[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 15
มาอีกทีอาทิตย์หน้านะคะ ใจจริงก็อยากจะอัพนะ เรื่องนี้เขียนแล้วสนุก อยากเขียนต่อเหมือนกันค่ะ แต่หนูแดงเขียนไม่ไหว ตอนนี้รุมเร้าหลายอย่าง หลักๆ คืออยากจะเร่งทำหนังสือให้เสร็จตามกำหนดที่ตั้งใจไว้ก่อน ไว้เคลียร์เสร็จแล้วจะมาอัพเต็มตัวให้เน้อ
ส่วนคนที่ถามเรื่องทำหนังสือเรื่องนี้มา บอกตรงๆ คือหนูแดงตั้งใจเขียนเรื่องนี้มาลองส่งให้ทาง everY พิจารณาค่ะ ช้ำกับที่นี่มา 2 รอบแล้ว อยากลองอีก 555 ถ้าผ่านก็ดี ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร คงจะเอามาพิมพ์เอง ไว้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะ ตอนนี้เอาให้จบก่อน ไม่จบสักกะอย่างเลยเนี่ย
แปะตัวอย่างเรียกน้ำย่อย ยั่วให้ฟินกันล่วงหน้าค่ะ น้องธารมาเต็มมาก แต่ย้ำกันอีกทีนะว่านิยายเรื่องนี้ไสๆ... ไสหัวพระ-นายไปให้มันได้กันสักที! กร๊ากกกก
------------------------------------
“พี่จะไปยุ่งกับพี่ดื้ออีกทำไม เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าอย่าไปยุ่ง!” ตวาดแล้วก็ผลักผมลงบนเตียง กระโจนขึ้นมานั่งทับผมไว้อย่างรวดเร็ว
“น้องธาร! เดี๋ยว!”
ผมตกใจ ดันมันออกสุดแรง แต่ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะแรงมันเยอะกว่าผมมาก ตัวก็ใหญ่กว่า แค่ขึ้นมาคร่อมทับร่างผมไว้ ตรึงข้อมือทั้งสองไม่ให้ดิ้นได้ ผมก็ไม่มีแรงขัดขืนแล้ว
“น้องธาร... ตั้งสติก่อนนะครับ” ในเมื่อสู้ไม่ได้ ผมเลยร้องเตือนสติไปด้วยสีหน้าตื่นๆ ใจนี่กลัวจะโดนมันฆ่าฉิบเป๋ง
ทว่าธารใจคงไม่มีสติแล้วล่ะ จ้องตาผมด้วยดวงตาแข็งกร้าว หายใจแรงราวกับโกรธอย่างถึงที่สุดจนผมเสียวสันหลังวาบด้วยไม่เคยเห็นสีหน้ากราดเกรี้ยวอย่างนี้มาก่อน ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ มันก็ตะคอกขึ้นมาเสียงลั่น
“ถ้าพี่ชอบผม ก็มองแต่ผมคนเดียวสิวะ! จะไปยุ่งกับพี่ดื้ออีกทำไม!?”
จากที่กลัวๆ อยู่ ตอนนี้เหวอรับประทาน ผมมองหน้าธารประหนึ่งไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจอะไรๆ ได้
อ๋อ ที่มันทำท่าเหมือนหมาบ้าอย่างนี้เป็นเพราะเห็นผมกับพี่ดื้อน่ะเอง ตอนแรกก็คิดว่าที่โกรธเป็นเพราะมันเข้าใจผิดว่าผมไม่รักษาสัญญาที่ว่าจะไม่ยุ่งกับพี่ดื้ออีก แต่พอได้ยินมันพูดแบบนี้แล้วก็นะ... แหมๆ หึงล่ะสิ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาดีใจที่มันหึงหวงหรือเปล่าวะ ควรจะเป็นห่วงความปลอดภัยในสวัสดิภาพชีวิตตัวเองดีกว่ากว่ามั้ย และสิ่งสำคัญที่มันควรรู้ก็คือ...
