มาต่อแล้วค๊าบบบบบ ไปอ่านต่อกานเลย
ปวดท้องจัง
เซ็ง
=================================
“หวัดดี” จัสตินเอ่ยทัก พลางยิ้มให้เขินๆ เพราะก็ประหม่าอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่มายืนอยู่หน้าห้องคนที่ตัวเองยังไม่ค่อยสนิทนัก
“ มะ มา ได้ไง” เอมีน ตะกุกตะกักถาม
“ไม่รู้สิ อยากมามั้ง ขอเข้าไปข้างในได้หรือเปล่าล่ะ” คนโดนถามตอบแก้เก้อ ก่อนจะขอเข้าไปในห้องของคนที่ยืนอึ้ง พอฝ่ายนั้นหลีกทางให้ จึงรีบผลุบเข้าไปทันที
“ขะ ขอ ตัวเดี๋ยวนะ” เอมีนเอ่ยอีก เมื่อเห็นชัดๆว่าซุปเปอร์สตาร์คนดัง กำลังยืนอยู่กลางห้องตนตอนนี้ เด็กหนุ่มหลบหน้าคนดังเข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานสองนาน เพราะรู้สึกประหม่าจนทำอะไร เมื่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มาหากลางดึกแบบนี้
จัสตินมองสำรวจรอบห้องขณะโดนปล่อยให้อยู่ตามลำพัง สายตาเด็กหนุ่มไปสะดุดกับแผ่นซีดีที่มีรูปตัวเองอยู่บนปก จึงเดินไปหยิบขึ้นมาดู เขารู้สึกผิดขึ้นมานิดๆเมื่อนึกถึงภาพตอนที่เขาเขวี้ยงซีดีแผ่นนี้ลงพื้นต่อหน้าเจ้าของ
เด็กหนุ่มรีบวางมันลงที่เดิมทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก และคนอยู่ข้างในเดินออกมา
“จะขโมยอะไร” เอมีนหาเรื่องคุยแก้อาการประหม่า แต่มันดันทำให้คนฟังนึกฉุนจนต้องสวนกลับ
“ทั้งห้องนี่ มันมีอะไรน่าเอางั้นเหรอ”
“ทำไมชาวบ้านธรรมดาก็มีทรัพย์สินอยู่แค่นี้ จะไปเทียบอะไรกับคนดังระดับนายได้”
“เอาเข้าไปประชดเข้าไป ” จัสตินมองเอมีนอย่างนึกเซ็ง เขาไม่ได้มาชวนทะเลาะแต่เอมีนก็ทำให้เป็นเรื่องได้ทุกที
“แล้วนี่มาทำไม หลบนักข่าวมาเหรอ” เอมีนถามเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นสายตาแขกในห้องวูบไหวไป
“เปล่าไม่ได้หลบใคร แค่ผ่านมาก็เลยแวะมาหา”คนโดนถามตอบส่งเดช เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นบอกคนถามยังไงดี ถึงสาเหตุที่เขาต้องมาที่นี่
“คุณเนี่ยนะแวะมาหาผม ตายห่าไอ้เอมึงต้องฝันแน่ๆ” เอมีนอดประชดตัวเองไม่ได้
“ทำไมต้องฝันด้วยคิดอะไรกับผมงั้นเหรอ” จัสตินว่ากลับ
คนได้ยินถึงกับหน้าชา รีบแย้ง“คิดอะไรอย่ามั่วนะ”
“ก็ไม่ได้ว่า ไม่เห็นต้องรีบปฎิเสธเลยนิ” จัสตินยักไหล่ เขาก็ไม่ได้คิดว่าเอมีนจะรู้สึกเกินเลยกับเขาอยู่แล้วจากคำพูดที่ชวนหาเรื่องได้ทุกครั้งที่เจอ
“จะบอกได้หรือยังว่ามาทำไม นี่ผมแปลกใจมากเลยนะจัสติน” เอมีนเผลอเรียกชื่อ
ทั้งสองคนเผลอมองตากัน ก่อนจะต่างคนต่างหลบโดยที่เจ้าของชื่อเดินไปนั่งลงบนโซฟาริมระเบียงมองเหม่อไปยังท้องฟ้าด้านนอก
“ไม่รู้นะจะว่าผมบ้าก็น่าจะได้ ผมเหนื่อยและท้อกับสิ่งที่เป็นอยากจะมีใครปลอบใจแต่นึกไม่ออกว่าจะไปไหน”
เอมีนไม่อยากที่จะเข้าข้างตัวเอง แต่ก็นึกเห็นใจคนที่กำลังเหม่อมองไปบนท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย ตอนนี้คงกำลังเครียดอย่างหนักกับเรื่องราวที่เจอถึงออกอาการเพี้ยนได้ขนาดนี้ แต่คนเห็นใจก็ไม่รู้จะแสดงออกความรู้สึกตัวเองด้วยวิธีไหน ก็เลยพูดจาทำไม่สนใจตามฟอร์ม
“มาผิดที่แล้วมั้ง ผมปลอบใจใครไม่เป็นหรอกนะ”
“ก็ไม่เคยหวังอยู่แล้ว ว่านายจะเห็นใจคนอื่นเป็นมากกว่าเหน็บแนมไปวันๆ” จัสตินหันมาตอกกลับพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา นี่เขาคิดถูกหรือผิดที่มาหาคนๆนี้
“เออรู้ก็กลับไปซะจ ะได้นอนซะที” เอมีนหลุดปากไล่ เพราะฉุนขึ้นมา
“ก็นอนไปซี้ ใครเขาไปเอาไม้ถ่างตาไว้ไม่ให้นอน”
“นี่อย่ามาตลก จะให้ผมหลับได้ลงเหรอไง มีคนแปลกหน้ามานั่งหัวโด่อยู่ในห้องแบบนี้” คนฉุนว่าอีก
“งั้นผมไปอยู่นอกระเบียงก็ได้ คุณจะได้นอนตาหลับ” คนโดนว่าพูดกึ่งประชด พลางลุกเดินออกไปจริงๆ คนในห้องได้แต่มองตาม พลางคิดว่านี่มันเรื่องอะไรทำไมจัสตินถึงได้มาหาเขากลางดึกและก็มีท่าทีเพี้ยนๆแบบนี้
ความข้องใจที่มีทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินตามคนๆนั้นออกไป หัวใจแทบจะวายเมื่อเห็นจัสตินขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนระเบียงจึงเผลอตัวตะโกนบอก “เฮ้ยนี่นายบ้าหรือเปล่าไปนั่งทำไมข้างบน อยากตกลงไปตายหรือไง”
“กลัวทำไมทุกวันนี้ก็ตายทั้งเป็นอยู่แล้วนิ” จัสตินตอบแต่ไม่หันมามอง เอมีนใจเต้นรัวกลัวว่าคนไม่มองจะพลัดตกลงไปจริงๆ เพราะห้องเขามันอยู่ชั้นบนสุดของตัวตึก
“นี่ถ้าอยากจะระบายหรือคุยอะไรก็ลงมา อย่ามาทำเป็นพวกเรียกร้องความสนใจแบบนี้ นี่มันชั้นสิบนะไม่ใช่ชั้นสอง
ตกลงไปยังไงก็ไม่รอด หรือทุกวันนี้มันยังดังไม่พออยากลงหน้าหนึ่งอีกหรือไง”
“อยากให้ลงก็มาดึงหน่อยดิยืนทื่ออยู่ทำไม”จัสตินตะคอกกลับเมื่อโดนว่า
“นายมีปัญญาขึ้นไปแล้วไม่มีปัญญาลงมาก็ตกไปตายให้มันสิ้นเรื่องไปเลยละกัน” เอมีนเดินกลับเข้าห้อง
จัสตินส่ายหน้ามองตาม วันๆเคยแต่วิ่งหนีคนที่เข้ามาหาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตามใครก็ไม่รู้ที่รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน