▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓  (อ่าน 194867 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10

เหลือเพียงไม่กี่ตอนก็จะถึงปาฏิหาริย์ที่สามแล้วนะครับ จากนั้นก็จะเหลืออีกสิบกว่าตอนก็จะจบ ตื่นเต้นจัง
เหตุการณ์หลายอย่างกำลังเข้มข้นและต้องลุ้นระทึก อาจจะมีให้อะไรให้ช็อกเล่นๆ บ้างก็อย่าว่ากันนะครับ

ช่วงนี้ผมจะอัปเดตเร็วอย่างที่เคยแจ้งไว้ เพราะฉะนั้น ใครที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ก็อาจจะลองเช็คให้ถี่ขึ้น
ตอนนี้จะอัปเดตวันเว้นวันสลับกับเรื่อง "ธุรกิจนี้มีรัก"

คิดแล้วก็ใจหาย หลังจากเรื่องจบก็คงไม่ได้เขียนเรื่องใหม่ต่ออีกแล้ว

ตอนนี้กำลังคิดว่าจะเอา "รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" มา re-write อยู่ครับ คิดว่าพอไหว แต่อาจจะอัปเดตได้ไม่บ่อย
ใครที่ยังไม่เคยอ่านก็อย่าเพิ่งไปอ่านนะครับ มารอติดตามเวอร์ชั่นเขียนใหม่กัน (คงเน้นปรับภาษามากกว่าเนื้อเรื่อง)
รอให้จบสองเรื่องนี้จบก่อนละกันครับ แล้วจะบอกอีกที

ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามนะครับ

ป.ล. ตอนที่ 29 เป็นอีกตอนที่ผมชอบมากๆ อ่านหลายรอบแล้ว

Sarawatta

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ใกล้จะได้เห็นสนบอกรักต้นแล้วสินะค้าา :-[

รอจ้าา.. :L2:

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
นั่นสิ พ่อสนจะชอบใจอะไรสะใภ้ลวงโลกคนนี้นักหนา  :m16: แต่อย่างว่านะ พ่อยังไม่รู้ว่าแท้จริงชะนีตนนี้เป็นยังไง ทำอะไรถึงได้ลูกชายแสนดีของตัวเองไป ขอให้รู้เร็วๆเถอะ สงสารสนกับต้นจนจะไม่ไหวแล้ว  :hao5: เข้าใจต้นนะว่า ได้แต่รอ รออย่างไม่รู้ว่าวันหน้าจะเป็นยังไง สนก็เข้าใจต้นถึงได้พยายามทำอะไรบางอย่างอยู่และให้ความเชื่อมั่นกับต้น ถึงต้นจะตัดสินใจคบพี่กฤษณ์แต่สนก็คิดไว้ว่า วันหนึ่ง ต้องได้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เข้าใจเลยว่า ทั้งที่ต้นก็ตกลงเชื่อใจสน จะรอ แล้วทำไมถึงตัดสินใจไปพูดกับพ่อแบบนั้น อย่างนี้จะไม่ลำบากภายหน้าเหรอ แต่ยังไงก็ขอให้สนกับต้นได้อยู่ด้วยกันนะ  :call:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 30: ความรักของชายที่ชื่อสน


ช่วงใกล้ๆ ปีใหม่อย่างนี้รถที่มุ่งออกต่างจังหวัดมีปริมาณมากพอสมควร อย่างไรก็ดี ทางหลวงหมายเลขเจ็ดที่มุ่งสู่ภาคตะวันออกก็ยังมีปริมาณรถที่ไม่หนาแน่นมากเมื่อเทียบกับเส้นทางสู่ภาคอื่นๆ สนขับรถไปตามเส้นทางนี้อย่างสบายๆ ไม่รีบร้อน มีจุดหมายปลายทางที่ชายหาดบางแสน สถานที่อีกแห่งหนึ่งในความทรงจำของต้นกับสน และเป็นที่มาของรูปถ่ายที่อยู่บนหัวเตียงของสองหนุ่ม

สนเพิ่งขับรถได้ไม่นาน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ต้องออกต่างจังหวัดจึงเลือกอยู่เลนซ้ายและขับช้าๆ แม้ไม่ชินเส้นทางแต่ระบบจีพีเอสก็ช่วยให้ความกังวลนั้นหมดไป อย่างมากก็เพียงแค่คอยดูป้ายเส้นทางเป็นระยะๆ

คนที่นั่งมาด้วยข้างๆ ตอนนี้นิ่งเงียบและเหม่อลอย ปราศจากคำพูดใดๆ คงเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อชั่วโมงสองชั่วโมงที่แล้วยังคงรบกวนจิตใจอยู่ แต่ก็ไม่ทำให้สนรู้สึกอึดอัดเพราะมีบ่อยครั้งที่ต้นกับสนอยู่ด้วยกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันตลอดเวลา

สนแว่บหันไปมองต้น ใช้มืออีกข้างลูบศีรษะเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ต้นหันมายิ้มบางๆ ให้ อย่างน้อยแม้ยังไม่อยากพูดจาตอนนี้ แต่ก็อยากมอบรอยยิ้มแทนคำขอบคุณที่สนคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใย ต่อให้เศร้าแค่ไหนต้นก็อุ่นใจเสมอที่มีสนคอยดูแลอยู่ข้างๆ

สนเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดเพลงที่บันทึกไว้ในแฟลชไดรฟ์ เริ่มด้วยเพลง "ปาฎิหาริย์ที่รอคอย" ที่ต้นชอบเพราะตรงกับชีวิตของต้นที่รอคอยปาฏิหาริย์รักมาตลอดสิบปี อันที่จริงต้นก็ไม่ต้องรอแล้วล่ะ ความรักของสนมีให้ต้นมาตั้งนานแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องนินา สนก็ไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิตอีกเลยแม้ว่าจะมีโอกาส ยอมทิ้งความต้องการบางอย่างของตัวเองเพื่อคนที่สนรักมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะความรักแล้วสนคงไม่มีวันทำอย่างนี้ได้เลย ก็เหลือแค่คำสารภาพรักของสนเท่านั้นที่ยังค้างคาอยู่

สีหน้าของต้นดูดีขึ้นมาบ้างเมื่อได้ฟังเพลงโปรด สนจึงเปิดซ้ำๆ อยู่สองสามรอบก่อนปล่อยให้เครื่องเล่นเพลงอื่นๆ ที่ฟังสบายๆ คลอไปตลอดทาง

พอข้ามแม่น้ำบางปะกงมาแล้วสนก็แวะจอดที่จุดพักรถระหว่างทางเพื่อเข้าห้องน้ำและซื้อน้ำดื่ม ต้นนั่งรออยู่ในรถเพราะยังไม่รู้สึกปวด ไม่นานนักสนก็กลับมาพร้อมกับน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวจำนวนหนึ่งเผื่อไว้เวลาหิว จากนั้นจึงเดินทางไปต่อจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง

สนขับรถไปตามถนนเลียบชายหาดบางแสน พอเจอโรงแรมที่เหมาะๆ แล้วก็พาต้นเข้าไปเช็คอิน คืนนี้ต้นกับสนคงจะพักด้วยกันหนึ่งคืนเป็นอย่างน้อยหรือจนกว่าต้นจะอารมณ์ดีขึ้น แม้ว่าจะเป็นห่วงร้านแต่สนก็เป็นห่วงต้นมากกว่า ทางนั้นสนให้พ่อกับแม่ช่วยดูให้ได้อยู่ ส่วนนินา ถ้าเธอเบื่อๆ อยากจะกลับเชียงใหม่ไปก่อนสนก็คงไม่ว่าอะไร

สนพาต้นเดินลงมาที่ชายหาด ความทรงจำเดิมๆ ในวันนั้นกลับมาอีกครั้งทันทีที่มองเห็นทะเลที่ทอดตัวไปไกลสุดลูกหูลูกตา สนกับต้นเคยมาวิ่งเล่นบนชายหาดแห่งนี้ เคยนั่งดูดาวด้วยกันจนทำให้ต้นสนใจอยากไปดูดาวที่ดอยอินทนนท์เหมือนสนบ้าง ไม่น่าเชื่อว่าดอยอินทนนท์กับชายหาดบางแสนจะมาเชื่อมโยงกันได้ นี่แหละนะที่เขาเรียกว่า "ฟ้าลิขิต"

สนเดินหาไม้ยาวๆ ที่พอจะวาดรูปได้มากิ่งหนึ่ง จากนั้นก็ลากและวาดเส้นไปมาบนผืนทรายอย่างตั้งอกตั้งใจ ต้นคอยยืนดูอยู่ด้วยความอยากรู้ แม้จะเศร้าแต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับสนลำพังสองคน

"รูปอะไรเหรอ"

"เดี๋ยวสิ ยังวาดไม่เสร็จเลย" สนบอกแล้วก็ใช้กิ่งไม้ขีดเขียนไปมาบนผืนทรายต่อสักพัก

"เสร็จแล้ว นายทายสิว่าเป็นรูปอะไร" สนวางกิ่งไม้ลงข้างๆ รูปนั้น ปัดเศษทรายออกจากมือแล้วก็หันมายิ้มให้ต้น

"อืม...รูปคน มีสองคน แต่ไม่รู้ว่าใคร"

"ก็รูปเรากับนายไง เหมือนรูปที่อยู่บนหัวเตียงของเราสองคนไหม"

ต้นพยายามเพ่งดูอีกครั้งอย่างตั้งใจ
 
"ก็คล้ายๆ นะ"

"นายนั่งข้างๆ รูปนี้ได้ไหม เดี๋ยวเราถ่ายรูปให้"

ต้นพยักหน้าแล้วนั่งชันเข่าลงไปบนผืนทรายตรงจุดที่สนชี้บอก พยายามยิ้มอย่างมีความสุขเท่าที่พอจะทำได้ พอถ่ายรูปเสร็จแล้วสนก็ไปนั่งบ้าง ให้ต้นเป็นคนถ่าย จากนั้นก็สอดส่ายสายตาหาผู้โชคดีที่จะช่วยถ่ายรูปต้นกับสนนั่งข้างๆ รูปนี้คู่กัน มีชายชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งผ่านมาพอดี เด็กมนุษย์ศาสตร์อย่างต้นจึงอาสาช่วยสื่อสารกับหนึ่งในนั้นให้ช่วยถ่ายรูปต้นกับสนให้

"Thank you very much." ต้นกล่าวขอบคุณเมื่อชาวต่างชาติกลุ่มนั้นถ่ายรูปให้เสร็จแล้ว ไม่นานก็เดินจากไป

สนเปิดรูปในมือถือแล้วเลื่อนให้ต้นดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปอีกครั้ง

"นายเก็บรูปพวกนี้ไว้ให้ดีๆ นะต้น เวลานายอยู่ต่างประเทศ เหงาๆ ไม่มีใคร นายดูรูปพวกนี้นะ เราจะไปอยู่ข้างๆ นาย เราจะตามนายไปทุกที่เลย"

คนฟังอดน้ำตาซึมไม่ได้ โดยเฉพาะในเวลานี้ที่หัวใจกำลังอ่อนแอ

"จำไว้นะต้น ต่อให้ใครไม่รักนาย ไม่ต้องการนาย นายยังมีเราอยู่เสมอนะ"

"ขอบคุณมากสน เรารู้...เรารู้ว่านายไม่เคยทิ้งเราไปไหน"

สนลูบผมต้นเบาๆ สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นบ่งบอกความรักความห่วงใยเป็นอย่างดี

"อย่าร้องไห้ เดี๋ยวไม่หล่อ"

ต้นหัวเราะเบาๆ ที่สนยังอุตส่าห์มีอารมณ์ขัน

"นาย...พร้อมจะเล่าหรือยังต้น"

ต้นพยักหน้า สนมองหาที่ที่จะนั่งคุยกัน แล้วก็ตัดสินใจเดินขึ้นมานั่งบนขอบฟุตบาทของทางเท้าเลียบชายหาด สนเลือกที่เงียบๆ ไม่ค่อยมีคนรบกวนเพราะรู้ว่าต้นอาจจะร้องไห้ได้ พอได้ที่เหมาะๆ แล้วต้นก็เริ่มเรื่อง

"พ่อ...เขาพูดกับเราว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก"

คนเล่าอดที่จะร้องไห้อีกไม่ได้ นึกถึงคำพูดนี้ทีไรต้นก็เสียใจทุกครั้ง ลูกชายคนเดียวที่พ่อแม่ทั้งรักและห่วงนักห่วงหนา อยากได้อะไรก็ได้ เพียงเพราะต้นเป็นเกย์แค่นี้พ่อก็ถึงกับไล่ต้นออกจากบ้าน

"พ่อเขาไม่รักเราแล้วใช่ไหมสน เขาถึงไล่เราออกจากบ้าน ทำไมล่ะสน เราผิดมากเหรอที่เราเป็นแบบนี้"

สนโอบไหล่ต้น ใช้มือตบต้นแขนของต้นเบาๆ เป็นการปลอบใจ

"นายไม่ผิดหรอกต้น แต่พอของนายเขาก็ไม่ผิดนะ พ่อแอ๊ดคงตกใจก็เลยพูดแบบนั้น ให้เวลาพ่ออีกนิดนะต้น ไม่ต้องห่วงนะ ถ้านายไม่มีที่ไปก็ไปอยู่บ้านเรา พ่อกับแม่เราก็รักนายเหมือนลูกชายคนหนึ่ง นายจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ รอให้พ่อนายใจเย็นๆ ลงก่อน เดี๋ยวเราจะไปคุยให้เอง"

ต้นมองหน้าสนทั้งน้ำตา คราวที่แล้วสนก็คุยกับแม่ให้ คราวนี้สนยังจะช่วยคุยกับพ่อให้อีก ต้นโชคดีเหลือเกินที่ได้มารู้จักกับเพื่อนคนนี้ สนไม่เคยทิ้งต้นไปไหนเลย เดือดร้อนลำบากแค่ไหนก็คอยช่วยเหลือมาตลอด จะว่าไปก็มีแต่ต้นนี่แหละที่เคยคิดจะทิ้งเพื่อนไป คราวที่แล้วก็เกือบจะทิ้งสนไปเรียนที่อื่น ดีที่คิดได้และเปลี่ยนใจทีหลัง

แต่คราวนี้...ต้นคงต้องไปจริงๆ!

"ขอบคุณมากสน เราจะไม่ลืมบุญคุณของนายเลย"

"อย่าคิดอย่างงั้นสิต้น ไม่มีบุญคุณอะไรหรอก ก็นายบอกเราเองไม่ใช่เหรอว่าเราสองคนต้องดูแลกัน ถ้าเราไม่ดูแลกันเราจะเป็นเพื่อนกันมาได้นานขนาดนี้เหรอ เราบอกนายแล้วไง นายเป็นความสุขของเรานะต้น เราทำให้นายได้ทุกอย่างขอแค่ให้นายมีความสุข"

ต้นอดที่จะโผเข้ากอดคนข้างๆ อีกไม่ได้ นอกจากพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิดแล้ว ต้นก็ไม่เห็นว่าจะมีอ้อมกอดของใคร สายตาของใคร น้ำเสียงของใคร กลิ่นกายของใคร หรือสัมผัสของใครที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อต้นได้มากเท่ากับสนอีกแล้ว

ต้นอดใจหายไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งสนกลับมาหาต้นไม่ได้อย่างที่สัญญาไว้ล่ะ ก็แปลว่าต้นจะไม่มีโอกาสได้รับสิ่งต่างๆ เหล่านี้จากสนอีกเลย ต้นกลัวเหลือเกิน กลัวว่าสนจะกลับมาหาต้นอีกไม่ได้

สนปล่อยให้ต้นอยู่ในอ้อมอกอย่างนี้นานเท่าที่ต้นต้องการ แม้ว่าใครเดินผ่านไปผ่านมาจะมองดูด้วยสายตาแปลกๆ บ้างก็ช่างเขาเถิด ในเวลานี้สนทำอะไรก็ได้เพื่อให้ต้นสบายใจ

ต้นหยุดร้องไห้ไปแล้ว นั่งนิ่งและเหม่อลอยอีกครั้งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คิดอยู่นานทีเดียวต้นจึงหันกลับมามองสน แววตาเศร้านั้นทำให้หัวใจของสนพลอยเศร้าตามไปด้วย

"สน...นาย...รักเราไม่ได้เหรอ นายอยู่กับเราแบบนี้...ตลอดไปได้ไหม ตั้งแต่วันนี้เลย...ได้ไหมสน ได้หรือเปล่า"

ในยามที่หัวใจอ่อนแอและบอบช้ำอย่างนี้ ต้นก็อยากเห็นแก่ตัวบ้าง ผิดหรือที่ต้นอยากให้สนคอยอยู่ดูแลกันและกันอย่างนี้จนวันสุดท้ายของชีวิต ทำไมต้นต้องรอคอยนานกว่านี้อีกล่ะ ทำไมต้นถึงต้องยอมเสียสละสนให้กับคนอื่น ทำไมต้นถึงไม่ควรเป็นคนๆ นั้นเสียเองในวันนี้และตอนนี้ ต้นรักสนมานานแล้ว และถ้าดูไม่ผิด สนก็คงรักต้นมานานแล้วเหมือนกัน แล้วทำไมต้นถึงต้องยอมเสียคนที่รักไปโดยไม่รู้ว่าจะได้คืนกลับมาเมื่อไหร่

พอเจอคำถามนี้เข้าไปสนก็เข้าใจทันทีว่า "น้ำตาร่วง" เป็นอย่างไร สนเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน ใช้มือป้ายน้ำตาที่รินไหลลงมาด้วยความสะเทือนใจ

"เรากลัวน่ะสน เรากลัวเราต้องเสียนายไป กลัวว่าเรา...จะไม่มีวันได้กลับมาใช้เวลาด้วยกันแบบนี้อีก เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดอะไรๆ มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้ ถ้านายเป็นของคนอื่นไปแล้วแล้วกลับมาไม่ได้ เราจะทำยังไงล่ะสน ไม่มีใครดูแลเราได้เหมือนนายเลย เราไม่ต้องการความอบอุ่นจากใครนอกจากนาย เรากลัวน่ะสน กลัวว่านายจะเป็นของคนอื่นแล้วไม่กลับมาหาเราอีก"

"ต้น..." สนหันกลับมามองต้นด้วยใบหน้าที่มีแต่น้ำตาพอๆ กัน รู้สึกสมเพชตัวเองที่ให้คำตอบต้นไม่ได้เลยเพราะมันเป็นสิ่งที่สนก็กลัวอยู่เหมือนกัน

"ไม่ได้เหรอสน ไม่ได้ใช่ไหม"

สนรู้สึกเหมือนใจกำลังจะขาดรอนๆ ถ้าหากให้เลือกระหว่างตายไปกับมีชีวิตอยู่แล้วได้ยินคำถามนี้ สนคงเลือกอย่างแรกเสียดีกว่า

พอสนไม่ตอบคำถาม ต้นก็เลยรู้ตัวว่าตัวเองคงคาดคั้นสนมากไปเป็นแน่

"ขอโทษนะสน ขอโทษที่ทำให้นายลำบากใจ"
 
ต้นพยายามสะกดกลั้นน้ำตา รวบรวมความเข้มแข็งทั้งหมดเท่าที่พอจะมีเหลืออยู่ขึ้นมาอีกฮึด

"นายลืมมันเถอะ ถือซะว่าเราไม่ได้พูดอะไรละกันนะสน"

สนดึงต้นเข้ามากอดไว้ด้วยความสะท้อนใจ ทำไมความรักของต้นกับสนถึงยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน สนอยากจะพาต้นไปหาพ่อกับแม่เสียวันนี้พรุ่งนี้ แล้วก็บอกท่านไปเลยว่าเขากับต้นรักกัน ถ้าพ่อกับแม่รับไม่ได้ เขาก็ยินดีที่จะพาต้นหนีไปอยู่ที่อื่น แต่สนก็ทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่ได้ผิดอะไรที่ไม่เข้าใจ เพราะท่านเกิดมาในสภาพสังคมที่ต่างกัน ถูกสอนให้เชื่อไม่เหมือนกัน สนจึงต้องเลือกที่จะให้เวลาพ่อกับแม่มากกว่าที่จะดื้อรั้นทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการฝ่ายเดียว สนรู้จักพ่อดี ถ้าสนทำอย่างนั้นก็จะเจอคำพูดคล้ายๆ กับที่ต้นเจอจากพ่อของตัวเองวันนี้ ถ้าสนมีพี่หรือน้องสักคนก็อาจจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้

หัวใจของสนเหมือนถูกบดขยี้จนแทบแหลกสลายแล้ว แล้วสนจะทนเห็นคนที่ตัวเองรักเสียใจอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน น้ำตาของต้นเหมือนทิงเจอร์ที่หยดลงไปบนแผลสดๆ ต้นเจ็บแค่ไหน...สนก็คงเจ็บไม่ต่างกัน



สนกับต้นหายไปด้วยกันหลายชั่วโมงแล้ว ไม่มีทีท่าว่าจะติดต่อได้ มิหนำซ้ำพ่อแม่ที่เป็นเจ้าของบ้านก็ดูจะไม่เดือดร้อนสะทกสะท้านใจที่สองคนนี้หายตัวไป นินาจึงตัดสินใจกลับบ้านที่เชียงใหม่โดยให้เหตุผลกับพ่อและแม่ของสนว่าเธออยากไปขายของช่วยปีใหม่ ช่วงนี้มีคนมาจับจ่ายใช้สอยเยอะ เธอถึงกับต้องยอมเสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เพราะอันเดิมเปลี่ยนเวลาไม่ได้ ที่สำคัญ จะให้เธอทนอยู่บ้านกับคนแก่สองคนที่ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน สนไม่อยู่แล้วบ้านหลังนี้ก็ไม่เหลือความน่าสนใจใดๆ

ระหว่างทางที่นั่งแท็กซี่ไปสนามบิน นินาก็โทรหาเพื่อนซี้เพื่อระบายอารมณ์เช่นเคย

"อีบิว ฉันโคตรเซ็งเลยแก พี่สนของฉันหายไปไหนก็ไม่รู้ ติดต่อก็ไม่ได้ ฉันกำลังจะบินกลับเชียงใหม่แล้ว" นินากระแทกเสียงลงไปเมื่อเพื่อนรับสาย

"อ้าว แล้วผัวแกหายไปไหนล่ะ"

"ไม่รู้ หายไปกับพี่ต้นน่ะ ไม่รู้อะไร ติดต่อไม่ได้ทั้งคู่เลย ถามแม่พี่สนก็ไม่ยอมบอกว่าพี่สนไปไหน" นินาค้อนปะหลับปะเหลือกทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในรถด้วยนอกจากคนขับแท็กซี่

"ฉันว่านะ แกต้องระวังเพื่อนพี่สนคนนี้หน่อยนะเว้ย มีคนบอกฉันว่าเขาเคยเป็นแฟนกับคนชื่อทิน ไม่รู้แกเคยเห็นหรือเปล่า แต่ฉันเคยเจอครั้งสองครั้งนี่แหละ เขาเป็นเกย์นะแก ถ้าพี่ต้นเป็นแฟนกับเกย์ก็แสดงว่าพี่ต้นก็น่าจะเป็นเกย์นะเว้ย" บิวตี้บอกข้อมูลใหม่ให้เพื่อนฟังอย่างตื่นเต้น

"อะไรนะ พี่ต้นเคยเป็นแฟนกับเกย์เหรอ"

"ก็ใช่น่ะสิ ฉันบอกแล้วแกไม่เชื่อฉันเองว่าผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ผู้ชายดีๆ ขยันๆ อย่างที่แกชอบก็ว่าหายากแล้ว เดี๋ยวนี้ผู้ชายแท้ๆ ก็หายากพอกันนะแก"

นินาชักร้อนใจ ถ้าต้นเป็นเกย์ แล้วสนก็หายไปกับต้นโดยไม่รู้ว่าหายไปไหน นินาไม่อยากจินตนาการต่อเลย

"แกแน่ใจนะอีบิว"

"เออสิวะ อีนี่ แกคิดว่าฉันโกหกแกเล่นหรือไง อ้อๆ ว่าแต่แกได้ใช้ยานั่นหรือยังล่ะ หรือว่าไม่ต้องใช้"

นินาถอนหายใจอย่างเซ็งๆ "ใช้สิยะ ถ้าไม่ใช้แล้วเขาจะยอมฉันไหมล่ะ แต่ฉันก็ชักเซ็งแล้วว่ะ ยังไงๆ เขาก็ไม่สนใจฉันอยู่ดีแหละ กำลังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะเลิกเลยดีไหม แต่ฉันก็ชักอยากได้ร้านเขาว่ะ ฉันเพิ่งไปดูมา ใช้ได้เลยนะแก ทำเลดีด้วย"

"ถ้าอยากได้ก็ทนๆ เอาหน่อยสิวะ หาทางเอามาเป็นของแกให้ได้ก่อนแล้วค่อยหย่ากันก็ได้"

"ทำไงวะแก"

"โอ๊ย มีวิธีตั้งเยอะแยะ แกก็ถนัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไอ้เทคนิคพวกนี้ จะมาถามฉันทำไม"

"อ้าวอีนี่ แกด่าฉันเหรอ"

"ชมต่างหากล่ะ" บิวตี้หัวเราะชอบใจ

"เดี๋ยวเถอะ ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่วันนี้แกไปไหนไหม ฉันเซ็งว่ะ เดี๋ยวเย็นๆ ฉันไปถึงแล้วจะไปหา ไปหาอะไรดื่มแก้เซ็งหน่อย" ปกตินินาไม่ค่อยเหลวไหลหรอก แต่ช่วงหลังๆ มานี้เธอก็เผลอทำอยู่บ่อยๆ เหมือนกันเวลาเครียดๆ

"เออ...ก็ว่างอยู่ มาเลย เดี๋ยวฉันนัดแก๊งค์เดิมให้"

"ดีๆ ถ้าฉันไปถึงแล้วจะโทรหา"

นินาวางสายไปแล้วก็ถอนหายใจฟึดฟัดอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นทีเธอจะต้องทำอะไรบางอย่างกับต้นบ้างแล้วล่ะ หวังว่าคงจะไม่คิดมาเป็นคู่แข่งกับเธอหรอกนะ ไม่งั้นก็จะได้เห็นดีกัน



บรรยากาศที่สระว่ายน้ำของโรงแรมในช่วงเย็นวันนี้มีคนบางตากว่าที่เคย คงเป็นเพราะหลายคนเลือกที่จะไปเดินเล่นชายหาดในยามที่แดดร่มลมตกและอากาศเย็นสบาย นอกจากนี้ หลายๆ คนก็เริ่มออกไปจับจองร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนกันบ้างแล้ว สนเลยถือโอกาสดีๆ อย่างนี้มาว่ายน้ำที่โรงแรมที่พักแทนการออกไปข้างนอก

พอมาถึงต้นก็ไม่ยอมลงเล่นด้วยเพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่ค่อยสบาย สนก็เลยต้องลงสระคนเดียว อยากเล่นมากจนถึงกับต้องแวะไปซื้อกางเกงว่ายน้ำแบบทรังค์สีดำมาใส่ หมดเงินไปก็หลายบาทอยู่เพราะสนเป็นคนชอบใช้ของดี พิถีพิถันในการเลือกเสื้อผ้ายิ่งกว่าสาวๆ อีก

สนว่ายน้ำกลับไปกลับมาไม่กี่รอบก็มาป้วนเปี้ยนเกาะขอบสระคุยกับต้นที่นั่งเล่นอยู่ข้างๆ สระว่ายน้ำ

"กินมั่งดิ"

ต้นหยุดกินขนมขบเคี้ยวที่สนซื้อมาเมื่อตอนกลางวันแล้วก็มองหน้าคนที่ร้องขอกินด้วยเหมือนเด็ก

"กินไงล่ะ"

"ป้อนดิ"

"เอางั้นเหรอ" ต้นทำหน้าเหรอหรา

สนพยักหน้า "อืม"

ต้นหันไปมองรอบๆ พอสบจังหวะไม่มีใครมองก็หยิบมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบส่งเข้าปากสนไป ดูเหมือนทั้งคู่จะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วหลังจากที่ไปเล่นพาราชูตด้วยกัน สงสัยเพราะเจ้าเครื่องเล่นนี้นี่แหละที่ทำให้ต้นส่ออาการไม่สบาย

"แผ่นเดียวเองเหรอ ขออีกได้เปล่า" สนอ้อนเหมือนเด็ก

"งั้นนายก็หยิบกินเองดิ" ต้นว่า

"หยิบได้ไงล่ะ ก็มือเราเปียกอยู่"

"ก็ขึ้นมาดิ"

"ไม่เอา เราอยากว่ายน้ำ"

"ก็เห็นว่ายแป๊บเดียวเอง อุตส่าห์ไปซื้อกางเกงว่ายน้ำมาตั้งแพง"

"ก็เราอยากให้ต้นป้อนไง" เมื่อไม่รู้จะเถียงยังไงสนก็เลยต้องบอกไปตรงๆ จนคนฟังชะงัก

"งั้นให้อีกสองแผ่นพอนะ" ต้นแกล้งแหย่เล่น

"อะไร ให้แค่สองแผ่นเองเหรอ ขอห้าแผ่นได้ไหม จะได้เท่ากับจำนวนปาฏิหาริย์ห้าครั้งของไอ้จั่นมันไง" พูดแล้วก็หัวเราะ

"ก็ได้"

ว่าแล้วต้นก็หยิบมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบส่งเข้าปากสนทีละแผ่นๆ จนครบห้าแผ่นพอดี เห็นสนเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วก็อดหัวเราะอย่างเอ็นดูไม่ได้

"พอแล้ว ไปว่ายน้ำต่อได้แล้ว"

"ก็เราอยากคุยกับต้นแบบนี้ไง มีความสุขดี"

ต้นสบตากับคนที่ทำเสียงออดอ้อนแล้วก็ยิ้ม "เวลานายทำแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ"

"ก็น่ารักแบบนี้ไง คนบางคนถึงได้รักเรามาเป็นสิบๆ ปีเลย"

สายตาเป็นประกายของสนทำให้คนฟังทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ดูยิ้มมีความสุขดี แค่นี้สนก็ดีใจแล้วที่ทำให้ต้นหายเครียดไปได้บ้าง

"เราทำตัวน่ารักแบบนี้กับนายคนเดียวเท่านั้นนะ รู้เปล่า"

"เหรอ" ต้นทำเสียงทะเล้น "อีกสักแผ่นไหม"

สนพยักหน้าพร้อมกับอ้าปากรอ ต้นส่งมันฝรั่งเข้าปากสนไปแล้วก็ไล่ให้สนไปว่ายน้ำต่อ

"ไปว่ายน้ำได้แล้ว จะได้คุ้มกางเกงว่ายน้ำที่ซื้อมาหน่อย เราจะกินขนม ไม่ให้แย่งแล้ว"

"คร้าบบบ คุณต้น" สนทำเสียงล้อเลียนแล้วก็ถลาไปอยู่กลางสระว่ายน้ำ หันมายิ้มให้กับต้นแว่บหนึ่งแล้วก็กลับไปว่ายน้ำเล่นต่อ

นี่แหละความรักของชายที่ชื่อสน แม้จะไม่ได้พูดออกมาเป็นคำพูด แต่สนก็แสดงผ่านทุกการกระทำของเขามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ถ้าทำขนาดนี้แล้วต้นยังดูไม่ออกสนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วล่ะ



หลังจากที่ขับรถวนหาอยู่นาน ในที่สุดต้นกับสนก็เจอที่หมายเสียที ร้านอาหารทะเลร้านเดิมที่เคยมากินกับครอบครัวตอนที่มาเที่ยวคราวนั้นยังคงเปิดอยู่ แต่สภาพเปลี่ยนไปพอสมควรจนต้นกับสนจำไม่ได้ถ้าไม่เห็นชื่อร้านเสียก่อน คราวนี้ก็คงจะได้กินอาหารทะเลแสนอร่อยให้สมใจอยาก

แม้ว่าคนในร้านจะค่อนข้างเยอะเพราะเป็นช่วงปีใหม่ ต้นกับสนก็ยังโชคดีที่ยังพอมีโต๊ะว่างอยู่ เมื่อนั่งลงแล้วก็จัดแจงสั่งอาหารทะเลอย่างที่ชอบโดยไม่รอช้า ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ รอให้คนอยากกินลงมือจัดการ

ปกติสนจะเป็นฝ่ายบริการเวลากินข้าวด้วยกัน แต่คราวนี้ต้นต้องเป็นฝ่ายบริการบ้างเพราะสนแกะกุ้งกับปูไม่เป็น ต้นจะสั่งแบบที่แกะมาแล้วสนก็ไม่ยอม ถ้าต้นไม่แกะให้ก็จะไม่กิน ดื้อเหมือนกับตอนที่ไม่สบายแล้วไม่ยอมให้ใครเช็ดตัวให้นอกจากต้น เล่นเอาวุ่นวายกันไปทั้งบ้านที่ต้องไปตามต้นมาช่วยเช็ดตัวให้ สนก็เป็นแบบนี้ เรื่องไหนที่จะให้ต้นทำก็ต้องเป็นต้นเท่านั้น คนอื่นแทนไม่ได้

"ไหวไหม" สนถามขณะนั่งรอต้นแกะเนื้อปูให้

"ไหวดิ ไม่เห็นยากเลย" ต้นเงยหน้ามาตอบ

"ไม่ได้ถามเรื่องนั้น ที่นายบอกว่าไม่สบาย ไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวเราะจะได้กลับโรงแรมไวๆ"

"ไม่เป็นไร พอไหวอยู่"

"เดี๋ยวเราแวะซื้อยาให้นะ"

ต้นพยักหน้า อดคิดเรื่องที่คุยกับสนเมื่อกลางวันอีกไม่ได้ พอได้อยู่ดูแลกันสองคนแบบนี้ต้นก็เกิดความรู้สึกกลัวจะต้องเสียสนไปอีกแล้ว จะว่าต้นเห็นแก่ตัวก็ยอมล่ะนะ ต้นก็รักของต้นมาตั้งนาน จะให้ทำใจยอมเสียไปง่ายๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย

"ดีจัง แกะไม่เป็นก็มีคนแกะให้กิน" สนพูดขึ้นหลังจากที่ต้นส่งเนื้อปูที่แกะแล้วมาให้

"ก็เราจะสอนให้นายก็ไม่ยอม"

"ไม่เอาหรอก ถ้าทำเป็นแล้วนายก็จะไม่ได้แกะให้เราอะดิ"

"ซะงั้น" ต้นหัวเราะแล้วก็หันไปมองวิวทะเลบ้าง

"คิดถึงตอนนั้นที่เรามากับพ่อกับแม่นะ ก่อนนายไปเมืองนอก เราพาพ่อกับแม่มาเที่ยวที่นี่อีกดีไหมต้น"

ต้นหันกลับมา สีหน้าดูเจื่อนลง "จะได้เหรอ พ่อจะให้เราเข้าบ้านหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย"

สนพลาดไปเสียแล้วที่ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป "ขอโทษทีต้น นายไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวเราจะคุยกับพ่อนายให้เอง พ่อนายเขารักนายจะตาย เขาไม่ทำอย่างงั้นหรอก เชื่อเราดิ"

ต้นถอนหายใจ พยายามยิ้มแล้วก็พยักหน้า "จริงด้วยสินะ มีสนเป็นเพื่อนทั้งคน จะกลัวอะไร"

ต้นยังคงใช้คำว่าเพื่อนกับสนอยู่ ตราบใดที่คำว่ารักยังไม่หลุดมาจากปากสน ต้นก็คงไม่กล้าใช้คำไหนนอกจากคำนี้

"แกะปูให้เราเลย เราอยากกินอีก" สนเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับทำน้ำเสียงอ้อนเหมือนเด็กเช่นเคย

"คร้าบบบบ คุณท่านสน เดี๋ยวกระผมจะแกะปูให้คุณท่านสนรับประทานเองคร้าบบบ กระผมขอประทานอภัยที่ช้าคร้าบบบคุณท่านสน"

ต้นเล่นเป็นเด็กบ้าง

"งั้นก็รีบแกะเร็วๆ เลย ไม่งั้นจะโดนคุณท่านสนทำโทษไม่ใช่น้อย"

แล้วต่างคนต่างก็หัวเราะมีความสุข อีกไม่นานเวลาแบบนี้ของต้นกับสนก็คงไม่มีอีกแล้ว ต้นกับสนนึกไม่ออกเหมือนกันว่าหลังจากสามปีแล้วได้กลับมาเจอกัน ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังเหมือนเดิมอยู่ไหม เอาง่ายๆ ต้นไม่ได้เจอเพื่อนสมัยมัธยมมาสี่ห้าปี ต่างคนต่างไปมีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ พอกลับมาเจอกันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องเจอกัน ไม่รู้สึกว่าขาดกันไม่ได้ พอห่างไปแล้วเราก็จะปรับตัวให้ชินกับชีวิตใหม่ที่ไม่มีอีกคนได้เอง พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อชินแล้วไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ก็ได้แต่หวังว่าความสัมพันธ์ของต้นกับสนคงจะไม่เป็นอย่างนั้น

TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดให้กำลังใจ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2015 07:56:32 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ป๊าดดดดดดดดดดด มาลงไวมากกกกกกก ใจดีที่สุดๆๆๆ :z2: ตอนนี้ทั้งต้นและสนเหมือนกำลังเก็บความสุขของกันและกันไว้ สนโตขึ้นมากทั้งร่างกายและความคิดความอ่าน ไม่ใจร้อนผลีผลาม เชื่อว่าสนต้องวางแผนดีๆไว้แน่ในการจะรองรับความสัมพันธ์กับต้นในอนาคต เราเชื่อว่าสนจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อย และคงจะถีบนังชะนีผสมปลิงออกจากตัวได้เร็วๆ ยิ่งได้ยินคุยกับเพื่อนแล้วยิ่งอยากจะ  :beat: รัวๆๆๆ ขอให้ใครมาได้ยินทีเถอะ จะได้รู้สันดานเร็วๆ  :call:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สนเสียตัวให้ยัยนินารอบสองจนได้สินะคะ
-*- เราว่าที่นิสัยนินาเป็นแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอบรมสั่งสอนของคนในครอบครัวหรอกค่ะ แต่มันเป็นเพราะความไม่รักดีของตัวนินาเองมากกว่า เพราะมีถมไปที่พ่อแม่สั่งสอนลูกผิดๆ แต่ลูกก็เลือกที่จะไม่ปฏิบัติตาม ครั้งแรกยังพอว่าแต่ครั้งต่อมานี่มันไม่ใช่แล้วไงคะ เพราะแบบอย่างดีๆ ก็มีให้ดูตั้งเยอะแยะแท้ๆ การศึกษาไม่ช่วยอะไรเธอเลยจริงๆ ขนาดเลือกคบเพื่อนยังมีตาหามีแววไม่เลยนะคะน่ะ ก๊อปปี้นิสัยออกมาเหมือนกันเด๊ะๆ เลย :a6:

สนปกป้องต้นด้วยน้าา เพราะน่าเป็นห่วง
ว่าแค่ต้นคนเดียวจะรับมือยัยนินา..ผู้หญิงมากมารยาแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ใจไม่ค่อยดีเลยค่ะ :monkeysad: ..

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
อืมความสุขคง อยู่ได้ไม่นาน คงจะมีปัญหามาอีกสินะ ถ้านินาไม่ได้รับกรรม คงเสียความรู้สึกแย่ รอต่อไปกับกรรมที่นินาจะได้รับ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อ่านตอนหลังมานี่ นินาไม่ได้รักสนเลยนะ   นางอยากได้อยากครอบครองอยากเอาชนะ แล้วตอนนี้ก็กะจะฮุบเอาร้านอาหารที่สนลงทุนลงแรงสร้าง  เราว่านินาเวอร์ชั่นนี้ร้ายกว่าแรงกว่าเวอร์ชั่นเดิมเยอะ เพราะว่านี่ไม่ใช่แค่นางอยากได้ผู้ชาย แต่ใจนางคิดคดดีดรางแก้ว    ท่าพ่อแม่สนก็คงจะโน่นแหละมารู้สึกตัววันที่ต้องเสียหรือเกือบเสียร้านให้กับนินา

ความเปลี่ยนแปลงมาคู่กับเวลาค่ะ   ไม่มีเราเขาอยุ่ได้ ไม่มีเขาเราก็อยุ่ได้ เพราะว่าตราบใดที่ความรักยังไม่เป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับคนๆนั้นชีวิตก็ไปได้เรื่อยๆ

ในกรณีที่พ่อแม่ไม่ยอมรับนี่เราแนะนำได้อย่างเดียวก็คือให้ลูกทำมึน  ถ้าทำได้ก็แยกออกมาอยู่และใช้ชีวิตตามที่ต้องการแต่ในขณะเดียวกันก็อย่าได้ละเลยพ่อแม่   กลับไปหาตามปกติ  ทำเหมือนเดิมต่อให้พ่อแม่จะทำไม่ดีใส่อย่างไรก็ตาม   ทำเนียนๆำาแฟนไปด้วย  อะไรๆก็แพ้ความใกล้ชิดและการได้เห็นได้รู้จัก  แต่ทั้งคู่ต้องคุยและตกลงกันก่อนว่าทำไหวไหมเพราะว่ามันจะยากลำบากและน่าท้อมากๆกับการต้องมาผจญกับความเกลียดชัง  ไม่งั้นก็ห่างออกมาเลยและคอยดูอยุ่ห่างๆ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 919
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
อ่านตอนนี้แล้งยิ่งมองเห็นภาพ ความรักที่ถูกกั้นไว้ด้วยคำจำกัดความว่าเพศ  บางครั้งก็เหมือนแค่อะไรที่บางๆมากั้นกลางระหว่างคนสองคน  :mew6: สงสารสนและต้นจับใจเลย

แต่พอมาถึงยายนิน่า แล้วอยากเข้าไป :beat:   :ling1: เมื่อไหร่นางจะรู้ตัวซะที อยากรู้จริงๆ ว่าพ่อแม่สนรักยายนิน่าเข้าไปได้อย่างไร ดูซิ คิดได้ยังไง ไม่อยากอยู่กับคนแก่สองคนพ่อแม่ก็ไม่ใช่ แค่นี้ก็ไม่น่าเอามาเป็นลูกสะใภ้หรอกนะ มีหวังได้ถอนหงอกพ่อแม่สามีแน่เลย อ่านแรกๆก็เหมือนเด็กน่ารักใสซื่อ แต่อ่านตอนนี้ นางร้ายละครหลังข่าวชิดซ้ายไปเลย

ิอินมาก ขออภัยนะค่ะคนแต่ง   :L2: :L2: ให้คนแต่งค่ะ ที่แต่งนิยายได้น่าอ่านที่สุด

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DLuciFer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นินาโลภมาก แย่ น่าเกลียดจริง  :m16:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจเลยว่า ต้น สน นินา มาจากครอบครัวที่แตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด คบกันไปนานๆเดี๋ยวลายมันก็ออกเองจริงๆ ยัยนินาเดี๋ยวจะเจอผลกรรมสนอง
             ป๊าดดดโถ๊ะ!!  สนพลาดท่าให้นินาไปแล้วจริงๆ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแล้วสินะ คราวนี้อย่าอ้างนะว่าท้องน่ะ ๕๕๕  สนไม่รู้เรื่องเลยเหรอรึว่าเก็บข้อมูลอยู่ไว้เล่นงานยัยนินาทีหลัง ๕๕๕
             สนปลอบใจต้นได้ดีทีเดียวถึงแม้จะปิดๆอะไรนิดๆหน่อยๆก็เถอะ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ

         

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :katai1: นังชะนีนินาตบแล้วถ่วงน้ำเลยดีมั้ย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รักกันไม่ได้มันช่างเจ็บปวด
ต้นก็รอฟัง สนก็บอกไม่ได้
ส่วนนินาไม่ได้อยากได้ความรักจากสน
แต่อยากได้ตัวสนและสมบัติของสน
น่าสงสารพ่อแม่สนที่เอ็นดูงูพิษ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :เฮ้อ: เหมือนเก็บสิ่งดีดีก่อนจากงั้นแระ

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
แผนของสนนี่คืออะไรยังไง ที่บอกว่ามีแผนนี่จะได้ผลรึถ้ายังตกหลุมไปกับยาปลุกของนินาอยู่แบบนี้

เก็บความสงสัยและค้นหาความจริงบ้างเถอะสนที่พลาดไปนอนกับนินาเพราะอะไร ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลยอยู่แบบนี้

รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ย อยากให้สนรู้ไวๆ จังว่าตัวเองโดนยาอ่ะ หรือว่าจะรู้ก็ตอนที่แต่งงานกับยัยนิน่าแล้วเพราะทะแม่งๆ กับสปอย์ที่สนว่า สนต้องเสียอะไรไปบ้างกับสิ่งที่นิน่าทำ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
อ่านคอมเมนต์แล้วคนเขียนก็อดขำไม่ได้ ตอนนี้บรรดาคุณผู้อ่านทั้งหลายต่างก็ให้ศีลให้พรแม่หนูนินากันใหญ่เลย
เวอร์ชั่นนี้เธอร้ายกว่าเวอร์ชั่นที่แล้วเยอะเลยครับ เพิ่มดีกรีความแรงสุดๆ ไปเลย ต่อไปจะยิ่งกว่านี้

ฉากที่สระว่ายน้ำของสนกับต้น ผมได้ไอเดียมาจากที่คอนโดผมนี่เอง พอดีวันนั้นนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียง มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำ
บังเอิญเห็นสองหนุ่มมาว่ายน้ำ อีกคนลงว่าย อีกคนนั่งฟังเพลงแล้วก็กินขนมอยู่ข้างๆ สระ คนที่ว่ายน้ำอยู่ก็มาคุยด้วย
แล้วก็เห็นเขาป้อนขนมกัน นั่งดูแล้วก็แอบฟินอยู่คนเดียว คิดว่าต้องเอาฉากนี้มาใส่ในซักเรื่อง ก็มาลงเอยที่ต้นสนนี่แหละ

คนที่ลึกลับที่สุดในเรื่องนี้ก็คงจะเป็นสนนี่แหละ จอมแผนการและแอบร้าย ฉะนั้นไม่ต้องกลัว นินาร้ายแค่ไหน สนจะคืนกลับให้อย่างสาสม 555 เดี๋ยวก็จะได้รู้กันแล้วล่ะครับ

ตอนใหม่คงจะมาเย็นวันนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้านะครับ

ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามครับ

Sarawatta

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ต้องขอฝากความหวังเอาไว้ที่สนเสียแล้วล่ะค่ะแบบนี้ :fox2: รอตอนหน้านะค้าา..^^

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ความรักของสนจะไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญเลยถ้าสนไม่เป็นคนทำให้มันยากเอง อ่านแล้วเหนื่อยจริงๆ เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งครับ ขอชื่นชมว่านิยายของคุณหน่วงได้ทรมานดีจริงๆ แต่ผมไม่ไหวละ ขออนุญาติเข้ามาอ่านและเม้นตอนจบเลยละกัน ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ แต่ผมไม่ดีพอที่จะอ่านและเข้าใจมัน

ปล. แอบรอเรื่องใหม่ที่จะรีไรท์ในอนาคตครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ต้นกับสน ใช้เวลาช่วงนี้กอบโกยความสุขให้เป็นความทรงจำที่ดี เพื่อให้เป็นกำลังใจที่จะสู้ต่อไปในอนาคต ต้นอย่าท้อน่ะ มีสนอยู่ทั้งคนถึงแม้สนจะพูดแต่เราดูที่การกระทำดีกว่าเนอะ  :mew1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4


ตอนนี้กำลังคิดว่าจะเอา "รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" มา re-write อยู่ครับ คิดว่าพอไหว แต่อาจจะอัปเดตได้ไม่บ่อย
ใครที่ยังไม่เคยอ่านก็อย่าเพิ่งไปอ่านนะครับ มารอติดตามเวอร์ชั่นเขียนใหม่กัน (คงเน้นปรับภาษามากกว่าเนื้อเรื่อง)
รอให้จบสองเรื่องนี้จบก่อนละกันครับ แล้วจะบอกอีกที

ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามนะครับ

ป.ล. ตอนที่ 29 เป็นอีกตอนที่ผมชอบมากๆ อ่านหลายรอบแล้ว

Sarawatta
ตกใจนึกว่าจะรีไรท์เนื้อเรื่องใหม่หมด เพราะของเดิมน่ะดีมากอยู่แล้วน่ะ แต่ถ้าจะปรับเปลี่ยนสำนวนภาษาให้ดีกว่าเดิมก้อแล้วไป แต่ของเดิมก้อโอเคอยู่แล้วน่ะ งานคุณ sarawatta เรื่องภาษาน่ะดีมากอยู่แล้วล่ะ เพื่อนคนใดที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ก้อแนะนำเลยล่ะ ชอบมากเลยอ่านแล้วน้ำตาคลอซาบซึ้งกับความรักและการกระทำของตัวละครในเรื่องมาก  o13

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
อ่านตอนหลังๆ ยิ่งสงสารสน แต่ทำอะไรให้มันชัดเจนซะทีสิคุณชาย
แงๆๆๆ ยังอึมครึมอยู่ดี :ling1:
ลุ้นต่อไปอ่า :impress2:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อย่างน้อยตอนนี้ทั้งสองก็มีช่วงเวลาที่มีความสุขเนอะ ต่อไปข้างหน้าก็ไม่รู้จะเจอกับปัญหาอะไรอีก
ฉะนั้น ตักตวงความสุขให้เยอะๆ เข้าไว้

ชอบตอนต้นแกะปูให้สนอ่ะ คุยกันดูอบอุ่นดี 555+


ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
CHAPTER 31-1 ∞ วาเลนไทน์พิสูจน์รักแท้
CHAPTER 31-2 ∞ วาเลนไทน์พิสูจน์รักแท้

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 31-1: วาเลนไทน์พิสูจน์รักแท้


เช้าวันหยุดอีกวันที่อากาศเย็นสบายๆ ในช่วงหน้าหนาว สายแล้วต้นหอบตะกร้าเสื้อผ้าลงมาซักในเครื่องซักผ้าด้านหลังบ้าน ใส่เสื้อผ้าสบายๆ สำหรับอยู่บ้านเช่นเคย วันนี้มีแค่ต้นกับปั้นจั่นเท่านั้นที่อยู่บ้าน ส่วนสนกับนิกไปธุระกับป้าของนิกข้างนอกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ก่อนที่สนจะกลับบ้าน ป้าของนิกอยากให้สนไปช่วยดูกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตขนมให้ป้าของนิกเสียหน่อย เพราะยังผลิตไม่ได้รสชาติตามสูตรที่สนให้ไป

เรื่องการเรียนของต้นตอนนี้ก็ใกล้เรียบร้อยแล้ว รอแค่ใบทรานสคริปต์อย่างเดียวเท่านั้น มีบริษัทช่วยทำให้ก็ง่ายขึ้น ต้นเลือกไปเรียนที่อังกฤษที่เป็นต้นตำหรับสำเนียงบริทิชอิงลิชที่ต้นชอบ เนื่องจากปริญญาโทแต่ละใบใช้เวลาแค่ปีเดียว ต้นจึงเลือกเรียนสองปริญญา เมื่อรวมๆ เวลาที่ต้องไปอยู่ก่อนเพื่อปรับตัว ช่วงพักและเผื่อเวลาไว้จัดการเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็น ก็เกือบสามปีพอดี

"ต้น นินามาแน่ะ"

ต้นกำลังจะเทน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มพอดี พอปั้นจั่นเดินมาบอกจึงหยุด

"มาทำไมเหรอ สนก็ไม่อยู่ซะหน่อย" ต้นทำหน้าแปลกใจ

"ไม่รู้ว่ะ แต่เขาบอกว่าจะมาหามึงแน่ะ" ปั้นจั่นบอก ท่าทางดูงัวเงียๆ เพราะเพิ่งตื่น

"เหรอ เออๆ เดี๋ยวกูไป แป๊บนึงนะ"

ปั้นจั่นเดินออกไปบอกนินาแล้วต้นก็หันมาจัดการกับน้ำยาปรับผ้านุ่มต่อ เรียบร้อยแล้วก็เช็ดไม้เช็ดมือให้แห้ง ก่อนที่จะเดินออกมาหานินาที่รออยู่หน้าบ้าน

นินานั่งรออยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นในสนามหน้าบ้าน รอยยิ้มหวาน บวกกับการแต่งกายและแต่งหน้าที่ไม่ดูจัดจ้านจนเกินไปทำให้เธอดูเป็นสาวน้อยน่ารัก แลดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ใครเลยจะรู้ว่าเธอซ่อนเขี้ยวเล็บไว้

"หวัดดีค่ะพี่ต้น" นินายิ้มหวานอย่างเคย

ต้นยังไม่นั่งลงบนเก้าอี้ แต่รีบแจ้งให้คนที่มาถึงทราบเรื่องที่เธออาจจะยังไม่รู้

"สนไม่อยู่นะนินา เขาออกไปข้างนอกกับนิก กว่าจะกลับก็น่าจะดึกเลย"

นินายิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "นินาไม่ได้มาหาพี่สนหรอกค่ะ มาหาพี่ต้นนั่นแหละ"

ต้นชี้ที่ตัวเองพร้อมกับเลิกคิ้ว "พี่เหรอ"

"ค่ะ นั่งสิคะ จะได้คุยกันได้สะดวกหน่อย" ผู้มาถึงเป็นคนเชื้อเชิญเสียเอง

ต้นนั่งลงอย่างช้าๆ สายตามีคำถามตลอดเวลา

นินาอดแปลกใจไม่ได้เหมือนกันที่ต้นเป็นเกย์ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีทางรู้เพราะต้นดูเหมือนผู้ชายธรรมดาทั่วไปแทบทุกอย่าง สิ่งที่ต่างเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น นิสัยอ่อนโยน พอเล่นกีฬาที่ผู้ชายชอบเล่นกันได้บ้างแต่ก็ไม่ค่อยเล่น เล่นผาดโผนบ้างแต่ไม่มาก พูดจาสุภาพ เป็นต้น

"ตอนปีใหม่ ไปเที่ยวกับคู่หมั้นคนอื่นมาสนุกมากไหมคะ"

คำถามแรกก็ทำเอาต้นหน้าเหรอหรา ความจริงมันก็ผ่านมาเดือนเศษแล้วทำไมนินาถึงพูดถึงมันขึ้นมาอีก สีหน้าของเธอดูเหมือนไม่พอใจเสียด้วยสิ

"ก็ไม่มีอะไรนี่ นินามีอะไรหรือเปล่า" ต้นมองนินาด้วยสีหน้าหวาดระแวง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่พอใจหรือเปล่าที่เขากับสนหายไปด้วยกัน

"มีสิคะ" นินาเว้นจังหวะ รู้สึกหมั่นใส้ต้นนิดหน่อยที่ทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ "นินารู้มาว่า...พี่ต้น...เคยเป็นแฟนกับคนชื่อทินเหรอคะ"

ต้นขมวดคิ้ว ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วต้นก็พอจะรู้แล้วว่านินาไม่น่าจะมาดี

"นินาอยากรู้ไปทำไม" ความจริงต้นอยากจะพูดต่อว่าไม่ใช่เรื่องของนินาเสียหน่อยแต่ก็ยั้งปากไว้ก่อน

นินาทำท่าคล้ายๆ เบ้ปาก "ก็คนชื่อทินเขาเป็นเกย์ ถ้าพี่ต้นเป็นแฟนกับเกย์ก็แสดงว่า...พี่ต้นก็เป็นเกย์ใช่ไหมคะ"

แม้จะแปลกใจที่นินาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ต้นก็พยายามไม่แสดงอาการตกใจมากนัก "นินา...นินามีอะไรกับพี่หรือเปล่า บอกพี่มาตรงๆ เลยก็ได้ เดี๋ยวพี่จะต้องไปทำงานบ้านต่อแล้ว"

นินาหัวเราะขบขัน "เป็นแม่บ้านแม่เรือนด้วยเหรอคะ ไม่น่าเชื่อนะคะ ดูท่าทางก็ไม่เห็นเหมือนตุ๊ดตรงไหนเลย ทำไมถึงได้เป็นตุ๊ดไปซะได้"

ต้นชักสีหน้าไม่พอใจ เขาเกลียดคำนี้มากจนแทบจะอดทนฟังไม่ได้ "ถ้านินาจะมาพูดกับพี่เรื่องนี้ พี่ขอไม่คุยด้วยนะครับ"

ต้นทำท่าจะลุกเดินออกไป

"เดี๋ยวสิคะ นินามีเรื่องสำคัญต้องคุยกับพี่ต้นค่ะ" นินาเรียกดักไว้

ต้นค่อยๆ นั่งลงเหมือนเดิม ในใจยังคงรู้สึกโกรธกรุ่นกับคำดูถูกเหยียดหยามของสาวน้อยหน้าใสไม่หาย แต่ต้นก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ไว้

"พี่ต้นกำลังคิดจะทำอะไรกับพี่สนอยู่หรือเปล่าคะ อย่าให้นินารู้นะคะว่าพี่ต้นน่ะ แอบชอบพี่สนอยู่"

"พี่กับสนเป็นเพื่อนกัน ไม่เคยทำอะไรเกินเลย นินาสบายใจได้" ต้นตอบเสียงห้วน

นินาแค่นหัวเราะ "ให้มันจริงเถอะค่ะ อย่าให้นินารู้ละกัน จำไว้นะคะ นินากับพี่สนเป็นคู่หมั้นกัน จะแต่งงานกันอยู่แล้ว คนที่รู้ตัวว่าคิดไม่ซื่อก็ควรจะรู้ตัวด้วยนะคะว่าควรทำตัวยังไง"

"มันจะมากไปแล้วนะนินา" ต้นเริ่มเสียงดัง ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดเชิงเหยียดหยามนั้นต้นก็คงไม่แสดงอาการอย่างนี้หรอก

นินาชักสีหน้าและเสียงแข็งบ้าง

"ไม่มากหรอกค่ะ นินาจะบอกอะไรพี่ต้นให้นะคะ พี่สนน่ะ เขามีอะไรกับนินาบ่อยๆ เราสองคนมีความสุขกันมาก แล้วนินาก็รู้ดีค่ะว่าพี่สนไม่เคยสนใจพวกตุ๊ดแต๋วอะไรนั่นหรอก ของแบนๆ ราบๆ จะมาสู้ของนูนๆ เว้าๆ โค้งๆ ได้ยังไง พี่ต้นก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาสนใจของที่อยู่ข้างหลังมากกว่าของที่อยู่ข้างหน้าหรอกค่ะ เพียงแต่เขาจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง และที่เขาไม่พูดก็เพราะเขาสมเพชคนวิปริตผิดเพศต่างหากล่ะ อย่ามโนนะคะว่าเขาชอบ ลับหลัง...อยากรู้ไหมคะว่าเขาด่าพวกนี้ว่ายังไง"

นินาหยุดเว้นจังหวะพร้อมกับมองหน้าต้นและเหยียดปาก "อ้อ...คิดว่าพี่ต้นคงรู้ พ่อของพี่สนเขาชอบนินามาก เขาอยากให้นินาแต่งงานกับพี่สน พอแต่งงานแล้วนินาก็จะมีลูกให้ครอบครัวพี่สนค่ะ พี่ต้นก็รู้ใช่ไหมคะว่าพ่อกับแม่พี่สนเขาอยากได้หลานมากขนาดไหน คนที่ไม่มีปัญญาทำเรื่องที่ชายจริงหญิงแท้เขาทำได้ก็ควรจะสำเหนียกตัวเองด้วยนะคะว่ายังมีประโยชน์กับโลกใบนี้อยู่หรือเปล่า" นินากระแทกเสียงในตอนท้าย

ต้นได้แต่นั่งตกตะลึงและตกใจ ท่าที่ที่รังเกียจเดียดฉันท์กันนั้นก็นับว่าแย่มากแล้ว แต่คำพูดที่เธอพูดมากลับโหดร้ายยิ่งกว่าอีก น้ำตาของต้นไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว จะว่าช็อกก็คงไม่ผิดนัก ความรู้สึกตอนนี้มันเกินคำว่าเสียใจจนต้นพูดไม่ออก

"อ้อ พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์ นินานัดกับพี่สนไว้แล้วค่ะ คงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะคะว่าเราสองคนนัดไปทำอะไรกัน ใครที่รู้ตัวเองว่าเป็นคนอื่นก็อย่าสะเออะไปนัดกับพี่เขาล่ะ หน้าแหกมาแล้วจะหาว่าไม่เตือน จำไว้นะคะ เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วก็ควรจะอยู่ในโลกของตัวเองไป อย่าทำให้โลกของชายจริงหญิงแท้เขาต้องวุ่นวายเลยนะคะพี่ต้น นินาของร้องล่ะ ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่"

นินาคาดโทษตอนท้าย มองต้นด้วยสายตาอาฆาต พอเห็นว่าต้นกำลังตกตะลึงด้วยความเสียใจก็สะบัดก้นเดินหนีไปด้วยความสะใจทันที เล่นกับใครไม่เล่น รู้จักนินาน้อยไปซะแล้ว เจอแบบนี้เข้าไปแล้วเป็นไงล่ะ ต่อไปจะได้สำเหนียกตัวเองบ้างว่าเป็นแค่ตุ๊ดแต๋ว ไม่มีผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนเขาอยากเอามาเป็นคู่ครองให้อับอายชาวบ้านเขาหรอก หวังว่าคงจะเข็ดไปอีกนานนะคราวนี้ ถ้ายังไม่เข็ดอีกล่ะก็ นินาจะด่าให้กลับบ้านไม่ถูกเลยทีเดียว

ต้นเดินเข้าไปในบ้านราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ ปั้นจั่นกำลังจะยกตะกร้าเสื้อผ้าลงมาจากห้องของตัวเองพอดี ยังมีเครื่องซักผ้าอีกสองเครื่องที่ยังว่างอยู่ พอเห็นสีหน้าและอาการของต้นแล้วปั้นจั่นก็รีบเดินลงมาหาด้วยความสงสัย วางตะกร้าผ้าลงแล้วก็ถาม

"ต้น มึงเป็นอะไรหรือเปล่า"

"ไอ้จั่น"

ต้นถลาเข้าไปกอดเพื่อนแล้วก็ร้องไห้อย่างหนักเหมือนกับอัดอั้นมานาน ตั้งแต่เกิดมาต้นไม่เคยถูกใครดูถูกเหยียดหยามเรื่องเพศสภาพได้รุนแรงเท่านี้มาก่อนเลย แม้ว่าจะเคยโดนล้อโดนแกล้งบ้าง แต่ก็ไม่มีใครด่าว่าต้นได้เจ็บปวดเท่านินาอีกแล้ว

"ต้นเป็นอะไรวะ ใครทำอะไรมึง เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นต้น บอกกูได้หรือเปล่า"

ปั้นจั่นถามอย่างตกใจและเป็นห่วง แต่ต้นก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ใครไม่เจออย่างที่ต้นเจอเมื่อกี้ก็คงไม่รู้ ไม่นึกเลยว่าคู่หมั้นของสนจะร้ายกาจขนาดนี้ แล้วสนล่ะ สนเป็นอย่างที่นินาพูดหรือเปล่า สนมีอะไรกับนินาบ่อยๆ อย่างที่นินาบอกจริงหรือ แต่มันจะแปลกตรงไหนเพราะสองคนนั้นเป็นคู่หมั้นกัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว มีแต่ต้นเท่านั้นที่เป็นส่วนเกิน

เมื่อเห็นต้นไม่พูด ปั้นจั่นก็ได้แต่สงสัย เขาหยุดถามต้นเพราะรู้ว่าต้นคงไม่ตอบหรือไม่ก็คงเสียใจจนตอบไม่ได้ เมื่อกี้นินามาทำอะไรต้นหรือเปล่า ต้องเป็นเพราะนินาแน่ๆ ที่ทำให้ต้นเป็นแบบนี้


สนกับนิกกลับมาถึงบ้านเสียดึก เห็นมิสคอลจากปั้นจั่นนับสิบครั้งก็อดแปลกใจไม่ได้ แต่ทั้งสนและนิกไม่ได้รับสายเพื่อนเลยทั้งคู่เพราะยุ่งมาก บ้านมืดหมดแล้วก็แสดงว่าปั้นจั่นกับต้นคงนอนไปแล้วล่ะ นิกกับสนแยกตัวเข้าห้องใครห้องมันเพราะต่างคนก็ต่างเหนื่อย พรุ่งนี้เช้าก็ต้องไปอีกแต่เช้าเพราะยังเหลืออีกหนึ่งกลุ่มแม่บ้านที่สนต้องไปช่วยดูให้ ดีที่ว่าบ่ายๆ ก็น่าจะเสร็จแล้ว ไม่ต้องใช้เวลาจนมืดค่ำเหมือนวันนี้เพราะมีหลายกลุ่ม

สนอาบน้ำอาบท่าแล้วก็นึกถึงต้น อยากไปหาก็กลัวรบกวนเวลานอน แต่สนก็คงต้องยอมรบกวนเวลานอนของต้นแล้วล่ะเพราะสนอยากเตือนให้รู้ว่าพรุ่งนี้นัดกันไว้ว่าจะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แล้วสนก็จะได้มอบดอกกุหลาบสีเหลืองให้กับต้นเหมือนอย่างเคย สนทำอย่างนี้มาสี่ปีแล้วตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมอหก

สนเดินมาเคาะประตูห้องต้น ไม่นานนักต้นก็เดินมาเปิดประตูพร้อมกับเปิดไฟ สนแปลกใจเล็กน้อยที่ต้นดูเหมือนยังไม่นอนเพราะสีหน้าดูไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นขึ้นมา

เข้ามาในห้องของต้นแล้วสนก็รีบเตือนนัดหมายทันที "ต้น พรุ่งนี้นายอย่าลืมนะ"

"อะไรเหรอ" ต้นถามราวกับว่าไม่เคยคุยกับสนเรื่องนี้ไว้เลย สีหน้าดูเรียบเฉยจนสนอดแปลกใจไม่ได้

"ก็...พรุ่งนี้ตอนเย็นเรามีนัดกันไง นายจำไม่ได้เหรอ นัดพิเศษของเรา นายอย่าลืมนะ"

"พรุ่งนี้เราไม่ว่างแล้วล่ะ" ต้นบอกแล้วหลบสายตา เดินมานั่งลงบนเตียงนอนด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"ทำไมล่ะต้น ก็เรานัดกันแล้ว นายลืมเหรอ มันสำคัญหรือเปล่า ยกเลิกก่อนได้ไหม" สนแปลกใจมากทีเดียว ต้นไม่เคยลืมนัดนี้กับสนเลย เป็นไปได้ยังไงที่ครั้งนี้ต้นจะลืม

"เราไม่ว่างจริงๆ เรา...นัดกับพี่กริดไว้แล้ว" ต้นยังคงหลบตาสนอยู่

สนเดินมานั่งลงข้างๆ ต้น จับไหล่ของต้นไว้สองข้างเพื่อให้ต้นหันหน้ามาคุยด้วยดีๆ

"นายไปนัดกับพี่เขาทำไมล่ะต้น ก็เรานัดกับนายไว้แล้ว ทำไมนายถึงไปนัดคนอื่นอีกล่ะ" สนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"แล้วทำไมนายไม่ไปกับคู่หมั้นของนายล่ะสน จะนัดกับเราทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย" ต้นเริ่มเสียงดัง ต้องคอยควบคุมอารมณ์ไม่ให้พลุ่งพล่านมากกว่านี้

"ต้น นี่นายเป็นอะไรไป ทำไมพูดแบบนี้ล่ะต้น" สนจ้องตาต้นอย่างไม่วางตาจนต้นหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาไปเอง

"เราไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย เราก็แค่...อยากไปกับพี่กริดเท่านั้นแหละ ทำไมล่ะสน เราไปกับพี่กริดไม่ได้เหรอ เราไม่มีสิทธิ์เปิดใจให้คนอื่นบ้างเหรอ หรือนายคิดว่าเราต้องรักแต่นายคนเดียว ตอนนี้...เราคิดว่า...เราจะไม่รอนายแล้วล่ะ เรารอนายมานานเกินไปแล้วนะสน ไม่เห็นมีอะไรเลย สู้เปิดใจให้คนอื่นไม่ดีกว่าเหรอ"

"ต้น..." สนเรียกเสียงดัง ปล่อยมือลงจากไหล่ สีหน้าบ่งบอกว่าผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

"นายเป็นอะไร บอกเรามานะต้น ทำไมอยู่ดีๆ นายก็เป็นแบบนี้ เราไม่เชื่อ เราไม่เชื่อว่านายจะไม่รอเราอีกแล้ว มีอะไรนายบอกเรามานะต้น บอกเรามาเดี๋ยวนี้เลย"

สนรู้จักต้นดี การผิดนัดแถมยังพูดจากลับกลอกอย่างนี้ไม่ใช่นิสัยของต้น ต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ต้นเป็นแบบนี้แน่นอน

"เราไม่มีอะไรจะบอกแล้ว ก็เราบอกนายแล้วไงว่าเราไม่อยากรอ นายไม่เข้าใจเหรอสน"

สนตกตะลึงกับน้ำเสียงและท่าทางไม่พอใจของต้นจนถึงกับพูดไม่ออก

"ได้เลยต้น ได้ ถ้านายต้องการอย่างนั้น พรุ่งนี้...เราจะไปกับนินา นายก็ไปกับพี่กริดละกัน"

สนลุกขึ้นแล้วก็รีบเดินออกไปจากห้องต้นทันทีก่อนที่จะห้ามน้ำตาไว้ไม่ได้ อุตส่าห์เตรียมการไว้อย่างดี นัดกันไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะ อยู่ดีๆ ต้นก็เกิดเปลี่ยนใจกะทันหันเพราะอยากเปิดใจให้คนใหม่ ถ้าสนมีสติมากกว่านี้ก็ควรจะต้องหาคำตอบให้ได้เสียก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอต่างคนต่างสาดอารมณ์เข้าใส่กัน สติที่มีอยู่จึงไม่สามารถทำหน้าที่ได้เท่าที่ควร

ก็ดีเหมือนกัน สนเองก็อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงเผลอมีอะไรกับนินาไปแล้วถึงสองครั้งสองครา อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่าเขาไวต่อการกระตุ้นทางเพศขนาดที่ถูกสัมผัสนิดหน่อยแล้วก็ถึงกับกู่ไม่กลับ เป็นเพราะสนไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า พรุ่งนี้สนก็คงรู้คำตอบแล้ว


บรรยากาศในร้านอาหารตอนนี้เต็มไปด้วยคู่รักหนุ่มสาวมากมายที่ต่างก็ถือโอกาสพิเศษนี้มากินข้าวด้วยกัน บางคนก็มาเพื่อบอกรักกัน และมีไม่น้อยทีเดียวที่คงพากันไปต่อที่อื่นหลังจากนี้ แม้จะเป็นธรรมเนียมฝรั่งแต่คนไทยก็นำเอามาใช้เสียจนกลายเป็นของตัวเองไปแล้ว

อาหารเย็นใต้แสงเทียนของสนกับนินามื้อนี้ก็คงไม่ต่างจากหนุ่มสาวคู่อื่นๆ ดูเผินๆ ก็เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวที่รักกันมาเดตด้วยกัน แล้วก็คงจะจบลงด้วยการหลับนอนด้วยกันอย่างหนุ่มสาวสมัยใหม่ทั่วไป ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกหรือเสียหายไปแล้วในสมัยนี้

นินาแต่งตัวและแต่งหน้าสวย เธอดูอ่อนหวานและน่าทะนุถนอมตามประสาสาววัยแรกแย้ม ถ้าไม่ติดว่าสนรักใครไปเสียก่อนแล้วก็คงจะภูมิใจไม่น้อยที่มีแฟนสาวที่สวยและน่ารักอย่างเธอ วันนี้เธอแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ สีหน้าแววตาดูเอียงอายตลอดเวลาที่นั่งอยู่กับสนในร้านอาหาร

"ดีใจจังเลยค่ะพี่สน นี่ถือว่า...เป็นวาเลนไทน์แรกของเราเลยนะคะที่นินากับพี่สนมากินข้าวด้วยกัน นินามีความสุขมากเลยค่ะ"

สนพยักหน้ายิ้มๆ แล้วก็ตักอาหารกิน ในใจกลับแอบคิดว่าตัวเองคิดดีแล้วหรือเปล่าถึงได้มากับเธอในวันนี้

"นินาอยากกินอันนั้นค่ะ" นินาใช้ส้อมชี้ไปที่อาหารที่อยู่ในจานใบหนึ่ง สนรู้ว่านินาอยากให้ตักให้ก็เลยตักให้อย่างที่เธอต้องการ

"นินา...นินารักพี่จริงๆ เหรอ" อยู่ๆ สนก็ถามขึ้นมา คนถูกถามทำหน้าเหรอหราเล็กน้อยแล้วก็ยิ้มกลบเกลื่อน

"ทำไมพี่สนถามอย่างนั้นล่ะคะ ถ้านินาไม่รักพี่ นินาจะยอมเป็นของพี่เหรอคะ ถ้าไม่รักพี่สน นินาจะหมั้นกับพี่ทำไมล่ะคะ"

"ทำไมถึงรักล่ะ" แม้จะพยายามปรับน้ำเสียงแต่น้ำเสียงของสนก็ยังฟังดูเย็นชาจนพอรู้สึกได้

"ก็...นินาเคยบอกแล้วนี่คะ ก็เราเคยไปขายของด้วยกัน สนิทสนมกัน นินาก็เลยรักพี่ ก็...ไม่รู้ว่ารักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว"

สนพยักหน้าเข้าใจ

"แล้วพี่สนล่ะคะ พี่สนรักนินาหรือเปล่า พี่สนไม่เคยบอกรักนินาเลยนะคะ"

ท่าทางที่น่าสงสารนั้นทำให้สนอดจะเห็นใจเธอบ้างไม่ได้ ความจริงนินาก็ไม่เห็นน่าจะต้องถามเลย สนบอกเธอไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่าไม่ได้รัก

"มันยากเหรอคะที่พี่สน...จะรักนินา"

นินาทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว วันวาเลนไทน์อย่างนี้ไม่มีคู่รักที่ไหนร้องไห้และถามคำถามอย่างนี้กันหรอก

สนทำท่าครุ่นคิด นึกถึงตอนที่เขาทะเลาะกับต้นเมื่อคืนแล้วก็อดเสียใจไม่ได้ วันนี้สนนัดกับต้นไว้แท้ๆ กลับกลายเป็นว่าสนต้องมากับนินาแล้วต้นไปกับสรกฤษณ์ ป่านนี้ ต้นกับสรกฤษณ์จะทำอะไรถึงไหนกันบ้างก็ไม่รู้ ในเมื่อต้นอยากให้สนรักกับนินาขนาดนั้น ต้นก็อย่ามาเสียใจทีหลังละกัน

"พี่...ขอเวลาอีกสักหน่อยละกันนะนินา แต่อย่างน้อยนินาก็สบายใจได้ ถ้าพี่พาใครมากินข้าวในวันวาเลนไทน์แล้ว คนๆ นั้นก็ต้องมีความหมายบางอย่างกับพี่"

ได้ยินอย่างนั้นแล้วนินาก็ยิ้มอย่างพอใจ

"ขอบคุณค่ะพี่สน นินาจะรอพี่สนนะคะ นินารอมานานแล้ว จะรออีกหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ"

สนยิ้มบางๆ ให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น ถ้าต้นไม่รักสนแล้ว อยากลืมสนมากขนาดนั้น อยากเปิดใจให้คนอื่นมากขนาดนั้น สนก็คงต้องไปตามทางที่ผู้ชายคนหนึ่งควรจะไปล่ะนะ เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เคยสร้างด้วยกันมาแท้ๆ ตอนไปบางแสนด้วยกันก็ยังดีๆ อยู่เลย มาถึงวันนี้ต้นกลับเปลี่ยนไปเสียแล้ว


และแล้วสนกับนินาก็เข้ามาอยู่ในห้องๆ หนึ่งของโรงแรมม่านรูดกลางเมืองเชียงใหม่ ก็คงจะเหมือนกับหนุ่มสาวคู่อื่นๆ ที่ต่างก็พากันมาปิดท้ายคืนวันวาเลนไทน์กันในสถานที่อย่างนี้

สนกับนินานั่งคู่กันอยู่บนเตียงนอน บรรยากาศในห้องดูสลัวๆ ราวกับต้องการจะกระตุ้นอารมณ์เปลี่ยวของคู่รักให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าสนจะอารมณ์เปลี่ยวเหมือนกับนินาหรือเปล่า แต่เขาก็ตัดสินใจมาแล้ว อีกไม่นานหลังจากนี้ อะไรๆ ที่หนุ่มสาวควรจะทำกันในวันนี้ก็คงเกิดขึ้น

"นินาพร้อมแล้วค่ะพี่สน" นินาพูดแล้วก็สวมกอดสนไว้จากทางด้านหลังอย่างรักใคร่ มือของเธอเริ่มอยู่ไม่สุข คอยลูบไล้ไปตามแขนและหน้าอกของสนเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้ลุกกระพือขึ้น

สนหันหน้าไปเผชิญกับนินาตรงๆ นินายิ้มยั่วและส่งสายตาเชื้อเชิญ เธอทิ้งตัวลงไปนอนแล้วก็ดึงกึ่งกระชากตัวสนให้ตามลงมาทาบทับ ใบหน้าของสนกับนินาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เสียงหอบหายใจอย่างตื่นเต้นของนินาบ่งบอกว่าเธอพร้อมแล้วจริงๆ

นินาใช้มือโอบรอบคอของสนแล้วค่อยๆ กดใบหน้าของสนลงต่ำเพื่อสัมผัสกับรสจูบนั้น ความรู้สึกหลายอย่างของสนตีกันจนมั่วไปหมด แต่สนก็รู้สึกว่าแปลกมากที่เขาไม่ได้กระโจนใส่นินาเหมือนคราวที่ผ่านๆ มาอีก ทำไมสนถึงครุ่นคิดและระวังตัวกับเธอได้ล่ะ ไม่เห็นว่าตัวเองจะไวต่อการสัมผัสเหมือนสองครั้งนั้นเลย

ก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปไกลกว่านั้น สนบังเอิญเหลือบไปเห็นแจกันดอกไม้ที่ประดับไว้อยู่ข้างๆ เตียงนอนพอดี มีดอกกุหลาบสีเหลืองดอกหนึ่งปักอยู่ สนให้ดอกกุหลาบสีเหลืองกับต้นมาแล้วสี่ดอก ถ้าปีนี้ต้นมากับสนก็คงจะเป็นดอกที่ห้าพอดี ดอกกุหลาบสีเหลืองดอกที่ห้ากับปาฏิหาริย์ห้าครั้งของปั้นจั่นช่างตรงกันโดยบังเอิญแท้ๆ ไม่ได้การแล้ว ยังไงๆ สนก็ต้องเอาดอกกุหลาบสีเหลืองดอกที่ห้าไปให้ต้นให้ได้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ให้อีกเลยเป็นเวลาสามปี

สนผลักนินาออก ลุกขึ้นมาคว้ากระเป๋าของตัวเองแล้วก็รีบวิ่งออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็ว เขาทรยศกับต้นไม่ได้ ต่อให้สนมีความต้องการมากขนาดไหน ความรักของสนก็มีค่ามากกว่า สนปล่อยให้นนานั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่ในห้องนั้นด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเธอก็ร้องไห้ด้วยความรู้สึกสมเพชตัวเอง แต่คนอย่างเธอไม่มีวันจะยอมแพ้ง่ายๆ หรอก คอยดูละกัน


สนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาต้น โทรติดแล้วแต่ก็ไม่มีคนรับ สนพยายามโทรใหม่อยู่หลายรอบ ภาวนาขอให้ต้นรับโทรศัพท์ของสนเสียที

ส่วนต้น สรกฤษณ์ก็พาต้นมาส่งท้ายคืนวันวาเลนไทน์ด้วยกันที่โรงแรมม่านรูดเช่นเดียวกัน สรกฤษณ์กำลังอาบน้ำอยู่ ตอนแรกจะขอให้ต้นไปอาบด้วยแต่ต้นไม่ยอมไป สรกฤษณ์จึงให้ต้นนั่งรอบนเตียงไปก่อน โทรศัพท์ของต้นดังขึ้นหลายรอบแล้วแต่ต้นก็ยังไม่รับ ความคิดในหัวสมองตีกันว่าจะอยู่ต่อหรือจะหนีไปดี จนกระทั่งสรกฤษณ์นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ ต้นก็ตระหนักว่าถ้าต้นอยู่ต่อต้นคงไม่รอดแน่ๆ ความรู้สึกผิดที่จะต้องทรยศต่อหัวใจตัวเองก่อตัวรุนแรงขึ้น จนในที่สุดต้นก็ลุกขึ้นยืน คว้ากระเป่าแล้วก็วิ่งออกไปเช่นเดียวกันโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกของสรกฤษณ์

"ต้น นายอยู่ไหน มาหาเราได้ไหม มาเดี๋ยวนี้เลย" สนล่ะล่ำละลักพูดเมื่อต้นรับโทรศัพท์แล้ว

"เราอยู่แถวๆ นิมมานน่ะสน นายอยู่ไหน" ต้นกรอกเสียงลงไปในขณะที่เดินแกมวิ่ง พร้อมกับคอยสอดส่ายสายตามองหาคนที่ต้นอยากเจอ

"เราก็อยู่แถวๆ นี้เหมือนกัน" แล้วสนก็บอกตำแหน่งที่แน่นอนไป รู้สึกโล่งใจและดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ที่สนไม่ได้ทรยศหัวใจตัวเอง ต้นก็คงไม่คิดจะทรยศต่อหัวใจของต้นเช่นเดียวกัน

สนพยายามเดินหาร้านดอกไม้ที่น่าจะยังเปิดอยู่ แต่หลายๆ ร้านก็ปิดไปแล้ว เดินไปเดินมาก็เจอร้านดอกไม้ร้านหนึ่งที่ไฟยังเปิดอยู่ สนรีบวิ่งเข้าไปที่ร้านนั้นทันที เจ้าของร้านกำลังจะปิดประตูร้านอยู่แล้วเชียวถ้าบังเอิญไม่เห็นสนวิ่งมาเสียก่อน

"มีดอกกุหลาบสีเหลืองไหมครับ" สนถามพลางสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่ต้องการ

"เอ...เดี๋ยวพี่ขอดูก่อนนะคะ เมื่อเช้ามีอยู่แต่ไม่เยอะเท่าไหร่"

สนยืนรออย่างใจจดใจจ่อ พอพี่เจ้าของร้านเดินออกมาหาก็รีบถาม

"มีไหมครับ"

"มี แต่ว่าเหลืออยู่ดอกเดียวนะ ไม่มีเป็นช่อ"

"ผมเอาดอกนี้เลยครับ" สนบอกอย่างดีใจ ดึงธนบัตรในกระเป๋าสตางค์ส่งให้คนขายมือไม้สั่นจนพี่เจ้าของร้านอดขำไม่ได้

"ขอบคุณนะครับพี่" สนบอกแล้วก็วิ่งผลุนตรงไปยังที่นัดหมายกับต้นไว้ว่าจะไปเจอกัน

ใช้เวลาไม่นานนักสนก็มาถึงที่ที่นัดหมายกับต้นไว้ อากาศเริ่มหนาวมากขึ้นจนรู้สึกได้ แต่อีกไม่นานมันก็จะอุ่นด้วยความรัก สนยืนถือดอกกุหลาบสีเหลืองพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาต้นอย่างร้อนรน แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงา หรือว่าต้นจะหลงทาง

คิดได้ดังนั้นสนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะกดโทรออกก็รู้สึกได้ว่ามีอ้อมแขนของใครมาบางคนมากอดสนไว้จากทางด้านหลัง สนฉีกยิ้มดีใจแล้วก็รีบหันไปหาคนที่กอดเขาไว้ทันที

"ต้น"

"สน"

สองหนุ่มยิ้มให้กันด้วยความดีใจ ดีใจจนบอกไม่ถูกเลยทีเดียวล่ะ

"ดอกกุหลายสีเหลืองของนาย"

สนบอกพลางยื่นดอกกุหลาบให้คนตรงหน้า น้ำตารื้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นอีกคนรับไปพร้อมกับรอยยิ้มดีใจ ถ้าไม่ใช่เพราะสนตามจีบจอยวันนั้น สนก็อาจจะไม่รู้เลยว่าใครบางคนรอคอยดอกกุหลาบในวันพิเศษวันนี้จากสนมานานแค่ไหน เมื่อสนได้รู้แล้ว สนก็ไม่เคยผิดซ้ำอีกเลย แม้ว่าวันนี้จะเกือบไปแล้วก็ตาม

สนดึงต้นมากอดไว้เบาๆ ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองหรือคิดยังไง

"ดอกกุหลาบสีเหลืองดอกที่ห้าแล้วนะต้น นายจำได้ใช่ไหม"

สนปล่อยอ้อมแขนออก ต้นพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าจำได้ "เราไม่เคยลืมอยู่แล้ว นึกว่า...ปีนี้จะไม่ได้แล้วซะอีก"

สนเอื้อมมือไปลูบผมต้นเบาๆ "ก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน เราเชื่อแล้วล่ะว่าปาฏิหาริย์ครั้งที่ห้าของเราสองคนจะมีจริงอย่างแน่นอน"

ต้นหัวเราะเบาๆ แล้วก็พยักหน้า

"หนาวไหม" สนถาม ยังไม่ทันที่ต้นจะได้ตอบสนก็ถอดเสื้อกันหนาวแล้วก็เอามาคลุมไหล่ให้ต้น สงสัยต้นคงรีบจึงลืมหยิบเสื้อกันหนาวติดมาด้วย

"แล้วนายไม่หนาวเหรอ"

"ไม่หนาวหรอก หนาวกาย...แต่หัวใจไม่หนาวก็โอเคแล้ว" สนยิ้มกรุ้มกริ่ม ต้นเริ่มเห็นสนทำท่าอย่างนี้กับต้นบ่อยขึ้นจนแทบเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

สนเอื้อมมือมาจับมือต้นไว้ จากนั้นก็เดินจูงมือกันไปตลอดทาง จากตรงนี้ไปถึงที่พักก็หลายกิโลอยู่ แต่ด้วยอากาศที่เย็นสบายก็ช่วยให้ไม่รู้สึกเหนื่อย แถมยังมีคนรู้ใจเดินเป็นเพื่อนพูดคุยกันไปอย่างนี้ ให้เดินเป็นสิบกิโลก็ยังไหว

ดูเหมือนว่าตอนนี้ต้นกับสนแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนวานเคยทะเลาะกันหนักขนาดไหน เพราะสนก็คาดเดาไว้อยู่แล้วว่าต้นคงทำไปเพราะความกดดันมากกว่าที่จะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่สนจะมาถามเรื่องนั้นให้ขุ่นเคืองใจกัน แถมยังจะเสียบรรยากาศของวันวาเลนไทน์ที่นานทีปีหนจะมีสักครั้งอีกด้วย

สนยังไม่บอกรักต้นในวันนี้หรอก สนรู้แล้วล่ะว่าเขาจะบอกรักต้นที่ไหนดี รออีกหน่อยแล้วกันนะต้น อีกไม่นานนี้แล้ว วันที่เราจะบอกรักนายจะเป็นวันที่พิเศษยิ่งกว่าวันไหนๆ และมันก็จะเป็นสถานที่ที่พิเศษที่สุดที่นายอยากไปด้วย

สนตัดสินใจแล้ว สองทางเลือกที่สนคิดไว้วันนี้สนก็ได้คำตอบกับตัวเองแล้วว่าสนจะเลือกทางไหน แม้ว่ามันจะยากพอกัน แต่อย่างน้อยทางเลือกนี้ของสนก็ดีตรงที่สนไม่ต้องโกหกหัวใจตัวเองอีกต่อไป ที่สำคัญ สนก็จะได้ไม่ต้องทำร้ายให้เป็นบาปกรรมด้วย

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 19:20:42 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โอย

ไม่เคยอยากตบปากใครเท่านังนินามาก่อนเลยจริงๆ

อินี่ปากร้ายมาก

ช่วงต้นไปเรียนที่อังฤษจะเป็น time skip ไหมคะเนี่ย?

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
เอาตรงๆอยากให้ต้นทำตามที่พูดได้จริงๆที่บอกจะเปิดใจให้คนอื่น
ถ้าเราเป็นต้นเราจะเปิดใจและตัดใจนะ เพราะไม่รู้จะสู้ไปทำไมไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา มองไม่เห็นว่าทางออกอยู่ตรงไหน
หรือทางครอบครัวของสนต้องให้มีคนตายซะก่อนถึงจะคิดได้ให้สมกับหงอกที่อยู่บนหัว
และเราไม่เห็นว่าสนมันจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้ซักอย่างเลยซักนิด ถ้าถามว่าสนพยายามกับเรื่องนี้มั๊ย
ก็ต้องตอบว่าพยายามนะแต่มันยังเป็นความพยายามที่โคตรจะน้อยนิดเลย เหมือนแค่พยายามยื้อจะเก็บความสุขไว้กับตัว
รั้งไม่ให้ต้นไปทั้งที่ตัวเองยังทำอะไรไม่ได้เลย ความรู้สึกไม่ต่างจากพวกผู้ชายเหรี้...ๆที่มีเมียน้อยเลยซักนิด เห็นแก่ตัวสุดๆ
และตอนนี้ต้นก็เหมือนชู้เหมือนเมียเก็บเข้าไปทุกทีต้นต้องมาแบกรับความทุกข์แล้วไหนจะโดนอีนั่นมันดูถูก
แล้วสนก็อะไรไม่ได้ ต้องทำเพื่อพ่อ พ่อที่มันห็นแก่ตัวไม่เคยนึกถึงความสุขของลูก
แล้วทั้งที่สนมันก็มีคู่หมั้นแต่กลับไม่อยากให้ต้นเปิดใจให้ใครเราว่ามันโคตรเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวมากๆเลยนะ

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
ไม่เคยดูละครน้ำเน่าหลังข่าวรึไงถึงได้พลาดซ้ำซากแบบนี้
วันหลังหัดดูไว้บ้างนะ มารยานางตัวร้ายอะหัดศึกษาไว้บ้าง
จะได้ไม่พลาดแล้วทำให้ต้นต้องเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้อีก
บอกเลยนะ ถ้าต้นทำตามที่พูดว่าจะเปิดใจให้คนอื่นเนี่ย จะสมน้ำหน้าใส่สนดังๆ เลย

ส่วนยัยนินา **จิกหัว** ตบกันมั๊ยย่ะหล่อน :fcuk:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด