Over the Rainbow
ความรักที่เริ่มต้นแบบเหี้ยๆ มันก็ต้องจบลงแบบเหี้ยๆ ใช่ไหม?
ความรักของผมคือนายจิตรกร
ผมเจอมันครั้งแรกตอนพี่รหัสพาไปเลี้ยงสายหลังจากตรากตรำก้มหน้าเรียนวิชาพื้นฐานของคณะมาเกือบเทอม ดรออิ้งจนเมื่อยมือเหน็บชาไปหลายรอบ พี่รหัสคงสงสารที่เห็นผมก้มหน้ากับไอ้กระดานวาดรูปนี่ทั้งวันเลยเอ่ยปากชักชวน
ร้านที่พี่แกนัดเจอก็อยู่กลางใจเมือง ตอนนั้นจำได้แม่นว่าใครช่างกล้าขับมัสแตงมาโฉบแถวนี้ ผมเลยถอยมินิของตัวเองไปเคียงข้างซะเลย แต่พอเห็นหน้าคนขับมันลงมาจากรถเท่านั้นแหละ แม่งคนอะไรหล่อเหี้ยๆ ผมนึกว่ามันเป็นนายแบบมาเที่ยว ที่ไหนได้มันเป็นเพื่อนพี่รหัสผม น่าแปลกที่เรียนคณะเดียวกันแท้ๆ แต่ผมกลับไม่เคยเห็นหน้า
'นี่น้องรหัสกู น่ารักป่ะล่ะ' ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ ตอนแรกมันทำหน้าดุ เก๊กเสียจนผมต้องลุกขึ้นไหว้มันแถมแนะนำตัวพร้อมสรรพ พอบอกว่าชื่อคิมหันต์เท่านั้นล่ะมันก็บอกว่า
'น่ารักเหี้ยๆ'
'สรุปมึงชมหรือด่าน้องกูเนี่ยไอ้สัด'
'ชมเว้ย ชื่อจิตรกรนะ เรียกพี่อาร์ตก็ได้ แก้วนี่กูชงให้ หมดเลยไอ้น้อง' แค่คำแนะนำตัวมันก็ขัดกับหน้าตาอย่างแรง คนเรามักเผยตัวตนออกมาตอนเมาจริงๆ คืนนั้นชนแก้วกันยันตีสอง ไอ้เหี้ยอาร์ตตอนมาสถุลยังไงตอนกลับก็สถุลอย่างนั้น ผมแทบไม่เหลือความเคารพให้มันสักนิด ยิ่งเห็นมันเมาแล้วปริ้นไปมั่วสาวไม่เลือกหน้ากลางฟลอร์แล้วโคตรอายแทนพ่อแม่มัน ไม่รู้ว่าพี่รหัสผู้เรียบร้อยอย่างพี่น้อยหน่าเป็นเพื่อนมันไปได้ไงก็ไม่รู้ ตอนหลังผมเลยแอบกระซิบบอกให้พี่แกเลิกคบซะ แต่พี่น้อยหน่ากลับหัวเราะคืนมาเสียงดัง
'พี่ทำไม่ได้หรอกว่ะ เห็นสันดานมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย มันเหี้ยงี้ก็จริง แต่มันรักเพื่อนพ้องนะเว้ย คบมันไว้ไม่เสียหรอก'
ตอนนั้นมันมีแฟนอยู่คนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน เห็นว่าคบตอนเข้ามหา'ลัย ชื่อดวงแข หน้าตางั้นๆ แต่โคตรขี้หึง พอรู้ว่าไอ้อาร์ตมันไปมั่วสาวที่ไหน แม่งตามไปจิกได้ถูกที่ทุกที ผมแอบนับถือเลย แต่ก็ข้องใจว่าเมื่อมันเหี้ยขนาดนั้นยังคบมันอีกทำไม พอมาคบเองเลยเข้าใจ...ไอ้อาร์ตมันเก่ง ทั้งการเอาใจ ให้ความรัก แล้วก็บนเตียง
ตอนได้เสียกับมันครั้งแรก บอกตามตรงไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนอึดเท่ามันเลย เอาได้ทั้งคืน คนหรือเหี้ยก็ไม่รู้ฟิตโคตรๆ สงสัยคืนนั้นแม่งแดกช้างกระทืบโรงมา สุขก็จริงแต่โคตรทุกข์ตอนตื่นเพราะตอนนั้นเราต่างก็มีพันธะ มันยังคบพี่แข ส่วนผมก็เพิ่งตกปากรับคำเป็นแฟนซูกัส จบคืนนั้นเราต่างไม่พูดอะไรนอกจากบอกอย่างไม่แคร์ว่าก็แค่เมาไม่ได้คิดอะไร
แต่หลังจากนั้นเราก็แอบมีอะไรกันเรื่อยๆ บางทีก็เพราะเหงาแฟนไม่อยู่ บางทีก็เมา บางทีก็อยาก สุดท้ายก็ถูกตัวจริงจับได้คาเตียง บรรยากาศก็โคตรเลว ฝนแม่งเอาแต่ตกเหมือนหนังสยองขวัญ อีพี่แขนี่แทบจะคว้ามีดมาจ้วงท้องผม หน้าตาแม่งโรคจิตยิ่งกว่าชัคกี้
ผมโคตรประหลาดใจที่ไอ้อาร์ตมันไม่แก้ตัว มันยอมให้พี่แขตบก่อนแล้วชิงบอกเลิกเอง พี่แขแม่งก็เป่าปี่เลยทีนี้ อาร์ตมันก็รำคาญ ตวาดกลับไปไม่เกรงใจอดีตแฟนหมาดๆ สักนิด ใจดำเหี้ยๆ
'มึงเลิกร้องเหอะ กูรำคาญมึงมานานล่ะ ถ้าไม่ติดว่ามึงมีดีแค่เรื่องบนเตียงนะกูทิ้งมึงไปนานแล้ว'
จำได้ว่าผมด่ามันแทนพี่ดวงแขเลยว่าเลว คนเหี้ยอะไรโคตรใจดำอ่ะ ถ้าผมเป็นพี่แขได้ยินคำพูดแบบนี้ก็ร้องนะ แต่แขแม่งแรงไม่แพ้ไอ้เหี้ยนี่ถึงได้คบกันได้นาน พี่แกอาฆาตผมกับไอ้อาร์ตไว้แล้ววิ่งหายไป วันถัดมาเท่านั้นล่ะเรื่องดังไปทั้งมหา'ลัย เพราะไอ้พี่แขแม่งทำใบประกาศแปะไปทั่วลงรูปพร้อมชื่อเสร็จสรรพแบบให้ด่าได้ถูกคน
สายตาทุกคู่ที่มองมาตอนลงจากรถจนถึงห้องเรียนมีแต่สายตาไม่เป็นมิตร ที่แย่กว่าคือแฟนผมตอนนั้น ซูกัสแทบไม่มองหน้า มันโกรธผมรู้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับไอ้อาร์ตสักนิด ที่นอนกันก็แค่ระบายความอยาก ไม่ใช่ซูกัสเอาไม่เก่ง มันก็เอาเก่งนะแต่ไม่เท่าไอ้อาร์ต กว่าจะง้อมันได้ กว่าจะอธิบายให้มันเข้าใจก็เกือบสองเดือน
'กูชอบมึงมากกว่าไอ้อาร์ต ไอ้เหี้ยนั้นไม่เคยอยู่ในหัวใจกู มึงเข้าใจที่กูพูดป่ะ กูแคร์มึงนะเว้ย ถ้ามึงเกลียดกูมากอยากจะเลิกกูยอมนะ แต่มึงอย่าหันหน้าหนีกู กูอยากมองหน้ามึง เพราะกูรักมึง'
ส่วนไอ้เหี้ยอาร์ต พอแม่งมีเรื่องมันก็หายหัว ไม่เคยโผล่หน้ามาให้ผมเห็น เพราะงี้ด้วยแหละผมถึงคืนดีกับซูกัสได้ง่ายหน่อย ถ้ามันเสือกมาเล่นบทเป็นพระเอกละครไทยที่ตามตื้อบอกว่าเลิกกับพี่แขเพราะรักผม ผมคงทำตัวไม่ถูกแล้วคงกระโดดถีบยอดหน้ามันทีที่ทำให้ชีวิตผมยุ่งยาก
เจอหน้ามันอีกทีก็วันงานบายเนียร์ของรุ่นพี่ปีสี่ มันแต่งตัวเหมือน James Dean แต่เสือกขึ้นไปดีดกีต้าร์ร้องเพลง Imagine ของ John Lennon ไม่เจอกันเกือบเทอมมันก็ยังหล่อเหมือนเดิม ไม่มีสลดสักนิด พี่น้อยหน่าก็ขึ้นไปดีดคีย์บอร์ดให้มัน พี่แขพอเห็นหน้ามันก็วิ่งหนีออกไปจากงาน ส่วนพวกรุ่นพี่ตบมือเกรียวกราวชอบใจกันใหญ่ เหมือนลืมไปแล้วว่ามันเคยทำเรื่องเหี้ยอะไรไว้กับผม พอมันร้องเพลงนี้เสร็จมันก็ร้องเพลงบ้าๆ บอๆ ของมันต่อ
ผมชักไม่อยากอยู่ในงานต่อ เห็นหน้ามันแล้วอารมณ์เสียโคตรๆ กลัวใจมันด้วยเพราะแม่งมองหน้ากันแปลกๆ อยากกลับก็ทำไม่ได้เพราะต้องอยู่รอถ่ายรูปสายรหัส ปีนี้พี่ยศเรียนจบแล้วผมดันเป็นหลานรักของแกเสียด้วย
'สวัสดีครับพี่น้องชาวมัณฑนศิลป์ที่รักทุกท่าน กระผมจิตรกรสุดหล่อปีสอง หวังว่าพี่น้องจะจำกันได้นะครับ ที่หายหัวไปไม่ได้ไปไหนไกล ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แหละครับแต่ไม่กล้าออกสื่อ เดี๋ยวแฟนเก่าดักตบเสียโฉมไปก่อนได้แอ้มสาว'
เสียงหัวเราะฮาครืนกับมุขหน้าตายของมัน ผมชัดสังหรณ์ใจไม่ดี สะกิดเรียกซูกัสชวนออกจากงาน แต่เหมือนว่ามันจะโกรธไอ้เหี้ยอาร์ตมากพอควรเลยเอาแต่จ้องหน้าจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่นั่น
'เนื่องในวันนี้เป็นวันดีของพี่ๆ ที่กำลังจะจบผมเลยขึ้นมาร้องเพลงโชว์เป็นของขวัญ และเพื่อพี่ยศที่ผมเคารพรัก ผมขอมอบเพลงนี้ให้หลานรหัสพี่ครับ...
'Whoa, whoa, yea yea
I love you more than I can say....
I'll love you twice as much tomorrow
Oh love you more than I can say.
Whoa, whoa yea yea
I miss you every single day....
Why must my life be filled with sorrow?
Oh, oh, love you more than I can say....
Don't you know I need you so?
Tell me please I gotta know...
Do you mean to make me cry?
Am I just another guy?
Whoa, whoa yea yea
I love you more than I can say....
I'll love you twice as much tomorrow
Oh...Oh...Love you more than I can say....
I love you more than I can say '
หน้าผมร้อนฉ่า ไอ้เหี้ยนี่แม่งทำห่าไรว่ะ ซูกัสท่าทางโมโหมาก มันจะเดินขึ้นไปต่อยไอ้อาร์ตบนเวทีอยู่ร่อมร่อ ผมพยายามห้ามมันแล้ว แต่ไอ้ห่าอาร์ตแม่งไม่รู้คิดอะไรเดินลงเวทีมายื่นแก้มให้ซูกัสหน้าตาย
'กูให้มึงต่อยเลย แต่แฟนมึงกูขอนะ กูรักมันว่ะ'
'ไอ้เหี้ย มึงแย่งแฟนคนอื่นหน้าด้านๆ แบบนี้เลยเหรอ ขอกูต่อยสักทีเหอะ'
'ต่อยแล้วมึงต้องยกคิมให้กูนะ'
'ไอ้สันดานใครบอกว่ากูจะไปคบกะมึงว่ะ'
แล้วงานบายเนียร์ก็เกิดความชุลมุน ซูกัสต่อยอาร์ตก่อน แล้วแม่งก็ต่อยคืน พวกพี่ปีสองกับพี่สามก็เป็นพวกไอ้อาร์ตหมด ส่วนปีหนึ่งก็ช่วยซูกัส ปีสี่แม่งก็เอาแต่ยืนหัวเราะกันเฉยๆ ยิ่งไอ้พี่ยศแม่งตัวดี ชอบใจนักแหละ
ตอนกำลังต่อยกันอุตลุดผมก็ถูกฉุดขึ้นมัสแตงไปหน้าตาเฉย หันไปมองไอ้ซูกัสก็กำลังต่อยกับพี่น้อยหน่า ผมอยากจะกรีดร้องว่าพี่กูก็เป็นไปด้วยเรอะ มารู้ตอนหลังว่าไอ้อาร์ตมันวางแผนไว้แล้ว พวกปีสองถึงปีสี่เป็นพวกมันหมดนั่นแหละ ไม่รู้แม่งเอาอะไรมาบรรณาการให้พวกพี่พวกนั้นรู้เห็นเป็นใจ ด้วยวิธีการโคตรโฉด คืนนั้นผมก็กลายเป็นเมียมันอีกจนได้
วันต่อมาและวันต่อไปผมก็ยังเป็นเมียมัน จับผลัดจับพลูคบกับมันนานเกินหลายคนคาด แต่พี่น้อยหน่ากลับไม่แปลกใจ เขาเห็นไอ้อาร์ตมาตั้งแต่เกิด เลยมั่นใจว่ามันรักผมจริงถึงยอมช่วยแย่งผมมาจากซูกัส
ส่วนซูกัสหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นเราก็เข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย สุดท้ายมันก็ซิ่วไปเรียนที่อื่น ผมอยากจะกระโดดถีบปากไอ้อาร์ตมากเพราะมันตัวเดียวเลยทำให้ชีวิตของคนๆ หนึ่งต้องเสียเวลาเปล่าไปอีกปี
จะว่าไปอาร์ตกับผมก็ต่างกันค่อนข้างเยอะ มีเหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือความติสท์ตามสกิลเด็กศิลป์ แต่ถึงจะอาร์ตเหมือนกันมันก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ดี
อาร์ตมันถือดาลี ปิกัสโซ่ กับรุช่า เป็นพ่อ ภาพของมันแต่ละรูปมีแต่แนวแอบสแตรก เน้นสีขาวดำ มันชอบฟังเพลงยุคหกศูนย์ แต่ยึดเจมส์ ดีนเป็นต้นแบบ มันชอบมัสแตงบอกว่ามันเหมือนกับม้าป่าตัวนี้ดีเลยชอบ เพลงที่ฟังก็มีแต่เพลงยุค 60 ร้องได้หมดตั้งแต่เพลงของ เดอะ บีทเทิ่ล จอห์นนี่ แคช บ๊อบ ดีแลน ยัน บ๊อบบี้ วี เวลาว่างๆ มันชอบดูหนัง ดูแล้วก็ตีความนู่นนี่ บางทีก็เข้าไปเถียงกับพวกคอหนังในเว็บบอร์ดบ่อยๆ ทำตัวเหมือนพวกเด็กเกรียนเข้าไปป่วนเขา แต่เสือกเถียงแบบมีหลักการ
มีหนหนึ่งมันพาผมไปดูหนังเรื่อง The Graduate แล้วก็มันอธิบายสัญลักษณ์นู่นนี่นั่นในหนังให้ฟัง ทั้งเพลง ทั้งองค์ประกอบภาพ จนผมชักชอบหนังเรื่องนี้ตามมัน แล้วมันก็ร้องเพลง The Sound of Silence ให้ฟังบ่อยๆ พอผมถามมันว่าเรียนจบไปแล้วมันจะเป็นแบบพระเอกในเรื่องไหม มันหัวเราะ...แล้วก็บอกผมว่า...
'ก็คงใช่ จนตอนนี้กูยังหาจุดหมายไม่เจอเลย'
ตอนนั้นผมนึกน้อยใจ...มันคงยังไม่ใช่จุดหมายของมัน และสักวันหนึ่งเราคงต้องเลิกรากัน แค่คิดน้ำตาก็จะไหล ผมเพิ่งเข้าใจตัวเองว่ารักมันเมื่อวินาทีนั้นเอง
ส่วนผมชอบราฟ โกอิ้งส์ สังกัดแนวเรียลลิสซึ่ม ภาพของผมเลยมีแต่ภาพเหมือนของทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ชอบแต่งตัววินเทจแนวๆ ที่มันใส่แล้วเข้ากับเรย์แบนเอเวียเตอร์กรอบทอง รถคันโปรดเป็นมินิคูเปอร์ เอส สีเขียวแก่ ผมชอบฟัง Coldplay Greenday Foster the People หรือ Arcade Fire เทือกๆ นี้มากกว่า เวลาว่างชอบช้อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้านู่นนี่ บางทีก็แอบดูดบุหรี่ ที่ต้องแอบเพราะไอ้อาร์ตมันไม่ชอบให้ผมสูบ มันจับได้ทีไรตบผมเลือดกลบปากทุกที มันบอกไม่อยากให้ปากผมดำ กลัวผมเป็นมะเร็งนู่นนี่นั่น แต่มันอ่ะก็สูบ บางทีแม่งก็ดูดกัญชา โคตรเหี้ยกว่าผมอีก
ถึงเราแทบจะแตกต่างกันไปทุกเรื่อง แต่กลับเข้ากันได้ดียิ่งกว่าทุกคนที่ผมเคยคบมา ยิ่งนานวันจิตวิญญาณของผมก็รับมันเข้ามาสิงอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทว่าผมยินดีที่จะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น เพราะ ผมรักมัน... รักมันมากจริงๆ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม
TBC
เรื่องแรกที่ลงในเล้าแต่ไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่ง
ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ
นิยายเรื่องนี้เราแปลงมาจากฟิคของตัวเองที่รวมเล่มไปค่ะ
ยังไงก็อ่านแล้วก็ขออย่านำออกนะคะ ขอให้อยู่แต่ในนี้พอเนอะ ^^