[BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก  (อ่าน 104524 ครั้ง)

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มาต่อด่วนเลยน๊าาา

 :m25:

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ได้อ่านจากในหนังสือแล้วครับชอบๆ(ชอบทุกเรื่อง)

เป็นกำลังใจให้กับทั้งคนเขียนแล้วก็คนโพสนะครับ :m1:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อสักวันละ 2 โพสต์ได้ใหมอ่ะ โพสต์เดียวไม่จุใจเลย  :o8: :m23:

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
 :m1:

ผมชอบจังเรื่องนี้

ออฟไลน์ momo_2007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
I still waiting na krub..

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
มาแล้วหลังหายหัวไป อิอิ
=====================
-4-

“จัสติน โทรศัพท์”

อิ๋งอิ๋งยื่นโทรศัพท์ให้จัสตินขณะที่ฝ่ายนั้นพักซ้อมเต้น  ที่จริงเธอไม่อยากให้จัสตินรับสายด้วยซ้ำเมื่อเห็นว่าเป็นบาสโทรเข้ามา แต่ช่วงหลังเห็นว่าเด็กหนุ่มทำตัวเชื่อฟังดีขึ้นก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากว่าเจ้าตัวจะคุยกับคนเคยคุ้นเคย

“ใครพี่อิ๋ง” เจ้าของโทรศัพท์เอ่ยถาม พลางเช็ดเหงื่อที่พราวเต็มใบหน้า

“บาส”  เด็กหนุ่มชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อที่อิ๋งอิ๋งบอก

“บอกเขาว่าผมซ้อมอยู่แล้วกัน พี่อิ๋ง ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา”

“แน่ใจเหรอว่าจะไม่คุย” อิ๋งอิ๋งพยักหน้า ก่อนจะบอกบาสตามที่จัสตินต้องการ

“จัสตินเขาซ้อมเต้นอยู่น่ะ คงคุยด้วยไม่ได้”

“แน่ใจเหรอว่าเขาซ้อมอยู่” ปลายสายแย้งขึ้นมา

อิ๋งอิ๋งเหลือบมอง..คนซ้อมเต้น..ที่นั่งทำท่าไม่สนใจ สาวใหญ่นึกสงสัยว่าสองคนต้องมีปัญหาอะไรกันซักอย่าง แต่ก็บอกคนที่โทรเข้ามาด้วยคำพูดเดิม

“เขาซ้อมอยู่จริงๆค่ะ พี่จะโกหกไปทำไมคะ เอางี้แล้วกันจะฝากอะไรถึงเขาไว้มั๊ยคะหรือจะให้เขาโทรกลับ”

“บอกเขาด้วยแล้วกันว่ามันไม่มีผลดีหรอก ที่จะหลบหน้าผมแบบนี้” ปลายสายตอบกลับมา ก่อนจะตัดสายทิ้งไป   

อิ๋งอิ๋งถอนหายใจอีกครั้ง นึกอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้คนของเธอเลิกติดต่อกับคนรักได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอห้ามเท่าใหร่ก็ไม่ได้ผล

“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าจัสติน”สาวใหญ่เอ่ยถาม แต่คนโดนถามทำไม่รู้ไม่ชี้

“ปัญหากับใครเหรอ”

“เธอก็รู้ว่าพี่หมายถึงใคร”

“บาสเหรอ”

“ใช่”

“ก็เปล่านี่ ข่าวออกไปว่าผมมีคู่ขา ผมก็แค่อยากให้ข่าวมันเงียบเท่านั้นเอง”

“เธอกำลังโกหกพี่นะ”

“แล้วพี่อิ๋งรู้อะไรล่ะ”

“ก็รู้ว่าเธอโกหกไง”

“จะอะไรก็ช่างเถอะนะพี่อิ๋ง เอาเป็นว่าตอนนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบาสอีกแล้ว พี่อิ๋งน่าจะดีใจนะ”

“จบแล้ว เขาจะจบกับเธอด้วยหรือเปล่า ฟังที่เขาพูดเมื่อกี้มันส่อเค้าปัญหามาเลยนะ”

“นี่พี่อิ๋งอิ๋งเปลี่ยนอาชีพเป็นแม่หมอแล้วเหรอเนี่ย”

“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาตลกเลยนะ จัสติน พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอจะต้องมามีปัญหาในช่วงที่ทางค่ายโน้นเขากำลังปั้นเด็กมาชนกับเธอด้วยนะ”

“คิดมากน่า พี่อิ๋ง ผมก็อยู่ส่วนผมเขาก็อยู่ส่วนเขา มันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้วใช่ว่าในวงการผมมีสิทธิ์ออกเทปคนเดียว”

“เออทำพูดดีไปเหอะ ระวังจะจมไม่รู้ตัว”   อิ๋งอิ๋งทิ้งท้ายเอาไว้ เธออยู่วงการมานานคาดเดาอะไรไม่ค่อยจะผิดนัก  จั

สตินได้แต่มองตามร่างผู้จัดการสาวที่เดินแยกไป  เด็กหนุ่มส่ายหัว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดจะให้เขาบังคับคนทั้งประเทศชื่นชอบเขาเพียงคนเดียว มันก็ใช่เรื่อง พอคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้จบไป เขาคิดว่ากระแสของเขาก็คงจะซาลงไปบ้าง และเขาคงจะพักเรื่องงานไว้ซักพักแล้วกลับไปเรียนต่อหลังจากที่พักมันเอาไว้ตอนช่วงทำเพลง

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เข้ามาชวนคนโพสต์ไปเที่ยวจ้า

ไปเปล่าตะเอง

ไม่มีตะเอง  เค้าไม่รุ้จะไปกอดใคร

แงๆๆๆๆๆ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอตอนต่อครับผม  :m1:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
โทษทีครับ มาต่อช้าไปหน่อย
=============================

ภาพงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้มของฟิลิป ตรึงสายตาของเอมีนไว้เนิ่นนาน

ฟิลิบในวันนี้แตกต่างจากเด็กหนุ่มใสๆธรรมดาที่เขาเคยเจอในวันแรกตอนประกวดโครงการเดียวกัน  ทั้งรูปลักษณ์ บุคลิก ถูกต้นสังกัดสร้างขึ้นมาเพื่อต้านกระแสจัสตินโดยเฉพาะ จึงไม่แปลกที่ภาพข่าวที่เอมีนเห็นไม่ต่างอะไรเลยกับวันเปิดตัวอัลบั้มแรกของจัสติน

ทางด้านฟิลิป หลังเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับงานชิ้นแรกของตัวเองเสร็จก็โดนแฟนคลับรุมล้อม ผสมกับกองทัพนักข่าวรุมสัมภาษณ์  มันเป็นภาพที่ผู้บริหารหนุ่มใหญ่อย่างเมทีพอใจอย่างที่สุด

“มันต้องอย่างนี้สิธีระผมมองคนไม่ผิดจริงๆ”

หนุ่มใหญ่หันไปเอ่ยกับคนปั้นฟิลิปยิ้มๆ โดยไม่ได้สนใจว่าพีรพลกำลังยืนมองภาพนั้นอยู่อย่างหงอยๆ

         


เอมีนวางไมค์แล้วเดินออกจากร้านคาราโอเกะ เมื่อใช้เวลาเข้ามาร้องระบายอารมณ์นานหลายชั่วโมง ส่วนลึกของเด็กหนุ่มยังคงมีความหวังลมๆแล้งๆ ว่าจะมีโอกาสไปยืนในจุดที่เขาเห็นฟิลิปยืนอยู่อย่างสง่า แต่ในความเป็นจริงเขาหมดสิ้นกำลังใจตั้งแต่โดนวิจารณ์เละในวันประกวดพร้อมๆกับฟิลิปแล้ว

“เฮ้!! นายคุยกันก่อนได้มั๊ย”

เสียงเรียกทัก ขณะที่คนหมดกำลังใจเดินเตะเท้าอย่างเซ็งๆไปตามฟุตบาธ ทำให้เขาหยุดเดินแล้วหันไปมองคนเรียก 

ใคร ? เด็กหนุ่มเกิดคำถามขึ้นในใจเมื่อไม่รู้จักคนที่เดินมาหยุดยิ้มตรงหน้า แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามคนๆนั้นก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กสี่เหลี่ยมให้เขา เด็กหนุ่มรับมาดูจึงรู้ว่าเป็นนามบัตร มันทำให้เขาอึ้งและแปลกใจขึ้นมาทันทีกับ ชื่อ / ตำแหน่งและต้นสังกัดของเจ้าของนามบัตรที่โชว์อยู่
 
“โปรดิวเซอร์ของเรย์เหรอ” 

คนอึ้งเอ่ยถามทั้งๆที่รู้แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เขาก็เป็นแฟนเพลงคนหนึ่งของเรย์เหมือนกันนี่  เท่าที่รู้งานทุกชุดอยู่ในความดูแลของคนตรงหน้าแทบทั้งสิ้น

“น้อยคนนะ ที่จะสนใจคนเบื้องหลังมากกว่าศิลปินที่ตนชื่นชอบ”

พีรพลบอกยิ้มๆ เขานั่งสังเกตเด็กหนุ่มนี่อยู่นานภายในร้านคาราโอเกะ เจ้าตัวคงไม่รู้สินะว่าเขา นั่งเก็บรายละเอียดขณะที่เจ้าตัวกำลังโชว์พลังเสียงในบทเพลงที่ร้องยากเพลงนึง

“หาที่คุยดีกว่ามั๊ย พี่มีอะไรอยากคุยกับเรา”

พีรพลเอ่ยชวนต่อ เมื่อเห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มที่ยืนทำหน้างงตอนนี้ คงจะเป็นตัวช่วยให้เขากลับมาทำผลงานเด่นๆอีกครั้ง  ซึ่งมันคงจะไม่ยากเกินไปนัก ก็เมื่อครู่เขามองเห็นบางอย่างในตัวคนๆนี้ที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น 

เอมีนรู้สึกงงๆแต่ก็ยอมเดินตามพีรพลที่ออกเดินไปก่อน ซึ่งคนเดินนำ นำเขากลับเข้าไปในร้านเดิม

“ผมเพิ่งออกไปจากร้านนี้”

เอมีนบอกคิดว่าพีรพลคงไม่รู้ แต่เมื่อได้เข้าไปในนั่งในโต๊ะที่เหมือนมีคนนั่งมาก่อนแล้วจึงเริ่มที่จะเอะใจ

“อย่าบอกนะว่าพี่ก็นั่งอยู่ในร้านก่อนหน้านี้”

เด็กหนุ่มถามขึ้น พีรพลพยักหน้ายิ้มก่อนจะชวนคนถามนั่งลงที่โต๊ะ แล้วมองเขาไปในแววตาเด็กหนุ่ม

“คุ้นหน้าเหมือนกันนะเรา”

“ก็ผมเคยประกวดโครงการของค่ายพี่น่ะ” เอมีนตอบเขินๆ

“เสียดาย งานนั้นพี่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการตัดสิน”

“แล้วไงเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

พีรพลไม่ตอบคำถามเมื่อครู่ ก่อนจะบอกให้คนตรงหน้าร้องเพลงให้ฟังซักเพลง เมื่อเห็นเจ้าตัวทำท่าจะถามอะไรเขาต่อ  เอมีนมองคนบอกให้ตนร้องเพลงให้ฟังอย่างงๆ แต่ก็จับไมค์มาร้องอย่างง่ายดาย เมื่อพีรพลจัดการเลือกเพลงให้  เด็กหนุ่มไม่อยากจะคิดว่านี่เป็นการทดสอบการร้องสดๆจากโปรดิวเซอร์อันดับต้นๆของประเทศ  แต่ในเมื่อมีโอกาสที่จะร้องให้คนทำเพลงผีมือดีคนนี้ได้ฟังชัดๆเขาเลยมีรีรอที่จะโชว์พลังเสียง
   
ท่วงท่าลีลาที่เข้ากับน้ำเสียงและบุคลิกที่เป็นตัวของตัวเองของคนที่กำลังร้องเพลง ทำให้พีรพลมองอย่างพอใจ ในที่สุดเขาก็เจอคนที่จะดึงชื่อเสียงเขากลับคืนมา เพราะเมื่อเขาลองมองเทียบดูแล้ว พื้นฐานเบื้องต้นของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่เหนือกว่าฟิลิปหลายเท่านัก

ชายหนุ่มเริ่มแปลกใจว่าทำไมการประกวดครั้งนั้นเด็กคนนี้ถึงไม่เข้าตา  แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วเขาไม่อยากจะคิดในเมื่องานนั้นเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  แต่ครั้งนี้ งานนี้เขาจำเป็นที่จะต้องเกี่ยวข้อง  มันก็ท้าทายอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าเขาจะปั้นเด็กซักคนเพื่อพิสูจน์ว่าฝีมือเขาไม่ได้ตกลงไปซักเท่าไร  ฟิลิปกับเด็กหนุ่มตรงหน้านี้น่าจะได้ลองกันซักตั้ง ในสายตาเขาตอนนี้ เด็กนี่ก็มีดีไม่น้อยไปกว่าใคร ซึ่งมันก็ไม่แน่หรอก คนที่จะล้มจัสตินลงได้อาจจะไม่ใช่ฟิลิป แต่อาจเป็นคนๆนี้ก็ได้  ใครจะรู้

“พรุ่งนี้เข้าไปหาพี่ที่บริษัทนะ พี่ว่าเราคงได้ร่วมงานกัน”

พีรพลบอกออกไป เมื่อฟังพลังเสียงจากหนุ่มน้อยตรงหน้าจบลง ชายหนุ่มเห็นคนที่ฟังสิ่งที่ออกจากปากเขาเมื่อครู่พยายามสลัดหัวหลายครั้งก็นึกขัน โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่ออกอาการเช่นนั้น กำลังไม่เชื่อหูตัวเองกำสิ่งที่ได้ยิน


ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มารอตอนต่อไปคร้าบ  :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้สนุกดีนะครับ แต่ยังจับคู่ไม่ค่อยถูกเลย   :m23:

แต่เดาว่า เอมีน คงคู่กับ จัสติน เนอะ  :o8: :o8:

ส่วนฟิลลิป น่าจะเป็นตัวร้ายยยยยยยย   o12

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
มาล่ะครับ ทันไปทานข้าวกลางวันพอดี
============================
ธีระมองลอดผ่านกระจกจากด้านล่างของตัวตึก ขณะกำลังจะขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นทำงานของตัวเอง  ชายหนุ่มเห็นร่างๆหนึ่งยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าทางเข้าบริษัทนึกคุ้นหน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ใหนเพื่อความกระจ่างจึงเดินออกไปหาคนๆนั้น

“ยืนเก้ๆกังๆมาหาใครที่ตึกหรือเปล่าเรา” 

เอมีนสะดุ้งกับเสียงทักตกใจนิดหน่อย เมื่อหันมาเห็นธีระยืนจ้องมองเขาอยู่  ขี้เก๊กชมัด……เด็กหนุ่มนึกคิดเมื่อเห็นท่าทีของธีระ แต่ก็ยกมือไหว้

“หวัดดีครับ ผมมาหา เอ่อ......คุณพีรพลน่ะ”

“พีรพล…มาหาทำไม” ธีระหรี่ตาถามคนบอกจุดประสงค์ 

เอมีนอึกอัก เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาหาทำไม ในเมื่อพีรพลบอกให้เขามาเขาก็มา

“ก็คุณพีรพลนัดผมมา ผมก็มาไม่รู้เหมือนกันว่าเขานัดผมมาทำไม”  คนอึกอักบอกโดยไม่สนใจว่าคนได้ยินกำลังมองเขาอย่างครุ่นคิด

“แล้วเราไปรู้จักหรือเจอกับพีรพลที่ไหน”

“ร้านคาราโอเกะ”

เอมีนบอกตามจริง เห็นธีระยิ้มเยาะออกมาหน่อยๆก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่แย้ง จนธีระต้องบอกออกมาเองว่าที่เขายิ้มเยาะนั่นเพราะอะไร

“นึกออกแล้วว่าเคยเห็นนายที่ไหน ที่แท้ก็เซียนคาราโอเกะวันประกวดนี่เอง”

“ดีใจจังที่ยังจำผมได้” เอมีนประชดเมื่อเห็นธีระหัวเราะไม่หยุด

“ก็บุคลิคแบบนายมันจำไม่ยากหรอก มันไม่มีอะไรให้ต้องค้นหา สงสัยจังว่าพีรพลนัดเธอมาทำไม ถ้าจะเอานายมาเทสต์เสียง สงสัยว่าเขาคงต้องหมดทางไปแล้วแน่ๆ” 

เอมีนแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าตัวตนที่แท้จริงของโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่างธีระ จะดูถูกเพื่อนร่วมสายงานเดียวกันยิ่งสายตาที่มองมาที่เขา มันทำให้เขาถึงกับหน้าร้อนผ่าวเพราะมันบ่งบอกถึงอาการดูถูกอย่างชัดเจน เด็กหนุ่มถึงขัดขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“แต่ผมว่าคุณพีรพลเขาสร้างผลงานที่ดีและเป็นที่ยอมรับมาก่อนคุณนะ”

“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้อะไรมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ถ้าจะมัวงมโข่งอยู่กับที่ก็น่าจะเห็นผลแล้วนะกับงานชิ้นล่าสุดของเขา”

“นี่คุณหมายถึงงานของเรย์เหรอ”

“อ้าวยังรู้เหรอว่าเรย์ออกอลบั้มแล้ว นึกว่าไม่มีใครรู้ซะอีก” 

เอมีนถึงกับสะอึก นี่ถ้าเรย์หรือพีรพลมาได้ยินถ้อยคำนี้จากปากของธีระ คนพวกนี้ยังจะทำงานอยู่ตึกเดียวกันได้อีกหรือเปล่า  คนในวงการนี่มันสร้างภาพได้แม้กระทั่งคนเบื้องหลังเลยหรือไง

“คุยกับใครอยู่ พี่ธี”

ฟิลิปเดินลงมาจากตัวตึก เมื่อเห็นธีระกำลังคุยอยู่กับบางคนอยู่นาน เขาหันไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าธีระก่อนจะทัก

“อ้าว!! นายนี่เอง”

“รู้จักกันด้วยเหรอ” ธีระหันไปถามฟิลิป

“ไม่ได้เป็นการส่วนตัวหรอก แค่เพื่อนร่วมโครงการพี่ธีก็น่าจะเคยเห็นนี่” ธีระเงียบฟิลิปจึงหันไปหา..คนรู้จัก...

“เออแล้วนี่นายมาทำไม”

เอมีนนึกฉุนขึ้นมาทันทีนึกคิดว่าทำไมคนคู่นี้ต้องถามเป็นเชิงว่าเขาไม่ควรที่จะมาที่นี่ เด็กหนุ่มก็เลยตอบกลับอย่างมีอารมณ์

“ไม่ได้มาหาพวกคุณสองคนหรอก คงไม่ว่านะถ้าผมจะเข้าไปหาประชาสัมพันธ์ด้านใน” 

พูดจบคนมีอารมณ์ก็เดินแหวกตรงกลางระหว่างสองคนตรงหน้าเข้าไปในตัวตึก  จริงๆนึกขอบคุณสองคนนั่นที่ทำให้เขาโกรธจนกล้าที่จะเดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์ด้านในได้อย่างไม่ประหม่า

“ติดต่อเรื่องอะไรค่ะ” ประชาสัมพันธ์ถามเสียงหวานเมื่อเอมีนแจ้งชื่อคนที่เขาต้องการพบแล้ว แต่ไม่ทันที่เอมีนจะตอบธีระก็เดินเข้ามาซะก่อนพร้อมๆกับฟิลิป

“ไปด้วยกันสิ พีระพลอยู่ชั้นเดียวกับฉัน” คนบอกเดินนำไปก่อน

เอมีนมองตามอย่างไม่ค่อยชอบในท่าทางวางมาดขรึมนั่นจนฟิลิปเดินมาพูดข้างหู

“แล้วจะยืนทำอะไรล่ะตามพี่เขาไปดิ”

“แล้วมันขวางทางนายหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ตามโปรดิวเซอร์นายไปก่อนดิ” เอมีนมองหน้าฟิลิปอย่างท้าทาย เขาไม่ค่อยชอบหน้านายนี่มาตั้งแต่วันแรกที่เห็นแล้ว  ถึงวันนี้เจ้าตัวกำลังจะกลายเป็นคนดังเขาก็ไม่สน   

ฟิลิปแกล้งเดินชนเขานำไปก่อนด้วยรอยยิ้มหยันๆ เอมีนเพิ่มความขุ่นเคืองเป็นสองเท่าแต่ก็จำใจเดินตามคนเย้ยหยันไปจนเข้าไปอยู่ในลิฟท์กันสามคน

ธีระก็ชวนฟิลิปคุยเรื่องงานไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าเอมีนจะยืนรับฟังอยู่ด้วย มีแต่ฟิลิปเท่านั้นที่ปรายตามามองเขาเรื่อยๆ แต่เด็กหนุ่มก็ทำไม่สนใจจนลิฟท์เปิดออกเขาเลยต้องก้าวตามคนทั้งสองไป
    

คนหน้าใหม่ใจหวิวขึ้นมาเฉยๆเมื่อเดินตามคนทั้งสองไป จนถึงหน้าห้องที่เป็นกระจกใสสามารถมองเข้าไปเห็นด้านในที่แบ่งเป็นส่วนๆ โต๊ะใครโต๊ะมัน เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่าใครทำหน้าที่อะไร ตอนนี้เขาประหม่าจนไม่กล้าที่จะก้าวตามธีระเข้าไปในห้องนั้นจนฟิลิปหยุดหันมามองเขา

“ไงทีนี้ทำเป็นกลัวเหรอ ไม่มีใครเขากัดหรอก ถ้านายไม่ได้โกหกหรือโมเมเอาชื่อพี่พลมาอ้างเพื่อจะเข้ามาในนี้”

“ผมจะทำอย่างงั้นเพื่ออะไร” เอมีนตวาดเสียงตอบ ฟิลิปยักไหล่ทำท่าทีกวนๆ

”ใครจะไปรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ บางทีนายอาจจะมาสมัครเป็นนักร้องก็ได้ แต่คงต้องรอไปก่อนนะ รอสมัครโครงการของฉันก็แล้วกัน”

“ตลกว่ะ ต้นฉบับจะร้องภาษาไทยชัดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ยังกล้าที่จะเป็นต้นแบบอีกจะรอดเร้อ”

เอมีนเอ่ยสวน ก่อนจะมองฟิลิปอย่างเหยียดๆเพราะเหลืออดกับท่าทีเจ้าตัวเต็มทน

“ปากดีนะมึง”

ฟิลิปสบถ ก่อนจะตรงเข้าหาคนปากดี

“แล้วมึงจะทำไม”

เอมีนมองอย่างท้าทาย ไม่กลัวซักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มลืมว่าตัวเองเป็นคนหน้าใหม่ในตึกนี้ไปชั่วขณะ

“อ้าวเอมีนมาแล้วเหรอ”

เสียงพีรพลที่ทัก หยุดคนทั้งสองให้ละสายตาจากกันก่อนที่คนทักจะเดินมาถึงเด็กตัวเอง ฟิลิปยกมือไหว้คนมาห้ามทัพ ก่อนจะมองคาดโทษคนปากดีแล้วเดินหนีไป

“ไปคุยกันที่ห้องพี่ดีกว่าเอมีน”

พีรพลหันไปชวนเอมีน เมื่อฟิลิปเดินห่างไปแล้ว  เด็กหนุ่มเดินตามคนชวนเมื่อฝ่ายนั้นออกเดินนำไปก่อน

ระหว่างทางเผอิญว่าต้องผ่านหน้าธีระก็เลยอดที่จะมองไม่ได้ เด็กหนุ่มเจอสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามทันทีแต่ไม่สนใจจึงละสายตาแล้วเดินตามคนที่เขามาหาเข้าไปในห้อง

“มันมาทำไม พี่ธี”

ฟิลิปเดินมาถามโปรดิวเซอร์เขา หลังเห็นเอมีนเดินหายเข้าไปในห้องพีรพล

“ไม่รู้อย่าสนใจเลยเรา มากับพี่ดีกว่ามีหลายเรื่องที่ต้องคุย”

ธีระบอกแล้วเดินนำไปที่ห้องของตัวเองบ้าง ในขณะที่ฟิลิปยังคงมองไปที่ห้องที่เอมีนหายเข้าไป นึกอยากรู้ว่าเจ้าตัวเข้าไปคุยอะไรในนั้น

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
'เม้นท์คนแรก เพราะคนอื่นทานข้าวกันอยู่ อิอิ

โพสต์บ่อยๆ นะครับ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มเผยโฉม ฝ่ายดี-ฝ่ายร้ายแล้วล่ะ  :m4:  :oni2:

แอบเชียร์ พีรพลและเอมีน ให้คว่ำนายฟิลลิปกับธีระ ลงให้ราบคาบเลย  :o :serius2:

แล้วก็เอมีนและจัสติ  :o8: :m1:

ออฟไลน์ momo_2007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอครับ รอ รออ่านต่ออยู่นะครับ อยากให้ต่อยาวๆกว่านี้จัง

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 เห็นแววของการแก้แค้นเอาคืนลางๆแล้ว ล่ะสิเนี่ย

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
วันนี้มาต่อจึ๋งเดียว
เด๋ววันพรุ่งนี้ สัญญาว่า จะยาวววววววขึ้น ครับ
======================

หลังซ้อมเต้นเสร็จ จัสตินแยกตัวเพื่อจะกลับบ้านคนเดียวเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะไปใหน 

จากวันเกิดเรื่องจนวันนี้ เขายังไม่ไปเจอหน้าบาสอีกเลย เขาเสียความรู้สึกไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นบาสเปลือยเปล่านัวเนียอยู่บนเตียงกับใครที่เขาไม่รู้จัก 

เด็กหนุ่มขับรถไปเรื่อยจนความมืดเข้ามาปกคลุม นึกอิจฉาที่เห็นคนทั่วไปเดินเล่นไปตามริมถนนฟุตบาธ เขาเองก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่ติดที่ตอนนี้ทางต้นสังกัดวางภาพเขาไว้สูงเกินกว่าที่จะไปทำอะไรที่เสี่ยงต่อการเสียภาพพจน์   

ภาพของคนที่กำลังยืนรอที่จะข้ามถนนทำให้จัสตินต้องเหยียบเบรกจนดังสนั่น เมื่อเขาเกือบจะขับรถพุ่งชนไปที่ร่างนั้นด้วยเพราะการใจลอย   ผู้คนต่างหันมามองภาพของเอมีนยืนนิ่งตัวสั่นอยู่หน้ารถคันใหญ่ที่ติดฟิล์มมืดไม่มีใครรู้ว่าคนนั่งในรถนั้นเป็นใคร  แต่คนในรถสามารถที่จะมองเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังจะขับรถพุ่งชนกำลังยืนปาดเหงื่อตัวเอง

“นายนั่นนี่หว่าเอาไงดีวะ”

จัสตินนึกชั่งใจเมื่อเห็นและจำได้แล้วว่าคนตรงหน้ารถเขาเป็นใคร ใจก็อยากที่จะลงไปพูดกับเจ้าตัว แต่ติดที่ตอนนี้คนกำลังมุงดูกันเต็ม   เอมีนเดินตรงไปยังประตูฝั่งคนขับ จัดการทุบกระจกรถทันที เพื่อที่จะคุยให้รู้เรื่องที่คนในนั้นเกือบจะทำให้เขาเป็นผีเฝ้าถนน

“ไอ้นี่มันไม่ยอมใครเลยจริงๆ”

จัสตินบ่นก่อนสูดลมหายใจแล้วยอมเลื่อนกระจกด้านข้างลงเล็กน้อย เด็กหนุ่มยักคิ้วเจ้าเล่ห์ให้คนเคาะกระจกแก้เก้อ เอมีนเห็นใบหน้าคนที่จะขับรถชนตนเต็มตาก็อึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะได้สติเมื่อได้ยินฝ่ายนั้นเอ่ยขึ้นมาว่า

 “ไง!! จะเอาเท่าใหร่ล่ะนาย”

“นี่นายเองเหรอ”

เอมีนทักกลับ ฉุนกับคำพูดที่เรียกสติตนเมื่อครู่อยู่ไม่น้อย

“พรหมลิขิตมั้ง ไม่ดีใจเหรอ”

จัสตินเอ่ยกวนประสาท รู้สึกโล่งใจอยู่ลึกๆที่เห็นคู่กรณีเป็นตนที่เขาเคยพูดเคยจาด้วย แม้จะยังไม่รู้จักชื่อก็ตาม  เอมีนชักสีหน้าไม่พอใจ  คนในรถจึงยักคิ้วให้อีก ปากกำลังจะเอ่ยกวนประสาทต่อ แต่มองเห็นผู้คนที่เริ่มๆจะมองอย่างสนจึงออกอึดอัดแทน

“กลัวเป็นข่าวอ่ะดิ โธ่เอ้ย นึกว่าแน่”เอมีนว่าเข้าให้ เมื่อจับอาการคนในรถได้

“นี่นายไม่ได้มาเป็นอย่างเรา ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าพูดดีกว่า” จัสตินตอบเครียดๆ

“พอเหอะ ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว นายน่ะได้เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ มันจะมีอะไรให้ทุกข์ใจเลิกสร้างภาพได้แล้ว”

เอมีนต่อปากอย่างไม่ยอมเช่นกัน

“เออ ฝากไว้ก่อนเหอะ”

จัสตินชี้หน้าคนต่อปากก่อนจะรีบขับรถหนี ก่อนที่จะมีใครเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของรถที่เกือบจะขับชนคนตาย

เอมีนมองตามไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่ส่วนลึกนึกอยากที่จะพูดคุยดีๆกับนักร้องคนโปรดแต่ปากกับใจก็ดันไม่ตรงกันจนได้

“ไม่น่าให้บัตรมันเลยให้ตายสิ”

จัสตินบ่นขณะขับรถไปเรื่อย เด็กหนุ่มเริ่มไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องแคร์คำพูดของคนที่ต่อปากต่อคำเขาเมื่อครู่ด้วย ที่ว่าเขาเป็นคนสร้างภาพ  นี่เขาแคร์ความรู้สึกของคนที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งสองครั้งเองเหรอ มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของเค้ากันแน่นะ

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พรุ่งนี้ขอยาวๆนะค๊าบ

 :m1:

ขอบคุงค๊าบบบ

ออฟไลน์ momo_2007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอ ครับ รอ อย่าลืมน้าาา พุ่งนี้ ยาวววววววววววววๆๆๆๆๆๆ นะคับ คิคิ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
พรุ่งนี้ยาวจริง ๆ นะครับ ติดตามตลอดเลย

เมื่อไหร่ นายเอก กับ พระเอก จะญาติดีกันเนี่ย  o12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
งอนๆๆๆ ดีมั๊ยเนี่ย
มีแต่คนอ่าน ไม่มีคนโพสตอบ

ฮือ ..... เศร้า

ออฟไลน์ ลูกลิงตัวอ้วน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ติดตามอยู่ครับ

 :pig4: :pig4: :pig4:

artkung

  • บุคคลทั่วไป
งานนี้คงเป็นกระประชันนักร้อง 3 คนแน่เลย น่าสนุกดีนะครับ

เชียร์ จัสตินกับเอมีน นะครับ

พวกตัวร้ายคงเป็น ฟิลิปกับโปรฯ ของเค้าแน่เลย อ้อ แล้วก็บาสไรนั่นด้วย

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทะเลาะแล้วก็คู่กัน อิอิ

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
วันนี้มาแบบ ชิวๆ เรื่อยๆ แต่จะลงยาวววววววหน่อยตามที่สัญญาครับ
==============================
- 5 -

“ในที่สุดฝันของมึงก็เริ่มมีเค้าแล้ว ไอ้เอเอ้ย”

เอมีนบอกกับตัวเองแล้วนอนแผ่หราลงบนที่นอนอย่างอารมณ์ดี เมื่อหวนนึกถึงตอนที่พีรพลบอก สนใจที่จะให้เขาได้ทำเพลงหลังจากที่ได้ร่วมพูดคุยกันกับเขานานหลายชั่วโมง

เด็กหนุ่มยอมรับว่าพีรพลทำงานได้อย่างละเอียดมาก เรื่องราวที่เกี่ยวกับเขาทุกๆอย่างถูกซักไซร้กันจนหมดเปลือก ที่ต้องทำแบบนั้นพีรพลบอกเพราะต้องการที่จะหาจุดเด่นของเขา เพื่อที่จะได้นำไปเสนอกับเจ้าของค่ายอย่างเมทีที่ตอนนี้กำลังดันส่งฟิลิปกัน จนลืมไปว่าในค่ายมีนักร้องอีกหลายคนที่ได้ออกอัลบั้มช่วงเดียวกับฟิลิป

“คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะ เพราะคุณเมทีเขาค่อนข้างที่จะให้โอกาสเด็กใหม่ๆเสมอ ดูอย่างฟิลิปสิ ดันกันจนดังจนได้”

“แต่ผมต่างจากฟิลิปนะ”

“ก็นั่นไงถึงบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะถ้าเราไปเหมือนกับฟิลิปนี่สิปัญหา เพราะพี่ก็ไม่รู้จะไปเสนอคุณเมทียังไงในเมื่อฟิลิปก็มีอยู่แล้ว เอมีนน่ะมีบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็นอย่างที่พี่เห็น นั่นคือการยอมรับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเชื่อมือและไว้ใจพี่ ถึงเวลาแล้วล่ะที่พี่จะทำงานใหม่ๆที่ไม่เคยทำ ถ้าคุณเมทีเห็นด้วย”

เอมีนรู้สึกดีที่พีรพลยอมรับได้ในสิ่งที่เขาเป็น เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องราวใดๆกับพีรพลเลย เพราะถ้าเขาจะประสบความสำเร็จในการตามฝันครั้งนี้ มันก็ต้องมาจากตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ใช่มาจากการสร้างภาพหลอกตัวเองและคนที่ชื่นชมผลงานของเขา



“อะไรที่คุณคิดว่าจะปั้นเด็กคนนี้ พีรพล”

คำถามแรกที่หลุดออกจากของเมทีทำเอาพีรพลอึ้ง แต่ก่อนเขาแทบจะไม่ยินคำถามนี้เลยไม่ว่าเขาจะเสนองานชิ้นไหน ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

“ผมว่าเอมีนมีความน่าสนใจอยู่ในตัวนะ เพียงแต่เขายังไม่มีที่ๆจะให้เขาแสดงออกเท่านั้น”

ชายหนุ่มบอกตามความคิดที่เขามองเอมีน แต่ก็ใช่ว่าผู้บริหารจะเห็นด้วยนัก

“อะไรล่ะ  ถ้าเด็กนั่นน่าสนใจจริงก็น่าจะผ่านรอบแรกของการประกวดโครงการที่แล้วของเราแล้ว แต่นี่ รอบแรกก็ไม่ผ่านด้วยซ้ำ”  

เมทีบอกพลางเลื่อนแฟ้มประวัติเอมีนส่งคืนให้กับพีรพล ในนั้นเอมีนได้กรอกรายละเอียดว่าเขาเคยผ่านการประกวดมากี่ที่ ถึงแม้แต่ละที่มันจะไม่ได้ดังที่คิดก็ตาม

“อันนั้นผมไม่รู้หรอก งานส่วนนั้นมันไม่เกี่ยวกับผม” พีรพลบอกปัดเพราะเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวตรงส่วนนั้น  จริงๆมันเป็นช่วงที่เขาทำเพลงให้กับเรย์

“ถ้างั้นผมคงต้องขอคิดก่อนนะ เพราะตอนนี้บอกตรงๆผมค่อนข้างหวังกับฟิลิปมากในการเรียกความนิยมกลับมาให้เรา เอาไว้จบเรื่องนี้เมื่อใหร่เราค่อยมาคุยกันอีกที”

“อย่างงั้นเราก็ให้เอมีนเซ็นสัญญาไปก่อนสิ เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทำเพลงให้ใคร ผมจะได้เริ่มที่เอมีนเพราะถ้าเอมีนไม่เซ็นสัญญา ผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้”

พีรพลรีบแย้งเมื่อเขาไม่อยากปล่อยเวลาให้นานเกินไป เพราะดูท่าแล้วเรื่องการโปรโมทฟิลิปคงไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะตอนนี้จัสตินยังไม่ได้รับผลกระทบต่อกระแสของฟิลิปเลยซักนิด ตรงกันข้ามตอนนี้ทุกสื่อยกให้เด็กนั่นเป็นซุปเปอร์สตาร์คนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

“นักร้องเราที่ว่างอยู่ก็หลายคน ทำไมไม่คิดที่จะสนใจทำงานให้เขาบ้างล่ะ พีรพล”

“ผมยินดีทำให้ถ้าคุณเมทีสั่ง”  

พีรพลจ้องลึกไปในแววตาเมทีเป็นเชิงบอกว่า เป็นเพราะเมทีไม่เชื่อฝีมือเขาแล้วต่างหากล่ะ เขาถึงไม่กล้าที่จะทำอะไรในเมื่อตอนนี้ธีระได้กลายเป็นโปรดิวเซอร์มือหนึ่งของค่ายไปแล้ว

“แล้วผมสั่งให้คุณหาเด็กใหม่มาตอนไหนล่ะ ผมไม่ได้สั่งคุณก็ยังทำได้ จะกลัวอะไรล่ะถ้าคุณเสนอที่จะทำเพลงให้กับนักร้องเราคนไหน ผมว่ามันง่ายกว่าที่คุณจะไปจับเด็กที่ดูประวัติแล้วไม่น่าจะรอดมาทำเพลงให้ผมอนุมัตินะ”

“นั่นแหละคือสิ่งที่น่าสนใจของเอมีน ทุกคนคิดว่าเขาไม่มีอะไรน่าสนใจ เขาถึงไม่ได้แสดงตัวตนเขาซักที”

“ดูคุณจะมั่นใจในตัวเด็กคนนี้จังเลยนะ พีรพล”

“ก็เหมือนที่หลายคนมั่นใจในตัวฟิลิปไง”

“นี่คุณหมายรวมถึงผมด้วยงั้นหรือ”

“ผมไม่กล้าหรอก เพียงแต่เราน่าที่จะลองมองหาตัวเลือกเผื่อบ้างนะ เพราะตอนนี้จัสตินและทางโน้นเขาก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆเลยนะ”

“เทปของฟิลิปยังไม่ได้วางแผง มันยังตัดสินอะไรไม่ได้หรอกนะ พีรพล อีกอย่างงานเปิดตัวและMVเขาก็ฮือฮาอยู่ไม่ใช่เหรอคุณก็เห็น”

“และถ้าผมบอกว่าผมเห็นแววที่อาจจะไม่รุ่งของฟิลิปด้วยล่ะ”  

ที่พีรพลกล้าพูด เพราะเขามองแวบแรกเขาก็เห็นจุดด้อยบางอย่างของฟิลิป แม้ตัวงานจะออกมาดีในระดับหนึ่งในสายตาของเขา เขาก็ยอมรับนะว่าธีระมีฝีมือมากในการเร่งรัดทำเพลงให้เสร็จก่อนกำหนดครั้งนี้ แล้วผลงานไม่ได้ออกมาอย่างลวกๆ  

แต่กับตัวศิลปินแม้โปรดิวเซอร์อย่างธีระจะบอกใครต่อใครว่าฟิลิปมีความเป็นศิลปินอยู่สูง แต่ในสายตาเขามันเป็นแค่ภาพที่สร้างขึ้น ในขณะที่ตัวตนจริงๆของฟิลิปแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโดดเด่นทำให้เขาเป็นคนที่น่ามอง

“แต่งานของธีระ ผมว่าไม่ค่อยทำให้ผมผิดหวังนะ พีรพล”

“ผมไม่ได้หมายถึงตัวงานนี่”

“งั้นคุณก็หมายถึงฟิลิป”

“จะว่าอย่างงั้นก็ได้”

“คุณมีอคติหรือเปล่า ผมเข้าใจนะ ไม่ใช่ว่าช่วงนี้จะมีคุณคนเดียวที่เกิดอาการน้อยใจ คนอื่นก็มีมาคุยกับผมเหมือนกัน แต่ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมต้องการที่จะส่งฟิลิปเป็นคู่แข่งจัสติน เรื่องอื่นเอาไว้คุยทีหลัง ตอนนี้ผมไม่รับพิจารณาใครทั้งนั้น”  

พีรพลก้มหน้านิ่งเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาจะบอกกับเอมีนว่ายังไง ในเมื่อเชื่อว่าเด็กหนุ่มคงกำลังมีความหวังเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าต้องได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดเมทีแน่ๆ




นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบจะเที่ยงตรง เอมีนนั่งใจจดใจจ่อรอคนที่นัดเขา ถ้าเป็นคนอื่นเด็กหนุ่มคงรู้สึกเฉยๆ แต่คนที่นัดครั้งนี้คือพีรพล มันเป็นการรอคอยที่ตื่นเต้นกว่าทุกครั้งเมื่อเขาจะได้คำตอบวันนี้ว่าฝันของเขามันจะเป็นจริงได้แค่ไหน ไม่นานคนที่เขารอก็ก้าวเข้ามาในร้านที่เขานั่งอยู่

“สีหน้าพี่ไม่ค่อยดีเลยนะ”

เด็กหนุ่มกล่าวทักหลังจากที่ยกมือไหว้เรียบร้อยจนพีรพลนั่งลงตรงข้ามเขา

“อากาศร้อนแล้วรถก็ติดน่ะ”

พีรพลบอกยิ้มๆ แต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตามจนเอมีนใจวูบ เมื่อคาดเดาเรื่องราวจากอาการคนตรงหน้า
 
“อืม มันไม่สำเร็จใช่มั๊ย” เด็กหนุ่มก้มหน้าถาม ยิ่งเมื่อพีรพลนิ่งเงียบไปพักใหญ่มันก็แทนคำตอบได้ดี

“พูดมาเถอะผมรับได้มันไม่ใช่ครั้งแรก” เอมีนเงยหน้าบอกยิ้มๆ พีรพลถอนหายใจก่อนจะบอก

“เรารอไปอีกสักพักได้หรือเปล่าล่ะ ตอนนี้คุณเมทีกำลังลุ้นอยู่กับฟิลิป ช่วงนี้เขางดแผนงานทุกอย่างเพื่อทุ่มให้กับฟิลิปคนเดียว”

“ก็น่าจะอย่างงั้น  ผมไงก็ได้ แค่ครั้งหนึ่งมีคนเห็นว่าผมน่าจะทำได้ผมก็ดีใจแล้ว”

เอมีนยอมรับว่าเศร้าอยู่ลึกๆ แต่ก็ต้องยิ้มบอกให้คนตรงหน้าได้สบายใจ

“พี่พูดคำไหนก็คำนั้น เพียงแต่พี่อาจจะเจอเราผิดจังหวะไปหน่อย”

“ไม่หรอก เอาเป็นว่าผมจะรอแล้วกัน ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหรอก”

“พี่ดีใจนะที่นายเข้าใจ และก็ขอโทษด้วยที่ทำให้มีความหวัง”

“อย่าคิดมากพี่พล บอกแล้วไงครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก”

“ดีแล้วล่ะ พี่เองก็จะรอดูเหมือนกันว่าฟิลิปจะทำให้คุณเมทีดีใจหรือเสียหน้า”

เอมีนมองพีรพลที่ก้มหน้าหลับตา  นึกเห็นใจที่คนๆนี้อยู่เหมือนกันที่ครั้งหนึ่งเคยมีผลงานเข้าตาทั้งผู้บริหารและก็คนทั้งประเทศ แต่วันนี้กลับไม่ได้รับความเชื่อใจให้ทำงานใดๆออกมา



บาสจ้องมองมิวสิควีดีโอของฟิลิปอย่างสนใจ  นานแล้วที่เขาติดต่อกับจัสตินไม่ได้   เขาไม่ได้รู้สึกผิดที่โดนจับได้ แต่รู้สึกโกรธมากกว่าที่จัสตินไม่ฟังคำอธิบายจากเขา จริงอยู่ที่เบื้องลึกเขาไม่ได้จริงใจกับจัสตินสักเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มทำใจยอมรับไม่ได้ที่จัสตินตีห่างเขาแล้วความนิยมกลับพุ่งพรวดอย่างเห็นได้ชัดจนค่ายคู่แข่งโหมกระหน่ำโปรโมทฟิลิปกันแทบทุกๆสื่อ

“ผมไม่อยากทำร้ายคุณนะจัสติน แต่คุณทำกับผมก่อน”  

คนรู้สึกโกรธพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่สายตาจ้องอยู่ที่ฟิลิปที่พลิ้วไหวอยู่ในจอมิวสิคจบลง

“ถ้าคิดจะล้มจัสติน คิดว่าเราคงต้องช่วยกันแล้วล่ะฟิลิป”

abcd

  • บุคคลทั่วไป

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มเปิดเผยโฉมหน้าแต่ละคนแล้ว

บาสจะทำอะไรจัสตินะ  :m21:

 :c2: :c1: :L3:

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อย่าเพิ่งน้อยใจน๊าค๊าบ

โอ๋ๆๆ  :m1:

ปล. ยังยาวไม่สะใจเลย = =

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
ยังไม่ยาววววววว อีกหรอ รีบโพสมันก็จบเร็วดิครับ
อ่านวันละนิด จิตแจ่มใสดีกว่าเนอะ
===========================
เมทีป่วน ฟิลิปไม่ถึงฝัน  จัสตินสู่ล้านที่สอง

อีกครั้งที่หนังสือพิมพ์ถูกโยนลงโต๊ะกลางที่ประชุม เพียงแต่คราวนี้มีเพียงธีระเท่านั้นที่นั่งเผชิญหน้าอยู่กับเจ้าของค่ายเทปอย่างเมที

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยธีระ  เด็กนั่นมันมีดีกว่าเด็กเราตรงไหน ทำไมยอดเทปของมันพุ่งเอาพุ่งเอา แต่กับเด็กของเรากลับไม่เป็นไปตามคาด” เจ้าของค่ายเอ่ยขึ้นก่อนเมื่อธีระนิ่งพักใหญ่

“ก็เทปเพิ่งวาง ผมว่าคุณเมทีรอดูอีกสักระยะไม่ดีกว่าเหรอ”

“จะให้ผมรอจนเทปจัสตินพุ่งสู่ล้านที่สามเลยหรือไง ธีระ นี่ตอนนี้บริษัทเราเป็นอะไร ทำไมอะไรๆมันถึงแย่ไปหมด”

“ใจเย็นก่อนสิ คุณเมที ผมว่าพอจบคอนเสิร์ตใหญ่ของเด็กนั่นแล้วคนก็คงจะหันมาสนใจฟิลิปบ้างแหละ”

“ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ที่ผมเร่งให้คุณปั้นฟิลิปขึ้นมาก็เพื่อต้านกระแสของจัสติน ไม่ใช่ตามกระแสจนเขาหมดความนิยมแล้วค่อยเบนมาหาเรา” 

ธีระนิ่งเงียบไปอีกครั้ง เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมงานที่เขาตั้งใจที่สุดอีกชิ้นหนึ่งถึงออกมาไม่โดน ทั้งๆที่ได้แรงผลักดันสนับสนุนจากเจ้าของค่ายในทุกๆด้านจนงานสำเร็จได้เร็วกว่ากำหนด
 
“แล้วโครงการที่เราจะจัดขึ้นที่ให้ฟิลิปเป็นต้นแบบในการค้นหานักร้องหน้าใหม่ล่ะ” 

ธีระถาม เมื่อคิดว่าผู้บริหารอย่างเมทีคงลืมไปแล้วเพราะเขายังไม่รับความคืบหน้าใดๆเลย

“ผมยังไม่ได้ลืมหรอก ธีระ”

เมทีบอกเหมือนจะรู้ใจชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะพูดต่อเมื่อธีระไม่ได้แย้งอะไร

“ตามที่ผมคาดไว้ว่างานของฟิลิปจะโดนใจตลาดในตอนนี้ แต่แล้วมันกลับผิดคาดยอดเทปมันวิ่งช้ามาก คุณรู้หรือเปล่า ธีระ ผมลงทุนกับงานชุดนี้ไปเท่าไหร่ บอกตรงๆยอดขายล็อตแรกผมค่อนข้างผิดหวังโครงการนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น”

“แต่เราแถลงข่าวไปแล้วนะ”

“แล้วมันจะยากตรงไหนล่ะ ขนาดคอนเสิร์ตเรย์ผมยังเคยสั่งพับมาแล้วเลย”

ธีระใจหายเมื่อคิดว่าเด็กของเขากำลังจะโดนเหมือนกับที่คนของพีรพลโดน แต่ยังไงเขาก็คงจะไม่ยอมง่ายๆ

“คุณเมทีคิดดีแล้วเหรอ เรย์กับฟิลิปต่างกันนะ เรย์เขาชั่วโมงบินสูงกว่ามาก เขาเก่งและสามารถรับเรื่องแบบนั้นได้อยู่แล้ว แต่ฟิลิปยังใหม่นะ ทั้งๆที่ตอนนี้จะเอาแค่ยอดขายแค่สองสามสัปดาห์มาวัดว่าเขาไม่ประสบความสำเร็จ คุณเมทีมองตื้นไปนะ”

“แต่การลงทุนระหว่างเรย์กับฟิลิปมันต่างกันมากคุณก็รู้ เรย์เราแทบจะไม่ได้ลงทุนอะไรเลย เขาขายชื่อเก่าเขาได้อยู่แล้ว แม้มันจะไม่ได้ดีนักแต่มันก็ไม่เจ็บตัวเท่ากับทุนที่หายไป”

“แต่ฟิลิปเพิ่งจะเริ่ม มันอาจจะเป๋ไปบ้าง คุณเมทีอย่าเพิ่งปิดโอกาสเขาสิ”

“ผมไม่ได้ปิดโอกาส ผมพูดว่าอาจจะ” 

เมทีมองธีระนิ่ง คนตรงหน้าต่างจากพีรพลมาก ถึงแม้พีรพลจะไม่ค่อยพอใจในความคิดเขาในบางครั้ง แต่ไม่ได้แสดงท่าทีที่แย้งได้ชัดเจนเท่ากับธีระตอนนี้

“อย่างงั้นก็เถอะ ผมขอยืนยันเลยนะว่า ยังไงซะฟิลิปต้องกู้วิกฤติมาให้เราได้อย่างแน่นอน”

ธีระบอกอย่ามาดมั่นจนเมทีหรี่ตาถามกลับ

“คุณจะทำยังไง”

“แค่เพียงให้โครงการที่เราเคยคุยกันไว้ไม่ถูกพับ ก็น่าจะช่วยได้บ้างนะ”

“อย่าลืมว่าทุกอย่างมันต้องมีการลงทุนนะ ธีระ”

“ข้อนั้นผมไม่ลืมหรอก แต่ผลงานที่ผ่านมาของผมมันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องทำกำไรให้บริษัท” 

ธีระยกไม้ตายขึ้นมาอ้าง เมทีจะขัดอะไรเขาได้ในเมื่อทุกวันนี้กำไรที่เข้าบริษัทเกิดจากงานของเขาแทบทั้งนั้น

“เรื่องนั้นผมคงแย้งคุณไม่ได้หรอก ธีระ แต่เรื่องฟิลิปถ้ามันทำให้บริษัทเจ็บตัว ในฐานะผู้บริหารผมก็ต้องควบคุมในสิ่งที่มันจะเสียเปล่า”

“งั้นผมขอเสนออีกทางเลือกได้มั๊ย”

“อะไร”

“คอนเสิร์ตเปิดตัว” 

เมทีไม่อยากจะเชื่อหูที่ได้ยินธีระบอก ก็เขายังไม่ได้มองไปไกลขนาดนั้น

“ผมยังไม่ได้มองเรื่องนั้น”

“แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องมี ถ้าคุณเมทีคิดจะปั้นฟิลิปจริงๆ ถ้าไม่มีคอนเสิร์ตใหญ่มันก็แปลกล่ะ”

“แต่กระแสตอนนี้มันยังไม่ได้”

“ไม่แปลกนี่ มันเป็นคอนเสิร์ตเปิดตัวเพื่อการโปรโมทไม่ใช่คอนเสิร์ตตามกระแส ข้อนี้คุณเมทีคงจะรู้ดีนะว่าต้องทำไง”

“ผมบอกแล้วไงว่าทุกอย่างมันต้องลงทุน ผมลงทุนกับงานของคุณกับเด็กของคุณไปเยอะ แทบจะเรียกได้ว่าเยอะที่สุดเท่าที่ทำเทปมา คุณจะให้ผมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ให้ฟิลิปแล้วเกณฑ์พนักงานในบริษัทไปดูเป็นหน้าม้ารวมกับสมาชิกแฟนคลับค่ายเรางั้นเหรอ มันไม่คุ้มหรอกนะ”

“แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรปล่อยให้ฟิลิปลอยแพตัวเองแบบนี้ มันไม่ได้แย่ไปกว่าเหรอ ไหนๆเราก็มากันขนาดนี้แล้วลองอีกสักตั้งมันอาจจะได้ผลขึ้นมาก็ได้นะ” 

เมทีถอนหายใจเริ่มที่จะใจอ่อนอีกครั้งกับวิธีการชักแม่น้ำทั้งห้าของธีระ จริงอย่างที่ธีระบอกเขาทุ่มกับฟิลิปขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้ลอยแพก็คงจะถูกค่อนแคะจากสื่อหนักกว่าที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คงต้องเดินหน้าให้มันไปถึงที่สุด

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
มาลงชื่อว่ายังติดตามอ่านอยู่นะครับ จะติดตามไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบครับ   :m1:

ฟิลลิปแป๊กแล้ว แอบสะใจนิด ๆ  :oni2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด