:: 05 : CAPUCHINO ::
รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน..
เบียร์ – อันดา
ฟองนมสีขาวนุ่มฟูถูกเทลงบนแก้วกาแฟอย่างปราณีต บุคลิกท่าทางที่ดูคล่องแคล่วทำให้บรรดานักศึกษาผู้หญิงที่รุมกันอยู่หน้าเคาน์เคอร์เอาแต่มองด้วยความชื่นชมบางคนส่งเสียงแซ็วจนกัลป์ต้องหลุดยิ้มแต่ก็ยังรักษามาดไว้อยู่ แต่สุดท้ายเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็เรียกความสนใจจากบรรดานักศึกษาที่มุงอยู่ไปจนได้ ภาพที่เห็นคือนักศึกษาที่หน้าตาอิดโรยแต่ก็ยังคงความหล่อไว้อยู่เดินโซซัดโซเซเข้ามาในร้าน
“ตาเป็นหมีแพนด้ามาเชียว ทำงานหนักสินะ”
“อีกยี่สิบนาทีจะครบ 45 ชั่วโมงที่ผมไม่ได้นอน”
“เฮ้ย ไหวป่ะเนี่ย”
“เดี๋ยวส่งงานนี่ก็เสร็จแล้วครับ แต่ตอนนี้ขอคาปูแก้วนึงก่อนตาจะปิด”
กัลป์ถามย้ำแน่ใจว่าต้องการกาแฟแค่หนึ่งแก้วเพราะสภาพใกล้เคียงกับซอมบี้ในซีรีส์ที่เคยดู แต่ก็ยอมรับว่าเด็กตรงหน้าที่ไม่ได้นอนมาเกือบสองวันยังหน้าตาดีอยู่มีแค่ท่าทางที่ดูอ่อนล้าไปบ้าง กัลป์รู้จักเบียร์ตั้งแต่เจ้าสุดหล่อนี่อยู่ปีหนึ่งสถาปัตย์ ปีที่แล้วก็ยังเห็นว่ารับติวน้องอยู่เหมือนกัน
“น้องเบียร์ของเจ๊ คิดถึงจังเลยค่า”
เบียร์แกล้งส่งจูบไปให้เจ๊กุ๊กไก่ที่ถลาเข้ามาหาพอเห็นสภาพน้องรัก? ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้แต่ก็รู้ดีว่าสถาปัตย์เรียนหนักขนาดไหนเคยเจอเพื่อนสลบไปสามวันหลังจากส่งโปรเจคเสร็จเลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ โต๊ะทุกโต๊ะถูกจับจองจนไม่เหลือโต๊ะว่างและบรรดานักศึกษาเลยเยอะเป็นพิเศษคนเข้าออกร้านกาแฟเป็นว่าเล่น
ปึก!“เฮ้ย!”
เบียร์ร้องลั่นเมื่อแก้วคาปูชิโน่ที่ถืออยู่ถูกชนจนหกใส่เสื้อนักศึกษาเป็นคราบสีน้ำตาล เจ๊กุ๊กไก่ก็ร้องกรี๊ดตามจนกัลป์เองต้องเดินมาดูตรงหน้าเคาน์เตอร์อีกรอบ เบียร์ถอนหายใจเพราะคราบที่เลอะนี่มันไม่ใช่น้อยๆ มันแทบจะทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ตั้งใจจะหันไปมองหน้าคนที่เดินชนให้เห็นเต็มๆตาแต่พอหันไปมองก็ต้องหยุดชะงัก
“คือขอโท..”อีกฝ่ายก็หยุดค้างตกตะลึงไม่แพ้กันท่าทางของทั้งคู่ทำให้เจ๊กุ๊กไก่กับกัลป์กระเถิบตัวเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ยิ่งตอนนี้น้องนักศึกษาอีกคนเดาว่าปีหนึ่งเพราะแต่งตัวเรียบร้อยแม้กระทั่งผูกไทด์ กำลังยืนนิ่งเหมือนถูกสาปเมื่อเห็นหน้าน้องเบียร์สถาปัตย์
“เอ่อ…รู้จักกันเหรอ”
เจ๊กุ๊กไก่เป็นหน่วยกล้าตายยกมือถาม
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังคงยืนอยู่ท่าเดิมๆ จ้องหน้ากันเกือบสิบวิ
“แฟนเก่า” / “ไม่รู้จัก”ยิ่งได้ฟังคำตอบกุ๊กไก่กับกัลป์ก็ตาโตหูผึ่งมากกว่าเดิมน้องเบียร์บอกเต็มปากเต็มคำว่าแฟนเก่า แต่น้องปีหนึ่งก็บอกน้ำเสียงหนักแน่นว่าไม่รู้จัก เบียร์ที่ได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วก่อนจะเอื้อมมาจับข้อมือแล้วลากมายืนตรงหน้าเคาน์เตอร์อีกครั้ง
“เราทำกาแฟหกใส่พี่ซื้อให้พี่ใหม่เลย”
“ก็ยืนเกะกะขวางทางคนอื่นทำไมนี่มันทางเดิน”
