัสหนักๆในปากก็หายไปด้วย

   ใบหน้าบึ้งตึงของมันทำใจผมเต้น…

   “เจ…”
   “มึงแม่ง”
   “กูขอโทษ”
   มันค้อนสายตามองโกรธๆ “ไม่ต้องมาร้อง”

   น้ำตาผมไหลพรากเหมือนเปิดก๊อก…ไม่คิดว่าจะกลับมาหา…ไม่คิดว่าจะยังนั่งอยู่ตรงนี้

   “เฮ้อ” มันมองผมอยู่ไม่นานก็หลับตาถอนหายใจเฮือกใหญ่รั้งหัวผมเข้าไปซบที่อก
   “ที่มึงคิดแบบนี้กูก็ไม่แปลกใจหรอกมาย”

   “หะ?” ผมขานรับอย่างไม่เข้าใจ จะเงยหน้ามองมันแต่ถูกกดหัวไว้

   “กูรู้ว่ามึงกับกูเข้ากันไม่ได้ ไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง 3-4ปีที่ผ่านมาก็เหมือนลากๆรั้งๆกันไว้ กูมันคิดอย่างนึงมึงมันเข้าใจไปอีกอย่าง ไม่ค่อยได้เจอกัน สื่อสารแต่ทางเสียง ตีความไปกันคนละแบบคิดไปคนละอย่าง”

   ผมสูดน้ำมูกเมื่อน้ำตาเริ่มไหลมากขึ้น มันยกเสื้อเช็ดให้ผมแล้วพูดต่อ

   “กูรู้กูมีข้อเสียเยอะนะมาย กูขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ขี้น้อยใจ เอาแต่ใจ ชอบสั่ง ปากหมาอีก มันเป็นข้อเสียที่กูก็แก้ไม่ค่อยจะได้สักที…แต่กูอยากให้มึงลองคิดแบบนี้นะ” มันกระชับอ้อมแขนรัดผม “คนทุกคนมีข้อเสีย ไม่ว่ามึงจะไปอยู่กับใครคบกับคนไหนก็ต้องเจอข้อเสียทั้งนั้น…ไอ้ข้อดีอะไม่ต้องไปคิดมาก ใครๆก็อยู่กับสิ่งดีๆได้ทั้งนั้น แต่ข้อเสียนี่ดิไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้เหมือนกันหมด”

   มันเงียบไป…ผมไม่เข้าใจที่มันพูดเท่าไหร่นัก

   “มึงแค่เลือก…เลือกอยู่กับคนที่มีข้อเสียที่มึงรับได้” คราวนี้ผมเงยหน้ามองมัน นัยน์ตามันแดงนิดๆคล้ายคนจะร้องไห้
   “เจ…”
   “ข้อเสียของมึงทั้งหมดตอนนี้กูรับได้ กูโอเค…แล้วมึงล่ะอยากอยู่กับข้อเสียของกู หรืออยากไปหาข้อเสียใหม่ที่ดีกว่านี้ รับได้กว่านี้”
   “หึ” ผมส่ายหน้า “กูรักมึง”

   ผมสบตามันนิ่ง รู้สึกมองมันไม่ชัด ตาพร่าเพราะน้ำที่ยังไหลไม่หยุด มันก้มมาจูบซับที่ตาผมเบาๆ
   ผมหลับตาลงซึบซับสัมผัสนั้น ไม่นานมันก็ผละออกมามองหน้าผมอีก

   “แล้วเหล้าเบียร์เลิกแตะเลยนะ ถ้าเป็นงี้”
   “งือ…ทำไม่ได้”
   มันเลิกคิ้ว “สัด” เหมือนมันจะอมยิ้มเล็กๆ แต่แค่แวบเดียวก็บึ้งเหมือนเดิม “แล้วไอ้วิวอ่ะ เดี๋ยวรู้เรื่องแน่”
   “…”

   ผมเม้มปากเงียบ เราจ้องตากันอยู่แบบนั้น
   “เจ…กูขอโทษนะ…”
   “…”
   “กูไม่ได้ตั้งใจ กูผิดเอง กูขอโทษ”
   “อืม…กูก็ขอโทษเรื่องที่มึงไปหากูวันนั้น…กูไปบ้านไอ้นิว ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป…กูโกรธอยู่…กลัวลืมตัวโทรหามึง”
   “อือ…กูผิดเองที่ผิดสัญญา ขอโทษนะ”

   มันพยักหน้า…ความรู้สึกแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกอยากร้องไห้ ผมเบะปากใส่มัน แบบที่มันก็อมยิ้มมุมปากแล้วกดหัวผมซบที่อกอีกครั้ง

   “โอ้ย ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”

   ผมเม้มปากแล้วโอบหลังมันไว้…ผมก็รู้ตัวมาสักพักแล้วนะ
   ว่าคนที่สามารถเห็นผมร้องไห้ได้ตลอดเวลา คนที่ผมสามารถเปิดเผยตัวตนได้โดยไม่ต้องปิดบังความรู้สึกอะไร
   ก็มีแต่มัน…

   “ขอโทษนะ”

   “รู้แล้ว…เอาคำอื่นดีกว่า”


   “รักมึง”

   “อืม”

   “รักมึง”

   “อื้อ”

   “รักมึง”

   “ครับ”

   “รักมึง”


   เกือบชั่วโมงที่มันนั่งกอดให้ผมซบอกแล้วขานรับคำบอกรักของผมไปเรื่อยๆ หัวเราะในคอบ้างเล็กน้อย
   แม้จะไม่ได้หวาน…แต่อบอุ่น

   กูขอโทษ…

   รักมึงนะเจ


   …บางทีลึกๆผมอาจจะรู้อยู่แล้ว…
   ว่าผมเองไม่เคยอยากเลิกกับมัน ไม่ว่าข้อเสียของมันจะเพิ่มขึ้นอีกสักกี่ข้อก็ตาม

   ไม่ว่ายังไง…แฟนผม…ผมรับได้


   “รักมึงนะ”

   “อืม”

   “กูรักมึงนะเจ”

   “อือ…เหมือนกัน”
   

   วันนั้นเราเสียเวลาไปหลายชั่วโมงกับการการกอดกันแน่นๆ บอกรักกันเป็นสิบๆร้อยๆครั้ง จนตอนนี้ผมมั่นใจและแน่ใจกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา…
   เจมีข้อเสีย ผมมีข้อเสีย ทุกคนมีข้อเสีย

   หากแต่มันแตกต่างกันไป

   ถ้าผมเลิกกับเจแล้วไปคบกับคนใหม่ คนคนนั้นอาจจะมีข้อเสียที่เจไม่มี แต่ก็คงมีข้อดีที่เจไม่มีเหมือนกัน ผมอาจจะชอบข้อเสียของคนนั้นมากกว่าแฟนคนนี้ หรืออาจจะรับไม่ได้ยิ่งกว่าเดิมก็ได้…
   ผมไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง พรุ่งนี้ผมกับมันอาจจะตึงๆใส่กันอีกก็ได้ ผมอาจจะมีความรู้สึกแปลกๆหวนกลับมาอีก หรือมันอาจจะเป็นฝ่ายทิ้งผมไป

   นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้…เป็นครั้งแรกที่ไม่จบลงด้วยการยอมๆกันไปแล้วลืมปัญหาให้ฝังอยู่ลึกๆในใจ
   ผมคิดว่าคราวนี้มันอาจจะดีขึ้น…หรือคราวหน้ามันอาจจะจบไปเลยก็ได้

   แต่ตอนนี้ ผมคิดแล้ว…
   เราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องคุยภาษาเดียวกันก็ได้ ไม่ต้องมีทัศนคติคล้ายกันก็ได้
   แค่เรารู้สึกเหมือนกัน รู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่กอดกัน…ผมก็พร้อม
   พร้อมรับทุกข้อเสียที่มันมี…และจะรักมันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่เรามองข้ามข้อเสียนั้นไปได้สักที

   แฟนคนนี้…คงจะไม่มีวันที่ต้องเติมคำว่าเก่าต่อท้ายลงไป

   แน่นอน…








E n d




จบแล้วววว
ไม่รู้ว่าจบดีมั้ย และพอใจกันรึเปล่า
แต่เรื่องที่เดย์อยากจะนำเสนอมันก็เป็นเพียงรูปแบบความรักที่โคตรจะธรรมดา
พบเจอได้ทั่วไปตามสังคมปัจจุบันจริงๆ
เวลาที่เรามีความรักบางทีมันก็ทำให้เราเป็นคนงี่เง่า เห็นแก่ตัว คิดไม่เป็น และดูโง่ไปในสายตาคนภายนอก
เวลามีปัญหาคนเรามักจะมองเห็นตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะหันไปเห็นคนอื่นเสมอ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องนี้เดย์คิดว่าเดย์วิเคราะห์มาตามรูปแบบของคนธรรมดาที่ไม่ได้ดีเด่อะไร
หวังว่าความรักที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นของ มายและเจ จะทำให้ทุกคนอ่านแล้วรู้สึกตามไปด้วยสักนิดก็ยังดีนะคะ

ตอนหน้าจะเอาตอนพิเศษที่ทำให้เข้าใจพวกเขามากขึ้นมาฝาก
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่าน

รัก


D A Y

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-10-2014 19:45:25
เยี่ยม ในที่สุดก็เข้าใจกัน o13
เจใจเย็นมากนะ รู้สึกดีที่เวลา 3-4 ปีที่คบกันไม่สูญเปล่า ยังรอฟังที่มายพูดอยู่ เป็นเค้าสะบัดตูดไปสงบอารมณ์ก่อน :katai1:
กับวิวก็จัดการให้เด็ดขาดเลย ขีดเส้นคั่นเน้นๆเลย ห้ามล้ำเส้น :m31:
ตอนพิเศษขอหวานๆได้ไหมน้า :impress2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 14-10-2014 20:59:40
เข้าใจกันแล้วววววว>_____< 

เข้าใจกันดีจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 14-10-2014 21:11:11
จบแบบนี้ดีแล้วล่ะค่ะ
 ต่างคนต่างมีข้อเสียที่ต้องปรับปรุง และจูนเข้าหากัน

แต่นี่มันเหมือนกับว่าทั้งคู่ยังไม่เคยลองปรับตัว มีแต่ต่างคนต่างคิดว่ารักกันต้องอดทน

เลยเหมือนกลับว่านี่เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้น คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ !!!!  เอิ่มมม หมายความว่า  ให้เค้ามาปรับความเข้าใจกันได้..

ไม่จำเป็นต้องถึงขั้น หย่าขาดเลิกรากันไปเลย
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 14-10-2014 21:21:53
ดีแล้วที่จบลงด้วยดี :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-10-2014 21:29:06
ดีใจจัง
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 14-10-2014 22:00:11
ชอบ เรื่อง นี้ค่า  มี ต่อ ไม๊ คนแต่งสื่อ อารมยืได้ ดีมากเลย ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 14-10-2014 23:33:34
จากที่พูดมานี่คือ ถ้าเราไม่ใช่สองคนนั่นเราคงไม่เค้าใจอ่ะ ว่ารู้สึกลึกซึ้งขนาดไหน
คือถ้าทะเลาะกันเกือบตลอด ไม่เข้าใจกัน ถึงจะยังรักอยู่ แต่มันไม่ทรมานเหรอ

เข้าใจนะว่าความรักมันไม่จำเป็นต้องมีแต่ความสุข แต่เราอยากเห็นช่วงที่เขารู้สึกดีๆต่อกันจนสามารถทำให้ทนต่ออุปสรรคพวกนี้ได้เท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 14-10-2014 23:42:32
ชอบเรื่องนี้จั มันคือจริงมากๆ คนสองคนคิดกันคนละอย่าง

ถ้าไม่พูดไม่คุยไม่ปรับตัว ก็นะ

ดีใจที่สุดที่กลับมาเข้าใจกัน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 15-10-2014 00:20:19
จบโอเคแล้วค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 15-10-2014 01:15:35
ชอบจังเลย เรื่องสั้นที่สื่อถึงคำว่าแฟนได้บีบหัวใจมากกก
จะร้องเพราะมันเหมือนตัวเองอย่างกับส่องกระจก 
แต่เป็นเราที่ทนไม่ได้และขอให้มันจบไป  :)
อยากเจอคนที่รับข้อดีและข้อเสียของกันได้แบบเจ&มาย

ขอบคุณเรื่องดีๆค่ะ   :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-10-2014 08:19:20
 o13 จบดีค่ะต่างคนต่างต้องปรับรับข้อดีข้อเสียของกัน ไม่ใช่เลิกลากันไปเลย
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● #4 ' 14 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 15-10-2014 12:40:16
 :katai2-1: จบได้สวยงาม แต่อยากอ่านตอนพิเศษต่ออ่า แล้วจะรอน๊า
เป็นกำลังใจให้เสมอจ้า  :L2:
หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 15-10-2014 16:26:32

เรื่องที่มันเก่าไปบางทีก็ลืม





   บางทีพอนึกย้อนกลับไปเมื่อก่อน…ที่มันนานมากๆ แล้วดันไปจำเหตุการณ์ที่โคตรจะเก่าได้ขึ้นมา มันก็รู้สึกดีนะ

   เรื่องที่เก่าจน…ลืมไปแล้ว

   ผมนอนคิดถึงช่วงนี้เมื่อราวๆ2-3ปีที่แล้วอยู่เพลินๆ ก็หันกลับไปมองคนที่นอนหลับตาสนิทอยู่แต่มือมันยังพาดอยู่ที่ช่วงเอวผม


   “เจ”
   “หืม?” เจ้าตัวขานรับในคอ ตายังปิดแน่น
   “มึงจำเดือนนี้เมื่อ2-3ปีที่แล้วได้ปะ”
   “อือ”

   เพี๊ยะ!

   “เฮ้ย! ตีไมอ่ะ” คนถูกทำร้ายลืมตาตกใจ ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อสบตากับผม
   “สนใจคุยกับกูหน่อย”
   “อะๆ ว่าไงนะ”
   “กูถามว่ามึงจำช่วงเดือนนี้เมื่อประมาณ3ปีที่แล้วได้ไหม”   
   “อืมมม” มันทำหน้านึก “ไม่ได้”
   ผมจิ๊ปาก “เออเว้ย ที่บ้านกูน้ำท่วมมึงจำได้ยัง”
   “อ๋อ! เออ…ตอนนั้นโคตรลำบากเลยเนอะ”
   ผมขยับหันไปทางมันทั้งตัว เริ่มรู้สึกอยากคุยต่อยาวๆขึ้นมา
   “คิดแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นไม่หายเลยว่ะ แบบไม่คิดว่าจะมีวันที่น้ำท่วมจนเกือบมิดหัวแบบนั้น”
   “อืม…” มันครางรับแล้วกดหัวผมเข้ากับอก

   “…”

   เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มีอารมณ์พูดคุยเท่าไหร่ มันหายใจสม่ำเสมอเหมือนจะหลับไปอีก
   แอร์เย็นๆคงทำให้ความง่วงไม่หลุดหายไปเสียที ผมพยายามเงยหน้ามองมัน แต่ก็ไม่ได้ผลเมื่อแรงกดจากมือบนหัวยังมีอยู่

   “มึง”
   “อือ” มันครางรับ
   “จะ4ปีแล้วเนอะ”
   “อือฮึ”
   “นานแล้วเนอะ”

   คราวนี้มันยกมือออกจากหัวผม แล้วถอยตัวออกมามองหน้า “เป็นไรขึ้นมา”
   “ก็แค่คิดๆอ่ะ พอมานั่งนึกจริงๆจังๆก็รู้สึกว่าแม่งนานแล้วเหมือนกัน ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะเลยเนอะ”
   “เออดิวะ เจอกันครั้งแรกช่วงรับน้อง ตอนนั้นแม่งอย่างโหด”
   “เออจริง” ผมเห็นด้วย คิดไปถึงช่วงสุดทรหดโคตรทรมาณครั้งนั้นแล้วอยากจะร้องไห้ ความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตเลย
   “ตอนพี่เขาให้แลกกางเกงในกันอ่ะ มึงรีบรุดมายืนตรงหน้ากูเลย” ผมว่า ตอนนั้นนั่นแหละที่รู้สึกว่าคนตรงหน้าแม่งเริ่มไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อนแล้วแน่ๆ
   “เออดิสัด พี่แม่ง”
   “หวงกูอ่ะดิ”
   “เออ!”

   นั่นไง…อาการแบบนี้ล่ะครับไอ้เจเลย

   “แล้วตอนที่นั่งรถไปรับน้องต่างจังหวัด รถแม่งอย่างร้อนกูจำได้มึงจะเป็นลมด้วย”
   “ก็เพราะใครล่ะวะ”
   “เออๆ กูเอง” ผมหัวเราะ พอคิดไปถึงตอนมันต้องแบ่งของจากกระเป๋าผม ยัดลงกระเป๋ามันที่เบากว่า เพราะตอนนั้นพวกเราต้องแบกกระเป๋าวิ่งขึ้นลงบันไดเป็นสิบๆชั้น มีน้ำใจใช่ย่อยเลยใช่ไหมล่ะครับ
   “แต่กูก็ให้มึงจับมือนะ” ผมว่าต่อ “คนบ้าอะไรเป็นลมแล้วต้องขอจับมือ…เนียนชิบหาย”
   “หึ รู้แต่ก็ยอมนะมึงอ่ะ”
   “กูยังใสๆอยู่ตอนนั้น ตามมึงไม่ทันหรอก”
   “เหรอออ” มันขึ้นเสียงสูงอย่างไม่เชื่อ ทำงี้ด่ากูตอแหลเลยดีกว่า
   “เออพูดถึงต่างจังหวัด คิดถึงตอนไปเที่ยวเกาะช้างครั้งนั้นเนอะ ที่แบบคิดได้แล้วก็คว้าของยัดลงกระเป๋าออกมาเจอกันที่ปั๊มหน้าบ้านกูตอนกลางคืน”
   มันยกยิ้ม ยันตัวขึ้นมองหน้าผม “อืม”
   “ยังจำหน้าแม่กูตอนกูบอกว่าจะไปต่างจังหวัดตอนนี้ เดี๋ยวไปถึงแล้วบอกได้อยู่เลย อารมณ์กะทันหันมาก”
   “อืม”
   “แต่กูชอบนะ ไว้ไปอีกปะ”
   “อื้ม ไปสิ”
   “อยากไปกินร้านไอ้ลมทะเลอะไรนั่นอีกอ่ะ อยากกินปลาทูต้มมะดัน”
   “เอาสิ”
   “ไว้ไปลิบลี่กันอีกป่ะ หรือมึงเบื่อแล้ว แต่กูอยากไปอีกนะ คิดถึงไอ้ผีตัวนั้นชิบหายที่มันดึงกระเป๋าจากหลังมึงไป”
   “อือฮึ”
   “เออ คิดถึงตอนที่ไปไร่องุ่นที่เขาใหญ่ด้วยว่ะ กูจำได้ตอนไปขอเขาลองเหยียบองุ่นสดๆในถัง สัมผัสแม่งอย่างแหยะ”
   “อื้ม”
   “ไว้คราวหน้าจะไปเล่นกับแกะที่สวนข้างๆด้วย ตอนนั้นเสียดายเนอะที่เขาปิด”
   “อื้อ”
   “มึงจะมีส่วนร่วมในบทสนทนามากกว่านี้ได้ปะ”
   “ฮึ ฟังมึงแล้วเพลินดี”

   “…”

   โอย…ผมเพิ่งสังเกตุนะ ว่ามันมองผมด้วยสายตาแบบไหนอยู่…

   “ไม่พูดแล้วเหรอ”
   “เออ…”
   “เวลาไม่มีเรื่องเครียดๆแล้วกูโคตรมีความสุขเลยรู้ปะ” มันว่าขึ้นมาดื้อๆ ผมเลิกคิ้วให้มันอย่างไม่เข้าใจว่าต้องการจะสื่ออะไร
   “เวลามึงมีงานกูมีงาน แล้วไม่มีเวลาให้กัน ต้องห่างกัน…เหมือนพอเราสื่อสารได้แค่เสียง ไม่รู้ว่ามึงทำหน้ายังไงอยู่ ยิ้มแบบไหน หรือมีแววตายังไง…มันทำให้กูเดาความรู้สึกมึงไม่ถูกสักที”

   “…” ผมเงียบ จ้องตามันกลับไป…เหมือนผมจะเข้าใจแล้วว่ามันต้องการจะบอกอะไร

   “อื้อ…รู้แล้วน่า”
   “พรุ่งนี้ต้องกลับหอแล้วใช่มั้ย”
   “อือ…ต้องกลับไปทำงานแล้ว อาทิตย์หน้าก็คงไม่ได้กลับ ต้องรอส่งงานก่อน…รอได้ป่าววะ”
   “รอได้อยู่แล้ว แต่จะงี่เง่าไหมนี่ไม่รู้นะ” เจพูดแล้วก็ยิ้มนิดๆแต่ดูเศร้าแปลกๆ
   ผมเองก็เริ่มมุ่ยหน้าตาม “อือ…ไม่เป็นไร งี่เง่าก็ได้”
   “ที่กูพูดน่ะหมายถึงมึง” นั่นไง…หลอกด่ากู
   “อย่ามาว่าแต่กู มึงเองก็ชอบหงุดหงิดงานแล้วมาพาล ตอนนั้นอารมณ์กูไม่ได้ดีขนาดจะมาเข้าใจมึงนะจะบอกให้”
   “รู้น่า งั้นตอนนี้ดีกันตุนไว้ก่อน”
   “ถ้ามันตุนได้จริงๆก็ดี” คำพูดที่ทำให้เจมันยิ้มกว้าง
   “จะว่าไปเรื่องดีๆระหว่างมึงกับกูนี่พอมานั่งนึกแล้วเยอะชิบหายเลยเนอะ”
   มันเลิกคิ้วยิ้มนิดๆเหมือนแปลกใจกับประโยคที่ผมเพิ่งพูดจบ อารมณ์เหมือนอยากจะถามว่า ‘จะมาไม้ไหม’ อะไรเทือกนั้น
   “แต่แบบทำไมเวลาหงุดหงิดกันทีไร นึกไม่ค่อยออกเลยวะ ในหัวมีแต่ประโยคเชี่ยๆทั้งนั้นเลย”
   พอได้ยินประโยคต่อไปจากผม มันก็หัวเราะออกมาทันที
   “ธรรมดาปะวะ ตอนกูโกรธมึงกูก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องดีๆหรอก”
   “อืม…ก็จริง”
   “จริงๆแล้วเวลาทะเลาะกันก็มีแต่เรื่องงาน กับเวลาไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่านั้นแหละ”
   ผมเบะปาก “อย่าๆ เวลาอยู่ด้วยกันก็ทะเลาะเหอะ มึงแม่งชอบลิดรอนสิทธิกู”
   “อะไร?”
   “ชอบลากกลับบ้านเวลาอยากเมา ชอบห้ามนั่นห้ามนี่”
   มันหรี่ตามองผมอย่างระอา “ดีกับมึงเองทั้งนั้น”
   “ไม่สนเว้ย”
   “…” ยังจะมาอมยิ้มอีก
   “แต่นี่กูพูดจริงๆ ถึงมึงจะบอกว่ากูกับมึงเข้ากันไม่ได้ แต่มันก็แค่เรื่องงานไม่ใช่เหรอวะ ทั้งชีวิตมึงคงไม่คุยกับกูแค่เรื่องงานหรอกจริงไหม?”
   ผมนิ่งไป...ก็จริงของมัน เวลาคุยเรื่องงานทีไรทะเลาะกันทุกที เพราะกระบวนการทำงานแม่งไม่เหมือนกัน พอทะเลาะกันก็เลยพาลคิดว่าไม่ไหวไปเสียทุกครั้ง...   
   “อือ”
   “แล้วอย่าให้กูรู้ว่ามึงคิดว่ามึงเข้ากับไอ้วิวได้ดีกว่ากู”
   อุ่ย...มีคนรู้ทัน
   “กู...เปล่าสักหน่อย”
   “…” เดธแอร์เลยอ่ะ...

   “มีไรจะคุยอีกปะมาย ไม่หลับแล้ว”
   “ทำไม? จะบอกกูพูดมากทำมึงหลับไม่ลงว่างั้น”
   “เออ!”

   ผมหัวเราะอย่างไม่ถือสาความกวนตีนเอาโล่ของมัน “ความจริงประเด็นที่พูดๆมาอ่ะ กูแค่คิดถึงเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาแล้วมันใจหายว่ะ เผลอแปปเดียวจะ4ปี ไม่นานกูกับมึงก็จะเรียนจบ”
   “ก็ดีดิ จบๆไปจะได้ไกลๆไอ้วิวมัน”
   ไอ้เจสวนกลับมาทันที แววตาจริงจังไม่มีล้อเล่นสักนิด
   “เอออออ แต่ที่จะพูดไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยครับคุณเจ”
   “หึ ไม่รู้กูพาล”
   “เออ รู้ตัวก็ดี…คิดถึงตอนน้ำท่วมว่ะ”
   มันเลิกคิ้ว “คิดทำไม ตอนนั้นเห็นบ่นเป็นหมีกินผึ้ง”

   ผมยู่ริมฝีปากขึ้นนิดๆ มันก็จริงครับ ก็ตอนที่บ้านผมน้ำท่วมได้ถึงประมาณเข่าผมยังไม่ได้ออกไปอยู่ที่ไหน ยังปักหลักอยู่บ้านกันทั้งพ่อและแม่ แม่งโคตรทรมาณ เหมือนติดเกาะ ออกไปไหนก็ไม่ได้ ไอ้เจก็ไม่ได้เข้ามาหา รถก็ใช้ไม่ได้
   มันเลยทำให้ซึมเศร้าเพราะขาดสังคม อยู่แต่บ้าน แล้วแม่งมีข่าวจะตัดไฟตลอดเวลา ใจงี้อย่างเสีย…โคตรจะภาวะวิกฤต

   “แล้วมาคิดถึงอะไรของมึง” เสียงถามย้ำของเจเรียกสติผมคืนมา
   “กูหมายถึงตอนที่น้ำมันถึงคอ แล้วมึงนั่งเรือเข้ามาช่วยกูกับพ่อแม่ขนของไปบ้านญาตินั่นต่างหาก”
   “เออ ตอนนั้นแม่งลำบากมากนะรู้ยัง กูโบกเรือทหารตั้ง3รอบกว่าแม่งจะว่าง คิวอย่างยาว”
   “แล้วอย่างร้อนเลยใช่มะ” ผมต่อคำ
   “เออ! อากาศแม่งอย่างเหี้ย”

   ผมหัวเราะกับสีหน้าแบบนั้นของเจ “ขอบคุณนะ”
   มันชะงักไปนิด “เออ…กูเริ่มจะเข้าใจละว่ามึงคิดถึงอะไร”
   “อะไร?”
   “ก็ตอนนั้นน้ำท่วม เราไปนั่งปั้นอีเอ็มบอลกันด้วย”
   “เออว่ะ ไอ้เนมก็ไปใช่ไหมวะ เออๆ”
   “แล้วตอนนั้นน้ำแม่งท่วมตรง BTS มึงแม่งขี่หลังกู แล้วกระสอบทรายแม่งอย่างลื่น”

   ผมหัวเราะลั่นเมื่อคิดไปถึงตอนที่กลับจากสยามแล้วดันเจอน้ำท่วมขึ้นมาตรงทางลง BTS
   วันนั้นผมดันโง่ใส่รองเท้าที่โคตรจะแพงระยับ เลยอิดออดไม่ยอมลงไปเหยียบน้ำ
   สุดท้ายไอ้เจเลยยอมย่อตัวให้ขึ้นหลังอย่างจำยอม ฮ่าๆๆๆ คิดแล้วมันโคตรจะขำ

   “เห็นปะ ถึงจะลำบาก แต่พอคิดกลับไปแล้วโคตรสนุกนะ”
   มันพยักหน้าเห็นด้วย
   “งั้นกูว่านะมาย…”

   ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดนึง เงยหน้าสบตามันเมื่อเห็นมันเว้นช่วง ก่อนจะขยับยิ้มกว้างๆหลังจากได้ยินคำต่อไปจากปากเจ

   “ปีนี้มันก็ต้องมีอะไรให้ปีหน้าคิดถึงอีกล่ะวะ”

   .
   .
   .


   “อืม…กูก็คิดอย่างนั้นแหละ”






E n d






ตอนพิเศษมาแล้วค่ะ #แหะ
ตอนนี้เป็นตอนที่เดย์ชอบมากๆๆตอนนึงเลย
แต่งแล้วรู้สึกสบายใจ รู้สึกอบอุ่นแบบแมนๆ ฮ่าๆ
มันไม่หวานนะแต่มันยิ้มอ่ะ มันรู้สึกแบบโอ้ยยดูรักกันดิบๆดี

4 ปีนี่มันก็เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรเลยจริงมั้ยคะ?
คิดว่าทั้งมายและเจก็คงมีความทรงจำต่อกันเยอะพอสมควรเลยล่ะ
จนบางทีทั้งคู่ก็ลืมเหตุการณ์ดีๆบางช่วงไปแล้ว
มานึกได้ทีไรก็คงมีความสุขในอกเนอะ
ก็ได้แต่หวังว่าทั้ง2คนจะไม่มาคิดถึงวันดีๆได้ในตอนที่มันสายไปแล้วล่ะนะคะ ^^

เดย์คิดว่าน่าจะมีบทสัมภาษณ์มาให้ได้อ่านกันอีกครั้งส่งท้าย <3
แล้วเจอกันใหม่ค่า

รัก


 :L2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: Raiwyn ที่ 15-10-2014 17:36:10
ดีกันแล้ววว น่ารัก   :m1: ถ้าเลิกกันก็เสียดายแย่อ่ะ มีเรื่องดีๆด้วยกันตั้งเยอะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 15-10-2014 19:31:13
เห้ยยยยยยยยยยยยย ชอบอ่ะๆๆ ชอบทุกตอนเลย
คืออ่านแล้วเข้าใจอารมณ์ของทั้งสองคนนะ
พอมาตอนล่าสุดนี้แบบงืออ มันก็มีอะไรให้คิดเยอะ เรื่องราวที่ผ่านมาของเราสองงี้
เห็นด้วยที่ตอนทะเลาะกันไม่เคยจะคิดถึงเวลาพวกนี้หรอก

ชอบเรื่องแบบนี้ที่สุดเลย ชอบอารมณ์แบบนี้ อ่านแล้วใจหวิวๆ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-10-2014 19:56:21
เรื่องน่ารักมากๆ
นิสัยคนก็ปุถุชนคนธรรมดา
ไม่ได้ดีเว่อร์ และไม่ได้เลวสุดกู่
เจโคตรๆ จะรักมายเลยแหล่ะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-10-2014 20:40:02
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 15-10-2014 20:41:42
ชอบค่ะ สนุกดี แต่ดูจากนิสัยทั้งคู่ น่าจะมีเรื่องให้เลิกกันอีกหลายรอบ ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ เหมือนจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ อึดอัดนิด ๆ  แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่ตัดสินใจเลิกกัน ก็ต้องช่วยกันดูแลความรักต่อไปอะเนอะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 15-10-2014 20:45:13
 :-[
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 15-10-2014 21:26:50
 :katai2-1: ขอบคุณสำหรับพิเศษนะจ๊ะ แล้วจะรออ่านอีกน๊า
ชอบอ่านเรื่องราวๆดีๆหลังจากเรื่องจบ มันจะมีบรรยากาศอบอุ่น
เรื่องที่รู้กันอยู่แค่ 2 คน ชอบฟิลลิ่งแบบนี้ ^^
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: fullfeel ที่ 15-10-2014 22:26:39
ชอบจังค่ะ จบแบบนี้ดีมากแล้ว
มันดูจริงดี ขอบคุณสำหรับนิยายและข้อคิดดีๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 15-10-2014 23:43:45
น่ารักดี  :-[

ตอนนี้อยากรู้ว่าคุณเดย์อยู่ตรงไหนของเรื่อง ทำไมรู้เรื่องสองคนนี้เยอะ ไม่มีโผล่มามั่งเหรอ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 15-10-2014 23:46:07
น่ารักดี  :-[

ตอนนี้อยากรู้ว่าคุณเดย์อยู่ตรงไหนของเรื่อง ทำไมรู้เรื่องสองคนนี้เยอะ ไม่มีโผล่มามั่งเหรอ


อร๊ายย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องแต่งนะคะะ
เดย์แค่เอารุ่นน้องในคณะมาเป็นแรงบรรดาลใจในการแต่งเฉยๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: BeeQ ที่ 15-10-2014 23:48:27
อบอุ่นแบบดิบๆ 555+
น่ารักมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 16-10-2014 00:00:12
อบอุ่นนนนน
อ่านแล้วอมยิ้มอะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● เ รื่ อ ง มั น เ ก่ า ไ ป บ า ง ที ก็ ลื ม ' 15 - 10 - 14 ' >E n
เริ่มหัวข้อโดย: yummiie ที่ 16-10-2014 20:08:35
น่ารักมากค่ะ
อ่านแล้วใจหายๆไงไม่รู้ รออ่านบทสัมภาษนะคะ :mew1:
หัวข้อ: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: afterday ที่ 16-10-2014 21:11:13

บทสัมภาษณ์






   วันนี้เป็นวันอาทิตย์…วันนี้วันหยุดแต่เดย์มีนัดกับ4หนุ่มที่มหาลัยแถวสนามหลวงตอนบ่ายโมงเพราะคิดว่าเช้าๆคงยังไม่ตื่น เพิ่งส่งโปรเจคกันไปเมื่อวันศุกร์ น่าจะนอนเอาแรงกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว
   ขับมาถึงประมาณเที่ยงครึ่ง มาเร็วไปหน่อย เลี้ยวรถเข้าจอดในกองทหารเรือแถวนั้นแล้วก็เดินข้ามถนนเข้ามารอที่สวน

   อย่างที่คิด…ยังไม่มีใครมา…จะว่าตรงเวลารึก็ไม่อยากจะพูด

   เดินไปซื้อไส้กรอกกับไก่ป๊อปมา3-4กล่องแล้วมานั่งรอที่โต๊ะ


   “พี่เดย์!” มาแล้วหนึ่งหนุ่ม
   “ไงเนม มานั่งก่อนๆ”
   “พี่มาเร็วชะมัด นี่ผมคิดว่าจะมาถึงคนแรกนะเนี่ย”
   “บ่ายโมงแล้ว เร็วยังไง?”
   “โหยพี่ ปกติเวลานัดใครต้องเอาเวลานัดบวกครึ่งชั่วโมงถึงค่อยออก” มันว่าแล้วหันซ้ายหันขวา
   “มองไร?” เห็นแบบนั้นแล้วก็ต้องถามสิคะ กิริยาแสดงชัดเจนเหมือนบอกใบ้ให้เอ่ยปากอยากบอกขนาดนี้
   “มหาลัยเงียบเนอะ”
   “วันนี้วันอาทิตย์นี่ยะ” ว่าแล้วก็มองตาม อากาศเย็นๆไร้ผู้คน ลมพัดยอดไม้เอนไหวน่านอนจริงๆ
   “อ้าว ไอ้วิวมาแล้ว” เนมมันพูดขึ้นตามองไปข้างหลังแล้วยกมือโบกไปมา
   “ดีครับพี่”
   “เออๆ นั่งลงก่อน” บางทีก็คิดนะว่าอายุก็เท่าๆกันทำไมมันเรียกพี่วะ?
   “แล้วมายยังไม่มาเหรอ?” คนมาทีหลังหันไปถามเพื่อนที่นั่งยัดไก่เข้าปากอยู่ข้างๆ กินไม่ขอเลยไอ้นี่
   “อัง อำอังอา”
   วิวพยักหน้า เห็นแล้วก็ต้องเลิกคิ้ว “ฟังออก?”
   “ครับ มันบอกกำลังมา นั่นไงมาแล้ว”

   ยังไม่ทันพูดจบก็ต้องหันไปมองทิศเดียวกับทางที่วิวมาเมื่อครู่
   เจกับมายเดินง้องแง้งกันมาแต่ไกล

   มองนาฬิกาใกล้จะบ่ายโมงครึ่งแล้วไอ้คู่นี้…สายตลอด

   “พี่หวัดดี” มันประสานเสียงกัน แล้วฝ่ายไอ้เจก็หันไปจ้องหน้าวิวเขม็ง ดึงแขนมายให้นั่งลงอีกฝั่งนึง ข้างๆเดย์ ก่อนจะทิ้งตัวลงตาม
   “…” บรรยากาศมาคุขึ้นเล็กน้อย นี่คิดถูกคิดผิดที่นัดมันมาพร้อมกันเนี่ย
   “ไอ้เจพอเลย อย่ามาสร้างสงครามตอนนี้ ได้เอาคืนมันไปแล้วไม่ใช่เหรอไง”
   “พี่ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม”

   นั่นไง…มีย้อน

   “ยังโกรธฉันที่ให้วิวจูบ-”
   “พอเลยพี่!”
   “โอเคๆ ไม่พูดๆ” อารมณ์แรงเสียด้วยยยย ขนลุกไปหมดแล้ว หันไปหามายดีกว่า
   “ที่เรียกมาวันนี้อ่ะก็ไม่มีไรมากหรอก แค่จะชวนมาพูดมาคุยกันนิดหน่อย ให้คนอ่านหายข้องใจ”
   “อะไรอ่ะ? แล้วนี่มายกินได้เปล่าพี่เดย์”
   “เอาเลย”
   เห็นท่าทางมันจ้องไส้กรอกตรงหน้าแล้วก็ต้องเลื่อนให้ พอได้รับอนุญาตก็จิ้มใส่ปากทันที โดยไม่ลืมหันไปจ่อที่ปากแฟนด้วย

   “…คนอ่านบอกว่ามายไม่รักเจ” เปิดประเด็นง่ายๆเลยแล้วกัน
   “หึ”
   “หัวเราะอะไรของมึง!”
   นั่นไง… “วิวอย่าแสดงอาการมากเก็บๆไว้มั่ง เดี๋ยวก็ได้อีกหมัดหรอก คราวนี้ไม่ให้เนมช่วยแล้วนะ”
   พอขู่ไปวิวก็หน้าหงิก กรอกตาไปมาเซ็งๆ
   “เอ้ามาย เคี้ยวแล้วกลืนๆลงไปเร็ว” พอปรามไอ้2ตัวนั้นแล้วก็หันมาเร่งเจ้าของประเด็น
   “อึก…โอเคพี่” มายขานรับหันไปเช็ดปากที่แขนเสื้อเจ ให้โดนเขกหัว ก่อนจะเงยหน้ามาตอบ

   “พี่ว่าไรนะ ขออีกรอบ”
   “ฉันบอกว่า คนอ่านบอกแกไม่รักเจ”
   “ทำไมงั้นอ่ะ?”
   “โทษทีเพราะฉันเองอ่ะ ฮ่าๆ เฮ้ยแต่จะมาโกรธกันไม่ได้นะ ก็ตอนที่เขียนมันเป็นประเด็นนั้นอ่ะ”
   พอหัวเราะเสร็จก็ต้องรีบแก้ตัวทันทีเมื่อเห็นเจ้าเด็กตาโตทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจ
   “รักดิ โถ่”
   เคยเห็นคนฟอร์มจัดแอบเขินเงียบๆคนเดียวไหมคะ? ตอนนี้ไอ้เจกำลังเป็นแบบนั้นเลย
   “เจยิ้มไร”
   “ไรพี่ ผมยิ้มที่ไหน”
   “เออไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้ม ตกลงมายไม่มีไรจะพูดมากกว่า รักดิ แล้วใช่ปะ จะได้เปลี่ยนประเด็นละ”
   “เฮ้ย ยังพี่ ขออีกนิด ไหนๆจะได้แก้ตัวแล้ว เผื่อคนอ่านจะหายเกลียดผมขึ้นมาบ้าง”
   คำที่คนตัวสูงกว่าหน่อยหันขวับมาทันที “ใครเกลียดมึง”
   “เออน่ะ เงียบไปก่อนกูจะตอบพี่เดย์” มายมันว่าแล้วหันมาทำท่ากระตือรือร้น
   “คือถ้าผมไม่รักอ่ะนะ ผมก็คงไม่คบกับมันจนจะ4ปีหรอกพี่ คบกัน2คน ถ้าคนนึงทุกข์อีกคนก็คงไม่มีความสุขหรอกจริงปะ ความเข้ากันไม่ได้แม่งเปลี่ยนยากมาก ไอ้เจมันก็ปากหมาอ่ะ"

   อือหือ ดูมันพูด หวิดเปิดศึกจริงๆ

   "มันหวังดีแต่พูดดีๆไม่ได้ มันงานเยอะ แล้วงานผมเองก็ใช่จะน้อย เรียกได้ว่าแข่งกันเยอะเลยด้วยซ้ำ เจอก็ไม่ค่อยได้เจอ ระยะห่างแม่งสร้างความฟุ้งซ่านได้มากกว่าที่คิดนะ ยิ่งเวลาเจองานเครียดๆมาก็ทำให้อารมณ์อ่อนไหวกว่าปกติด้วยดิ แล้วตอนมีปัญหาดันมาเจอคนที่เข้าใจอย่างไอ้วิวอีก โอ้ย!”

   คนอธิบายไปเรื่อยๆแบบไม่คิดอะไรร้องลั่นด้วยความเจ็บเพราะโดนตีเข้าที่หลังทันทีที่พูดจบ

   “พูดให้มันดีๆ” เจเอ่ยเสียงเรียบหันไปค้อนสายตาใส่วิวที่ยิ้มกริ่มมาให้
   “มึงแม่ง…ใจเย็นก่อนดิวะ…ต่อนะพี่” มายหันมาทางเดย์อีกครั้ง “มันก็เลยคิดฟุ้งซ่านอะพี่ ประมาณน้อยใจปนหงุดหงิด เลยมีความคิดโง่ๆแบบเช่น จะมีไปทำไมอะไรแบบนี้…แต่ไม่เคยคิดจะเลิกกับมันเลยสักครั้งนะ…ถ้าผมไม่แคร์คงไม่นั่งรถไปหามันตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งหรอกพี่”
   พูดจบก็หันไปมองเจตาดุ แบบที่คนถูกจ้องก็รีบเอ่ยปาก

   “ใครจะไปรู้ล่ะว่ามึงจะมาตอนนั้น…กูอยากโกรธนานๆให้มึงรู้สึกบ้างนี่หว่า แล้วก็กลัวใจอ่อน เลยไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวไว้ตอนไปบ้านไอ้นิว”
   “เออ! แม่ง…ถ้าไม่ติดว่ากูไปเพื่อง้อนะ กูจะงอนกลับบ้าง”

   “แต่จะว่าไปนะ ไอ้วิวมันก็บอกชอบมึงตั้งแต่วันรายงานตัว ทำไมไม่คบไปเลยวะ …กูแค่ถามไอ้เจไม่ต้องมองกูแบบนั้น” เนมที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆไปพักใหญ่ เอ่ยปากร่วมวงบ้าง
   “ก็…ไม่รู้อ่ะ ความรู้สึกมันไม่ใช่” นั่นไงคุณ…พอมายมันพูดถูกใจหน่อย ไอ้เจก็แอบยิ้มอีกแล้ว
   “แล้ววิวอ่ะตอนนี้คิดไร” หันไปถามวิวที่ตอนนี้เริ่มหน้านิ่งไปบ้างแล้วมั่งดีกว่าค่ะ
   “ก็…” คนถูกถามหันไปจ้องตากับเจนิดนึงแล้วเบนสายตามาทางเดย์ “ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มายมันเดือดร้อนนะพี่ แต่ตอนนั้นแม่งเมาๆกันทั้งคู่อ่ะ แล้วหน้ามายมันก็แบบ…โคตร…”
   “สัดวิว!”
   โอยตายๆๆๆๆ นี่ก็ขี้หวงเหลือเกิน
   “เดี๋ยวๆเจใจเย็น นั่งลงๆ” หันไปสะกิดให้มายมันยึดบ่าเจไว้ไม่ให้ลุก พลางพูดปลอบ “แค่คุยกันเฉยๆ นี่ก็ขึ้นเร็วจริง”
   “พี่นั่นแหละ ถามบ้าอะไรเนี่ย” เอ้า…โดนพาลเลย

   “โอเค งั้นจบประเด็นนี้ก็ได้ เอ้าเนม ตอนอยู่ชะอำอ่ะที่มายมันนั่งอยู่ที่ล็อบบี้คนเดียว แกเป็นคนไปเคลียร์กับเจใช่ไหม เปิดโอกาสให้หล่อ เล่ามา”

   เนมมันรีบขยับนั่งตัวตรง ยิ้มอย่างเป็นต่อ “อะแฮ่ม เปิดมาก็จัดไปครับ ผมแม่งโคตรนิสัยดีอ่ะ” มันชมตัวเองแล้วก็หัวเราะ
   “คือวันนั้นพอลากไอ้มายไปปล่อยไว้ที่ล็อบบี้แล้วเห็นสภาพแบบนั้นผมก็ทนไม่ได้ เผอิญจิตใจดีมาก เลยวิ่งไปตามหาไอ้เจมัน หาอยู่พักนึงก็ดันเจออะดิพี่!” อือหือโคตรตื่นเต้น..

   “เออ แล้วตอนนั้นเจไปอยู่ไหน” หันไปถามเจ
   “นั่งอยู่บนรถ”
   พอได้รับคำตอบก็ทำหน้าเหนื่อยใจส่งให้เนม “คือนั่นหานานแล้ว?”
   “โถ่ ใครจะรู้ว่ามันจะกลับไปที่จุดเริ่มต้นเล่า ก็นั่นแหละเข้าเรื่องนะพี่ คือพอเจอแล้วก็เลยไปขอร้องให้มันฟังมายสักครั้ง ยกแม่น้ำทั้ง5 6 7 8 มาหมดเลย พูดจนมันยอมเอนเอียงตามนั่นแหละ” เนมทำหน้าแหย “ไม่อยากจะฟ้องเลยว่าแม่งโกรธน่ากลัวชิบ ผมนี่ตัวสั่นไปขอร้องไป”

   “แล้วเจยอมตกลงได้ไง” หันไปถามเจ้าตัวบ้างดีกว่าค่ะ
   เจหันมาเลิกคิ้ว “ก็ไอ้เนมมันทุ่มสุดตัว ผมเองก็ไม่ได้อยากเลิกหรอก แต่แม่งโคตรโมโห ฟังมันพูดไปพูดมาก็โอเคตรงที่มันบอกว่าเดี๋ยวจะให้ไปแอบฟังว่ามายมันคิดยังไงกันแน่ ถ้าไม่พอใจจะเดินออกไปก็ตามใจ แต่ถ้าฟังแล้วอยากคุยก็ค่อยเคลียร์”
   เนมยืดอกอย่างภาคภูมิใจ “มึงต้องเลี้ยงขอบคุณกูมื้อใหญ่เลยนะไอ้มาย”
   “เออออ เดี๋ยวกูเลี้ยงแน่”

   “เออมีคนสงสัยว่าตกลงใครรุกใครรับ” ถามขึ้นดื้อๆกลางวงสนทนาแบบนี้เลยค่ะ ฮ่าๆๆ
   “พี่ถามอะไรเนี่ย!” เจ้ามายแหวขึ้นเสียงดัง แก้มเริ่มมีสีแดงจางๆ
   “เออน่าหรือจะให้ฉันบอกเอง หึหึ ถ้างั้นละเอียดเลยนะ”
   คำขู่ที่เจ้าตัวรีบละล่ำละลักตอบ “โอเค! ผมพูดเอง ฮึ่ยย” มันเกาท้ายทอยอย่างประหม่า “ก็…สลับกัน”
   “หึ” คราวนี้คู่กรณีอีกคนหัวเราะในคอขึ้นมาทันที “สลับ 100-1 สิไม่ว่า”
   “อะไรมึงไอ้เจ!”
   “ก็จริงปะ?”
   2คนเถียงกัน แบบที่ฝ่ายรุก(ครั้งเดียว)ตะโกนลั่นเพราะความอาย ให้ฝ่ายรับ(ครั้งเดียว) ยิ้มกริ่มอย่างติดจะแซว
   “ว่าแต่ตกลงผมเป็นตัวร้ายใช่มั้ยพี่” วิวเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ให้ต้องยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูในคำถาม
   “ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกวิว มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์”
   “ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันแตกแยกกันนะ…แต่ผิดก็คือผิดใช่ปะล่ะ”
   “โถๆ ก็แก้ตัวใหม่นะวิวนะ ไว้สักวันก็จะเจอคนของตัวเอง”
   วิวเบะปากลงอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปทางมาย “ชอบไปแล้วอ่ะ…”
   “มึงยังไม่จบใช่ปะ!”
   “เจๆๆๆ ใจเย็นก่อน มายล็อคแขนไว้ ห้ามมีเรื่องในสถานศึกษา!” รีบหันไปห้ามทันที ยื่นแขนไปกั้นกลางคนทั้งคู่ไว้
   “เออน่า กูไม่แย่งมึงหรอก…มายแม่งรักมึง”
   “รู้ก็ดี…มึงก็รีบๆเรียนจบได้แล้ว ไม่ต้องอยู่ใกล้กันแล้วแม่ง” คนขี้หึงหันไปพาลแฟนตัวเองอย่างไม่พอใจ ให้คนถูกพาลยิ้มขำ
   “เอออออ กูไม่อยู่5ปีเหมือนที่มึงด่ากูหรอก”
   “…เรื่องนั้นกูไม่ได้ตั้งใจจะพูด” เจช้อนตามองคนข้างตัว “ขอโทษ”
   “พอๆๆ เลิกหวานได้ละ พอดีกันแล้วมดตอมเลยนะ จะกลับก็กลับกันไปได้ละไป หมดเรื่องถามละ” หรี่ตามองมันอย่างหมันไส้ได้ไม่นานก็ต้องเอ่ยปากแล้วยกมือปัดไปมาไล่
   “ดีเลย ผมจะไปดูหนังกันต่อ” มายว่าแล้วลุกขึ้นยืน “หวัดดีพี่”

   มองมันเดินไปกับเจแล้วหันมาหาอีก2หนุ่มที่ยังไม่ลุกไปไหน


   “แล้วพวกเราอ่ะ ไม่ไปไหน?”
   “เดี๋ยวผมไปหาแฟนต่อ” เนมว่า
   “ผมคงเดินไปหอสมุดอะพี่ หางาน”
   “ลำบากหน่อยนะวิว” เห็นหน้าซึมเล็กๆของมันแล้วก็สงสาร
   “หมายถึงงานหรืออะไรพี่”
   “ทุกเรื่อง” ส่งยิ้มอย่างรู้กันไปให้ อีกฝ่ายเองก็ส่งเสียงหึในคอ
   “ตอนนี้ไอ้เจไม่อยู่แล้วก็ดี ไม่ต้องมาหวิดลุกต่อยกันอีก” วิวว่าแล้วถอนหายใจ
   ไอ้เนมที่นั่งฟังอยู่ก็หันไปหา “มึงเองก็ตัดใจได้แล้วมั้ง เขาคบกันจะ4ปีแล้ว บ้าเปล่าวะ”
   “กูก็ตัดใจไปหลายทีละไอ้เนม มองคนอื่นแล้ว แต่มายแม่งอยู่ใกล้นี่หว่า แล้วน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่”
   เนมมันทำหน้าเซ็ง “นี่ถ้าไอ้เจอยู่มึงได้โดนอีก แล้วไอ้มายนี่มันมีคำว่าน่ารักแทรกอยู่ตรงไหนของใบหน้าวะ ไม่เข้าใจ หรือกูดูไม่ออก”

   คืองี้ค่ะ มายมันไม่ได้น่ารักหน้าหวานอะไรหรอก มันก็ผู้ชายธรรมดาที่ตาโตหน่อย ตามายสวยนะ แต่ถ้าให้เดย์พูดสรุปก็คงไม่ใช้คำว่าน่ารักหรอก
   มายมันหล่อแบบอินเทรน เกาหลีๆ ขณะที่เจมันจะเข้มๆหน่อย

   “น่ารักก็คือน่ารักแหละน่า” วิวพูดปัดๆขึ้นมา แล้วหันมาหาเดย์ต่อ “แต่ก็ต้องขอบคุณพี่มาก ได้จูบไปครั้งก็พอใจละ”
   “เดี๋ยวได้โดนด่าอีก” ยังจะมาพอใจอีก รู้สึกผิดหน่อยดีไหม
   “โหยพี่ พี่ไม่เข้าใจหรอก คนมันรักมันชอบอ่ะ มันอยากได้เป็นของตัวเองเหมือนกันนะ ผมไม่ใช่คนแบบที่จะมาบอกว่า แค่เห็นเขามีความสุขก็พอใจแล้วไรงี้ด้วยดิ ผมก็คนปกติอ่ะ มีความเลวเล็กๆในตัวเหมือนกัน ทรมาณชะมัด…แต่ไม่ต้องกลัวเลยนะ ผมไม่ได้จะแย่งจริงๆ”
   “เออรู้น่า”
   “ตอนนั้นมันเมาอ่ะ บรรยากาศแม่งก็โคตรให้…”
   “รู้แล้ว แต่ครั้งแต่ไปไม่มีแล้วนะยะ” คำที่ทำให้วิวยักไหล่
   “ครับๆ ผมจะพยายามห่างๆมันแล้วกัน”
   “ดี! กูจะได้ไม่เดือดร้อนช่วยเคลียร์อะไรอีก” ไอ้เนมพยักหน้าลงแรงๆแล้วตบที่บ่าวิว
   “ผมไปละพี่ ถึงเวลานัดแฟนละ” เนมหันมาพูดแล้วยกมือถือให้ดูเวลา
   “เอองั้นก็แยกย้ายไปเลย” พอจบคำเดย์ เรา3คนก็ลุกขึ้นพร้อมกัน ไอ้2หนุ่มนั่นยกมือไหว้ลาแล้วก็เดินแยกไปคนละทาง เดย์เองก็รุดไปสั่งน้ำปั่น ก่อนจะเดินกลับไปที่รถ


   หวังว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้คงจะทำให้เข้าใจพวกเขาอย่างน้อยสักคนนึงมากขึ้นสักนิดก็ยังดีนะคะ
   ปล. นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบนโลกแห่งความจริง
   แต่พวกเขามีตัวตนจริงๆสำหรับเดย์นะ

   ขอบคุณมากค่ะที่อ่านจนจบ

   รัก  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-10-2014 21:50:14
เค้าไม่ได้เกลียดมายน้าาา :man1:
แต่เจก็ขี้หวงใช้ได้เลย กะแล้วว่า 4 ปีไม่สูญเปล่าหรอก รักกันๆเนอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: BeeQ ที่ 16-10-2014 22:05:11
เริ่มชอบวิวววว 555+
ปอลิง ที่ส่งพีเอ็มไม่ได้ เค้าพีเอ็มบอกโมให้แล้วน้า
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-10-2014 22:08:56
ถึงเจจะขี้หวง
แต่หวงอย่างมีเหตุผลนะ
คิดว่ามายไม่อึดอัดจุดนี้แน่นอน
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 16-10-2014 23:22:08

เขาก็รักกันในแบบของเขากันนะ
ไม่งั้นจะคบกันมา4ปีได้ไง

อ่านไปแล้วก็ยิ้มไป
ชอบตอนที่นึกถึงเรื่องที่ผ่านๆมา
น่ารักกกก >.<

หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 17-10-2014 00:31:17
แต่ก็ยังสงสัยว่า ถ้ามายรักกับวิว ใครจะเคะ เพราะดูแล้วเคะทั้งคู่เลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-10-2014 09:32:14
วิวดูเคะจริงๆนะ 555
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 17-10-2014 10:37:18
 :katai2-1: ขอบคุณคนเขียนมากจ้ะ
ทำให้เข้าใจความคิดบางส่วนของตัวละครมากขึ้น
แล้วจะรอติดตามผลงานต่อน๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 17-10-2014 18:35:24
ขอบคุณสำหรับนิยายที่ดีอีกเรื่องจ้า
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 17-10-2014 21:42:02
นี่สินะคำว่าแฟน ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกฉาบฉวย แต่เป็นความรู้สึกที่ต่างคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน แม้จะนิสัยต่างกันก็ตาม
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: zhanzhao ที่ 18-10-2014 11:51:44
น่ารักมากเลยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 19-10-2014 01:37:46
ชอบครับ

น่ารักอะ

ordinary love

ปล. เหมือนรู้เลยว่าเรียนคณะอะไร ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 19-10-2014 14:01:06
 o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-10-2014 18:14:59
สนุกดี
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-10-2014 23:22:46
ถ้าหาคนใหม่ๆไปเรื่อยๆ มันก็ต้องคิดว่าคนใหม่ดีกว่า คนใหม่ที่เก่าแล้ว
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-10-2014 23:45:21
อ่านแล้วชอบอ่ะ เป็นเรื่องที่ดูแบบเรียลดี พบเจอได้ในชีวิตจริง
ตอนแรกกะว่าจะจบแบบไม่แฮปปี้ซะแล้ว ดีนะ เจยังไม่ไปไหนไกล
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 21-10-2014 02:00:04
 o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 25-10-2014 12:45:52
 :katai2-1: มาแบบสั้นๆ แต่สนุกมากค่ะ ถ้าในชีวิตคงเลิกกันไปแล้วคะ ในบางคู่บางคนนะ

เป็นกำลังใจในเรื่องต่อๆ ไปจ้า  o13 :o8:

หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 26-10-2014 00:23:26
เรื่องสั้นครบรสมากค่ะ
ตอนอยู่ชะอำนี่กะว่าเลิกแน่ๆนะเนี่ย ดราม่าจัดเต็ม
คือเข้าใจความรู้สึกของคนสองคนที่ห่างกัน แต่ก็พยายามจะทำให้ความรู้สึกใกล้กันเลยค่ะ
เจหึงโหดดี ชอบๆ 55 ส่วนมาย ตอนแรกก็แอบไม่ปลื้มนะ แต่หลังจากช็อตบอกรักพันครั้งนี่ รักเลย
เนมเป็นเพื่อนที่ดีมาก กัดกันได้ตลอดๆ แต่วิวนี่ ไม่รู้จะบอกยังไง โนคอมเม้นท์เนอะ =.,=
สรุปว่าชอบมากค่ะเรื่องนี้ แล้วจะติดตามเรืี่องอื่นๆต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 28-10-2014 00:06:37
ชอบอ่ะ คือมันน่ารัก อ่านแล้วยิ้มอ่านแล้วคิดตาม
เนื้อเรื่องไม่ได้เลิศหรูเป็นเนื้อเรื่องธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
มันมีอ่ะไรๆอยู่ในนั้นอ่ะ เอาเป็นว่าชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 22-12-2014 00:06:03
ดูท่าเจจะรักมายมากเลยนะเนี่ย มีขึ้นตลอดๆ  :mew1: คนเราต้องหันหน้ามาปรับความเข้าใจกันอย่างนี้
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-12-2014 21:00:18
 :-[
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 31-12-2014 03:33:58
นึกว่าจะมีเหตุให้ต้องกินมาม่าซะแล้วซิ

ช่วงเวลาความรักก็มีทั้งสุขแล้วก็ทุกข์ปนๆกันไป

ถ้าผ่านมันไปได้ก็จะอยู่กันนาน

เป็นธรรมดาที่บางครั้งเราจะรู้สึกว่า ไม่ใช่คนที่ใช่ ไม่เข้าใจเรา ฯ

จนบางทีเราลืมไปว่าคนเราไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างนิสัย

จะให้รู้ใจ เข้าใจตลอดคงเป็นไปไม่ได้
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: SecondaryTrauma ที่ 31-12-2014 13:05:11

   “คนทุกคนมีข้อเสีย ไม่ว่ามึงจะไปอยู่กับใครคบกับคนไหนก็ต้องเจอข้อเสียทั้งนั้น…ไอ้ข้อดีอะไม่ต้องไปคิดมาก ใครๆก็อยู่กับสิ่งดีๆได้ทั้งนั้น แต่ข้อเสียนี่ดิไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้เหมือนกันหมด”
   “มึงแค่เลือก…เลือกอยู่กับคนที่มีข้อเสียที่มึงรับได้”
   “ข้อเสียของมึงทั้งหมดตอนนี้กูรับได้ กูโอเค…แล้วมึงล่ะอยากอยู่กับข้อเสียของกู หรืออยากไปหาข้อเสียใหม่ที่ดีกว่านี้ รับได้กว่านี้”
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 05-01-2015 22:36:19
เพิ่งได้อ่าน

ชอบมากบอกเลย ความรักจริงๆ มันก็แบบนี้แหละ ไม่มีรักไหนที่ดีทุกวัน
มีช่วงที่เบื่อ ที่ท้อบ้าง แต่ก็ไม่อยากเลิก ถ้ายังรักกันอยู่ ก็จะพยายามเข้าใจกัน
คนอยากเลิก น่าจะเป็นที่หมดรักกันแล้วมากกว่า
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: B u T t e R ที่ 07-01-2015 17:38:30
น่ารักอ่าาาา ><
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 12-01-2015 21:27:29
ความรักหวานฟรุ้ง.... แต่คนส่วนใหญ่จบลงที่เลิกกัน มากกว่าคุยเพื่เข้าใจ :z2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-03-2015 20:00:31
มันคือสัจธรรมจริงๆ.อารมณ์ปรวนแปรแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกคู่เนอะ.แต่มายก็ไม่น่าหลวมตัวจูบตอบวิวเลยนะ!  :hao3: ดีแล้วที่เจไม่ขอเลิก.เพราะความทรงจําดีๆ.ในระหว่างที่คบกันจนถึงวันนี้มีค่าที่จะรักษาเอาไว้.แทนที่จะปล่อยไปเพียงเพราะความที่ไม่เข้าใจตรงกันแค่ครั้งเดียว ชอบเรื่องนี้จังเลย~  :-[
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 11-03-2015 16:59:01
เฮ้ออออ ดีแร้วที่เข้าใจกันได้

แต่ยังไงเราก้มองว่า เจรักมาย มากกว่ายุดี

เอาน่ะ คัยจะรักคัยมากกว่ามันไม่สำคัญ..ที่สำคัญคือ"รักกัน"ต่างหากเนอะ!!! :hao6:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 17-03-2015 23:26:46
เป็นเรื่องสั้นที่สมบูรณ์แบบมากเลยค่ะ
ขอบคุณคุณเดย์ ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ ชื่นชอบผลงานของคุณมากๆเลย   o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: fernfabled ที่ 30-03-2015 01:14:54
เข้าใจเลย ตอนทะเลาะกันนี่คิดแต่เรื่องแย่ๆ
พอดีกัน ก็เออเนอะทำไมตอนนั้นคิดอย่างงั้น
ขอบคุณาำเรื่องสั้นนะคะ
มายเจน่าร้าากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 08-05-2015 13:33:16
น่ารักครับ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 28-05-2015 14:46:39
ขอบคุณสําหรับนิยายที่ให้ข้อคิดดีๆ นะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 30-05-2015 11:27:13
ขอบคุณสำหรับนิยายน๊าาาาา ชอบอ่ะ! :ling1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 01-06-2015 02:18:23
น่าร๊ากกกกกกกก  :impress2: ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 '
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 03-06-2015 10:23:25
ชอบเรื่องี้อีกแล้ววววววว น่ารักอ่ะะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 25-08-2015 19:30:00
ชอบค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วให้ความรู้สึกว่า...
1.คนเรามันก็เงี้ยละน้า
2.คนเรามันคนละความคิดกัน ไม่เป็นเขา เราไม่รู้หรอก
อ่านแล้วรู้สึกว่านี่มันชีวิตจริงดีอะค่ะ ไม่ฟุ้ง ไม่ฝัน ไม่เหมือนเรื่องแต่ง ประมาณนั้น
 o13 :katai2-1: :bye2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 25-08-2015 19:57:00
เป็นคู่ที่น่ารักมากเลยย ดีจังทีผ่านอะไรๆมาได้ งือ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-08-2015 20:36:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 13-10-2015 05:25:18
ชอบมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: ที่เดิมในหัวใจสาววาย ที่ 19-10-2015 01:48:43
ชอบเรื่องนี้ดูเป็นชีวิตจริงดี กรณีเจกับมายคล้ายๆเพื่อนเราเลย ตอนอยู่ด้วยกันก็ทะเลาะกัน โทรหากันก็ไม่พูดดีๆ แต่จริงๆพวกมันก็รักกันมากนะ ไอ่เรามันเป็นสาววายเลยต้องคอยรับฟังเรื่องของพวกมัน 5555  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-10-2015 21:24:47
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก สมจริงมาก
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 01-01-2016 13:49:49
 o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mynamejnkf ที่ 17-02-2016 11:57:17
วิวความคิดแกนี่5555

มายกับเจนี่ก็นะ ผลัดกันยังไง 100-1 น่ะ

รักกันนานๆน้าา ทะเลาะบ่อยๆลูกจะได้ดก
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 22-02-2016 15:48:56
แฟนที่ไม่มีวันเป็นแฟนเก่า คู่รักงานยุ่ง
รัก4ปีไม่คิดเลิกราแต่เสียวๆตลอดเรื่อง 555

บทสัมน่ารักอ่ะนะ แต่หวานคู่เดียว
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 25-02-2016 11:17:24
ค่อนข้างสมจริงมากครับเรื่องนี้
ใครที่เคยมีแฟนจะเข้าใจเลย
จริงที่สุด การคบกันมันยากกว่าการจีบกันร้อยเท่าเลยละ
ต้องปรับตัว ต้องคุยกัน

เรื่องนี้ ไม่หวาน ไม่ได้เบาสมอง
ค่อนข้างหนัก
แต่จริง แล้วยิ้มได้ในตอนจบ

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 25-02-2016 17:29:14
หน่วงหัวจิตหัวใจมากเลยค่ะคุณค้าาา
ก็เข้าใจทั้งคู่เลยอ่ะเวลาทะเลาะ เรื่องเล็กก็เป็นเรื่องใหญได้ทันที่เลยค่าาาาา
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 26-02-2016 15:02:12
เรื่องธรรมดาคนรักกัน ขอแค่ทะเลาะกันแต่ยังอยู่ข้างกันก็พอ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: thunchanok1 ที่ 28-02-2016 01:46:18
ชอบเรื่องนี้จัง เป็นความรักแบบธรรมดาเกิดขึ้น สัมผัสได้จริง อ่านแล้วอยากมีแฟนที่คบกันนานๆหลายปีเลย   :-[
ปัจจัยสำคัญของการคบกันให้รอดนี่ไม่สำคัญว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหน มันอยู่ที่ความเข้าใจ การยอมรับและเคารพตัวตนซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้วก็จับมือกันก้าวข้ามปัญหาไปด้วยกันแหละเนอะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-03-2016 20:08:01
อ่านไปอ่านมาสะอึกซะเอง เคยทำตัวแบบมายและแบบเจ

ใครมีแฟนหรือเคยมีแฟนคงจะสะอึกไปหลายดอก :katai1:

ขอบคุณมากจ้า
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 17-03-2016 12:58:22
“คนทุกคนมีข้อเสีย ไม่ว่ามึงจะไปอยู่กับใครคบกับคนไหนก็ต้องเจอข้อเสียทั้งนั้น…ไอ้ข้อดีอะไม่ต้องไปคิดมาก ใครๆก็อยู่กับสิ่งดีๆได้ทั้งนั้น แต่ข้อเสียนี่ดิไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้เหมือนกันหมด”

“มึงแค่เลือก…เลือกอยู่กับคนที่มีข้อเสียที่มึงรับได้”
  ถูกใจ o13  o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 26-03-2016 05:54:01
นำเสนอมุมมองใหม่ๆ สำหรับคนไม่เคยมีแฟนอย่างเราได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ในช่วงแรกเราเอนไปทางมาย และคิดว่ามายนี่คล้ายตัวเองนะ เพราะเราก็คิดว่างี่เง่าเหมือนกัน
แต่พอลองคิดดูอีกมุม เออ ไม่เป็นเจไม่รู้นะ ถ้ามายจะลืมบ่อยขนาดนี้ ใส่ใจกันหรือเปล่าเนี่ย เอนไปทางเจซะงั้น
แต่สุดท้ายก็เข้าใจได้ว่า มันก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีนะ ชอบมากตอนที่บอกว่าพอเวลามีปัญหา เรื่องดีๆ นี่ไม่ค่อยผุดขึ้นมาเลย
จริงมากอ่ะ ชอบที่การนิยายของคุณเดย์มักจะแฝงอะไรไว้ให้คิดอยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 27-03-2016 14:46:41
อ่านล่ะอึมครึม 555 ยังไม่ประมวลผลดีกะจบล่ะ 555
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Raccoooon ที่ 28-03-2016 00:10:02
ตอนแรกอ่านไปลุ้นไป
จบลงได้ด้วยดีแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย งืออออออ
รักกันนานๆนะะ
อะไรคือเจรุก 100-1 แสดงว่ามีครั้งนึงยอมเป็นรับหรอ 0_0
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-03-2016 01:02:00
อ่านละนึกถึงแฟนเก่า ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 28-03-2016 02:10:06
เราชอบนะเรื่องสั้นแนวนี้ แต่ก็เกือบไปยกซดมาม่าหมดถ้วยละ ดีหน่อยที่แฮปปี้เอ็นดิ้ง
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: AprilFool ที่ 11-07-2016 00:22:19
รู้สึกชอบเจมากเลย แย่งมายได้มั้ย 5555
แต่ทั้งคู่ คู่กันนั่นแหละเหมาะสมแล้ว
ตอนคุยกันดี ๆ อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก ๆ เรายิ้มตลอดเลย
อย่าให้เรื่องความห่างพวกนี้มาทำลายความรักเลยเนาะ
รักกัน ๆ
อยากให้เป็นเรื่องยาวเลยอ่ะ แบบตั้งแต่เขาจีบกันเลย อยากตามติดชีวิต เจมาย
ขอบคุณคุณเดย์นะคะ รู้สึกอบอุ่นและได้บทเรียนความรักมาอีกหนึ่งบท  :L2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 10-08-2016 23:23:24
 o13 :bye2: :hao7:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 28-09-2016 00:12:23
 o13
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: pp_psj ที่ 11-10-2016 14:21:57
 o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: mro ที่ 13-10-2016 23:55:40
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ อบอุ่นในหัวใจยังไงไม่รู้ ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 15-06-2017 22:00:57
 :mew1:
แงงงงง ดีใจที่จบแฮปปี้ คิดว่าจะดราม่าซะแล้ว เปิดเรื่องมาก็รู้สึกมาคุเบาๆ555555 สองคนนี้น่ารักดี ถึงจะเอาแต่ใจมากไปหน่อยทั้งคู่ แต่โดยรวมก็รักกั เพียงแค่แสดงออกถึงการเป็นแฟนกัน ต่างกันไปหน่อยเท่านั้นเองเนอะ
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 20-06-2017 12:56:52
อืมมม คนเราไม่ต้องเหมือนกันทุกอย่างแต่แค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอเนอะ   :hao3:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 23-06-2017 19:55:07
ปกติของความรักแหละเนาะะะ มีหลายด้านหลายอารมณ์
กว่าจะเข้าใจกันได้ 5555
หัวข้อ: Re: [เ รื่ อ ง สั้ น] ● แ ฟ น ● บ ท สั ม ภ า ษ ณ์ พิ เ ศ ษ ' 16 - 10 - 14 ' >E n d
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 29-07-2017 10:49:01
เข้าใจเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าต้องผ่านไปด้วยกันจริงๆ ข้อดีข้อเสียแต่ละครอ่ะเนาะ ไรท์อธิบายได้ฟิลมาก ชอบบบบ