Matt part สงสัยคงจะจริงว่าห้องนอนผมนี่แหละเป็นที่เดียวที่จะทำให้ความคิดผมทำงาน ในที่สุดโครงเรื่องของผมก็เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว อย่างน้อยผมก็มีตัวละครพระนางอยู่ในหัวซึ่งก็คือตัวผมเอง ฮ่าๆๆๆ นึกถึงทีไรก็ตลกทุกที ผมคงเป็นนักเขียนคนแรกและคนเดียวเลยละมั้งที่ทำตัวประหลาดแบบนี้ เป็นผู้ชายแต่ดันประเมินตัวเองไปเป็นนางเอกซะอย่างนั้น แต่ถ้าความคิดบ้าๆแบบนี้ทำให้งานผมเดินก็คุ้มอยู่นะที่จะลองดู
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ครับ"
"แมท ว่างไหมลูก ออกไปรับพี่มัทแม่หน่อย" แม่นี่เอง
"แม่ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" หันไปมองนาฬิกายังไม่สี่ทุ่มเลย ทำไมวันนี้แม่กลับไว
"ตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้ว วันนี้แม่ต้องไปงานแต่งงานเลยเอารถกลับมาก่อน" อย่างนี้นี่เอง ว่าทำไมถึงได้สวยกว่าปกติ
"ที่ไหนแล้วแม่ไปกับใครครับ"
"โรงแรมใกล้ๆร้านเรานั่นแหละ เดี๋ยวเพื่อนแม่มารับ เห็นว่าจะออกมาสักพักแล้วคงใกล้ถึงแล้วละมั้ง"
"อ่อครับ งั้นเดี๋ยวแมทไปรับพี่มัทเองครับ แล้วแม่จะกลับพร้อมเพื่อนหรือให้แมทไปรับดี"
"กลับพร้อมเพื่อนดีกว่าลูก ถ้าเลิกไวแม่ค่อยให้เพื่อนไปส่งที่ร้านแล้วกลับพร้อมลูกๆนะ"
"ได้ครับแม่"
ในเมื่องานก็เพิ่งคิดออก เวลาก็เหลือมากพอสำหรับแค่คิดพล็อตเรื่องส่ง เพราะงั้นวันนี้ลงไปหาหนังดูข้างล่างฆ่าเวลาไปรับพี่มัทดีกว่า พักสมองซะหน่อย เพราะช่วงที่ผ่านมาผมใช้ความคิดหนักมากเกินไปแล้ว
"ดูเรื่องอะไรดีน้า" อันนี้ดูแล้ว อันนี้เครียดไป อันนี้หนังเศร้า ไม่ชอบๆ นี่ก็ซีรี่ย์เกาหลีของพี่มัทมันยาวไป นี่ผมไม่ได้หาซื้อหนังเข้าบ้านมานานแค่ไหนแล้วนะถึงได้ไม่มีหนังอะไรใหม่ๆอยู่ในตู้เก็บเลย อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้ไปร้านขายดีวีดีหนังเลยในช่วงหลังๆเลยทำให้ไม่รู้ว่าเรื่องไหนที่ควรซื้อเก็บหรือเรื่องไหนน่าดู ผมเป็นคนชอบดูหนังมากนะ เสียแต่ไม่ชอบดูคนเดียว และนี่ก็เป็นพฤติกรรมของคนโสดเพียงอย่างเดียวที่ผมยังพยายามหัดทำแล้วแต่ก็ไม่ได้สักที จะให้ชวนโอ้ตไปดูรายนั้นก็ไม่ชอบดูหนังที่โรง เพราะฉะนั้นหนังทุกเรื่องที่ผมสนใจแต่ไม่มีใครไปดูด้วยก็จะจบลงที่การรอแผ่นดีวีดีออกถึงค่อยซื้อมาดูที่บ้านแต่ตอนนี้หนังที่ผมมีก็ดูจนหมดสต็อกไปแล้ว งั้นวันนี้ไปหาหนังใหม่ๆที่ร้านดีวีดีเจ้าประจำเลยละกัน ชวนโอ้ตไปเดินห้างด้วยดีกว่า ไม่เจอหลายวันแล้ว เดี๋ยวมันจะงอน เพราะตั้งแต่หลังกินข้าวกับเพื่อนๆวันนั้นก็ยังไม่ได้คุยกันเลย
"ไงมึง หายหัวไปเลยนะไอ้แมท!"
"โอ้ต ไปเดินห้างกัน"
"ไม่ทำงานไงวะ ว่างเหรอ"
"อืมว่าง รอเวลาไปรับพี่มัท"
"เหรอ เออ งั้นมึงก็มีรถดิ"
"ใช่ วันนี้แม่กูไปงานแต่งเลยเอารถกลับบ้านมาก่อน"
"งั้นมารับกูด้วยละกัน วันนี้กูไม่ได้เอารถมา กูรอที่ออฟฟิศนะ"
"เออๆ อีก 20 นาทีเจอกัน"
ปกติมักจะเป็นโอ้ตที่คอยขับรถมารับมาส่งเวลาจะไปไหน ที่บ้านผมเคยมีรถสองคันคือคันของพี่มัทที่ใช้อยู่ทุกวันนี้และก็คันของผมที่เป็นของขวัญเรียนจบจากคุณยาย แต่พอพักหลังๆรถของน้านิคันเก่าที่ให้น้าอิงใช้ไปทำงานเริ่มงอแงให้ต้องซ่อมอยู่บ่อยๆ แม่ก็เป็นห่วงกังวลว่าผู้หญิงอย่างน้าอิงคงลำบากที่จะแก้ปัญหาถ้ามันเกิดเสียกลางทางขึ้นมา เลยบอกให้มาเอารถที่บ้านไปใช้เพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้ใช้ ทั้งแม่ทั้งพี่มัทก็ทำงานที่เดียวกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถมากขนาดน้าอิง แรกๆน้าอิงก็เกรงใจ ขอไปรอรถพนักงานของโรงแรมที่มีบริการรับส่งดีกว่า แต่น้าอิงคงลืมนึกไปว่าหากวันไหนน้านิติดงานก็จะไปมีใครคอยไปรับไปส่งสองแฝดที่เรียนพิเศษวันที่ต้องเลิกดึก เพราะเวลานั้นรถประจำทางก็แทบจะไม่ค่อยมีวิ่งแล้ว คุณยายเลยต้องใช้วิธีบอกให้น้าอิงไปส่งสองแฝดที่โรงเรียนเองทุกเช้าเพื่อส่งเสริมความอบอุ่นภายในครอบครัว พอคุณยายเอ่ยปากอย่างนั้นน้าอิงเลยปฏิเสธไม่ได้ ในเมื่อผมเองก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ รถที่จอดเอาไว้เฉยๆก็เสื่อมสภาพได้ไม่ต่างจากรถที่ถูกใช้งาน เพราะฉะนั้นให้มันทำหน้าที่ของมันแล้วเสื่อมจากการทำหน้าที่จะยังดีเสียกว่า
"เพื่อนแม่ยังไม่มารับอีกเหรอ"
"นั่นสิ รอนานแล้วเนี่ย เห็นบอกว่าอีกสักพักๆ แม่โทรไปก็สายไม่ว่าง"
"งั้นแมทรอเป็นเพื่อนแม่ก่อนก็แล้วกันครับ"
"จ้ะ แล้วนี่ลูกจะไปไหน"
"นัดกับโอ้ตว่าจะไปเดินเล่นที่ห้างอ่ะแม่"
"อ่อ จ้ะ อ่ะนี่ เพื่อนแม่โทรมาพอดี" แล้วแม่ก็รับโทรศัพท์พูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนไม่นานก็วาง
"สงสัยว่าแมทจะต้องไปส่งแม่แล้วหล่ะลูก เพื่อนแม่แวะไปรับเพื่อนอีกคนแล้วลืมหยิบซองมาด้วยเลยต้องวนกลับไปเอา แม่เลยบอกว่าเดี๋ยวให้ลูกไปส่งดีกว่าจะได้ไม่ต้องวนไปวนมาให้เสียเวลาเนอะ"
"ได้ครับแม่ งั้นแมทแวะรับไอ้โอ้ตก่อนนะ"
"โอเคจ้ะ งั้นไปกันเถอะ"
.......................................................................
"เอ้า ขับด้วย ไปโรงแรม x ตรงโค้งก่อนถึงร้านพี่มัทก่อนนะ" เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาผมก็รีบลงจากรถแล้วพาตัวเองมานั่งด้านหลัง ปล่อยหน้าที่พลขับให้เป็นของไอ้โอ้ตแทน และไอ้โอ้ตที่คิดว่าตัวเองจะต้องหาเรื่องขัดผมตลอดเวลาก็รีบเปิดประตูด้านตรงข้ามคนขับ
"แล้วไปนั่งด้านหลังทำไมวะ ตลอดเลยนะมึงเนี่ย อ้าวแม่ สวัสดีครับ วันนี้สวยเชียว จะไปไหนครับเนี่ย" แต่ปรากฎว่ามันไม่ว่างเพราะแม่นั่งอยู่
"สวัสดีจ้ะโอ้ต"
"อย่าถามมากน่า เชี้ยโอ้ตไปขับรถ"
"อะไรวะถามแม่ก็ไม่ได้" สุดท้ายมันก็เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ
"ลูกชายแม่นี่ปากจัดนะครับ" ยังไม่ทันได้ออกรถก็เริ่มกัดผมอีกละ
"เหมือนมึงอ่ะแหละ" ถ้ามันพูดดีๆเลิกกวนประสาท ผมคงไม่ใจร้ายพอที่จะหยาบคายกับมันหรอก
"พอกันทั้งคู่นั่นแหละ เจอกันเป็นต้องแขวะ ไม่เบื่อบ้างหรือไงแม่ถามหน่อย"
"สนุกดีครับแม่" ผมบอก
"แต่โอ้ตไม่หนุกด้วยเลยแม่ แมทชอบว่าโอ้ตแรงๆ"
"ไอ้กระแดะ วันหลังจะกูอัดคำพูดหยาบคายไปฟ้องม๊ามึงบ้าง คอยดู!"
"แหม งอนเหรอคะทรามเชย โอ๋ๆๆๆ มาจูบปลอบใจทีมา ฮ่าๆๆ แม่ดูลูกชายแม่ดิ งอนทีปากนี่ปลิ้นเลย"
"ไอ้เชี้ยโอ้ต!!!"
"หยุดเลยๆ ยิ่งแขวะก็ยิ่งทะเลาะกัน อย่าให้แม่ได้ยินว่าพูดจาไม่ดีใส่กันอีกนะ แมทนะพูดจาให้มันดีๆหน่อย แล้วก็พอนะเรื่องออกคำสั่งกับเพื่อนหน่ะ โอ้ตก็เหมือนกัน เลิกแหย่แมทได้แล้ว"
"แต่แมทเป็นแค่กับโอ้ตคนเดียวนะแม่"
"แหม! รู้สึกวีไอพีขึ้นมาทันทีเลย โอ้ตชินแล้วแม่ ถึงมันไม่สั่งโอ้ตก็ทำให้อยู่ดีนั่นแหละครับ"
"นั่นแหละ มันจะทำให้แมทเสียนิสัย ถ้าวันนึงต่างคนต่างก็มีแฟนแล้วจะทำยังไง จะมาง้องแง้งใส่กันแบบเดิมไม่ได้แล้วนะ"
"โหยแม่ แมทยังไม่คิดเรื่องนี้เลย ถ้ามันมีแฟน แมทก็ค่อยทำตอนแฟนมันไม่อยู่สิ"
"เอ๊ะ! แมท ที่แม่สอนนี่เข้าใจจะเอาไปปรับใช้บ้างไหม"
"แม่ๆ ใจเย็นๆครับ โอ้ตก็ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ลูกชายแม่ยังเป็นอันดับหนึ่งในใจโอ้ตเสมอนะครับ แม่ไม่ต้องกังวล"
"หยุดล้อเล่นน่าโอ้ต พูดอะไรแบบนี้เดี๋ยวม๊าโอ้ตมาได้ยินรับไม่ได้ขึ้นมาจะโดนสั่งให้เลิกคบกันหรอกคอยดู"
"ม๊าจะเชียร์แทนหน่ะสิครับ รักแมทจะตายไปครับแม่ รักมากกว่าโอ้ตอีก ตั่วเฮียลูกอี๊มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันก็ไม่เห็นเขาว่าอะไรเลยนะครับ ยิ่งถ้าเป็นแมทม๊ารับได้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ"
"แต่แม่ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกันนะ แรกๆแม่ก็เฉยๆ แต่พักหลังๆแม่ได้ยินบ่อยขึ้นนะ ใครเขาได้ยินเข้าจะเอาไปพูดกันสนุกปาก" ไม่ใช้ม๊าของโอ้ตหรือใครต่อใครหรอกที่แม่เป็นกังวลว่าจะรับไม่ได้ แต่เป็นแม่เองมากกว่า เพราะได้ยินแม่พูดแค่นี้ผมก็พอจะเดาได้แล้วว่าแม่เองก็ใช่ว่าจะรับเรื่องแบบนี้ได้ ที่ผ่านมาคงเพราะคิดว่าไม่มีใครจะเก็บมาจริงจังแม่ก็เลยไม่ห้าม
.......................................................................
"ขอบใจมากนะลูกที่มาส่งแม่ก่อน แล้วอย่าทะเลาะกันอีกหล่ะ"
"ครับแม่" โอ้ตรีบรับปากพร้อมตะเบ๊ะท่ารับคำ
"ได้ยินที่แม่บอกไหมแมท"
"ได้ยินแล้วครับแม่" พอได้ยินผมตอบรับแม่ก็เดินเข้าโรงแรมไป
"อ้าวเฮ้ย! เห็นกูเป็นขี้ข้าไงวะ มานั่งข้างหน้าดิ กูไม่ใช่ลูกคนขับรถบ้านมึงนะครับ"
"เหรอ กูก็เข้าใจมาตลอดว่าใช่"
"สนุกเกินไปละ ตกลงมึงจะไม่ลุกมานั่งข้างหน้าใช่ไหม" มันจะอะไรนักหนากับตำแหน่งที่นั่ง
"เออ ขับไปเถอะน่า กูหิวแล้วเนี่ย"
"หิวก็รีบลงมา" ยังไม่ทันได้เถียงต่อมันก็มาเปิดประตูยืนอยู่ข้างผมและกระชากให้ผมต้องลงจากรถตามมัน
"อะไรของมึงนักหนาเนี่ย กูนั่งข้างหลังแล้วมึงจะเหยียบคันเร่งไม่ได้หรือไง"
"เออ กูไม่มีกำลังใจแม้แต่จะเข้าเกียร์เลยครับ" ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อล้อต่อเถียงเรื่องปัญญาอ่อนกับมัน แค่ลุกไปนั่งตามที่มันต้องการจะได้จบๆ
"แหมยาหยีจ๋า อย่าทำหน้าเป็นตูดอย่างนั้นสิคะ ไม่เอานะๆ ยิ้มหน่อยๆ" พูดจบก็เอามือมาดึงแก้มผมทั้งสองข้างก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูบหัวให้ผมต้องถอยตัวห่างจากมัน
"กูไม่ใช่เด็กๆที่จะยินดีกับวิธีปลอบใจปัญญาอ่อนของมึง เอามือออกไป" ผมรีบสะบัดหัวออกจากมือมัน ไม่ใช่ไม่เคยทำแบบนี้ ไม่ใช่ไม่เคยชิน และไม่ได้กลัวว่าแม่จะเห็น แค่รู้สึกว่ามันไม่มีอารมณ์จะมาเล่นอะไรแบบนี้ในตอนนี้
"แม่เขาก็แค่เตือนไปตามที่ควรจะทำ ไม่ต้องคิดมากหรอก" อย่างน้อยโอ้ตก็เป็นคนที่รู้ทันเสมอว่าผมกำลังคิดหรือหนักใจเรื่องอะไรอยู่
"อืม" แล้วมันก็ตบหัวหนักๆอีกสองสามทีก่อนจะผายมือให้ผมเข้าไปนั่งในรถ
"กูเจ็บ" ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ใช่ว่ามันจะใส่ใจ มันทำแค่โค้งตัวแล้วปิดประตูรถให้ก่อนจะเดินมานั่งที่ตำแหน่งคนขับ
"คาดเข็มขัดด้วยมึง เดี๋ยวกูจะดริฟท์ให้ลืมเครียดเลย" และก็เป็นโอ้ตอีกนั่นแหละที่เอื้อมตัวมาดึงเข็มขัดแล้วคาดให้
"ขอบใจ" ตอนนี้ผมไม่สนแม้แต่จะคาดเข็มขัดให้ตัวเอง
ถ้ารู้แบบนี้ ผมเกลียดคำนี้ ถ้ารู้แบบนี้เราจะไม่คิดเราคงจะไม่ทำอย่างนั้นใช่ไหม แต่เพราะไม่รู้ไง ถึงไม่พยายามห้ามหรือหยุดความคิดตัวเอง ใช่ ถ้าผมรู้ว่าแม่ไม่ชอบ ผมคงจะไม่พยายามหาคำตอบให้ตัวเองว่าทำไมต้องเอาแต่นึกถึงพี่เชน แต่เพราะผมไม่รู้ และไม่รู้จนปล่อยให้ความรู้สึกมันมากเกินกว่าความคิดถึง และมันก็มากจนกลายเป็นความชอบ จนตอนนี้ก็คงต้องพูดประโยคเดิมๆอีกครั้งว่าผมไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไง
.......................................................................
❤ขอบคุณที่ติดตามนะคะ *
❤อีกนิดเดียวเอง...
❤แนะนำติชมได้ตามสะดวกเลยนะ ขอบคุณค๊ะ