วิญญาณเสน่หา บทที่ ๕ แวบแรกระบบสั่งการอัตโนมัติบงการให้ไตรภูมิหวาดกลัวจนขนลุกเย็นเยียบไปหมดทั้งตัวเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขามั่นใจว่า
ไม่ใช่มนุษย์ ขาสองข้างหนักอึ้งราวกับก้อนหินขณะที่เขาก้าวถอยหลังให้ห่างไกลจากมวลอากาศหนาหนักที่เกาะกลุ่มกันจนกลายเป็น
ภาพชัดเจน
ผี!
แม้ว่าจะคุ้นตาอยู่ในความฝันจนถึงกับวาดออกมาได้เป็นภาพเหมือนคนจริง แต่เมื่อได้สบตากันคราแรกไตรภูมิก็ยังอด
หวาดหวั่นไม่ได้ ความรู้สึกนั้นทำให้เขาหนาวเยือกไปทุกอณูขุมขนตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า และทำให้เขาหมดแรงจนแข้งขาทรุด
“คุณพุ่ม”
ร่างที่ไตรภูมิรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ละลิ่วเข้ามารับร่างของไตรภูมิไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่ไตรภูมิจะลงไปกองอยู่กับพื้น ร่างเพรียวของเขาอยู่ในวงแขนเย็นเยียบที่กอดตระกองไว้ไม่ยอมปล่อย ไตรภูมิจึงได้ประสานสายตากับดวงตาคมคู่นั้นในระยะประชิด
ดวงตาที่มีแต่ความห่วงใยและอาวรณ์จนหัวใจของไตรภูมิสะท้านไปหมดทั้งดวง
“ดิน”
แม้จะสบตากันในความมืดแต่กระแสความผูกพันกลับชัดแจ้ง ภาพในความฝันที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดอยู่ใกล้แค่คืบ จากที่หวาดกลัวหัวใจของเขากลับเต้นระรัวอย่างยินดี น้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อท้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมือเรียวเอื้อมไปลูบไล้คางสาก
มือนั้น
“ในที่สุดเราก็ได้พบกันนะดิน”
ดวงตาคมเบิกกว้างเป็นประกายด้วยความยินดี ใบหน้าเข้มอย่างชายชาตรีสว่างไสวอยู่ในความมืด มือเย็นไร้เลือดเนื้อวางแนบไปกับหลังมือของไตรภูมิก่อนจะกล่าวตอบด้วยความโหยหา
“ดีใจเหลือเกิน ที่จิตของคุณพุ่มยังจำบ่าวที่ภักดีคนนี้ได้”
เสียงของดินเอ่ยอยู่ใกล้หูและเพิ่งจะปลุกไตรภูมิให้ได้สติ เขากำลังเอนกายอยู่ในอ้อมกอดที่ไม่ใช่ของมนุษย์
“ดิน คุณเป็นผีใช่ไหม”
ถามออกไปน้ำเสียงสั่นพร่า ดินยิ้มเศร้าและกล่าวตอบชวนให้เศร้ากว่า
“หากคุณพุ่มจะเรียกกระผมว่าผีก็ตามแต่ใจคุณพุ่มเถิดขอรับ”
“ไม่จริง เป็นผีแล้วทำไมผมจับตัวคุณได้ล่ะ”
ไตรภูมิรีบยกมือแตะต้องสัมผัสที่ต้นแขนแน่นกล้ามของดินอย่างเหลือเชื่อ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้น่าหวาดกลัวคิดจะทำร้ายอย่างเช่นผีหรือวิญญาณที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วไตรภูมิก็กล้าที่จะพูดคุยกับดิน ดินช้อนร่างผอมขึ้นมาด้วยท่อนแขนแล้วอุ้มไตรภูมิ
ที่ยังสติกระเจิดกระเจิงมาวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม
“อาจเป็นเพราะแรงบุญที่คุณพุ่มส่งมาให้ พลังของกระผมจึงได้แกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ขอรับ กระผมดีใจที่คุณพุ่มยังไม่ลืมกระผม”
สติของไตรภูมิเริ่มหลอมรวมกันได้เมื่อดินไม่ใช่ผีน่ากลัวอย่างที่เคยจินตนาการ ไตรภูมิกล้าจ้องมองใบหน้าคมเข้มนั้น แม้ภายในห้องจะยังมืดมิดแต่เขากลับเห็นดินชัดเจนจนหัวใจกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง
“ผมจำไม่ได้หรอกครับดินว่าเรื่องในอดีตมันเป็นยังไง ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่าผมดีใจที่ได้เจอคุณ”
น้ำตาร่วงเผาะอยู่ตรงร่องแก้มเมื่อเงยหน้าจ้องร่างสูงที่ยังประคองเขาไว้ในอ้อมแขน ความอาวรณ์เอ่อล้นจนน้ำตาไหลพรากไม่รู้ตัว ดินสบตาอย่างสงสารพลางเอื้อมปลายนิ้วมาเช็ดน้ำตาให้ไตรภูมิ
“โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน อย่าได้ร้องไห้เลยขอรับ ไอ้ดินเห็นน้ำตาของคุณพุ่มแล้วใจจะขาดเสียให้ได้”
ดินดึงร่างมนุษย์เข้ามาซุกแนบอกเย็นเยียบ ไตรภูมิร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่
“มันทรมานนะดิน ไอ้ความรู้สึกที่ผูกพันแต่กลับจำไม่ได้สักนิด ผมอยากจำดินให้ได้เหลือเกิน อยากรู้ว่าทำไมผมถึงอยากพบเจอ ทำไมผมถึงคิดถึงดินขนาดนี้”
“คุณพุ่ม”
ดินเชยคางเรียวขึ้นมาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เขารู้ว่ามีจิตของพุ่มอยู่ในกายหยาบของไตรภูมิ แม้รูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนไปในชาติภพใหม่ แต่ความรู้สึกรักและบูชายังเปี่ยมล้นจนอดใจไม่ได้ที่จะก้มหน้าบดปากซีดเย็นลงกับกลีบปากนุ่มของไตรภูมิ
“อืม ดิน ดินจ๋า”
ไตรภูมิครางแผ่วกับรสจูบที่คุ้นเคยเหลือเกิน ไม่รังเกียจสักนิดเมื่อเงยหน้าให้ดินไล่เม้มไปตามเรียวปาก เขาเปิดรับลิ้นลื่นอย่างยินดีแถมยังเผลอไผลคล้องคอหนาให้ยิ่งเบียดหน้าแนบแน่น ร่างกายปะทุจนร้อนรุ่มอยู่กับกายเย็นของดิน เขาถึงกับผวาเมื่อดิน
ผละปากออกมา
“ดิน ยะ อย่าหยุดได้ไหม คิดถึง คิดถึงดินเหลือเกิน”
เพิ่งรู้ว่าตนเองนั้นเฝ้ารอสัมผัสจากชายที่ไม่ใช่มนุษย์มานาน ไตรภูมิโหยหาจนร้องขออย่างลืมตัว ดินจ้องมองไตรภูมิด้วยนัยน์ตาเปี่ยมรักพลางกดร่างมนุษย์ลงกับที่นอนนุ่ม มือเย็นดึงเสื้อยืดผ่านหัวของไตรภูมิออกช้า ๆ ตามด้วยกางเกงขาสั้นที่สวมใส่ ไม่นาน
ไตรภูมิก็เหลือแต่เนื้อหนังมังสาเบียดอยู่กับร่างที่ไร้เลือดเนื้อของดิน
“ถ้าคุณพุ่มไม่ให้หยุดไอ้ดินก็จะไม่หยุดขอรับ เพราะไอ้ดินเองก็คิดถึงคุณพุ่มเหลือเกิน”
ค่อย ๆ ก้มหน้าลงเฟ้นจูบหนักหน่วงจนไตรภูมิเริ่มหอบดินจึงได้ลากไล้ปากมาสัมผัสทั่วเรือนร่างอย่างกระหาย ไตรภูมิครางแผ่วกับสัมผัสจากปลายลิ้นที่แวะชิมไปทุกจุดจนกระทั่งดินยกขาของเขาขึ้นแล้วเม้มปากไปที่โคนขาอ่อนก่อนจับแยกออกจากกันเพื่อที่
จะได้ลิ้มรสอยู่ตรงทางแยก
“ดิน อือ…”
ผวาเมื่อดินห่อลิ้นแล้วแหย่เข้าไปในทางเข้า ไตรภูมิสะดุ้งวาบเผลอยกเอวจนลอยจากที่นอนนุ่มให้ลิ้นนั้นเข้าไปลึกกว่าเดิม มือเรียวสอดขยุ้มเข้าไปในกลุ่มผมดกดำพลางจิกเล็บอย่างรัญจวน
“คุณพุ่มของไอ้ดินยังหวานเช่นเดิม”
วิญญาณครางลึกอย่างได้ใจพลางเริ่มสอดนิ้วหนาเข้าไป คราวนี้ไตรภูมิครางกระเส่าเมื่อดินจัดการเขาทั้งมือและลิ้น ร่างกายของเขากำลังต้องการดิน ไตรภูมิผงกหัวขึ้นมองเจ้าของเส้นผมที่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงกลางร่างกายของเขา
“ดิน ดินครับ ใส่เข้ามาเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”
“ขอรับ คุณพุ่ม”
รับคำอย่างยินดี ทันใดนั้นผ้านุ่งยกรั้งที่สวมใส่ก็หลุดร่วงจากตัวดิน มันเอนกายทาบทับบดเบียดสะโพกหนาจนแก่นกายทั้งสองถูไถซึ่งกัน ไตรภูมิผวาหอบหนักเมื่อดินแทรกกายเข้ามาช้า ๆ ในช่องทางของเขา
“อึก อื้ม”
เจ็บ แต่ทนได้ ไตรภูมิอ้าขากว้างเพื่อให้ดินดันกายเข้ามาได้อย่างเต็มที่แม้ว่าเขาจะเจ็บจนน้ำตาไหลแต่เขาอยากให้ร่างของดินได้เติมเต็มในร่างของเขา
“คุณพุ่ม โอ แน่นเหลือเกินขอรับ”
ดินครางลึกเมื่อได้ฝังกายเข้าไปจนสุดลำในร่างกายที่มีจิตของคนที่เขารักและหวงแหน แม้ดินจะไม่เข้าใจว่าทำไมในอดีตกาลเนิ่นนานนั้นคุณพุ่มจึงไม่ได้ทำตามสัญญาก่อนที่ดินจะกลายเป็นวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
“ดิน เสียวมาก ฮื้อ”
ไตรภูมิเป่าปากเมื่อดินเริ่มขยับ แก่นกายเย็นเยียบกระแทกกระทั้นอยู่ในช่องทางอุ่นร้อน ไตรภูมิแอ่นตัวเข้าหาเบียดกายแนบชิดให้ดินได้สาวเอวกระแทกกระทั้น ไตรภูมิเพิ่งจะเคยลิ้มรสกับความสุขสมเมื่อร่างกายของเขาเกร็งค้างก่อนจะแตกทลายคล้าย
ทำนบน้ำพังครืน
“มีความสุขเหลือเกินครับดิน
ไตรภูมิกระซิบเสียงสั่นพร่าจนดินดีอกดีใจ จากนั้นดินก็เริ่มต้นมอบความสุขให้กับไตรภูมิอีกครั้ง ไตรภูมิปล่อยให้ดินพาเขาลอยละล่องครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางจึงได้คล้อยหลับท่ามกลางสายฝนที่ยังไม่หยุดโปรยปราย
เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพียงเดียวดายในยามสายที่แสงอาทิตย์ลอดหน้าต่างเข้ามาจนอากาศอุ่นร้อนนั่นเองไตรภูมิจึงได้
สำเหนียกว่า เขากลายเป็นเมียผีไปเสียแล้ว
มีต่ออีกนิด...