Guardian Of Heart ผู้พิทักษ์ใจ(Fantasy) Spe : Hozier & Preme2/2 P.15 10/6/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Guardian Of Heart ผู้พิทักษ์ใจ(Fantasy) Spe : Hozier & Preme2/2 P.15 10/6/17  (อ่าน 99843 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ให้มั่นใจแค่ไหนแต่ไม่ได้ไปด้วยแบบนี้ก็ต้องคิดมากอยู่ดี

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จะไปยังไม่วายหื่นตลอดนะลุง

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ตอนหน้าอย่าดราม่ามากนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่เอาไม่เศร้านะฟาร์  :hao5:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 30

      “นี่คือห้องฝึกพลังเวทย์ของกองทัพ” เอเบรียนว่าพลางเดินนำฟาเรสและลูนสู่โถงใต้ดินขนาดยักษ์ที่กินบริเวรกว้างและเพดานสูงสุดสายตา ทั้งพื้น ผนังและเพดานเป็นสีขาว จนดูเหมือนว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด ใหญ่กว่าโคลอสเซียมกลางน้ำที่ใช้ในงานประลองเสียอีก

      “โห ในอนิมามีอะไรที่ผมยังไม่เห็นอีกไหมครับ” ครึ่งเอลฟ์มองรอบตัวอย่างทึ่งๆ มองภายนอกดูไม่ออกเลยว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีฐานลับขนาดใหญ่ซ่อนอยู่

      "สองข้างนั่นเป็นเครื่องจำลองพลังเวทย์” เครื่องจักรสีเงินสูงเกือบสามเมตรถูกติดตั้งไว้สองด้านของห้องฝึกตรงข้ามกัน “และพวกนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องพวกนี้ คนของลุงเองไว้ใจได้ เขาจะมาคอยดูแลความปลอดภัยของหลานในช่วงฝึกซ้อม” ฟาเรสกล่าวทักทายเจ้าหน้าที่สี่ห้าคนที่ออกมาต้อนรับ

        “พลังเวทย์สร้างได้ด้วยหรอครับ” ลูนถามอย่างสงสัย

        “ก็เพิ่งจะทำได้เมื่อไม่นานมานี้นั่นละ แต่ก็มีขีดจำกัดของมันและใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก อีกทั้งต้องมีเครื่องกำเนิด ไม่เหมือนพลังเวทย์แฝงที่อยู่ในตัวพวกเราทุกคน” ผู้สูงวัยอธิบาย

         “แล้วจะให้ผมฝึกยังไงครับ” ฟาเรสถามต่อ ภารกิจของเขาคือการปิดรอบแยกระหว่างมิติขนาดยักษ์ใจกลางอินเวียโน
“จากการคนคว้าที่ผ่านมาของอนิมา พบว่า พลังเวทย์แฝงและเวทย์บริสุทธิ์ เกิดจากประจุพลังงานที่ซ่อนอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกประเภทแต่จะมากพอที่จะแสดงออกไหมนั่นก็เป็นอีกเรื่อง มีความคุณสมบัติแต่งต่างกันไปตามสายพันธุ์ อย่างเช่นมนุษย์ กับเอลฟ์ที่มีความสามรถในการใช้พลังต่างกัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม และบังเอิญคุณสมบัติของพลังที่ถ่ายทอดมากับสายเลือดคาเดนเซียเหมือนกับพลังงานของรอยแยกระหว่างมิติ ทำให้สายเลือดคาเดนเซียเกือบทุกคนสามารถเปิดปิดรอยแยกระหว่างมิติได้ เหมือนกับที่หลานทำได้ไงฟา” เจ้าของชื่อพยักหน้ารับ เริ่มเข้าใจถึงที่มาที่ไปของพลังตน “ลุงจะใช้เครื่องสร้างก้อนพลังที่มีคุณสมบัติคล้ายพลังงานของรอยแยกขึ้นมาและให้หลานหาทางสลายมัน จะเริ่มจากก้อนพลังเล็กๆ แล้วขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ”

        “แล้วผมต้องฝึกแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ครับ”

        “จนกว่าพลังในตัวหลายจะสมดุลย์ และสามารถใช้พลังได้มากๆ โดยไม่เป็นอันตรายกับตัวเอง แต่เราคงไม่กระหน่ำฝึกแบบนี้ทุกวันหรอกนะ ลุงจะหาทีมแพทย์มาคอยเช็คสภาพร่างกายหลานถ้าไม่ไหวก็ต้องให้พักจนกว่าจะฟื้นตัว”
“แต่นั่นจะทำให้เราเสียเวลาเปล่านะครับ”

         “ฟา จริงอยู่ที่เรื่องหยุดยั่งฟอสโกมันสำคัญ และหลานลุงสำคัญกว่า ถ้ารู้สึกว่าใช้พลังไม่ไหว ก็ไปฝึกการต่อสู้ทางกายแทนก็ได้หากหลานไม่อยากอยู่เฉยๆ เอาลูนไปเป็นคู่มือก็ได้ พวกคิเมร่านะสัญชาติญาณในการต่อสู้ดีแต่เกิดอยู่แล้ว” เอเบรียนบอก

          “อืมมม ลูนจะเป็นคู่มือให้เอง” เจ้าเหมียวตาม่วงรับคำอย่างแข็งขัน
“ขอบคุณลูน” ฟาเรสบอกด้วยรอยยิ้ม

          “เอาละมาเริ่มกันเถอะ” ผู้อำนวยการถอยออกจากบริเวณ ก่อนจะส่งสัญญาณให้เข้าที่ทุกคนแล้วเริ่มเปิดเครื่อง


          ลูกพลังที่ฟาเรสสามารถสลายได้ค่อยๆ เพิ่มขนาดขึ้นทุกวัน หากแต่การใช้พลังเวทย์ติดต่อกันหลายวันมันทำให้เขาเริ่มล้า แต่เจ้าตัวกลับไม่ปริปากบอกใครเพราะเขาไม่อยากหยุดอยู่เพียงเท่านี้ อาทิตย์หนึ่งแล้วที่เวลอร์ออกจากฐานไปยังไม่ติดต่อกลับมา  ทำให้ลูกครึ่งเอลฟ์ทั้งคิดถึงทั้งห่วง อาจเพราะเคยชินกับการมีอีกคนอยู่ข้างกาย จึงทำให้นอนไม่ค่อยหลับและนั่นยิ่งทำให้ร่างโปร่งยิ่งรู้สึกล้าเป้นทวีคูณ ส่วนลูนก็คิดถึงเจ้าชายครึ่งออคของตนเช่นกันแต่เจ้าตัวเป็นคนค่อนข้างร่าเริงจึงไม่เซื่องซึมเท่าไหร่นัก คุณชายมาวิคของเราเองก็ดูหงอยไปบ้างเช่นกันหากแต่พยายามยิ้มแย้มเพราะไม่อยากให้เพื่อนๆ ที่เหลือต้องกังวล

         “ฟาเรสสสสส” น้ำเสียงหวานๆ ดังต้อนรับขณะที่ฟาเรสเปิดประตูห้องพัก หลังจากฝึกมาตลอดวัน

          “ป้าโอเรนน!!!” เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นคนในครอบครัวของตน โผเข้ากอดหญิงร่างท้วมเต็มแรง “คิดถึงจัง”

          “ป้าก็คิดถึงเราเหมือนกัน” ฟอด...หญิงวัยกลางคนหอมแก้มหลานชายฟอดใหญ่ “ดูซิ โทรมไปเยออะเลยนะเรา พักผ่อนน้อยละสิ”

          “แหะๆ ฝึกหนักไปหน่อยนะครับ”

          “ดูแลตัวเองหน่อยนะเรา อินเดียโกมันตามมาหักคอฉันโทษฐานไม่ดูแลหลานจะทำยังไง” ชื่อของพ่อทำให้ดวงตาสีครามวูบไหว

          “ผมอยากไปเยี่ยมทุกคนจัง” ฟาเรสบอกเสียงเครือพลางฟุบหน้าลงกับไหล่กลมกลึงของคนเป็นป้า ตั้งแต่สอบเข้าอนิมาได้เขายังไม่ได้กลับไปเยี่ยมหลุมศพพวกท่านเลยซักครั้ง

           “เอาน่า พวกเขาอยู่กับหลานทุกที่นั่นละ ทั้งท่านพ่อ ท่านแม่กับยัยสองแสบนั่น พวกเขาอยู่ตรงนี้ไงจ๊ะ” ว่าแล้วก็จิ้มนิ้มป้อมๆ ตรงตำแหน่งหัวใจของหลานชาย

           “นั่นสินะครับ” ริมฝีปากสวยยิ้มรับ เพราะฉะนั้นจะมามัวเหลาะแหละไม่ได้ เพื่อครอบครัวที่เสียไปฟาเรสต้องล้างแค้นให้สำเร็จ

          “ไว้ว่างก็กลับบ้านเรา” เธอว่าอย่างใจดี

          “แล้วป้ามาที่นี่ได้ไงครับ”

           “ก็เจ้าเวนะสิ บอกว่าจะต้องออกไปสืบข้อมูลพวกฟอสโกต้องทิ้งเราไว้ที่นี่ เลยขอร้องไห้ป้ามาดูแลเราหน่อย นี่ถามจริงหลานคิดยังไงไปตกลงปลงใจกับตาแก่นั่น” ฟาเรสยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเวลอร์เป็นห่วงตนขนาดนี้

           “ฮ่าาา ก็ไม่รู้สิครับ” จะว่าไปคนรักเขาก็อายุรุ่นๆ เดียวหรืออาจจะแก่กว่าท่านลุงท่านป้าเขาด้วยซ้ำ

           “ไปอาบน้ำไป ป้าทำข้าวเย็นไว้รอ มีแต่ของโปรดเราทั้งนั้น”

           “ว่าแต่ผมชวนลูนมาทานด้วยได้ไหมครับ”

           “ป้าให้คนไปตามแล้วจ้ะ ไปซักทีสิ เหม็นเหงื่อจะแย่อยู่แล้ว” ป้าโอเรนย่นจมูกใส่พลางดันหลังหลานชายให้เดินไปอาบน้ำเสียที

           "ครับๆ”


            การมีป้าโอเรนมาอยู่ด้วยช่วยให้เขาคลายคิดถึงเวลอร์ไปได้บ้าง สองอาทิตย์แล้วคนรักก็ยังเงียบหายจนเริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง จนท้ายที่สุดเข้าก็ทนไม่ไหวจึงเอ่นปากถามเหล่าอดีตองครักษ์จนได้ความว่า

           “เมื่อคืนท่านเวลอร์ส่งข่าวมาว่าจะเดินทางต่อไปเคลวิช” เอลฟ์สาวบอกพลางยื่นจดหมายมาให้ การส่งข่าวข้ามเมืองนั้นค่อนข้างลำบากเพราะไม่ใช่ทุกที่จะมีการสื่อสารที่เจริญอย่างเดสเซนท์โทรศัพท์จึงมีอยู่ตามสถานที่หลักๆ เท่านั้น

            “แล้วอีกนานไหมครับกว่าพวกเขาจะกลับ”

           “คงไม่เกินสามอาทิตย์หรอค่ะท่าฟาเรส เพราะท่านเวลอร์แยกกันกับสหาย ท่านโอซี่กลับไปที่เรดิเอนซี่ ส่วนท่านไมเรคขึ้นเหนือไปนอธฟิวค่ะ” เรน่าอธิบาย

           “แล้วมอร์แกนละครับ” ฟาเรสไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าถามถึงเธอคนนี้ทำไม

          “เดินทางไปเคลวิชกับท่านเวลอร์ค่ะ” ไปกับเวลอร์สองต่อสอง ใบหน้าใสดูหมองลงขึ้นทันตา

         “ครับขอบคุณครับ”

         “ท่านฟาเรสอย่าคิดมากนะค่ะ เชื่อใจนายท่าน” เขาทำได้เพียงพยักหน้ารับแม้ภายในจะอึดอัดเต็มทน
ฟาเรสไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะเป็นพวกคิดมาก เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็เก็บมากังวลไปเสียหมด ที่เวลอร์เดินทางไปกับมอร์แกนเขาพยายามปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยก็มีไมเรคและโอซี่ไปด้วย แต่ตอนนี้สองคนนั้นไปด้วยกัน ถ้าเกิดมอร์แกนอยากได้นายของเธอคืนละ หรือคนรักของเขาเผลอตัวเผลอใจไปกับสนมเก่าละ สารพัดความคิดมากมายโถมเข้าจนตลอดช่วงหลายวันมานี้ฟาเรสไม่มีสมาธิเลย ทำอะไรก็หงุดหงิดไปหมด

         “คุณฟาเรส วันนี้สีหน้าดูไม่ดีเลยนะครับ พักก่อนไหม” เจ้าหน้าที่ในโถงฝึกคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล

         “ผมไม่เป็นไรหรอกครับเราเพิ่งเริ่มเอง” ฟาเรสว่าพลางหยัดตัวยืนตรงเมื่อกี้พึ่งสลายก้อนพลังขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสี่ห้าเมตรไปเป็นการวอร์ม “ต่อเลยครับ เอาขนาดที่ใหญ่กว่าของเมื่อวาน”

          ตอนนี้ลูกพลังที่ใหญ่ที่สุดที่เขาสามารถสลายได้ ใหญ่พอๆ กับตึกสี่ชั้นเลยก็ว่าได้ จนเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างออกปากชมด้วยความทึ่งเพราะไม่เคยเจอคนที่มีพลังเวทย์บริสุทธิ์มากขนาดนี้

          “พร้อมนะครับ” เจ้าหน้าที่ให้สัญญาณก่อนจะเปิดเครื่องกำเนิดพลัง

          สายพลังงานสีฟ้าพุ่งออกจากเครื่องจักรสีเงินทั้งสองข้างมาปะทะกันตรงการเกิดเป็นก้อนพลังงานที่ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ เกิดเสียงดังคล้ายไฟฟ้าที่กำลังชอตเป็นระยะและแสงสว่างจ้าไปทั่วโถง ฟาเรสพยายามตัดเรื่อวกสนใจออกไป บอกตัวเองว่าต้องตั้งใจ บอกตัวเองว่ายังมีสิ่งยิ่งใหญ่ที่ต้องทำ เขาต้องหยุดฟอสโก ต้องเอาคืนคนที่ทำลายชีวิตเขาและทำลายชีวิตเวลอร์ หยุดยั้งในสิ่งที่พวกมันทำ

          ดวงตาสีครามมองไปยังลูกบอลพลังงานใจกลางห้องอย่างใช้ความคิด ที่ผ่านมาเขาใช้พลังของตัวเองลบล้างมัน ผลที่ได้คือร่างกายอ่อนแรงลงเพราะสูญเสียพลังงานไปมาก หากพลังเวทย์ของเขามีคุณสมบัติเดียวกัน แทนที่จะปล่อยพลังไปลบล้างให้สูญเปล่า ทำไมเขาไม่ดึงพลังนั้นเข้าสู่ตัวแทน คิดได้ดังนั้นจึงยื่นแขนออกไปด้านหน้าตั้งสมาธิและทำตามสิ่งที่พึ่งคิดได้

           “คุณฟาเรส ทำอะไรของคุณนะ” เจ้าหน้าที่ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อสายเวทย์ถูกดึงจากก้อนพลังงานสู่ร่างโปร่งบาง

            “อย่าปิดเครื่องครับ ขอละให้ผมลอง” ครึ่งเอลฟ์บอกเสียงกร้าว ทุกคนจึงยอมอยู่นิ่ง เฝ้ามองร่างโปร่งอย่างลุ้นระทึก

             พลังมหาศาลที่ถูกดึงสู่ร่าง ทำเอาฟาเรสสั่นไปทั้งตัว เหมือนมีบางอย่างไหลเวียนอยู่ภายใน แต่เขาก็ยังไม่หยุดมองก้อนพลังที่เล็กลงเรื่อยๆ อย่างมีนหวัง อีกนิดทำก็จะทำได้ แต่ดูเหมือนร่างกายจะเริ่มไม่อำนวยกับปริมารของพลังมหาศาลที่ไหลสู่ร่าง

            “ฮึก...” ฟาเรสกัดฟัดกรอดเมื่อบางสิ่งที่อยู่ในกายไหลเวียนรุนแรงอย่างบ้าคลั่งจนเจ็บแปลบเหมือนถูกกรีดไปทั้งร่าง นั้ยน์ตาสีครามเรืองรอง แต่เขาจะทน อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จ ภาพก้อนพลังที่เหลือเพียงไม่กี่เมตรที่กำลังจะสลายตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน แล้วมันก็หายวับไปกับตาพร้อมเสียงตวาดลั่นของใครบางคนที่เขาไม่อาจรับรู้อีกต่อไป

            “พวกแกทำบ้าอะไร ทำไมไม่หยุดเขา ปล่อยเขาทำแบบนี้ได้ไง” เอเบรียนตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด เขาเข้ามาในโถงเมื่อครู่พอเห็นว่าหลานชายกำลังทำอะไรก็รีบวิ่งไปปิดเครื่องกำเนิดพลังงานในทันที

           “ฟา เฮ้ ฟา เป็นอะไรไหม” ผู้อำนวยการถลาไปประคองร่างโปร่งที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น มือเหี่ยวกร้านสั่นเทาลูบใบหน้าเนียนด้วยความตระหนก พยายามเช็ดเลือดที่ไหลออกจมูกออกปากไปจากใบหน้าเนียน

          “เรียกหน่วยพยาบาล เร็วเข้า”

         เขาไม่กล้าแม้ที่จะเคลื่อนย้ายร่างในอ้อมแขน เพราะไม่รู้ว่าพลังเวทย์ที่ฟาเรสรับเข้าร่างทำความเสียหายภายในร่างกายมากแค่ไหน ใจชองชายสูงวัยสั่นกลัวดังเช่นวันสุดท้ายที่เขาได้มีโอกาสไปดูใจฟาร่าที่กำลังจะตาย เขาคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้น อย่างน้อยถ้าจะมีซักคนที่เอเบรียนผู้พันต้องตาย ภาวนาให้มันเกิดขึ้นหลังจากตาแก่อย่างเขาสิ้นใจไปเสียก่อน



          เวลอร์เดินทางมาถึงเมืองหลวงของเคลวิชพอเข้าพักที่โรงแรมก็รีบติดต่อกลับไปที่อนิมาทันที ส่วนหนึ่งคืออยากทราบข่าวของฟาเรส แต่ที่ไม่ขอคุยนั้นเพราะเขากลัวว่าหากได้ยินเสียงนุ่มๆ ที่ชอบฟังคงทนความคิดถึงไม่ไหวจนต้องกลับไปหาเสียให้ได้ จึงตัดสินใจฟังความเป็นไปของคนรักผ่านทางอดีตองครักษ์ของเขาเอา หากแต่เรื่องราวที่ได้รับรู้เมื่อครู่กลับทำให้คิเมร่าที่แสนจะแข็งแกร่งอย่างเข้าถึงกับหมดแรง

          แกรก...โทรศัพท์ในมือใหญ่ร่วงลงทันใด หากไม่มีสายดึงไว้มันคงกระแทกพื้นเสียหาย ร่างสูงเอนหลังพิงพนักโซฟาที่นั่งอยู่อย่างสิ้นท่า เสียงของเรน่าที่พูดกับเขาเมื่อคครู่ดังก้องอยู่ในหัว


            ‘ท่านฟาเรสฝืนใช้พลังมากไปจนร่างกายรับไม่ไหว ตอนนี้ทรุดหนักเลยเจ้าค่ะ’

            ‘แล้วตอนนี้ ฟาเป็นอย่างไรบ้าง’

            ‘ดิฉันก็บอกไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นี่ก็สองวันมาแล้วยังไม่ฟื้นเลย’

            ‘ฉันจะกลับ’

           ในตอนนี้สิ่งที่รับรู้บีบหัวใจของเวลอร์จนเจ็บแปลบ ห่วงเหลือเกิน มันร้อนรนจนแทบบ้า มือกร้านกำแน่นจนเล็บจิกลงกับเนื้อ เพื่อภารกิจบ้าๆ เขาทำให้คนรักต้องเป็นอันตรายถึงเพียงนี้เชียวหรือ มอร์แกนที่นั่งอยู่โซฟาเดียวเลื่อนมานั่งข้างกายก่อนจะวางมือบนต้นแขนของนายเหนือหัวเบาๆ อย่างให้กำลังใจ

           “ไปเถอะเจ้าค่ะ ทางนี้มอร์แกนจะจัดการต่อเอง” ใบหน้าสวยยิ้มบางๆ ย้ำให้อีกคนวางใจ เธอไม่เคยเห็นฝ่าบาทของเธอรักใครเท่านี้มาก่อน จึงเข้าใจความรู้สึกของนายตัวเองดี





                   บนเรือบินที่ออกเดินทางจากนอธเทิร์นเรียมซึ่งกำลังมุ่งหน้าส่เดสเซนท์ ไมเรคนั่งอ่านเอกสารรายชื่อผู้สนับสนุนพวกฟอสโกที่เขาได้มาด้วยใบหน้าเคร่งเคียดเมื่อรายชื่อหนึ่งในนั้นเป็นนามสกุลขของคนใกล้ตัว
...หวังว่านายคงไม่มีส่วนกับเรื่องนี้นะ พรีม!!!...

.....................................

+มาแล้ว คิดถคงฉันไหมเวลาที่เธอ..........(จงเติมคำในช่องว่าง)  :hao7:

+ ขอโทษนะค่ะที่หายหน้าไปนาน เอานี่มาไถ่โทษพอหรือเปล่าคนดี  :hao5:



ตอนนี้พยายามฝักใฝ่ด้าน digital painting แล้วค่ะ

เข้ามาทักทายกับเราได้ที่

ส่วนนี้เปิดไปเจอเพลงเพราะและมีความวาย ตอนจบแอบเศร้าอะค่ะ

https://youtu.be/fdXNNveYOfU   part 1/3

https://youtu.be/uxg222-hWWc  part 2/3

https://youtu.be/Lo3lxS-6joY      part 3/3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2016 01:23:31 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling2:   ขอไม่หน่วงนานได้ไหมอ่า. ขอบคุณที่มาต่อนะคะคนเขียน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ฟาเรสเด็กดื้อ เจ็บหนักเลย
ลุงกลับไปหาเมียด่วน

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ฟาเรสเด็กดื้อ ฝืนฝึกจนร่างกายรับไม่ไหว เวมาจัดการตีก้นลงโทษเด็กดื้อหน่อย :sad5: หวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยนะ
รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
 :pig2: มาแจ้งข่าวซักนิด คนเขียนยังมีชีวิตอยู่นะค่ะ แค่ช่วงนี้งานประจำมันยุ่งมากเลยค่ะ ทำโอทีกลับดึกทุกวันเลย ไหนจะซุ่มวาดรูปประกอบเรื่อง อัศวินรัตติกาล

    เรื่องจัดพิมพ์ ตกลงเรื่องรูปเล่มกับผู้ใหญ่ใจดีไปแล้วค่ะ ซึ่งในเล่มนี้ เราจะวาดรูปประกอบและทำอาร์ตหน้าปกเองเลยค่าา  :impress2: จะมีการขัดเกลาภาษาให้สละสลวยขึ้น เพราะตอนที่ลงเรื่อง อัศวินรัตติกาล Night Knight  ยอมรับเลยว่าภาษาเขียนบางอย่างของเรายังไม่ดีนัก ด้วยวัยและประสบการณ์มันยังมีข้อบกพร่องมากอยู่ เนื้อหาในเล่มจึงกึ่งๆ รีไรท์แต่เนื่อเรื่องทุกอย่างยังคงเดิมค่ะ

     สำหรับลุงเวและน้องฟา ไม่ได้ทิ้งไปไหนค่ะ ยังเขียนอยู่ แต่บทที่ 31 นี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงค่ะ เพราะเนื้อหาค่อนข้างจริงจังพอสมควร

 :ling3:  ขอโทษที่ทำให่รอนะค่ะ เอาตอนพิเศษ รอท และ น้องโยนาห์ไปอ่านแก้เซ็งก่อนก็แล้วกัน (แต่งดองไว้นานละค่ะ และ ไม่ได้ลงในหนังสือ ลงที่นี่ที่เล้าเท่านั้นค่ะ ตามลิ้งไปโลดด http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.msg3450878#new

ปล. หาก เรื่อง Night Knight อัศวินรัตติกาล เป็นรูปเป็นร่างเมื่อไหร่อย่าลืมอุดหนุนเราน้าา (รอไอดีซื้อขายอยู่อะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2016 21:49:09 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ตามอ่านทันแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 31

     บางทีฟาเรสก็นึกสมเพชในความอ่อนหัดของตัวเองเสียเลยเกิน เพราะชีวิตเขาเป็นอันต้องล้มหมอนนอนเสื่อกันอยู่บ่อยครั้ง เขาโดนทั้งท่านลุงเอเบรียนและป้าโอเรนปฐมเทศนาเป็นการใหญ่หลังจากหมดสติไปสองวันสองคืนเต็มๆ แถมโดนสั่งงดฝึกซ้อมจนกว่าผู้ใหญ่ทั้งสองจะเห็นว่าร่างกายเขาแข็งแรงพอ
 
    "ไงฟาร์" เซียเข้ามาเยี่ยมเขา พร้อมถือขนมมาเต็มไม้เต็มมือ "ทำไมชอบหาเรื่องเจ็บตัวนักนะนายนี่"

    "แหะๆ แล้วพรีมละ" ฟาเรสถามอย่าสงสัย ปกติสองคนนี้ตัวติดกันตลอด

    "พรีมกับไปช่วยงานที่บ้านนะ"

     "อ้อ แล้วเซียไม่กลับหรอ" เซียกับพรีมมักจะกลับไปอยู่กับครอบครัวช่วงสุดสัปดาห์เพราะบ้านของทั้งคู่อยู่ในเดสเซนท์

     "ก็ว่าจะกลับ ได้ยินว่ามีเด็กป่วยฉันเลยมาเยี่ยมหน่อย อ้าว!! คุ๊กกี้ฉันซื้อมาจากร้านริมหาด" ว่าแล้วก็แกะถุงหยิบขนมมาป้อนคนป่วย ฟาเรสก็ยอมกินอย่างว่าง่าย ยิ้มน้อยๆ กับรสชาติที่หวานกำลังดี เซียเอื้อมมือไปขยี้หัวเจ้าตัวอย่างเอ็นดู นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอคอยมาดูแลเขา อยู่กับเซียเหมือนมีพี่สาวเลยแฮะ

    "เบื่ออะ" ฟาเรสบ่น พอไม่ได้ฝึกซ้อม ให้มานั่งๆ นอนๆ แบบนี้มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลย

     "งั้นไปเที่ยวกัน ในเมืองมีงานประจำปี ของกินเพียบเลย" เซียว่า

     "ไปได้หรอ"

     "ก็ป้านายนั่นละ บอกให้มาชวน กลัวนายจะเบื่อ ไปๆ ลุกไปอาบน้ำจะได้ไปกัน" ฟาเรสรับปากรับคำ ลุกไปจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว
 
    ฟาเรสมองไปรอบตัวอย่างตื่นเต้น จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ออกมาเดินเที่ยวเล่นแบบนี้นานแล้ว เพราะเอาแต่เครียดเรื่องของอินเวียโน่และพวกฟอสโก้ บรรยากาศของงานประจำปีเป้นไปอย่างคึกคัก ถนนกลางเมืองถูกปิด กลายเป็นถนนคนเดินที่มีร้านรวงมากมาย มีเวทีการแสดงตั้งอยู่ประปรายตามมุมถนน และมีเวทีใหญ่อยู่หน้าที่ว่าการเมืองเดสเซนท์ 

    "ฟาร์ นายมีพี่น้องรือเปล่า" เซียถามระกว่างที่จูงมือร่างโปร่งให้เดินตามไป

    "มีน้องสาวสองคน  เป็นแฝดนะ" จะว่าไปออรี่และออร่าก็ชอบมาเดินเที่ยวตามงานแบบนี้เหมือนกัน

     “หืม ไม่เคยเห็นมาเยี่ยมที่มหาวิทยาลัยเลย”

     “เอ่อ...พวกเธอไม่อยู่แล้วละ” ฟาเรสตอบเสียงแผ่ว

    “เอ่อ โทษทีฉันไม่ได้ตั้งใจ”

     “เอาน่า ฉันมั่นใจว่าสองสาวนั่นกำลังมีความสุขอยู่แน่” อย่างน้อยออรี่และออร่าก็ไม่ต้องมาเผชิญปัญหาและการสูญเสียแบบที่เขาเจอ

     “เอ้อ ฟาร์ มาด้วยกันหน่อยสิ ฉันว่าจะไปซื้อกระเป๋ามือสองนะ ร้านอยู่ในตรอกใกล้ๆ นี่ละ” เซียเอ่ยชวน ซึ่งครึ่งเอลฟ์หนุ่มเพียงแค่เออออไปด้วย ร้านขายของมือสองอย่างนั้นหรอ น่าสนใจเหมือนกัน



   เซียเดินนำเขามาในตรอกแคบๆ ที่อยู่ระหว่างตึกสูงลัดเลาะ ไปตามทาง จนฟาเรสชักงง

    “เซียเกิดที่นี่หรอ” ฟาเรสเอ่ยถามทำลายความเงียบ

    “เปล่าหรอกจ้ะ ฉันเกิดที่นอธเทิร์นเรียม จริงๆ แต่ก่อนพ่อฉันทำงานเหมืองนะ ครอบครัวเราค่อนข้างลำบาก แต่ท่านเป็นคนเก่ง เชี่ยวชาญเรื่องคริสตัล เลยผันตัวเองมาเป็นพ่อค้ามาอยู่ที่เดสเซนท์นี่ละ”

    “เซีย!!!” ฟาเรสร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติรอบกาย  ก่อนที่เขาทั้งคู่จะถูกล้อม ด้วยคนชุดดำร่วมสิบ ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมาจากทุกมุมตึก เป็นพวกฟอสโกแน่นอน จะว่าไปเขาลืมคิดเรื่องพวกนี้ไปเสียสนิท ทั้งที่เวลอร์เคยเตือนไว้ว่าไม่จำเป็นก็ไม่ควรออกจากอนิมา พลาดซะแล้ว

     “เซีย ทำอะไรนะ” ฟาเรสหันกลับไปมองทันทีเมื่อจู่ๆ คนที่อยู่ด้านหลังจับมือเขาไขว้หลังแล้วใส่กุญแจมือล๊อคอย่างรวดเร็ว
“นายเป็นคนดีนะฟาร์ แต่ก็ดีเกินไป” เสียงหวานกระซิบบอกข้างหู “ถึงได้โดนหลอกง่ายๆ ยังไงละ”

     “เธอเป็นพวกนั้นหรอ” แต่ละคำที่พูดออกมาช่างยากลำบาก นี่เป็นครั้งที่สองที่ถูกเพื่อนหักหลัง และเป็นครั้งที่ร้ายแรงยิ่งกว่า เมื่อคนที่เขาคิดเสมอว่าเปรียบเสมือนพี่สาวกลับขายเขาให้ศัตรู

     “แล้วคิดว่ายังไงละจ้ะ” เซียว่าพลางเดินมาข้างหน้าพร้อมแสยะยิ้ม “ถ้าฟอสโกแพ้ ครอบครัวฉันก็เดือดร้อน เรามีกินมีให้เพราะพวกเขายิบยื่นโอกาสให้ ฉันไม่ยอมให้เธอทำสำเร็จหรอกนะฟาร์”

     ดวงตาสีครามมองรอบตัวอย่างหาทางหนีทีไล่ ในตรอกแคบๆ นี้ นอกจากทางข้างหน้าและข้างหลังที่พวกมันยืนปิดไว้ คงจะมีแค่ด้านบนเท่านั้นละที่เปิดโล่ง แต่เอลฟ์บินได้ที่ไหนกัน สิ่งเดียวที่คิดออกคือพยายามรวบรวมพลังเวทย์ไปที่มือ ทำลายกุญแจมือซะเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ

     “โอ๊ย!!” ร่างโปร่งสะดุ้งสุดตัวเมื่อกุญแจมือที่ใส่อยู่ร้อนวาบขึ้นมาเมื่อเขาพยายามใช้พลังเวทย์

      “อย่าพยายามเลย ถ้าไม่อยากแขนไหม้นะ” หนึ่งในนั้นเอ่ยปนขำ ยิ่งเขาฝืนทำลายกุญแจมือนั่นมากเท่าไหร่มันยิ่งร้อน จนตอนนี้ข้อมือเขาแสบไปหมด เรื่องทุกอย่างจะมาจบตรงนี้ไม่ได้

     “พวกแก...”

    “เอาละ มาด้วยกันซะดีๆ เจ้านายพวกเราอยากคุยด้วย”

     “ไม่มีทาง เฮ้ยย!! อย่าเข้ามานะ” ฟาเรสโวยวาย

     “ปิดปากมันซะเดี๋ยวคนแถวนี้ก็ได้ยินกันหมด” สิ้นคำ ชายชุดดำที่อยู่ใกล้ที่สุดพุ่งเข้ามาหาฟาเรส แต่ร่างโปร่งถีบสวนจนอีกฝ่ายหงายหลัง แต่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกอีกคนพุ่งเข้าใส่

     ผลัวะ!!! หมัดหนักๆ ฟาดเข้าที่สันกรามของฟาเรส ใบหน้าเนียนหันไปตามแรง ในหัวมันมึนไปหมดพยายามตั้งสติแต่ก็ถูกชกเข้าที่ท้องแรงๆ จนร่างโปร่งทรุดกองไปกับพื้น

     “นี่ฟาร์ ในฐานะที่เราเคยเป็นเพื่อนกัน อย่าขัดขืนดีกว่านะ ฉันไม่อยากให้นายเจ็บตัว” เซียนั่งยองลงตรงหน้าพร้อมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่คนฟังรู้สึกได้ถึงความเสสแสร้งอยู่ในนั้น แม้ใจอยากจะทักท้วงแต่แรงกระแทกตรงท้ายทอยก็ทำเอาสติของเขาดับลงทันที

     ร่างของครึ่งเอลฟ์หนุ่มถูกพวกฟอสโกแบกขึ้นบ่า ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับที่เข้ามา โดยมีเซียนำทาง
เมื่อหลายปีก่อนพ่อของเธอทำงานเป็นคนขุดเหมือง ถูกนายทุนเจ้าของเหมืองกดขี่สารพัด จนวันหนึ่งพวกฟอสโก้ได้เข้ามายึดเหมืองคริสตัลทางตอนเหนือที่พ่อเธอทำงานอยู่ พวกนั้นไม่ได้ฆ่าพ่อเธอแต่เสนอให้พ่อเป็นควบคุมดูแล โดยพวกไวด์โซลที่นั้นควบคุมอยู่คอยเป็นแรงงานให้ อันเดธเหล่านี้ไม่หิว ไม่เจ็บและไม่ป่วย แม้จะดุร้ายแต่ฟอสโก้ก็ควบคุมพวกมันได้ เธอไม่สนหรอกหากเหล่าฟอสโก้ยึดครองเอสทีเรียดได้คนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ในเมื่อการมีอยู่ของพวกนี้หมายถึงอำนาจและความสุขสบายของครอบครัวเธอ

     “รถจอดไว้ตรงแยกที่ 12 เร็วเข้า ก่อนพวกนั้นจะตามเจอ” หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มเร่ง เธอสั่งให้ชายตัวโตจับฟาเรสที่ยังไม่ได้สติขี่หลัง เผื่อมีคนเจอจะได้ไม่ผิดสั่งเกตุ

     ฟึบ!!! ฉีก...มีดสั้นสีเงินปักลงตรงหน้าของเซียก่อนที่เธอจะไปต่อ

     “คิดไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะเป็นคนทรยศ” เจ้าชายครึ่งออคก้าวมาขวางพวกฟอสโกเอาไว้

     “เธอทำแบบนี้ได้ยังไงเราเป็นเพื่อนกันนะ เธอทำกับพวกเราแบบนี้ คิดบ้าอะไรอยู่ เราเป็นเพื่อกนนนะ” มาวิคเอ่ยเสียงเครือ จนไมเรคที่ยืนอยู่ข้างหลังบีบไหล่คนรักเบาๆ ให้ใจเย็นลง

    “เอาละ ส่งฟาเรสคืนมาซะดีๆ” อดีตหน่วยพิทักษ์ตัดบท

     “เรื่องสิ” เซียแสยะยิ้มอย่างท้าทาย ถึงพวกนี้จะเก่ง แต่มีแค่คนไม่ถึงยี่สิบกับเจ้าเหมียวไร้ประโยชน์ที่แอบอยู่ข้างหลังจะทำอะไรพวกเธอได้  จำนวนมากกว่ากันเท่าตัวขนาดนี้

     โอ๊ยยย!! โครม ในขณะที่พวกคนร้ายกำลังให้ความสนใจกับโอซี่และลูนที่ยืนตรงหน้า พวกคนอื่นๆ อาศัยจังหวะนั้นเข้าโจมตี แล้วการปะทะก็เริ่มขึ้น พวกคิเมร่าบางคนกลายร่างเข้าขย้ำพวกฟอสโก บางคนเข้าต่อยตีด้วยมือเปล่า หรืออาวุธตามที่ตนถนัด
ในตรอกแคบๆ อื้ออึงไปด้วยเสียงครึกโครมปะปนไปด้วยเสียงกรีดร้องของผู้บาดเจ็บ ชายร่างยักษ์ที่แบกฟาเรสไว้อาศัยจังหวะชุลมุลจะหลบหนี โดยมีหญิงสาวผมแดงคอยแหวกทางให้

     “เร็วๆ เข้า”
“ครับเจ้านาย....อ๊ากกกก” ร่างโปร่งถูกปล่อยทันทีเมื่อคนแบกโดนดาบยาวปักเข้ากลางอก
 
    “พรีม!!!” เซียกรีดร้องอย่างหัวเสีย “หลีกไป”

     “หึ เธอเป็นใคร ทำไมผมต้องฟัง” ดวงตาสีฟ้าวูบไหวชั่วขณะ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา มองหน้าคนรักด้วยความผิดหวัง
วันนี้พรีมไปที่ฐาน ตั้งใจจะไปอยู่เป็นเพื่อนฟาเรสเพราะวันนี้เซียบอกเขาว่าจะกลับไปเยี่ยมที่บ้าน แต่พอไปถึงกลับพบว่า เซียพาฟาเรสไปเที่ยวงานเทศกาลในเมือง แต่สิ่งที่ได้รับรู้จากไมเรคและมาวิคมันช่างยากจะยอมรับ ครอบครัวของเขาและเซียต่างทำงานให้ฟอสโกโดยที่เขาเองไม่เคยรู้มาก่อน ร้านขายเพชรพลอยในเมืองเป็นเพียงกิจการบังหน้า ถึงพรีมจะรักคนเหล่านั้นแต่เขาก็ไม่อาจอยู่ข้างเดียวกันได้ เมื่อเป้าหมายที่แท้จริงของฟอสโกคือการยึดครองเอสทีเรียด

     “หึ นายเลือกคนพวกนั้นงั้นหรอ” เสียงหวานตวาดลั่น พร้อมพุ่งเข้าใส่ด้วยมีดในมือ ร่างสูงทำเพียงแค่หลบ เขาควรจะตอบโต้แต่อีกใจหนึ่งกลับห้ามเอาไว้ เพราะความลังเลทำให้พรีมพลาดโดนคมมีดของฝีกฝ่ายไปหลายจุดทำให้เสียหลักล้มกลิ้งไปกับพื้น

...ไม่ได้เขาจะมาใจอ่อนกับเธอไม่ได้…

    “นายครับเอายังไง พวกนั้นมาเพิ่มเรื่อยๆ เลย” หนึ่งในนั้นตระโกนถาม เซียมองรอบตัวอย่างร้อนรน เหมือนพวกเธอจะเสียเปรียบแล้วตอนนี้

     “จับเป็นไม่ได้จับตายก็แล้วกัน ฆ่าเด็กนั่นซะ” สิ้นคำ ทั้งพลังเวทย์ ทั้งคมมีด พุ่งเข้าหาฟาเรสที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น

     “ไม่นะ ฟาร์!!!” ลูนตาโตมองภาพตรงหน้าอย่างตระหนก เจ้าเหมียวคืนร่างเป็นแมววิ่งลอดหว่างขาผู้คนหมายจะไปให้ถึงร่างนั้น โอซี่ซึ่งต่อสู้ติดพันพยายามฝ่าเหล่าชายฉกรรรอบตัวมาช่วงเพื่อนแต่ดูจะสายไปเสียแล้ว

     ฉึก!!! ฉึก!!! ฉัวะ!! ทั้งคมมีและสายพลังเฉือนลงบนผิมเนื้อจนเลือดสีเข้มไหลริน เซียนิ่งค้างไปกับภาพตรงหน้าเมื่อบุคคลที่เธอหมายจะปลิดชีวิตกลับเป็นชายหนุ่มผมทองที่แสนคุ้นเคย พรีมเอาตัวมาบังฟาเรสไว้ ทำให้สายเวทย์เฉือนเข้าที่กลางอก ตามลำตัวถูกปักด้วยมีด จนชุดที่ใส่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด ชายหนุ่มฝืนเงยหน้ามาสบตากับผู้หญิงที่เขาเคยรัก ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งเขาและเธอต้องเดินกันคนละเส้นทาง ดวงตาสีฟ้าที่เคยสดใสหม่นแสงลงเรื่อยๆ ไม่มีน้ำตาและฉาบฉายไปด้วยความเจ็บปวดอย่างเปลี่ยมล้น

     “หนีก่อนเถอะนายหญิง!!” พวกคนร้ายที่เหลือ อาศัยจังหวะที่ทุกคนกำลังช๊อคกับสิ่งที่เกิด ดึงผู้เป็นนายที่ยังนิ่งทำอะไรไม่ถูกให้ถอยหนีออกไป

      “พรีม!!!” คนอื่นๆ กรูเข้ามาหาสองร่างที่กองอยู่บนพื้น

      “เร็วเข้า พาเขาไปหาหมอ” โอซี่พยายามห้ามเลือดบนตัวพรีม ส่วนไมเรคไปดูอาการฟาเรส

      “พรีม!! ฟื้นสิ บ้าเอ้ยยย” มาวิคช่วยห้ามเลือดอีกแรง แต่มือของเขาตอนนี้มันสั่นไปหมด ภาพตรงหน้าพร่ามัวเพราะไม่อาจห้ามน้ำตาได้ กลัวเขากลัวเหลือเกินในตอนนี้ พรีมคือเพื่อนคนแรกของมาวิค ถ้าเพื่อนคนนี้เป็นอะไรไปเขาคงแน่

       “พรีม ฮืออ...ช่วยเขา”
..........................

-พอแล้วเนอะดราม่า คนเขียนเฮิธเอง ช่วงนี้หายก็ขออภัยมา ณ ที่นี้เจ้าค่ะ  ด้วยช่วงวัยที่แก่ขึ้น เวลาในชีวิตมันก็หมือนน้อยลง เราเองอยากให้เวลาวันนึงมีซัก 30 ชม.จัง เลิกงานมาจะได้มรเวลามาปั่นนิยายให้ผู้อ่านที่น่ารักได้อ่านกัน อย่าพึ่งทิ้งกันไปไหนนะค่ะ เนื้อเรื่องนั้นล้วนแต่ถูกปูไว้แล้วเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการเรียบเรียง จุ๊บๆ :mew6:

-

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พรีมจะรอดมั้ยเนี่ย :katai1:

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
พรีมจ๋าา  :mew6:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พรีมอย่าเป็นอะไรนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
พรีมสู้ๆๆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พรีมมมม :sad4:

ออฟไลน์ FONS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :a5: พรีมมมมม

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
พรีมมมมม สรุป โกงหรือดี งง

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
นอกเรื่องนิดนึง เราเคยดู MV 2 ใน 3 เพลงนั้นมาก่อน (ตอนนั้นยังมีแค่ 2)
ดีใจที่ได้ดูคลิปสุดท้าย แต่เสียดายไม่น่าจบเศร้าเลย


ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 32

     คุณเชื่อเรื่องโชคชะตา หรือว่าพรหมลิขิตไหม สำหรับฟาเรสเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง แล้วใครเล่าเป็นคนกำหนดมัน ใครคนนั้นคงใจร้ายกับเขาน่าดู จึงได้มอบพลังที่มาพร้อมกับหน้าที่ให้เขาเช่นนี้ บ่อยครั้งฟาเรสถามตัวเองว่า ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร  ทำไมถึงต้องพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย แต่หากเขาละทิ้งมันชีวิตก็ใช่ว่าจะสงบสุข ตราบใดที่เขายังมีพลังนี้ พวกฟอสโกคงตามระรานชีวิตไม่เลิก และเขาเองก็ไม่อาจนิ่งเฉยปล่อยให้คนที่ทำลายครอบครัวเขาทำสิ่งที่ต้องการสำเร็จ แต่กว่าจะถึงวันที่ทุกอย่างจบสิ้นต้องมีคนรอบตัวบาดเจ็บล้มตายอีกซักกี่คน

    "ขอโทษ พรีม ฉันขอโทษ" ฟาเรสเอ่ยคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา ร่างโปร่งยังคงนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง ยิ่งได้เห็นใบหน้าขาวซีด และเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลของอีกคนยิ่งรู้สึกผิด 

    ในตอนนั้นหากเพื่อนคนนี้ไม่ได้เอาตัวมาบังไว้ คนที่นอนบนเตียงอาจเป็นฟาเรส หรือหากโชคร้ายคงถึงแก่ความตาย ในตอนที่เกิดเรื่องเขาสลบไสลจึงไม่อาจรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น มันจึงเป็นอีกครั้งที่ครึ่งเอลฟ์หนุ่มตื่นมาพร้อมข่าวร้ายแม้ครั้งนี้จะไม่มีใครตายก็ตาม

    "ฟาร์ควรไปพักนะ เดี๋ยวฉันดูต่อเอง" มาวิคที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาบอก สองมือบีบไหล่เพื่อนเบาๆ "เอาน่า หมอบอกพ้นขีดอันตรายแล้ว พรีมแค่ต้องการพักผ่อนก็เท่านั้น"


    "ไม่เป็นไร" อีกคนยังคงดื้อฟุบหน้าลงกับมือพรีมอยู่แบบนั้น 

    "เป็นสิ ตั้งแต่เกิดเรื่องได้นอนบ้างหรือยังนะ เวลอร์กลับมาถึงแล้ว ไม่อยากเจอหมอนั่นหรือไง" ชื่อที่ได้ยินดึงความสนใจจากร่างโปร่งได้ทันที "ไปสิ เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าเอง" 

    "ก็ได้ แต่ถ้าพรีมฟื้น ไปเรียกทันทีเลยนะ"

    "ได้ๆ รีบไปเร็ว เดี๋ยวมีคนขาดใจตาย" มาวิคยิ้มขำกับท่าทางรีบร้อนของเพื่อน 

    ทันทีที่ร่างโปร่งไปลับตา รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันที จริง ๆ เขาก็เครียดไม่น้อยกับเรื่องนี้ พรีมกับเขาโตมาด้วยกัน แถมเพื่อนของเขายังต้องมาเจอกับกับสิ่งที่เลวร้าย เมื่อทั้งคนรักและครอบครัวของตัวเองอยู่ฝ่ายศัตรู แม้พรีมจะเลือกความถูกต้องแต่จิตใจคงบอบช้ำไม่เบา ดังนั้นมาวิคจึงไม่ควรเศร้าและเข้มแข็ง เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งให้กับคนอื่นต่อไป

 


   ฟาเรสเร่งฝีเท้ากลับที่พัก ยามได้เห็นหน้าคนที่แสนคิดถึง ความอ่อนแอในใจไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป เวลอร์เดินมายืนตรงหน้าก่อนจะรวบกอดร่างโปร่งไว้แน่น ไหล่บางสั่นเทาจากแรงสะอื้นและเสียงร้องไห้ที่พยายามกลั้น ในช่วงเวลาที่เขาห่างไป แม้เจ้าตัวจะพยายามเข้มแข็งแค่ไหน แต่ทุกอย่างมันก็มากมายเกินกว่าที่เด็กอายุสิบหกจะรับมือไหว

    "เว...ฮึก ใจร้าย คนใจร้าย" เสียงหวานตัดพ้อ พลางซุกหน้าลงกับอกเกร่งจนเสื้อเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา

    "อ้าวว ผิดอะไรเนี่ย" ร่างสูงถามเสียงอ่อน

     "ทิ้งกันแบบนี้ได้ไง แย่ที่สุด" ว่าแล้วก็ทุบอกอีกฝ่ายหนักๆ มันน่าน้อยใจไหมละ ทีส่งขาวเรื่องฟอสโกส่งได้ แต่คุยกับฟาเรสคุยไม่ได้ 

    "ไม่ทิ้งแล้ว ฉันจะไม่ยอมห่างฟาร์อีกแล้ว" เสียงทุ้มบอกอย่างหนักแน่น มีอันตรายเข้ามามากมายในช่วงที่ผ่านมาจน เขาเองก็กลัวที่จะปล่อยให้คนรักอยู่ไกลหูไกลตา "คิดถึงนะครับ"

    "อืม เหมือนกัน" ดวงตาสีครามช้อนมอง จนคนถูกมองต้องโน้้มลงมาจูบอย่างอดไม่ได้ คิเมร่าหนุ่มลิ้มรสริมฝีปากนิ่มเนิ่นนาน ทุกความคิดถึงความโหยหาถูกถ่ายทอดผ่านรสจูบที่แสนหวาน

    "อยากทำ..." เสียงทุ้มกระซิบบอกพลางพรมจูบไปทั่วใบหน้าเนียนที่กำลังแดงซ่าน ไม่ว่ากี่ทีฟาเรสก็อดเขินไม่ได้ซักที

    "ฮืออออ เดี๋ยวสิ" ฟาเรสทั้งห้ามทั้งผลักใบหน้าคมออกห่างตัว แต่การเอียงหน้าหนีกลับเปิดโอกาสให้อีกคนเล่นงานซอกคอขาวแทน 

   "เดี๋ยวอะไร" เวลอร์ว่า กลิ่นกายหอมผิวเนื้อสีอ่อน เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวเผลอขบกัดจนร่างโปร่งสะดุ้ง

    "อื้อ ทำไมชอบกัดจังอะ เล่าก่อน หายไปทำอะไร ได้อะไรมาบ้าง" ฟาเรสทักท้วง แม้จะเคลิ้มไปบ้างแต่ความอยากรู้ก็มากกว่า "นะๆ จะตามใจทุกอย่าง เล่าหน่อยนะ"

    ดวงตาสีอำพันมองร่างในออมกอด อ้อนอีกแล้วอ้อนตลอด จะทำให้เขาหลงไปถึงไหนเนี่ย อยากจะจับฟัดเสียตอนนี้ ไม่รู้หรือไงว่าเก็บกดมากแค่ไหน 

    "เว..." 

    "ก็ได้ๆ" เวลอร์ว่าพลางดึงอีกคนไปนั่งข้างกันที่ปลายเตียง "ฉันไปหาพวกเพื่อนเก่าๆ มา ก็ไปเรื่อย ตามหาข่าวคราวชาวอินเวียโนคนอื่น ๆ แล้วก็พยายามสืบหาเรื่องของพวกฟอสโก กับลงมือกำจัดขยะนิดหน่อย"

    "แล้วได้เรื่องงว่ายังไง" ฟาเรสถามอย่างสนใจ

   "เอาจริงๆ คนของฟอสโกที่ขึ้นตรงกับ ริคัทโต้นั้นมีไม่มาก คนเหล่านั้นก็คือชพวกอินเวียโนที่มีแนวคิดเกมือนกันกับเจ้านั่น ที่เหลือก็จะเป็นพวกคนมีอำนาจ หรือพวกพ่อค้า ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับพวกฟอสโกก็เท่านั้น อย่างครอบครัวเซียก็เป็นหนึ่งในนั้น เหมืองที่บ้านเซียเป็นเจ้าของอยู่แรงงานส่วนใหญ่ก็คือพวกไวด์โซล แลกกับแรงงานชั้นดี บุคคลเหล่านี้จึงยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้กับพวกฟอสโก" 

    "แล้วเอ่อ...คนที่ชื่อริคัทโตนั่นจะเอาเงินทองมากมายนั้นไปทำอะไรละ" ครึ่งเอลฟถามอย่างสงสัย

     "เงินมันแค่ผลพลอยได้ แต่สิ่งที่เจ้านั่นต้องการคือกระจายกำลังพวกไวด์โซลไปทั่วเอสทีเรียด ลองนึกดูสิหากวันหนึ่งไวด์โซลทุกตัวที่คนเหล่านั้นใช้งานอยู่เกิดบ้าคลั่งขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น" 

    "ทุกคนในเอสที่เรียดคงต้อง..." ฟาเรสคิดตาม ภาพเหตุการณ์ในวานก็ปรากฏขึ้นในหัว วันที่บ้านของเขาถูกพวกนั้นโจมดี ก็แค่ปีศาจร้ายกระหายเลือดรู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น "แล้วจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร"

    "สมมุติในวันที่เอสทีเรียดถูกรุกราน แล้วริคัทโตเป็นคนเดียวที่หยุดพวกมันได้ เจ้านั่นก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในเอสทีเรียดไงละ ดังนั้นก่อนที่เราจะบุกเข้าไปในอินเวียโน พวกเราจึงจำเป็นต้องจัดการ คนที่สนับสนุนฟอสโกและไวด์โวลเหล่านี้เพื่อตัดกำลัง นั่นคือสิ่งที่เราทำในช่วงที่ผ่านมาไงละ"

    "งั้นที่นายหายไปเพราะไปตามเก็บพวกนี้งั้นหรอเว"

    "ใช่แล้วละ ขอโทษนะ ที่ฉันไม่อยากคุยกับฟาร์เพราะกลัวทนคิดถึงไม่ไหวไงละ"

     "เฮ้อ...เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ นี้จะจบซักที" ฟาเรสเอ่ยเสียงเบา ทุกสิ่งทุกอย่างช่างมากมายเหลือเกิน จนกลัวว่าท้ายที่สุดพวกเขาจะหยุดใครคนนั้นได้หรือไม่


.............................


    "พลาด...หึ กับอีแค่เด็กคนเดียวพวกแกทำพลาดงั้นหรอ" น้ำเสียงเย็นเยียบดังก้องโถงกลาง 

    ภายในปราสาทหินอ่อนดำ ร่างโปร่งผู้มีเรือนผมสีขาวที่ยาวถึงกลางหลังซึ่งล้อมกรอบใบหน้างดงามหากแต่เย็นชาไร้อารมณ์ นั่งอยู่บนบรรลัก์ ดวงตาสีครามกวาดมองกลุ่มคนที่คุกเข่าตรงหน้า 

    "ตอนแรกพวกเราได้ตัวเด็กนั่นมาแล้ว แต่เจ้าพวกนั้นมาขวางไว้" หนึ่งในนั้นอธิบายอย่งกล้าๆ กลัวๆ

    "แล้วฉันบอกพวกแกว่าอย่างไร หากไม่สำเร็จก็ให้ฆ่าทิ้งซะ"

    "แต่ เด็กนั่นเป็น..."

    "ต่อให้มีสายเลือดเดียวกัน หากมาขวางทางก็ต้องกำจัดทิ้ง" ริคัทโต้เอ่ยเสียงเฉียบ พลางมองรูปภาพในมือด้วยสายตาว่างเปล่า เป็นภาพของเด็กหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีเดียวกับเขา เรือนผมสีอ่อนและใบหน้าหวานนั่นเหมือนกับฟาร่าน้องสาวของเขาไม่มีผิด 

     เมื่อหลายปีก่อนรับรู้ว่าฟาร่าหนีออกจากอินเวียโนไปได้ เขาใช้เวลาหลายปีตามหาจึงพบว่าอินเดียโก้ได้พาเธอหลบหนีไปอยู่ที่ไว้ออชาร์ด แม้ฟาร่าจะตายไปหลายปีแล้วแต่เขากลับรู้มาว่า น้องสาวคนนี้ได้ให้กำเนิดลูกชายหนึ่งคน ซึ่งแน่นอน เด็กนั่นคงมีพลังแบบเขาอย่างไม่ต้องสงสัย จึงคิดกำจัดเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แต่ฟาเรสกลับรอดไปได้ และสิ่งที่เขาคิดไว้ก็เกิดขึ้น เมื่อคนเก่าๆ ที่แพ้ไปตอนนั้นเริ่มรวมตัวกันสนับสนุนเด็กนั่นในการหยุดเขา

    "เอ่อ...นายท่านจริงๆ แล้วเรามีอีกเรื่องที่ต้องรายงานขอรับ" หนึ่งในนั้นเอ่ยขัด ห้วงความคิดของผู้เป็นนาย

    "ว่ามา"

    "คนของเราพร้อมไวด์โซล์ ที่อยู่ในเหมืองแถบเคลวิชถูกกำจัดครับ" 

    "เเคมป์ตอนใต้ของนอธก็โดนเมือนกันค่ะ" ก่อนจะตามมาด้วยรายงานจากที่อื่นๆ อีกสามสี่ที่ 

    "วาเลเรียส" ชื่อนี้ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่ฟังจบ 

     ก่อนหน้านี้พอได้ยินมาบ้างว่าเพื่อนเก่าของเขายังไม่ตาย เพื่อนที่กลายเป็นศัตรู คนที่ทำให้ริคัทโต้รู้สึกเป็นรองในทุกๆ ด้าน และเป็นเพียงแค่เงาของอีกฝ่ายเสมอมา ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ทำเพื่อบ้านเมืองมากเท่าไหร่ แต่คนที่ได้เป็นกษัตริย์กลับเป็นวาเลเรียส แต่สายเลือดเอลฟ์เช่นเขาก็มีสิทธิ์ไม่ต่างกัน พวกเขาและชาวอินเวียโนบางคนก็คิดเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นฝ่ายหลบซ่อนทั้งที่แข็งเกร่งกว่าดินแดนอื่น ที่ทำทั้งหมดก็แค่ทวงในสิ่งที่เขาควรจะได้แค่นั้นเอง

...............................

- คุณผู้อ่าน ไรท์ขอถามตรงๆ หน่อยสิค่ะ ขอตอบแบบตรงๆ เลยเนอะ รู้สึกว่าเรื่องเริ่มน่าเบื่อหรือยืดเกินไปหรือเปล่าค่ะ ปมเยอะไป ไขไม่เก็ท หรือออกนอกทะเลไปไหม ....ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ไรท์รู้สึกกัับตัวเองค่ะ เลยอยากได้ความเห็นจะได้ ปรับปรุงถูกค่ะ   :katai4:

- ในพาทพรีมนั้น กะจะหาคนมาดามใจค่ะ อยากถามว่า จะให้ พรีมเคะ หรือ เมะ ดีค่ะ
  :hao3:
- ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามผลงานเรานะค่ะ แม้ช่วงนี้ไรท์จะอัพช้ามากๆ ก็ตาม  :impress2:



 http://www.whybooksth.com/ เอ่อ...สำหรับผลงานเรื่อง Night Knight อัศวินรัติกาล ทางสำนักพิมพ์ไดเริ่มเปิดจองแล้วค่ะ แปะลิ้งแบบนี้ผิดกฏไหมค่ะ ขอไอดีซื้อขายไปยังไม่มีอะไรตอบกลับมาเลยค่ะ  :o12: สำหรับใครอยากเก็บสะสม อุดหนุนเกันได้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2016 16:33:13 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:  แปะก่อนจ้า

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เค้าชอบเรื่องแบบนี้นะ ไม่ได้งงหรืออะไร
ให้พรีมเคะได้มะ 555555
คนเขียนอย่าหนีเค้าไปไหนนะ นี้เข้ามารอทุกวัน :mew1:

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ไม่เบื่อค่าา มาต่ออีกไวๆน้าาาา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มาบ่อยๆก้อพอแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด