Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐  (อ่าน 567075 ครั้ง)

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
โอ้ เอ็นซีสองตอนรวด  รอรับบริจาคเลือดด่วน ตี๊ดๆๆๆ


ห้าๆๆ น่ารัก ทำไมคุณหมอน่ารักจังเลย

ไอ้พี่เสือมันก็(โครต)หื่นเลย


งี้ถ้าคุณหมอมาอยู่ด้วยทุกวันไม่ตาย(?)กันพอดีหรอ (ฮา)

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
พี่เสือออออออออออออออออ โฮกกกกกกกกกกกกกก :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4
พี่เสือหายเพราะได้ยาดีจากหมอมะรุมสินะ สินะ ~~~~

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ขออ่านในแบบที่คนเขียนอยากเขียน
เต็มที่เลยเจ้าค่า!!!
หวานซะนะตอนนี้

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
โดนกินไป 2 ครั้งแน่ะ ตอนล่าสุดนี้ อิอิ >.<
เวลาพี่เสืออ่อนโยน มันก็น่ารักเหมือนกันน๊าา

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
เป็นตอนที่ดุเดือดเลือดสาดมาก :pighaun:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
หวานปนหื่นสุดๆเลยน่ะ

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
หึ
555555555555555555555555555
555555555555555555555555555
5555555555555555555555555

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อาทิตที่แล้วไม่ได้มา แล้วอาทิตนี้จะมาไหมค่ะ :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ตอนที่ ๒๕ สิ่งที่ดีที่สุด


   “อาออยจะไปไหนหรือฮะ”

   “อาจะกลับไปช่วยงานที่บ้านครับ”
   “ทำไมต้องไปด้วยละ อาออยไม่รักพิกเล็ตแล้วหรือฮะ”

   ผู้เป็นอาพรูลมหายใจยาว พลางระบายยิ้มอ่อนโยนให้หลายชายตัวน้อย มือเรียวยกขึ้นลูบเส้นผมนุ่ม

   “รักซิ อาน่ะรักพิกเล็ตมากที่สุดในโลก แต่อาไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว”

   “ให้พ่อกับแม่ของอาออยมาอยู่ที่นี่ก็ได้นี่ฮะ”

    เจ้าตัวเล็กต่อรอง ใบหน้าที่หมองลงเล่นเอาหัวใจผู้ใหญ่กระตุกวูบ เขารักพิกเล็ตยิ่งกว่าใคร ไม่อยากห่างไปไหนเลยแต่ถ้าไม่เลือกที่จะอยู่ต่อเขาก็ยังอยู่ในวังวนเดิมๆ ตัดใจจริงจังไม่ได้เสียที เขายื้อเวลาปวดใจมานานมากพอแล้ว ที่สำคัญพิกเล็ตได้คนที่ทั้งรักทั้งห่วงเท่ากับเขาแล้ว

   อาณกรย่อกายลงจนระดับความสูงเท่ากัน มืออุ่นที่ประคองดูแลเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยมาตั้งแต่เกิดสอดรัดและรั้งลำตัวบางเข้ามากอดอย่างที่ทำมาตลอด ไมใช่ว่าทำใจได้เขาใช้เวลาตัดสินใจอยู่แค่ไม่กี่คืนก็จริงทว่าในแต่ละวินาทีมันปวดร้าวยิ่งนัก เวลาห้าปีที่ผูกพัน อยู่ด้วยกันทุกวัน รักราวกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ตัดใจ แต่ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป

   “ไม่ได้หรอกครับ พ่อแม่ของอาท่านเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกัน เหมือนพ่อเสือไง พ่อเสือก็ไปอยู่ที่อื่นไม่ได้เพราะต้องทำงานอยู่ที่นี่”

   “แต่หนูไม่อยากให้อาออยไป” ดวงตากลมใสมีน้ำคลอ ปลายจมูกแดงเรื่อเหมือนกวางตัวน้อย

   เขาก้มลงจูบบนปลายจมูกแดงเบาๆ เลื่อนริมฝีปากไปที่หน้าผากนูน สะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มที่อบอุ่น

   “อาไม่ได้ไปแล้วไปเลย สัญญาว่าถ้ามีวันหยุดเมื่อไรจะมาหาพิกเล็ตทันที”

   “หนูไม่เชื่อหรอก พออาออยไปแล้วก็ลืมหนู” เด็กชายตัดพ้อ คราวนี้น้ำในตาไหลรินผ่านแก้มใส

   คนเป็นอาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยหยดน้ำอุ่นให้ “ไม่ลืมหรอก ใครจะลืมเด็กน่ารักอย่างพิกเล็ตได้ เอาอย่างนี้” เขาจับมือเล็กขึ้นมากุมไว้แล้วใช้นิ้วก้อยเกี่ยวกัน “อาสัญญาว่าจะมาหาพิกเล็ตทุกวันหยุด หรือถ้าพ่อเสือว่างก็ให้พาพิกเล็ตมาหาอาดีไหม”

   พิกเล็ตไม่ตอบรับข้อเสนอ ดวงตากลมเหมือนลูกแก้วไหวระริก ยิ่งมองก็ยิ่งใจหายอีกไม่กี่วันเขาจะไม่ได้เห็นตาใสคู่นี้อีกแล้ว

   “หนูไม่อยากให้อาออยไปเลย”

   อาณกรรวบร่างน้อยมากอดไว้แนบอก หัวใจเขาปวดร้าวจนเกินจะทนไหว ไม่ใช่แค่พศินเท่านั้นที่เขามีจิตปฏิพัทธ์ แต่ยังรวมไปถึงพิกเล็ตด้วย เขาทั้งรักทั้งผูกพันกับเด็กคนนี้  รักมากเลยเจ็บปวดมากเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน

   “จากกันแค่ชั่วคราว เดี๋ยวพอพิกเล็ตโตกว่านี้อาจะขออนุญาตพ่อเสือให้ไปเรียนกรุงเทพฯ ดีไหม”

   ใบหน้าน้อยรูปหัวใจสั่นไปมา ด้วยยังเยาว์วัยไม่อาจเข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่ง่ายๆ จะปิดเทอม วันหยุดหรือโตกว่านี้เขาก็อยากให้อาออยอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป ถวิลหาอ้อมกอดที่โอบอุ้มมาแต่ไหนแต่ไรจู่ๆ จะมาหายไปไม่มีใครทำใจได้ หยาดน้ำตาไหลลงผ่านแก้มครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ที่ผู้เป็นอาหยิบยกมา รู้แต่ว่าไม่อยากให้อาไปไหนทั้งนั้น

   “ไม่เอา หนูรักอาออย หนูอยากให้อาออยอยู่ที่นี่กับหนู”

   น้ำตาที่ใช้ความพยายามทั้งหมดหักห้ามมันเอาไว้ทลายอย่างสิ้นท่า เขารวบตัวหลายชายที่รักไม่ต่างจากแก้วตาดวงใจมากอดไว้ กดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่ม หัวใจปวดร้าวหนักหน่วงใช่ว่าอยากจะจากไป ใช่ว่าอยากจะผลักไสทว่าเขาเองก็ไม่อยากอยู่เพื่อเป็นส่วนเกิน ไร่นี้มีคนดีที่เหมาะสมอย่างวรทย์ตัวสำรองที่เป็นมาตลอดอย่างเขาหมดหน้าที่เสียแล้ว

   “อา…ก็ไม่อยาก ฮึก ไป”

   “ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

   สองอาหลานเงยหน้าจากกันและกันเพื่อมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยแทรกขึ้น เรือนร่างกำยำใหญ่โตที่ซูบลงกว่าเดิมเล็กน้อยยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าว ดวงตาคมกริบทอดมองนิ่งแต่ก็เรียบเฉยจนอยากจะคาดเดาความหมาย ทว่าเจ้าตัวน้อยกลับดูออกว่าผู้เป็นพ่อกำลังยืนข้างเดียวกับเขา

   “อาออยอยู่ด้วยกันที่นี่กับหนูนะ อยู่ด้วยกันตลอดไปเลย”

   “ไม่ได้หรอก” คนปากแข็งปฏิเสธอีกครั้ง พลางผุดลุกขึ้นเต็มความสูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ของตัวเอง เขายืดหัวไหล่ให้ตั้งตรงไม่อยากให้ผู้ใหญ่อีกคนรู้ว่ากำลังเศร้าโศกเพียงไหนที่ตัดสินใจจากลา

   “ทำไม นายเบื่อไร่นี้แล้วหรือ”

   อาณกรหันหน้ามองคนพูด เขารักดวงตาคมคู่นั้น ดวงตาที่ดุยิ่งกว่าเสือ ดวงตาที่สะท้อนทุกความรู้สึกแทนคำพูด หลงรักมาตลอดหลายปี พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าของดวงตาคู่นี้รู้ว่าเขามีตัวตนและพร้อมจะเคียงข้างเสมอ ทว่าความพยายามมันสูญเปล่าเขายังคงเป็นได้แค่น้องชายเท่านั้น เป็นคนนอกสายตาที่โดนมองข้ามตลอดมา

   “ผมไม่เคยเบื่อไร่เคียงฟ้า แต่ผมอยากกลับไปทำหน้าที่ลูกที่ดีบ้าง”

   “พ่อแม่นายก็ไม่ได้เรียกร้องให้กลับไม่ใช่หรือ พวกท่านยังสนุกกับงานแล้วก็ไม่ได้อยากให้นายกลับไปแย่งงานทำด้วย”

   “พี่รู้ได้ยังไง” คิ้วเรียวยกสูง มองหน้าคนพูดเต็มตา

   “ฉันมีลักยม” พศินตอบอย่างมีลับลมคมใน “หยุดความคิดบ้าๆ ของนายซะ ไม่ว่าจะอะไรที่ทำให้นายคิดว่าหมดความหมายกับไร่นี้ ฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่ามันไม่เป็นความจริง นายสำคัญกับไร่เคียงฟ้า กับพิกเล็ตและกับฉัน”

   หัวใจของเขาเต้นรัว ความหวังที่ริบหรี่ราวกับแสงเทียนจวนเจียนจะดับมันกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง ทว่าประโยคถัดมาแสงแห่งความหวังนั้นมันก็ดับลงเหลือเพียงแค่ควันเท่านั้น

   “นายเป็นน้องชายที่ฉันรักที่สุด”   

   นั่นซินะ…ไม่ว่าจะเมื่อไรเขาก็เป็นได้แค่น้องชายเท่านั้น แล้วเขาจะยังหวังอะไร อาณกรเผลอยิ้มสมเพชความคิดแย่ๆ ของตัวเอง ร่างสูงเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ก่อนจะยกมือขึ้นพาดหัวไหล่ของเขา มือบีบกระชับไม่ได้แน่นหนาอะไรแต่ก็อบอุ่น

   “รู้อะไรไหม ความสัมพันธ์ของเรามันแนบแน่นยิ่งกว่าญาติ ฉันกล้าพูดได้เลยว่าฉันรักนายมากกว่าไอ้ภูมิเสียอีก ฉันเสียนายไปไม่ได้แต่ฉันยอมเสียไร่เคียงฟ้าให้กับไอ้ภูมิได้ อยู่ด้วยกันที่นี่เถอะนะ ไว้รอให้พ่อกับแม่นายทำงานไม่ไหวเมื่อไรค่อยกลับไป ถึงตอนนั้นพิกเล็ตคงไปเรียนที่กรุงเทพฯ ได้”

   “นะอาออย อยู่กับหนูเถอะ หนูอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีอาออย” เจ้าตัวน้อยเลิกใช้น้ำตาแล้วใช้วิธีที่ถนัดแทน ดวงตากลมในแสดงความเว้าวอน อาลัยและอาวรณ์เต็มพิกัด ทั้งน่ารักและน่าสงสาร จนเขาอ่อนใจที่จะคัดค้าน

   “เพิ่มเงินเดือนให้ผมด้วย เพราะผมสำคัญกับไร่เคียงฟ้า”

   “ได้อยู่แล้ว”

   อดีตเจ้าของไร่เคียงฟ้าที่ยังคงดำรงตำแหน่งจนกว่าเด็กชายพิกเล็ตจะอายุครบยี่สิบปีตามพินัยกรรมที่เจ้าของไร่ตัวจริงระบุเอาไว้ ไร่นี้จะยังอยู่ในการปกครองของเขาอย่างน้อยก็อีกสิบห้าปี เวลาที่เหลือเขาจะพัฒนาความยิ่งใหญ่ของไร่เคียงฟ้าให้ลูกชายโดยจะมีผู้ช่วยฝีมือดีอย่างอาณกรอยู่เคียงข้างตลอดไป…
……………………


    “ไงไอ้เสือตกมัน พาลูกน้องอาออกจากถ้ำได้แล้วหรือวะ”

   คนที่โดนโอบประชิดหน้าแดงก่ำ อยากจะทุบพุงเจ้าเสือตัวดีที่เพิ่งจะยอมปล่อยให้เขากลับโรงพยาบาลหลังจากที่ลางานไปเป็นอาทิตย์นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นสายระดับหลานผู้อำนวยการป่านนี้เขาคงถูกส่งตัวไปอยู่ที่อื่นเรียบร้อยแล้วข้อหาลางานเกินความจำเป็น

   พศินหายดีราวกับใช้เวทมนต์รักษา แผลตามร่างกายเหลือแค่สะเก็ดเท่านั้นแต่ที่หนักที่สุดคือที่หน้าอกด้านซ้าย รอยฟกช้ำเขียวจ้ำย้ำถึงการกระทำอันแสนโหดร้ายของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อน แต่อีกไม่นานหรอกแผลพวกนั้นก็จะเลือนหายไปเหมือนกับความเจ็บปวดในใจที่ตอนนี้แทบไม่หลงเหลือให้รู้สึกอีกแล้ว วงแขนกำยำยกขึ้นโอบรอบหัวไหล่เล็ก ความสูงของวรทย์ไม่ได้น้อยนิดเสียเท่าไรแต่เมื่อเทียบกับคนที่สูงเกินหกฟุตตัวใหญ่เหมือนพวกตะวันตกทำให้คุณหมอหน้าหวานกลายเป็นพวกคนแคระได้ทันตา

   “นี่ก็แค่มาส่ง เดี๋ยววันเสาร์จะมารับ ผมฝากให้อาช่วยดูหน่อยระวังอย่าให้ไอ้แมวขโมยแถวนี้มาคาบไปกิน”

   “แมวที่ไหนวะ” ผู้เป็นอากวาดตามองหา ‘แมวขโมย’ ที่ไอ้หลานชายตัวดีพูดถึง แต่นอกจากคุณหมอหนุ่มอีกคนเขาก็ไม่พบใครอีก

   “แถวๆ นี้แหละ ตัวเบ่อเริ่มจ้องตาเป็นมันเชียวนะมึง”

   คงมีคนที่ถูกเปรียบให้เป็นสัตว์เท่านั้นที่รู้ตัว แต่กระนั้นก็ไม่ได้ยี่หระกับคำเปรียบเทียบเสียเท่าไร ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนคงได้ตอบโต้กันน้ำลายท่วมไปแล้ว ทว่าใดๆ ในโลกล้วนไม่แน่นอน ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นแมวแต่เป็นมดแดงต่างหากแล้วก็กำลังแฝงพวงมะม่วงเสียด้วย

   “ไอ้บ้านี่พูดจาเพ้อเจ้อ” ปยุตบ่นหลานชายอย่างเอือมระอา ก่อนจะหันไปพูดกับคุณหมออีกคนที่ยืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก “กลับมาก็ดีแล้ว หมอคีย์จะได้เพลางานลงหน่อย ไอ้ภูมิก็ขอย้ายไปกรุงเทพฯ แล้ว หมอประจำเหลือแค่ไม่กี่คน”

   เขารู้ถึงเหตุผลที่หลานชายคนเล็กทำเรื่องขอย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ อย่างกะทันหันดี เรื่องที่โยธินก่อเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอยแต่ไม่ใช่ว่าคนผิดจะไม่โดนลงโทษ หลานชายของเขาขอเป็นผู้พิพากษาพิเศษลงทัณฑ์คนผิดด้วยตัวเอง

   อันที่จริงปัญหาระหว่างพศินและปารินมันยืดเยื้อมานานแล้ว เขาไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งตั้งแต่แรกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวทว่าสิ่งที่ปารินกับโยธินทำกับพศินมันหนักหนาเกินกว่าจะยอมปล่อยไปได้ เขาไม่ใช่พวกแสดงออกถึงความรักสักเท่าไรนักก็จริงแต่ถ้าหากคนในครอบครัวโดนทำร้ายก็พร้อมจะกางกรงเล็บได้ทุกเมื่อ ดังนั้นชะตากรรมของโยธินและปารินเขาจะปล่อยให้ภาคภูมิและปืนจัดการได้อย่างเต็มที่

   “ออยไม่กลับกรุงเทพฯ แล้วใช่ไหม”

   “ครับ แต่ผมต้องเพิ่มเงินเดือนให้อีก คนอะไรเคี่ยวชะมัด”

   คุณหมอตัวสูงอีกคนเผลอกำหมัดแล้วดึงเข้าหาลำตัวเบาๆ คงคิดว่าไม่มีใครเห็นท่าทางดีอกดีใจของตัวเอง แต่กิริยาพวกนั้นมันตกอยู่ในสายตาของคุณหมออีกคนทั้งหมด

   “เอาเถอะ คนที่ทั้งเก่งและดีอย่างออย เงินเท่าไรก็คุ้ม”

   “ผมก็คิดอย่างนั้น ต้องขอบคุณไอ้แมวขโมยที่มันเอามาบอกผม สงสัยจริงๆ ว่ามันรู้ได้ยังไงว่าออยจะกลับบ้าน สงสัยต้องเปลี่ยนจากแมวขโมยเป็นโหงพรายแทน”

   รอยยิ้มที่หลุดเพราะความยินดีหุบฉับ ตอนที่เป็นแมวขโมยมันยังฟังดูดีแต่พอเปลี่ยนมาเป็นโหงพรายมันแย่กว่าหลายเท่า คุณหมอตัวสูงปรายตามองไอ้คนปากหมา เขาไม่น่าเอาไปบอกมันเลยว่าอาณกรจะกลับบ้าน

   “พอเถอะน่า” ข้อศอกเล็กกระทุ้งที่หน้าท้องแกร่งอย่างไม่คิดจะออมแรงพลางดึงมือเหนียวเหมือนปลาหมึกออกจากหัวไหล่ แล้วเดินไปสมทบกับคุณหมออีกคน “กลับไปไร่ได้แล้ว หยุดงานไปหลายวันแล้วน้ำมันก็ไม่ได้ส่ง เดี๋ยวถ้าเจ๊งขึ้นมาพิกเล็ตมีหวังได้กินแกลบแน่”

   “กลัวอะไร มีเมียเป็นหมอเงินเดือนพอเลี้ยงลูกเลี้ยงผัวได้อยู่แล้ว”

   “ไอ้บ้า!”

   วรทย์ตะโกนใส่คนหน้าหนาเสียงดัง ก้มหน้าหลุบตาสายตาสามคู่ที่จ้องมองมา อายจนอยากจะเอาหน้าซุกดินหนี

   “ผมกลับก่อนนะอา อ้อ! ห้ามจัดเวรให้เมียผมอยู่เสาร์อาทิตย์ล่ะ แล้ววันเสาร์ผัวจะมารับนะเมียจ๋า”

   คิมหันต์กลอกตามองฟ้า หมั่นไส้ไอ้เสือตกมันสิ้นดี ส่วนอีกคนก็เขินเกินพิกัดช่างเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาพอๆ กับน่าระอา…
…………………….

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
“คุยกันหน่อยซิ”

   ชายเสื้อกาวน์ถูกกระตุกไว้ด้วยมือขาวเรียว คิมหันต์เงยหน้าจากแฟ้มประวัติคนไข้มองคนที่เอาสะโพกทับกับขอบโต๊ะทำงานเขาไว้หมิ่นเหม่ ใบหน้าเนียนใสตึงเครียดกว่าปกติ มือเรียวยาววางแฟ้มลง เอนกายพิงพนักเก้าอี้พลางผายมือเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ว่างอีกตัว

   “มีอะไรหรือเปล่า”

   “ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ หมอกับคุณออยมีอะไรกันใช่ไหม”

   “อะไรทำให้หมอคิดอย่างนั้นล่ะ” เขาถามกลับ ไม่รู้ว่าวรทย์รู้อะไรมาบ้างแต่ก็คงมากพอที่จะเคลือบแคลงในความสัมพันธ์ของเขากับใครอีกคนได้

   “ผมเห็นหมอจูบกับคุณออยที่พุ่มเฟื่องฟ้าเมื่อวันก่อน”

   เขาเก็บความตกใจไว้ ที่จริงมันก็ไม่แปลกอะไรเพราะสถานที่ที่เขาเลือกที่จะแสดงความเป็นเจ้าของนั่นมันไม่ลับตาคนสักเท่าไรเพียงแต่ไม่คิดว่าคนที่เห็นจะเป็นวรทย์

   “ไม่มีอะไรมากหรอก”

   “บอกผมมาเถอะน่า อย่าปิดกันซะให้อยากเลย แล้วถ้าไม่มีอะไรจริงๆ หมอคงไม่ไปบอกนายเสือเรื่องที่คุณออยจะกลับกรุงเทพฯ หรอกจริงไหม”

   คนโดนจับผิดผ่อนลมหายใจเหยียดยาว ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวที่โดนจับได้เพราะเขาไม่คิดจะปิดบังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผิดกับอีกฝ่ายที่ตั้งข้อแม้ One night stand ขึ้นมา แค่คืนเดียวจบกัน น่าขำสิ้นดี แค่คืนเดียวที่ไหนระหว่างเขากับอาณกรมันเกินคืนเดียวไปแล้วร่องรอยที่ทิ้งไว้เมื่อวันก่อนมันฟ้องได้เป็นอย่างดี และหนึ่งในแผนการยื้อคนหัวแข็งเอาไว้คือการไปบอกความลับกับนายเสือ แม้จะไม่อยากเห็นหน้าแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันได้ผลดีเกินคาด

   “ผมกับออยมีอะไรกันแล้ว”

   “นั่นไง!” วรทย์ตบเข่าฉาด เก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ผิดเหลือเค้าความจริงจังเมื่อครู่ให้เห็นอีกแล้ว “เล่ามาให้หมดเลยนะ ไปมีอะไรกันตอนไหนยังไงแล้วเมื่อไร”

   “เรื่องมันยาว เอาเป็นว่าผมสองคนกำลังเป็นยาใจให้กันและกัน”

   คำตอบที่ได้ไม่อาจไขความกระจ่างให้คนช่างสงสัยเลยสักนิด คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ด้วยความอยากรู้ที่อัดแน่นอยู่ในอก

   “บอกหน่อยซิ ทำไมต้องเป็นยาใจ เสียใจอะไรกันมาหรือ?”

   “ขอเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกัน ว่าแต่หมอเถอะบอกเรื่องนายเสือกับครอบครัวแล้วหรือยัง”

   วรทย์นิ่งไป คำถามของคิมหันต์มันจี้แทงใจเขาไม่น้อย เมื่อคราวที่พี่มะนาวพาเจ้าช้างมาส่งก็ไม่ได้สงสัยหรือถามไถ่อะไร ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพศินคงมีแต่คนที่นี่เท่านั้นที่รู้ แต่ทางครอบครัวของเขายังไม่มีใครรู้สักคน ความกังวลครอบคลุมความคิดในนาทีนั้นเอง เขาเกือบลืมไปแล้วว่าความรักของเขามันผิดแผกไปจากสังคมและการยอมรับ พ่อแม่และพี่สาวของเขาจะทำใจยอมรับสิ่งที่เขาเลือกครั้งนี้ได้หรือไม่ เขาไม่อาจคาดเดาได้เลย

   คิมหันต์ถอนหายใจอีกครั้ง เขาพอจะมองออกว่าวรทย์คงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับครอบครัวแน่ มันยากที่จะยอมรับว่าลูกชายจะมีคนรักเป็นเพศเดียวกันถึงสมัยนี้จะไม่มีแบ่งแยกแล้ว แต่ในฐานะของพ่อแม่มันก็หนักหนาเกินกว่าจะทำใจได้อย่างง่ายดาย โชคดีที่เขามีแม่แค่คนเดียวท่านใจดี และเขาก็เชื่อเหลือเกินว่าท่านจะยอมรับอาณกรได้ แต่วรทย์เขาไม่มั่นใจเลย มือยาวยื่นไปจับหัวไหล่เล็กบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ

   “อย่ามันยืดเยื้อเลย ถ้าเลือกแล้วก็ต้องเดินหน้า มาถึงตอนนี้จะท้อไม่ได้นะ ผมอุตส่าห์ถอยให้แล้วนะ”

   “ถอย? ถอยอะไร”

   ทว่าคนถูกถามทำแค่เพียงยิ้มอย่างมีเลศนัยน์แต่ไม่ไขความใดๆ ให้ทั้งนั้น ปล่อยให้เป็นความลับที่อีกคนจะไม่มีวันได้รู้แน่นอน…
……………………


   “อะไรนะ มะรุมจะให้พี่ไปที่ไหนนะ”

   “หูหนวกหรือไง” ดวงหน้าใสติดง้ำงอ เขาแน่ใจว่าพ่อเสือเจ้าเล่ห์ตัวนี้ได้ยินทุกประโยคที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ชัดเจนดี แต่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินมากกว่า “เสาร์นี้เราจะไปหาพ่อกับแม่ของผมกัน”

   “ทำไมต้องไป”

   คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ความหงุดหงิดก่อตัวทันที “แล้วทำไมจะไม่ไปล่ะ”

   “ไม่อยากไป” อีกฝ่ายตอบกลับมาแบบไม่เสียเวลาคิด

   วรทย์สูดลมหายใจเข้าปอดเอาให้ยาวที่สุดและระบายออกมาระงับความขุ่นเคือง “ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องคบกัน แค่นี้นะมีงาน!”

   นิ้วเรียวจิ้มลงที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือยุติการสนทนาแต่เพียงเท่านั้น ไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะตอบรับคำชวนหรือไม่รู้แต่ว่าถ้าหากว่าเสาร์นี้พศินไม่ยอมไปกรุงเทพฯ กับเขาล่ะก็เรื่องยาวแน่ ร่างบางทอดกายลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมสีดำ ล้อเลื่อนหมุนหันออกนอกหน้าต่าง ดวงตากลมเหม่อมองทิวทัศน์ด้านนอก ภูเขาลูกใหญ่ซ้อนกันภาพที่เขาเห็นจนชินตาและรู้ว่านั่นคือสถานที่ที่คนรักของเขาอยู่

   คนรัก...มาถึงตอนนี้เขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขามีคนรักเป็นผู้ชาย ที่หวังว่าจะได้แฟนเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักเป็นอันพังทลาย อย่างที่เพื่อนและรุ่นพี่หลายๆ คนเคยบอกตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ผู้ชายรูปร่างหน้าตาอย่างเขาไม่เหมาะจะเป็นสามีใคร แต่น่าจะได้สามีมากกว่าใครจะไปคิดล่ะว่ามันเป็นจริง แต่นั่นยังไม่น่าหนักใจเท่ากับการที่ต้องพาคนรักไปให้คนที่รักรับรู้ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าพ่อกับแม่จะทำหน้าอย่างไรถ้าได้เห็นนายเสือ

   ผู้ชายตัวใหญ่เหมือนยักษ์ ผมยาวระคอ หนวดก็ขึ้นเร็วรกครึ้มตลอดเวลา ตาดุยิ่งกว่าชื่อ นิสัยดิบห่าแถมปากร้าย อดหวั่นใจไม่ได้ว่าพวกท่านจะไล่ตะเพิดเพียงแค่พศินเปิดปากพูดเท่านั้น ถึงจะมั่นใจว่าอีกฝ่ายรักเขาเท่ากับที่เขารัก แต่เขาก็อยากให้ทุกคนที่เขารักยอมรับพศินด้วย ลมหายใจที่มีแต่ความกลัดกลุ้มกังวลระบายออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาให้รักครั้งนี้อย่าได้พบกับอุปสรรคใดๆ อีกเลย...
……………………..


    ท้ายที่สุดคนที่บอกว่าไม่อยากไปก็ต้องกลายมาเป็นสารถีให้เขาจนได้ ใบหน้าคมเข้มบูดบึ้งมึนตึงอย่างเห็นได้ชัด แต่มันไม่อาจทำให้อารมณ์ดีๆ ของเขาขุ่นมัวได้แม้แต่น้อย ไม่ใช่แค่ยอมมาเท่านั้นผมเผ้าและหนวดเคราที่เขาเป็นกังวล ถูกจัดการเรียบร้อย ผมลองทรงธรรมดาแต่กลับเข้ากับรูปหน้าเรียวได้เป็นอย่างดี ต้องขอบคุณอาณกรผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการที่ช่วยจัดแต่งผมเส้นใหญ่ดำสนิทให้ดูดียิ่งกว่าเดิมโดยการใส่เจลและหวีเสยไปด้านหลังเปิดใบหน้าคมสันเต็มที่ ยิ่งไร้หนวดเครารกตาบวกกับเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันไปหมด ทั้งเสื้อเชิ้ตสีอ่อน และกางเกงยีนส์สีเข้ม คาดทับด้วยเข็มขัดหนังสีน้ำตาล ส่งให้พศินดูหล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงจะทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินยาก็ตามที

   “พี่ช้างจะอยู่ที่บ้านพี่มะรุมไหมฮะ”

   เจ้าตัวน้อยที่กระโดดตามบิดามาด้วยถามเสียงดัง ไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้ เขายิ้มจนตาหยีวันนี้สองพ่อลูกหล่อเหลาสูสีกันน่าดู อาณกรจับพิตเล็ตสวมชุดที่เหมือนกับพ่อไม่มีผิดทั้งสีและแบบราวกับแฝดคนละฝา

   “อยู่ซิ”

   “พี่ช้างๆ”

    “น้อยๆ หน่อย พ่อยังไม่ชอบหน้าไอ้เด็กอ้วนดำนั่นอยู่นะ”

   เจ้าตัวน้อยไม่ได้สนใจคำปรามของผู้เป็นพ่อเลยสักนิด พิกเล็ตตื่นเต้นใหญ่เมื่อรู้ว่าจะได้มาเจอพี่ชายถึงกรุงเทพฯ ไม่มีการลังเลในคำตอบแค่เขาเอ่ยปากถึงเจ้าช้างอ้วนดำ น้องชายตัวขาวเหมือนสำลีก็รับปากรัว ผิดกับคนเป็นพ่อที่เอาแต่ทำมึนไม่ให้คำตอบ ทว่าวันเดินทางก็ตรงออกจากไร่เคียงฟ้ามารอเขาถึงหน้าบันไดห้องพักก่อนเวลานัดเสียอีก

   การที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าไม่ทำให้เด็กชายวัยห้าขวบอย่างพิกเล็ตเดือดร้อนแม้แต่น้อย ตลอดระยะเวลาเกือบสี่ชั่วโมง พิกเล็ตหยุดเสียงตอนที่กินข้าวเหนียวไก่ทอดที่อาออยใส่กระอับมาให้เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็เจื้อยแจ้วเสียงดังยิ่งกว่านกขุนทองเสียอีก

   หลังจากออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ จนล่วงเข้าสู่ช่วงสายในที่สุดทั้งหมดก็ถึงที่หมาย เขาเปิดประตูลงจากรถก่อนที่สารถีรูปหล่อจะบีบแตรส่งสัญญาณเสียอีก บ้านหลังขนาดกลางสองชั้นตั้งอยู่ชานเมือง บ้านแสนรักที่เขาจากไปเกือบสี่เดือน ต้นมะม่วงแก้วขาวกำลังผลิดอกรอวันออกลูกให้เจ้าช้างสอยกินกับน้ำปลาหวาน กลิ่นดอกโมกขจรยามต้องลมพัด ดอกไม้หลากพันธุ์ที่พ่อวรินทรสรรหามาปลูกพากันออกดอกอวดโฉม เจ้าปักกิ่งแมวตัวอ้วนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ใต้ต้นมะรุมเพื่อรอดักตะตบนกกระจอกที่ทำรังอยู่บนนั้น มันยังเหมือนเดิมไม่ต่างจากวันที่เขาเดินออกไปเพื่อทำหน้าที่นายแพทย์ตามที่ทุกคนคาดหวังไว้

    จู่ๆ น้ำตาก็คลอ เพิ่งรู้ว่าเขาคิดถึงที่นี่แค่ไหน เขามันเป็นลูกที่ไม่เอาไหนจากบ้านไปตั้งสี่เดือนแต่กลับไม่เคยติดต่อกลับมาเลย

   “บ้านพี่มะรุมหรือฮะ สวยจังเลย”

   เสียงใสดังขึ้นใกล้ๆ พิกเล็ตกระโดดลงจากรถตามมา มือเล็กกุมมือเขาไว้
 
   “ใช่ บ้านของพี่เอง”

   โฮ่ง! โฮ่ง!

   “หวา! มีหมาด้วย”

   เสียงร้องทักทายจากสัตว์เลี้ยงอีกตัวที่อยู่คู่บ้านหลังนี้ เจ้าป๊อกกี้เห่าอยู่หลังรั้วตัวมันยังอ้วนป้อมเหมือนเดิม ลิ้นห้อยจากปากกว้าง ขนสีขาวขุ่นดูสะอาดเหมือนเพิ่งถูกจับอาบน้ำเมื่อไม่นาน มันเดินส่ายก้นดุกดิกเข้ามาใกล้แต่ยังคงเห่าไม่หยุด ไม่ใช่กรรโชกแต่เป็นการแสดงความยินดีต่างหาก

    พิกเล็ตกระโดดไปหลบหลังเขา เด็กชายคงไม่ชินกับสุนัขเท่าไรเพราะที่ไร่เคียงฟ้าไม่มีสัตว์เลี้ยงสักตัว มือเล็กๆ ยึดขากางเกงเขาไว้แน่นหนา

   “ตัวใหญ่เบ่อเริ่ม มันจะกัดหนูไหมอ่ะ”

   “ไม่กัดหรอก มันใหญ่แต่ตัวน่ะ ป๊อกกี้ๆ มานี่มา”

   เจ้าหมาตัวดีวิ่งปรี่เข้ามาประชิดตัว ยื่นปากยาวๆ รอดผ่านช่องว่าระหว่างรั้วใช้ชิ้นตวัดใส่มือต้อนรับเขาด้วยวามดีใจ

   “ใครมาป๊อกกี้ อ้าว!”

   “พ่อจ๋า!”

   วรทย์ยิ้มกว้างน้ำตาที่กักเก็บไว้แทบจะทลายลงตรงหน้าของผู้ชายที่เขารักมากที่สุด พ่อวรินทรยังคงถือสายยางรดน้ำตอนที่เดินมาที่ประตูรั้ว กางเกงขาสั้นสีขุ่นเปียกน้ำเป็นหย่อมๆ เศษหญ้าติดตามเสื้อผ้า ผมแซมสีดอกเลายุ่งเหยิงไม่เป็นทรงไม่แน่ใจว่าพี่มะนาวลืมบอกหรือเปล่าว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมกับคนสำคัญ

    “มาถึงแล้วหรือ ไหนมะนาวว่าจะมาตอนบ่ายไง”

   บิดาของเขาบอกขณะที่เลื่อนรั้วเปิดต้อนรับเขา วรทย์ไม่รอให้เสียเวลาร่างน้อยโผเข้าหาอ้อมกอดที่ร้างหายไปนานหลายเดือน ครั้งสุดท้ายที่ได้กอดพ่อคือตอนที่รู้ว่าเรียนจบท่านไม่มีคำอวยพรเยินยออะไรแต่อ้อมกอดเดียวมันสื่อถึงความยินดีได้ลึกซึ้ง กลิ่นอายคุ้นเคยชวนให้หัวใจอบอุ่นจนลืมไปว่ามีเรื่องใหญ่ที่ต้องบอกกับท่าน

   “อายเด็กมันมั่งซิ โตจนป่านนี้แล้วยังจะร้องไห้อีก”

   ร่างเล็กถูกถึงห่างจากไออุ่นที่แสนคิดถึง ใบหน้าเนียนใสเปื้อนรอยน้ำตา วรทย์ยิ้มทั้งน้ำตาพอระงับความคิดถึงได้อาการสะอื้นก็ลดน้อยลง

   “ขอโทษครับ พ่อครับนี่พิกเล็ต เอ่อ…เป็น”

   “เป็นลูกชายผมเองครับ” ร่างใหญ่กำยำเดินข้างมาเคียงข้างเด็กชายตัวน้อย มือคร้ามแดดวางลงบนศีรษะกลมของพิกเล็ตก่อนจะยกขึ้นประนมทักทายผู้ใหญ่ “สวัสดีครับผมชื่อพศิน เปรมภักดี เป็นคนรักของลูกชายคุณ”
………………………

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
   เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่เมื่อไร ตากลมกระพริบรัวถี่สมองยังวนเวียนอยู่กับคำแนะนำตัวของพศินอยู่เลย ไม่แน่ใจว่ามันผ่านมากี่ชั่วโมงแล้วแต่เขายังสะลัดตัวเองให้หลุดจากช่วงเวลานั้นไม่ได้เสียที

   “จริงหรือคะ มีโรงงานทำน้ำมันปาล์มด้วยหรือคะ อย่างนี้เราก็ซื้อน้ำมันกับคุณเสือได้ถูกกว่าซื้อจากตลาดซิคะ”

   “ถ้าน้ำมันดิบก็ได้ครับ แต่ถ้าจะเอามาประกอบอาหารต้องผ่านขั้นตอนอีกเยอะ ผมว่าซื้อจากตลาดว่ายกว่านะครับ”

   “ต๊าย! มะนาวอยากเห็นไร่ปาล์มจริงๆ สักครั้งจังเลยค่ะ นอกจากปาล์มแล้วที่ไร่เคียงฟ้าปลูกอย่างอื่นอีกหรือเปล่าคะ”

   “ก็มีมะพร้าวครับ แต่ไร่ของเราเน้นไปทางปาล์มมากกว่า ถ้าคุณมะนาวอยากไปเมื่อไรโทรหาผมได้เลยผมจะให้ลูกน้องมารับ”

   “ดีจริง คุณแม่คะไว้ปิดเทอมเราพาช้างไปเที่ยวไร่เคียงฟ้าสักอาทิตย์ดีไหมคะ ว่าแต่คุณเสือจะให้เราอยู่ได้เป็นสักกี่วันกันล่ะคะ”

   ประโยคสนทนาที่เป็นเรื่องเป็นราวดังฉุดสติเขาให้กลับคืนสู่ปัจจุบัน ผู้ชายที่พี่มะนาวชื่นชมนั่งติดอยู่กับเขาโดยไร้เงาของพิกเล็ต จากความทรงจำอันลางเลือนดูเหมือนว่าเจ้าช้างจะวิ่งตามผู้เป็นตามาต้อนรับแล้วชักชวนน้องชายไปเล่นที่หลังบ้านแทบจะทันที ส่วนตัวเขาเองถ้าเดาไม่ผิดคงจะถูกพี่มะนาวประคองให้ตามเข้ามาอีกที เขาหันมองอดีตเจ้าของไร่เคียงฟ้าที่วันนี้สุภาพผิดไปจากทุกวัน ใบหน้าคมสันอมยิ้มน้อยๆ ตลอดเวลาที่ตอบข้อสักถามของสาวช่างจ้ออย่างพี่มะนาว ทั้งคู่เพิ่งได้พบกันเพราะเมื่อครั้งที่ไปส่งเจ้าช้างพี่มะนาวไม่ได้เข้ามาทำความรู้จักกับพศิน รู้แค่ว่าเป็นคนป่วยในการดูแลของเขาเท่านั้น แต่วันนี้ทุกคนรู้น่าจะรู้แล้วว่าเขากับพศินไม่ใช่แค่คุณหมอกับคนไข้ธรรมดา แต่มันพัฒนากลายเป็นคนรักไปเสียแล้ว มือสีเข้มวางประสานกันบนหัวเข่า ดวงตาคมมั่นใจไม่วอกแวก นี่ถ้าเขาไม่เคยรู้จักพศินมาก่อนจะไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยังเป็นไอ้หนุ่มขี้เมาอยู่เลย

   “ถ้าเป็นครอบครัวของมะรุม ผมยินดีให้อยู่ตลอดไปเลยก็ได้ครับ”

   “ว้าย! คุณแม่ดูซิคะ พูดจาน่ารัก หน้าตาหรือก็หล่อแถมยังนิสัยดีอีก พ่อของช้างยังไม่น่ารักเท่านี้เลย มะรุมแกโคตรน่าอิจฉาเลยอ่ะที่ได้แฟนดีขนาดนี้”

   มือของเขาโดนเขย่าจากพี่สาวช่างพูด ฟังจากการหยิกแกมหยอกแล้วคิดว่าพี่มะนาวคงยอมรับคนรักของเขาได้โดยไร้ข้อกังขา ทว่าคนที่เขาห่วงที่สุดไม่ใช่พี่สาวแต่เป็นผู้ให้กำเนิดทั้งสอง

   “เอ่อ พ่อครับ เสือเขาเป็น…”

   “คนรักของแก เขาบอกกับฉันตั้งแต่หน้ารั้วบ้านแล้วล่ะ”

   บิดาของเขาบอกตอบเสียงเย็น ทว่าสีหน้าและแววตานั้นไม่ได้แสดงถึงความรังเกียจหรือโกรธชิงชัง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าท่านจะยอมรับในความรักครั้งนี้

   “ผมขอโทษครับ”

   คงไม่อาจมีคำใดจะบอกความรู้สึกในตอนนี้ได้ดีเท่ากับการขอโทษ เขารู้ดีว่าท่านเสียใจและผิดหวังกับการตัดสินใจของเขา แม้พวกท่านจะไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะมีลูกสะใภ้น่ารักๆ แต่ก็คงไม่ได้เตรียมใจไว้เผื่อลูกเขยเป็นแน่

   “ขอโทษทำไม หืม?” เสียงหวานเย็นเอ่ยถาม แม่มะลิของเขายิ้มละไมพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะที่หลังมือ ดวงตาคู่ใสที่ตกทอดมาที่เขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ลูกแม่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องขอโทษด้วย”

   “ใช่ แกไม่ได้ฆ่าคนตายนะ แกแค่มีแฟนที่โคตรจะเพอร์เฟคเท่านั้นเอง”

   พี่มะนาวยิ้มกว้างเป็นกำลังใจให้ เขารักพี่สาวขึ้นอีกเป็นเท่าตัวถึงตอนเด็กๆ จะทะเลาะกันเป็นประจำแต่พี่สาวคนนี้จะเข้ามาขอโทษและกอดปลอบโยนเขาเสมอ จนเวลาผ่านพี่มะนาวยังคงน่ารักเหมือนเดิม ไม่มีการซ้ำเติมมีแต่จะให้กำลังใจถึงแม้ว่าเขาจะเลือกมีคนรักผิดแผกไปจากปกติก็ตาม

   “แม่ครับ ผม…ผม”

   “ผมอะไร ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คุณเสือเขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้พวกเราฟังหมดแล้ว คิดว่าแม่จะรังเกลียดคนที่ลูกรักหรือไง ทำอย่างนั้นเท่ากับว่ามะรุมไม่รู้จักแม่เลยนะ”

   แม่มะลิตัดพ้อ ใบหน้าที่เขาถอดแบบมาแทบจะทุกกระเบียดนิ้วง้ำงอแสร้งทำเป็นงอนน้อยใจ จนเขาต้องรีบเข้าไปกอดง้อขอคืนดีซุกหน้าลงกับอกอุ่น

   “เปล่านะครับแม่ผมแค่กังวลมากเกินไปเท่านั้นเอง”

   “จะกังวลทำไม อะไรที่ลูกรักแม่ก็รักด้วย แล้วคุณเสือก็นิสัยดี สุภาพ หนูพิกเล็ตเองก็น่ารักแม่รักเด็กมะรุมก็รู้นี่นา”

   เขาไม่อาจห้ามน้ำตาได้ คราวนี้จะโดนล้อว่าเป็นลูกแหง่อ้อนแม่ก็ไม่สนใจ ร่างเล็กของคุณหมอกอดซุกกับอกนุ่มของมารดาใช้เสื้อลูกไม้สีหวานช่วยซับน้ำตาแห่งความปีติเอาไว้

   “ขี้แงจริงเจ้าลูกคนนี้” แม่มะลิแกล้งบ่นเบาๆ แต่ก็ลูบเส้นผมนิ่มปลอบลูกชายเจ้าน้ำตาไปด้วย

   “ทำไมถึงเลือกที่จะมีแฟนเป็นผู้ชายล่ะ คุณเคยมีภรรยามาก่อนไม่ใช่หรือ?”

   คำถามจากประมุขใหญ่และเป็นบุคคลที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดเอ่ยขึ้น วรทย์เงยหน้าจากอกมารดาแต่มือยังกอดเอวเอาไว้ไม่ปล่อย เขากลั้นลมหายใจรอคอยฟังคำตอบจากพศิน

   “ผมไม่ได้เป็นเกย์ แล้วก็ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายด้วย” พศินบอกเสียงเรียบ ใบหน้าจริงจังเช่นเดียวกับดวงตา “ที่ผมแต่งงานกับปารินเพราะคิดว่าเธอจะทำหน้าที่แม่ที่ดีได้ แต่ผมคิดผิดเธอไม่เคยรักผมเลย หวังแค่ไร่ของผมเท่านั้นและนั่นมันก็ทำให้ผมรู้ว่าความรักที่แท้จริงมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ แต่มันขึ้นอยู่กับคนสองคนมากกว่า คนที่มีหัวใจตรงกัน คนที่ฟ้าสร้างมาให้และคนๆ นั้นก็คือมะรุม คุณหมอที่รักษาไอ้ขี้เมาคนนี้ให้กลายเป็นคนที่มีหัวใจได้อีกครั้ง”

   ถ้อยคำแต่ละคำมันไม่ได้หวานซึ้งเหมือนบทกวีทว่ามันกลับตราตรึงหัวใจคนฟังยิ่งนัก พศินทำให้เขาแปลกใจครั้งแล้วครั้งเล่า คิดไม่ถึงว่าผู้ชายดิบห่าม ปากเสียและไร้มารยาทจะพูดแบบนี้ได้ อาจจะไม่ได้กลั่นกรองอย่างดีแต่มันมาจากใจ ดวงตาคนพูดมันแน่วแน่ไม่ไหวติงและเขาก็รู้ว่าพศินไม่ได้พูดเท็จ เพราะตั้งแต่รู้จักและได้เป็นคนรักกันพศินไม่เคยโกหกเขาสักครั้ง ถ้าบอกว่ารักก็คือรัก เขาเองก็เหมือนกันถ้าหากเลือกแล้วก็จะไม่มีวันเสียใจเป็นอันขาด

   “คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไปรอด ผมไม่เชื่อหรอกว่าความรักแบบนี้มันยั่งยืน”

   “ผมจะไม่รับปากหรือสัญญาอะไรทั้งนั้น เพราะผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ผมอยากให้คุณคอยดูพวกเรา ดูว่ารักครั้งนี้มันยืนยาวไปแค่ไหน ไม่ต้องสนับสนุนแค่ดูอยู่ห่างๆ ก็พอ”

   “ว้าย! โรแมนติกจังเลย” พี่มะนาวครางเสียงสูง มือประสานกันยกแนบอกใบหน้าเคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในความฝันอันแสนหวาน “แม่ขา หนูรับคุณเสือเป็นน้องเขยแล้วนะคะ คนอะไรเท่ห์โดนใจสุดๆ ไปเลย”

   เขาเองก็ไม่ต้องการให้บิดายินดีปรีดากับการตัดสินใจของเขา อย่างที่พศินบอกแค่ยืนดูความรักของพวกเขาก็พอ ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น และเขาก็ไม่อยากรู้ด้วย ที่ต้องการคือทำให้ทุกๆ วันเป็นวันแห่งความทรงจำก็พอ มือบางยื่นไปจับนิ้วก้อยของคนรัก ไม่จำเป็นต้องบรรยายถึงความรักเป็นถ้อยคำโวหารที่เพราะพริ้ง เพียงแค่อยู่เคียงข้างกันในทุกๆ วันก็พอแล้ว เขารักผู้ชายคนนี้ รักมากจริงๆ…
……………………


    “ลูกชายคุณน่ารักจังเลยนะคะ มิน่าล่ะเจ้าช้างถึงพร่ำพรรณนาไม่หยุด”

   “ขอบคุณครับ”

   คนเป็นพ่อของเด็กชายแก้มขาวที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยดินโคลนจากหลุมดินไปครึ่งหน้ายิ้มรับ เขามองเจ้าเด็กตัวอ้วนดำที่มุมานะตั้งใจขุดหลุมให้พิกเล็ตเพื่อที่จะปลูกต้นมะลิที่คุณวรินทรหามาให้ แต่เขาคิดว่าเจ้าช้างตั้งจะอวดพลังให้พิตเล็ตทึ่งมากกว่า

   “เขาไม่ร้องหาแม่หรือคะ ขอโทษที่ต้องถามคำถามแบบนี้เพราะอีกหน่อยเด็กคนนี้ก็จะเป็นลูกของมะรุมแล้ว”

   เขาไม่ถือสากับคำถามของคุณมะลิสักนิด กลับยินดีที่จะตอบคำถามด้วยซ้ำ

   “เขาเคยชินอยู่กับคนอื่นน่ะครับ ปารินไม่ใช่แม่ที่ดี ตั้งแต่คลอดพิกเล็ตก็อยู่กับอาตลอด ผมมีน้องชาย ไม่ใช่น้องแท้ๆ หรอกครับเป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัย เขาช่วยเลี้ยงพิกเล็ตมาตั้งแต่เล็กๆ พิกเล็ตติดอาคนนี้มาก มากกว่าแม่ตัวเองด้วยซ้ำ ผมต้องขอบคุณที่เขาเลี้ยงให้ลูกผมเป็นเด็กดี เพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ของพ่อเท่าไรนัก วันๆ ก็เอาแต่เมาหัวราน้ำ จมปลักอยู่กับอดีตนานเป็นปีๆ ถ้ามะรุมไม่มา ป่านนี้ผมคงยังเป็นไอ้ขี้เมาอยู่แน่ๆ”

   “ชักอยากจะเจออาของพิกเล็ตแล้วซิ”

   “เอาไว้ไปที่ไร่ซิครับ รับรองได้เจอเขาแน่นอน” เขาตอบยิ้มๆ เบาใจที่คุณมะลิไม่ได้รังเกียจอดีตของเขา ที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกกดดันเลยสักนิด ถึงจะเป็นการพบกันครั้งแรกก็ตาม ครอบครัวของวรทย์น่ารักและเป็นกันเองแม้แต่คุณวรินทรเองก็ตาม เขามองออกว่าท่านไม่ได้รังเกียจที่เขาแสดงตัวว่าเป็นคนรักของวรทย์ ถึงจะคาดคั้นถามคำถามแต่เพราะเป็นพ่อจึงจำเป็นต้องรู้ว่าคนที่ลูกชายเลือกดีพอหรือไม่ เขารู้ตัวว่าไม่ใช่คนดีแต่จากนี้ไปเขาจะดีให้พอสำหรับวรทย์

   “ไว้รอให้โรงเรียนเจ้าช้างปิดเทอมพวกเราจะพากันไปถล่มไร่เคียงฟ้าแน่นอนค่ะ”

   “ยินดีครับ แล้วก็ขอบคุณมากครับ”

   คิ้วเรียวของคุณมะลิเลิกสูง เขารู้แล้ว่าวรทย์หน้าตาน่ารักเหมือนใคร แทบจะทุกส่วนบนใบหน้าวรทย์ถอดแบบมาจากมารดา

   “ขอบคุณเรื่องอะไรคะ”

   “ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”

   คุณมะลิไม่ได้พูดอะไรเอาแต่อมยิ้ม แล้วมองไปที่เด็กๆ ที่ง่วนอยู่กับการปลูกต้นไม้แทน แม้จะไม่พูดแต่เขาก็รู้ว่าท่านยอมรับความรักของเขากับวรทย์แล้ว…   
…………………..


     “พ่อไม่รังเกียจนายเสือไม่ใช่ไหมครับ”

   พ่อวรินทรไม่ได้ให้คำตอบเขาในทันที ท่านละสายตาจากสองตัวแสบที่ช่วยกันลงมือปลูกต้นมะลิจนเนื้อตัวมอมแมม ร่างสูงตามมาตรฐานชายไทยยืดกายขึ้น  พลางมองเลยไปยังอีกฝากหนึ่งของสาม ยังมีอีกคู่ที่กำลังสนทนากันอยู่ท่าทางผ่อนคลายขอแม่มะลิบอกได้เป็นอย่างดีว่าเปิดใจรับคนรักของเขาไปแล้ว

    “ถ้าบอกว่ารังเกียจแกจะเลิกกับเขาไหมล่ะ”

   “ไม่ครับ”

   “พวกแกรักกันไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ถ้าแกร้องไห้เพราะนายเสือนั่นเมื่อไรฉันจะเข้าไปเกี่ยวทันที”

   วรทย์อมยิ้ม สอดแขนรัดรอบเอวที่เริ่มจะหนาของบิดาสงสัยหมู่นี้แม่มะลิจะขุนหนักไปหน่อยหนุ่มใหญ่วัยปลดเกษียณถึงได้เริ่มลงพุงแล้ว ลูกชายคนเล็กเอียงหน้าซบกับหัวไหล่ที่ไม่ว่าเมื่อไรเวลาไหนก็ยังคงอบอุ่นเสมอ

   “ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่เข้าใจผม”

   มือที่กรำงานมาเพื่อครอบครัวค่อนชีวิตแตะที่หลังมือเรียวขาวของลูกชายแผ่วเบา ระหว่างพ่อลูกไม่จำเป็นต้องแสดงความรักลึกซึ้ง แต่สัมผัสเบาๆ เท่านั้นก็สื่อความหมายได้แล้ว มันไม่ง่ายนักหรอกที่จะทำใจยอมรับว่าลูกชายมีคนรักเป็นเพศเดียวกัน

   เมื่อตอนที่พศินแนะนำตัวพร้อมกับประกาศว่าเป็นคนรักของวรทย์ เขายิ่งกว่าตกใจเพราะรู้ว่าลูกชายไม่พวกผิดเพศ ถึงรูปร่างหน้าตาจะน่ารักน่าชังจนโดนทักผิดบ่อยๆ แต่วรทย์ก็ไม่ได้กระตุ้งกระติ้งหรือมีกิริยาที่บอกว่าจะเบี่ยงเบนเลยสักนิด แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าคือพศิน รายนั้นยิ่งหนักใหญ่ สูงใหญ่เหมือนคนโบราณ ใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ผิวเข้มคร้ามแดด ดูจากภายนอกไม่รู้เลยว่าจะมีจิตพิศวาสในตัวของวรทย์ ทั้งสับสนและมึนงงยิ่งกว่าไก่โดนตีตาทว่าดวงตาคมกริบคู่นั้นของพศินมันแน่วแน่จริงจังจนเขาต้องหยุดคิด พอเห็นได้เช่นนั้นมันทำให้เขาหวนคิดถึงอดีต เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเขาเองก็ใช้สายตาเช่นนี้กับตาของวรทย์เหมือนกัน ในตอนนั้นเขาเป็นแค่ลูกอาแป๊ะขายยาจีนเท่านั้น เรียนจบแค่ มศ.๖ ไม่มีตำแหน่งอะไรมาค้ำประกันว่าเขาจะสามารถทำให้มะลิมีความสุขได้ ทว่าเพราะความมุ่งมั่นตั้งใจในที่สุดพวกท่านก็ยอมยกมะลิให้เขา

   พศินไม่ต่างกับเขาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน กล้าหาญกว่าด้วยซ้ำ กล้าที่จะเปิดเผยความรักที่ผิดแผกของตัวเอง กล้าที่จะเล่าถึงอดีตที่ผิดพลาดให้ครอบครัวของเขาฟัง ยอมรับจากใจจริงว่าถ้าหากวรทย์เป็นผู้หญิงเขาคงจับใส่พานถวายให้ไปแล้ว แต่เพราะวรทย์เป็นผู้ชายเขาจึงจำเป็นต้องถามไถ่และใช้เวลาศึกษาพ่อหนุ่มคนนี้อีกสักนิด

   วรินทรผ่อนลมหายใจบางเบา ถึงวรทย์จะมีหลานแท้ๆ ให้ไม่ได้แต่ก็มีเจ้าเล็กคนนี้ก็ดีไม่ยอก เด็กผู้ชายผิวขาวเหมือนหยวกกล้วย ตากลมเหมือนลูกแก้ว ผมสีอ่อนปลิวไปตามแรงลม นี่ถ้าหากไม่บอกว่าเป็นลูกชายของพศินเขาไม่มีรู้แน่ๆ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือน ผิดกับเจ้าช้างหลานชายของเขาที่มองไปมองมาดันมีส่วนละม้ายคล้ายกับพศินเสียอย่างนั้น ผู้ผ่านมาเลือกมาหกสิบปีระบายยิ้ม อะไรที่ทำให้คนที่เขารักมีความสุขเขาก็ยินดีจะรับไว้...
……………………….

ว่าจะเล่นเล่นตัวอีกสักสองวัน แต่มีคนอ่านที่แสนน่ารักมาทวงถามเลยอดใจไม่ไหว  :katai2-1:
ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วนะค้า
ถือว่าเป็นนิยายที่ใช้เวลาแต่งนานที่สุด
ที่ว่าขาดแหว่งๆ ก็เพราะยังขาดความสมบูรณ์อยู่ค่อนข้างมาก เพราะไม่ได้วางพล็อตเอาไว้ก่อน อารมณ์ประมาณอยากแต่งนิยายคุณหมอกับคนไข้ เรื่องเลยออกมารูปแบบนี้
ตอนนี้กำลังเร่งตอนพิเศษของอาออยกับคุณหมออยู่ค่ะ (ซึ่งจะมีอยู่ในเล่ม)
จะเป็นบทสรุปสั้นๆ ของความรักแบบฉุกละหุกของทั้งคู่นะคะ
ส่วนสามพีนั้นต้องเปิดเป็นอีกเรื่องไปเลย (มันเร้าใจนี่นา) :hao7:
แต่ต้องรออีกนิดนะคะ เพราะยังมีคิวจ่อรออยู่
เจอกันตอนหน้าค่ะ T^T :o12:
ป.ล. ป้าเป็นติ่งคู่วาย EXO จ้า ตอนนี้กำลังหลงเด็กคนนี้ หัวปักหัวปำ (แล้วพี่ลู่ล่ะ)
:ruready


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เสือนายเท่ห์มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มะรุมน่าร๊าาาากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ความรัก ต่อให้เป็นหญิงชาย ถ้าไม่ใช่มันก็เลิก เหมือนกัน


ครอบครัวของมะรุมน่ารักมากกกก แต่หมั่นไส้อิเสือแกจะทำไม่พอใจทำไม ที่จะต้องไปบ้านมะรุม  :beat:

ออฟไลน์ Eliz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านกันค่ะ ตอนนี้เรื่องครอบครัวก็เคลียแล้ว พี่เสือแมนโครตตตตต

ไม่อยากให้ถึงตอนสุดท้ายเลย ชอบเรื่องนี้มากๆ อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่ค่อยได้เห็นหมอมะรุมกับนายเสือใช้ชีวิตแบบแฟนกันเลย ขอเป็นตอนพิเศษบ้างได้ไหมคะ คงจะน่ารักดี

ส่วนอาออยกับหมอคีย์ไว้จะรออ่านในเล่มนะคะ ไม่อยากให้เป็นบทสรุปสั้นๆ เลย อยากอ่านยาวๆ   :o8:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :a5: เจอ อซฟอีกนาง55เราติ่งฮุนฮานอ่ะ


 :กอด1: :กอด1: จะจบแล้วเหรอคิดว่าเพิ่งอ่านเองนะนี่

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :heaven เย้!!!! มาแล้วๆ ดีใจจัง  :mew1: :mew1:

ปล.หนังสือยังสั่งได้ยุไหมคะ :mew2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
บ้านหมอมะรุมน่ารักมาก ๆ เลย พี่ช้างดีใจสินะน้องมาเล่นด้วยถึงที่แบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ keinoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
จาจบแล้วหรอนี่  :mew4: เรื่องนี้สนุกมากๆคร่า ถึงคนเขียนจะบอกว่าเหมือนไม่สมบูรณ์แต่เราว่ามันเริ่ดมากๆแล้วค่ะ  :-[  o13

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จะจบแล้ว
เศร้าเบาๆ
อยากให้มี ออย คีย์เยอะๆ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ คุณพ่อคุณแม่น่ารักมาก

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
อยากอ่านคู่ของออยค่ะ จะมีโอกาสได้อ่านป่าวคะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ดีจังที่พ่อแม่ของมะรุมยอมรับเสือแถมยังชอบพิกเล็ตด้วย

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วเหรอคะ *กระซิกๆๆ*

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
กรี๊ดแบบว่า เราไม่ค่ยได้เม้นบ่ย
แต่ก้เข้ามาตามอ่านตลอด ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ตอนแรกเห็นรูปหมอมะรุมที่คนแต่งเอามาเป็นพี่ลู่
ก็คิดว่าเป็นแค่อิมเมจ
แต่พอรู้ว่าคนแต่งเป็นติ่งexo อยากจะกรี๊ด
เราก็ติ่งคะ5555555
แบคนางน่ารักจริงๆคะ เราใจเขวไปหาหลายครั้งละ
แต่เมนเราจริง หลงหนัก หลงหัวปรักหัวปรำต้อง
คยองซูจ้า น่าฟัดแก้มที่สู้ดดด (●♡●)

พ่อแม่หมอมะรุมน่ารักจัง เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆเลย
อยากอ่านอาออยกับหมอคิมหันต์อ่าคนแต่งจ๋า
เอามาลงที่นี่ด้วยได้ป่าวคะ น้าา จิ้มๆๆ
รออ่านตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ครอบครัวมะรุมน่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จะจบแล้วเหรอ ดีใจจะได้เล่มมาอ่านแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด