4
เลขานุการ
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น แม้การใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะนิทานยังคงรู้สึกไม่สบายใจที่เขาใช้ชีวิตในบริษัท เขาอด
ไม่ได้ที่จะหวาดระแวงในยามที่ต้องเดินขึ้นไปทำงาน หรือทุกครั้งที่เข้าไปในห้องน้ำ
“เอกสารฉบับนี้ รบกวนส่งไปพิจารณาด้วยนะครับ”
การทำงานวันนี้ เหมือนดังทุกวัน เพียงแต่เขายังไม่เจอหน้าของเลขานุการของตัวเอง นอกเหนือจากนี้เหตุการณ์ทุกอย่างดู
ปกติดี ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้น จนนิทานเริ่มจะสบายใจ
“บางทีเจ้าพวกนั้น อาจจะหายไปแล้วก็ได้”
เขาคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข บิดกายไปมาในขณะที่นั่งอยู่บนโซฟา นิทานเอนกายนอนหลังจากที่เคลียร์เอกสารบนโต๊ะเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว
ก๊อกๆๆ
ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็เด้งตัวลุกนั่งอย่างรวดเร็ว
“เชิญครับ”
“ขออนุญาตครับ”
ชายหนุ่มตัวสูงที่เดินเข้ามา ทำให้นิทานชะงักไป เขาตัวค้างแข็งทื่อ เมื่อเห็นคนที่เขาไม่อยากจะพบเจอ
“นะ นาย”
“ครับ”
ไอศูรย์สบตากับนิทาน คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับต้องการสะกดกลั้นความคิดที่แสนวุ่นวาย ผู้ชายคนนี้กุม
ความลับของเขาเอาไว้ ความอับอายทำให้นิทานไม่อาจจะทนมองหน้าของไอศูรย์ต่อไปได้
“นายเข้ามาในห้องฉันทำไม…”
“ผมไม่รู้ว่าท่านประธานทราบหรือยัง เรื่องเกี่ยวกับคุณธนัต”
“เอ๊ะ…”
เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นิทานไม่ค่อยเข้าใจความหมายของไอศูรย์
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง นิทานขมวดคิ้วฉับ ไอศูรย์เดินไปเปิดประตู ชายตัวสูงอีกคนที่เดินเข้ามาคือรามิล
“สวัสดีครับ ท่านประธาน”
รอยยิ้มสวยเผยให้เห็น รามิลมองประธานตัวเล็กที่กำลังจ้องมองเขาและไอศูรย์
“ทำไมพวกนายสองคน ถึงเข้ามาในห้องฉัน”
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ว่าคำถามนั้นเหมือนกับว่าตัวเองกำลังหวาดระแวงอะไรบางอย่าง ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่า
ทำไมตัวเองจะต้องรู้สึกกังวล
“เรื่องเลขาของท่านประธาน”ไอศูรย์กล่าว
“หมายความว่ายังไง แล้วคุณธนัตไปไหน”
“นั่นล่ะครับ คือเรื่องที่พวกเรามาที่นี่”รามิลเอ่ย
“หืม?”
นิทานยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้เขาเข้ามาทำงาน ก็ยังไม่เจอหน้าของธนัตเลย มีเพียงกองเอกสารที่วางเอาไว้
บนโต๊ะเท่านั้น
“ฉันไม่เข้าใจที่พวกนายพูด”
ประธานบริษัทตัวเล็ก เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับสบสายตาคู่สวยของรามิล ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น
“พวกเราสองคน จะมาเป็นคนดูแลท่านประธานแทนคุณธนัตครับ”
รามิลไขข้อข้องใจทั้งหมด แต่นิทานกลับรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“ไม่จริงน่า”
ไม่อยากจะเชื่อง่ายๆ ถึงแม้ธนัตจะเคยพูดกับเขาเรื่องเปลี่ยนเลขานุการ ที่มาคอยดูแลเขาก็ตามที นิทานเหลือบตามอง
ชายทั้งสองที่ไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปแต่อย่างใด
“นายพูดจริงเหรอ…”
คนที่หวั่นไหวก่อนกลับกลายเป็นนิทาน แม้เขาจะไม่อยากเชื่อก็ตาม แต่ท่าทางจริงจังของทั้งสองก็ทำให้นิทานอดหวั่นใจ
ไม่ได้
“อันที่จริง เลขาของท่านประธานควรจะมีแค่คนเดียวครับ”ไอศูรย์เอ่ยขึ้น
“แล้วทำไม ถึงมีพวกนายสองคน”
ความสงสัยยังไม่จบสิ้นง่ายๆ รามิลระบายยิ้มสวย ก่อนจะเอ่ยตอบให้คนตัวเล็กได้คลายความสงสัย
“ก็เพราะว่า พวกเราเหมือนถูกส่งมาให้ให้ท่านประธานเลือกครับ ว่าอยากได้ใครเป็นเลขา”
“ผมต้องการคุยกับคุณธนัตเดี๋ยวนี้”
นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จะให้เขาเลือกใครมาทำงานแทน ก็เร็วเกินไปหน่อย นิทานรู้ดีว่าอายุของธนัตก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว อีกไม่
นานธนัตก็คงต้องออกจากตำแหน่งที่ดูแลเขาอยู่
“งั้นเดี๋ยวผมโทรให้ครับ”
ไอศูรย์รับอาสา ท่าทางสุขุม นิ่งสงบ นิทานแอบหวั่นใจ เขากลัวว่าไอศูรย์จะเผลอพูดเรื่องน่าอับอายคราวก่อนให้คนอื่นฟัง
นิทานไม่เคยมีปัญหาอะไรกับรามิล ทำให้เขามองรามิลได้อย่างสนิทใจ อย่างน้อยการที่ในห้องมีรามิลอยู่ด้วย ก็ทำให้เขา
รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายที่จะหวาดระแวง
“ได้แล้วครับ”
การต่อสายถึงธนัตใช้เวลาไม่นาน นิทานแอบเคืองคนสูงวัยที่ทอดทิ้งเขาได้ลงคอ ทำไมถึงจะให้เขาเปลี่ยนเลขานุการ
โดยที่ไม่บอกไม่กล่าวอะไรกับเขาเลย
“สวัสดีครับ คุณธนัต”
[สวัสดีค่ะ ท่านประธานเหรอคะ]
กลับกลายเป็นว่าเสียงปลายสาย ไม่ใช่ธนัตเสียแล้ว นิทานขมวดคิ้วฉับ เขามองหน้าไอศูรย์ทันที
เดิมทีแล้ว เขาก็ไม่ค่อยจะสนิทใจกับไอศูรย์ เพราะร่างสูงได้กุมความลับที่น่าอับอายของเขาเอาไว้
“เอ่อ ใครพูดครับ”
[ดิฉัน เป็นภรรยาของคุณธนัตค่ะ]
“อ่อ เอ่อแล้วคุณธนัตล่ะครับ”
[คุณธนัตอยู่โรงพยาบาลค่ะ]
“!!!”
