Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ควรจะมีภาคต่อไหม ?

มีก็ดี :D
34 (82.9%)
ไม่มี จบแค่นี้ก็ฟินแล้ว ~
3 (7.3%)
มีก็ได้ไม่มีก็เฉยๆ
4 (9.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 41

ผู้เขียน หัวข้อ: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]  (อ่าน 70466 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องหาของกินแค่นี่สบายมาเนอะดัฟ ฮ่าๆๆๆ
ดัฟเป็นพี่ที่ดีจริงๆ มีฝืนใจแบ่งของให้น้องกินด้วย 555
ถึงเเม้ว่าสุดท้ายจะเอาเข้าปากเองหมดเลยก็เถอะ
แอบสงสารนาซัสเบาๆ น้องดูไม่ค่อยมีคนสนใจ
ไม่เป็นไรน๊าาา ยังไงนาซัสก็มีดัฟอยู่ทั้งคน

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เรื่องของกินขอให้บอกดัฟฟ์ ในที่สุดเวลาที่คาร์บิลัสรอคอย ได้กินอีกา แถมได้แต่งงานอีก คุ้มสุดๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 45
   
“ ไอ้แพะเวร  ” ฟาร์คัสหน้าแดงสบถด่าไม่หยุดปาก สาเหตุที่ด่าเพราะพอพาไปอาบน้ำนอกจากไม่ให้อาบเองแล้วยังทำเรื่องอย่างว่าอีกรอบ จากที่หมดแรงอยู่แล้วตอนนี้แรงจะเดินยังไม่มีด้วยซ้ำ ต้องปล่อยให้ราชาปีศาจอุ้มกลับห้อง
   
“ สงสารข้าบ้างสิ ฟาร์คัส ข้ารอเจ้ามาตั้งนานตั้งแต่ไปเมืองภูตแล้วนะ ” คาร์บิลัสตอบด้วยสีหน้าชื่นบานสุดๆ จนแทบจะมีดอกไม้ลอยฟุ้งอยู่รอบตัว
   
“ เจ้าจะอดอยากอะไรนักหนาวะ ลองมาโดนแบบข้ามั้งไหมล่ะ ” อีกาหน้าบูดสนิท หงุดหงิดที่รู้สึกเจ็บยิ่งกว่าเดิม
   
“ งั้นจนกว่าเจ้าจะหายเจ็บข้าจะไม่ทำแล้วกัน  ” ถึงจะฟังดูน่าเศร้าสำหรับคาร์บิลัส แต่เจ้าตัวก็ยังคงยิ้มร่าอยู่ดี ใครใช้ให้ฟาร์คัสยอมข้าถึงสองวันติดเล่า ? ข่าวราชาปีศาจไร้น้ำยาจะได้หมดๆ ไปสักที ไอ้พวกปีศาจเวรพวกนั้นลือข้าไปในทางที่แย่มาก
   
“ เวร ” ฟาร์คัสด่าทิ้งท้าย ก่อนจะหลับตาลงเพราะรู้สึกเพลียจริงๆ
   
“ ข้าว่าพรุ่งนี้เราไปเยี่ยมดัฟฟ์กับนาซัสที่โรงเรียนกันดีกว่า ” คาร์บิลัสพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าปล่อยเด็กสองคนไปโรงเรียนแล้วตัวเองก็ยังไม่ได้ไปดูสักครั้ง  ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง มังกรดำยิ่งโง่ๆ อยู่ นาซัสน่าจะพอเอาตัวรอดได้ สัญชาตญาณน่าจะดีกว่าดัฟฟ์เยอะ   
   
“ ข้าไม่ไป ”
   
“ ไปสิ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงสองคนนั้น ”
   
ฟาร์คัสหน้าแดงลามถึงคอ “ ข้าเดินไม่ไหวหรอกนะ ”
   
ราชาปีศาจยิ้มเจ้าเล่ห์ “ ไว้ข้าจะอุ้มเจ้าเอง ไม่ต้องห่วง ” ก่อนรอยยิ้มจะหายไปเป็นหน้าเศร้าจัด เมื่อร่างในอ้อมกอดกลายเป็นอีกาตัวย่อมขนดำสนิท
   
ฟาร์คัสในร่างอีการู้สึกสะใจจนแกล้งร้องกวนคาร์บิลัส “ กา “
   
“ กาอะไรของเจ้า ข้าฟังไม่รู้เรื่องหรอกนะ ”
   
“ กา ”
   
“ ถ้าเจ้ายังไม่กลับมาร่างมนุษย์ ข้าจะถือว่าสัญญาที่ข้าให้ไว้สูญเปล่านะ ” คาร์บิลัสขู่
   
แต่ฟาร์คัสก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะหลับไปแล้ว
   
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทำให้คาร์บิลัสยอมปิดปากเงียบ ลูบขนเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
   
ชายาของข้า..
   
ก่อนที่จะหยุดมือหันไปหาลูกน้องคนสนิทที่เดินมาอย่างเงียบเชียบ
   
“ ท่านคาร์บิลัส ”
   
ชาคอสเอ่ยเรียกก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้นไม่กล้าสบตา
   
“ มีอะไร ? ชาคอส ”
   
คาร์บิลัสเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ น้อยครั้งที่ชาคอสจะเป็นแบบนี้
   
“ มีคนทำลายสุสานกูเซียนขอรับ ”
   
ราชาปีศาจเบิกตากว้าง รู้สึกโกรธจนตัวสั่น
   
สุสานกูเซียนเป็นสุสานที่รวบรวมกระดูกของราชาปีศาจและคนสนิท ทุกปีคาร์บิลัสจะกลับไปเคารพพ่อแม่ของตัวเองเสมอ ซึ่งวันที่ว่าจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือน เดิมทีคาร์บิลัสตั้งใจจะพาฟาร์คัสไปเคารพก่อนแล้วจึงแต่งงาน
   
ตาสีเทาหมุนริ้วจนเกิดสีแดงก่ำคล้ายกับพายุที่กำลังเริ่มก่อตัว
   
“ กว่าข้าจะรวบรวมกระดูกพวกเขามาได้... ” กระดูกที่ว่าไม่ใช่ใครนอกจากพ่อแม่ของคาร์บิลัสนั่นเอง “ มีเบาะแสไหม ” น้ำเสียงของคาร์บิลัสเย็นเยียบ
   
“ ไม่มีขอรับ ” เป็นสาเหตุที่ทำให้ชาคอสไม่กล้าสบตาคาร์บิลัส
   
“ ถ้าหากฟาร์คัสตื่น จงบอกว่าข้าไปเที่ยวเล่นในเมือง ”
   
ชาคอสพยายามกลืนน้ำลาย รู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่น
   
“ ขะ ขอรับ ท่าน ”
   
คาร์บิลัสพาฟาร์คัสกลับเข้าห้องนอนกดจูบเบาๆ ที่หัวอีกา และพาตัวเองไปสุสานกูเซียนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

   

“ ว้ากกกก ออสการ์ นี่เจ้าจะวิ่งไปไหน ” คาอิสโวยวายหลังจากได้สติคืนมาและพบว่าตัวเองกำลังโดนลาก
   
“ ไอ้โง่ ก็วิ่งตามกริสเซลไง ถ้าวิ่งตามไอ้สัตว์ตัวเหม็นนั่นพวกเราต้องรอดแน่ ”
   
“ แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ไปไหนหมด ”
   
“ จะไปรู้รึไง พวกข้าสั้นพวกนั้นวิ่งช้าจะตาย หลงป่าแล้วมั้งข้าว่า ไม่มีใครเก่งเท่าข้ากับเจ้าหรอก ” พูดจบก็ยิ้มภูมิใจจนเผลอยืดตัว
   
คาอิสรู้สึกถึงหนังตาข้างขวาของตัวเองที่กระตุกรัวๆ “ แล้วเจ้าเห็นกริสเซลไหม ”
   
“ ก็บอกอยู่ไม่รู้ๆ ข้าจะไปเห็นได้ไง ”
   
คาอิสชะงักขาที่วิ่งยึดตัวออสการ์ไว้แน่น “ เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังวิ่งตามกริสเซล แต่เจ้าไม่เห็นมันเนี่ยนะ ! ”
   
“ เออสิ เห็นครั้งสุดท้ายวิ่งมาทางนี้ ข้าก็วิ่งมาทางนี้สิ ” ออสการ์ส่งสีหน้าเซ็งจับจิตใส่คาอิส
   
“ ฉลาดมากเพื่อนข้า เพราะงี้แหละพวกเราถึงออกจากป่าไม่ได้ ! ”
   
“ เจ้าพูดถูกว่าข้าฉลาด แต่ทำไมจะออกจากป่าไม่ได้ ข้าคือออสการ์นะ! ”
   
มังกรไฟถลึงตามองเพื่อนสนิทตัวเอง “ เจ้าวิ่งไปมั่วๆ มันจะไปออกจากป่าได้ไง ถ้าเจ้าอยากออกจริงๆ ข้าว่าเจ้าตามช้าดีกว่า อย่างน้อยข้าก็บินได้ ! ” พูดไม่พอคาอิสยังเปลี่ยนตัวเองเป็นมังกรตัวจิ๋วอีกด้วย
   
ออสการ์ชักสีหน้ารุนแรง “ ข้าไม่ได้วิ่งมั่ว  ”
   
“ มั่วไม่มั่วก็เรื่องของเจ้า ” คาอิสแยกเขี้ยวใส่พลางบินขึ้นสูง แต่กว่าจะขึ้นเลยต้นไม้ได้ก็ทำเอาหอบแฮ่ก “ แฮ่ก ต้นไม้บ้าอะไรเนี่ย สูงชะมัด ”
   
“ เห็นยัง ! ” ออสการ์ป้องปากตะโกนถาม
   
มังกรไฟพ่นลมหายใจแรงๆ เค้นกำลังตัวเองออกมา
   
ใกล้จะพ้นยอดไม้แล้วเว้ยยย
   
คิดอย่างมีความหวัง
   
ก่อนที่จะ...
   
ผลั่ก !!!
   
โดนอะไรบางอย่างบินชนจนร่วง เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายเนื่องจากแรงตก
   
“ ว้ากกก คาอิส เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย ” ฟอร์ดสลัดตัวไล่ฝุ่นออกจากปีกถามซื่อๆ
   
คาอิสสะบัดหัวจนหายมึนก็จ้องฟอร์ดเขม็ง “ เจ้า !!! ” คำรามเสียงดังลั่นตะครุบร่างเหยี่ยว
   
-------------------------
 :z13:
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใครมาทำลายสุสานเนี่ย???

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :serius2:

โอ้ยตาย

ฝั่งเด็กก็วุ่น แต่ฝั่งคู่สามีภรรยาหมาดๆมีเรื่องวุ่นกว่าอีก

คาร์บิลัสนี่อริเยอะจริงๆนะ  :mew2:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศ ทำให้มังกรไฟได้แต่ถลึงตาใส่
   
ร่างของเหยี่ยวสั่นหงึกๆ “ ข้าแค่ถามเจ้าว่าเจ้ามาได้ไง เฉยๆ เอง ”
   
พรายน้ำที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นกลอกตาเซ็งๆ “ ก็เจ้าเล่นบินชนขนาดนั้น ไม่โกรธก็บ้าแล้ว ”
   
“ หวา ! ข้าขอโทษนะ คาอิส ครั้งหน้าข้าจะระวังมากกว่านี้ ว่าแต่เจ้าเห็นเอิร์ลไหม ” เหยี่ยวที่ชั่วโมงบินน้อยลนลานขอโทษ “ เอิร์ลบอกให้ข้าบินนำมาก่อนแล้วจะวิ่งตามมา ตอนนี้ข้ายังไม่เห็นเอิร์ลเลย ”
   
“ จะเห็นได้ไงก็หลงทางกันอยู่ ปีศาจมืดมนนั่นต่อให้อยู่ข้าก็มองมันไม่เห็นหรอกโว้ย ปกตินั่งๆ อยู่หลังห้องก็ชอบจืดจางหายไปเหลือแต่เสียงหลอนๆ ของมัน ! ” คาอิสพ่นกลับไฟแลบ
   
บุคคลที่ถูกนินทาคลี่ยิ้มเย็นส่งผลให้หน้าที่มีรอบคล้ำใต้ตาดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม สาเหตุที่มีรอยคล้ำไม่ใช่อะไรเพราะเอิร์ลเป็นหนึ่งในชมรมผีผีผีที่ก่อตั้งโดยปีศาจที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณ ชมรมนี้มักจะนัดสมาชิกในชมรมไปล่าท้าผีไม่ก็คุยเรื่องผีกันจนดึกดื่น  “ ข้าไม่ได้จืดจางซะหน่อย คาอิส ” เอิร์ลแตะไหล่คาอิส
   
มังกรไฟตกใจจนแทบหลุดกรี๊ดหมดมาดไฟที่หางลุกพรึ่บจนไหม้ใบไหม้ที่อยู่ใกล้ๆ “ เวรเอ้ย ! ”
   
คนถูกด่าเอียงคอช้าๆ “ เวรทำความสะอาดของข้าตรงกับวันพรุ่งนี้พอดี ”
   
คาอิสชะงักไปต่อไม่ถูก รู้สึกอยากงับหัวปีศาจคร่าวิญญาณนี่ให้รู้แล้วรู้รอด
   
“ เจ้ามาตอนไหนน่ะ เอิร์ล ” ฟอร์ดถาม
   
เอิร์ลยิ้มเนือยๆ “ ตั้งแต่แรกที่เจ้าชนคาอิสเลยน่ะ ”
   
คำตอบของเอิร์ลสะท้อนในใจคนอื่นๆ ว่าเอิร์ลนั่นจืดจางแค่ไหนถึงเจ้าตัวจะไม่ยอมรับก็เถอะ แต่มันเป็นเรื่องจริง
   
เหยี่ยวหัวเราะแห้งๆ ตอบ “ ข้าว่าพวกเราไปกันต่อดีกว่า ทางที่ข้าบินมาเมื่อกี้ถูกแล้ว ถ้าไปทางนู้นต่อเรื่อยๆ พวกเราต้องออกจากผีหลอกนี่ได้แน่ ! ”  ฟอร์ดพูดอย่างมุ่งมั่น
   
แต่ก็มีคนขัดอยู่ดี “ ท้องฟ้าตั้งกว้างเจ้ายังบินชนคาอิส นับประสาอะไรจากออกจากป่า ” ออสการ์เหน็บ
   
ฟอร์ดจ๋อยลงทันควัน “ แต่ข้ามีปีกนะ.. ”
   
“ ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อฟอร์ด งั้นเอาวิธีข้าไหมล่ะ ” คนชมรมผีผีผีหัวเราะเสียงต่ำ ตาเป็นประกายดีใจเมื่อจะได้เผยแพร่ในสิ่งที่ตัวเองชอบให้คนอื่นได้รับรู้
   
“ วิธีอะไรของเจ้า ถ้าเรียกวิญญาณออกมาถามข้าไม่เอาด้วยนะ ! ” คาอิสถอยกรูดไปยืนข้างออสการ์
   
เอิร์ลยิ้มมุมปาก “ ถามเจ้าของบ้านดีที่สุด เขาต้องพาพวกเราออกจากป่าได้แน่ อีกอย่างนะ รสชาติของวิญญาณก็ไม่เลวร้ายหรอกนะ ถ้าเจ้าอยากจะลองชิมดู ”
   
ออสการ์ ฟอร์ด คาอิส กอดกันกลมส่ายหน้าพัลวันมองเอิร์ลราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอม “ พวกข้ากลัวกันแทบตาย เจ้าจะเรียกมันออกมาหลอกพวกข้าเนี่ยนะ !! ”
   
“ แน่สิ อย่าลืมว่าข้าเป็นคนของชมรมผีผีผี จะกลัวอะไรกับแค่ผีล่ะ ”
   
“ ไอ้ชมรมที่มีแต่พวกกินวิญญาณเข้าไม่มีสิทธิ์ว่าพวกข้านะ ! ” คาอิสโวย
   
เอิร์ลส่ายหน้าเอือมๆ ดึงผมสีเทาของตัวเองออกมากำและร่ายคาถาที่ท่องทุกวันในชมรม “ ข้าเอิร์ล ขอเรียกพวกท่าน ผู้ที่ทิ้งร่างกายไว้เบื้องล่างเหลือเพียงจิตวิญญาณอันว่างเปล่า เส้นผมของข้าที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตจะเป็นพลังแก่ท่าน เมื่อท่านปรากฎกาย ! ”
   
ฮื่ออออ    
   
เสียงคำรามในลำคอดังลั่นแต่ไม่ปรากฏร่าง
   
สามคนที่กอดกันอยู่กอดกันแน่นยิ่งกว่าเดิมตัวสั่นเทา ถึงพวกเขาจะเก่งกล้ามาจากไหนแต่ก็เป็นแค่เด็กเท่านั้น การมาโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ ไม่ใช่เรื่องที่เด็กจะรับได้หรอกนะ !
   
“ เจ้า เจ้าว่ามันเป็นเสียงวิญญาณอะไร ” ออสการ์ถามเสียงสั่น
   
“ มังกร ต้องเป็นบรรพบุรุษมังกรแน่ๆ ไอ้จืดจางบ้านี่ต้องเรียกทวดข้ามาแน่ๆ ” คาอิสตัวสั่นมือเย็นเฉียบ
   
“ จะเสียงอะไรข้าก็กลัวทั้งนั้น !! ” ฟอร์ดหลับตาแน่น ไม่กล้าดูภาพตรงหน้าว่าเพื่อนตัวเองกำลังอัญเชิญตัวอะไรมาถามทาง
   
แม้แต่คนที่อัญเชิญมายังกลัวจนตัวสั่นเหมือนกัน ! เพราะปกติไม่ว่าจะอัญเชิญยังไงก็ไม่มีอะไรมาสักที แม้แต่สัญญาณให้ดีใจเล็กๆ อย่างเสียงกุกกักปริศนายังไม่มีด้วยซ้ำ แล้วครั้งนี้อะไรลองอัญเชิญดูมั่วๆ กลับได้ผลจริง ความใจกล้าเมื่อกี้หายไปจนหมด
   
ไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะรับมือได้ไหมหากสิ่งที่อัญเชิญมานั้นคลุ้มคลั่ง แต่ลึกๆ ก็แอบดีใจที่จะมีเรื่องไปคุยในชมรมผีผีผีเรื่องใหม่แล้ว
   
บรรยากาศรอบตัวค่อยๆ เย็นเยียบขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับหมอกควันปริศนาที่ลอยกันหนาแน่น  อากาศรอบตัวดูจะน้อยลงจนหายใจลำบาก ราวกับเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่กำลังจะปรากฏตัว
   
ฮื่อออ
   
ทุกคนในบริเวณสะดุ้งเฮือก เสียงขู่ดังแผ่วเบาราวกับมันกำลังยืนอยู่ข้างๆ ลมหายใจเย็นเยียบถูกพ่นใส่ หมอกค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีแดง
   
มันไม่ใช่เรื่องสนุกแล้ว... เอิร์ลตัวสั่นเทารู้สึกถึงคมเขี้ยวที่สะกิดต้นคอ
   
บางอย่างกำลังยืนอยู่ข้างหลังข้า..
   
เอิร์ลกลัวจนก้าวขาไม่ออก รู้สึกถึงจิตสังหารรุนแรง  มันไม่ใช่วิญญาณ  กู่ร้องภายในหัว
   
คมเขี้ยวค่อยๆ กดลงบนคอของเอิร์ลจนเลือดซึม
   
เลือดคล้ายเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีมันอ้าปากกว้าง ตาสีแดงลุกวาว
   
เอิร์ลพยายามจะหนีแต่กลับทำไม่ได้ ความรู้สึกหวาดกลัวสุดชีวิตกำลังครอบงำ เชื้อสายที่เอิร์ลแสนจะภาคภูมิใจอย่างปีศาจกินวิญญาณดูจะไม่เป็นผล
   
เมื่อศัตรูไม่ใช่วิญญาณ !
   
“ เจ้าจะทำอะไร ! ”
   
ผลั่ก
   
ฮื่อ !!!!
   
กริสเซลที่วิ่งตามดัฟฟ์ไม่ทันจึงเดินกลับมาทางเก่า กลับมาทันเห็นบางอย่างที่ตัวใหญ่มากๆ อ้าปากกว้างกำลังงับเพื่อนร่วมชั้น โดยไม่รู้ตัวกระโจนเข้าใส่ผลักมันออกด้วยแรงทั้งหมด โชคดีที่มันตกใจจึงวิ่งหนีไปทางอื่น สิ่งที่มันสร้างขึ้นจึงค่อยๆ หายไปกลับมาเป็นปกติ
   
“ เจ้าเป็นอะไรรึเปล่าเอิร์ล ? ” กริสเซลถามด้วยความเป็นห่วง
   
“ ข้า.. ” เอิร์ลตอบแต่ไม่ทันจนประโยค ก็รู้สึกตาพร่าตัวร้อนผ่าวจนล้มลงไปกองกับพื้น
   
เช่นเดียวกับกริสเซลที่มือกลายเป็นสีดำสนิทลามไปทุกบริเวณที่สัมผัสกับมัน “ อ้ากกกก ” กริสเซลกรีดร้องกุมมือตัวเองแน่น คล้ายกับมีบางอย่างกำลังกัดแทะที่มืออย่างตะกละตะกรามผสมกับอาการร้อนคล้ายไฟลน
   
ฟอร์ดเป็นคนแรกที่ได้สติ ทิ้งความขี้ขลาดของตัวเองไปชั่วคราว ตาเป็นประกายกร้าว โผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างว่องไวไม่มีท่าทีติดขัดเช่นตอนแรก “ ข้าจะไปตามคนมาช่วยนะ ! ”
   
คาอิสสะบัดหัวเรียกสติตัวเองคืนมาถลาตัวเข้ามาหาเอิร์ลกับกริสเซล พยายามร่ายเวทรักษาที่ตัวเองไม่ค่อยคล่องสุดชีวิตแต่มันกลับทำให้เอิร์ลดิ้นพล่านกว่าเดิม มังกรไฟเบิกตากว้างไม่กล้าร่ายเวทต่อ
   
“ ของจริงมันต้องแบบนี้ ” ออสการ์พูดเรียกกำลังใจตัวเอง ลองร่ายเวทรักษาดูบ้างทำให้อาการเอิร์ลทุเลาลงแต่กับกริสเซล..
   
“ อ้ากกกก ” กริสเซลกรีดร้องน้ำตาไหล รู้สึกเหมือนกำลังจะเสียมือของตัวเองไป คล้ายกับกำลังถูกลงโทษเพราะไปแตะต้องในสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง
   
คาอิสกับออสการ์เริ่มกลัวจนน้ำตาคลอทำอะไรไม่ถูก วุฒิภาวะที่ยังเด็กทำให้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้คือผู้ใหญ่สักคนที่เก่งกล้าสามารถพอที่จะชี้แนะได้
   
ในขณะที่ทุกคนเริ่มทำอะไรไม่ถูกก็มีวงเวทปรากฏขึ้นกลางพื้นที่พร้อมกับร่างคุ้นตาของทุกคน
   
เจ้าของเขาแพะและนัยน์ตาสีเทา
   
ราชาปีศาจ
   
คาร์บิลัส

-----------------

เฮียมาเองทุกคนไม่ต้องกังวล 55555  :z2:   
   
   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พ่อแพะจะมาช่วยเด็กๆ หรือจะมาทำให้เด็กกลัวกันเนี่ย 55555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
แพะ แมะๆ

คาร์บิลัสจะไปตามวิญญาณที่ไหนละงานนี้

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งะ มาไงเนี่ยย

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 46
   
“ บัดซบ !! “ คาร์บิลัสคำรามออกมาเสียงดังลั่นเมื่อเห็นสภาพของสุสานกูเซียน สุสานที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นสุสานที่ประณีตและงดงามที่สุดในดินแดนปีศาจ บัดนี้เหลือเพียงซากปรักหักพัง เสาที่เคยค้ำยันแตกเป็นเสี่ยง ดอกไม้ที่เคยปลูกมอดไหม้ รูปปั้นจำลองเหลือเพียงศีรษะ
   
น้ำตาของราชาปีศาจไหลออกมาหยดหนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว คาร์บิลัสรีบเข้าในบริเวณที่มีกระดูกของพ่อแม่ตัวเองฝังอยู่ มือหยาบพยายามหาสิ่งที่เป็นความทรงจำแน่นแฟ้น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่อย่างเดียว
   
“ ใคร ? “ คาร์บิลัสพูดเสียงเย็นถามชาคอสที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
   
“ ไม่ทราบขอรับ ท่านคาร์บิลัส “ มือขวาของราชาปีศาจก้มหน้างุด
   
เดิมทีสุสานกูเซียนไม่ใช่สถานที่ที่เข้ามาได้ง่ายๆ มีวงเวทมากมายที่พร้อมจะทำลายผู้ล่วงล้ำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต การจะเข้ามาได้จึงต้องเข้ามาในทางพิเศษที่มีเพียงคาร์บิลัสที่รู้
   
แต่ในตอนนี้มันกลับถูกทำลายจนสิ้นซากแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถเข้ามาในสถานที่นี้ได้ วงเวทที่เคยถูกร่ายไว้ถูกฉีกทึ้งจนไม่สามารถทำอันตรายต่อใครได้อีก
   
รอยยิ้มขื่นปรากฏบนใบหน้าของคาร์บิลัส แค่กระดูกของพวกท่าน ข้ายังรักษาไว้ไม่ได้เลย… ข้าขอโทษ ท่านพ่อ ท่านแม่ น่าเสียดายที่ข้าคงไม่มีโอกาสแนะนำคนรักของข้าพวกท่านได้รู้จัก “ เก็บกวาดให้ดี “ ราชาปีศาจพูดด้วยเสียงไร้อารมณ์
   
ชาคอสรับคำหนักแน่น  “ ขอรับ “ ก่อนจะขอตัวไปทำตามคำสั่งที่ได้รับ
   
ทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
   
เมื่อเหลือเพียงความว่างเป่า คาร์บิลัสก็ทรุดตัวตรงหน้าหลุมศพ ใช้มือลูบหินสลักชื่อที่เหลือเพียงถ้อยคำสั้นๆ
   
ใคร ? ใครมันกล้าทำลายของๆ ข้ากัน
   
ตาสีเทาหมุนริ้วด้วยความโกรธ
   
มันไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้
   
แต่อารมณ์กราดเกรี้ยวคาปล่ร์บิลัสก็ถูกชะงักด้วยพลังบางอย่างที่อยู่ไกลๆ ลางสังหรณ์กู่ร้องในหัวถึงความเกี่ยวข้องกัน ร่างราชาปีศาจจึงพาตัวเองไปยังสถานที่แห่งนั้นทันที

   
“ ท่านคาร์บิลัส ! ” ออสการ์พูดด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเจอราชาปีศาจในเวลาคับขันแบบนี้ ไม่สิ ไม่ว่าเวลาไหนก็ไม่น่าโผล่มาได้ทั้งนั้น !
   
คาอิสดึงแขนให้ออสการ์ถอยออกมาจากกริสเซลด้วยสีหน้ากังวล ปล่อยให้ร่างที่ไดชื่อว่าทรงอำนาจที่สุดในดินแดนปีศาจช่วยเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง
   
เวทเยียวยาสีดำถูกร่ายมันพุ่งเข้าไปปะทะกับแผลสีดำของกริสเซล กริสเซลหวีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อเวทของคาร์บิลัสพยายามแทรกตัวเข้าไปแทนที่คำสาปที่กำลังกัดกินแผลอยู่ มันยืดเยื้ออยู่สักพักคำสาปสีดำจึงค่อยๆ สลายไป เสียงกรีดร้องของกริสเซลจึงค่อยๆ เบาลงตามความเจ็บปวดที่ได้รับ
   
ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเพียงไม่มาก มือของกริสเซลเกือบจะเป็นปกติหากไม่มีรอยช้ำสีดำกลางฝ่ามือ คาร์บิลัสสบถหยาบคายเมื่อรู้ว่าตัวเองคงรักษามันไม่ได้ “ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปปราสาท ถ้าอยากหายจงเรียกหาพอยซ์ ” ไม่ว่าเปล่าร่ายเวทเคลื่อนย้ายใต้เท้าเด็กๆ ที่อยู่ในสายตา
   
“ ขอบคุณขอรับ ! ” กริสเซลกุมมือตัวเองยิ้มกว้างมองคาร์บิลัสด้วยตาเป็นประกาย ถ้าถามว่าใครเป็นฮีโร่ในดวงใจของกริสเซลมาตลอด คำตอบนั้นคงจะเป็นคาร์บิลัส
   
ราชาปีศาจส่งเสียงอือออาในลำคอ “ อืม ” ไม่ได้ใส่ใจ เพียงชั่วพริบตาร่างบาดเจ็บกับร่างเด็ก ก็ถูกย้ายไปยังปราสาททันที
   
มันต้องอยู่แถวนี้
   
ลางสังหรณ์คาร์บิลัสกู่ร้องในหัว ราชาปีศาจจึงเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบทันที
   
บรรยากาศรอบตัวคาร์บิลัสเย็นเยียบ ชวนให้ขนลุก ยามที่ย่างก้าวผ่าน สัตว์น้อยใหญ่จะวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นทันทีด้วยความหวาดกลัว
   
ข้าสัมผัสถึงมันไม่ได้ !
   
คาร์บิลัสชบกรามกรอด เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่ไม่ใช่ศัตรูที่รับมือได้ง่าย การลงมือที่เด็ดขาดและไร้ซึ่งร่องรอยที่จะสาวถึงเจ้าตัว มีเพียงความเสียหายให้ดูต่างหน้าเท่านั้น
   
ปีกยาวสีดำค่อยๆ งอกยาวบนหลัง เขาแพะบิดเป็นเกลียวมากกว่าเดิม อารมณ์โกรธจัดผสานกับความเลือดร้อนก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
   
เปรี้ยง
   
สายฟ้าฟาดเฉียดใบหน้าของคาร์บิลัสเพียงนิดเดียว สะท้อนให้เห็นสีหน้าดุร้ายพร้อมกับรอยยิ้มบิดเบี้ยว

   

“ แก๊ซ !! ข้าว่าข้าได้กลิ่นงู ! ” ดัฟฟ์ย่นจมูกใช้กระดูกที่ถูกแทะจนสะอาดชี้ไปตรงพุ่มไม้
   
โรซานเลิกคิ้ว “ พูดเป็นเล่น ถ้ามีงูจริง พวกข้าก็ต้องรู้สึกเหมือนกันสิ เจ้าหนู ”
   
แต่ก็มีบางคนเชื่อเข้าเต็มเปา “ ว้ากกก ! งู งู งู มันต้องกินข้าแน่ ! ” เอสเตอร์โวยวาย พยายามมุดตัวเข้าหาโรซาน ถ้าหากรวมร่างได้เอสเตอร์คงจะไม่รอช้าที่จะทำมันทันที
   
“ เจ้าเป็นถึงองค์ชายนะเอสเตอร์… ” โรซานพูดเสียงเหนื่อยหน่ายแต่สิ่งที่กระทำกลับตรงกันข้าม มือหนาบรรจงอุ้มร่างจิ้งจอกค่อยๆ ลูบหัวปลอบโยน
   
นาซัสกระตุกชายเสื้อดัฟฟ์เรียกความสนใจ “ ข้าก็ได้กลิ่นเหมือนกัน ”
   
แต่มังกรดำก็ไม่ได้ตอบรับอะไร ยังคงขมวดคิ้วจดจ้องไปยังพุ่มไม้
   
“ ดัฟฟ์ “ นาซัสเรียกเสียงเบาคืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิมเมื่อรู้สึกถึงบางอย่าง
   
ฟ่อ..
   
เลือดในกายพลันเย็นเฉียบ เมื่อหัวงูขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ มันอ้าปากกว้างอวดเขี้ยวคมที่พรากเอาชีวิตได้อย่างง่ายดาย ปากของมันชุ่มด้วยเลือดเจิ่งนองและเศษดิน นัยน์ตาสัตว์ของมันสะท้อนภาพของดัฟฟ์
   
“ อย่าเข้ามานะ แก๊ซ ! ” ดัฟฟ์จ้องมันกลับ ดึงตัวนาซัสให้หลบหลังตัวเอง ไม่มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด
   
ลิ้นปลายแฉกโบกสะบัดในอากาศ มันเหลือบมองดัฟฟ์ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังมนุษย์ร่างยักษ์แทน
   
“ เวรเอ้ย !! ” โรซานตะโกนด่าทั้งงูและความเขลาของตัวเอง
   
หมอกสีขาวเคล้าแดงลอยคลุ้งทันทีที่มันขยับตัว ทำให้โรซานไม่สามารถคาดเดาทิศทางของมันได้ ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นมันวิญญาณที่กำลังไล่ล่าสิ่งมีชีวิต ไม่มีตัวตน สัมผัสถึงมันไม่ได้
   
แต่ถึงอย่างนั้นโรซานก็ยังคงควบคุมสติได้อย่างเหนียวแน่น รอยสักสีดำอักขระประหลาดปรากฏเต็มแขน สูดหายใจลึก ดวงตาเป็นประกายกร้าว สดับฟังเสียงของมันอย่างตั้งใจ
   
 โฮกกก !
   
เสียงคำรามดังลั่นก่อนที่มันจะกระโจนเข้าหาโรซานด้วยร่างสี่เท้า ขนาดของมันใหญ่กว่าโรซานเป็นเท่าตัว แต่มันกลับหลบหมัดของโรซานได้อย่างง่ายดาย และกัดเข้าที่แขนทันที !
   
ตึง
   
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นมันกลับถูกซัดด้วยพลังเวทย์รุนแรง มันกระเด็นไปชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่จนหัก แต่ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็ค่อยๆ จางหายเข้าไปในหมอกที่หนาทึบกว่าเดิม
   
“ จะไปไหนก็ไป !! ” คาร์บิลัสตวาดกร้าวนัยน์ตาแดงก่ำใส่โรซาน หน้าตาคมคายเต็มไปด้วยความโกรธ พุ่งตัวเข้าไปในหมอกอย่างไม่เกรงกลัว
   
ฟ่อ !
   
“ หึหึหึ ”  คาร์บิลัสหัวเราะเสียงต่ำ ฟันดาบในมือเข้าไปหาต้นเสียงที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพียงกลอุบายของสัตว์เลื้อยคลานที่ฉลาดกว่าปกตินี่
   
คมเขี้ยวพยายามงับเข้ากับตัวของคาร์บิลัสในทุกทีที่มีโอกาส ซึ่งตามสัญชาตญาณของมันนั้น ได้บอกให้มันหนีไปตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่ามันทำไม่ได้ มันพยายามจะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าแต่ก็ถูกคาร์บิลัสขัดทุกครา
   
ในตอนนี้มันทำได้อย่างเดียวคือการเสี่ยง
   
ถ้าหากมันสามารถฆ่าศัตรูตรงหน้านี้ได้มันจะรอด
   
มันค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง เมื่อเนื้อตัวของมันค่อยถูกเฉือนทีละนิดโดยมันยังทำอะไรคาร์บิลัสไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ มันคำรามออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อร่างของมันอีกครึ่งร่างถูกฟันออก
   
แต่มันก็สามารถทำร้ายได้สำเร็จเช่นกัน !
   
มันพ่นพิษใส่อาบทั่วตัวคาร์บิลัสพร้อมสร้างหมอกจัดด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายของมัน และรีบพาร่างของตัวเองหนีไป
ในช่วงก่อนที่สติจะถูกพรากไปคาร์บิลัสกลับนึกถึงฟาร์คัส
   
รอยยิ้มแตะแต้มใบหน้าหล่อเหลา
   
และหมดสติไปทันที เนื้อตัวเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำจากพิษร้ายของสัตว์ในตำนาน
   


“ แพะเวร.. ” ฟาร์คัสพูดเสียงเบาน้ำตาซึม ขณะที่นั่งมองคาร์บิลัสที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผิวของคาร์บิลัสเป็นรอยช้ำเลือดจากพิษซึ่งก็ดีขึ้นกว่าในตอนแรกที่เป็นสีดำสนิท พอยซ์ถึงกับหน้าซีดกับพิษที่คาร์บิลัสประสบ มันเป็นพิษของงูเวลส์ งูที่เคยมีอยู่ชุกชุมตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามดินแดนปีศาจซะอีก ด้วยพิษร้ายของมันทำให้มันถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์

“ ข้าไม่ได้อยากตื่นขึ้นมาอีกครั้งเห็นเจ้าเป็นแบบนี้หรอกนะ ”
ฟาร์คัสตัวสั่นรู้สึกหน่วงในอก อยากจับมือของคาร์บิลัสแต่ก็ทำไม่ได้ พิษงูเวลส์แค่สัมผัสก็เป็นอันตรายแล้ว หากไม่ใช่คาร์บิลัส คงจะไม่อยู่รอดจนถึงตอนนี้

แม้ว่าการหายใจนั้นจะเบามากก็ตาม

“ เป็นขนาดนี้แล้วทำไมยังยิ้มอยู่อีก ? ” ปีศาจอีกาบ่นเบาๆ ผลุดลุกขึ้นยืน เบ้หน้าเมื่อความรู้สึกเจ็บตรงนั้นตีตื้นขึ้นมาแต่คงเทียบกับความรู้สึกในอกตอนนี้ไม่ได้ “ เดี๋ยวข้ากลับมา ”

สิ่งที่ฟาร์คัสต้องทำในตอนนี้คือการไปล่าเอางูเวสส์มาสกัดเป็นยาแก้พิษให้กับคาร์บิลัส ถึงแม้พอยซ์จะยืนยันหนักแน่นว่ายังไงคาร์บิลัสก็ไม่มีทางตายกับแค่พิษแค่นี้ แต่ฟาร์คัสก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี
ถ้าหากอาการทรุดหนักลงล่ะ ?

“ ข้าจะดูแลต่อให้เอง ท่านฟาร์คัส ” ชาคอสเสนอตัวเมื่อเห็นท่าทีลังเลของฟาร์คัสที่ไม่ยอมก้าวออกจากประตู

ฟาร์คัสสะดุ้งเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว “ อะ อืม ” พยักหน้าลวกๆ ก่อนจะรีบสาวเท้าไป

ข้าจะไปหางูนั่นจากไหนกัน...

ปีศาจอีกาคิดอย่างเคร่งเครียดในช่วงขณะหนึ่งก็คิดถึงนักสืบที่ตัวเองเคยเจอ

จะเป็นยังไงบ้างนะ

ฟาร์คัสนวดขมับตัวเองเมื่อเอาแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง สติสตังความสุขุมทั้งหมดดูเหมือนว่ามันยังคงกองอยู่บนเตียง พอรู้สึกดีขึ้นก็ทบทวนคำพูดของพอยซ์ในหัว
   
ตามตำราเรียนที่ข้าเคยอ่าน งูเวลส์จะวางไข่ลึกลงไปใต้ดิน ข้าคิดว่างูที่กัดท่านคาร์บิลัสน่าจะเป็นงูที่เพิ่งฟักออกจากไข่ได้ไม่นานจึงดุร้ายกว่าปกติ  ถ้าหากท่านฟาร์คัสหารังของมันเจอก็น่าจะเจอไข่ไม่ก็งูเวลส์ตัวอื่นๆ
   
แล้วข้าจะไปหามันจากไหน
   
สุสานกูเซียนก็น่าสงสัยทำไมอยู่ๆ มันถึงถูกทำลาย พวกขุนนางก็ไม่น่าจะมีกำลังพอที่จะทำลายมัน ที่ข้าสงสัยคือมันอาจจะเป็นงูเวลส์ที่ทำลายสุสานกูเซียน
   
มีใครจงใจปล่อยงูเวลส์รึเปล่า ?
   
หรือเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่มันฟักไข่พอดี
   
ชาคอสบอกกับว่ามันเปล่าประโยชน์ที่จะไปสำรวจสุสานกูเซียนเพราะไม่มีร่อยรอยเบาะแสอะไรสักอย่างเลย
   
แต่ไปสำรวจอีกครั้งก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
   
ฟาร์คัสจึงเปลี่ยนทิศทางการเดินกลับไปหาชาคอสอีกครั้งเพื่อให้ส่งตัวเองไปยังสุสานแทน

   

ถึงแม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมา เด็กห้องพิเศษก็ยังต้องเรียนอยู่ดี ผู้อำนวยการไม่ได้ตำหนิหรือชมเด็กๆ เพราะข่าวงูเวลส์ที่กำลงอาละวาดในป่า แต่ก็มีเพียงคนในเท่านั้นที่รู้ หากขุนนางรู้ว่าคาร์บิลัสเป็นอะไรคงไม่วายใช้โอกาสนี้ในการก่อกบฏ แต่พวกเขาจะกล้าพอที่จะทำรึเปล่าก็อีกเรื่อง
   
ทำให้ในห้องเรียนตอนนี้นักเรียนมากันครบและกำลังเรียนวิชาภูมิศาสตร์แดนปีศาจที่เป็นวิชาบรรยายเต็มรูปแบบ มีครูสอนสูงวัยและน้ำเสียงนุ่มนวล
   
เอิร์ลที่จืดจางที่สุดในห้องหลับทันทีที่ครูเริ่มบรรยาย ผิดกับฟอร์ดและโมลอคที่หาสมุดขึ้นมาจดตามที่ครูพูด ส่วนคาอิสกับออสการ์ก็เอาแต่คุยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน คนอื่นๆ ที่เหลือในห้องก็ตามอารมณ์ กินบ้างนอนบ้างเล่นบ้าง
   
เอาเข้าจริงห้องพิเศษก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ปีศาจทั่วไปคิด แค่ในบางครั้งพวกเขาสามารถระเบิดห้องให้เป็นจุลในเวลาไม่พอใจเท่านั้นเอง
   
“ แง้ ฆ่าบี้ลัส  ” ดัฟฟ์งอแงร้องไห้กับนาซัส ซึ่งตอนนี้ก็ถูกย้ายมานั่งหลังสุดเนื่องจากไปแย่งที่โนแลนกับคาอิส
   
โนแลนเป็นปีศาจที่มาจากตระกูลทหาร เป็นปีศาจรูปร่างกำยำผมสีน้ำเงินเข้มถูกหวีเป็นทรงเรียบร้อยอีกทั้งยังมีแววตาเฉียบขาด ชุดนักเรียนเนียนกริบราวกับถูกตัดใหม่มาจากร้าน โนแลนนั่งหลังเหยียดตรงจดจ้องไปยังกระดานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
   
ส่วนลาสเป็นปีศาจเจ้าสำอางที่ชื่นชอบการแต่งตัวถึงขั้นบ้าคลั่ง ชุดแต่ชุดที่เจ้าตัวใส่ล้วนถูกถักทอเจ้าผ้าเนื้อดีลวดลายประณีต ในแต่ละวันของลาสชุดแทบจะไม่ซ้ำกันสักวัน ผมสีทองที่ไว้ยาวถึงกลางหลังมักจะถูกมัดรวบแล้วลวกๆ ด้วยโบว์สีขาว ลาสมีนิสัยเอื่อยๆ และเฉื่อยชา
   
แต่เรื่องแปลกคือลาสกับโนแลนเป็นเพื่อนสนิทกัน
   
“ .... ” นาซัสไม่ได้ร้องไห้เหมือนดัฟฟ์แค่ซึมๆ เท่านั้น
   
คาร์บิลัสสำหรับดัฟฟ์กับนาซัสก็เปรียบเสมือนพ่อคนนึงเลยทีเดียว
   
“ เจ้าว่าฆ่าบี้ลัส จะหายไหม ” มังกรดำยังคงร้องไห้เป็นเผาเต่าจนตาบวม
   
“ ... ” นาซัสไม่ได้ตอบ
   
ดัฟฟ์ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม น้ำตาไหลพราก แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงสะอึกสะอื้นรบกวนคนอื่นในห้อง
   
“ ดัฟฟ์ ”
   
เฮย์หันมาหาดัฟฟฺพร้อมขนมในมือ
   
“ อะไรเหรอ ฮึก แก๊ซ ” ดัฟฟ์ปาดน้ำตาลวกๆ
   
“ ข้าให้เจ้าไปกินแล้วกัน ขนมนี่พ่อข้าได้มาจากเมืองมนุษย์เชียวนะ ! ” ยืดอกอวดแนะนำสรรพคุณขนมแท่งสีน้ำตาลเข้มยัดมันใส่มือดัฟฟ์
   
“ ขอบใจนะ แก๊ซ ” ดัฟฟ์ขอบคุณงงๆ แต่ก็หักครึ่งแบ่งให้นาซัส โยนเข้าปากตัวเองทันทีตามสัญชาตญาณ
   
แต่นาซัสค่อยกัดกินทีละนิดล
   
ดัฟฟ์กลืนมันลงคอนิ่งค้างไปสักพัก
   
“ อร่อยไหม ? ” เฮย์ถามลุ้นๆ
   
ดัฟฟ์พยักหน้าแรงๆ ตาเป็นประกาย ในหัวเต็มไปด้วยสิ่งที่กินเมื่อกี้ ในปากยังอวลด้วยกินหอมหวานของขนม “ อร่อย อร่อยมากเลย แก๊ซ !! ”
   
เฮย์ถึงได้ยิ้มกว้างบ้าง “ เห็นไหมล่ะ ! ของๆ ข้ายังไงก็ต้องอร่อยกว่าของที่พวกเจ้ากินอยู่แล้วล่ะ ”
   
“ อืม อร่อยมาก ข้าอยากกินอีก แต่ฆ่าบี้ แง้ ” ดัฟฟ์ค่อยๆ ซึมลงตามลำดับ
   
เฮย์หน้าบูดเมื่อแผนการอวดบวกการปลอบล้มเหลว “ นาซัส เจ้าว่ามันอร่อยไหม ”
   
“ อืม.. อร่อย ” นาซัสตอบเบาๆ
   
“ พวกเจ้าจะคุยอะไรกันน่ะ ตรงนั้น !! ” ครูผู้สูงทั้งกายและวัยตะโกนดุๆ ทำเอาคนที่โดนดุอย่างดัฟฟ์ เฮย์ และนาซัสสะดุ้งเฮือก แกล้งก้มหน้าก้มตาดูภาพดินแดนปีศาจที่อยู่ในหนังสือ
   
“ ในเมื่อเจ้าคุยกันก็ตอบคำถามข้าให้ได้แล้วกัน ลุกขึ้น ดัฟฟ์  ”
   
ดัฟฟ์หน้าซีดเผือดหันซ้ายหันขวาพยายามหาตัวช่วย
   
โมลอคส่ายหน้า ฟอร์ดขยิบตา เอิร์ลพยายามเรียกดัฟฟ์แต่ดัฟฟ์มองไม่เห็น
   
“ ดินแดนปีศาจมีพื้นที่ติดกับดินแดนอะไรบ้าง ”    
   
“ แก๊ซ ตะ ติดกับ ”
   
ในหัวของดัฟฟ์แทบจะเกิดสงครามตีกันวุ่น  ติดกับน่องไก่ได้ไหม ข้าไม่รู้ ! พลันสายตาก็ไปสบกับกริสเซลพอดี กริสเซลพยายามขยับปากเป็นคำช้าๆ
   
“ ติดกับอะไร ดัฟฟ์ ” ครูถามจึ้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
   
ดัฟฟ์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
   
มงกุฎ ?
   
อ่านปากกริสเซลไม่ออก
   
“ ตอบข้ามาดัฟฟ์ ”   
   
แต่พออ่านไปสักพักดัฟฟ์ก็พยักหน้าให้กริสเซลเพื่อยืนยันว่าตัวเองเข้าใจแล้ว
   
 “ มังคุด !! ”
   
ตอบเสียงดังลั่นห้อง
   
กริสเซลแข็งค้างท่าเดิม คาอิสกับออสการ์หลุดหัวเราะ
   
ครูขยับยิ้มเย็นเยียบ “ เย็นนี้เจ้ามาหาข้านะดัฟฟ์ ดูท่าแบบฝึกหัดอ่านเขียนของเจ้าคงจะต้องเรียนให้มากกว่านี้แล้สิ ”
   
ดัฟฟ์อ้าปากเหวอ
   
มือเล็กๆ ในตอนนี้เป็นรอยดำจากการฝึกเขียนตัวอักษรตอนหลังเลิกเรียน นาซัสก็เป็นเช่นกัน
   
“ นั่งลงได้ ไม่ต้องตกใจ เพื่อนๆ เจ้าโดนกันจนชินแล้ว ”
   
มังกรดำถึงได้ทิ้งตัวบนเก้าอี้ด้วยหน้าซึมๆ
   
“ แง้ ข้าก็ไม่ได้ไปหาฆ่าบี้สิ ”

   

“ ปกติวงเวทของท่านคาร์บิลัสจะแข็งแกร่งมากขอรับ ” กระต่ายตัวอ้วนที่ชื่อคอร์สอาสาพาฟาร์คัสเดินชมรอบสุสานกูเซียน ที่ตอนนี้เริ่มมีปีศาจมาเก็บกวาดเพื่อเตรียมการบูรณะมันใหม่
   
“ เป็นไปได้ไหมที่จะมีรังงูเวลส์อยู่ใต้สุสานนี่ ”
   
หูที่เคยตั้งลู่ลงทันควัน “ ข้าไม่ทราบขอรับ งูเวลส์ที่ท่านเอ่ยถึงข้าก็รู้เพียงว่ามันเป็นงูในตำนานเท่านั้น ”
   
“ อืม ไม่เป็นไรหรอก ” ฟาร์คัสพูดพลางพยายามกวาดสายตามองหาเบาะแส
   
ข้อสันนิษฐาณเบื้องต้นของข้าคือมันเป็นรังของเจ้างูบ้านั่นแถวนี้ เพราะวงเวทหากทำลายจากด้านในนั้นถือว่าเป็นเรื่องง่ายกว่าการด้านนอกมาก
   
หรือว่ามันเป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจของใครสักคน
   
ฟาร์คัสคิดเรื่อยเปื่อยพลางเดินตามคอร์สที่มุ่งมั่นกับการบรรยายทุกสิ่งที่เดินผ่านมาก แต่ปีศาจอีกาก็ไม่ได้ใส่ใจจะฟังนัก เพราะเนื้อความส่วนใหญ่ล้วนมีแต่น้ำ
   
ว้ากกกกก
   
เสียงกรีดร้องดังลั่นจากอีกมุมของสุสาน
   
ฟาร์คัสหันขวับตั้งท่าจะไปหาแต่กลับพบว่ามีหมอกสีจัดสีอมแดงเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ จนมองอะไรรอบตัวไม่เห็น
   
“ บ้าอะไรวะ ”
   
ปีศาจอีกาสบถและแทบกัดลิ้นตัวเอง
   
ฟ่อ   
   
เพราะเสียงของงูนั้นดังข้างหู !

----------------------

หายไปนานเนื่องจากคอมง้องแง้ง :sad4: ตอนนี้ระเห็จมาใช้โน้ตบุ้คค่ะ

ส่วนตอนหน้าก็  :z13:

 :man1: กอดคนเมนต์
   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 46 18 มี.ค 59
«ตอบ #400 เมื่อ19-03-2016 10:56:09 »

งูมาาาาาา เอ้ยยยยยยยยย
ไปช่วยนุ้งดัฟกะนุ้งนาซัสคัดลายมือดีกว่า 55555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 46 18 มี.ค 59
«ตอบ #401 เมื่อ19-03-2016 21:02:56 »

เวรของกรรม

ใครจะมาช่วยฟาร์คัสล่ะเนี่ย ฟาร์คัสไม่น่าจะสู้ไหวนะ  :ling2:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 47 29 มี.ค 59
«ตอบ #402 เมื่อ29-03-2016 22:51:30 »

ตอนที่ 47 : การจากไปของคาร์บิลัส


บรรยากาศภายในห้องของราชาปีศาจนั้นหม่นหมองและเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อในห้องเหลือเพียงร่างเจ้าของห้องที่หลับไหลไร้สติอยู่ในห้วงนิทรา

" ข้าขอตัวนะขอรับ ท่านคาร์บิลัส " ชาคอสพูดเบาๆ เหลือบมองหน้าต่างที่เริ่มจะมืด หน้าที่ของเขาคือการเฝ้าดูอาการของคาร์บิลัสตลอดช่วงเช้าส่วนช่วงเย็นจะเป็นพอยซ์มาเฝ้าเอง 

". .. "

ไร้คำตอบจากร่างบนเตียงทำเอาชาคอสถอนหายใจเศร้าๆ และยอมออกจากห้องอย่างว่าง่าย

ทันทีร่างของชาคอสก้าวออกไปก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดภายในห้องคาร์บิลัส หมอกจัดไปคลุมไปทั่วทั้งห้อง ร่างผู้บุกรุกค่อยๆ ย่างก้าวไปหาเจ้าแห่งดินแดนปีศาจบนใบหน้าของเขาแตะแต้มไปด้วยรอยยิ้มยินดีเมื่อมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องร่างบนเตียงนิ่งก่อนจะใช้มีดสีดำแทงเข้าที่อกของคาร์บิลัสจนมิดด้าม !!

อึก 

ร่างของไร้สติกระตุกและไอโขลกเลือดออกมา เลือดสีแดงหยดซึมจนย้อมผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด ร่างกายของราชาปีศาจพยายามดิ้นรนมีชีวิตได้เพียงไม่นานก็ค่อยๆ สงบลง

น้ำตาหยดหนึ่งไหลพรากออกจากนัยน์ตาที่ปิดสนิท

และเหลือเพียงร่างไร้ลมหายใจ



หลอกกกก 555555555555  :hao7:

วันนี้ครบรอบลงนิยายเรื่องนี้ค่ะ  :m22: รู้สึกผ่านไปไวมากกกกก

คนที่อ่านตั้งแต่ช่วงแรกๆ ก็คงมีคุณบลูเชอร์รี่ คุณ lizzii และตอนนี้ก็ยังคงอ่านอยู่ // กอดดด  :man1: คนอื่นๆ ก็  :hao4:

แต่คนที่มาทีหลังเราก็จำได้หมดนะคะ อย่าง •♀NoM!_KunG♀• กับ tsubasa_6927 แล้วก็เพ่ Hang ดีใจทีชอบน้าาา


ตอนนี้อัพแกล้งเนื่องในวันเกิดนิยายเรื่องนี้  :laugh3:

ส่วนตอนจริงๆ ก็  :katai5:
 
 

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 47 29 มี.ค 59
«ตอบ #403 เมื่อ29-03-2016 23:03:10 »

ตกใจหมดเล้ยยยยยย โฮ :sad4:

เพิ่งมาเจอเรื่องนี้หลังจากอ่าน เจ้าเสือกับเสเปอร์ อ่านรวดเดียวเลย ชอบการเขียนของคุณ foggy time มาก   o13

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 47 29 มี.ค 59
«ตอบ #404 เมื่อ29-03-2016 23:19:15 »

แรงงงงงงงงงงงง !!! 555555555
เรางี้ใจหายแว๊บบบบบบ
นี่ครบรอบแล้วหรอ เร็วมากกก เหมือนเพิ่งผ่านมาแว๊บๆ เอง
เราชอบวิธีการเล่าเรื่องของคุณFoggy time อ่ะ
อ่านแล้วเพลิน ตัวละครมีชีวิตดี คึคึ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 47 29 มี.ค 59
«ตอบ #405 เมื่อ30-03-2016 07:22:59 »

ใจหายแว้บ

มะกี้เตรียมจับไหล่คุณ foggy time แล้วเขย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วนะเนี่ย


เรารักกัน~ ชุ้บๆ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 47 29 มี.ค 59
«ตอบ #406 เมื่อ07-04-2016 23:19:33 »

 :katai5:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 47

ถึงแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแต่ฟาร์คัสก็ยังดำรงสติได้อย่างเหนียวแน่น เขาประสบกับสถานการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สีหน้าของฟาร์คัสจึงนิ่งสงบไม่มีท่าทีลนลานแต่อย่างใด

แต่ในอกหัวใจกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นตระหนก

ร่างกายมักจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกที่แท้จริงของเราเสมอ

อาวุธประจำกายปรากฎในมือฟาร์คัสเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างคืบคลานเข้ามาใกล้

ฟ่อ

ฟาร์คัสสะดุ้งเพราะเสียงในครั้งนี้ดังขึ้นข้างตัวโดยที่เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ! 

ฮื่อๆ

และรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังถูไถกับขาตัวเอง

ฟาร์คัสขมวดคิ้วงุนงงก้มมองข้อเท้าตัวเอง

เป็นลูกหมาสีเทาตัวอ้วนขนปุกปุย

ลูกหมา ?

โดยไม่รู้ตัวก็เผลออุ้มขึ้นมาแนบอกตัวเอง จ้องมองนัยน์ตาสีแดงก่ำของมันที่คล้ายดวงตาของงู มันแลบลิ้นแฮ่กๆ ใช้หัวทุยๆ ของมันออดอ้อนให้ความรู้สึกคล้ายกับคนบางคน

สิ่งที่อัดแน่นอยู่ในหัวฟาร์คัสตอนนี้คือความงงถึงขั้นขีดสุด ทั้งหมอกสีแดงที่หายไปทั้งเสียงงูที่ถูกกลบด้วยเสียงลูกหมางี่เง่าในมือ

" เจ้ามาจากไหนกัน ? " สลายอาวุธในมือและอุ้มมันให้อยู่ในระดับสายตาพอดี 

โฮ่งๆ

ระหว่างที่ฟาร์คัสกำลังสำรวจลูกหมาในมือด้วยความสงสัยก็ถูกขัดจังหวะด้วยคอร์สที่วิ่งโวยวายมาหา

" ท่านฟาร์คัสสสสส ท่านหาย หายไปไหนมา ฮือ ข้าตกใจหมดเลย ! ถึงท่านคาร์บิลัสจะสลบอยู่ก็เถอะแต่ถ้าท่านคาร์บิลัสรู้ว่าข้าทำท่านหายต้องโกรธมากแน่ๆ !! " คอร์สดีใจจนแทบร้องไม่เป็นภาษา เมื่อกี้มันตกใจแทบตายตอนที่หันหลังกลับมาหาท่าน
ฟาร์คัสแต่ท่านฟาร์คัสหายไป 

ฟาร์คัสหัวเราะเบาๆ ยิ้มมุมปาก

ปัญญาอ่อนทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องจริงๆ

เขาจำไม่ได้ว่าหยุดเดินตามคอร์สตอนไหนแต่ก็จำได้ว่าเห็นอีกทียืนอยู่ไกลๆ แล้ว

" เมื่อกี้มีเสียงโวยวายอะไร "

" อย่าเปลี่ยนเรื่องสิขอรับ ! ข้าตกใจจริงๆ นะเนี่ย ท่านฟาร์คัส ข้ายังมีน้องมีนุ่งต้องเลี้ยงอีกเป็นขโยงเลยนะ ไหนจะลูกท่านอีก หากข้าถูกท่านคาร์บิลัสทำโทษด้วยการโยนเข้ากรงสิงโต ข้าไม่เอาด้วยหรอกนะขอรับ !! " ความตกใจทำให้คอร์สที่ปกติมักจะสุขุมเงียบๆ เคี้ยวแครอทแจ็บๆ กลายเป็นกระต่ายขี้โวยวายพยายามเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง

" … ข้าดูแลตัวเองได้ " ฟาร์คัสตัดบทดื้อๆ " เมื่อกี้เสียงอะไร "

คอร์สโอดครวญ " พวกปีศาจเจอไข่งูเวลส์ขอรับ เจออยู่ใต้สุสาน มีเป็นรังเลย "

โฮ่ง !

เจ้าหมาในมือเหมือนกำลังเรียกร้องความสนใจกลับมาที่ตัวเอง

ปีศาจกระต่ายเลิกคิ้วจ้องมันด้วยความสงสัย

กรรซ !!

ฟ่อ!!

จากลูกหมาที่เคยน่ารักกลับกลายเป็นหมาดุร้ายทันที มันขู่คำรามพยายามกระโจนออกจากมือของฟาร์คัส ซึ่งด้วยความที่มันยังเป็นลูกหมาจึงไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะหลุดออกมา

คอร์สสะดุ้งจนถอยกรูดยืนห่างจากฟาร์คัสในระยะที่ต้องตะโกนถึงจะคุยกันรู้เรื่อง หน้าขาวๆ ของคอร์สซีดเผือด กระต่ายเป็นสัตว์ที่อ่อนแอและเป็นเหยื่อให้กับสัตว์กินเนื้อส่วนใหญ่

เจ้าหมาเวรนี้ถึงได้พยายามจะเข้ามากินเขา !

ถึงแม้ว่าจะตัวเองจะใช้เวทย์โจมตีมันได้แต่ใช่ว่าจะไม่กลัวมัน 

ฟาร์คัสกระตุกยิ้มเมื่อเริ่มจับเค้าลางอะไรบางอย่างได้ ใช้มือลูบหัวมันให้สงบ

อิ๋ง

ลูกหมาตัวเล็กร้องเสียงเบาและซุกหัวลงบนอกฟาร์คัสด้วยท่าทีไม่มีพิษมีภัย

" พาข้าไปหารังงูเวลส์หน่อยสิ "

" ดะ ได้ขอรับ ท่านฟาร์คัส " คอร์สตะโกนตอบเดินนำไปก่อนโดยหันกลับมาฟาร์คัสเป็นพักๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ท่านฟาร์คัสหายซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ฟาร์คัสหลุดยิ้มกับท่าทีหวาดกลัวของคอร์สต่อเจ้าลูกงูเวลส์นี่

เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นงูเวลส์เพราะเสียงขู่คำรามแปลกๆ ดวงตาของมัน และคำบอกเล่าจากดัฟฟ์ที่บอกว่าได้ยินเสียงงูกับเสียงหมาสลับกัน อาจจะฟังดูแปลกๆ ที่งูเวลส์นี่มีสองร่าง แต่ใครจะไปเข้าใจท่านผู้นั้น

ผู้ที่สร้างโลกซับซ้อนใบนี้

ปีศาจส่วนใหญ่กำลังขะมักขเม้นกับการเรียงไข่งูเวลส์ที่มีเกือบสิบฟองอย่างเป็นระเบียบ มันเป็นไข่สีแดงสดใบยักษ์ใหญ่ที่ใหญ่พอๆ กับไข่มังกร

" ท่านคอร์สขอรับ จะทำยังไงกับไข่พวกนี้ล่ะขอรับ ! "  ปีศาจคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นมาหา
คอร์สหูลู่ลงอย่างน่าสงสาร ทั้งๆ ที่อยากตอบว่าทำให้มันแตกๆ ไปให้หมดก็ดี แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันอาจจะสามารถนำไปใช้
ประโยชน์ได้ในอนาคต ส่วนคนที่ปกติตัดสินใจเรื่องพวกนี้ก็ดันสลบอยู่อีก ทำให้คอร์สรู้สึกว่าการไม่มีท่านคาร์บิลัสเป็นเรื่องขอ
ขาดบาดตายมากๆ 

ฉะนั้นมันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาท่านคาร์บิลัสที่เคารพคืนมาให้ได้ !

" เอาไปฝากชาคอสไว้แล้วกัน "

ฝากเจ้าด้วยล่ะ สหาย

" ขอรับ "  ปีศาจคนที่ถามรับคำและกลับไปบอกคนอื่นให้เตรียมขนย้ายไปยังบ้านท่านชาคอสที่เป็นคฤหาสน์หรูหราตั้งอยู่ใกล้ๆ

แต่ปีศาจบางส่วนก็ยังคงขะมักขเม้นขุดดินกันต่อไปเพราะนอกจากจะเจอไข่งูเวลส์แล้วยังเจอพวกของโบราณเก่าๆ ที่ถูกทับถมเอาไว้เป็นเวลานาน ทำให้สุสานกูเซียนเริ่มแปรสภาพเป็นกองดินหย่อมๆ ส่วนซากเสารูปปั้นโดนขนไปซ่อมแซมแล้ว

" ท่านฟาร์คัสจะเดินต่อไหมขอรับ ข้าจะนำทางให้ท่าน " คอร์สถาม

ฟาร์คัสลูบหัวลูกหมาในมือตัวเองครุ่นคิด

ดูเหมือนว่ารังงูเวลส์มันจะอยู่ใต้สุสานพอดีทำให้พวกงูเวลส์ที่เพิ่งฟักออกมาอาละวาด แต่ไม่สิ... ถ้าตัวเล็กแค่นี้ไม่น่าทำให้แพะบ้านั่นเป็นแบบนั้นได้ 

หรือจะเป็นแม่ของพวกมัน ? 

แล้วทำไมถึงเพิ่งโผล่มาแล้วไหนจะเจ้าลูกหมานี่อีก

ฟาร์คัสถอนหายใจเหนื่อยๆ เพราะความจริงที่เขาต้องการกลับได้คำตอบเป็นคำถามเต็มไปหมด ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่ามันไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักนิด

..แต่ก็ยังดีที่ได้งูเวลส์มาแล้ว

เจ้าแพะโง่นั่นจะได้ฟื้นสักที

" เจ้าทำงานของเจ้าเถอะ ข้าจะกลับปราสาท "  ปีศาจอีกาไหวไล่ตอบและร่ายเวทเคลื่อนย้ายใต้เท้าทันทีที่พูดจบไม่สนใจฟังคำทักท้วงของคอร์สสักนิด

ปีศาจกระต่ายมองพื้นที่เมื่อกี้นี้มีร่างชายาของราชาปีศาจยืนอยู่เซ็งๆ และหยิบแครอทที่ซุกไว้ในเสื้อออกมาแทะแก้เครียดดัง
กรุบๆ

" ท่านคอร์สขอรับ ! ท่านชาคอสไม่ยอมขอรับ " 

คอร์สขมวดคิ้วก่อนที่จะค่อยๆ คลายและคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก " บอกกลับไปว่าท่านฟาร์คัสเป็นคนสั่ง  "

" ขอรับ "

ไม่โกรธกันนะท่าน
 



" ข้าไม่คิดว่าท่านจะหามาได้ไวขนาดนี้นะ ฮ้าว " พอยซ์หาวหวอดระหว่างที่กำลังใช้มีดกรีดเท้าของลูกหมาที่ตาแดงก่ำอย่างน่าสงสารมันมองหน้าฟาร์คัสราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ มันไม่สามารถขยับตัวได้เพราะถูกยาชาขั้นรุนแรงตรึงร่างกายเอาไว้

มันจึงพยายามหาทางรอดด้วยการออดอ้อนฟาร์คัส

น่าเสียดายที่ฟาร์คัสไม่สนใจมันแต่มองร่างที่นอนนิ่งสงบอยู่บนเตียง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหายใจนุ่มลึกและเบาจนน่าใจหาย
ฟาร์คัสมองคาร์บิลัสด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าในชั่วขณะนึงลมหายใจที่เบานั่นจะหยุดลง เขาเห็นคนตายต่อหน้ามาเกินพอแล้ว

และไม่อยากจะเห็นมันเกิดขึ้นกับแพะโง่สักนิด

อิ๋ง

ลูกงูเวลส์ในร่างลูกหมาร้องออกมาอย่างน่าสงสารเมื่อเลือดสีสดของมันไหลออกมาและถูกแก้วใบเล็กรองเอาไว้

" เงียบน่าเจ้าหมา " พอยซ์บ่นไม่จริงจังนักเมื่อเลือดที่รองเอาไว้มากพอที่จะทำยาก็ร่ายเวทสมานแผลให้และลูบหัวมันเบาๆ เชิงปลอบ

ถึงจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่อันตรายและเคยถูกฆ่าล่างเผ่าพันธุ์มาก่อน แต่มันก็สมควรได้รับสิทธิ์ในการมีชีวิต ปีศาจอย่างพวกเขาไม่สิทธิ์ไปตัดสินว่าใครควรอยู่หรือไม่อยู่ ท่านคาร์บิลัสเคยบอกมันไว้แบบนั้น 

เพราะมันเคยเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างปีศาจ คนที่เข้าใจความเจ็บปวดนั้นดีที่สุดคือคนที่กลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายในสงครามซึ่งท่านคาร์บิลัสเป็นหนึ่งในหมู่คนที่น่าสงสารพวกนั้น

สมุนไพรสีประหลาดมีกลิ่นฉุนถูกโปรยลงในแก้วและตามด้วยส่วนผสมต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถขับพิษงูออกมา ใส่ไปจนเกือบล้นแแก้วพอยซ์ก็เขย่ามันเบาๆ พร้อมกับร่ายเวททำให้ยากลายเป็นเนื้อเดียว

" เอาล่ะ ท่านเอาไปป้อนท่านคาร์บิลัสหน่อย เอาให้หมดแก้วนะ " พอยซ์ยืนมันให้กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชายาของราชาปีศาจ
คนโดนใช้ขมวดคิ้ว " ป้อน ? ทั้งๆ ที่สลบอยู่ "

ปีศาจแมวพยักหน้าเนือยๆ ขยี้ตาตัวเองง่วงๆ " ป้อนๆ ไปเถอะขอรับ ขอแค่หมดแก้วท่านคาร์บิลัสก็ฟื้นแล้ว "

" แล้วจะป้อนยังไง " ฟาร์คัสสบถแต่ก็ยอมขยับตัวไปนั่งบนเตียงพยายามพยุงร่างราชาปีศาจปีศาจขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงเอาไว้
คนเป็นหมอเริ่มหน้าบูด " ก็ป้อนด้วยปากสิขอรับจะยากอะไร "

ฟาร์คัสสบตาปีศาจแมวนิ่งพบว่าอีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีเค้าความล้อเล่น

นี่ข้าต้องจูบไอ้แพะเวรนี้ ?

ไม่สิ ป้อนยามันคือการป้อนยา

นัยน์ตาสีดำจ้องหน้าคนที่กำลังหลับสนิทนิ่ง สูดหายใจลึกเรียกกำลังใจตัวเองและโน้มคอคาร์บิลัสลงมาแต่ก็หยุดชะงักก่อนที่จะแนบริมฝีปากลงไป

เดี๋ยวสิ.. 

ฟาร์คัสเบิกตากว้างเมื่อเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

ถ้าข้าจูบไอ้แพะเวรนี้อยู่แล้วข้าจะป้อนมันตอนไหน ?!

มันไม่ใช่ยาเม็ด !

ใบหน้าที่เคยหมดสติพลันลืมตาตื่นขึ้นมาและยิ้มเจ้าเล่ห์ในชั่วเวลาสั้นๆ แนบริมฝีปากกับคนเผลอทันที 

ฟาร์คัสสะดุ้งจนเกือบหลุดตวาดด่าก็ถูกลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามาจนพูดอะไรไม่ออกนอกจากครางในลำคอ ครู่ใหญ่ๆกว่าที่จะผละออกมาได้

" ไอ้เวรคาร์บิลัส !! " ปีศาจอีกาตะคอกด่ามองดุๆ

คาร์บิลัสยิ้มแหยๆ รีบคว้าแก้วในมือฟาร์คัสมาดื่มอักๆ จนหน้าที่ซีดเซียวกลับมามีสีสันเหมือนปกติดังเดิม 

สีหน้าเย็นชาปรากฎบนใบหน้าของฟาร์คัส " เจ้าโกหกข้างั้นเหรอ คาร์บิลัส " ถามเสียงเย็น

ราชาปีศาจสะดุ้งยิ้มประนีประนอมพร้อมทำหน้าตาน่าสงสาร " ข้าโดนพิษเจ้างูนั่นจริงๆ นะ ! พิษของมันทำให้ข้าถูกพอยซ์สั่งห้ามขยับตัว หายใจน้อยๆ แล้วห้ามกินiด้วยไม่งั้นพิษมันจะลาม ฉะนั้นข้าไม่ผิดนะ ฟาร์คัส " พูดจบก็มาด้วยสายตาอ้อนๆ เหมือนกับลูกงูเวลส์เมื่อกี้

ซึ่งครั้งนี้มันก็ได้ผลเนื่องจากผู้ที่กระทำคือคาร์บิลัส

ฟาร์คัสมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปสักพัก รู้สึกอยากด่าก็ด่าไม่ลง ความดีใจที่อยู่ในอกมันมากกว่าความหงุดหงิดที่ถูกหลอกให้ตกใจเล่น " เจ้าฟื้นก็ดีแล้ว "

ตัดสินใจพูดออกมาเบาๆ

คาร์บิลัสยิ่งได้ใจรวบตัวฟาร์คัสไปกอดแน่นแต่ฟาร์คัสก็รู้ตัวก่อนจึงหลบได้ทันทำให้คาร์บิลัสคว้าได้เพียงอากาศเปล่าๆ
คนเป็นราชาปีศาจหน้าบูดก่อนจะกลับมาเป็นสีหน้าจริงจัง " เจ้าบอกว่าเจอรังงูเวลส์ในสุสานกูเซียน ? "

ฟาร์คัสพยักหน้ารับ " อืม " และหันไปมองตัวการที่ทำให้เขาพลาดท่าให้คาร์บิลัสนิ่งๆ

พอยซ์ยิ้มแห้งๆ โบกมือส่ายหน้าเป็นพัลวันพยายามบอกว่าไม่ใช่ความคิดของมัน มันถูกท่านคาร์บิลัสบังคับให้ร่วมมือต่างหากล่ะ
! ซึ่งแน่นอนว่าทันทีที่พูดออกไปมันต้องโดนท่านคาร์บิลัสลงโทษแน่ๆ

---------------
หายหัวไปนานคิดถึงงง  :man1:

ตอบเมนต์  :กอด1:

คุณ P.PIM : ดีใจที่ชอบค่า  :man1: เรื่องนี้อยากรื้อเขียนใหม่มากเลย อยากปรับสำนวน :sad4:

คุณ  lizzii : ความสุขมักผ่านไปไวเสมอ เขิลล << ไม่ใช่ละ 555 ดีใจที่ชอบนะคะ กอดๆ เจอกันหลายเรื่องมาก ><

คุณ  BlueCherries : มาแล้วววว  :impress2: กอดด คิดถุงง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ไอ้ย่ะ


ฟาร์คัสมีลูกเพิ่มอีกละ รับเลี้ยงเลยยยยยย :p
ว่าแต่ตัวหม่าม๊ามันอยู่ไหนน้อ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จะเปงไงน้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสักพักเมื่อราชาปีศาจตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองและคนอื่นๆ ในห้องที่ไม่คิดจะพูดอะไร 

ฟาร์คัสเหลือบมองคาร์บิลัสสลับกับลูกงูเวลล์ที่ยังคงส่งสายตาน่าสงสารมาอย่างไม่ย่อท้อ

ฟาร์คัสพ่นลมหายใจเซ็งๆ เดินเข้าไปหามัน ลูกงูเวลล์กระดิกหางรัวๆ ตาเป็นประกาย ยาชาที่ตรึงร่างกายมันหมดฤทธิ์ไปแล้วตอน
นี้มันแทบจะกระโจนใส่ฟาร์คัสด้วยซ้ำ

อย่าบอกว่ามันเห็นข้าเป็นแม่อีกแล้ว ? 

บัดซบที่สุด

ปีศาจอีกาคิดอย่างเหนื่อยหน่ายทั้งๆ ที่กำลังเพลิดเพลินกับการลูบขนนุ่มๆ จนเผลอระบายยิ้มออกมา

" ข้าเคยได้ยินว่าพวกงูเวลล์ชอบฟักไข่ไว้ใต้ดินลึกๆ และใช้เวลาฟักนานมาก " คาร์บิลัสเงยหน้าขึ้นมองฟาร์คัสตั้งใจจะพูดสรุปความคิดของตัวเองให้ฟังก็ต้องชะงักไป  " แค่ดัฟฟ์กับนาซัสข้าก็ปวดหัวแล้วนะ เจ้ายังจะเอาเพิ่มอีกเหรอ " โอดครวญด้วยสีหน้า
เหมือนกับลูกงูเวลล์ตอนที่โดนกรีดเท้า

คนฟังขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ " พูดต่อไปสิ "  พลางเกาคางให้ลูกหมาสีเทาจนมันครางงื้ดๆ

และสีหน้าของคาร์บิลัสก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ " ข้าว่าข้ากับเจ้ามีลูกของตัวเองสักคนก็ดีนะ "

" คาร์บิลัส " เรียกเสียงเย็นโดยไม่มีท่าทีเขินอายแต่อย่างใด

" ก็ได้ๆ "  คาร์บิลัสถอนหายใจและหันไปจ้องหมอปีศาจนิ่งเชิงไล่ " พอยซ์ "

" ขะ ขอรับ ! "  พอยซ์สะดุ้งลนลานวิ่งออกไปทันที สิ่งที่ยังคงแก้ไม่ได้ของมันก็คือความกลัวราชาปีศาจเข้าไส้
ใบหน้าที่ยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อกี้เปลี่ยนเป็นเศร้าสลดทันทีจนฟาร์คัสรู้สึกได้

" มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญพอดีที่ไข่พวกนี้มันฟัก " ราชาปีศาจยิ้มเศร้าๆ " น่าเสียดายที่เจ้ายังไม่เจอพ่อกับแม่ของข้าเลย "

เพราะทุกอย่างมันพังไปหมดแล้ว...

ความหิวกระหายทำให้พวกมันอาละวาดทำร้ายทุกสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและกัดกินทุกอย่างที่สามารถกินได้

ฟาร์คัสปล่อยลูกงูเวลล์ลงบนพื้นขยับตัวเข้าไปใกล้คาร์บิลัสและลูบหัวเบาๆ

" แพะโง่ ยังไงที่นี่ก็ดินแดนปีศาจใช่ว่าพวกเขาจะไม่รับรู้สักหน่อยว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ " 

พยายามปลอบด้วยถ้อยคำที่ไม่สวยหรู

สิ่งที่คาร์บิลัสไม่รู้คือฟาร์คัสไม่เคยเอ่ยปลอบใครจริงๆ จังๆ ซึ่งเจ้าตัวก็น่าจะเป็นคนแรก

แต่เจ้าดินแดนก็ยังเศร้าอยู่ดี " อืม ข้าก็แค่เสียดายน่ะ "

เขายังจำความเหน็ดเนื่อยตอนที่สร้างมันขึ้นมาได้ดีและยังจำภาพที่เขานำดอกไม้ไปวางหน้าหลุมศพเป็นประจำทุกปีจนเป็นความเคยชินซึ่งความเคยชินที่ว่านี้กำลังหายไป

" เจ้าแน่ใจเหรอคาร์บิลัสว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ข้าว่าตัวที่เจ้าเจอคงจะไม่ใช่แบบเจ้าลูกหมานี่แน่ๆ " 
คาร์บิลัสหลับตายิ้มบาง " ข้าคิดว่าไม่น่ามีใครเลี้ยงพวกมันไว้ได้หรอก ขนาดข้ายังรับมือแทบไม่ไหวเลย ตัวใหญ่นั้นน่าจะหนี
เข้าไปในป่าพอรู้ว่าลูกๆ มันฟักก็กลับมา "

ความโมโหที่ถูกทำลายของรักทำให้เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากจะทำลายพวกมันให้สิ้นซากแต่พอกลับมานอนนิ่งครุ่นคิดความ
โกรธก็เจือจางลง

หากมองโลกในแง่ดีคือมันทำให้เขาเห็นค่าในสิ่งที่สูญเสียไปมากขึ้น..

ไม่มีประโยชน์ที่จะโวยวายหาสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว

มันเปล่าประโยชน์..

คาร์บิลัสไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้นักจึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยและรวบเอวฟาร์คัสมากอดเอาหัวไถออดอ้อนเช่นเดียวกับลูกงูเวลล์ " แต่ยังไงก็ตามงานแต่งงานของเจ้ากับข้าก็ต้องมีขึ้นอยู่ดีนะ ฟาร์คัส "

" ... " ฟาร์คัสไม่ได้ขืนตัวออกเพราะรับรู้ถึงจุดประสงค์ของคาร์บิลัส " ไว้ซ่อมเสร็จค่อยไปอีกทีก็ได้ " ลูบผมสีดำที่เริ่มจะยาว 

" อืม.. " แขนแกร่งโอบเอวไว้เหนียวแน่นตัวสั่นน้อยๆ

ฟาร์คัสถอนหายใจเหนื่อยๆ กับคนที่พยายามซ่อนความอ่อนแอของตัวเอง 

"  .. ข้าขอวันที่ฟ้าโปร่งนะ "

" ได้สิ ชายาของข้า.. " คาร์บิลัสพูดเสียงอู้อี้จนคนโดนกอดเผลอหัวเราะหึออกมาเบาๆ

" เป็นแพะที่ปัญญาอ่อนชะมัด "
 


โรงเรียนปีศาจนั้นเป็นโรงเรียนประจำทำให้มีหอพักอยู่ติดกับโรงเรียนเป็นสามตึกใหญ่ๆ ซึ่งตึกแต่ละตึกก็จะมีห้องนอนขนาดใหญ่สำหรับบรรจุนักเรียนทั้งห้องในห้องเดียวตามนโยบายอยู่ด้วยกันรักกันดีของผู้อำนวยการกิลเบิร์ต ภายในห้องนอนประกอบด้วยเตียงสองชั้นกับชั้นเดียวพอดีกับจำนวนนักเรียน ห้องน้ำสองห้องและครัวเล็กๆ สำหรับทำอาหารง่ายๆ โดยรวมถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายน่าอยู่แม้ว่าจะไม่หรูหราก็ตาม

" แง้ พวกเจ้ามันแย่ที่สุดเลย ! " ดัฟฟ์ใช้นิ้วที่กลายเป็นสีดำจากดินสอชี้หน้าทุกคนในห้องเรียงตัวเมื่อหลุดจากการทำโทษมาได้
ลาสส่งสีหน้าเหม็นเบื่อใส่ดัฟฟ์ขณะที่กำลังนอนอ่านนิตยสารเกี่ยวกับเสื้อผ้า " ข้าว่าเจ้าควรสงบปากสงบคำมากกว่านะ ดัฟฟ์ พวกข้าไม่ผิดสักหน่อย "

ดัฟฟ์หน้าเสียแทบจะร้องไห้

" เจ้าจะใจร้ายเกินไปแล้ว !  ลาส ดัฟฟ์เป็นเด็กใหม่ จะไปรู้อะไรมากมายล่ะ " กริสเซลเถียงโกรธๆ และถลาเข้าไปหาดัฟฟ์พยายามลูบหัวลูบหางปลอบ ปีศาจสิงโตแทบจะแยกเขี้ยวขู่แง่งๆ ใส่

" จะเด็กใหม่ไม่เด็กใหม่ ข้าก็ไม่สนใจหรอกนะ ข้าแค่ไม่ชอบพวกชอบโทษคนอื่น " คนโดนเถียงยิ้มเย็น
ถึงแม้ว่าลาสจะเป็นพวกเฉื่อยชาแต่เมื่อรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องจะกลายเป็นคนปากร้ายเถียงคำไม่ตกฟากทันที

ดัฟฟ์ก้มหน้างุดกอดกริสเซล

" เจ้าก็เตือนดีๆ ไม่ได้รึไง ! " กริสเซลพูดเสียงลอดไรฟัน

ลาสตั้งท่าจะตะคอกตอบก็ถูกบางคนสงบศึกให้ก่อน

" โบว์ของเจ้าหลุดแล้ว "  ไม่ว่าเปล่าผลักดึงตัวอีกฝ่ายหันหน้าเข้าหากำแพงและดึงโบว์สีขาวออกจากผมสีทองและรวบให้ใหม่อย่างเบามือ

" โถ่เว้ย โนแลน เจ้าอีกแล้วนะ ! " ลาสบ่นเซ็งๆ ยอมเงียบอย่างว่าง่าย

โนแลนยิ้มมุมปากไม่พูดอะไรต่อ

มังกรดำที่ตั้งแต่ไม่เคยถูกว่าจริงจังมาก่อนเซื่องซึมทันทีจนกริสเซลลนลาน

" เฮ้ ดัฟฟ์ ! วิญญาณเจ้ายังอยู่ไหม ใครก็ได้ปลุกนาซัสที่นอนขดตรงนั้นมาช่วยปลอบดัฟฟ์ที ! " 

คนที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างโมลอคขยับยิ้มนุ่มนวลยอมลุกออกจากเตียงเดินไปสะกิดนาซัสที่นอนซุกอยู่มุมกำแพงด้วยร่างจิ้งจอกซึ่งสะกิดอยู่สักพักนาซัสก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นจนคนที่ขึ้นชื่อว่าใจเย็นที่สุดในห้องเริ่มหงุดหงิด " นาซัส ถ้าเจ้าไม่ตื่นข้าจะ.. อืมม มันไม่สุภาพเท่าไหร่สำหรับคนที่รู้จักกันไม่นาน ข้าจะเตะเจ้าให้ตายคากำแพงเลย ให้ตายสิ ! เจ้าเป็นจิ้งจอกที่ขี้เกียจที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาเลย "

นาซัสที่ฝึกเขียนจนตาลายก็ยังคงสลบเหมือดอยู่ที่เดิม

โมลอคส่ายหน้าให้กับกริสเซลเชิงว่าให้หาวิธีอื่นเถอะ

" พวกเจ้าจะโวยวายอะไรกันนักหนาฮะ รู้ไหม พวกเจ้าทำให้ข้าไม่มีอารมณ์ร้องเพลงในห้องน้ำ ! " มังกรไฟตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดระหว่างที่ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเช็ดหัวเปียกๆ

" เจ้าจะเสียงดังให้มันได้อะไรขึ้นมา คาอิส " กริสเซลขู่แง่งใส่เป็นรายที่สอง " ดูสิ ดัฟฟ์ร้องไห้เลยเนี่ย "
สีหน้าหงุดหงิดของคาอิสจึงเบาบางลง " เป็นอะไรถึงร้องไห้ล่ะ ? "

" โดนดุนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก "  คนตอบคือลาสที่ยังคงนั่งอ่านนิตยสารด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุก็ตาม

ยิ่งคนตอบคือลาสก็ทำให้ดัฟฟ์สะดุ้งกอดกริสเซลแน่นยิ่งกว่าเดิม

จนเพื่อนสนิทของคนปากร้ายอดอยู่นิ่งไม่ได้ ก้าวอาดๆ ไปหากริสเซลและหยุดยืนนิ่งๆ พลางสบตาปีศาจสิงโต

" มีอะไร โนแลน ถ้าเจ้าจะว่าดัฟฟ์อีก ข้าขอเชิญเจ้าไปอาบน้ำนะ อาบก่อนข้าเลยข้ายกให้ " กริสเซลมองตอบดุร้าย

" ทำผิดก็ขอโทษสิ ดัฟฟ์ " พูดเสียงเรียบ

ซึ่งคำพูดของโนแลนก็คล้ายกับจุดประกายให้กับดัฟฟ์

" ฮือ แก๊ซ ข้าขอโทษ ! ข้าขอโทษที่ว่าพวกเจ้า ฮึก ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ฆ่าบี้ลัสไม่สบาย ฮือ ข้าเลยร้องไห้จนไม่ได้ฟังที่ครูสอน  "

สีหน้าของลาสจึงกลับมาเอื่อยๆ เหมือนเดิมเมื่อได้รับคำขอโทษ

" ฆ่าบี้ลัส ? " กริสเซลทวนงุนงงรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อไม่ถูกและเบิกตากว้าง " เจ้าหมายถึงท่านคาร์บิลัสใช่ไหม ! " ตาเป็นประกายแวววาวเมื่อพูดถึงวีรบุรุษของตัวเอง

" ใช่ ฮึก ฆ่าบี้ลัสไม่สบาย " ดัฟฟ์หน้าเสีย

กริสเซลมีสีหน้างุนงง " เจ้าหมายความว่าไง ? ท่านคาร์บิลัสเนี่ยนะไม่สบาย ท่านคาร์บิลัสเป็นราชาปีศาจเชียวนะ ! "

คนอื่นๆ ในห้องที่รับรู้ถึงความบ้าคลั่งในตัวราชาปีศาจของกริสเซลถึงกับกลอกตาเบื่อๆ 

" อื้อ ข้า ข้าอยากไปหามากเลย ฮือๆ "

" เจ้ารู้จักกับท่านคาร์บิลัสเหรอดัฟฟ์ !! " กริสเซลแทบควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ได้มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น 

" ใช่ ฮึก ฆ่าบี้ลัสกับแม่ แก๊ซ "

" ดัฟฟ์ เจ้าอยากไปหาใช่ไหม ! ข้าจะพาเจ้าไปเอง !! "

กริสเซลพูดด้วยความดีอกดีใจ

ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

ข้าจะพาดัฟฟ์ไปหาท่านคาร์บิลัสให้ได้ !!!

--------------
 
รู้สึกถึงความแซ่บของลาส  :hao6:

มาดึกอีกแล้วววว  :z6:

 :man1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ


 
 
 
 
 

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
สนุกค่ะ เดินเรื่องเร็วตัดฉับๆเหมือนดูภาพยนตร์ ทันใจมาก แถมความที่เป็นภาคๆทำให้ตัวละครไม่เยอะไปด้วยค่ะ พอจบภาคหนึ่งก็เปลี่ยนสถานที่ ตัวละครเหมือนเป็นไตรภาคของหนังเลยค่ะ  ชอบท่านราชาปีศาจจอมหื่นค่ะ เป็นคนที่ดูมั่นคงในรักมาก หาน้อยมากเลยจะเจอระดับราปีศาจไม่เจ้าชู้ ฟาคัสก็เข้มแข็งมาก สงสารตั้งแต่ฉากพ่อตาย โดนทรยศแล้วยังตองเจอเพื่ นสนิทลอบฆ่า พอมาเข้าไปในเผ่ามารก็เจอท่านราชาปีศาจลืม โอ๊ย ครบทุกรส ภาคโรงเรียนก็สนุกนะคะ เหมือนโรงเรียนแนวโรงเรียนฮอตวอตในแฮรี่ พอตเตอร์

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตัวละครเด็กหนุ่มเริ่มเยอะจนป้าน้ำลายหก...   ผิด จนจำไม่ค่อยได้ว่าใครเป็นใคร
ฟาร์คัสถ้ายังตั้งหน้าตั้งตารับเลี้ยงเด็กๆอยู่แบบนี้ ต่อไปจะตั้งทีมฟุตบอลได้ละนะ :hao7:

ว่าแต่โนแลนกับลาสนี่ยังไง #เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ(?)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ๋ๆๆ ดัฟลูกเอ้ยยย อิฆ่าบี้รัสมันไม่เป็นไรแล้วววว
 จอนแรกจะชมว่าโห้ยย พอฟื้นมาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะราชาปีสาจ
แต่พออ่านบรรทัดต่อมารู้สึกแบบ ยังไงมันก็คือคาร์บิรัสผู้สึกไม่สนใจอะไรนอกจากฟาคัส 555

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #414 เมื่อ30-04-2016 17:44:44 »

ตอนที่ 48

ถึงจะมีความตั้งใจดีแต่สถานะนักเรียนของกริสเซลก็ไม่ได้อำนวยขนาดนั้น แค่แอบปีนออกด้านหลังหอพักก็ถูกหมาสามหัวที่เฝ้าหอเห่าแทบเป็นแทบตายจนคนรู้กันหมดว่ามีนักเรียนห้องพิเศษกำลังหนีออกจากหอพักทั้งห้อง ผู้อำนวยการกิลเบิร์ตถึงกับมานั่งเฝ้าหอเพื่อไม่ให้นักเรียนในการดูแลของตัวเองหนีไปไหน
ทำให้กริสเซลต้องนั่งหน้าบูดขณะที่นั่งรวมอยู่กับเพื่อนบนพื้นลานประลอง

" พวกเจ้ามาหยิบดาบนี้แล้วก็ลองจับคู่สู้กัน " 

อาจารย์ฝึกที่เป็นอดีตแม่ทัพพูดอย่างไร้อารมณ์ ทั้งใบหน้าและลำตัวกำยำเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายจากการต่อสู้อันโชกโชน นัยน์ตาจับจ้องเด็กแต่ละคนและวิเคราะห์ในใจ

เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่พบกัน ในเวลาปกติเขามักจะได้สอนพวกเด็กโตหรือไม่ก็พวกเตรียมทหาร แต่ครั้งนี้เขาถูกผู้อำนวยการสั่งให้มาดูแลเด็กพวกนี้แทน

ซึ่งชื่อเสียงอันโชกโชนก็น่าจะบอกได้ดีว่า อาจารย์ทั่วไปคงจะเอาพวกนี้ไม่อยู่

" แต่ข้าเตรียมดาบของข้ามานะ ! " เฮย์พยายามอวดดาบของตัวเองที่เพิ่งอ้อนท่านพ่อให้ซื้อเพื่อเรียนวิชาการต่อสู้โดยเฉพาะ " ท่านพ่อบอกว่าดาบของข้าคมมากๆ ถ้าโดนฟันเข้าไปพวกเจ้าตัวขาดครึ่งกันหมดแน่ " พูดจบก็หัวเราะราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองพูด
เป็นเรื่องตลกมาก

" เก็บดาบของเจ้าไว้ใช้คาบหน้าแล้วกัน ข้าอยากจะทดสอบพวกเจ้าว่ามีฝีมือกันขนาดไหน " อาจารย์ฝึกพูดอย่างไม่ใส่ใจและหันมาหยิบดาบไม้สำหรับเด็กโยนให้แต่ละคนรับอย่างแม่นยำ

ยกเว้นแต่..

" แก๊ซ ! เจ็บบบบ "  ดัฟฟ์กุมหน้าผากตัวเองที่โดนด้ามดาบเข้าเต็มๆ ถ้าหากเป็นดาบจริงคงไม่วายหน้าหลุดไปครึ่งซีก 

กริสเซลสะดุ้งถลาเข้ามาหาดัฟฟ์ " เฮ้ย ดัฟฟ์ เจ้าเป็นอะไรไหมเนี่ย !? เจ็บมากไหม "

" เจ็บสิ เจ็บมากด้วยย แก๊ซซซ  " ดัฟฟ์ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ น้ำตาคลอเบ้า ยิ่งหันไปมองนาซัสที่รับดาบได้อย่างแม่นยำก็ยิ่งรู้สึกหดหู่

ลาสเหลือบมองพลางบ่นเบาๆ กับโนแลน " ร้องไห้อีกแล้ว นี่ข้าร่วมห้องกับเด็กเพิ่งเกิดรึไงกัน ? "

" เจ้าก็ไม่ต่างกันนักหรอก วันแรกๆ ที่เรียนยังเอาแต่ร้องไห้จะกลับบ้านเลย "  โนแลนตอบยิ้มๆ

คนถูกแขวะมองกลับดุๆ กระชับดาบไม้ในมือ " เจ้ากำลังทำให้ข้าหงุดหงิดนะ โนแลน !! " ตวาดจบก็พุ่งตัวเข้าใส่ทันที แต่โนแลนก็สามารถตั้งรับได้อย่างง่ายดายและสวนกลับมาอย่างดุดันจนลาสสบถและถอยหนีจากการคุกคามของดาบ
เพียงไม่นานการต่อสู้คู่ของโนแลนกับลาสก็จบลงด้วยดาบไม้ที่พาดอยู่บนคอลาสที่ล้มไปนอนบนพื้น

" เออ เจ้าชนะแล้ว " พูดเบื่อๆ 

ลาสเป็นบุคคลที่วันๆ เอาแต่อ่านนิตยสารเสื้อผ้ากับรูปร่างหน้าตาของตัวเองฝีมือเชิงดาบย่อมเทียบไม่ได้กับโนแลนที่เกิดในตระกูลทหารที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเคี่ยวเข็ญฝีมือ

" ฝีมือดี " อาจารย์ฝึกชมอย่างตรงไปตรงมา ยิ้มพอใจเมื่อเห็นอะไรบางอย่างในตัวโนแลน " แต่ถ้าหากเจ้าอยู่ในสนามรบนี้ยังนับว่าช้าเกินไป เจ้าต้องว่องไวกว่านี้ การลงดาบของเจ้ายังไม่หนักแน่นพอที่จะฆ่าใคร "

อดีตแม่ทัพย่อมรู้จักโนแลนดีเพราะเป็นบุตรชายของรองแม่ทัพที่เคยเอาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาให้เห็นหน้าค่าตาอยู่ครั้งสองครั้ง จึงชี้แนะโดยไม่สนใจว่าเป็นเพียงเด็ก

สำหรับสงครามนั้นไม่เคยแบ่งแยกอายุ หากมีกำลังน้อยกว่าย่อมถูกฆ่าเอาง่ายๆ และเพลี่ยงพล้ำในที่สุด สิ่งที่อาจารย์ทุกคนและผู้อำนวยกิลเบิรต์ต้องการจะสอนคือโลกของความจริง

พวกเขาไม่มีวันรู้ว่าวันใดจะเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สิ่งที่ทำได้คือการตั้งรับด้วยการสั่งสอนเด็กๆ ให้รู้จักการใช้ชีวิต

" ขอบคุณที่ชี้แนะขอรับ " โนแลนรับคำอย่างนอบน้อมและดึงมือลาสที่ยื่นรอได้สักพักกระตุกขึ้นมายืน

" แง้ กริสเซล ข้า ข้าไม่เคยฟันดาบ " ดัฟฟ์ถือดาบด้วยมืออันสั่นเทา จนดาบสั่นจนมองเป็นรูปร่างไม่ชัด

" เอาน่า ฟันไม่เป็นก็ลองฟันดู ข้าว่าเจ้าก็ต้องเคยเห็นพวกเนื้อสัตว์โดนสับใช่ไหมล่ะ ? นั่นแหละ เหมือนกัน เจ้าก็คิดว่าคนอื่นเป็นเนื้อนิ่มๆ และเจ้าก็มีหน้าที่สับ "

ดัฟฟ์น้ำตาตัวเองออกเมื่อรู้สึกว่ามีแรงฮึกเหิมในอก " ฟังดูง่ายจัง ข้าอาจจะ ทำได้ก็ได้ แก๊ซ ! " หน้าเล็กๆ จิ้มลิ้มฉายแววความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม

กริสเซลเห็นแบบนั้นก็เริ่มยิ้มออก " เข้ามาเลย ดัฟฟ์ ข้าจะเป็นเนื้อหมูนุ่มๆ ให้เจ้าเอง "

โมลอคหรือเจ้าของคำคมประจำห้องได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้พอดีก็เอ่ยคำคมที่คิดสดๆ ออกมา  " ดาบไม้ก็คือดาบไม้ ย่อมไม่สามารถกลายเป็นมีดไปได้ "

" ข้าว่าคำคมเจ้านับวันยิ่งแย่นะ โมลอค " มังกรไฟผู้มีอารมณ์ร้ายอยู่เสมอตะโกนก่อนที่จะหลบดาบที่แทงเข้ามาของออสการ์

คนเป็นผู้เยียวยาระยะเริ่มต้นถึงกับจิตตกจนเดินแยกออกไปยืนข้างฟอร์ด เหยี่ยวคร่าวิญญาณที่ขี้กลัวที่สุดในห้องเรียนพิเศษ " ข้าคิดว่าข้ากำลังถูกทำร้ายทางจิตใจอย่างสุดซึ้ง "

ฟอร์ดเหลือบมองโมลอคขณะที่มือพยายามถือประคองดาบไม่ให้หลุดออกจากมือสั่นๆ " แต่ข้าว่าที่คาอิสพูดก็จริงนะ ฟังคำคมเจ้าทีไรข้าไม่เคยรู้สึกสงบเหมือนที่เคยฟังพ่อเจ้าพูดสักที "

โมลอคถึงกับลงไปนั่งหดหู่อยู่บนพื้น ปากพึมพำบ่นถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง

" แง้ !!!! " ดัฟฟ์ร้องลั่นเมื่อดาบที่สมควรไปฟันบนตัวกริสเซลกลับโดนสกัดจนกระแทกหน้าตัวเอง 

"เฮ้ย!!" กริสเซลร้องลั่นโยนดาบในมือทิ้งทันที "เป็นอะไรมากไหมดัฟฟ์? ข้าขอโทษ! ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะคิดว่าตัวเองเป็นหมูแล้วหั่นตัวเอง"

อาจารย์ฝึกมองดัฟฟ์ด้วยสายตาอ่านยากพึมพำกับตัวเองเบาๆ ว่าห่วยแตกสิ้นดี แต่ก็ไม่กล้าตำหนิออกมาตรงๆ เพราะรู้ฐานะของดัฟฟ์ดีว่าเป็นถึงลูกบุญธรรมของราชาปีศาจ

จึงได้แต่มองตามเงียบๆ 

ดัฟฟ์ยิ่งได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งหดหู่กัดปากตัวเองเรียกสติ นิ้วสั้นๆ กระชับดาบไม้ในมืออีกครั้ง นัยน์ตาสีเทาและสีแดงลุกวาวอย่างมุ่งมั่น "แก๊ซ อีกครั้ง !!"

คนเป็นครูฝึกผิวปากยิ้มๆ

ก็ได้ความดื้อดึงของท่านคาร์บิลัสมาบ้าง

"เอ๋? เจ้าไม่เจ็บแล้วเหรอ ดัฟฟ์ ถ้าไม่ไหวบอกข้าได้นะ!" ปีศาจสิงโตถามอย่างกระวนกระวายแต่ก็ยอมก้มลงไปไปหยิบดาบบนพื้นมากระชับในมืออีกครั้ง

อาการเจ็บแปลบบริเวณหน้าผากประท้วงเบาๆ จนดัฟฟ์ยู่หน้า "ข้าไม่เป็นไร แก๊ซ.." แต่ไม่รู้ทำไมเสียงที่พูดถึงต้องแผ่วลงอย่างห้ามไม่ได้

"ในเมื่อเจ้าว่าอย่างนั้นก็เริ่มกันเลย! ดาบใช้ไม่ยากหรอก เจ้าแค่หาจังหวะดีๆ ในการแทงและหลบหลีกไม่ให้ดาบโดนตัวก็พอแล้ว" ไม่ว่าเปล่าย่างสามขุมไปหาดัฟฟ์ตั้งท่ามาตราฐานในการชูดาบที่ถูกบังคับเรียนตั้งแต่ปีที่แล้ว

ดัฟฟ์พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้มือสั่น จดจ้องท่าทางของกริสเซลและเลียนแบบ "ข้า ข้าจะฟันเจ้าแล้วนะ!"  บอกอย่างตื่นกลัว เพราะนอกจากกินกับนอน มังกรดำตัวนี้แทบไม่เคยต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียวถ้าไม่นับตอนคืนร่างมังกรแล้วอาละวาดด้วยความหิว

"มาเถอะ ฮ่าๆ " กริสเซลหัวเราะร่ารู้สึกเอ็นดูดัฟฟ์มากกว่าเดิมและส่ายหางไปมาอย่างผ่อนคลาย

ปึ่ก

ดาบไม้กระทบเกิดเสียงดังเสียดหูก่อนจะตามด้วยเสียงแบบเดิมดังต่อเนื่อง

กริสเซลเบิกตากว้างเมื่อดัฟฟ์หลับตาแน่นและฟันมั่วๆ ใส่ตัวเองซึ่งแรงดาบแต่ละดาบก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำเอาระลึกได้ว่าดัฟฟ์เป็นมังกรที่มีพละกำลังมหาศาล แต่ถึงจะตกใจยังไงกริสเซลก็ยังยิ้มรับและสามารถสกัดดาบของดัฟฟ์ได้ทุกอันโดยใช้แรงไม่มากนัก

อาจารย์ฝึกมองความมุ่งมั่นของดัฟฟ์ออกจึงเอ่ยแนะนำ "เวลาที่เจ้าลงดาบก็ต้องหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ไปด้วย ถ้าเจ้าสามารถฟันตรงนั้นได้เพียงดาบเดียวก็สามารถจบการต่อสู้ได้แล้ว"

ดัฟฟ์สะดุ้งเฮือกเหมือนเพิ่งได้สติและหอบแฮ่กจนลิ้นห้อยใช้ดาบค้ำตัวเองไม่ให้ล้ม

"ถือว่าทำได้ดีสำหรับผู้ที่ฝึกใช้ดาบไม้ครั้งแรก"

อดีตแม่ทักเอ่ยชมเพื่อเป็นกำลังใจให้กับดัฟฟ์ ถึงแม้ฝีมือนั้นจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากก็ตาม แต่ในระดับของเด็กเล็กๆ ก็ยังพออยู่ในเกณฑ์ไม่น่าเกลียดนัก

ในลานประลองยังคงเหลืออีกหลายคู่ที่ยังสู้กันและยังไม่ได้เริ่มต้นต่อสู้ ทำให้เฮย์ที่ยังหาคู่ต่อสู้ไม่ได้ตัดสินใจมาท้านาซัสสู้

" ฮู้วว นาซัส เจ้าเด็กน้อย เจ้าต้องมาสู้กับข้า เพราะมันจะเป็นเกียรติ์ของเจ้ามากๆ ที่จะได้สู้กับข้า" พูดไม่พอยังพยายามถือดาบด้วยท่วงท่าที่คิดว่าตัวเองเท่ที่สุด "น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้ลิ้มรสดาบที่พ่อข้าซื้อให้ ไม่เช่นนั้นเจ้าต้องร้องไห้ตั้งแต่เห็นมันแน่ๆ
ฮ่าๆ"

นาซัสพยักหน้าหงึกหงักอย่างขอไปที แววตาไม่ส่ออารมณ์อะไรมากนักเพราะไม่ได้สนใจคำพูดของเฮย์ นัยน์ตายังจับจ้องไปที่พี่ของตัวเองที่นอนกลิ้งบนพื้นไปมาส่งเสียงง้องแง้งว่าหิวมาก

"รับไปซะ คมดาบท่านเฮย์!!"

สัญชาตญาณบางอย่างในตัวผุดขึ้นในหัว จนนาซัสสามารถสกัดคมดาบของเฮย์ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะรู้สึกงุนงงในตัวเองแต่ร่างกายกลับเป็นไปตามสัญชาตญาณไล่ฟันแทงกลับอย่างเชี่ยวชาญ แม้ว่าจะมีขนาดร่างกายเล็กกว่าแต่กลับรุกไล่จนเฮย์หน้าซีดถอยร่นแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมพยายามใช้ดาบไม้ฟันใส่สีข้าง

นาซัสขมวดคิ้วน้อยๆ เอี้ยวตัวหลบจับดาบไม้และกระตุกแรงๆ จนล้มทั้งคนทั้งดาบ

คนที่เห็นภาพนี้ต่างตะลึงงันโดยเฉพาะดัฟฟ์ที่อ้าปากค้างไปสักพักถึงได้สติ  "นาซัส!! เจ้าเก่งจังเลย แก๊ซ !!" ยิ้มกว้างวิ่งมาหานาซัสและกอดแน่น "เจ้าต้องสอนข้านะ ข้าอยากเก่งๆ จะได้ปกป้องทุกคนได้! แก๊ซ"

นาซัสยิ้มกอดดัฟฟ์แน่นตอบ 

"ฝีมือเจ้าดีมากๆ แต่เจ้ายังเด็กมาก" อาจารย์ฝึกขมวดคิ้วงุนงงขณะที่จ้องมองนาซัส 

ถึงแม้วิถีดาบของเจ้าเด็กขี้อวดนั่นจะย่ำแย่แต่การตอบโต้ของนาซัสกลับดีจนน่าตกใจ ราวกับว่าเคยอยู่ท่ามกลางการต่อสู้หรือถูกฝึกฝนจนกลายเป็นสัญชาตญาณ

หรือว่าจิ้งจอกขาวนี่อาจจะไม่ใช่ปีศาจ?

ขมวดคิ้วเคร่งเครียด นัยน์ตาเป็นประกายกร้าวถึงความไม่ไว้วางใจ

แต่ท่านคาร์บิลัสฝากมากับดัฟฟ์ก็น่าจะพอวางใจได้

"เจ้าอายุเท่าไหร่ นาซัส" ถามอย่างใคร่รู้

นาซัสที่ถูกถามอึนไปสักพักค่อยๆ นับนิ้วของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วและส่ายหน้า "ข้าไม่รู้ขอรับ" เพราะทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นดัฟฟ์ ท่านพ่อ ท่านแม่แล้ว..

"ข้าไม่รู้จริงๆ"

พูดซ้ำราวกับกำลังตอกย้ำในความสงสัยของตัวเอง

นาซัสเริ่มคิ้วขมวดบ้าง รู้สึกงุนงงในชาติพันธุ์ของตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับถูกฝังลึกในใจกำลังพยายามบอกกล่าวอะไรบางอย่างในหัวมันแต่ไม่นานก็ถูกบางอย่างช่วงชิงความรู้สึกนั้นไปเหลือเพียงความว่างเปล่า

จิ้งจอกขาวโคลงหัวไปมาอย่างงุนงงเมื่อรู้สึกว่ายังไงก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาก็หันไปกอดหมับที่ตัวดัฟฟ์แน่น อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่ชัดเจนในใจ คือมันมีดัฟฟ์เป็นพี่..

"เอาเถอะ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ฝีมือของเจ้าถ้าถูกข้าขัดเกลาเรื่อยๆ ดีไม่ดีตำแหน่งแม่ทัพของข้าอาจจะกลายเ็้นของเจ้าก็ได้"
โนแลนมองนาซัสนิ่งด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ในคราแรกนั้นโนแลนไม่ได้ใส่ใจอะไรนาซัสมากมายเพราะเห็นเป็นเพียงเพื่อนร่วมห้องธรรมดา แต่สายตาตอนนี้กลับเป็นสายตาเย็นชาที่ใช้มองคู่แข่งของตัวเอง ตำแหน่งแม่ทัพเป็นตำแหน่งที่ทุกคนในตระกูลปรารถนาให้โนแลนเป็น และมันเองก็มีความตั้งใจที่ทำให้เป็นจริง!

ลาสลูบคอตัวเองเบาๆ ที่ๆเคยถูกดาบพาดไว้อย่างอ้อยอิ่งก่อนจะตบหลังโนแลนดังปั่ก กระซิบเบาๆ "ใจเย็นน่า ไม่มีใครกล้าแย่งตำแหน่งเจ้าหรอก ตำแหน่งน่ายุ่งยากพรรค์นั้นให้ฟรีข้าก็ยังไม่เอาเลย"

นัยน์ตาที่เย็นชาจึงถูกละลายลงจนเปลี่ยนเป็นละมุนละไม "เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะรับตำแหน่งช่างตัดเสื้อให้ข้านี่? อย่าลืมสิ ว่าท่านแม่ทัพต้องใส่เสื้อผ้าที่ดูดีอยู่เสมอ"

คนเจ้าสำอางตอบรับในลำคออย่างขอไปที ลูบแขนตัวเองที่ประดับไปด้วยกำไลอัญมณีที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้ความสวยงาม "น่าหงุดหงิดชะมัด ที่เราต้องมาเรียนซ้ำอีกปีเนอะ"

"ใครใช้ให้เจ้าไปทำลายตู้ขายโกโก้ของผู้อำนวยการล่ะ นั่นข่าวใหญ่โรงเรียนเลยนะ"
ลาสหน้าบูด "ก็ข้าไม่ชอบชุดโกโก้นั่นนี่นา งี่เง่าสิ้นดีและไร้รสนิยมมากๆ มองทีไรทำให้ข้าไม่มีอารมณ์กินข้าวหรือแม้แต่จะเรียน
สักวิชาข้าก็ไม่อยาก" 

"กว่าข้าจะหาข้อแก้ตัวกลับมาเรียนซ้ำกับเจ้าก็เหนื่อยมากเลย ข้าจำได้"

ลาสไหวไหล่อย่างไม่ไยดี "ช่วยไม่ได้นอกจากข้าก็ไม่มีใครคบเจ้าเป็นเพื่อนเลย"

โนแลนยิ้มมุมปากไม่ปฎิเสธคำกล่าวหาก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นบางคนที่โผล่ออกมาจากวงเวทข้างหลังอาจารย์

"ท่านคาร์บิลัส!?" กริสเซลเป็นคนแรกที่อุทานดังลั่นและนัยน์ตาเป็นประกาย

คาร์บิลัสยิ้มตอบก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาลูกตัวเองที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ 

"ฆ่าบี้ลัสสสสส !!"ดัฟฟ์โยเยวิ่งไปหาคาร์บิลัสทันทีพร้อมลากนาซัสไปด้วยพอเข้าถึงตัวได้ก็กอดขาราชาปีศาจแน่น "แง้ หายแล้วเหรอ ฆ่าบี้"

คนเป็นราชาปีศาจขมวดคิ้ว "เจ้าช่วยทำตัวให้มันดูสมเป็นลูกข้าหน่อยสิ ดัฟฟ์ แต่เอาเถอะ ข้าหายแล้วเจ้าไม่ต้องร้องไห้" ถึงบอกจะพร่ำว่าก็รวบเด็กสองคนขึ้นมาอุ้มตั้งท่าจะกลับเข้าวงเวท

"เดี๋ยวววววก่อนนนน ข้าขอไปด้วยสิขอรับ! ข้า ข้าเป็นเพื่อนของดัฟฟ์"กริสเซลวิ่งหน้าตั้งมาหาคาร์บิลัส ส่งสีหน้าชื่มชมออกมาอย่างไม่ปิดบัง

"เอากริสเซลไปด้วย แก๊ซซ กริสเซลเป็นเพื่อนข้า ใจดีมากเลย ใจดีกว่าฆ่าบี้ลัสอีก!"

คาร์บิลัสถลึงตามมองดัฟฟ์ "มาก็มา เข้ามาในวงเวทนี่ซะ ข้าแค่จะพาพวกเจ้าไปตัดชุด"

กริสเซลดีใจจนเกือบร้องเย้แต่ก็ปิดปากตัวเองได้ทันลนลานวิ่งเข้าไปยืนข้างคาร์บิลัส แอบใช้กรงเล็บตัดปลายเสื้อคลุมจนแหว่งและยัดใส่กางเกงตัวเอง สีหน้าของกริสเซลนั้นดีใจมากเพราะเจ้าตัวยิ้มแทบปากฉีก

"ท่านคาร์บิลัส  ยังไม่หมดคาบเรียนเลยนะขอรับ"อาจารย์ฝึกทำความเคารพก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าเจือกังวลเพราะลูกศิษย์หายไปถึงสามคน

"ไม่นานนักหรอก ซีดาร์" คนเป็นราชาปีศาจกระตุกยิ้ม "ถ้ากิลเบิร์ตมีปัญหาก็ให้มาคุยกับข้า" ไหวไหล่อย่างไม่ไยดีและดีดนิ้วดังเพื่อให้เวทเคลื่อนย้ายสัมฤทธิ์ผลพากลับไปยังปราสาท

พอท่านคาร์บิลัสลับสายตาไปพวกนักเรียนห้องพิเศษก็อวดครวญเสียงดังทันที

"เวรเอ้ย! ไอ้กริสเซลมันไวชะมัด เผลอแปปเดียวหนีเรียนไปซะแล้ว" คาอิสสบถเหลือบไปมองตรงที่เคยมีร่างทรงอำนาจที่สุดในดินแดนปีศาจก็อดสะท้านในใจไม่ได้ "ออสการ์"

"วะ ว่า" ออสการ์รับคำเสียงสั่นรู้สึกตะลึงไม่หายเมื่อรู้ว่าใครเป็นผู้ปกครองของดัฟฟ์และนาซัส เดิมทีคิดเอาไว้ว่าอาจจะเป็นพวกแม่ทัพตำแหน่งใหญ่ๆ ที่เส้นใหญ่พอที่สามารถยัดมาเรียนกลางเทอมแบบนี้ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเส้นของดัฟฟ์คือ ท่านคาร์บิลัส!!

"เจ้าว่าดัฟฟ์ จะฟ้องท่านคาร์บิลัสไหมเรื่องวันแรกที่พวกเราแกล้งน่ะ" คาอิสกลืนน้ำลายเอือกทุกใบหน้าดุๆ ของท่านคาร์บิลัสที่แปะไว้ที่บ้าน

"ข้าไม่เกี่ยวนะ วันนั้นเจ้าเป็นคนเตะดัฟฟ์และข้าเป็นคนปลอบดัฟฟ์ด้วย" ออสการ์ยิ้มออกเมื่อรู้ว่าตัวเองรอดแล้ว

"แต่ว่าเจ้าเป็นคนริเริ่มความคิดรับน้องนะ!" มังกรไฟโวยวายสีหน้าถมึงทึง 

"แล้วเจ้าจะทำยังไงเล่า เจ้าโง่ ถ้าเจ้าโดนท่านคาร์บิลัสโกรธ อย่างน้อยก็มีข้าที่ยังรอด เสียสละเพื่อส่วนร่วมน่ะเจ้ารู้จักไหม ถ้าไม่ข้าจะให้โมลอคมาเทศน์เจ้า!" 

คาอิสมองเพื่อนสนิทด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ "เจ้า!! อยากตายใช่ไหม ออสการ์" คว้าดาบเข้าไปฟัดออสการ์ด้วยความเคียดแค้นถึงขีดสุด

"งั้นเจ้าก็ขอโทษดัฟฟ์สิ เจ้างั่ง ถ้าท่านคาร์บิลัสมาเอาเรื่อง เจ้าก็บอกไปทักทายตามประสามังกร อีกอย่างท่านคาร์บิลัสเป็นแพะไม่ใช่มังกรซะหน่อย จะไปรู้ได้ยังไงเผ่าพันธุ์เจ้าทักทายกันยังไง" ออสการ์ตัดสินใจไม่โต้ตอบและวิ่งหนีแทนเพราะตัวเเองผิดเต็มๆ

"ข้าจะบอกท่านคาร์บิลัสว่าเจ้าสั่งให้ข้าทำ!" คาอิสคำราม

"บ้าที่สุด มังกรไร้สัจจะเอ้ย!" ออสการ์หันไปโวยวายก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อไปสะดุดดาบไม้ที่วางไว้เกลื่อนพื้นเข้าจนล้มกลิ้ง

คาอิสหยุดตัวเองได้ทันเห็นสภาพเพื่อนสนิทตัวเองก็หัวเราะดังลั่น "นี่เจ้ากลัวข้าขนาดนี้เลยเหรอ ออสการ์? ไม่ยักรู้ว่าเจ้าจะกลัวข้าขนาดนี้"

โดยไม่ทันรู้ตัวได้มีร่างใหญ่โตก้าวมาข้างหลังคาอิสช้าๆ และคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อ "วิชาของข้าไม่ใช่วิชาวิ่งเล่น ถ้าพวกเจ้าอยากวิ่งเล่นกันมากก็ลาออกกันไปซะ" 

คาอิสสะดุ้งเฮือกหัวเราะแห้งๆ ส่วนออสการ์รีบลุกพรวดกลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเป็นการเอาตัวรอด

"ขออภัยขอรับ ท่านอาจารย์"

ถึงแม้ปกติคาอิสจะไม่เห็นหัวอาจารย์สักเท่าไหร่แต่คงไม่ใช่กับอดีตแม่ทัพผู้โด่งดังคนนี้

ฉะนั้นถ้ายังอยากเรียนอย่างสงบสุขก็ต้องทำตัวเจี่ยมเจี้ยมเข้าไว้..
 

"แม่ แก๊ซซซซซ" ดัฟฟ์กระโดดออกจากแขนคาร์บิลัสทันทีที่เห็นฟาร์คัสยืนอยู่ไกลๆ พยายามวิ่งให้ไวเท่าที่ขาสั้นๆ สองข้างจะอำนวย

ฟาร์คัสยิ้มมุมปากลูบหัวดัฟฟ์เบาๆ เมื่อวิ่งมาถึงตัวเอง "เป็นไงบ้าง? ไปเรียน"

"แก๊ซ ข้าได้เข้าชมรมทำขนมด้วย!" ดัฟฟ์ยิ้มกว้าง

ฟาร์คัสชะงักไปสักพัก "อืม.. ดีแล้วล่ะ" ก่อนจะหันไปมองนาซัสที่ยืนมองตัวเองตาแป๋ว "เจ้าล่ะนาซัส? อย่าบอกว่าเข้าชมรมทำขนมเหมือนกัน"

ถ้าเข้าอีกคน ส่งไปโรงครัวดีกว่าไหม.. ฟาร์คัสคิดเซ็งๆ ในใจ

 "อืม ดัฟฟ์ให้ข้าเข้าด้วย ข้าอยากกินขนมกับดัฟฟ์" นาซัสพยักหน้าหงึกหงัก

ฟาร์คัสถอนหายใจและขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายเสื้อที่แหว่งไปของคาร์บิลัส "คาร์บิลัส ชายเสื้อเจ้าไปเกี่ยวอะไรมารึเปล่า?"

"หือ?" คาร์บิลัสมองตามที่ฟาร์คัสชี้และไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "ช่างเถอะ อีกไม่นานข้าก็จะได้ใส่ชุดที่พิเศษกว่านี้แล้ว~~~"
ฟาร์คัสสบถเสียงเบาหน้าแดงเพราะรู้ดีว่าคาร์บิลัสหมายถึงอะไร

ชุดแต่งงานงี่เง่า...

ไม่รู้เพราะอะไรอยู่ๆ ดีงานแต่งงานข้ามันถึงได้ฤกษ์อีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า! 

ไอ้แพะเวรนี่มันต้องเป็นคนเลือกวันเองแน่ๆ ไม่ใช่เพราะฤกษ์หรอก

"รีบๆ พาไปห้องตัดชุดสักที ดัฟฟ์กับนาซัสจะได้กลับไปเรียน"  ฟาร์คัสตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องและต้องสะดุ้งเมื่อเห็นเด็กที่อายุพอๆ กับดัฟฟ์กำลังเอาหน้าถูกกับผ้าเช็ดหน้าขาดๆ?

"ดัฟฟ์นั่นเพื่อนเจ้าเหรอ"

"อื้อ ชื่อกริสเซล"

หลังจากดื่มด่ำกับเสื้อคลุมของคาร์บิลัสเสร็จก็ต้องสะดุ้งเมื่อตัวเองกลายเป็นจุดรวมสายตา "ข้า ข้าเป็นเพื่อนของดัฟฟ์ ข้า ข้า
อยากมาด้วย" พูดติดอ่างหน้าแดงอย่างประหม่าเพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่แขกรับเชิญในที่นี้

"งั้นเจ้าก็ไปตัดชุดพร้อมกับดัฟฟ์ นาซัสแล้วกัน" 

"ไม่ได้ตัดพร้อมกัน?" ฟาร์คัสถามงงๆ

คาร์บิลัสยิ้ม "แน่สิ ก็ต้องมีช่างตัดสำหรับเด็กกับผู้ใหญ่ เดี๋ยวสักพักคอร์สจะมารับเด็กพวกนี้ไปเอง"

"แล้วเรื่องแม่งูเวลล์เจ้าจะทำยังไง? เจ้าแน่ใจเหรอว่าระหว่างที่ตัดชุดอยู่ มันจะไม่ไปฆ่าใครเข้า"

"ต่อให้มันมีชีวิตอยู่ก็ไม่น่าทำอันตรายอะไรได้แล้วล่ะ ข้าให้ชาคอสเอาลูกงูเวลล์ไปล่อแล้ว ดึกๆ น่าจะได้กลับมาขังกรงเลี้ยงดูเล่นอยู่"

"เจ้าจะเลี้ยงไอ้งูที่เกือบจะฆ่าเจ้าตาย?" มองคนเป็นราชาปีศาจด้วยสีหน้าอ่านยาก

"แต่ข้าก็ยังไม่ตาย มันไม่ได้ผิดอะไรที่ทำร้ายข้า มันก็แค่ทำตามสัญชาตญาณเท่านั้น " ก้าวยาวๆ มาหยุดยืนข้างฟาร์คัสและมองดัฟฟ์กับนาซัสเชิงไล่

"คอร์สมาแล้วนั่น พวกเจ้ารีบๆ ไปได้แล้วไป อ้อ อย่าลืมเอาเพื่อนเจ้าไปด้วย"

"แง้" ดัฟฟ์เบะปากเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังโดนไล่

ผิดกับนาซัสที่พยักหน้าอย่างว่าง่ายจูงดัฟฟ์ไปหาปีศาจกระต่ายตัวอ้วนที่กำลังวิ่งมา

"กริสเซล!" ดัฟฟ์คว้าแขนกริสเซลให้เดินตามมาเพราะเอาแต่มองตามหลังคาร์บิลัสไม่ยอมก้าวตาม

กริสเซลปล่อยให้ตัวเองถูกดัฟฟ์ลาก ตากับยังคงจับจ้องแผ่นหลังสูงสง่าของราชาปีศาจ

เท่สุดๆ ไปเลย!!

ตะโกนในใจ

"กริสเซล?" ดัฟฟ์ขมวดคิ้วสะกิดแต่กริสเซลก็ยังไม่รู้สึกตัวจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

"ดัฟฟ์ พ่อของเจ้า ไม่สิท่านคาร์บิลัสนี่เท่ชะมัด ข้าอิจฉาเจ้าจังที่ได้อยู่ใกล้ๆ ท่านคาร์บิลัส ข้าอยากทำงานกับท่านบ้าง! ถ้าข้าทำได้จริงนะ ทุกคนที่บ้านข้าต้องดีใจมากแน่ๆ"

คอร์สที่วิ่งมาถึงและได้ยินประโยคเมื่อกี้พอดีถึงกับยิ้มแห้ง "ข้าเป็นกำลังใจให้เจ้านะ"

ราชาปีศาจที่ชื่นชอบการหนีออกจากห้องทำงานและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับชายาตัวเองนี่น่าทำงานด้วยจริงๆ เหรอ..?

---------------------------

หายไปนาน  :hao5: พอดีพี่ชายรับปริญญาค่ะแล้วพี่ก็เอาไข้หวัดใหญ่มาติด

พอติดก็ไม่สบายจนนอนโรงพยาบาลเพิ่งออกมาวันนี้ค่ะ 5555

 :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #415 เมื่อ30-04-2016 18:26:06 »

ปวดเฮดแทนอาจารย์

กว่าดัฟฟ์จะเป็นจ้าวปีศาจคนต่อไป ต้องเคี่ยวเข็ญอีกกี่ปีหนอออ  :ling3:

ปอลิง นาซัสจะเริ่มค้นหาอดีตตัวเองแล้วป่ะคะ?

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #416 เมื่อ01-05-2016 00:00:15 »

หนูนาซัสจริงๆ แล้วเป็นใครกันแน่นะ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #417 เมื่อ01-05-2016 00:12:38 »

เย้ กลับมาแล้ว   โรงเรียนดูวุ่นวายตามประสาเด็กๆปีศาจแต่ละคนฤทธิ์เยอะน่าดู นาซัสทั้งน่ารักและเก่ง ถึงจะเอาแต่นอนขี้เซา คาร์บิลัส ฟาคัสออกมาเป็นแขกรับเชิญไปแล้ว ภาคนี้รู้สึกสองคนนี้บทน้อยจัง รอฉากงานแต่งสุดอลังการอยู่นะคะ   



ป.ล. หายป่วยแล้ว ดีเลยค่ะ  และก็ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง พายุฤดูร้อนเข้าพอดี

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #418 เมื่อ01-05-2016 00:37:05 »

รักษาสุขภาพนะคนเขียน อยากอ่านอีกเยอะๆ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 48 30 เม.ย 59 p.14
«ตอบ #419 เมื่อ01-05-2016 21:58:53 »

 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด