เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ตอนที่ 6 : ให้โอกาสเปลี่ยนใจอีกรอบ
ผมตื่นมาอีกทีก็เป็นเช้าอีกวัน แถมยังสายโด่งด้วย ฉิบหายยย ไอ้ฟักไม่อยู่แล้ว สงสัยออกไปทำงานตั้งแต่เช้า มันก็ไม่คิดจะปลุกผมซะด้วยนะ นิสัยจริงๆ ผมมึนหัว นอนนิ่งๆอยู่ที่โซฟาเพื่อเรียกสติสักพักก่อนจะควานหาโทรศัพท์ที่ไม่แน่ใจว่าล่าสุดวางไว้ตรงไหน เมื่อคืนเมามากจนมารู้ตัวอีกทีคือตอนตื่นเนี่ยแหละ ยังดีที่ไอ้ฟักมันยังมีน้ำใจแบกผมนอนบนโซฟาดีๆ(หรือจริงๆแล้วผมคลานขึ้นมานอนเองวะ)
ต๊อบ : ไม่ปลุกกูเลย สัดฟัก
ผมส่งข้อความหามันก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วนอนแผ่ต่อ เมื่อกี้เช็กดูแล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวของคุณแก้วเหมือนเดิม ล่าสุดที่คุยกันไว้อย่างไรก็อย่างนั้น หรือว่างานจะยุ่งจริงๆ
นี่ผมกำลังติดคุณแก้วเกินไปใช่ไหมเนี่ย
อยากคุยด้วย
อยากเจอหน้า
อยากไปหมด
ผมคงต้องให้ความสนใจกับงานบ้างจะได้ไม่มีเวลามาอยู่เฉยๆแล้วคิดฟุ้งซ่านแบบนี้
Patchara : กูเป็นแม่มึงไง๊
สักพักไปฟักก็ตอบกลับมา ผมจึงทำการแจกตัวเคให้มันรัวๆแล้วลุกไปอาบน้ำ มีเพื่อนรวยหน่อยมันดีอย่างนี้แหละครับ เราได้ใช้ของดีๆโดยไม่เสียสักบาท พออาบเสร็จผมก็ใส่ชุดตัวเดิม จริงๆชุดไอ้ฟักมันเล็กไปหน่อย จะหาเสื้อกล้ามขาวๆสักตัวก็โคตรยาก ความจริงตู้เสื้อผ้าบ้านมันเหมือนเปิดเข้าไปในนาเนียร์ราวกับดินแดนลี้ลับสุดค้นหา ผมแม่งเคยหลงอยู่ในตู้เสื้อมันด้วย เชี้ย แค่จะยืมเสื้อกล้าม ไปๆมาๆหลงอยู่ในนั้นเป็นชั่วโมง น่ากลัวโคตร ห้องนอนกูยังเล็กกว่าเลย ไอ้เหี้ย
ผมมันมาแนวหล่อธรรมชาติไง หล่อสมถะ หล่อแบบดิบเดื่อน
แต่คุณแก้วเขาจะมาเดื่อนกับผมไหมนะ นี่ผมยังไม่มั่นใจในตัวเองอยู่หลายส่วนหลายที่ ถ้าหากคุณแก้วเห็นรูปผมสมัยก่อนอาจจะมีเลิกกันทีเดียว หรือคบไปนานๆผมค่อยๆไว้หนวดเหมือนเดิมด้วยความขี้เกียจ คุณแก้วจะชอบไม่ชอบ
เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน เพ้อพก มึงมีครบจริงๆไอ้ต๊อบ!
ผมสะบัดๆหัวสองทีขณะยืนกังขากับความหล่อของตัวเองหน้ากระจก ไอ้ฟักมันเป็นเจ้าของกิจการน้ำหมักไทยหรือไงวะ ขวดอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด ผมลองหยิบๆอันที่ดูแล้วน่าจะเป็นน้ำหอมมากที่สุดมาสักขวดแล้วฉีดให้ตัวเองทีนึง
โอเค มั่นใจ ใช้ของแพงทีไรความมั่นใจมาทุกที
ผมออกจากห้องเพื่อนรักตรงกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วช่วยงานที่บ้านต่อให้ดูว่าเป็นลูกกตัญญูไม่ใช่เกาะกิจการพ่อแม่กินอย่างเดียว
กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก ผมหยิบโทรศัพท์ดูอีกทีถึงได้เห็นว่าคุณแก้วทักมาโคตรจะเยอะ!
ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว คุณแก้วเขาจะคิดว่าผมเล่นตัวไหม
เฮ้ย ไม่ดิ ถ้าผมตอบเร็วเกินไปอาจแปลได้อีกอย่างว่าผมว่างงาน แบบนั้นก็ไม่ดีแฮะ ดูเป็นเหมือนพวกผู้ชายที่ไม่มีหลักแหล่งมั่นคงสักที ไม่ดีๆ
คุณแก้ว: คุณต๊อบค่ะ แก้วเพิ่งทำงานเสร็จ เหนื่อยมากเลย
คุณแก้ว: คุณต๊อบตื่นหรือยังคะ
คุณแก้ว: แก้วตอบช้าไปหน่อย ไม่โกรธนะนะ
ผมนั่งจ๋องอยู่สามวิกว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าหน้าเริ่มสุกจนไหม้เกรียมสามารถทำให้ปลาทูกรอบได้
ยังไงมันก็ไม่ชิน ไม่ชิน ไม่ชิน!
ผมทุกๆอก บอกตัวเองให้ใจเย็น กำหนดลมหายใจเข้าออก แล้วค่อยพิมพ์ตอบคุณแก้ว
ต๊อบ : ตื่นนานแล้วครับ
ต๊อบ : คุณแก้วอยู่ไหนเอ่ย
คุณแก้ว : เพิ่งถึงบ้านค่ะ
ต๊อบ : แล้วมีคนนวดให้หรือยังครับ
ผมทำปากขมุบขมิบ ยิ้มคิกคักอยู่คนเดียว พิมพ์เสร็จก็เงยหน้ามองรอบตัวหน่อยเพื่อพ่อแม่เดินมา จะได้ไม่โดนแซว
คุณแก้ว : เอ๋ ถ้าไม่มีแล้วทำไงดีคะ
ต๊อบ : อาสาครับ ยกมือแล้วๆ
ดูพิมพ์เข้าสิมึง ไอ้ต๊อบ ต่อหน้าเอาให้ได้ไงดิวะ ไม่ใช่เอะอะก็ติดอ่าง เป็นบื้อใบ้ มันดูไม่เท่จริงๆ แย่อะ
คุณแก้วเพิ่งกลับ แสดงว่าประมาณวันสองวันที่ผ่านมางานคงหนักมากจริงๆ แล้วคุณแก้วเข้าบ้านยังไง ผมไม่ทันสังเกตด้วยว่าบ้านคุณแก้วมีรถหรือเปล่าแต่เห็นโรงรถอยู่ ถึงคุณแก้วจะบอกว่าไม่ชอบขับรถเอง ถ้าอย่างนั้นสงสัยอาจจะนั่งแท็กซี่มา
แต่ว่าคุณแก้วเป็นสาวเป็นนาง นั่งรถคนเดียวก็ออกจะอันตราย คุณแก้วอยากได้คนไปรับไปส่งแบบส่วนตัว หล่อ แถมไว้ใจได้อย่างต๊อบไหมครับ
ต๊อบ : งานหนักเหรอครับ
คุณแก้ว : ใช่ค่ะ พอดีออเดอร์ล่าสุดมีปัญหาทั้งชุดเลย สีชุดผิด ต้องกลับมาแก้แล้วส่งไปให้ลูกค้าใหม่ แต่เคลียร์เรียบร้อยแล้วค่ะ ค่ำๆนี้คุณต๊อบว่างมั้ยคะ
ต๊อบ : ว่างมากๆเลยครับ
คุณแก้ว : แก้วว่าจะชวนคุณต๊อบไปหาอะไรทาน เลี้ยงคืนเมื่อคราวก่อน
ต๊อบ : คุณแก้วไม่เหนื่อยนะครับ ผมสะดวกครับผม แต่เห็นคุณแก้วเพิ่งทำงานเสร็จเอง
คุณแก้ว : เดี๋ยวแก้วหลับสักพักค่ะแล้วสักเย็นๆหน่อยค่อยตื่น
คุณแก้ว : แล้วคุณต๊อบอยู่ไหนคะ?
ต๊อบ : อยู่บ้านค่ะ
คุณแก้ว : พูดคะขาด้วย
คุณแก้ว : (สติ๊กเกอร์แก้มป่อง)
ต๊อบ : พูดกับแค่ไม่กี่คนเองน้า XD
ต๊อบ : เผลอๆคุณแก้วเป็นคนแรกเลยนะครับ
ผมหลุดหัวเราะชั่วร้ายหน่อยๆ แหม ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นโคตรๆ อารมณ์และสถานการณ์มันพาไปครับ ถ้าไอ้ฟักมานั่งข้างๆมันคงอ้วกจนหมดกระเพาะ เชี้ย มึงก็เคยพูดคะเคอะไม่ใช่เหรอไอ้ฟัก! กูเคยฟังอยู่!
สุดท้ายผมคุยกับคุณแก้วนานมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจิปาถะล้วนๆ เธอคงเหนื่อยจากงานด้วยผมเลยไม่อยากวกเข้าเรื่องแบบนั้นมาก อยากให้คุณแก้วมีแต่เรื่องสบายใจเวลาอยู่กับผมมากกว่า
คุณแก้ว : เขาว่าผู้ชายพูดคะขาน่ะ เจ้าชู้
ต๊อบ : แล้วคุณแก้วคิดว่าผมเจ้าชู้มั้ยครับ
มีความแพรวพราวออร่าจับ
จู่ๆก็มีสายโทรเข้ามาขณะที่ผมกำลังภูมิอกภูมิใจแถมด้วยการคับๆพองๆในอก ผมเกือบทำโทรศัพท์ตก มือเผลอกดรับโดยไม่ทันตั้งตัว
คุณแก้ว!
[คุณต๊อบเจ้าชู้เหรอคะ?]
“…”
เสียงจากปลายสายนิ่งๆเรียบๆเป็นจังหวะเนิบนาบ ผมทำปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ แถมต่อจากนั้นก็เหมือนได้ยินอะไรอื้อไปหมด
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คุณแก้วโทรมา!
โทรมา!
……
….
.
“อะไรต๊อบ ทำหน้าแปลกๆนะเรา” แม่เดินเข้ามาลูบๆคลำๆ ผมเบือนหน้าหนี ร้อนทั้งหัวทั้งคอ
“แม่!”
เผลอเสียงดังด้วยความเขินอย่างไม่รู้ตัวว่าคุณแก้วจะถือสายอยู่ไหม
“หนูคุยโทรศัพท์อยู่!”
ตั้งแต่คราวก่อนที่เดตกับคุณแก้วต่อมาผมเริ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่หนึ่งชั่วโมง เสริมความสะอาดเสริมความมั่นใจ แถมโกนหนวดเกลี้ยงเกลาชนิดที่ว่าเครื่องตัดหญ้ายังต้องอาย ความจริงผมชอบไว้หนวดเครารอบคางนิดๆหน่อยๆ ไม่งั้นถ้าโกนเกลี้ยงอย่างตอนนี้หน้าจะดูเด็กไง กลัวหน้าเด็กแล้วคนเรียกว่าน้องไรงี้
“แม่ครับ ผมไปข้างนอกนะ”
“ไปไหน”
แม่หันมาถาม จะให้บอกว่าไงดี ถึงแม่จะใจดีแต่ก็ชอบแซวกับพ่อเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวเว้ย เด็กเอ๊าะๆอย่างผมมันหน้าบาง เบื่อ ไม่ชอบ โอ๊ย
“ไปข้างนอกกับเพื่อน”
“ฟักเหรอหื้อ?”
ผมพยักหน้ารัวๆ ทำเป็นไม่มองไม่สบตา รีบๆหยิบนู่นหยิบนี่แล้วออกจากบ้าน เดี๋ยวอยู่นานแล้วโดนจับโกหกได้ เอาไว้ให้แน่ใจกว่านี้ก่อนค่อยบอกไงครับ ไม่ใช่อะไรหร๊อก
“ไม่ใช่สาวที่ไหนนะ?”
“โหย แม่” ผมลากเสียง แปลว่าอย่าเซ้าซี้สิเอ๊ะ
“อะๆ แม่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่ว่างๆพามาบ้านบ้าง”
“ไม่มีเหอะ ไปนะครับ เดี๋ยวดึกๆกลับ”
หูร้อนๆ
นี่กู 14 แน่นอน ตอนนี้ กำลังวัยมัธยมเลย ช่วงเสียผู้เสียคน
ผมบอกไอ้ฟักไปแล้วว่าช่วงนี้ไม่ว่างยาวๆ กำลังติดเมีย โดยไม่รอฟังคำตอบของมันให้เสียเวลา ถือซะว่าเล่าเฉยๆ รับรู้หรือไม่ช่างหัวแม่ง เออ กูติดผู้หญิงโว้ยยย
มีนัดกับคุณแก้วตอนทุ่มนึง ทานข้าวเฉยๆ ไม่มีคงมีค้างเนอะ
อะ ไอ้ต๊อบคงไม่มีบุญขนาดนั้นหรอก!
คุณแก้วบอกให้ผมมารอก่อน เดี๋ยวเธอออกมาเอง ทั้งๆที่ผมอาสาไปรับที่บ้านแล้ว จำทางได้ด้วยครับ ทุกอย่างเป๊ะ แต่ในเมื่อคุณแก้วยืนยันเช่นนั้นจริงๆต๊อบก็ยอมรับในการตัดสินใจ
“คุณแก้วครับ” ผมบอกมือ กระดิกๆเหมือนหมาตัวใหญ่เจอเจ้าของ คุณแก้วเดินเข้ามา ยิ้มเบิกบานใจ ราวกับได้อะไรสักอย่างมาฟื้นฟูร่างกาย รู้สึกกระชุ่มกระชวยดีจริง
วันนี้คุณแก้วแต่งกายสบายๆ ไม่ได้จัดหนักจัดเต็มมาก หน้าแต่งอ่อนๆ ปากก็อ่อนๆ น่ารักโคตร เหมือนตุ๊กตาซะไม่มี ริบบิ้นที่ผูกไว้ตรงคอสีชมพู แต่ถ้าเทียบกับผมยังไงคุณแก้วก็แต่งตัวดีกว่าจริงๆ ถึงนี่จะดูเป็นการแต่งกายที่สามัญของคุณแก้วแล้วสุดๆก็เหอะ
เป็นอันต้องสำรวจชื่นชมทุกที
ผมอมยิ้ม เก็บอาการดีใจที่ได้พบหน้าเกือบไม่อยู่
ส่วนผมนี่คล้ายเดิมกับเดตรอบแรกเลย เปลี่ยนแค่สีเสื้อ จะเอาอะไรมากมายวะ กูไม่ได้เป็นเมียพี่เบิร์ด ไม่ต้องแฟชั่นจ๋าหรอก
คุณแก้วมองผมราวกับจะถาม คิ้วสวยๆเลิกขึ้นช้าๆ ก่อนมองไปรอบๆตัว “คะ?”
“หายแล้วใช่มั้ยครับ” ผมมองไปที่ข้อเท้าคุณแก้วแล้วถามทั้งเป็นห่วงทั้งจะหยอก
“หายแล้วสิคะ” คุณแก้วตอบกลับ ดูเหมือนจะท้าทายผมตอบ “คนดูแลดี เตือนให้ทายาเช้าเย็น”
ผมปากแห้งๆ นึกถึงจูบแรกของตัวเองในบ้านคุณแก้ว จากนั้นก็ฟุ้งซ่านทันที เฮ้ย ไม่ได้เว้ย!
“แล้วอยากได้คนไปรับไปส่งด้วยมั้ยครับ” ผมพยายามจะแกล้งเธอคืน พูดสองแง่สองง่าม จากนั้นก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่นทันทีเลย เป็นกลยุทธ์ที่ได้มาจากเพื่อนรักฟักทอง คุณแก้วเหมือนจะกำลังอึ้งอยู่ “วันนี้ทานร้านไหนดีครับ”
“อ่า…วันนี้แก้วเลี้ยง คุณต๊อบเลือกเลยค่ะ” เธอกระพริบตา ปรับน้ำเสียงเล็กน้อยแล้วพูดต่อเหมือนไม่มีอะไร แปลว่าที่ผมหยอดไปเมื่อกี้ ส่งผลบ้างเล็กน้อย ฮี่ๆ
ผมพาคุณแก้วเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว ผมดูแล้วคุณแก้วชอบกินอะไรจืดๆ เธอแทบไม่ปรุงสักอย่าง สั่งอย่างไรก็อย่างนั้นทีเดียว
พอทานเสร็จ ผมกับคุณแก้วก็ไปเดินดูของเรื่อยเปื่อยกันต่อ คุณแก้วชอบดูเสื้อผ้ามาก เธอยืนเลือกได้เป็นชั่วโมง
“คุณต๊อบไม่เบื่อนะ”
ถามทั้งๆที่หน้าตาอ้อนๆแบบนี้ จะให้ใจร้ายได้ยังไงกันครับ
“ไม่เลยครับ”
เหมือนจะมีความปิ๊งๆรอบตัวผม ดูหล่อ
วันนี้คุณแก้วไม่ได้สวมส้นสูง แต่เธอก็ยังสู๊งสูง
ไม่เป็นไร ท่องเอาไว้ พ่อเตี้ยกว่าแม่
เราเดินไปต้องลานน้ำพุต่อ มันเป็นเหมือนทางเท้าสวยๆ แถมมีไฟประดับระยิบระยับ เปิดตอนกลางคืนแล้วสวยดี ผมกับคุณแก้วนั่งลงตรงเก้าอี้ยาว เราคุยกันเปื่อยๆ แต่ได้อึดอัดอะไรและผมก็มีความสุขจังเลย
“ตอนเด็กๆผมเคยโดนพี่แกล้งให้ไปยืนตรงที่มีน้ำพุ ที่แบบว่ามันจะออกมาเป็นเวลาคุณแก้วนึกออกใช่มั้ยครับ ตัดภาพไปที่ผมยืนเปียกแล้วก็วิ่งไล่เตะพี่ตัวเองแทบตายเลย”
คุณแก้วหัวเราะ ดูเหมือนจะชอบมาก แก้มเธอชมพูๆ รอยยิ้มยิ่งทำให้ดวงตาดูเหมือนจะแพรวพราว
“คุณต๊อบตอนเด็กๆซนมากมั้ยคะ” คุณแก้วเอนคอนิดๆมองผม ทั้งๆยังอมยิ้ม
“ไม่นะ ไม่ค่อยครับ ผมค่อนข้างขี้อายมากกว่า” ผมนึกแล้วถามต่อ “แล้วคุณแก้วดื้อมั้ยครับ?”
ผมหันกลับไปถาม พอแค่เอนใบหน้าเข้าไปเท่านั้นก็เกือบจะโดนคุณแก้ว แต่กลับเป็นผมเองที่ชะงักอยู่ แต่คุณแก้วกลับกำลังจ้องผมนิ่งๆ โดยรอยยิ้มยังค้างคาบนใบหน้าสวยๆ ริมฝีปากเธอเผยอเล็กน้อย แววตาเป็นประกาย
ผมลืมว่าตัวเองต้องหายใจ แถมยังเหมือนถูกคุณแก้วแช่แข็งให้ค้างไว้ ปลายจมูกคุณแก้วเกือบโดนผม ผมหลบสายตาแล้วค่อยๆเอาหน้าตัวเองออกมาห่างๆ
คุณแก้วยังอยู่ท่าเดิม เธอยิ้ม “แก้วดื้อมากเลยค่ะ”
จู่ๆบรรยากาศมันก็เหมือนมีหมอกจางๆมากั้นไว้ระหว่างผมกับคุณแก้ว ในใจเธอมีบางอย่างหรือกำลังนึกถึงเรื่องอื่น เธอดูเหม่อ ใจลอยไปไกล
“คุณต๊อบ” คุณแก้วพูดขึ้น “เราเป็นอะไรกันคะ”
เมื่อโดนคำถามพุ่งตรงโดยไม่มีการเตรียมตัว ผมตาโต เกือบแหกปากร้องห้ะออกมา ผมรู้สึกร้อนๆชาๆตั้งแต่คอขึ้นไป “ผมชอบคุณแก้วครับ”
“คุณต๊อบแน่ใจแล้วใช่มั้ยคะ” ตอนที่ถาม ผมจับได้ถึงน้ำเสียงที่สั่นของเธอ คุณแก้วดูหวาดกลัวเล็กน้อยแต่ก็คาดหวังปะปนอยู่ ครั้งนี้เองที่เธอหลบตาแต่ก็กลับมามองผมต่อ แววตาเธอราวกับต้องการคำยืนยันที่แท้จริง “แก้วแค่อยากรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ”
คุณแก้วดูสับสนอยู่ในที วินาทีนั้นเองที่ผมรู้ว่าคุณแก้วกำลังตื่นเต้นเหมือนกัน เธอเลือกที่จะถามผมตรงๆ ไม่อ้อมค้อมและต้องการความชัดเจน
“คุณต๊อบแน่ใจจริงๆเหรอคะ ทั้งๆที่แก้ว…”
“แล้วคุณแก้วชอบผมมั้ยครับ”
เธอชะงัก ก่อนจะคลี่ยิ้มแทนคำตอบ
“ปกติแล้วถ้ามีคนสองคนที่ชอบกัน”
ผมค่อยๆเอื้อมไปแตะมือเธอ ประคองมือนุ่มๆนั่นไว้แล้วบีบเบาๆ ราวกับนี่คือสิ่งเดียวที่จะทะนุถนอมไว้ให้ดีที่สุด คุณแก้วมองผม ขอบตาเธอเอ่อด้วยน้ำบางๆ เหมือนมีม่าน้ำบดบังอยู่ชั้นนึง ผมระบายยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยที่ชีวิตนี้ไม่เคยทำมาก่อน
“เขาจะเป็นแฟนกันครับคุณแก้ว”
TBC
[30/04/2559]