Special Christmas
Secret Item สีแดงเหมาะกับนายมาก อย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย
[Christmas x Jayden]
ปาร์ตี้เล็กๆ ที่มีเพียงแค่พี่น้องและโซลเมตของพวกเขาเท่านั้นถูกจัดขึ้นที่บ้านของผม
ผมตกแต่งห้องนั่งเล่นกึ่งห้องรับแขกด้วยต้นคริสต์มาสขนาดกลาง และกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้ทุกคนที่มาในวันนี้ก็ถูกวางเอาไว้ใต้ต้นสนสีเขียวซึ่งถูกประดับตกแต่งอย่างดงามนี่แล้ว ไฟดวงเล็กหลากสีถูกติดตามกรอบหน้าต่างและประตู เตาผิงที่เพิ่งได้ใช้งานเพราะฤดูหนาวเพิ่งมาเยือนยังไม่ถึงเดือนถูกจุดไฟให้ความอบอุ่น แสงสีส้มทอประกายสวยงามรับกับบรรยากาศสดใสของวัน
คริสต์มาสอีฟเมื่อวานผมได้มีโอกาสแวะไปเมอร์รี่คริสต์มาสแม่ เราพูดคุยกันอีกเล็กน้อย เธอชวนผมดินเนอร์ด้วยแต่ว่าผมปฏิเสธไป เพราะเย็นวันนั้นผมนัดทานมื้อเย็นกับครอบครัวของคริสเตียนเอาไว้ก่อนแล้วที่บ้านแคมเบลล์
ส่วนวันนี้...วันที่ยี่สิบห้าธันวาคม ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะฉลองร่วมกับน้องๆ และยินดีให้ทั้งสองพาโซลเมตมาด้วย คริสเตียนเลยชวนแคสเทียลกับโคลตันมาร่วมด้วยแม้ว่าจะเจอกันไปแล้วเมื่อวานก็ตาม ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ยินดีด้วยซ้ำที่มีคนมาปาร์ตี้ด้วยกันเยอะๆ
“เจย์เดน พี่ผสมเครื่องผสมยัดใส้ไก่งวงหรือยัง?” โจชัวถาม แต่เมื่อเหลือบไปเห็นชามแก้วใบใหญ่ที่มีส่วนผสมหลากหลาย ซึ่งถูกหั่นจนมีขนาดเท่าสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง หอมหัวใหญ่ แคร์รอต เขาก็ได้คำตอบว่ามันยังไม่สมบูรณ์
ผมขอความช่วยเหลือจากเขา “พี่กำลังผัดเซเลอรี่สับกับเนยอยู่ นายช่วยหยิบไข่ไก่ นม ลูกเกาลัดบด แล้วก็เบคอนมาให้พี่หน่อยได้มั้ย?”
โจชัวหยิบของทั้งหมดที่ว่านั่นส่งให้ผมอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เราสองคนปักหลักอยู่ในห้องครัว ส่วนคริสเตียน (ที่ย้ายตัวเองมาอยู่บ้านของผมได้หลายเดือนแล้ว) ออกไปซื้อเครื่องดื่มที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ นี่
หลังจากยัดใส่ไก่งวงและเอามันเข้าเตาอบ โซลเมตของผมก็กลับมาถึงบ้านพอดี
“มีอะไรให้ช่วยมั้ย?”
“แน่นอนว่ามี ช่วยเอาเบคอนพันไส้กรอกให้ที่ได้หรือเปล่า?”
“ทำไมจะไม่ได้กันล่ะ” คริสเตียนตอบ ขยับเข้ามากดจูบที่ข้างขมับของผมก่อนจะหันไปใส่ใจงานที่ได้รับมอบหมาย ส่วนโจชัวก็อมยิ้มให้กับการแสดงความรักของโซลเมตผม และนั่นทำให้ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้มขำเช่นกัน
การทำอาหารผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ไก่งวงเป็นเมนูที่ต้องใช้เวลาอบนาน แต่อย่างนั้นกว่ามันจะสุกก็ใกล้ได้เวลามื้อเย็นพอดี...โจชัวช่วยผมเอามันออกมาจากเตาอบ ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์เมื่อมันส่งเสียงร้องเรียก คุยเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็วางแล้วหันมาบอกผม
“นิคกำลังจะมานะเจย์ เขาเอาคริสต์มาสพุดดิ้งมาด้วย คุณยายของเขาทำให้น่ะ”
“ส่วนฉันมีพายฟักทอง กับสปันจ์เค้กท่อนไม้มาฝาก!” เสียงเล็กแหลมแบบผู้หญิงดังขึ้นก่อนเจ้าของเสียงจะปรากฎตัวด้วยซ้ำ...เจสซี่กับโซลเมตของเธอมาถึงแล้ว
“ไงเจส” ผมสวมกอดน้องสาวคนเดียวก่อนจะหันไปทักทายโซลเมตของเธอ “สบายดีหรือเปล่าเวโรนิก้า”
“ฉันสบายดีค่ะ คุณล่ะ?”
“เหมือนกันครับ”
“เดี๋ยวฉันกับเวโรนิก้าจะจัดโต๊ะให้เอง พวกพี่ไปอาบน้ำเถอะ ตัวเหม็นกลิ่นเหงื่อปนกับกลิ่นอาหารไปหมด”
ผมดมตัวเองเมื่อได้ยินอย่างนั้น ซึ่งก็ถือว่าจริงอย่างที่เจสซี่บอก ดังนั้นผมจึงผละห่างจากห้องครัวเพื่อขึ้นไปอาบน้ำ โดยมีคริสเตียนเดินตามหลังมา ส่วนโจชัวเห็นว่าจะรอนิโคไลก่อน
“อาบด้วยกันมั้ย?” ผมถาม ถอดเสื้อออกโยนใส่ตะกร้า แต่ยังไม่ทันได้ถอดกางเกง คริสเตียนก็ดึงไหล่ผมให้หมุนตัวไปหาเขา ปัดมือผมออกแล้วช่วยปลดกระดุมรูดซิปแล้วดึงกางเกงออกให้
“ฉันจะคิดว่านายเชิญชวนนะเจย์เดน”
ผมหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น “เราไม่มีเวลามากพอให้ทำกันหรอกน่ะ นายก็น่าจะรู้นี่”
“ช่าย แค่สิบห้านาทีมันไม่พอจริงๆ นั่นล่ะ แต่ก็น่าจะใช้มือได้อยู่”
“หรือปาก?”
คริสเตียนยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาของเขาเป็นประกายกล้า “นายพูดแล้วนะ”
อ่า ดูเหมือนผมคงต้องเมื่อยปากก่อนจะได้กินไก่งวงซะแล้วสิ : )
เมื่อเราลงมาด้านล่างอีกครั้ง ก็พบว่าแขกผู้มีเกียรติในวันนี้มากันครบแล้ว
เจสซี่กับเวโรนิก้าโซลเมตของเธอจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อย บนนั้นมีอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ผมกับโจชัวทำ หรือที่นิโคไล เจสซี่ กับโคลตันและแคสเทียลเอามาด้วย
“ไวน์แดงก็ดี แต่อะไรก็ไม่ดีเท่าเบียร์เย็นๆ นะรู้มั้ย?” โคลตันพูดขึ้น เขาชูขวดเบียร์ในมือขึ้นเป็นการทักทายผม
ผมผงกหัวรับการทักทายนั้น ก่อนจะหันไปจับมือทักทายนิโคไล แล้วเชื้อเชิญให้ทุกคนนั่งลงเพื่อเริ่มดินเนอร์กันได้แล้ว “นั่งเลยครับทุกคน เดี๋ยวผมจะหั่นไก่งวงแจกแล้ว”
ปาร์ตี้เป็นไปอย่างสนุกสนาน เจสซี่เปิดเพลงก่อนจะดึงเวโรนิก้าไปเต้นรำด้วยกันหน้าเตาผิง ส่วนโจชัวนั่งคุยกับนิโคไลด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จะมีก็แต่แคสเทียลกับโคลตันเท่านั้นที่แยกเขี้ยวใส่กัน ในมือมีอาวุธเป็นส้อมคนละคัน และทั้งคู่กำลังแย่งชิงไก่งวงชิ้นสุดท้ายบนจานอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ฉันจิ้มก่อน นายมาทีหลังน่ะถอยไปซะ!”
“เราจิ้มลงพร้อมกัน ควรจะแบ่งกันมากกว่า”
“ไม่แบ่ง ยังมีไส้กรอกพันเบคอนเหลือ นายก็กินไปสิวะ!”
“ฉันอยากกินไก่งวง!”
คริสเตียนที่มองอยู่นานถอนหายใจ ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาอย่างเอือมระอา ผมกลั้นขำ จำได้ว่าเขาเคยบอกเอาไว้ว่าพี่ชายของเขาน่ะเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์ไปซะทุกอย่าง จะยกเว้นก็แต่เรื่องโซลเมตของตัวเองนี่ล่ะที่มักจะหลุดมาดและกลายร่างเป็นคนขี้หงุดหงิดไปในทันที
“พวกเขาน่ารักดีนะ” ผมพูดขึ้น...โซลเมตของผมทำหน้าเหมือนเห็นผี
“น่ารักเนี่ยนะ? นายต้องสายตาไม่ดีแน่ๆ”
ผมไม่ตอบ หัวเราะให้กับสีหน้าของเขา แล้วเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น “เปิดของขวัญของฉันหรือยัง?”
“ยัง นายล่ะ?”
“ยังเหมือนกัน”
“งั้นเราไปเปิดด้วยกันบนห้องดีมั้ย?”
ผมหรี่ตามองคนที่นั่งอยู่บนที่วางแขนของเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่อย่างไม่ไว้ใจปนรู้ทัน “ของขวัญที่นายให้คงไม่ใช่เซ็กซ์ทอยหรอกใช่มั้ยเพื่อน?”
เท่านั้นเราสองคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที...ผมตบไหล่เขาแล้วส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้เขาลุกขึ้น พยักพเยิดหน้าไปที่ใต้ต้นคริสต์มาสซึ่งมีกล่องของขวัญวางเอาไว้มากมาย แต่ละกล่องจะมีการ์ดที่ระบุชื่อของผู้ให้และผู้รับแปะติดเอาไว้ด้วย
คริสเตียนเข้าใจในทันที โซลเมตของผมสาวเท้ายาวๆ ไปหยิบกล่องสองกล่องที่เป็นของผมและของเขามาถือ ก่อนจะเดินกลับมาพาดแขนที่บ่าของผม
“ไปกันเถอะ ไปเปิดของขวัญกัน”
“แล้วคนอื่นๆ ล่ะ?”
“นายจัดห้องให้พวกเขาแล้วนี่นา ไว้อยากนอนก็ไปนอนกันเองล่ะน่า”
ผมยิ้มขำ คริสเตียนดูกระตือรือร้นอยากจะขึ้นไปเปิดของขวัญจนผมได้แต่วิ่งเหยาะๆ ขึ้นบันไดตามเขาไปยังห้องนอนของเรา
เอาล่ะ...นี่คือสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดเอาไว้มาก่อน สิ่งที่เรียกว่าของขวัญวันคริสต์มาสจากคนรักของผม
ตอนแรกผมก็คิดนะว่ามันคงเป็นแค่เซ็กซ์ทอยสักชิ้น แต่มันกลับธรรมดามากกว่านั้น เพราะมันคือเสื้อไหมพรมเนื้อหนานุ่มสีแดงเข้ม ปักลายกวางเรนเดียร์สีเขียวหนึ่งตัวตรงกลางเสื้อ
“ว้าว” ผมผิวปาก ประทับใจไม่น้อยกับของขวัญชิ้นแรกที่ได้จากโซลเมต แม้มันจะเป็นแค่ของธรรมดาๆ ก็ตาม
“ชอบไหม?”
“ชอบสิ ดูเหมือนจะแพงมากเลยนะเนี่ย”
“ไม่เท่าไหร่หรอกน่า ฉันรวย ซื้อให้นายได้สบายมาก”
ผมหัวเราะ “จะอวดรวยกับฉันรึไงเพื่อน”
“อยากอวดอย่างอื่นนอกจากความรวยด้วย” เขาบอก แถมยังก้มหน้าลงมองเป้ากางเกงตัวเองที่อะไรบางอย่างใต้นั้นเริ่มขยับขยายดุนดันเนื้อผ้าให้ได้เห็นแล้ว “จะดีมากถ้านายใส่แค่เสื้อตัวนี้ตัวเดียวแล้วนอนอยู่ใต้ร่างฉันทั้งคืน”
“ไม่เปิดของขวัญของฉันก่อนหรือไง” ผมหลิ่วตา หยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ซึ่งถูกห่อด้วยกระดาษสีเงินและโบว์สีแดงเขียว “เปิดสิ”
“มันคืออะไรเหรอ?” คริสเตียนถาม เขารับเอากล่องในมือผมไปฉีกกระดาษห่อออก
ผมไม่ตอบคำถามเขา แต่บอกไปว่า “รับรองว่านายจะถูกใจ มันเป็นไอเท็มลับของฉัน
”
และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะทันทีที่คริสเตียนเห็นของในกล่อง ดวงตาคู่มคมสีเทาพายุก็เบิกกว้างขึ้น เงยหน้ามองผมอย่างรวดเร็ว
“นี่มัน...”
“ชอบไหมล่ะ?”
โซลเมตของผมหัวเราะลั่น “สุดๆ นี่มันเยี่ยมไปเลย!”
เขาหยิบเอาของชิ้นนั้นออกมาพลิกดู ขณะที่ผมลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วสวมเสื้อไหมพรมที่ได้มาจากอีกฝ่ายเพียงตัวเดียว...อย่างที่เขาต้องการ
“ทีนี้นายอยากจะเล่นกับฉันแล้วหรือยังคริสเตียน?”
คนถูกเรียกหันมามองผม ก่อนดวงตาจะเป็นประกายยิ่งกว่าเดิม เขากวาดมองไปทั่วทั้งตัวของผม จดจ้องเป็นพิเศษที่กึ่งกลางลำตัวซึ่งถูกปกปิดเอาไว้ด้วยชายเสื้อไหมพรม แต่มันก็ปิดไม่มิดนักหรอก เพียงแค่ผมขยับตัวนิดหน่อย ชายเสื้อก็เลิกขึ้นเผยให้เห็นความต้องการของผมที่กำลังลุกชันขึ้นมาเหมือนกัน
คริสเตียนแสยะยิ้มร้าย “สีแดงเหมาะกับนายมาก อย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย”
“แสดงว่าจินตนาการตอนฉันใส่เสื้อตัวนี้บ่อยล่ะสิ”
“ก็ตั้งแต่ที่ตัดสินใจซื้อมันมาให้นาย” คริสเตียนไหวไหล่ “ไหนๆ นายก็อุตส่าห์ให้เซ็กซ์ทอยเป็นของขวัญคริสต์มาสกับฉัน ฉันก็จะใช้มันเล่นสนุกกับนายทั้งคืนแล้วกันนะที่รัก”
ใช่ ที่ผมให้เขาน่ะ...คือเซ็กซ์ทอย : )
[Nikolai x Joshua]
“ง่วงหรือยัง” นิคถาม
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่เข็มขยับเข้าใกล้เลขสิบสองเข้าไปทุกที ส่ายหน้าให้เขาแทนคำตอบ แต่ปากกลับอ้าออกหาวซะอย่างนั้น นั่นทำให้โซลเมตของผมหลุดหัวเราะออกมา
ผมกรอกตาใส่เขา ก็ผมยังไม่อยากนอนนี่นา “อีกแป๊บหนึ่งแล้วกันนะนิค”
“ตามใจนาย จะว่าไปยังไม่ได้เปิดของขวัญเลยนี่นา”
“จริงด้วย!” ผมเบิกตาโต วิ่งเหยาะๆ ไปที่ใต้ต้นคริสต์มาสเพื่อหยิบเอาของขวัญของผมออกมา เป็นของเจสซี่หนึ่งกล่อง ของเจย์เดนหนึ่งกล่อง และของนิคอีกหนึ่งกล่อง...วันนี้พวกเราทุกคนตกลงกันว่าจะเอาของขวัญมาให้กันที่นี่
ผมเหลือบไปเห็นกล่องของขวัญที่ผมให้เจย์เดนและคริสเตียน ทั้งสองกล่องยังวางอยู่ที่เดิม นั่นแปลกว่าพี่ยังไม่ได้เอาไปเปิด แต่เขากลับขึ้นห้องนอนไปแล้วนี่นา
“สงสัยจะลืมล่ะมั้ง”
ผมกลับไปหานิโคไล ไม่ลืมหยิบกล่องของขวัญที่ผมเอามาให้เขาติดมือมาด้วย...โซลเมตหน้านิ่งของผมยื่นมือออกมารับแล้วบรรจงแกะมันอย่างใจเย็น ต่างจากผมที่ฉีกห่อกระดาษออกอย่างรวดเร็วไร้ศิลปะสุดๆ
ผมเลือกแกกล่องของเจสซี่ก่อน พี่สาวตัวแสบให้ที่คาดผมหูกวางกับผม และนั่นทำให้ผมแทบจะถลาไปพ่นไฟใส่หน้าเธอ บ้าหรือเปล่า ใครจะไปใส่กัน!
“น่ารักดีนะ” นิคพูดขึ้น เขาหยุดมือที่กำลังแกะห่อของขวัญเมื่อได้เห็นของในมือผม “ใส่สิ”
“ไม่มีทาง”
“ใส่เถอะน่า ฉันอยากเห็นกวางน้อย ใส่ตอนอยู่บนเตียงคืนนี้ด้วยยิ่งดี : )”
“นิค!” ผมแหวใส่เขา หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจนต้องหลบตาแล้วรื้อของในกล่องซึ่งมีซุกซ่อนอยู่อีกหนึ่งชิ้น คราวนี้ค่อยดีหน่อย เพราะมันคือกระเป๋าสตางค์ดีไซน์เรียบหรู เป็นสไตล์ในแบบที่ผมชอบ อ่า เจสซี่ช่างรู้ใจผมเสียจริง “เจส! ขอบคุณสำหรับของขวัญนะ!”
“ด้วยความยินดีน้องรัก!” เธอตะโกนตอบกลับมา ก่อนจะหันไปเต้นรำกับแฟนสาวของเธอต่อ
ผมหันกลับมาแกะกล่องของขวัญอันต่อไป ซึ่งก็คือของเจย์เดน...และของในกล่องก็เป็นอะไรที่ทำให้ผมอยากจะวิ่งขึ้นไปหาพี่แล้วกอดแน่นๆ สักที แม้ว่านั่นจะไม่ใช่นิสัยส่วนตัวของผมก็ตาม
เจย์เดนให้รองเท้ากับผม เป็นรองเท้าผ้าใบรุ่นลิมิเต็ดแพงแสนแพงที่ผมบ่นว่าอยากได้ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ไม่รู้ว่าพี่ไปหาซื้อมันมาได้ยังไง ทั้งที่มันมีแค่ร้อยคู่เท่านั้นเอง
ผมรักเจย์เดนชะมัดเลย!
“ถูกใจล่ะสิ ยิ้มไม่หุบเลยนะ”
ผมไม่ตอบ เงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างให้โซลเมตของตัวเอง ลูบไล้รองเท้าคู่สวยอยู่อีกพักใหญ่ แล้วถึงได้หันไปหยิบกล่องสุดท้ายออกมาแกะ...กล่องของนิโคไล
“คุณให้อะไรผม”
“เดาไม่ออกเหรอ?” นิคย้อนถาม เราสบตากัน
“ถ้าเดาออกผมคงไม่ถามหรอกนิค กล่องใหญ่แต่น้ำหนักเบามาก อย่าบอกนะว่ามีแค่การ์ดใบเดียวน่ะ?”
นิคหัวเราะแผ่วเบาในลำคอ “เปิดดูไปเรื่อยๆ แล้วกัน”
ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจคำว่าเปิดดูไปเรื่อยๆ นัก แต่พอแกะกล่องชั้นแรกออกก็เจอกล่องชั้นที่สอง พอแกะออกก็เจอชั้นที่สาม ซึ่งแทนที่ผมจะหงุดหงิด ผมกลับรู้สึกสนุกและขบขันซะมากกว่า
“เล่นอะไรของคุณกันครับเนี่ย”
เขาไม่ตอบ เฝ้ามองผมแกะกล่องของขวัญต่อไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นสุดท้าย...และเป็นกล่องที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้จับมัน ไม่เคยคิดมาก่อนเพราะคิดว่าคงไม่จำเป็น แต่ดูเหมือนนิคโคไลจะไม่คิดอย่างนั้น
มันเป็น...
“แหวนเหรอ” ผมถาม เงยหน้าสบตาคนให้ “คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่มั้ย!?”
นิคไม่ตอบอีกครั้ง เขาเอื้อมมาหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินไปจากมือผม ก่อนจะเปิดฝามันออก แล้วหมุนให้ผมได้เห็นของภายในนั้น
แหวนทองคำขาวเรียบๆ สองวงถูกบรรจุอยู่เคียงคู่กันบนฟองน้ำนิ่มสีขาวสะอาด
“ฉันรู้ว่าทั้งฉันและนายไม่ได้ชื่นชอบพิธีการยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากทำให้มันเป็นที่น่าจดจำ และคิดว่าวันนี้เหมาะสมที่สุดที่จะทำมัน”
“...”
“ถึงอย่างนั้นนายก็ยังเด็กเกินไป...”
“ผมโตแล้วนิค”
นิคชะงัก พอเห็นว่าผมทำหน้าจริงจังมากแค่ไหนเขาก็หลุดยิ้มออกมา “โอเค อายุสิบแปดก็โตแล้วจริงๆ นั่นล่ะ”
“และผมก็ยินดีมากด้วยที่จะแต่งงานกับคุณ”
“โจชัว!” คราวนี้โซลเมตของผมเป็นฝ่ายเหวอแทนผมแล้ว “มันควรเป็นฉันที่พูดหรือเปล่า หึ? เจ้าเด็กดื้อ”
ผมหัวเราะ “ไม่ว่าใครพูดก็ไม่สำคัญหรอกน่านิค สุดท้ายทั้งคุณและผมก็จะแต่งงานกันอยู่ดี จริงมั้ย?”
“ครับผม จริงทุกอย่างเลยครับ”
“ทีนี้ก็สวมแหวนได้” ผมหยิบเอาแหวนวงที่ใหญ่กว่ามาถือ ก่อนดึงมือข้างซ้ายของนิคมาแล้วสวมแหวนลงไปช้าๆ ที่นิ้วนาง ปากก็ยิ้มกว้างไปด้วยอย่างควบคุมไม่ได้
“เราไม่ต้องใช้บาทหลวงเหรอ?” นิคหยอกเย้า เขาสวมแหวนให้ผมเช่นกัน ระหว่างเราไม่มีพิธีรีตองอะไรเลยสักอย่าง เพราะก็อย่างที่อีกฝ่ายบอก...เราทั้งคู่ไม่สนใจมันหรอก การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น และคนสองคนที่ว่าก็คือผมกับเขา
“ไม่จำเป็น”
“แล้วเราต้องเต้นรำกันหรือเปล่า?”
“ถามมากน่านิค จูบผมสักที”
เขาหัวเราะเสียงดัง...แบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ก่อนมือหนาจะรั้งใบหน้าของผมขึ้นสูงแล้วกดจูบลงมาที่ปากของผม เราจูบกันโดยลืมไปสิ้นว่าที่ตรงนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่แล้วยังไงล่ะ? ผมไม่แคร์หรอก
หลังจากผละจูบออก เราสองคนก็สวมกอดกันแน่น นิคกระซิบข้างหูของผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน เป็นน้ำเสียงในแบบที่ผมชอบเหลือเกิน
“แหวนนี่น่ะ...เป็นไอเทมลับของฉันในวันนี้เลยนะ”
ผมหัวเราะ แล้วกระซิบตอบกลับไปว่า...
“เป็นไอเทมลับที่ผมชอบที่สุดเลยครับ : )”
_________________________
มาช้าแต่อยากให้ได้อ่านกันนะคะ แง เดือนที่แล้วเป็นช่วงเดือนสิ้นปีที่โคตรจะประสาทแดกสำหรับเรา ก็เลยแทบไม่ได้เขียนนิยายเลยค่ะ เรียกว่าหมดแพสชั่นไปพักใหญ่เลยทีเดียว ฮื่อ แต่ตอนนี้กลับมาไฟลุกแล้ว จะกลับมาขยันแล้วครับผม อิอิ
ตอนหน้าจะกลับมาอัพ side story 2 ของนิคโจนะคะ ส่วนตอนพิเศษนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหลักเน้อ แล้วก็...เราเปิดเรื่องของแคสเทียลกับโคลตันแล้วนะจ๊ะ อัพบทนำไปแล้วด้วย ใครอ่านสลับกันรุกรับได้ เราขอฝากเรื่องของพวกเขาด้วยนะคะ ^^CALL MY NAME #ความลับใต้กางเกง คือชื่อเรื่องของแคสโคลค่ะ