Honey 11
พอร์ชมารับโฟนตามที่นัดหมายกันเอาไว้ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกินร่างสูงกะว่าอยากจะพาอีกคนไปกินข้าวดูหนังหรือทำอะไรก็ได้ที่อีกคนอยากทำเพราะสำหรับเขาแค่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับอีกคนเขาก็มีความสุขแล้ว
"ดูหนังกันก่อนมั้ย?" พอร์ชชวนขึ้นขณะที่กำลังเลี้ยวรถเข้าที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
"เอาดิๆเราไม่ได้เข้าโรงหนังนานแล้วเหมือนกันๆ" โฟนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มแม้ว่าจะยังคงมีความเขินต่ออีกคนไม่น้อยแต่โฟนกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเขาออกจะมีความสุขด้วยซ้ำที่ได้อยู่กับอีกคนแต่รู้แล้วห้ามเอาไปบอกพอร์ชนะเดี๋ยวเขาโดนแซวงื้อออออ...หลังจากที่จอดรถเสร็จสรรพทั้งคู่ก็พากันขึ้นมายังชั้นโรงหนังทันทีโฟนยืนขมวดคิ้วมุ่นมองโปรแกรมภาพยนตร์ในตออย่างใช้ความคิด
"ดูเรื่องไหนดี?" พอร์ชถามขึ้นเพราะเขายังไงก็ได้
"อืม...มีแต่หนังน่ากลัวๆอ่ะไม่หนังผีก็ฆาตกรรม" โฟนว่าหน้างออย่างที่บอกคือเขาไม่ได้ดูหนังบ่อยทำให้ไม่รู้เลยว่าช่วงนี้มีหนังอะไรเข้าใหม่บ้าง
"แต่เห็นเพื่อนเราบอกว่าหนังผีเรื่องนี้ไม่น่ากลัวนะออกฮาๆด้วย" พอร์ชว่าพร้อมชี้ไปที่หนังผีที่จอโปรแกรมหนัง
"จริงอ่ะ?" โฟนถามกลับอย่างไม่ค่อยเชื่อแหงแหละ...หน้าปกหนังน่ากลัวจะตายอีกอย่างเขาเป็นคนขวัญอ่อนมากด้วย
"นั่นสิ" พอร์ชทำท่าครุ่นคิด
"พอร์ชอ่ะ! เราเป็นคนกลัวผีนะ" พอร์ชยิ้มๆกับท่าทางของอีกคนที่กำลังยู่ปากอย่างน่ารักใส่เขาเห็นแล้วอยากฉวยโอกาสหอมแก้มใสอีกสักฟอดแต่ก็ต้องพยายามห้ามใจเอาไว้
"มีเราอยู่ข้างๆกลัวอะไร" โฟนหลุบตาหนีตาคมที่มองมาที่เขาอย่างสื่อความหมายทันทีอวัยวะในอกด้านซ้ายเต้นรัวขึ้นมา
"งั้นดูเรื่องนี้ก็ได้" ก่อนจะตอบอุบอิบออกมาอย่างเขินๆพอร์ชยกยิ้มกับความน่ารักของอีกคนก่อนจะโน้มตัวลงมาตะแคงหน้าหาอีกคนที่พยายามหลบสายตาเขา
"รับทราบครับ"...หลังจากที่ซื้อตั๋วหนังเสร็จพอร์ชก็ไปซื้อชุดป็อปคอร์นมาด้วยตอนแรกโฟนทำท่าค้านบอกจะออกเองแต่พอร์ชไม่ยอมแหงแหละ...เดทแรกนี่หน่าเขาก็อยากเปย์อีกคน
"ต่อไปไม่ให้เลี้ยงแล้วนะ" โฟนบ่นอุบอิบขณะกำลังจะเดินเข้าโรงหนัง
"แต่เราอยากเลี้ยงนี่"
"เราไม่อยากเอาเปรียบพอร์ชนี่มาด้วยกันต้องช่วยกันออกสิ" โฟนว่าพร้อมขมวดคิ้วมุ่นพอร์ชยกยิ้มกับท่าทางของอีกคนก่อนจะยื่นมือไปคลึงระหว่างคิ้วเรียวจนคลายออกโฟนชะงักไปนิดๆ
"เดทแรกเราก็อยากทำให้โฟนประทับใจที่สุดนี่" พอร์ชว่าเสียงนุ่มโฟนหน้าขึ้นสีด้วยความเขินทันที
"พอร์ชคนบ้า" ว่าแล้วร่างบางก็เดินหนีเข้าโรงหนังไปก่อนทันทีพอร์ชหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเดินตามร่างบางไป...เป็นอย่างที่โฟนคิดคือหนังน่ากลัวมากแทบทุกฉากต้องมีผีออกมาไม่ก็มีเสียงซาวน่ากลัวทำให้ตกใจตลอดแรกๆโฟนก็จะใช้มือขึ้นมาปิดตาแต่พอบ่อยๆเข้าก็หันไปซบแขนเสื้อคนข้างๆอย่างไม่รู้ตัวทันทีพอร์ชยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่ออีกคนซุกหน้ากับต้นแขนของเขารู้สึกดีไม่น้อยที่ได้ใกล้ชิดอีกคนแบบนี้ความใกล้ชิดทำให้พอร์ชฉวยโอกาสสูดดมกลุ่มผมนิ่มหอมของอีกคนจนเต็มปอด
"งื้อออ ผีไปยังอ่ะพอร์ช?" โฟนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
"ไปแล้วล่ะ" พอได้ยินอย่างนั้นโฟนก็ละใบหน้าจากต้นแขนของอีกคนมาที่หน้าจอแต่...
แฮร่!!
"งื้ออออ!" โฟนร้องออกมาพร้อมซุกหน้าเข้ากับต้นแขนอีกคนอีกครั้งเมื่อหันมาเจอฉากผีออกมาพอดีพอร์ชหัวเราะในลำคอเบาๆที่ได้แกล้งอีกคน
"พอร์ชคนบ้า พอร์ชนิสัยไม่ดี" โฟนว่าพร้อมตีอีกคนเบาๆ
"กลัวขนาดนี้ให้เรากอดปลอบมั้ย?" พอร์ชแกล้งแซวเล่นโฟนที่กำลังซุกหน้าอยู่กับต้นแขนอีกคนชะงักไปนิดก่อนจะหน้าขึ้นสีระเรื่อ
"ไม่ต้องเลยไม่ให้กอด" โฟนว่าแต่ในขณะที่มือบางเป็นฝ่ายเกาะแขนอีกคนแทน...หลังจากดูหนังเสร็จพอร์ชก็พาโฟนมาอะไรกินแก้หิวเพราะตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าแล้วโฟนรีบเสนอตัวเป็นคนออกทันทีแม้ว่าพอร์ชบอกว่าจะเลี้ยง
"ไม่เอาอ่ะ ครั้งก่อนไหนพอร์ชบอกจะให้เราเลี้ยงไง" โฟนว่าพร้อมยู่ปากอย่างงอนๆ
"เอาไว้ครั้งหน้าไง" พอร์ชว่ายิ้มๆพร้อมเท้าคางมองหน้าอีกคน
"ไม่เอาอ่ะเราจะเลี้ยง ครั้งนี้ห้ามปฏิเสธไม่งั้นเรางอน" โฟนว่าอย่างขู่ๆแต่ช่างเป็นคำขู่ที่น่ารักจนพอร์ชอยากเห็นเหลือเกินว่าเวลาอีกคนงอนนั้นเป็นอย่างไร
"โอเคๆ เรายอมก็ได้" โฟนยิ้มกว้างทันทีกับคำตอบของอีกคนก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาเลือกสั่งอาหารอย่างอารมณ์ดี...รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นของโปรดของร่างบางทั้งนั้นแม้ว่าโฟนจะบอกให้พอร์ชสั่งแต่ร่างสูงห็ยังคงตามใจอีกคนแหงแหละ...โฟนชอบกินอะไรเขาก็กินได้ทั้งนั้นแหละขอแค่ได้นั่งกินข้าวไปมองหน้าอีกคนไปก็พอ
"เสร็จแล้วเราไปไหนกันต่อดีโฟนอยากซื้ออะไรมั้ย?" พอร์ชถามขึ้นเพื่อไม่ให้บรรยากาศระหว่างเขาทั้งคู่เงียบเกินไป
"อืม...ไม่อ่ะเราไม่อยากได้อะไรเลย" พอร์ชนิ่งไปทันทีกับคำตอบของอีกคนนี่แปลว่าต้องแยกจากอีกคนแล้วหรือเปล่า?
"เอ่อ...ไปปั่นจักรยานเล่นที่สวนรถไฟกันมั้ย?" เมื่อเห็นอีกคนนิ่งไปโฟนก็เป็นฝ่ายชวนขึ้นทันทีพอร์ชเลิกคิ้วนิดๆ
"ก็...ยังไม่อยากกลับบ้านเราเลยชวนพอร์ชแต่ถ้าพอร์ช..."
"ไปสิเราเองก็ยังอยากอยู่กับโฟนต่อ" พอร์ชพูดขัดด้วยรอยยิ้มทันทีโฟนหน้าขึ้นสีระเรื่อกับคำพูดของอีกคนก่อนจะรีบตักอาหารเข้าปากแก้เขินทันที...หลังจากที่กินข้าวเสร็จพอร์ชก็ทำท่าจะพาอีกครไปที่จอดรถเพื่อขับรถไปแต่โฟนบอกว่าอยากไปบีทีเอสมากกว่าเนื่องจากเอารถไปเองหาที่จอดยากยิ่งวันหยุดแบบนี้ด้วยพอร์ชอึ้งๆนิดๆกับคำชวนของอีกคนที่ชวนเขาขึ้นบีทีเอสไม่ใช่ว่าไม่เคยขึ้นนะแต่อึ้งที่ว่าคนบอบบางท่าทางคุณหนูๆอย่างโฟนชอบขึ้นบีทีเอส
"คนเยอะจัง" โฟนบ่นพึมพำขณะที่ก้าวเท้าเข้ามาในบีทีเอสพอร์ชเดินตามอีกคนมาอย่างไม่ห่างมือหนาคว้าที่เกาะเอาไว้เมื่อสัญญาณบอกว่ารถกำลังจะออก
“อ๊ะ" โฟนสะดุ้งทันทีที่มือหนาโอบรอบเอวเขาเอาไว้เพราะเมื่อกี้ตอนรถจะออกเขายังหาที่เกาะไม่ได้ทำให้เกือบหน้าทิ่มเล็กน้อย
"ยืนดีๆสิเดี๋ยวก็ล้มหรอก" เสียงทุ้มว่าข้างหูบางทำให้โฟนรับรู้ว่าตอนนี้เขากับอีกคนอยู่ใกล้กันขนาดไหนอวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้งและแอบกลัวว่าอีกคนจะได้ยินมันเหลือเกิน
"ระ...เรายืนเองได้นะ" โฟนว่าอย่างเขินๆ
"ให้เราจับไว้แบบนี้ดีกว่าเราเป็นห่วง" โฟนเผลอยิ้มทันทีกับคำพูดของอีกคนและก็ไม่ได้คัดค้านอะไรออกมาทำให้มือหนาโอบรอบเอวอีกคนเอาไว้ตลอดจนถึงจุดหมายและทำให้พอร์ชรู้ว่าเอวของอีกคนบางขนาดไหนให้ตายสิ...หัวใจเต้นรัวชิบหายทำไมอยู่ๆในหัวก็จินตนาการถึงผิวขาวๆเอวบางๆของอีกคนวะ! ...พอมาถึงสวนรถไฟพอร์ชกับโฟนก็พากันหาค็อฟฟี่ช็อปนั่งทันทีเนื่องจากวันนี้แดดแรงมากถ้าปั่นจักรยานตั้งแต่ตอนนี้คงผิวไหม้หมดแน่ๆโฟนเลยเสนอว่าสักสี่โมงเย็นแดดน่าจะร่มน่าจะเหมาะกับการปั่นจักรยานตอนสมัยมัธยมโฟนมาปั่นจักรยานตอนเย็นที่นี่กับเพื่อนในกลุ่มบ่อยพูดไปแล้วก็คิดถึงไม่น้อย
"โฟน!" เสียงหนึ่งเรียกขึ้นทำให้โฟนหันไปมองทันทีก่อนที่ร่างบางจะเผยยิ้มกว้างเพื่อเจอหนึ่งในเพื่อนสนิทในกลุ่ม
"วิว" หญิงสาวเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่เจอโฟนจึงรีบเข้ามาหาโฟนทันทีก่อนจะชะงักเมื่อหันไปเจอพอร์ช
"เอ่อ...เรารบกวนหรือเปล่า?" วิวถามอย่างลังเลนิดๆโฟนหันไปมองหน้าพอร์ชพอร์ชก็พยักหน้ายิ้มๆเป็นเชิงว่าตามสบาย
"เอ่อ...ไม่หรอกๆเรากับพอร์ชมาหาอะไรกินรอปั่นจักรยานน่ะ" โฟนตอบเพื่อนยิ้มๆ
"เรามาซื้อของน่ะกำลังจะกลับไม่คิดว่าจะเจอโฟนเป็นไงบ้างเนี่ยสบายดีมั้ย?" โฟนพยักหน้ายิ้มๆ
"สบายดีๆแต่คิดถึงเพื่อนๆในกลุ่มชะมัด"
"งั้นต้องหาเวลารวมตัวให้ได้เลยล่ะเออว่าแต่..." วิวเว้นวรรคก่อนจะหันไปมองหน้าพอร์ชแล้วหันกลับมามองหน้าโฟน
"...แฟนโฟนเหรอ?" โฟนเบิกตากว้างหน้าแดงทันทีกับคำถามของเพื่อนพอร์ชเองก็กระแอ่มเบาๆอย่างเขินๆเช่นเดียวกัน
"มะ...ไม่ใช่เอ่อ...คือ..."
"เขินขนาดนี้เราไม่ถามต่อละงั้นเราไปก่อนนะเอาไว้นัดเจอกันๆไปก่อนนะคะ" วิวว่าก่อนจะหันไปลาพอร์ชบ้างก่อนจะเดินออกไปโฟนหันมองหน้าคนตรงหน้านิดๆก่อนจะหลุบตาลงอย่างเขินๆเมื่อเห็นว่าตาคมก็มองมาเช่นกัน
"ยะ...ยิ้มอะไรเล่า" โฟนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพอร์ชเอาแต่นั่งยิ้มแล้วมองหน้าเขา
"ก็โฟนเขินแล้วน่ารักดี"...พอแดดร่มลมตกโฟนกับพอร์ชก็พากันไปเช่าจักรยานเพื่อปั่นเล่นในสวนสาธารณะทันทีทั้งคู่พากันปั่นจักรยานเล่นจนเหนื่อยก่อนจะพากันมาจอดจักรยานลงที่ม้านั่ง
"เหนื่อยมั้ยเดี๋ยวเราไปซื้อน้ำให้" พอร์ชถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบนใบหน้าใสเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
"อื้มๆ" ว่าแล้วพอร์ชก็รีบวิ่งไปซื้อน้ำให้อีกคนทันทีพร้อมกับของตัวเองด้วยคนละขวด
"ขอบใจนะ" โฟนรับขวดน้ำจากอีกคนพร้อมส่งยิ้มขอบใจให้พอร์ชยิ้มตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกคนแม้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งคู่จะเต็มไปด้วยความเงียบแต่ก็ไม่ได้อึดอัดสำหรับทั้งคู่บรรยากาศยามเย็นแดดร่มมีลมพัดเบาๆสร้างความผ่อนคลายให้ทั้งคู่ไม่น้อย
"เดี๋ยวเราเอาไปทิ้งให้" พอร์ชว่าก่อนจะหยิบขวดน้ำของอีกคนที่ดื่มหมดแล้วไปทิ้งโฟนนั่งมองตามแผ่นหลังของอีกคนยิ้มๆรู้สึกมีความสุขไม่น้อยที่ได้อยู่กับอีกคนแต่เขาไม่กล้าบอกหรอกเขาเขิน!
"นายๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้โฟนหันไปทันทีก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆที่เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาไม่คุ้นเคยมาทักเขา
"เรียกเราเหรอ?" โฟนชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอีกคนยกยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
"โฟนทันตะใช่มั้ย?"
"รู้จักเราด้วยเหรอ?" โฟนทำหน้างุนงงทันทีเพราะเขาเองก็ไม่รู้จักคนตรงหน้า
"ใช่สิ เราแซมเรียนเภสัชม.เดียวกับโฟน" โฟนร้องอ๋อก่อนจะพยักหน้ารับแต่ก่อนที่จะได้พูดคุยกันมากกว่านี้ร่างสูงของพอร์ชก็เดินกลับมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
"เราว่าเย็นแล้ว กลับกันเลยมั้ย?" พอร์ชถามขึ้น
"เอ่อ...เอาสิๆ" โฟนพยักหน่ารับก่อนจะหันไปหาแซมเพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จัก
"เราไปก่อนนะ"
"อื้มถ้าเจอกันที่ม. ทักเราบ้างนะ" โฟนทำหน้างุนงงนิดๆแต่ก็พยักหน้ารับก่อนจะรีบเดินตามพอร์ชที่เดินเข็นจักรยานนำหน้าเขาไปแล้ว
"พอร์ช! พอร์ช! รอเราด้วย" โฟนเรียกอีกคนพอร์ชที่นึกได้ว่าเดินนำอีกคนมาไกลก็หยุดชะงักรอจนร่างบางตามมาทัน...หลังจากที่คืนจักรยานเสร็จทั้งคู่ก็พากันขึ้นบีทีเอสกลับมาเอารถที่ห้างสรรพสินค้าโฟนไม่รู้ว่าอีกคนเป็นอะไรถึงได้เงียบตลอดทางแถมใบหน้าก็ยังบึ้งตึงผิดปกติโฟนกัดปากอย่างใช้ความคิดพลางคิดว่าเขาทำอะไรให้อีกคนไม่พอใจหรือเปล่าแต่คิดยังไงเขาก็คิดไม่ออกจนรถคันหรูขับมาจอดที่หน้าบ้านเขา
"พอร์ชโกรธเราเหรอ?" โฟนถามขึ้นเสียงแผ่วทำให้พอร์ชชะงักไปทันที
"เรา..."
"พอร์ชเงียบมาตลอดตั้งแต่กลับจากสวนรถไฟแถมยังหน้าบึ้งตลอด" โฟนว่าต่อพร้อมหันไปมองอีกคนพอร์ชเองก็หันมามองอีกคนเช่นกันถามว่าเขาโกรธอีกคนเหรอ? เปล่าเลยเขากำลังไม่พอใจไอ้คนที่เข้ามาคุยกับโฟนต่างหาก! แม่งมองก็รู้ว่าสนใจโฟนเข้ามาจีบโฟนแน่ๆและเขาที่ไม่ได้เป็นอะไรกับโฟนก็ไม่สามารถแสดงความหึงหวงได้ตรงๆซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย
"เปล่า...เราไม่ได้โกรธโฟนแต่เรา..." พอร์ชเว้นวรรคก่อนจะถอนหายใจออกมา
"...เราหึง" โฟนเบิกตากว้างทันทีกับคำตอบของอีกคนใบหน้าใสขึ้นสีระเรื่อ
"หะ...หึง?"
"เฮ้อ...เรารู้ว่าเราไม่มีสิทธิ์แต่เราชอบโฟนและเราไม่ชอบเลยที่ไอ้นั่นมาคุยกับโฟนดูก็รู้ว่ามันชอบโฟนแหงๆ" พอร์ชระบายความในใจออกมาจนหมดพร้อมมองอีกคนอย่างจริงจัง
"แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับคนๆนั้นเสียหน่อย" โฟนว่าออกมาเสียงอุบอิบ
"แล้วกับเราล่ะคิดมั้ย?" พอร์ชถามขึ้นอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีโฟนกัดปากอย่างเขินๆก่อนจะช้อนตามองอีกคน
"ไม่คิด..." พอร์ชขมวดคิ้วทันทีแต่ก่อนจะได้ดราม่าอะไรออกมาริมฝีปากหนาก็ยิ้มกว้างกับคำพูดต่อมาของอีกคนทันที
"...ก็บ้าแล้ว"
งื้ออออออ มีความหึงกันจ้า อ้อยกันต่อไปยาวๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^
___จางบิวตี้___