กูไม่ได้ไปยุ่งกับพี่จอมดื้อเว้ย รายนั้นมายุ่งกับกูเองต่างหาก!
ผมเลยรีบอ้าปากจะอธิบายก่อนที่มันจะได้ทำอะไรๆ ไม่คาดคิดขึ้นมา หากแต่ไม่ทันจะได้พูด มันก็แทรกขึ้นมาก่อนแล้ว
“ถ้าพี่ชอบผม... ก็มองแต่ผมคนเดียวไม่ได้หรือไง”
คราวนี้ไม่ได้ตะคอกหรือตวาด แต่เป็นการกระซิบเสียงแผ่วราวกับขอร้อง ซ้ำยังโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนผมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ สายตาที่มันใช้มองผมก็เว้าวอนจนผมรู้สึกว่ามันไม่ปกติ
“น้องธาร...” เรียกมันอีกสักหน่อยแล้วกันเผื่อว่ามันจะรู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร
แต่ไอ้น้องธารมันไม่ฟังแล้ว แค่สิ้นเสียงผมเท่านั้น มันก็ประทับจูบลงมาบนริมฝีปากผมแล้ว ผมถึงกับเบิกตาโพลงที่จู่ๆ ก็ได้ก็โดนแบบไม่ทันตั้งตัว ซ้ำยังไม่ใช่จูบธรรมดา
นะ...นี่มัน...ดะ...ดีพคิส!
อะ...ไอ้เหนือ! ฟินไปสามโลกแปดโลก!
ดีพคิสมาก็ดีพคิสกลับ ไม่โกง หากแต่พอผมจูบตอบเท่านั้น ธารก็บดริมฝีปากลงมาอย่างหนักหน่วงจนผมหายใจไม่ออก ซ้ำยังเจ็บแปลบขึ้นมาที่ริมฝีปากนิดๆ อีกด้วย แล้วมันก็ทำให้ผมแทบขาดอากาศหายใจเมื่อมันสอดปลายลิ้นนุ่มเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ตักตวงทุกอย่างที่ผมมีราวกับจะสูบให้แห้งกรอบยังไงยังงั้น
อื้อหือ... รู้เลยตอนนี้ว่าไอ้เด็กนี่มันไม่ธรรมดา ใครว่ามันใสๆ บอกเลย...ไสๆ
ไสหัวไปซุกไซ้ซอกคอพี่เหนือหน่อยซิ!
ยอมนอนนิ่งให้มันจูบอย่างไม่ขัดขืนเลย อูย... เอาอีก... เอามาอีก มีอะไร จัดมาให้หมด!
ร้องขอในใจ มันก็จัดให้ราวกับอ่านใจออก แค่ผมคิดจบไปครู่เดียว มันก็ผละริมฝีปากออกมามองหน้าผม ปรือตามองพลางกระซิบเสียงพร่า
“พี่เหนือจะมองแต่ธารคนเดียวได้มั้ย”
ระ...เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ...
ระทวย... อ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว
เอาเลยจ้า อยากได้อะไรก็บอกพี่เหนือนะ เดี๋ยวพี่เหนือจัดการให้ จะเปย์ให้ทุกอย่างเลย มีบ้านขายบ้าน มีรถคือขายรถ แค่ตอนนี้ก็ขายไร่อ้อยทิ้งไปเปย์ให้หมดแล้วเนี่ย
ผมพยักหน้ารัวๆ จนคอแทบหัก อันที่จริงผมก็มองแต่มันอยู่แล้ว ในสายตาผมไม่มีใครเลยตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบมันจริงๆ แต่มันมองหรือเปล่าก็ไม่รู้เถอะว่าผมพยักหน้าตอบรับมันเมื่อกี้ เพราะพอมันพูดจบ มันก็เลื่อนมือที่ตรึงข้อมือผมอยู่ออก เปลี่ยนมาลากลูบบนเสื้อเชิ้ตผมแทน ก่อนจะกระชากสาบเสื้อออกจากกันจนกระดุมกระเด็นไปคนละทิศละทาง ซุกใบหน้าลงมาที่ซอกคอ พรมจูบไล้ไล่ต่ำลงไปจนถึงไหปลาร้า ทำเอาผมเกร็งตัวแข็งราวกับเป็นคนใสๆ ก็ไม่ปานทั้งที่ผ่านศึกมานักต่อนักแล้ว
“พี่เหนือ... มองแต่ธารนะ” ครางขึ้นมาอีก แล้วก็ฝังเขี้ยวลงบนไหปลาร้าข้างหนึ่งของผมอย่างแรงให้ผมสะดุ้งเฮือก
ฟิฟ...ฟิฟตี้เฉด ออฟ น้องธารของจริงมาแล้ว!
ทำตัวต่อไม่ถูกเลย ในหัวสับสนไปหมดว่าควรให้มันทำต่อมั้ย หรือควรจะห้ามดี แต่ระหว่างคิดนี่ก็คือปล่อยให้มันทำตามใจไปก่อน
ตะ...แต่ก็ต้องห้ามสินะ ผมยังอยู่ในสถานะอาจารย์ฝึกสอนนี่หว่า ถึงอีกสองอาทิตย์จะฝึกงานเสร็จก็ตาม แต่พูดตรงๆ คือถ้าจะห้าม ก็ขอให้ได้ให้โดนสักหน่อยเถอะวะ โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ
ขอเหนือฟินสักวิสองวิก็ยังดี...
ผมก็เลยปล่อยให้ริมฝีปากหนานั่นโล้มไล้ซอกคอตัวเองพักหนึ่ง แต่ก็ปล่อยให้มันพรมจูบได้ไม่นานก็ต้องร้องห้ามเมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนเริ่มอยู่ไม่สุข วางนาบลงมาบนตุ่มไตที่หน้าอกข้างหนึ่งพลางบดเบียด ขณะที่มืออีกข้างของมันลูบต่ำลงไปใต้ท้องน้อยจนเกือบจะหายเข้าไปในขอบกางเกงผม
ดะ...เดี๋ยวไอ้น้องธาร! นี่มึงเอาจริงใช่มั้ยเนี่ย ตอนแรกกูก็นึกว่าเล่นๆ เหมือนกับที่เคยดูดคอครั้งก่อนโน้น! มาแบบนี้ กูยังไม่ได้เตรียมใจนะเว้ย!
“น้องธาร! สติ!” ผมลุกพรวด รีบคว้ามือมันทั้งสองข้างก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
ตอนนี้ไอ้จากที่อยากได้อยากโดน เห็นมันทำท่าแปลกๆ จู่ๆ ก็เป็นฝ่ายบุกผมเอง ผมก็ไม่อยากได้ละ แม่ง เอาจริงแบบจริงจังมาก ถ้าปล่อยให้มันทำ คือได้เสียเป็นผัวเมียกันแบบไม่รู้ตัวแน่ๆ
ธารมองหน้าผมด้วยสายตาขุ่นๆ สะบัดมือผมออกแล้วจับมาตรึงไว้บนฟูกอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ไม่ได้ตรึงมือฝ่ามือ ตรึงด้วยหัวเข่า ขณะที่มันใช้มือทั้งสองข้างปลดตะขอกางเกงตัวเอง ดึงกางเกงตัวนอกร่นไปอยู่ที่หัวเข่า เหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์บางๆ ที่แทบจะปิดอะไรต่อมิอะไรไม่ได้ใน ณ เวลานี้
อะ...ไอ้น้องธาร! มึงจะมาขายมะเขือยาวหน้าด้านๆ แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย! กูยังไม่ได้ตั้งสติ ที่สำคัญคือกูยังไม่ได้ล้างตู้เย็น! มึงหยุดเดี๋ยวนี้!