พอได้ยินคำกล่าวจากภรรยาของธนัต นิทานก็เงียบไปพักใหญ่ เขาตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้
“มันเกิดอะไรขึ้นครับ”
[อยู่ๆเขาก็หมดสติ โรคหัวใจกำเริบน่ะค่ะ แต่ตอนนี้หมอให้ย้ายไปห้องพักพิเศษแล้วค่ะ]
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย”
[ก็ตั้งแต่วันเสาร์แล้วค่ะ คุณธนัตบอกว่า ไม่อยากให้คุณนิทานไม่สบายใจ]
“ผมจะไปเยี่ยมเขา”
[ขอบคุณมากนะคะ]
หลังจากทราบชื่อโรงพยาบาลที่ธนัตเข้าทำการรักษา เขาก็กดวางสาย นิทานหันมามองรามิลและไอศูรย์
“ทำไมพวกนายไม่บอกฉัน ว่าคุณธนัตเข้าโรงพยาบาล”
“ผมก็นึกว่าคุณทราบแล้วครับ”
ไอศูรย์ตอบเสียงเรียบ แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ทำให้นิทานพอใจ
“ท่านประธานจะไปหาคุณธนัตตอนนี้เลยไหมครับ”
รามิลพูดในสิ่งที่ทำให้นิทานพอใจขึ้นมาเล็กน้อย อันที่จริงไอศูรย์ก็ไม่ได้ทำเรื่องๆแย่กับนิทานแต่อย่างใด เพียงแต่คนตัว
เล็กระแวงไปตามประสา เพราะเขากลัวว่าความลับที่น่าอับอายของตัวเองจะถูกเปิดเผย แต่ดูจากท่าทีที่เงียบสงบของไอศูรย์
บางทีนิทานอาจจะคิดมากไปเองก็เป็นได้
“งั้นฉันไปล่ะ”
นิทานจะเดินออกจากห้อง รามิลเดินไปเปิดประตูให้กับร่างเล็ก
“ขอบใจ”
เขาบอกเสียงเรียบ นิทานไม่ใช่คนประเภทที่ชอบสนิทกับใครง่ายๆ เขาเดินออกจากห้อง ความรู้สึกที่มีคนเดินตามมา
ทำให้เขาต้องหันไปมอง
“พวกนายสองคน ทำไม…”
“พวกเราจะตามท่านประธานไปด้วยครับ”
คนที่ตอบคำถามคือไอศูรย์ นิทานถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ค่อยชอบถูกคุมความประพฤติสักเท่าไหร่นัก
“จะไปเป็นคนขับรถหรือไง”
“ผมก็คิดว่าจะทำแบบนั้นอยู่แล้วครับ”
นิทานออกจะหงุดหงิดเล็กน้อยกับใบหน้าที่เรียบเฉย เหมือนไม่สะทกสะท้านของไอศูรย์ เขาถอนหายใจเล็กน้อย รามิลเดิน
นำหน้านิทาน แล้วกดลิฟต์ให้
“เชิญครับ”
คนตัวเล็กกรอกตาเล็กน้อย รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังมีบอดีการ์ด เพราะตอนนี้เขามีผู้ชายตัวใหญ่ตั้งสองคนยืนขนาบข้าง ใน
ขณะที่เขายืนอยู่ตรงกลาง
“รู้สึกแย่ชะมัด”
แม้จะพูดเบาๆ แต่ก็เหมือนว่าไอศูรย์สัมผัสได้ถึงความหงุดหงิด ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ในขณะที่รามิ
ลมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า
“พวกนายสองคน…เป็นเพื่อนสนิทกันเหรอ”
ไม่รู้อะไรดลใจให้นิทานถามออกไปแบบนั้น รามิลเป็นคนแรกที่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา
“ทำไมท่านประธานคิดแบบนั้นล่ะครับ”
ตึง
ประตูลิฟต์เปิดออก ไอศูรย์กดปุ่มเปิดประตูค้างไว้ ให้ทั้งสองออกจากลิฟต์เสร็จแล้วตนจึงเดินออกมา
“ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันบอกล่ะมั้ง”
“งั้นความรู้สึกคุณก็คงจะไม่ตรงกับความจริงสักเท่าไหร่”
เสียงนั้นดังขึ้น หลังจากที่ไอศูรย์เดินออกจากลิฟต์ นิทานหันไปมองชายหนุ่ม เขาไม่อยากจะเอามาเป็นอารมณ์
“พวกเราไม่ใช่เพื่อนสนิทกันหรอกครับ”
รามิลพูดอธิบาย นิทานพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินตรงไปยังรถยนต์ของตนที่ขับมาเองเมื่อเช้า
“ท่านประธานอยากให้ผมขับ หรือให้เขาขับครับ”
คนฟังคิดเพียงครู่ เขามองหน้ารามิลที่เอ่ยถาม แล้วมองไอศูรย์ที่ยังคงทำหน้านิ่งสงบ นิทานกระตุกยิ้ม
“นายแล้วกัน”
นิทานยื่นกุญแจรถให้กับไอศูรย์ รามิลหันไปมองเพื่อนร่วมงาน เขากระตุกยิ้มเหมือนเยาะเย้ยที่มุมปาก ไอศูรย์ไม่ได้ตอบโต้
อะไร นอกจากดวงตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นที่มองตามรามิลไปเพียงครู่ ก่อนที่เขาจะไปเป็นสารถีขับรถ
“คุณธนัตเป็นคนเลือกพวกนายสองคนให้มาเป็นเลขาของฉันเหรอ”
เพราะอดทนต่อไปไม่ไหว จึงได้ถามออกไป รามิลที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างกับไอศูรย์เป็นคนเอ่ยตอบแทนคนขับรถ
“ครับ ผมรู้สึกดีใจนะครับ ที่ได้มาเป็นหนึ่งในตัวเลือก”
“ฉันเองก็ไม่คิดว่าคนที่คุณธนัตเลือกจะเป็นพวกนายเหมือนกัน”
“ทำไมถึงคิดว่าจะไม่เป็นพวกเราล่ะครับ”
ไอศูรย์เอ่ยขึ้นบ้าง พร้อมกับรถยนต์ที่หยุดจอดเมื่อถึงไฟแดง นิทานเงียบไป เขาพยายามจะไม่มองไอศูรย์ในแง่ที่ไม่ดี อัน
ที่จริงเรื่องวันนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของไอศูรย์เลยแม้แต่น้อย เขาต่างหากที่กลัวจนมองอีกฝ่ายในแง่ร้ายไปได้
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าพวกนายก็เท่านั้น”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
น้ำเสียงของไอศูรย์เหมือนจะเชื่อแต่ก็มันก็แฝงไปด้วยความแปลกใจ นิทานเมินหน้ามองไปนอกกระจกหน้าต่างรถ รามิล
เหล่ตามองไอศูรย์ แล้วกดยิ้ม
“ตลกนักหรือไง”
เขาพูดเสียงไม่ดังมากนัก แต่มันก็ดังมากพอที่จะทำให้รามิลได้ยิน รามิลเหลือบตาไปมองไอศูรย์ แล้วเอ่ยขึ้น
“ก็มากพอล่ะนะ”
ไอศูรย์ไม่เอ่ยสวนกลับ รามิลพอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายจนไม่อยากจะพูดเสวนาสิ่งใดกับเขา แต่เขาก็ไม่คิดมากอยู่แล้ว อยากจะทำอะไรก็เชิญได้เลย
หลังจากที่สิ้นเสียงของรามิล ทุกอย่างในรถก็อยู่ในความเงียบ เขาเหลือบตามองกระจกรถที่อยู่เหนือศีรษะ ก็พบว่าท่าน
ประธานตัวน้อยหลับตาพักสายตาเสียแล้ว ไม่รู้ว่าแค่พักสายตา หรือว่าหลับไปจริงๆกันแน่
…น่ารักชะมัด…
รามิลคิดขึ้นในใจ เขาอยากจะเลื่อนมือไปสัมผัสกับแก้มนิ่มในยามนี้เหลือเกิน ไม่ใช่แค่ความคิด แต่แขนยาวกำลังเลื่อนไป
ที่ข้างหลัง
“อะ ฮึ่ม”
เสียงกระแอมไอในลำคออย่างไม่ดังมากนัก เหมือนเรียกสติของรามิลให้กลับมา เพื่อไม่ให้เขาทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง เขาเหลือบตามองไอศูรย์ที่เป็นคนส่งเสียง รามิลไม่ได้รู้สึกอยากขอบคุณ แต่ก็ถือว่าโชคดีอยู่บ้าง เพราะเป็นจังหวะที่นิทาน
ขยับกาย แล้วลืมตามาในอีกไม่ช้า
…โชคดีที่ชักมือกลับทัน…
นิทานมองชายทั้งสองที่นั่งอยู่เบื้องหน้า ดูท่าทางแปลกๆในสายตาเขา แต่พอมองนานๆ ก็ไม่เห็นเรื่องน่าสงสัยอะไร
จนกระทั่ง รถยนต์เคลื่อนที่มาจอดที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลที่เป็นสถานที่ที่ธนัตมารักษาตัว
“เดี๋ยวผมไปเปิดประตูให้นะครับ”รามิลเอ่ย
“ไม่ต้องหรอก”
นิทานเอ่ยปฏิเสธความหวังดีของรามิล เพราะเขาไม่ได้ต้องการให้พนักงานบริษัท มาเป็นคนขับรถคอยเปิดประตูให้
“นี่ครับ”
ไอศูรย์คืนกุญแจรถยนต์ให้กับนิทาน เขารับมันมาโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนที่ทั้งสามคนจะมุ่งตรงไปยังห้องพักพิเศษที่มี
ธนัตพักอยู่
“คะ คุณนิทาน”
ธนัตค่อนข้างตกใจที่เห็นนิทานมาหาเขาถึงที่นี่ นิทานยกมือไหว้ภรรยาของธนัต เขาเดินตรงไปที่เตียงผู้ป่วย
“ทำไมคุณถึงไม่บอกผมล่ะครับ ว่าคุณป่วย”
“ผมขอโทษครับ”
“ผมเป็นเจ้านายที่แย่เองครับ ที่คิดว่าคุณไปติดต่อธุระ เลยไม่รู้ว่าคุณไม่สบายขนาดนี้”
วงหน้าน่ารักเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ธนัตฝืนแรงที่มียกมือวางทับกับหลังมือเล็กของนิทานอย่างอ่อนโยน
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกนะครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณไม่สบายใจก็เท่านั้น”
“คุณเองก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของผม”
“ขอบคุณครับ คุณนิทาน”
“ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้เอาของเยี่ยมมาด้วย”
นิทานเองก็มัวแต่คิดมาก จนลืมที่จะซื้อของเยี่ยมคนป่วย ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาลสักเท่าไหร่นัก
เรียกได้ว่าจำครั้งสุดท้ายที่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะไปเยี่ยมคนอื่นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“แค่คุณนิทานมา ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”
“ครับ แล้วอาการของคุณเป็นยังไงบ้างครับ”
“หมอบอกว่าอาการผมดีขึ้นมากแล้วล่ะครับ คุณนิทานไม่ต้องเป็นห่วง”
“ดีจังเลยครับ”
เขาดีใจมาก จึงได้ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ธนัตเหมือนญาติผู้ใหญ่ เป็นคนที่สอนเขาให้รู้งานต่างๆ เขาแทบจะนับถือธนัตเหมือนพ่อคนที่สอง
“อ่า…คุณนิทานมากับ…”
ธนัตเหลือบตาไปเห็นชายตัวสูงทั้งสองที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งคู่กล่าวทักทายเลขานุการวัยกลางคน
“คุณนิทานคงรู้เรื่องที่ผมฝากสองคนนี้ไปบอกแล้ว”
“อันที่จริง ผมก็ไม่อยากจะคุยกับคุณตอนนี้ เพราะคุณยังไม่สบายอยู่”
แม้อยากจะรู้ความจริงและเคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจนไปเลย แต่เขาก็เป็นห่วงสุขภาพของธนัต ไม่อยากให้อีกฝ่ายฝืนมาตอบ
คำถามเขา
“คุยตอนนี้เลยก็ได้ครับ ดูเหมือนคุณนิทานไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่”
ธนัตดูออกทันที เพราะความสงสัยของนิทานแสดงออกทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน นิทานได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
“ถ้าคุณคิดว่าสะดวก ก็ได้ครับ”
“ครับ เรื่องไอศูรย์ กับรามิล คุณพ่อของคุณเองก็พอจะทราบแล้วล่ะครับ”
“แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงให้สองคนนี้มาดูแลผม”
“ทั้งรามิลและไอศูรย์ ต่างก็ทำงานได้อย่างดีครับ ผมคิดว่าคุณสมบัติของทั้งสองคนน่าจะช่วยอยู่เคียงข้างและสนับสนุนคุณ
ได้”
ธนัตบอกอย่างจริงใจ นิทานนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ
“แต่ผมว่า คุณธนัตก็เป็นเลขาที่ยอดเยี่ยมมากๆเลยนะครับ”
“ผมก็แก่ตัวลงทุกวัน อีกอย่างตอนนี้ร่างกายของผมก็ไม่ค่อยดี ผมคงทำงานให้คุณได้ไม่เต็มที่”
“ผม…”
“แต่ผมก็ดีใจที่ได้ดูแลคุณนิทานนะครับ”
“ขอบคุณครับ ใจจริงผมก็อยากให้คุณเป็นเลขาให้กับผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ผมเองก็อยากให้คุณได้พัก ผมไม่อยากให้
สุขภาพของคุณต้องแย่ลงไปมากกว่านี้”
แม้นิทานจะเป็นลูกชายคนเล็ก และมีนิสัยเอาแต่ใจ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นคนที่ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาไม่
อยากให้ธนัตต้องป่วยหนักมากกว่าเดิมเพราะตัวเขา
“แล้วผมจะต้องมีเลขาสองคนเลยเหรอครับ”
นิทานเหลือบตามองไอศูรย์และรามิล ธนัตคลี่ยิ้มจางๆ
“เรื่องนั้นแล้วแต่คุณนิทานเลยครับ ผมเสนอสองคนนี้ แต่ถ้าคุณอยากจะเลือกเพียงแค่คนเดียวก็ได้ครับ”
“อ่า…”
ถ้าให้เลือก เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าควรจะเลือกใคร สายตาที่ไว้ใจและเชื่อใจในตัวชายหนุ่มทั้งสองของธนัต ทำให้
นิทานไม่ได้พูดอะไรออกไป นอกจากเก็บไปครุ่นคิดเท่านั้น
หลังจากที่เยี่ยมธนัตเสร็จ นิทานก็คิดว่าเขาจะขับรถกลับบ้านเลย
“ท่านประธานครับ รอด้วยสิครับ”
รามิลรีบเดินตามนิทานที่เดินกึ่งวิ่งไปที่รถ นิทานเองก็ไม่รู้ว่าเขากำลังเป็นอะไร เหมือนจิตใจเขากำลังสับสนและ
หวาดระแวงกับอะไรบางอย่าง
“ระวัง!!!”
เสียงร้องของรามิลดังขึ้น นิทานเบิกตากว้าง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่นิทานไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของเขาเกือบ
โดนรถชน แต่โชคดีที่รามิลเข้ามากระชากตัวเขาหลบ แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาทั้งสองเซล้มทับลงกับพื้น
“!!!”
นิทานเบิกตากว้าง เมื่อเขานอนทับรามิลอยู่ แต่นั่นก็ไม่เท่าความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้น
…เขากำลังโดนจับก้น!...
“นะ นาย”
คนตัวเล็กเอ่ยเสียงติดขัด แต่ใบหน้าที่ทำเหมือนสงสัย และไม่เข้าใจ ทำให้นิทานเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน
“นายจับก้นฉัน”
“ครับ? ขอโทษครับ!”
รามิลเลิกคิ้ว พร้อมกับมือใหญ่ที่ขยับรุนแรงขึ้น จนเหมือนเป็นการบีบก้นนิ่ม เป็นจังหวะเดียวที่ไอศูรย์เดินมาถึงทั้งคู่พอดี
นิทานรีบดันกายลุกขึ้นด้วยความตกใจปนความอาย ส่วนรามิลค่อยๆยันกายลุกขึ้นตาม เขาหันไปมองไอศูรย์ ทั้งคู่สบตากัน ก่อนที่ทั้งสองจะกระตุกยิ้มมุมปาก โดยที่นิทานไม่ทันได้สังเกต
100%
30/5/59
ฝากเพจด้วยค่ะ
https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/ขอแปะลิ้งนิยาย -ของอากิ ที่อัพในเล้านะคะ
Play รักเล่น เล่นรัก (3P)
cr.ภาพ
http://tsuru-tsurumi.exteen.com/images/Nase/Cigarette%20Kisses01.jpghttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53773.msg3379996#msg3379996 'Royal tiger สามีผมเป็นเสือ'
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53735.msg3378586#msg3378586 คุณพ่อครับ...มาเป็นเมียผมเถอะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52889.msg3349707#msg3349707สะใภ้ขายาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53223.msg3359687#msg3359687