ตอนนี้มีแต่โรจน์ แฟนคลับพี่โต้งและผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงดราม่าข้ามเลยค่ะ
ตอนที่ 92/2 กลับมาที่เดิม.... (ดราม่า ฐาโรจน์ พาร์ท2)
“ทำไมถึงโง่แบบนี้......ตากฝนตั้งนานหลายชั่วโมง เจ้บ้าไปแล้วหรือไง.....” เสียงทับทิมโวยวายอยู่ข้างๆ เมื่อหนูนอนแหม็บอยู่บนเตียง
ตั้งแต่กลับมาก็นอนซม... ไข้จับนอนหนาวสั่นอยู่กับเตียงเป็นวันเพราะตากฝน ยังดีที่ไม่เป็นปอดบวมไม่งั้นคงแย่กว่านี้...
หนูโดนด่าว่าโง่อีกแล้ว ก็คงจะจริงอย่างที่โอ๋มันว่า หนูโง่เพราะผู้ชายมาแล้วหลายหน จะโง่อีกสักครั้งสองครั้งก็ไม่เห็นจะน่าแปลก.... แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปนั้น หนูไม่เคยนึกเสียใจเลยสักนิด เรียกว่าดื้อด้านก็ได้ละมัง
แม้กระทั่งครั้งนี้.... เพราะอย่างน้อย...หลังจากวันนั้นหนูก็ได้ความทรงจำเกี่ยวกับโรจน์กลับคืนมาแล้ว....
.
.
.
หลังจากที่ไอ้โรจน์บอกให้หนูเป็นผู้หญิงให้มัน ความเสียใจบวกกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงตัดสินใจกินฮอร์โมนที่ซื้อมาเก็บไว้ทั้งหมด
ยังดีที่ออยมาเห็นซะก่อนแล้วไปบอกแม่ หนูถึงยอมไปโรงพยาบาลล้างท้องได้ทัน หนูนอนโรงพยาบาลคืนหนึ่ง พอตื่นขึ้นมาคนแรกที่หนูเรียกหาก็ยังเป็นโรจน์ ความจริงที่หนูไม่ได้อยากตายเลยสักนิด.... แต่ถ้าหนูเป็นอะไรไป บางทีมันอาจจะนึกสงสารหนูแล้วกลับมาหาก็ได้ และไม่ว่ามันจะอยู่กับหนูด้วยความรู้สึกไหน หนูก็ไม่แคร์.....
แต่สิ่งที่หวังก็ไม่เกิดขึ้น หนูไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน พบแต่ดอกสีหลาบสีแดงที่วางอยู่ข้างหมอน....
“กุหลาบ...ของใคร โรจน์มันมาเหรอ?” ทันทีที่หนูเห็นมัน หนูก็นึกถึงมันเป็นคนแรก
“เปล่า.... ฉันเห็นแกชอบก็เลยซื้อมาฝาก...” ออยบอกแบบนั้น ทำให้รอยยิ้มอย่างมีความหวังของหนูจางลงจนเหลือแต่รอยน้ำตา....
“ฐา..... แกฆ่าตัวตายทำไม” เสียงออยถาม เสียงมันพยายามข่มให้เรียบทั้งๆ ที่ความจริงมันคงโมโหมาก
“เปล่า.... ฉันไม่ได้ทำ.....”
“ไม่ได้ทำ.... พูดมาได้ยังไง กรอกยาเข้าไปตั้งกี่แผง!”
“ฉันก็แค่อยากสวย อยากเป็นผู้หญิงไวๆ”
“สวยแน่ ถ้าหมอล้างท้องไม่ทันแกได้ไปสวยต่อในยมโลก... แล้วก็กลายเป็นผู้หญิงในชาติหน้านู่น....”
“ถ้าฉันเป็นผู้หญิงให้มันไม่ได้ ฉันจะกลับไปหามันยังไง” หนูคร่ำครวญ
“มันพูดแบบนั้นกับแกเหรอ ถ้ามันอยากได้ผู้หญิง ก็ให้มันไปคบชะนี่นู่น เลิกทำโง่ๆ ได้แล้ว... ทำยังกับว่า.... โลกนี้มีผู้ชายคนเดียวอย่างนั้นแหละ”
“โลกนี้มีผู้ชายหลายล้านคน.... แต่....ผู้ชายที่ฉันรัก.....มีคนเดียว”
“ผู้ชายที่แกรักมีคนเดียว..... แต่คนที่รักแก มีหลายคนนะ ..... ถ้าแกเป็นอะไรไป..... จะมีคนที่ร้องไห้และเสียใจมากกว่าหนึ่งคน.....”
นั่นทำให้หนูร้องไห้อีก.... หนูตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่ได้คิดถึงคนอื่นที่รักหนูเลย...
แค่ล้างท้อง อาการไม่ได้หนักหนา หนูออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่วันนั้น แต่ก็ยังขาดเรียนเป็นสัปดาห์ด้วยอาการตรอมใจ จนถึงตอนนี้หนูก็ยังไม่เคยโทษมัน บางทีอาจจะไม่มีใครบอกเรื่องของหนูให้มันรู้ มันถึงไม่ยอมมาเยี่ยมมาดูใจหนูเหมือนที่ควรจะเป็น และถึงหนูจะไปโรงเรียนแล้วพวกเราก็ไม่ได้พูดคุยกันเหมือนเดิมอีก มันคอยหลีกเลี่ยงไม่ให้อยู่กับหนูสองต่อสองตลอดเวลา กระนั้น หนูยังคงจมปลักกับความรักที่เป็นไปไม่ได้อยู่นานจนจบม.หก
หนูได้โคต้าของมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน (จังหวัดใกล้เคียง) ด้วยการยื่นคะแนน gpa บวกคะแนนสอบรอบแรก จึงไม่ได้ลำบากเหนื่อยยากกับการสอบรอบสองเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ทันทีที่จบม.หก หนูก็เริ่มหางานพิเศษทำโดยไม่ได้ใส่ใจเรื่องสอบอีกแล้ว....
ในตอนนั้นคิดแต่ว่า...ไม่ว่ายังไง หนูก็ต้องสวย ไม่ว่ายังไง หนูต้องเก็บเงินแล้วเป็นผู้หญิงให้ได้ เพราะถึงตอนนั้นหนูจะกลับไปหาคนที่หนูรักได้อีกครั้ง..
หนูเริ่มทำงานพิเศษในร้านสะดวกซื้อได้เกือบเดือนแล้ว การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เริ่มเสร็จสิ้น ออยโอ๋ ปาล์มมันก็มาตามหนูถึงที่ทำงาน จะพาไปเที่ยว...
เอาจริงๆ นอกจากไปเที่ยวห้าง หรืองานวัดบ้างนานๆ ครั้งหนูไม่เคยเที่ยวกลางคืนหรอกค่ะ ถึงอยากไป แต่ไม่กล้าเพราะกลัวโดนไอ้โรจน์โกรธ ส่วนเพื่อนๆ ก็คงไม่อยากพาหนูไปไหนเพราะหนูชอบทำอะไรเปิ่นๆ ให้พวกมันได้อาย แล้วก็กลัวว่าความซื่อของหนูจะทำให้โดนหลอกง่ายๆ ประมาณนั้น แต่นี่ก็เรียนจบแล้ว จะทำเหมือนยังเป็นเด็กก็ไม่ได้... อีกทั้งพวกมันยังผ่านการสอบสำคัญมาทั้งที มันก็เลยยอมพาหนูมาเที่ยว ที่ผับแห่งหนึ่งชื่อ zomby
นอกจากโอ๋ ออย ปาล์มแล้ว ออยยังชวนพี่ชลมาด้วย ถึงตอนนี้หนูไม่ได้ชอบพี่ชลเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็รู้สึกดีใจเหมือนกันที่ได้เจอเขา น่าแปลกที่เพื่อนๆ ทั้งสามออกไปดิ้นพร้อมกัน ทั้งที่ความจริง ออยไม่ใช่คนชอบเต้น ปกติมันจะหมกตัวกับการกินตลอดเวลา พอหนูจะลุกขึ้นบ้าง พี่ชลก็ดึงแขนไว้
“อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน นั่งคนเดียวไม่สนุกเลย”
หนูจำต้องนั่งลงที่เดิม... ขณะที่พี่ชลพยายามชวนคุย เพราะความที่ร้านเสียงดังทำให้ต้องก้มหัวลงมาใกล้ๆ กันหลายรอบ
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่าที่ทำให้หนูกับพี่ชลนั่งคุยกันที่โต๊ะสองคน ตอนที่โรจน์มันควงเด็กมันมาเที่ยวด้วยพอดี ตอนนั้นหนูใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดีที่ได้เจอมัน พอเราสองคนสบตากันมันก็มองเมินไป เหมือนกับมองไม่เห็นหนู
หนูรีบลุกขึ้นทันที แต่พี่ชลจับแขนไว้
“ฐา จะไปไหน” หนูดึงมือที่จับแขนอยู่ของพี่ชลแล้วก็เดินตามไปโดยไม่ตอบ
หนูเดินตามหามันจนทั่ว... ในที่สุดก็เจอมันยืนอยู่กับผู้หญิงของมัน ในมุมมืดของร้าน...
“โรจน์”
หนูเรียกมันเบาๆ แต่มันก็หันมา มองด้วยสายตาเย็นชาว่างเปล่า....แล้วหันกลับไปคว้าร่างบางของแหวนเข้าไว้ในอ้อมกอด จูบที่แก้มของเธอโดยไม่สนใจสายตาของหนูเลย...
“โรจน์ ทำบ้าอะไรเนี่ย เห็นไหมมีคนมองอยู่นะ” เสียงเจ้าหล่อนบอกคนรักด้วยน้ำเสียงแสดงว่าเขินอายทั้งที่ความจริงไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น มือเล็กๆ ที่ขยุ้มเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้คล้ายจะดึงเข้าหาตัวมากกว่าผลักออก
“ช่างปะไร อยากมองก็ให้มองไปสิ ถือว่าเป็นวิทยาทาน... จะได้รู้ซะทีว่าเอากับผู้หญิงแท้ๆ มันต่างกันยังไง”
“นั่นสินะ....ต่อให้ภายนอกจะเปลี่ยนไปได้มากมาย หรือเหมือนผู้หญิงมากแค่ไหน พอถอดเสื้อผ้าออกมาก็เป็นได้แค่ไส้เดือนดินเท่านั้น”
อึ้ง...พูดอะไรไม่ออก.... น้ำตาล้นเอ่อ เจ็บปวดกับฉากรักตรงหน้า ราวกับมีดพันเล่มมาทิ่มแทง
หนูไม่ได้หน้าด้านมากถึงขนาดจะทนยืนดูภาพนั้นที่กำลังดำเนินไปจนจบได้ แค่เห็นมือที่เฝ้าฟอนเฟ้นตามร่างงามสุกปลั่งของผู้หญิงคนนั้น ริมฝีปากที่เคยจูบกัน เคยเอ่ยคำรัก...ตอนนี้ซุกไซร้ไปตามลำคอระหง แค่นั้นหัวใจมันก็แตกสลายจนย่อยยับ
หนูหมุนร่างสูงโปรงอันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองหนีออกมาจากภาพตรงหน้า ดุจพบเห็นภาพศพเน่าสยดสยอง...
ทำไมไม่บอกกันแบบนี้เสียตั้งแต่แรก.... พูดทำไมว่าให้เป็นผู้หญิง ในเมื่อความจริงแล้ว ไม่ว่ายังไงมันก็คงไม่คิดจะกลับมาหาหนูอยู่แล้ว
จบแล้วสินะ ทุกอย่างมันเปล่าประโยชน์ ต่อให้สวยแค่ไหน ให้ดีแค่ไหน ต่อให้เปลี่ยนตัวเองให้มันได้ ของปลอมมันก็คงสู้ของจริงไม่ได้อยู่ดี...
เดินเร็วๆ ออกมาจากตรงนั้นจนถูกมือหนึ่งรั้งไว้ให้หยุด....
“ฐา” หนูเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนเรียก พบว่าคือออย ใบหน้าของมันพร่าเลือนเพราะหยาดน้ำตาที่พร่างพรายหล่นกระจายเต็มแก้ม
“ออย....” หนูเรียกด้วยเสียงสั่นๆ โผเข้ากอดร่างเล็กๆ ของมันไว้แน่นแล้วสะอื้นไม่ยอมหยุด
“แกเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” มันถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ส่งมือมาลูบหลังหนูไปมาอย่างปลอบโยน....
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องเล่า จบแล้ว พอแล้ว... ฉันจะไม่เสียน้ำตาให้มันอีกแล้ว”
.
.
.
จบแล้ว.... ไม่มีอะไรที่ต้องเล่า...
ไม่มีอะไรที่ต้องเหลืออยู่
นาฬิกาที่ใส่ถูกถอดออกมาฟาดกับเสาไฟฟ้าจนหน้าปัดแตก... ตุ๊กตาที่มันให้ถูกลากออกมาทิ้งที่ข้างถังขยะ
อยากจะทิ้งทุกอย่างให้หมด แต่ทำไม่ได้ พอฝนตกหนูก็ วิ่งออกไปคว้ามันกลับมาอีก
แต่ไม่ถึงขนาดจะเก็บไว้ในห้องนอนได้เท่านั้นเอง....
ถ้าให้กลับไปอีกคงไม่กลับ แต่ให้ลืมทันทีคงทำไม่ได้
ไม่มีอะไรที่ทำให้แผลหายดีได้เลย นอกจากกาลเวลา
และหวังว่า เวลานั้นจะมาถึงโดยเร็ว....
....................................
ไม่มีพี่โต้งจริงๆ ค่ะตอนนี้...... แต่ จะมาให้ตอนหน้านะ
ส่วนอดีตของโรจน์ จบแล้ว เอาไว้รอพบตัวเป็นๆ ตอนมันกลับมาเอาน้องฐาคืนแล้วกัน
มันจะแก้ตัวว่ายังไง ฟังได้ไหม.... ก็สุดแล้วแต่ น้องฐาและคนอ่านจะพิพากษาแล้วกัน...
.......................
ที่เปลี่ยนชื่อเรื่องไม่มีอะไร เพราะเครียดนิดหน่อย ที่เรื่องมันช้า
หลายๆ คนที่เป็นแฟนคลับพี่โต้งไม่อยากอ่านเกี่ยวกับโรจน์ + เนื้อหาตอนที่แล้วค่อนข้างแรงพอสมควร
ในฐานะของคนเขียนก็เลยหนักใจ จะลบทิ้งไปก็เสียดาย...
ตอนที่แล้วถ้าอ่านดีๆ จะพบว่า น้องฐาคิดถึงอยากกลับไปหาพี่โต้ง
แต่ลองนึกในมุมของคนที่จำอะไรไม่ได้ และเคยรักใครคนนึงมาก ต่อให้มีความรักครั้งใหม่ จะไม่รู้สึกผิดเลยเหรอที่ลืมคนเก่าไปง่ายๆ
ที่น้องกลับมาบ้าน ไม่ได้อยากกลับมาหาโรจน์ แต่น้องกลับมามาหาครอบครัว
น้องกลับมาตามหาความทรงจำที่หายไป แต่ก็ย้ำอยู่ตลอดว่า เดี๋ยวก็กลับไปหาพี่โต้งแล้ว...
ในเมื่อเจอเบาะแสอย่างเดียวในตอนนั้น จะให้ปล่อยผ่านไปโดยไม่ตามได้ยังไง
หรืออีกประเด็น ก็แค่นิไม่อยากให้เหมือนว่า ลืมมาตั้งนาน อยู่ดีๆ จำได้เลย มันต้องมีอะไรที่มาสะกิดบ้าง สำหรับพี่โต้งมันยังมีปม มีเพลง มีหลายอย่าง แต่โรจน์มันไม่มีอะไร คงมีแต่คน คำพูดเก่าๆ สถานที่เดิมๆ เท่านั้นที่จะเรียกความจำน้องกลับมาได้
อ้อ ไม่รู้มีคนสังเกตเรื่องทีวีไหม ทีวี นาฬิกาเป็นสัญลักษ์ แทนความรักของโรจน์ ที่มันพังจนเกินจะซ่อมแซมได้แล้ว
ดูไม่มีสาระอะไร แต่ไม่รู้ทำไมใส่แล้วรู้สึกมันมีอะไรต้องคิดมากกว่าจะต๊องกันไปวันๆ
ส่วนเรื่องราวที่สับสนไปมาในการเล่าเรื่อง ต้องขออภัยหากทำให้งง มันเป็นเทคนิคในการนำเสนอเท่านั้นเองค่ะ ว่าอยากจะออกอากาศส่วนไหนก่อนหลัง เหมือนเวลาดูหนังฆาตกรรมคงไม่มีคนอยากดูบทเฉลยก่อนหรอกจริงไหม?
ปล. สปอยนิดนึงว่า.... หลายคนที่รอน้องฐาเคลีย
ถ้าน้องจำทุกอย่างได้จริง แน่ใจเหรอว่านิสัยอย่างน้องฐาจะกล้าเคลียร์