“อันดา!”ท่าทางจะกลายเป็นเรื่องใหญ่กัลป์เลยตัดบทว่าเดี๋ยวทำคาปูชิโน่ให้ใหม่แก้วนึงเดี๋ยวคิดครึ่งราคาก็ได้ เพราะตอนนี้ลูกค้าในร้านก็เริ่มจะตาโตหูผึ่งตามเขากับเจ๊กุ๊กไก่คงอยากจะรู้เรื่องกันทั้งร้านแล้ว พอตกลงกันได้เบียร์ก็ยืนซับเสื้อที่กาแฟหกใส่สายตาก็เหลือบมองคนที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
อันดาโตขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอาจจะไม่ได้สูงมากแต่ก็ผอมลงเยอะเหมือนกัน
ผิวสีแทนเป็นเอกลักษณ์เขาไม่มีทางที่จะลืมได้ง่ายๆ เขาจะลืมมันได้ยังไงกัน
“ไม่เห็นบอกพี่เลยว่าเรียนที่นี่เหมือนกัน”
“พี่เป็นใครทำไมผมต้องบอกพี่ด้วย”
“เราจะคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยใช่ไหม”
“เราไม่มีความจำเป็นต้องคุยกันด้วยซ้ำ”
อันดาวางเงินบนเคาน์เตอร์เมื่อกัลป์ยื่นคาปูชิโน่แก้วใหม่ให้ ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่ออันดาก็เดินออกไปจากร้านแล้ว ทั้งเจ๊กุ๊กไก่และกัลป์หันมามองหน้าเบียร์ที่มองตามน้องปีหนึ่งจนลับตา แววตาที่ดูเจ็บปวดทำให้ทุกคนเงียบกริบ
“ท่าทางจะจบไม่สวยนะ”
กัลป์ตบไหล่เบียร์เบาๆ เรียกขวัญกำลังใจสักหน่อยเพราะเบียร์เองก็เงียบไปนานเหมือนกัน
“ผมมันโคตรแย่เลยพี่”
:: CAPUCHINO ::
“อันดา!”
“น้องอันดา!”
“มึงเจอน้องอันดาที่นี่!”
“น้องอันดาเรียนที่นี่!”
เบียร์พยักหน้าตอบรับทุกคำถามเมื่อโฟโต้และยูกิถามกันคนละที โฟกัสที่นั่งอยู่ด้วยแต่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยชะโงกหน้ามาถามว่าใครคืออันดา โฟโต้เลยรวบรัดเล่าย่อๆ ให้แฝดตัวเองฟังโฟกัสหน้ายุ่งขึ้นมาทันทีเมื่อฟังจบ
“เบียร์นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ”
“อ้าว! ไอ้โต้มึงเล่าอะไรให้กัสฟังวะ”
“ก็เล่าตามความจริงทุกประการ”
“กูเบื่อฝาแฝดจริงๆ ให้ตาย”
“กูขอให้ฝาแฝดอันดาตามมาฆ่ามึงถึงคณะ ชื่ออะไรวะอะไรฟ้าๆ ”
“ฟ้าคราม”
เบียร์จำได้อยู่แล้ว อันดามีฝาแฝดชื่อฟ้าครามตอนอีกฝ่ายเป็นเด็กม.6 เห็นหน้าอยู่บ่อยๆ ฟ้าครามตัวสูงกว่าอันดาเยอะเหมือนกันแต่ทรงผมสีผิวนี่เหมือนกันมากและตัวก็ไม่ได้ผอมเหมือนอันดามีกล้ามพอประมาณเมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไป
“แล้วนี่มึงไปอยู่ไหนมาวะถึงเพิ่งรู้ว่าน้องเขาเรียนที่นี่เปิดเทอมมาจะสามเดือนแล้วนะ”
“ไอ้เบียร์มันจะไปไหนนอกจากคณะ หอ แล้วก็ร้านกาแฟพี่กัลป์ไม่งั้นจะได้ฉายานี้มาเหรอ”
“เออ..มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้เล่นพวก เฟส ทวิตเตอร์ ไอจี ขนาดไลน์กูยังไม่ค่อยตอบเลยกูว่าน้องเองก็กันกูทุกวิถีทาง”
“โคตรประหลาดไม่เคยบังเอิญเจอกันจนถึงวันนี้ ร้านกาแฟพี่กัลป์ที่โคตรอาถรรพ์พบรักกันที่นั่นทุกคู่”
ยูกิเป็นจริงเป็นจังได้แค่แป๊บเดียวก่อนจะบอกว่าไม่ได้การจะต้องไปกินกาแฟร้านพี่กัลป์บ่อยๆ ซะแล้ว ทุกคนเลยส่ายหน้าโฟโต้ตบๆ ลงบนหัวเพื่อนตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นเบียร์เองก็ดูจะคิดมากเรื่องนี้อยู่เหมือนกันไม่งั้นคงจะนั่งกังวลขนาดนี้หรอก โฟโต้เหลือบมองโทรศัพท์ที่เบียร์เปิดค้างไว้มันเป็นรูปคู่ที่เขาเองก็ไม่เคยเห็น น้องอันดายิ้มมีความสุขข้างๆคือเบียร์ที่ยื่นหน้ามาจนชิดแก้มแนบแก้ม
“เบียร์ มึงยังชอบน้องเขาอยู่เหรอวะ”
“………………………………………………………..”
“แต่กูมั่นใจว่ามึงไม่เคยลืมน้องเขาเลย ไม่งั้นป่านนี้มึงมีแฟนใหม่ไปนานแล้ว”
“………………………………………………………..”
“ถ้าไม่อะไรกับน้องเขาก็ปล่อยน้องเขาไปเถอะ มันคงต้องใช้เวลากันบ้างเดี๋ยวน้องเขาก็คงมีแฟน หน้าตาดีแบบนี้โดนจีบแน่นอน”
เหมือนคำพูดของโฟโต้สะกิดต่อมอะไรสักอย่างทำให้เบียร์เงยหน้าขึ้นมามองจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง คิ้วก็ขมวดแล้วขมวดอีก ท่าทางดูเคร่งเครียดมากกว่าเมื่อกี้อีก
“อันดาแม่งจะมีคนจีบเยอะป่ะวะ”
“แล้ว?”
“แฟนกูไหม”
“แฟนเก่าเว้ยตอนนี้ มึง ไม่ ได้ เป็น อะ ไร กับ น้อง เขา!”
โฟโต้ย้ำทีละคำก่อนจะโดนเบียร์จิ้มหน้าผากจนแทบหงายหลัง ท่าทางยอมไม่ได้ของเพื่อนทำให้โฟโต้ต้องแอบอมยิ้ม ดูก็รู้ว่ายังรักน้องอันดาอยู่พูดกระตุ้นนิดหน่อยก็ไฟติดขึ้นมาเลย เบียร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากที่นั่งหมดอาลัยตายอยากมาเป็นชั่วโมง ท่าทางมุ่งมั่นผิดกับเมื่อกี้ลิบลับก่อนจะขอตัวจากเพื่อนไปนอนชาร์ตพลัง
พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่
“เรื่องคนอื่นนี่เก่งเชียวนะของตัวเองนี่ไม่เอาไหนเลย”
โฟกัสยิ้มแฉ่งใส่โฟโต้เมื่อพูดจบเลยโดนสมุดในมือตีหัวเข้าให้ เกิดการต่อสู้ระหว่างฝาแฝดและคนห้ามก็คือยูกิที่ต้องจับทั้งคู่แยกออกจากกันพอเห็นว่าไม่มีทางจะหยุดง่ายๆ เลยกรี๊ดใส่ไอ้แฝดจนโฟโต้และโฟกัสกลายเป็นจูงมือวิ่งหนีคนบ้าแทน
คณะเศรษฐศาสตร์มิน่าล่ะถึงไม่เคยเจอกันตึกคณะอยู่คนละฟากโลกขนาดนี้ ฝั่งนี้เป็นของคณะที่เกี่ยวกับวิทย์ทั้งหมดนี่คงมีแค่วิศวะเท่านั้นที่กระเด็นไปอยู่ฝั่งนู้น เบียร์รู้สึก งงๆ มองซ้ายมองขวาก็พอมีเพื่อนเรียนคณะนี้บ้างแต่ก็ไม่ได้คุยกันบ่อย เดินวนอยู่นานสองนานก็เห็นตรงลานกว้างใต้ตึกมีน้องนักศึกษาคิดว่าปีหนึ่งนั่งกันอยู่เต็มลานก็คงจะประชุมอะไรสักอย่าง
“เบียร์! เบียร์! ไอ้เด็กสถาปัตย์คนนั้น”
ตอนแรกก็คิดว่าเขาเรียกคนอื่นแต่พอได้ยินคำว่าสถาปัตย์เท้าก็หยุดเดินโดยอัตโนมัติ แต่เหมือนคิดผิดเพราะทันทีที่หันหน้าไปบรรดาน้องเศรษฐศาสตร์ปีหนึ่งก็หันมามองกันทั้งชั้นปีก่อนที่ผู้ชายคนนึงจะกวักมือเรียกให้เดินเข้ามาหา
“มึงมาทำไรที่คณะกูวะร้อยวันพันปีไม่เคยจะเห็นหน้ามาก่อน”
“กูก็…มาหาน้อง”
“น้อง?”
“ก็น้อง”
“เออไหนๆ มึงก็มาแล้วมานี่เลย น้องเศรษฐศาสตร์ทุกคนพี่จะขอพราวลี่พรีเซนต์ฉายาหนุ่มหล่อลึกลับแห่งสถาปัตย์ พี่เบียร์ จิรันดน์ เมธาดนัยพัฒน์ หน้าตาดีแต่ไม่ยอมเป็นเดือน หาตัวไม่ค่อยเจอวันๆ เอาแต่อยู่ที่คณะ วันนี้เราได้เห็นหน้าเขาถือเป็นบุญยิ่งนัก”
“ไอ้นิว มึงก็เวอร์กูก็อยู่ในมหา’ลัยนี่แหละแค่ไม่ค่อยเดินออกไปไหน”
“คณะมึงมีแต่ฉายาแปลกๆ เจ้าชายน้ำแข็งงี้ หลุ่มหล่อลึกลับงี้”
“เออ คณะกูคนปกติเขาไม่เรียนกันไง”
“กูก็ว่าจริงแล้วเมื่อกี้มึงบอกกูว่ามาหาน้อง น้องไหน? น้องใครวะ?”
เบียร์ไม่ได้ตอบแต่พยายามมองหาคนที่เขาต้องการเจอหน้าในวันนี้ บรรดาเด็กปีหนึ่งเศรษฐศาสตร์ต่างพากันซุบซิบก่อนที่สายตาเบียร์จะหยุดอยู่ที่คนๆ นึงที่กำลังจ้องตาเขาอยู่
“อันดามัน”ทันทีที่เบียร์พูดจบทุกคนที่นั่งอยู่ก็หันหน้ามามองอันดาที่ตอนนี้ทำหน้าตาเหลอหลาเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะเรียกชื่อเขาออกมาดังขนาดนั้นขนาดนิวยังถามซ้ำๆ ว่าคือมึงมาหาน้องอันดาเหรอวะนิวถามย้ำแล้วย้ำอีกจนเบียร์เป็นฝ่ายถามกลับว่าตอนนี้มึงทำกิจกรรมอะไรอยู่สำคัญมากไหม
“ก็ไม่เท่าไหร่แค่บอกเรื่องงานในคณะท่านั้น”
“งั้นขอยืมตัวน้องในคณะหน่อยแล้วกัน”
นิวยังไม่ทันตอบรับเบียร์ก็เดินตรงไปยังแถวที่อันดานั่งอยู่ก่อนจะคว้าข้อมือให้น้องลุกขึ้นแต่มันก็คงไม่ง่ายที่อยู่ดีๆ จะมาดักฉุดเด็กคณะอื่นอันดาเองก็ยื้อแขนไว้เต็มที่ดึงกันไปดึงกันมาอยู่สักพักสุดท้ายอันดาก็ร้องลั่นเมื่อเบียร์ตัดสินใจอุ้มอีกฝ่ายพาดบ่าเดินออกไปจากตรงนี้
“เฮ้ยๆ ไอ้เบียร์! เดี๋ยวนะนี่มันอะไรกันวะเนี่ย”
นิวมองซ้ายมองขวาทำอะไรไม่ถูกร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นไอ้เบียร์ทำอะไรแบบนี้มาก่อน จะเรียกว่าเป็นพวกติสท์ๆ หน่อยมันไม่ค่อยยุ่งกับใครทำตัวลึกลับซับซ้อนเหมือนฉายาที่มันได้มาแล้ววันนี้นี่มันคืออะไร เพื่อนอันดาที่นั่งตะลึงอยู่กระเถิบตัวเข้ามาหาเพื่อนอีกคนที่กำลังนั่งนิ่งช็อคไม่ต่างกัน
“กูควรโทรบอกไอ้ฟ้าไหมวะ”:: CAPUCHINO ::
“ทำอะไรวะ! ปล่อย!”
“เดี๋ยวนี้พูดกับพี่แบบนี้เหรอ”
“ไม่นับถือไม่รู้จักปล่อย!”
“ถ้าเราบอกว่าไม่รู้จักพี่เป็นครั้งที่สามพี่จะโยนเราลงพื้นตรงนี้เลยนะ”
พอโดนขู่เวอร์ชั่นจริงจังอันดาก็หยุดดิ้นแต่มือก็ยังคงกำเสื้อนักศึกษาของอีกคนไว้แน่น เบียร์อมยิ้มที่จริงก็คงจะกลัวเหมือนกันพอเห็นเขานิ่งไปอันดาก็ดิ้นใหม่อีกรอบพอเขาทำท่าจะโยนลงพื้นอีกครั้งคราวนี้อันดาเลยรีบตะโกน
“พี่เบียร์!”“ก็ยังจำกันได้นิ”
เบียร์วางน้องลงกับพื้นที่จริงอันดาก็หนักเหมือนกันไม่ใช่ตัวเล็กๆ เหมือนไอ้โฟโต้แถมตอนนี้ยังดิ้นไม่เลิกแขนก็เริ่มล้า ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นอันดาก็ถอนกรูดไปติดเสา
“ต้องการอะไร”
“พี่แค่อยากคุย”
“เรามีอะไรต้องคุยกันอีกเหรอในเมื่อวันนั้นพี่เป็นคนบอกเองว่าพี่เหนื่อย…พี่ขอเวลา”
“อันดา ฟังพี่ก่อนได้ไหม”
“ผมไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว”
ทั้งที่อยากจะดึงดันพูดทุกอย่างให้มันเคลียร์วันนี้แต่พอเห็นอันดาปฏิเสธที่จะฟังเขาทุกวิถีทางเบียร์ก็เลือกที่จะเงียบลงคำพูดที่เตรียมมากลับไม่ได้ใช้สักประโยค เบียร์เอื้อมไปจับมือมากุมไว้แต่อันดาทำท่าจะสะบัดหนีแต่พอเห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากกุมมือไว้เฉยๆ ก็ยอมให้เขาจับ
“พี่ขอโทษทุกเรื่องที่ผ่านมา”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นแน่นอนว่าไม่ใช่แค่คนเดียวแน่ๆ และก็เป็นอย่างที่คิดพอหันไปมองก็เจอทั้งไอ้นิวและเพื่อนของอันดาที่เห็นมาตั้งแต่สมัยตอนอยู่ม.6 และที่สำคัญ..
“อันดา”
ฟ้าคราม…ตัวโตขึ้นเยอะแถมหล่อขึ้นด้วยแต่ท่าทางกวนตีนเหมือนเดิมทันทีที่ได้ยินเสียงฝาแฝดตัวเองอันดาก็สะบัดมือแล้วรีบวิ่งไปหลบด้านหลัง เบียร์ถอนหายใจเพราะคิดว่ายังไงวันนี้ก็คงจะคุยกันไม่รู้เรื่องยิ่งมากันพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้รู้เลยว่าวันนี้คงต้องถอยไปก่อน ฟ้าครามหันมามองหน้าเบียร์ก่อนจะกอดคออันดาเดินกลับไปด้วยกันแต่เสียงเรียกชื่อทำให้ทั้งสองคนหันกลับมามอง
“อันดา พี่จะไม่ยอมให้เรื่องของเรามันจบลงแบบนี้หรอกนะ”
น้ำเสียงหนักแน่นและท่าทางเอาจริงเอาจังของเบียร์ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบกริบ ก่อนที่ฟ้าจะดึงมืออันดาให้เดินออกไปจากตรงนี้นิวผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้นได้แต่ยืนบีบไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ เพราะตอนนี้ทำหน้าตาหมดอาลัยตายอยาก
ฟ้าครามหยุดเดินเมื่อมาถึงหน้าคณะมือใหญ่ยกขึ้นวางลงบนกลุ่มผมฝาแฝดตัวเองก็พอรู้ว่าตอนนี้อันดารู้สึกยังไงดีแค่ไหนที่ไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าพี่เบียร์นี่ก็คงกลั้นไว้เต็มที่แล้ว
“กูเข้าใจนะว่าเจ็บแล้วจำมันก็ดี แต่ถ้าให้โอกาสพี่เขาอธิบายสักนิดกูก็คิดว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรแค่รอให้มึงพร้อม”
“กูแค่กลัว..”
“กูถึงบอกว่าให้มึงพร้อมมากกว่านี้ค่อยฟังพี่เขาอธิบายไม่งั้นกูไม่ลากมึงออกมาหรอก”
“กูไม่อยากเสียใจอีก”
“แต่มึงยังรักเขาอยู่”“………………………………………………….”
เพียงประโยคเดียวเป็นบทสรุปทุกอย่างน้ำตาที่กลั้นไว้มานานไหลลงมาตรงแก้มแต่ฟ้าครามไม่ได้ตกอกตกใจอะไรหรอกเห็น อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิดขี้แยขนาดไหนเขารู้ ไม่ได้ปลอบไม่เช็ดน้ำตาให้ด้วยได้แต่ปล่อยให้อันดาร้องไห้เงียบๆ มือก็ยกปาดน้ำตาไปพอสะอึกสะอื้นฟ้าครามก็หัวเราะคว้าหัวโตๆ นั่นมาซบตรงอก
ขี้แยตั้งแต่เด็กยันโตร้านกาแฟพี่กัลป์
“ถึงทุกคนจะบอกให้มึงสู้แต่ไม่ใช่ให้มึงบุกไปถึงคณะเขาแบบนี้นะเว้ยปวดกบาลทำไมมึงเกิดมาเป็นคนหล่อที่โง่”
ยูกิแทบจะเอาสตอเบอรี่ปั่นราดหัวเพื่อนตัวเองเมื่อเล่าให้ฟังว่าสองวันที่แล้วไปทำอะไรมา เบียร์ยกมือยอมแพ้ยอมให้เพื่อนด่าจนหนำใจก็ตอนนั้นมันคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะต้องคุยกับอันดาให้รู้เรื่องเอาเข้าจริงก็ยังไม่ทันจะได้เริ่มพูดกันสักประโยคและดูเหมือนจะแย่มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“แล้วไงต่อไม่ใช่ว่าบุกไปคณะเขาอีกนะ”
“ถ้ามันจำเป็นจริงๆ ก็ต้องไปคณะไกลฉิบหาย”
“แค่นี้ท้อเหรอ”
“ไม่ได้ท้อกูแค่บ่นที่เศรษฐศาสตร์มันอยู่ไกลทำไมไม่มาสร้างข้างๆ สถาปัตย์นี่”
แก๊ปที่นั่งฟังเรื่องราวของเด็กสถาปัตย์อยู่ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็พอประติดประต่อได้สรุปสั้นๆ ได้ไจความว่าน้องเบียร์หนุ่มหล่อลึกลับแห่งสถาปัตย์กำลังปฏิบัติการณ์
ขอแฟนเก่าคืนดี“พี่ว่าเราค่อยๆ คุยจะดีกว่าถึงพี่ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากแต่ถ้าเราทำผิดกับอีกฝ่ายไว้ มันก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่ยอมเราง่ายๆ และที่สำคัญเราต้องไม่ใช้กำลังด้วย”
ยูกิยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างพร้อมกับบอกว่าดีเลิศนี่แหละตัวอย่างของคนหล่อและมีสมอง แก๊ปถึงกับหลุดขำออกมา นั่งคุยกันอยู่สักพักก็ต่างคนต่างแยกย้ายเหลือแต่เบียร์ที่นานๆ ทีจะนั่งดื่มกาแฟที่ร้านพี่กัลป์เพราะทุกทีจะแวะมาซื้อคาปูชิโน่แก้วโปรดแล้วก็กลับคณะไม่ก็ไปถ่ายรูปที่อื่น
ไม่ค่อยมีใครเจอเขาข้างนอกเท่าไหร่
นี่แหละที่มาของฉายา
เวลาใกล้ๆ หกโมงเย็บรรดานักศึกษาที่เลิกเรียนต่างทยอยเดินเข้ามาในร้านกาแฟพี่กัลป์ เบียร์ก็พอรู้อยู่บ้างว่าร้านกาแฟพี่กัลป์ลูกค้าเยอะขนาดไหน อย่างน้อยในตอนปีหนึ่งเขาก็เคยมานั่งติวให้น้องมัธยมที่อยากจะเข้าสถาปัตย์
และนั่น
ทำให้เขาได้เจอกับอันดา
เหมือนฟ้าประทานสวรรค์ได้ยินพอนึกถึงเบียร์ก็เห็นว่ามีนักศึกษาเข้ามาในร้านสองสามคนหนึ่งในนั้นมีอันดาที่หอบชีทกองใหญ่โบกมือลาเพื่อนแล้วเดินไปสั่งกาแฟที่หน้าเคาน์เตอร์ เบียร์ไม่ได้ลุกไปหาเขาก็แค่อยากจะมองอยู่อย่างนี้
“คาปูชิโน่ครับ”
กัลป์ยิ้มรับลูกค้านักศึกษาปีหนึ่งเขาจำได้นะว่าเด็กตรงหน้าคือคนที่เบียร์สถาปัตยบอกว่าแฟนเก่า..แฟนเก่า..แฟนเก่ามันเหมือนกับม้วนหนังที่ฉายย้อนขึ้นมากัลป์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อันดาที่มองหน้า งงๆ ไม่รู้ว่าพี่กัลป์เจ้าของร้านกาแฟอยู่ดีๆ ทำไมถึงมาจ้องหน้ากันแบบนี้ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามกัลป์ก็ดีดนิ้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“พี่ว่าพี่จำเราได้ปีที่แล้วเราใส่ชุดนักเรียนสาธิตที่นี่ใช่ไหม”
“ครับ ผมชื่ออันดามันเรียกว่าอันดาก็ได้ผมจบสาธิตที่นี่”
“ยินดีด้วยนะตอนนี้เป็นเฟรชชี่แล้วก็…ปีที่แล้วเรา…เรา…เราพี่ว่าพี่เห็นเราชอบมาที่นี่กับนักศึกษาสักคนที่หน้าตาดีๆ”
“ผมว่าพี่กัลป์คงรู้จักพี่เบียร์”
“เออใช่! เบียร์สถาปัตย์ปีสอง”
กัลป์รู้สึกว่าเขาจบนิเทศโฆษณามาแต่แอคติ้งตอนนี้เขาชนะเลิศเอกการแสดงแน่นอน โอเคยอมรับว่าอยากรู้เรื่องชาวบ้านแต่จากเหตุการณ์วันนั้นที่เกิดขึ้นที่ร้านมันทำให้กัลป์ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าพอจะมองออกว่าทั้งคู่คงเลิกลากันไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ลึกไปกว่านั้นเขาดูรู้ว่า
ทั้งคู่ยังรักกันอยู่“ไม่ได้คุยกันแล้วครับ”
พอเห็นน้ำเสียงเศร้าๆ กับรอยยิ้มฝืนๆ กัลป์เลยยื่นคุกกี้สไมล์ลี่ที่เอาไว้ตกแต่งน้ำแข็งใส่ให้คนตรงหน้า อันดารับคุกกี้มาถือไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองกัลป์ที่เรียกชื่อเบาๆ
“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราทั้งสองคน แต่ถ้ายังมีโอกาสอย่าปล่อยความรักไปง่ายๆ เลยนะ”
อันดาไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแววตาพี่กัลป์ดูเจ็บปวดเหมือนมีอะไรในใจแต่มันก็เป็นเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นก่อนที่พี่กัลป์จะกลับมายิ้มให้ตามเดิม
“คาปูชิโน่มีแก้วนี้มีคนจ่ายให้แล้ว”
กัลป์ยื่นกาแฟแก้วโปรดให้ อันดาเลยหันไปมองข้างหลังก็เห็นว่าเบียร์ยืนถือแก้วคาปูชิโน่อยู่พอหันกลับมาที่เคาน์เตอร์พี่กัลป์ก็เดินหนีไปที่อื่นและคนในร้านก็เยอะเกินกว่าจะโวยวายออกมา อันดาเลยคว้าแก้วคาปูชิโน่บนเคาน์เตอร์แล้วเดินออกมาหน้าร้านพอหยุดเดินก็เห็นว่าอีกฝ่ายเดินตามมาจริงๆ
“เดี๋ยวพี่ช่วยถือชีท”
“ไม่ต้อ…”
ยังไม่ทันจะได้ปฏิเสธชีทในมือก็ทำท่าจะร่วงลงพื้นแต่เบียร์คว้าไว้ทันก็เลยถือให้ซะเลยมีการแย่งที่เหลือไปถือให้อีก ปีหนึ่งก็ชีทเยอะอย่างนี้แหละทั้งจากอาจารย์ทั้งจากรุ่นพี่ อันดาเองได้แต่ปล่อยเลยตามเลยขี้เกียจจะพูดอะไรมาก
“เรียนหนักไหม”
“ก็หนักกว่าที่คิด”
“ท่าทางเราดูเหนื่อยๆ”
ตอนแรกอันดาเลือกที่จะไม่สนใจจะยืนรอฟ้าเงียบๆ แต่เพราะพี่เบียร์ดูท่าทางอ่อนลงกว่าเมื่อวันนั้นและดูตอนนี้ยืนห่างซะจนจะต้องตะโกนคุยกันไอ้โกรธมันก็โกรธนะแต่ตลกมันก็ตลก พอเขาเดินหนีก้าวนึงพี่เบียร์ก็กระเถิ บเข้ามาก้าวนึงแต่พอเขาลองกระเถิบเข้าไปหาพี่เบียร์ก็จะถอยออกไปอีกยึกๆ ยือๆ ยังกะหนังอินเดีย
“ชอบกินคาปูชิโน่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปีที่แล้วเรายังไม่กินกาแฟเลย”
“ก็ปีนี้จะกินคาปูชิโน่มันผิดกฎหมายข้อไหนเหรอ”
โอเค..
เบียร์คิดว่าคงผิดเองที่ไปถามแต่ขอคิดเข้าข้างตัวเองนิดนึงว่าอันดาก็คงคิดถึงเขาบ้างแหละ คาปูชิโน่นี่เครื่องดื่มสุดโปรดของเขาเลยนะไม่ได้กินนี่นอนไม่หลับ ตอนที่เป็นแฟนกันก็เคยบอกอันดาว่ารอให้เข้ามหา’ลัยถึงจะให้กินกาแฟได้
“ผมถามจริงๆ นะว่าพี่เบียร์ต้องการอะไรจากผม”
“ขอโอกาสให้พี่อีกครั้งได้ไหม”
“ถ้าพี่ไม่บังเอิญเจอผมที่ร้านกาแฟพี่ก็จะไม่คิดจะตามหาผมอยู่แล้ว”
“เพราะพี่ไม่กล้าจะเจอหน้าเรา....อยากเป็นคนที่ดีกว่านี้ในทุกๆ เรื่องตอนเป็นแฟนเราพี่คงเป็นแฟนที่แย่มากจริงๆ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น”เบียร์คิดว่าตัวเองหูฝาดหรือฟังผิดก็นะ…ตอนนี้ก็ยืนอยู่ไกลจากอันดาพอสมควรก็ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้คุยกับน้องดีๆ ไม่ใช้กำลังแล้วนี่ก็ไม่อยากทำให้น้องลำบากใจด้วยกลัวใกล้เกินไปจนอึดอัด เสียงกริ่งที่ดังขึ้นทำให้อันดาเห็นฟ้าขี่จักรยานมาแต่ไกลมองอยู่นานว่าใช่รึเปล่าแล้วไปเอาจักรยานใครเขามาพอเห็นชัดๆ มันก็ดูตลก
“ตอนที่มึงบอกจะมารับกูไม่นึกว่าเป็นจักรยานนะของใครวะ”
“ของพี่ในคณะ เดี๋ยววนไปคืนเขาในมอก่อนกูขี่ออกมาซื้อของให้พี่เขาเลยมารับมึงทีเดียว”
ฟ้าครามมองเลยไปยังคนที่หอบชีทอยู่ด้านหลังพอหันมามองแฝดตัวเอง
อันดาก็ยักไหล่ขี้เกียจตอบคำถามก่อนจะเดินเข้าไปหาเบียร์ที่ยืนกองชีทมาให้
“พักผ่อนบ้างนะปีหนึ่งมันหนักทั้งกิจกรรมไหนจะสอบอีก”
เบียร์ไม่ได้คาดหวังว่าอันดาจะตอบรับอะไรเขานี่ก็แย่งชีทไปถือไว้มือเดียวเพราะอีกมือก็ยังถือแก้วกาแฟอยู่ อันดาหันหลังจะเดินไปหาฟ้าครามที่ยังคงรออยู่แต่ก็เปลี่ยนใจหันกลับมาผลักไหล่เบียร์เบาๆ
“บอกตัวเองเถอะใต้ตายังกะคนอดนอนมาเป็นเดือนเดี๋ยวก็ป่วยหรอก”
เบียร์ยิ้มกว้างคราวนี้เขาได้ยินไม่ผิดแน่นอนมันดีใจจนคว้ามืออันดามาจับไว้ทันแต่พอเขาจับไว้นานอันดาก็บิดมือหนี แถมยังหอบชีทเดินฉับๆ ไปหาฟ้าครามที่กอดอกมองอยู่คิดว่าโดยแฝดล้ออะไรสักอย่างเห็นอันดาทุบหลังฟ้าครามดังปั๊ก! วันนี้ก็ถือว่าก้าวหน้าขึ้นมานิดนึงละว้า
“ขอโทษนะครับ ร้านกาแฟร้านนี้เจ้าของยังชื่อกัลป์หรือเปล่า”เบียร์หันไปตามเสียงเรียกเห็นว่าเป็นพนักงานออฟฟิต? คิดว่าอย่างนั้นนะคนตรงหน้าใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้ากางเกงสแล็คสีดำรองเท้าหนังมันแวบแต่หน้าตาก็ไม่ได้แก่อะไรยังดูวัยรุ่นอยู่ อยู่พอเห็นเขาเงียบไปอีกฝ่ายก็ถามย้ำอีกรอบเบียร์เลยพยักหน้ารับพร้อมกับบอกว่าพี่กัลป์ก็อยู่ในร้าน
“ขอบคุณครับ”
พี่พนักงานออฟฟิตยิ้มรับแต่ไม่ได้เดินเข้าไปในร้าน
แต่กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคน
“อีกสองเดือนกูจะย้ายมาสาขาตรงข้ามมหา’ลัยร้านกาแฟก็ยังอยู่ที่เดิมมึงเถอะรีบกลับมาสักที”
เบียร์เดินกลับเข้ามาในร้านกาแฟพี่กัลป์อีกครั้ง
ท่าทางที่ผิดกลับเมื่อกี้ลิบลับทำให้กัลป์ที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ต้องเอ่ยถาม
“น้องเขายอมคุยด้วยแล้วเหรอไง”
“ก็ทั้งคุยทั้งด่าไปด้วยก็ถือว่าดีแล้วนะพี่เมื่อวันก่อนยังบอกว่าไม่รู้จักผมอยู่เลย”
“ปีที่แล้วตอนเราอยู่ปีหนึ่งพี่เพิ่งนึกออกว่าเรากับเขาก็รักกันดีนี่”
“ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนบอกให้เราห่างๆ กัน ”
ปีที่แล้ว..เบียร์สอบติดสถาปัตย์ตามที่ตั้งใจได้สำเร็จ ตอนแรกเกือบจะได้เป็นเดือนคณะแต่ขอพี่ๆ ในสถาปัตย์ว่าไม่ไหวจริงๆ เลยรอดตัวไปยอมรับว่ามีคนมาจีบเยอะพอสมควรแต่ตอนนั้นมันไม่ได้สนใจใครเลยอยากจะเรียนอย่างเดียว พออะไรมันเข้าที่เข้าทางก็เลยรับติวให้น้องที่อยากเข้าสถาปัตย์
คิดว่าอันดาคือน้องที่จะมาติวใช่ไหม
ไม่ใช่เลยล่ะรายนั้นน่ะสายวิทย์จ๋าไม่สนอะไรทั้งนั้น
“มานั่งติวกับพี่เบียร์ทีไรเพื่อนผึ้งนะอิจฉาผึ้งทุกคนเลย”
“หมดคอร์สนี้พี่เบียร์ก็ไม่อยากติวให้มึงละมึงเอาแต่นั่งมองหน้าพี่เขาทั้งวันเปลืองตัว”
“ให้มันน้อยๆ หน่อยบาสพี่เบียร์คือกำลังใจของผึ้งนะคะ”
“พี่เบียร์เบื่อมันบ้างไหม อันดา!อันดา! อันดามัน ทางนี้ๆๆ”
เพราะเบียร์ติวน้องอยู่ที่ชั้นสองของร้านกาแฟพี่กัลป์เวลาที่ใครเดินขึ้นมาตรงบันไดก็จะเห็นตอนแรกเบียร์ไม่ได้สนใจที่น้องๆ คุยกันมากนักแค่ขำๆ ซะมากกว่าแต่ชื่อของคนที่น้องบาสเรียกมันน่าสนใจจนต้องหันไปมอง
อันดามัน..ชื่อแปลกดีเพื่งเคยได้ยิน
น้องที่ชื่ออันดามันใส่ชุดนักเรียนสาธิตที่เขาเองก็คุ้นเคยดีผมซอยสั้นผิวสีแทนตาโตหน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรขนาดนั้นแต่ก็เรียกว่าหน้าตาดี
“ทำอะไรกันวะ”
“ติวไงนี่ๆ พี่เบียร์ที่เคยเล่าให้ฟังหล่อใช่ไหม”
ผึ้งผายมือไปยังพี่ปีหนึ่งที่นั่งอยู่ด้วยอันดายกมือไหว้ได้ยินมานานเหมือนกันไอ้ผึ้งชอบมาเล่าให้ฟังว่าพี่ที่ติวเข้าสถาปัตย์หล่อมากกกกกลาก ก ยาวไปอีกสามบรรทัดอยากให้ไปเห็นกับตาพอเจอจริงๆ ก็คิดว่าเออ ก็หล่อดีแค่นั้น
ตอนเจอกันครั้งแรกไม่ได้คุยอะไรกันสักคำต่างคนต่างแยกย้าย
พอวันต่อมาก็เจอกันอีก
....................
...............................................................................