ตอนที่ 42
“ ท่านฟาร์คัส ”
ชาคอสเอ่ยเรียกฟาร์คัสที่กำลังจะกลับเข้าห้องหลังจากสั่งอาหารไป
“ มีอะไร ชาคอส ”
ฟาร์คัสหยุดยืนตั้งใจฟัง เพราะลูกน้องคนสนิทของคาร์บิลัสเป็นคนจริงจังเวลาจะพูดอะไรก็ชอบพูดแต่เรื่องจริงจัง ฉะนั้นจะสนิทกับฟาร์คัสก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะต่างฝ่ายก็เป็นคนจริงจังอยู่แล้ว
ชาคอสยิ้มมีเล่ห์สนัย
“ ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ท่านฟัง บทสนทนาผ่อนคลายของพวกข้า ”
ฟาร์คัสหงกหัวเบาๆ เชิงให้เล่าแต่ในใจก็อดรู้สึกแปลกใจที่ชาคอสพูดเรื่องไม่จริงจัง
“ บนโต๊ะอาหารที่ท่านคาร์บิลัสไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าอยู่ที่ใด มักจะมีคนเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของท่านกับท่านคาร์บิลัสอยู่เสมอ ต้องยอมรับว่าในบางคราข้าก็เป็นคนเปิดประเด็นเช่นกัน ”
เรื่องของข้า ?
ข้ากับคาร์บิลัส ?
ฟาร์คัสเลิกคิ้วงุนงง
“ ท่านคาร์บิลัสได้ชื่อว่าเป็นราชาปีศาจที่เกรียงไกรย่อมมีผู้คนมากมายหมายปอง เหล่าปีศาจส่งลูกมาหาท่านคาร์บิลัสเมื่อรู้ข่าวว่ายังไม่มีคู่หมั้นหมาย แต่ท่านคาร์บิลัสก็ปฏิเสธกลับไปทุกรายเพียงเพราะว่ามีคนอยู่ในใจอยู่แล้ว ”
ชาคอสพูดไปยิ้มไป
“ ข้าเองก็คาดเดาไปต่างๆ นานาว่าผู้ใด พอท่านคาร์บิลัสใช้ข้าไปตามสืบเรื่องของท่านข้าก็กระจ่าง เป็นท่านนั้นเองที่ทำให้ท่านคาร์บิลัสไม่มีใครสักที แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ข้าอยากเล่าให้ท่านฟัง ”
“ เจ้าต้องจะบอกอะไรข้ากันแน่ ”
ฟาร์คัสหน้าแดง
ไอ้แพะบ้านี่มันตามสืบเรื่องของข้านานเท่าไหร่แล้ว
“ ข้าเป็นชาวปีศาจย่อมสรรเสริญราชาปีศาจ แต่เมื่อเห็นท่านราชาของข้าเดินตามหลังท่านต้อยๆ บ้าง ง้อบ้าง งอแงใส่ท่านบ้าง มันทำให้พวกข้าแปลกใจพอสมควร แต่ที่เห็นจะดูน่าเห็นใจและตลกที่สุดคงจะเป็นตอนที่ท่านไล่ท่านคาร์บิลัสออกจากห้องนอน ”
ชาคอสหลุดหัวเราะเมื่อนึกถึงสีหน้าหงอยๆ ของราชาตัวเอง
ตอนนั้นเขาเดินไปเจอพอดีตอนเกือบเที่ยงคืน ช่วงนั้นยุ่งๆ กับการเดินงานเอกสารที่ท่านคาร์บิลัสเพิ่งอนุมัติไป
สีหน้าแบบปกติที่ไม่คิดว่าจะมาจากราชาตัวเอง
ถือเป็นประเด็นที่ใช้ในการสนทนาที่สนุกมาก
“ เอาแต่พูดว่าจะกอดข้า ข้ารำคาญเลยไล่ออกจากห้องไป ”
ฟาร์คัสแก้ต่างให้ตัวเองแต่กลับเหมือนขุดหลุมให้ลึกมากกว่าเดิม
“ สิ่งที่ข้าอยากจะพูดคือ ข้าอยากให้ท่านสงสารท่านคาร์บิลัสบ้าง เขารอท่านมานานมากแล้ว ”
คาร์บิลัสไม่ได้เอ่ยขอหรือให้รางวัลอะไรกับการกระทำแบบนี้ของชาคอส
เขาสมัครใจที่จะทำเอง
ใครบ้างจะไม่สงสารราชาปีศาจที่มีชายาเหมือนไม่มีล่ะ ?
“ รีบไปเอาอาหารไป ”
ฟาร์คัสตัดบทหนีเข้าห้อง
โดยที่ลืมไปว่าห้องที่ตัวเองเข้านั้นมีคนที่โดนนินทาอยู่
“ ทำไมเจ้าหน้าแดงล่ะ ฟาร์คัส เจ้าไปทำอะไรมา ”
คาร์บิลัสเข้าถึงฟาร์คัสอย่างว่องไว เอามืออังคออังหนาผาก
“ เจ้าไม่ได้ตัวร้อนนี่ ! เจ้าเขินใคร เจ้านอกใจข้าหรอก แค่ข้าอยู่กับเอกสารนานกว่าเจ้า เจ้าก็ทิ้งข้าแล้วเหรอ ”
เริ่มด้วยเสียงโวยวายก่อนจะค่อยๆ แผ่วลง
ฟาร์คัสกลอกตา
ความรู้สึกเขินหายไปในพริบตา
“ ข้าจะเอาเวลาไหนไปนอกใจเจ้า ? ”
“ งั้นก็แปลว่าเจ้าเขินข้าล่ะสิ ! เจ้าเขินข้าเรื่องอะไร ให้ข้ารู้ได้ไหม ”
คำตอบของฟาร์คัสทำให้มีคาร์บิลัสกระดี้กระด้า
“ เจ้าไม่ต้องรู้สักเรื่องได้ไหม ”
“ งั้นข้าจะหึงเจ้า ข้าจะไม่ให้เจ้าเจอใครนอกจากข้า ”
แค่คิดว่าต้องอยู่แต่ในห้องนี่ก็รู้สึกเบื่อแล้ว
“ เดี๋ยวก็รู้เอง ไม่ต้องสงสัยให้มันมาก เจ้ารีบทำงานของวันนี้ให้เสร็จ เผื่อว่าพรุ่งนี้จะได้ออกไปเดินเล่นบ้าง ”
“ ข้าจะรีบทำ ”
คาร์บิลัสพยักหน้าหงึกๆ นั่งทำด้วยความกระตือรือร้นกว่าปกติเป็นเท่าตัว
คำว่าเดี๋ยวก็รู้เองนี่มันก็หมายความว่าอีกไม่นาน
อีกไม่นานก็คืออาจจะวันนี้
เรื่องที่ฟาร์คัสใม่ยอมบอกข้าตรงๆ แบบนี้ทำให้ข้าอดรู้สึกสนุกไปด้วยไม่ได้
อีกาของข้ากำลังเขินอายเรื่องของข้าในเรื่องไหนกันนะ ?
“ ให้ข้าทำอะไร แก๊ซ ! ”
ดัฟฟ์พูดอย่างตื่นเต้นเมื่อมาอยู่ในสนามประลองที่เมื่อกี้เพิ่งเกิดการต่อสู้ไปหมาดๆ
ผู้อำนวยการกอดอกโคลงหัวไปมาครุ่นคิด
“ นั่นสิ ปกติพวกที่สอบเข้าก็จะมีครูมาทดสอบความสามารถ แต่ตอนนี้ทุกคนคงจะยุ่งๆ งั้นเจ้าก็ทำยังไงก็ให้ข้าเป็นแผลให้ได้แล้วกัน เจ้าหนู ”
เริ่มมีเสียงฮือฮาเมื่อเห็นผู้อำนวยการอยู่ในสนามประลองเพราะปกติผู้อำนวยการโกโก้ที่ว่านี้ไม่ค่อยจะแสดงฝีมือให้เห็นสักเท่าไหร่ จากที่เตรียมจะแยกย้ายไปเรียนกันต้องกลับมานั่งกันที่เดิม
การได้เห็นการต่อสู้ของยอดฝีมือเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การดูอยู่แล้ว
แต่ว่า..
“ แก๊ซ ! เหม็น ข้าไม่ทำ ”
ดัฟฟ์หน้างอเอามือปิดจมูก
กิลเบิร์ตหัวเราะรับไม่ถือสา
“ งั้นเจ้าก็ลองสู้กับหุ่นไล่กาดูแล้วกัน เจ้ามีอะไรแสดงมันออกมาให้หมด เพราะเจ้าหุ่นนี่แข็งแกร่งมากต้องใช้พลังงานมากในระดับนึงเลยทีเดียวกว่าจะพัง ”
แม้ว่าการต่อสู้ตัวต่อตัวจะเก็บข้อมูลได้ง่ายกว่าแต่ผู้อำนวยการก็ตามใจผู้เรียนอย่างดัฟฟ์
เพราะเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ
“ ได้เลย แก๊ซ ! ”
ดัฟฟ์ตาเป็นประกายก่อยจะคืนร่างเป็นมังกรดำ
“ เฮ้ย ! ดัฟฟ์ !! ”
กิลเบิร์ตเบิกตากว้าง ลืมบอกดัฟฟ์ไปอย่างว่าห้ามคืนร่างขนาดเกินกว่าที่โรงเรียนกำหนด ไม่เช่นนั้นจะ..
“ แก๊ซๆๆๆ ”
ดัฟฟ์ร้องลั่นด้วยความไม่พอใจเมื่อตัวเองเป็นมังกรที่ตัวขนาดเท่าไก่สักตัว
นาซัสหลุดหัวเราะ
“ ดัฟฟ์ ดัฟฟ์สู้ๆ ”
พยายามชูไม้ชูมือให้กำลังใจ
ดัฟฟ์ในร่างมังกรหันมองด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะกระโจนไปกัดหัวหุ่นไล่กาที่ถูกปักอยู่กลางสนาม แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ มังกรดำจึงเริ่มต้นการพ่นไฟ กัด กระโดดทับ สารพัดอย่างที่จะคิดออก
นักเรียนปีศาจที่ตั้งใจจะดูผู้อำนวยการก็เบ้หน้ากันเซ็งๆ เมื่อนอกจากไม่ได้ดูผู้อำนวยการแล้วยังมานั่งดูลูกมังกรเล่นกับหุ่นไล่กา จึงเริ่มพากันทยอยกันออกจากลานประลอง
ดัฟฟ์นอนแอ่กบนพื้นแลบลิ้นหอบด้วยความเหนื่อยหมดสิ้นความเป็นมังกรดำ
หุ่นไล่กาทั้งแข็งทั้งไม่อร่อยเลย แก็ซ !
แต่ข้าไม่ได้อยากได้สีชมพู ง้า
มังกรดำจึงค่อยๆ คลานไปหาหุ่นไล่กาเริ่มต้นแทะตั้งแต่โคน แทะไปจนครู่ใหญ่ๆ ถึงได้มีเสียงดัง
แกรก
โคนไม้หุ่นไล่กาแตกค่อยๆ แตกก่อนจะลามไปยังฟางที่ดูเหมือนว่าไม่ได้สร้างจากฟางปกติ
โครม
หุ่นไล่กาแตกออกจากกันกองบนพื้นเป็นกองโต
“ หือ ? เจ้าทำลายมันได้แล้วเหรอ ”
ผู้อำนวยการหาวหวอดขยี้ตามองดัฟฟ์ง่วงๆ
“ ใช่ ! แก๊ซ ข้าทำลายมันได้แล้ว ”
ดัฟฟ์หน้างอถึงขีดสุด
“ อ่า งั้นเอาสีเหลืองไปแทนแล้วกัน ”
กิลเบิร์ตล้วงเอาเข็มกลัดที่ยัดไว้ในกระเป๋าเสื้อยื่นให้ดัฟฟ์
ดัฟฟ์ถึงได้ยิ้มออก
“ แก๊ซ สีเหลืองก็ดีกว่าสีชมพู ”
รับเข็มกลัดไปใส่ด้วยความกระตือรือร้น
ผู้อำนวยการยิ้มเอ็นดู
จะสีชมพูหรือสีเหลืองก็ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น
เพราะดูแล้วดัฟฟ์ไม่มีทักษะด้านการต่อสู้อะไรนอกจากสัญชาตญาณ ภาษาการเขียนก็ใช่ว่าจะสามารถอ่านได้เขียนได้ ดูๆ แล้วต้องปูพื้นฐานใหม่ตั้งแต่แรก
รวมๆ แล้วคือดัฟฟ์ต้องเข้าเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กสุดของโรงเรียนเลยทีเดียว
ชายเสื้อถูกกระตุกกิลเบิรต์ถึงก้มมองด้วยความสงสัย
“ ข้า ข้า ก็อยากได้ ”
ดวงตาสีกระจ่างที่ดูทรงอำนาจแปลกๆ เอ่ยขอ
“ เอาสิ ”
ยื่นเข็มกลัดอีกอันให้
“ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้ดี ข้าจะพวกเจ้าไปปล่อยแล้ว ”
ผู้อำนวยการหัวเราะหึๆ ในลำคอ
ในกรณีของดัฟฟ์กับนาซัสเหมาะกับห้องพิเศษที่สุด
พิเศษที่ว่าไม่ได้มีความหมายในเชิงดีเลยแม้แต่น้อย
เป็นห้องที่รวบรวมปีศาจไว้หลากหลายทั้งดีและไม่ดี ส่วนใหญ่เกรดออกมากันไม่ดีเลยต้องมาอยู่ห้องนี้กัน เป็นห้องปูพื้นฐานพิเศษสำหรับพวกควบคุมยาก
ท่านคาร์บิลัสต้องการให้ดัฟฟ์กับนาซัสเติบโต
มีความคิดความอ่านละเอียด
คงจะมีแต่วิธีนี้ที่เห็นผลชัดที่สุด
คือ การประสบมันด้วยตนเอง
“ ฟาร์คัส ! ข้าทำงานเสร็จแล้ว ”
คาร์บิลัสยิ้มกว้างขณะพูด
ขุมนรกแห่งเอกสารหมดยุคไปแล้ว ฮ่าๆ
ณ ตอนนี้มีเพียงเรื่องของข้ากับฟาร์คัสเท่านั้น
เอกสารอะไรอย่ามาข้องเกี่ยวกับข้าอีกเลย
“ ฟาร์คัส ? ”
คาร์บิลัสเมื่อกี้พูดโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าฟาร์คัสหลับรอไปนานแล้ว
“ สงสัยว่าข้าจะทำเพลินไปหน่อย ”
พูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
ที่ข้าค้างไว้ก็จัดการจนหมดแล้ว ช่วงนี้ถ้าข้าขยันทำเรื่อยๆ ตามเวลา เวลาว่างของข้าก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ถึงเวลานั้นข้าจะพาฟาร์คัสไปเที่ยวดินแดนปีศาจให้ได้
ของขึ้นชื่อของดินแดนนี้ไม่ได้มีแค่ข้าหรอกนะ
มือหยาบบรรจงลูบหน้าอีกาที่ปกติมักจะคิ้วขมวดเสมอ ในตอนนี้กลับดูผ่อนคลายดูไม่มีพิษมีภัยเหมือนปกติ
น่ารัก..
คาร์บิลัสกลืนน้ำลายเอือกสลัดหัวตัวเอง
ไม่ได้ๆๆ ข้าจะกินอีกาไม่ได้
ราชาปีศาจสอดมือเข้าใต้ตัวอีกาก่อนจะเอามาอุ้มแนบอก
ถึงขนาดตัวจะดูใกล้ๆ กันแต่ฟาร์คัสก็ตัวเล็กกว่าคาร์บิลัสอยู่ดี
-----------------
แอบตื่นเต้น นี่อาจจะเป็นตอนที่ฝันของคาร์บิลัสเป็นจริง 555555
ตอบเมนต์ ♥
คุณ BlueCherries : ของดัฟฟ์นี่กะอายุไว้ประมาณประถมต้นๆ ค่ะ >< ส่วนนาซัสนี่ร่างนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความทรงจำเก่าหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แค่ร่างเพียวๆ ซื่อๆ เด็กกว่าดัฟฟ์ 2-3 ปีค่ะ
คุณ Hang : เวสเปอร์น่ารัก
คุณ nightsza : ตอนนี้ก็ไม่แน่