คาถาที่ 12 :: Jealous? No way. (หึงเหรอ? โน๊ววว!) [35%]“เอาจริงเลยมั้ยครับเสี่ย” จอมทัพยิ้มมุมปากแล้วส่ายหัวปฏิเสธหนึ่งที
“ยัง” ดวงตาคมปลาบทอประกายความตื่นเต้นวิบวับ รอยยิ้มมุมปากในทีแรกเป็นเพียงรอยยิ้มปกติ แต่ตอนนี้มันมีเลศนัยให้ชวนสงสัยอยู่ด้วย
จอมทัพทำหน้านึกขึ้นได้ ยกนิ้วขึ้นชี้คนที่ยืนตรงข้ามแวบหนึ่ง “คราวก่อนที่สั่งไป รีบจัดการซะ อย่าปล่อยไว้นาน”
“ไม่ต้องห่วงครับ” เสี่ยจอมทัพยิ้มพอใจ พยักหน้าให้ลูกน้องหนึ่งที ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นริมสระจากุซซี่หลังบ้าน
“คุณเรียวจันทร์มาแล้วครับ” ชายร่างผอม ตัวเตี้ยกว่าชายคนแรกเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
“ให้เข้ามานี่เลย” จอมทัพยิ้ม สีหน้าสดชื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนมากมาย ชายหนุ่มที่เดินเข้ามารายงานเดินออกไปจากห้อง เสี่ยหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบพร้อมกับเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าลูกน้องอีกคนมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“ว่ามา” เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ เอนหลังพิงพนักโซฟามองหน้าชายหนุ่มอีกคน
“เสี่ยจะหยุดที่คุณเรียวจริงเหรอครับ” คนถูกถามยิ้มนิดหน่อย เขามองแสงระยิบระยับตรงสระน้ำสีฟ้าด้วยสายตาเรียบเฉยครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าลูกน้องต่อ
“แกคิดว่าไง”
“อิทธิฤทธิ์เยอะน่าดูครับ” จอมทัพหัวเราะด้วยความถูกอกถูกใจ คนถามยิ้มน้อยๆ แต่ก็เป็นรอยยิ้มงงๆ
“นั่นน่ะ ดึงดูดใจฉันดีเชียวละ” จอมทัพยักคิ้วขวา ระบายลมหายใจออกช้าๆ ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
ลูกน้องของจอมทัพขมวดคิ้วนิดหนึ่ง “แต่เสี่ยปล่อยให้เธอไปยุ่งกับไอ้คมเขี้ยว ไม่กลัวสองคนนั้นสปาร์คกันเหรอครับ คุณเรียวเธอรุกไอ้เขี้ยวน่าดู”
จอมทัพไหวไหล่ หน้าตาไม่ได้แสดงอาการยินดียินร้ายใดๆ “ก็นั่นมันเป็นแผนของเขา”
“แล้วถ้าเกิดมันมากกว่าแผนล่ะครับ…” จอมทัพทำเพียงยิ้มมุมปาก ดวงตาลุกวาวด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งที่คาดเดายาก
“…อีกอย่าง ผมว่าแผนของเธอดูจะเอื้อตัวเธอมากกว่าที่จะเอื้อให้เสี่ยนะ ไอ้คมเขี้ยวไม่ยอมขายที่ดินเพียงเพราะเมียมันขอร้องหรอก”
“เอาเป็นว่า…” จอมทัพหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อจนจบด้วยเสียงนุ้มทุ้ม “…ปล่อยให้เขาสนุกไปก่อน” ลูกน้องจอมทัพขมวดคิ้วไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยพูด
“เห่นโล่ววว” จอมทัพบิดคอไปมองผู้ชายหน้าสวยที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักน่ามอง ร่างระหงส์ยังคงเฉิดฉายเช่นเคย เรียวจันทร์มองเสี่ยตาเป็นประกาย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคน พอเห็นว่าเป็นใครก็ขมวดคิ้วฉับ
“ชื่ออะไรนะ แม็คใช่มั้ย…” เจ้าของนามพยักหน้าพร้อมยิ้มนิดหน่อย “…มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก่อนหน้าคุณเรียวจันทร์สักสองชั่วโมงครับ”
“อ้าว แล้วก็ไม่บอกว่าจะมานี่ จะได้มาด้วยกัน” ลูกน้องเสี่ยทัพคลี่ยิ้ม ยกสองมือขึ้นไว้ระดับอก
“ผมไม่บังอาจมากับเมียเสี่ยสองต่อสองหรอกครับ” คนโดนหาว่าเป็นเมียเสี่ยชักสีหน้า สองมือเท้าเอวหน้าตาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
“อีกละ ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่เมียเสี่ย ก็แค่คนได้เสียกันหลายครั้งเท่านั้นย่ะ!” สองหนุ่ม (แท้) หัวเราะกันเสียงเบา สร้างความขุ่นใจให้คุณนายแกนิดๆ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย” จอมทัพพยักหน้าอนุญาต แม็คเดินผ่านเรียวจันทร์ไปตรงทางออกห้องนั่งเล่นส่วนตัวของเสี่ย พอเหลือกันสองคนเรียวจันทร์หันไปมุ่ยหน้าใส่เสี่ยทันที
“อะไรล่ะ” จอมทัพแบมือและยักไหล่ ทำหน้าตาว่า มีอะไรเหรอ
“ขอถามก่อน เดี๋ยวฉันหน้าแหก…” จอมทัพยิ้มขำ แต่ก็กดหน้าลงหนึ่งที “…คุณบอกลูกน้องคุณทุกคนใช่มั้ย ว่าฉันเป็นเมียคุณ”
“ใช่ ผมบอกแบบนั้น” เรียวจันทร์ถลึงตากว้างใส่เสี่ยจอมทัพที่นั่งเอกเขนกอย่างสบายใจอยู่บนโซฟาตัวยาว
“โอ๋ยยย! รักฉันอะไรขนาดนั้นอะ ถึงขนาดยกย่องฉันเป็นเมีย ถ้างั้นเด็กคนอื่นๆ ของคุณก็เป็นเมียคุณทุกคนแล้วสิ!” จอมทัพหัวเราะน้อยๆ ยื่นมือขวาไปดึงร่างบอบบางเกินชายลงมานั่งบนตัก ยกแขนขวาโอบรอบเอวบางเอาไว้ เสี่ยยิ้มกริ่มให้คนหน้ามุ่ย
“ก็อย่างที่คุณบอก ผมยกย่องคุณ” เรียวจันทร์แสร้งปั้นหน้าตกใจ ยกมือขวาทาบอกอย่างมีลีลา
“โอ้ มายก็อด ฉันต้องกล่าวสุนทรพจน์พร้อมน้ำตามั้ยเนี่ย” คนตัวใหญ่หัวเราะ เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ
“เอาเป็นว่าฉันภาวนาให้มีชายใดสักคนที่โดนใจเสี่ยมากกว่าอิฉันเข้ามาในชีวิตเสี่ยเร็วๆ นะคะ” นางยกมือขวาตบแก้มซ้ายของเสี่ยเบาๆ คนตัวโตยิ้มขบขัน สอดมือซ้ายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีดำของเรียวจันทร์แล้วลูบตรงซี่โครงฝั่งขวาเบาๆ
“แต่ตอนนี้ถูกใจคนนี้ ถูกใจมากด้วย” จอมทัพมองร่างบางอย่างหื่นกระหาย นิ้วโป้งขยับขึ้นไปเขี่ยหัวนมอมชมพูที่คุ้นเคยเบาๆ เล่นเอาคนด้านบนสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะรีบใช้มือขวาตัวเองตะปบข้อมือของคนมือซน
“คุณเสี่ย ไหนว่าวันนี้อยากแค่ไปกินข้าวดูหนังไง เรื่องจ้ำโบ๊ะไม่อยู่ในลิสต์นะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมส่ายหัวช้าๆ จอมทัพทำหน้าเสียดาย ดึงมือออกจากตัวอีกฝ่าย
“แล้วนึกยังไงถึงอยากจะทำตัวคิกขุ มีเดทแบบวัยรุ่น”
“ถึงผมจะไม่วัยรุ่นแล้ว แต่ผมก็ฟิตอยู่นะ หรือคุณจะว่าไม่จริง” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ใช้มือขวาตะปบเข้าเป้ากางเกงสแลคสีดำของเสี่ยทัพ อีกฝ่ายทำเพียงยิ้ม ก้มหน้ามองมือขาวบางขย้ำเป้าตัวเองไปเรื่อย
“ไม่เถียงค่ะ เพราะแซ่บจริง” ว่าเสร็จก็ยกมือออกจากเป้ากางเกงแล้วหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย สร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองจนเสี่ยทัพมองด้วยความเข็ดฟัน
“อยากเล่นหนังสดกับคุณก่อนไปดูหนังจัง” เสี่ยทัพซุกหน้าเข้ากับซอกคอหอมๆ ของเรียวจันทร์ สูดดมเบาๆ
“เสี่ย จะไปก็ไปค่ะ จองตั๋วหนังไว้แล้ว เราต้องรีบไปรับนะ” คนที่กำลังสูดดมความหอมกรุ่นอ่อนๆ ถึงกับถอนหายใจเสียดาย ดึงหน้าตัวเองออกมามองใบหน้าสวยเกลี้ยงเกลาที่วันนี้แต่งแต้มสีสันมาแบบอ่อนๆ อย่างละมุน
“ครับเมียครับ”
ป้าบ!
เรียวจันทร์ฟาดเข้าที่อกแกร่งเสี่ยทัพ “แค่คนที่ได้เสียกันเฉยๆ!” จอมทัพหัวเราะชอบใจ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ปล่อยให้เสี่ยทัพลุกขึ้นยืนตามเต็มความสูง
“ก็เมียอยู่ดี” เรียวจันทร์ปรือตามอง หมุนตัวเดินออกไปจากห้องก่อน จอมทัพคลี่ยิ้ม มองตามด้วยสายตาขบขัน แต่ภายในใจนั้นแน่วแน่ว่า เขาต้องได้ผู้ชายคนนี้
เพราะนอกจากจะ
ถูกใจ เรียวจันทร์ยังมีอะไร
ล่อใจเขาอีกต่างหาก
สองหนุ่มต่างวัย ต่างความสูงและต่างบุคลิก แต่ดึงดูดสายตาของใครหลายคนให้หันมองได้แทบตลอดทางที่ทั้งสองก้าวเท้าเดินเคียงกันไป จอมทัพใช้แขนขวาคล้องเอวของเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้ห่างกาย คนตัวเล็กเดินคุยด้วยรอยยิ้มแย้มที่ทำให้เจ้าตัวน่ามองเข้าไปอีก แถมยังมีน้ำใจแจกยิ้มให้กับสาวๆ หลายคนที่มองเจ้าตัวอย่างชื่นชม
“เอาป๊อบคอร์นมั้ยเสี่ย…”
“…พี่เรียวจันทร์ป้ะคะ” เจ้าของนามที่กำลังแหงนหน้าถามคนตัวสูงตรงบริเวณเค้าน์เตอร์ขายขนมหน้าโรงหนังชะงักและหันไปมองหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ยืนมองนางด้วยความตื่นเต้น คุณนายแกฉีกยิ้มสวยแล้วบอกเสียงหวาน
“ใช่ค่า” สาวๆ กลุ่มนั้นหันมองหน้ากันแล้วส่งเสียงกรีดร้องดีใจเบาๆ
“หนูเป็นติ่งพี่ค่ะ ชอบพี่ตั้งแต่อยู่นิวยอร์กแล้ว” เรียวจันทร์ยิ้มพิมพ์ใจ รู้สึกพราวในอกเล็กๆ ที่มีติ่งเป็นของตัวเอง แต่อันที่จริงนางก็พอรู้ตัวอยู่แล้วละ เพราะไอจีนางมีคนตามครึ่งแสนเชียวนะยะ
“ขอบคุณมากนะจ๊ะเด็กๆ” คุณนายแกโปรยยิ้มตาหยี สาวบางคนในกลุ่มนั้นแทบละลายไปกับพื้น แล้วได้แต่คิดว่าผู้ชายอะไรทำไมสวยได้ขนาดนี้
“ถ่ายรูปได้มั้ยคะ” แกนนำของติ่งสาวหันไปมองจอมทัพเป็นเชิงขออนุญาต เรียวจันทร์หันไปมองหน้าเสี่ยแล้วยิ้มขำ อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้า
“เชิญครับ แต่อย่านานนะ ผมหวง” สาวๆ อ้าปากหวอค้างเติ่ง ก่อนจะหันพรึบไปมองเรียวจันทร์เป็นตาเดียว
“แฟนพี่เรียวเหรอคะ” หนึ่งในนั้นถามด้วยความตื่นเต้น คนถูกถามทำหน้าไม่ถูกแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มบริสุทธิ์ใจ
“พ่อพี่ค่ะ ไม่ใช่แฟน” พอพูดจบนางก็หัวเราะเบาๆ คนเดียว จอมทัพส่ายหัวหน้าเอือมแต่ริมฝีปากก็คลี่ยิ้มบางๆ ส่วนสาวๆ ติ่งทั้งหลายก็ทำหน้างง
“พ่อพี่หล่อมากเลยอะ” สาวแกนนำมองหน้าจอมทัพแล้วทำหน้าเพ้อ คนตัวสูงยิ้มขบขัน เขาไม่ได้คิดจะแก้ต่างสถานะที่เรียวจันทร์ว่าไว้
“ถ่ายรูปมั้ย เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาพี่เข้าโรงหนังแล้ว” สาวๆ ทั้งหลายได้สติก็รีบกุลีกุจรผลัดกันเข้ามาถ่ายรูป เรียวจันทร์เซอร์วิสติ่งตัวเองเต็มที่ ดีที่ไม่เยอะมาก กลุ่มนี้แค่หกเจ็ดคนเท่านั้น ไม่งั้นคุณนายแกคงยิ้มเมื่อยปากน่าดู
“หนูรอดูหนังของพี่อยู่นะคะ”
“ขอบคุณนะ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มให้เด็กๆ ทั้งหลายที่โบกมือให้นางรัวๆ ในขณะที่ขาก็พาเดินไปทางบันไดเลื่อนลงจากชั้นโรงหนัง นายแบบหนุ่มหันใบหน้าเปื้อนยิ้มไปหาจอมทัพที่ยืนยิ้มเท่อยู่
“พ่ออะไรทำไมได้เอาลูกสาวบ่อยจัง” เรียวจันทร์จิ๊ปาก จิกตาใส่พ่อร่างใหญ่
“สรุปเอาป๊อปคอร์น…”
“…เสี่ยครับ” ยังไม่ทันพูดจบ (จะได้แดรกมั้ย) ก็มีเสียงคล้ายจะห้าวแต่ก็ห้าวไม่สุดดังขึ้นเบาๆ ทั้งสองคนหันไปมองก็เจอกับผู้ชายตัวสูง ผิวขาวผ่อง มีกล้ามอ่อนๆ ยืนอยู่กับผู้ชายอีกสามคนด้านหลัง ทุกคนแลปกติดี ถ้าเพียงจะไม่ลงรองพื้นซะหนาเกือบเทียบเท่านางรำในสมัยอยุธยา ยังดีที่ในกลุ่มนั้นมีหน้าสดอยู่คนหนึ่ง
“ผมซันครับ เราเคยเจอกันที่ผับ” ชายหนุ่มผู้ลงรองพื้นเบอร์แรงสุดเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเมื่อเสี่ยจอมทัพยังคงทำหน้าเฉย และมองอย่างไม่เข้าใจ
“ที่ผับมีคนตั้งเยอะแยะ ฉันจำได้ไม่หมดหรอก” เสี่ยว่าอย่างเฉยชา เรียวจันทร์แอบอ้าปากหวอนิดหนึ่งเมื่อเห็นสีหน้าเงิบของชายคนที่มาทักจอมทัพ เพื่อนๆ ของนางก็ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อกันถ้วนหน้า
แต่อดีตคู่ขาคนที่เท่าไหร่ของเสี่ยจอมทัพที่ตัวเสี่ยก็คงไม่รู้และไม่จำยังคงพยายามยิ้มสู้ แม้จะยิ้มไม่เต็มปากเท่าไหร่ “คือผม… เคยนอน…”
ฟึบ!
คราวนี้เรียวจันทร์เบิกตากว้างหน้าตะลึงนิดหนึ่งเมื่อเสี่ยทัพยกมือขวาขึ้นเบรกอีกฝ่ายอย่างฉับไวโดยที่ใบหน้าเริ่มไม่สบอารมณ์ คนพูดเองก็ชะงักไปเยอะเหมือนกัน “ถ้าแค่เคยก็คือเคย ไม่ต้องมารื้อฟื้น”
“อ้าว ทำไมพูดงี้อะ” ไม่ใช่แม่นางรองพื้นเบอร์แรงสุดอุทานนะ แต่เป็นคนที่รองพื้นหนาเป็นอันดับสอง (หล่อนเอาเวลาไหนไปจัดอันดับ) ที่อยู่ด้านหลังต่างหาก แต่ก็ไม่ได้อุทานแรงหรอก เหมือนนางก็อุทานด้วยความอึ้ง แต่พอโดนสายตาคมวาบของเสี่ยทัพตวัดมองแวบเดียวพวกนางก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้โดยที่คุณแม่ไม่ต้องขอร้อง
“ผมแค่อยากทักเสี่ยเฉยๆ” แม่นางหัวหน้ารองพื้นเบอร์ใหญ่เอ่ยเสียงอ่อย หน้าเสียไปมากโข มีแอบชำเลืองมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาประเมินด้วย ด้วยความที่เป็นสายพันธ์เดียวกันแต่เลเวลสูงกว่าเรียวจันทร์ก็เลือกที่จะทำเฉย เพราะรองพื้นเรามันคนละเบอร์จ้ะ เรื่องนี้ฉันยกให้เธอจริงๆ
“ไปเถอะ” จอมทัพเลิกสนใจคนกลุ่มนั้นแล้วหันมาแตะบั้นท้ายเรียวจันทร์ พาเดินไปตรงเค้าน์เตอร์ขนมเพื่อซื้อของก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
เรียวจันทร์สีหน้าค้างเติ่ง หันไปมองสีหน้าของอดีตคู่ขาเสี่ยที่ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างงงๆ พ่อหนุ่มสาวกรองพื้นกวนอิมที่อุทานใส่เสี่ยยื่นแขนมาสะกิดเพื่อน ส่วนอีกสองคนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์
“จำเขาไม่ได้จริงเหรอ” เรียวจันทร์หันไปถามผู้ชายข้างกาย
“ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่เอาคนนี้แน่ ผมไม่ชอบคนลงรองพื้นหนา” นายแบบหนุ่มหัวเราะขบขันกับสีหน้าไร้อารมณ์ตอนจอมทัพพูด นี่แสดงว่าคุณเสี่ยแกก็ใจดีมากแล้วสินะที่ไม่หักหน้าไปมากกว่านั้น ดีไม่ดีพ่อรองพื้นหนาคนนั้นอาจจะแค่ชอบเสี่ย แล้วพยายามเต๊าะเสี่ยอยู่ก็ได้
“ฉันก็นึกว่าคุณจะเอาหลายคนจนจำไม่ได้” จอมทัพยกยิ้มมุมปากพลางรับถังป๊อปคอร์นมาจากพนักงานขาย
“ผมอยาก แต่ไม่ได้สำส่อน ก่อนจะเอาใครผมก็ต้องเลือกที่ตัวเองอยากเอาด้วย ไม่ใช่เอาได้หมดทุกคน” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ ยื่นมือไปรับแก้วน้ำอัดลมแก้วใหญ่สีดำลายภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าไปชม จอมทัพยื่นเงินสดให้กับพนักงานสาวที่หน้าตาเฉยเมย ทำทุกอย่างเหมือนถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำ
เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะบิดปากเป็นรอยยิ้ม “แต่อย่าบอกว่าตอนนี้คุณมีฉันคนเดียวนะ อ๊ะ อ่า…” นางหรี่ตามองคนตัวสูง ยกมือขวาขึ้นแล้วโบกนิ้วชี้ไปซ้ายทีขวาทีตรงหน้า จอมทัพยิ้มมุมปากขำๆ
“ก็มีคุณคนเดียวจริงๆ นี่ คุณคนเดียวที่ผมเรียกเมีย” คุณนายแม่กลอกตาเป็นคำตอบ มือขวามิวายหยิบป๊อบคอร์นรสคาราเมลใส่ปาก เคี้ยวเสียงดังกรุบๆ
จอมทัพยิ้ม ก่อนที่จะพาเรียวจันทร์เดินเข้าไปตรงทางเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อให้พนักงานฉีกตั๋ว
เสี่ยขาาา เสี่ยจะทำอารายยย เสี่ยแลไม่น่าไว้ใจขึ้นทุกวันนะ 55555 คุณแม่ก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร ใครว่ายังไงคือฉันขอสวยไว้ก่อน 55555 กิ๊กเก่าเสี่ยจะมาก็เรื่องของนาง ถือว่ากิ๊กเก่าเสี่ยสติดีมากที่ไม่มีเรื่องกับขุ่นแม่ ไม่งั้นนางด่าออกสื่อแน่ๆ
แต่เสี่ยก็เบรกหนุ่มรองพื้นหนาหน้าเกือบทิ่มเช่นกัน นี่ถ้ามีเรื่องของเสี่ย อยากเห็นเหมือนกันว่าเสี่ยจะทำยังไงกับพวกเซ้าซี้ อู้ววว
ช่วงแรกมาแบบใสๆ พาเสี่ยไปดูหนังแบบวัยรุ่น เสี่ยอาจห่างไกลฟีลลิ่งนี้มานาน 55555
บางคนอยากให้ลงเร็วๆ ตอมเองก็อยากลงเร็วๆ ค่ะ แต่ตอมเขียนสด ลงสด 55555 แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขียนปุ๊บอัพปั๊บนะคะ ถ้าใครตามตอมมาตั้งแต่เรื่องก่อน จะทราบว่าตอมเป็นคนเขียนนิยายช้ามากกก ตอนนึงนี่เขียนสองสามวันเลยอะ
ยังคิดอยู่เลยว่าจะรีไรท์ตอนแรกๆ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องนะคะ แค่ใส่ดีเทลและปรับคำเฉยๆ เพราะแรกๆ คือเขียนสองเรื่องพร้อมกัน ตอมทุ่มให้เรื่องนี้น้อยมาก แต่ตอนนี้ทุ่มให้เรื่องนี้เรื่องเดียวแล้ว โฟกัสได้เต็มที่เลย ฉะนั้นอยากกลับไปแก้ในจุดที่รู้สึกว่ามันลวกๆ ไปหน่อย
อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^
สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic