บทที่ 6
.
.
.
“ตามมาทำไมอีกพี่ตะวัน”
ภุมรินที่กำลังขึ้นคร่อมรถเอทีวีคันโตถามตะวันหลังจากที่หันหน้ามาแล้วเจอเพื่อนพี่ชายยืนหน้าบื้ออยู่ตรงหน้า แถมยังเปลี่ยนกางเกงเสร็จสรรพ
“จะไปด้วย อยากเห็นน้องรินซ่อมเครื่องสูบน้ำ”
ตะวันเดินไปคร่อมรถคันข้างๆ และสตาร์ทรถด้วยกุญแจที่เขาขอมาจากป้าจันมาเมื่อครู่
“นี่พี่ตะวัน เมื่อไหร่จะเลิกตามรินซักทีห๊ะ”
ภุมรินเริ่มรู้สึกว่าตะวันนั้นจะตามติดชีวิตเขามากขึ้นทุกวัน นอกจากจะเจอกันทุกเช้าแล้ว บางวันตะวันก็มาที่ไร่น้ำรินบ้าง แล้วเกือบทุกคืนคนตัวโตจะต้องโทรมากวนให้เขาโมโหเล่น
“ก็จะตามจนกว่ารินจะเลิกรำคาญนั่นแหละ”
ตะวันยักคิ้วให้หนึ่งครั้งก่อนรถที่เขาขับอยู่จะออกตัวนำไปก่อน ทิ้งให้ภุมรินทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่คนเดียว
“ไอ้พี่ตะวันหน้าลิงบ้าเอ้ย!” ตะโกนตามหลังแล้วสตาร์ทรถตัวเองตามอีกคนไป
เส้นทางไปท้ายไร่นั้นเกือบจะสองกิโลเมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นองุ่นที่ออกลูกสีแดงเข้ม
ขับไปเรื่อยๆเริ่มได้ยินเสียงน้ำตกที่ตั้งซู่มาแต่ไกลพร้อมกับต้นองุ่นที่เริ่มเปลี่ยนเป็นองุ่นขาว ตะวันมาถึงก่อนพร้อมกับจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ข้างลำธาร ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรเห็นน้ำตกอยู่ไม่ไกล
ภุมรินที่เพิ่งมาถึงก็จอดรถอยู่ข้างๆแล้วหิ้วกระเป๋าอุปกรณ์เดินมุ่งไปยังน้ำตก ตะวันเห็นดังนั้นก็รีบตามคนตัวเล็กไปอย่างติดๆ
เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมลำธารโดยมีท่อพลาสติกหลายสิบท่อต่อกันเป็นพรวน
เครื่องสูบน้ำเครื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายร้อยเครื่องของไร่น้ำริน โดยจะตั้งอยู่หลายๆจุดของไร่
ลำธารตรงท้ายไร่น้ำจะมีอยู่แค่ไม่กี่สิบเครื่องเพราะค่อนข้างจะไกลจากต้นองุ่นไม่น้อย จะใช้ได้แค่สำหรับองุ่นขาวเท่านั้น
ในส่วนของไร่องุ่นแดงไร่น้ำรินได้ขุดคลองขนาดเล็กอยู่รอบๆเป็นสายทุกๆหนึ่งร้อยไร่ แล้วคอยใช้เครื่องสูบน้ำกระจายน้ำไป
ภุมรินถอดรองเท้าแล้วเดินไปตามแผ่นไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมไปหาเครื่องสูบน้ำโดยมีตะวันเดินตามไป มีเสียงน้ำตกที่ดังอยู่ใกล้ๆเป็นแบคกราวนด์
ร่างบางลงมือซ่อมเครื่องสูบน้ำอย่างชำนาญ ตะวันมองคนตรงหน้าอย่างไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ ภุมรินนั้นดูคล่องแคล่วกว่าที่คิด
“ซ่อมเก่งเหมือนกันนี่เรา นึกว่าตัวเล็กๆอย่างนี้จะหยิบจับอะไรไม่เป็นซะอีก” พูดขณะที่มองคนตรงหน้าจับนั่นหมุนนี่ไม่หยุดมือ
“ถ้ามาแล้วก็นั่งเฉยๆได้มั้ย ไม่ต้องเอาน้องหมาในปากมาวิ่งเล่น” ส่งค้อนวงงามให้ตะวันแล้วก้มหน้าทำต่อ
ตะวันก็ว่าง่าย เขานั่งมองภุมรินซ่อมเครื่องสูบน้ำอย่างตั้งใจ โดยเขาเองก็ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยจำเป็น
ภุมรินใช้เท้ายันตัวเครื่องแล้วก้มลงไปหมุนอะไรซักอย่างข้างใต้ที่เหมือนจะมีปัญหานั้น
สรุปได้ว่าเกิดจากการที่มีเศษวัชพืชเข้าไปพันตัวเครื่องอยู่ข้างใต้น้ำจึงไหลผ่านได้ไม่สะดวก
คนตัวเล็กยังคงซ่อมจนเวลาเลยเที่ยงวันมาแล้ว
เท้าเล็กๆขาเรียวๆนั้นพลิกไปพลิกมาอยู่ต่อหน้าของตะวัน กางเกงขาสั้นของภุมรินร่นขึ้นทุกครั้งเมื่อเจ้าตัวยกเท้ามาเหยียบเครื่องสูบน้ำไว้
เสื้อยืดสีหม่นนั้นเปียกโชกจากการที่ถูกน้ำตกสาดกระเซ็นเข้าใส่เป็นเวลานาน ตัวตะวันเองก็ยังเปียกมะลอก
ภาพตรงหน้าของตะวันนั้นทำให้คนตัวโตมองเพลินไม่น้อย
เอวบางๆของภุมรินเคลื่อนผ่านหน้าของตะวันไปมา ขาเรียวที่โผล่พ้นกางเกงมาก็น่าสัมผัสไม่น้อย
ใบหน้าหวานที่ก้มๆเงยๆก็ชวนมองเป็นที่สุด ริมฝีปากล่างนั้นถูกกัดจากฟันบน คิ้วเรียวขมวดเข้าเล็กน้อย
แก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อจากอากาศที่เริ่มจะร้อนขึ้น ปอยผมที่เปียกน้ำแนบลงกับดวงหน้าเรียว นัยน์ตากลมสุกใสดึงดูดใจให้ตะวันไม่ละสายตา
กอปรกับแสงแดดของพระอาทิตย์ตอนกลางวันสาดใส่น้ำตกที่อยู่เบื้องหลังทำให้ภุมรินนั้นดูเหมือนมีแสงออร่ากระจายออกมา
ภาพที่ออกมานั้นทำให้ตะวันยิ้มกว้างแล้วไม่อาจเบนสายตาไปทางอื่นได้แม้แต่น้อย
ตะวันเพิ่งจะรู้วันนี้เองว่ายิ่งอยู่ใกล้ภุมรินมากเท่าไหร่ใจของเขามันก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเท่านั้น
และตอนนี้เขาก็รู้สึกอยากจะรวบคนตรงหน้าไว้แนบอก เกลี่ยปอยผม แล้วลูบแก้มเนียนที่ชวนมอง เรียวขานั้นก็น่าลูบไล้ซะไม่มี
ทำไมภุมรินถึงได้ดูดีขนาดนี้กันนะ
“เสร็จแล้วพี่ตะวัน ...มองอะไร” ภุมรินขมวดคิ้วเมื่อหันไปเจอตะวันนั่งยิ้มมองเขาไม่กระพริบ
“ปะ... เปล่า” ตะวันหลุดจากภวังค์แล้วก้มลงเก็บอุปกรณ์ที่วางอยู่ใส่กระเป๋า
ภุมรินมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ ไอ้พี่ตะวันมีแผนอะไรจะแกล้งเขารึเปล่า
“อย่าให้รู้นะว่าพี่คิดอะไรอยู่” พูดแค่นั้นก่อนจะนั่งลงกับแผ่นไม้แล้ววักน้ำมาล้างมือที่เต็มไปด้วยน้ำมันเครื่อง
ภุมรินบีบสบู่เหลวขวดเล็กที่เอาติดมาด้วยใส่มือแล้วถูเพื่อให้น้ำมันเครื่องออกก่อนจะหันมาถูกขาตัวเองที่เปื้อนน้ำมันเครื่องเช่นกัน
ตะวันมองมือบางที่ลูบไล้ไปตามเรียวขานั้นพร้อมกับหน้าที่ร้อนขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ คนตัวโตเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะรีบลุกพรึบไปที่รถ
ใจหนุ่มเต้นแรงอย่างกลับใครมารัวกลองข้างในนี้ เขาเริ่มคิดว่าตัวเองนั้นไม่ไหวแล้วแน่ๆ ยิ่งมองน้องรินตอนนี้ยิ่งทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
มันจะผิดไหมถ้าเขาคิดว่าน้องรินนั้นยั่วเขา
ตอนเด็กๆน้องรินออกจะใส่ขาสั้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้มันต่างออกไป ความรู้สึกอยากจะสัมผัสขาวเรียวขาวนวลนั้นมันมาจากไหน
ก้มมองขาสากๆที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของตัวเองแล้วรู้สึกถึงความแตกต่างที่ชัดเจน
น้องรินนะน้องริน
“เป็นอะไรพี่ตะวัน มันยืนบื้อคนเดียวตรงนี้”
เสียงภุมรินที่ดังจากข้างหลังนั้นทำให้ตะวันสะดุ้งโหยง ก่อนที่มือของภุมรินจะมาคว้าเอากระเป๋าอุปกรณ์แล้วขึ้นคร่อมรถเพื่อเตรียมกลับบ้าน
ขากางเกงนั้นร่นขึ้นอีกครั้งเมื่อขาเรียวคร่อมเอทีวีคันใหญ่ไว้
ตะวันละสายตาจากภาพนั้นไม่ได้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตาแก่โรคจิตที่แอบมองขาของเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร
ให้มันได้อย่างนี้สิน่าตะวัน
“มองอะไรพี่ตะวัน จะกลับมั้ยบ้านน่ะ รินหิวจะแย่อยู่แล้ว ไม่กลับก็ตามใจนะ” ภุมรินพูดทิ้งท้าย
ไม่สนใจคนเอาแต่มองอะไรไม่รู้ เขาขับรถออกจาบริเวณนั้นเพื่อมุ่งตรงกลับบ้าน ตอนนี้เลยเที่ยงมาแล้ว เขาหิวมากๆ
เมื่อเห็นนายน้อยของไร่น้ำรินขับเอทีวีหนีหายไปกับต้นองุ่นคนตัวโตก็ได้สติแล้วรีบขับตามออกไป
เขาเห็นรถของภุมรินอยู่ห่างออกไปไกลจึงรีบขับตามไปให้ทัน ไม่นานรถทั้งสองคันก็จอดสนิทอยู่ในโรงรถพร้อมกับตะวันและภุมรินที่เดินเข้าบ้านหลังงาม
ทั้งสองคนอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะลงมากินข้าวที่ป้าจันเตรียมไว้ให้แล้ว
ภุมรินอยู่ในชุดที่พร้อมจะเข้าไร่ส่วนตะวันนั้นว่าจะไปหารัชพลที่โรงบ่ม เขาขอตีตัวออกห่างน้องรินซักพักเผื่อความคิดเพี้ยนๆในหัวจะลดลงบ้าง
นั่นน้องนั่นนุ่งแล้วยังเป็นผู้ชายอีก แล้วเขาไปคิดอะไรอกุศลอย่างนั้นกับน้องรินเนี่ยนะ
“ฝากบอกพี่รัชให้มากินข้าวด้วยนะพี่ตะวัน เอาแต่ขลุกอยู่แต่กับไวน์นั่นแหละ”
ภุมรินบอกคนตรงหน้าที่ยังกินข้าวไม่เสร็จ เจ้าตัวคว้าหมวกหนังใบโปรดมาสวมก่อนจะเดินออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน
“บอกให้ตายคุณรัชก็ไม่มาหรอกค่ะถ้าเลยเวลากินข้าวมาขนาดนี้แล้ว ป้าฝากเอาขนมปังไปให้คุณรัชด้วยนะคะ”
ป้าจันวางห่อขนมปังไว้บนโต๊ะ รัชพลนั้นไม่กินข้าวเที่ยงอยู่บ่อยครั้งเพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับไวน์ ครั้งหนึ่งภุมรินถึงขั้นหอบข้าวหอบน้ำเข้าไปให้ถึงที่ เจ้าตัวถึงจะยอมกิน
ตะวันกินข้าวอีกไม่กี่คำก็กินน้ำแล้วคว้าเอาขนมปังบนโต๊ะเดินไปที่โรงบ่มไวน์ที่ห่างจากตัวบ้านไม่ไกลมากนัก
เมื่อเข้าไปก็เจอรัชพลที่กำลังจดอะไรซักอย่างยิกๆในกระดาษ ตะวันโยนขนมปังให้เพื่อนสนิทแล้วนั่งลงเก้าอี้ที่ทำมาจากท่อนไม้ข้างๆรัชพล
“ทั้งน้องมึงทั้งป้าจันบ่นะงมว่าคุณรัชแห่งไร่น้ำรินไม่ยอมกินข้าวเที่ยง จนกูต้องเอาขนมปังมาให้เนี่ย”
ตะวันบ่นเบาๆให้กับรัชพลที่วันๆเหมือนจะสนใจแต่ไวน์ เขาเองก็เพิ่งเคยเจอคนที่บ้างานขนาดนี้
“สองคนนั้นก็บ่นไปเรื่อย แล้ววันนี้ไม่ไปตามตัวเล็กรึไง เห็นมึงตามมันต้อยๆ”
รัชพลคว้าเอาขนมปังมาแกะแล้วกัดกินพร้อมกับตาที่ยังจดจ้องอยู่กับกระดาษตรงหน้า
“ไม่ล่ะ ไม่อยากโดนน้องมึงด่าอีก เมื่อกี้เพิ่งไปช่วยซ่อมเครื่องสูบน้ำมา”
ขืนบอกรัชพลไปตรงๆว่าเหตุผลที่ไม่ตามภุมรินไปคืออะไรมีหวังเขาคงได้ถูกยัดลงในถังไวน์ซักถังในโรงบ่มนี้แน่ๆ
“หึ พรุ่งนี้ว่าจะเอาของไปลงละ มึงไปมั้ย” รัชพลพูดถึงงานวันมะรืนนี้ที่จะมาถึง
พรุ่งนี้ไร่น้ำรินจะเอาของไปลงเตรียมไว้แล้ว โดยที่ไวน์รุ่นภุมรินนั้นจะตามไปทีหลัง
“ไปสิ อยากดูสถานที่เหมือนกัน เห็นลุงบูรบอกว่าปีนี้จัดใหญ่” หัวข้อสนทนานั้นเปลี่ยนไป
ทั้งสองคนคุยกันเรื่องงานที่จะมาถึง รัชพลและคนงานรวมทั้งตะวันกับภุมรินจะเอาผลผลิตจากไร่น้ำรินลงไปไว้ที่งานและจัดบูทตามพื้นที่ที่ถูกจัดมาวันพรุ่งนี้
สำหรับไวน์ที่ลงแข่งนั้นรัชพลคาดหวังไว้มากเช่นกัน เขาทุ่มเทกับไวน์สูตรนี้มาหนึ่งปีเต็มเพื่อที่จะได้ไวน์คุณภาพที่สุด และตะวันกับภุมรินก็คือความหวังของเขา
หลังจากพระอาทิตย์ตกดินแล้วรัชพล ภุมรินและตะวันก็มานั่งกินข้าวด้วยกันก่อนจะพากันขึ้นไปอาบน้ำ
คุณบุรินทร์นั้นติดธุระในตัวจังหวัดเรื่องงานเกษตรในวันมะรืนนี้จึงไม่ได้กลับบ้านอีกตามเคย
รัชพลหนีเข้าห้องไปก่อนเพราะต้องจัดการแผนผังของซุ้มไร่น้ำรินให้เรียบร้อยก่อนจะเอาของไปลงพรุ่งนี้ ตามด้วยภุมรินที่เดินเข้าห้องไปโดยมีตะวันเป็นคนปิดท้าย
ร่างสูงทิ้งตัวลงกับเตียงนอน เขาหลับตาซักพักเพื่อให้อาหารย่อยก่อนแล้วค่อยเข้าไปอาบน้ำ
ตะวันฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด คนตัวโตส่องกระจกดูความเรียบร้อยของใบหน้าแล้วยิ้มให้กับตัวเอง
เขาคิดเสมอว่าตัวเองดูดีไม่น้อย ไม่เห็นจะเหมือนลิงอย่างที่ภุมรินว่าซักนิด มันก็แค่ตอนเด็กๆเท่านั้นเองแหละน่า
ตะวันยังคงฮัมเพลงต่อไป มือใหญ่คว้าไปเปิดฝักบัวแล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบกับเพื่อนร่วมโลกตัวน้อยที่กำลังไต่ลงมาตามสายฝักบัว
เขาตัวชาพร้อมกับเบิกตากว้าง ขนทุกเส้นในร่างกายลุกชัน ขาทั้งสองข้างก้าวถอยอย่างช้าๆพร้อมกับมือที่รีบคว้าผ้าเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว
แมลงสาบ!!!
มีไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่รู้ว่าคนอย่างตะวัน ประสิทธานนท์กลัวแมลงสาบถึงขั้นสุด
ประสบการณ์สยองในตอนเด็กๆนั้นยังคงฝังใจให้เขาไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับเจ้าตัวสีน้ำตาลอมแดงนี้ได้
ตะวันรีบพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวแล้ววิ่งออกจากห้องของตัวเอง ร่างของชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนวิ่งไปเคาะประตูห้องข้างๆอย่างไม่ยั้งมือ ใบหน้ายังคงหวาดผวาไม่หาย
“มาแล้วๆ จะเคาะอะไรนักหนา พี่ตะวัน เฮ้ย!” เจ้าของห้องสะดุ้งโหยงเมื่อเปิดมาเจอชีเปลือยอยู่หน้าห้อง
“ริน รินช่วยพี่ด้วย” ตะวันมองคนตรงหน้าอย่างขอความช่วยเหลือ
ภุมรินเองก็ไม่อยากมองคนตัวโตตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ เขาไม่ชินกับการที่ตะวันมายืนเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพกให้ดูแบบนี้
“อะไรเนี่ยพี่ตะวัน แล้วมาแก้ผ้าอยู่หน้าห้องคนอื่นทำไม ทำไมไม่แต่งตัวให้มันดีๆก่อน” ด่าคนตรงหน้าอย่างสุดจะทน พี่ตะวันนะพี่ตะวัน
“รินมานี่ มาช่วยพี่หน่อย” ไม่ฟังเสียงบ่นแล้วคว้าข้อมือบางมากำแน่นก่อนจะลากเข้าไปในห้องของตัวเอง
“ทำอะไรเนี่ยพี่ตะวัน เฮ้ย! อะไรเนี่ย ลากรินมาทำไม ไอ้พี่ตะวันจะทำบ้าอะไรเนี่ย”
ภุมรินยื้อสุดแรงพยายามสะบัดแขนออกจากคีมแน่นๆนั้น แต่ตะวันก็ไม่ฟังลากร่างบางเข้ามาในห้องจนได้
“พี่ไม่ทำอะไรหรอกน่า แค่อยากจะให้ช่วยเอาตัวในห้องน้ำนั่นออกไปให้หน่อย” ตะวันหันมาบอก
ภุมรินชะงักงัน จ้องหน้าเพื่อนพี่ชายก่อนจะยอมเดินตะวันไปในห้องน้ำ
“นั่นไง” ตะวันชี้ไปยังเป้าหมาย ภุมรินเขม้นมองภาพตรงหน้าแล้วถอนหายใจ
“แมลงสาบ แค่แมลงสาบเนี่ยนะพี่ตะวันถึงขั้นต้องไปเคาะห้องรินขนาดนั้น”
ภุมรินกอดอกมองคนตัวโตที่ตอนนี้มาหลบข้างหลังเขาเรียบร้อย
“รินช่วยเอามันออกไปหน่อยได้มั้ย” พูดเสียงอ้อมแอ้มอยู่ข้างหลัง ภุมรินเลิกคิ้วสูงก่อนจะยิ้มกริ่ม
“อย่าบอกนะว่าพี่ตะวันกลัวแมลงสาบน่ะ” ร่างบางหัวเราะในลำคอแล้วหันมามองตะวันอย่างเหนือกว่า
“....รินเอามันออกไปจากห้องน้ำให้พี่ที” ตะวันตอบเสียงเบา น่าอายชะมัด
เรื่องที่เขากลัวแมลงสาบตัวเล็กว่าน่าอายมากแล้ว แต่คนรู้เรื่องและเขาไปขอความช่วยเหลือดันเป็นน้องรินนี่สิน่าอายกว่า
ก็มันคิดอะไรไม่ออกแล้ว คิดแค่ว่าเจ้าแมลงสาบตัวนี้จะต้องออกไปจากห้องน้ำเท่านั้น
“ฮ่าๆๆ พี่ตะวันกลัวแมลงสาบ” ภุมรินหัวเราะลั่นห้อง
มันเป็นเรื่องที่น่าขำเสียจริง คนตัวใหญ่ๆอย่างตะวันกลับกลัวแมลงสาบตัวเล็กๆ
เรื่องนี้จะต้องเป็นอะไรที่พูดกันไปอีกยาวแน่นอน!
*****************************************************************************************
ตอนที่หกมาแล้วววววววววววววววววววววว พี่ตะวันเริ่มคิดกับน้องไม่แบบไม่ใช่น้องใช่นุ่งละ 5555555555555555 เราเพิ่งรู้ว่ามีคนเอานิยายของเราไปแนะนำในกระทู้แนะนำ ขอบคุณคุณ TIKA_n มากเลยนะคะ
เราจะบอกว่าพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้มาอัพเน้อ เราอาจจะขึ้นภู อิอิ สุดท้ายรักคนอ่านทุกคนค่ะ จุ๊บๆ