Rule #20 Don’t try to flirt
“ขวัญ ทำงานอยู่เหรอ?”
เมฆาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำถามร่างที่อาบเสร็จก่อนเขาซึ่งตอนนี้นั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอม ขวัญข้าวไม่ตอบ เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะถามคนรักด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
“คุณ…คุณจอมทัพเพิ่งล้างมือมาใช่มั้ยครับ”
“อื้อ มีอะไรเหรอ?”ชายหนุ่มถาม
“ผมขอ...ยืมมือหน่อยได้มั้ยยครับ?”
“เอ่อ ได้สิ”
ร่างสูงยื่นมือให้อย่างงุนงง ยังไม่ทันได้ถามว่าจะเอาไปทำอะไร มือเล็กทั้งสองข้างก็คว้ามือของเขาไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้ ริมฝีปากเล็กรูปกระจับเผยออ้า ก่อนจะงับปลายนิ้วของเขาเบาๆ ลิ้นเล็กลากผ่านปลายนิ้วลงมาถึงโคนอย่างเชื่องช้า เรียกให้คนอ่อนตามร่างกายของจอมทัพลุกพรึ่บพร้อมกับมังกรยักษ์ที่ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเมื่อถูกรบกวนการพักผ่อน
“ขะ..ขวัญ ทำอะไรน่ะ...”
ร่างสูงตะกุกตะกัก ดวงตาคมเหลือบไปยังจอคอมพิวเตอร์ที่อีกฝ่ายกำลังดูอยู่ก่อนหน้านี้
“เฮ้ย!”
ภาพของหญิงสาวที่กำลังใช้ริมฝีปากทำเรื่องที่เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นขวัญข้าวทำในระยะเวลาอันใกล้กับชายหนุ่มบนเตียง พร้อมทั้งวิธีทำเขียนเป็นขั้นตอนให้ทำตามอย่างละเอียด
ขวัญข้าวปล่อยมือของจอมทัพให้เป็นอิสระทันทีที่เห็นท่าทางตื่นตกใจของร่างสูง เขาว่าแล้วว่าแผนแบบนี้มันจะต้องไม่ได้ผล เขาไม่ใช่คุณมธุวันที่จะได้ชายตามองคนก็มากองแทบเท้าซักหน่อย
“ถะ…ถ้าผมไม่ฝึก..ผมกลัวจะทำได้ไม่ดี...”
ขวัญข้าวแก้ตัวเสียงเบา จอมทัพกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ไม่อยากบอกอีกฝ่ายว่าแค่นี้เขาก็แทบจะขึ้นสวรรค์โดยไม่ต้องทำอะไรแล้ว
“เดี๋ยวสิขวัญ... ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
ร่างสูงนั่งลงข้างๆคนรักอย่างกังวลใจ เขาไม่อยากให้ขวัญข้าวรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองแบบนี้
“ก็..ก็คุณจอมเคยทำกับคนตั้งเยอะแยะ แต่ผม....”ร่างเล็กเม้มริมฝีปาก “อีกอย่าง คุณจอมทัพไม่เคยคิดจะทำ...อะไรแบบนั้นเลยซักครั้ง ผมเลยคิดว่าเป็นเพราะผมไม่มีประสบการณ์....”
“โธ่ขวัญ ทำไมถึงคิดมากอย่างนี้ฮึ?”
จอมทัพเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ดึงอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด ขวัญข้าวนั่งบนตักของชายหนุ่มขยับซุกตัวเข้าหาไออุ่นนั้นอย่างรู้สึกผิด หรือว่าเขาควรจะเลิกล้มความคิดบ้าๆนี่ไปซะ
“ผมรักคุณจอมทัพนะครับ”
ร่างเล็กกระซิบ แขนเรียวโอบกอดตอบคนรักถึงแม้ว่าจะไม่สามารถโอบรอบร่างใหญ่นั้นได้
“อึก…”
จอมทัพกัดฟันกรอด กลิ่นหอมยั่วยวนของคนบนตักเพิ่มขึ้นสิบเท่าหลังจากอาบน้ำเสร็จ แถมการที่อีกฝ่ายขยับยุกยิกไปมาบนตักของเขายิ่งทำให้เจ้ามังกรที่โดนรบกวนแล้วครั้งหนึ่งเริ่มตื่นเต็มตา
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
ดวงตากลมโตช้อนมองคนทีี่ส่งเสียงประหลาดออกมาอย่างสงสัย ถึงแม้จะยังคงซุกอกเขาอยู่อย่างนั้นก็ตาม
“ขวัญ...ลุกก่อน”
“ครับ? อ๊ะ...”
ร่างเล็กร้องออกมาเบาๆเมื่อก้อนเนื้อกลมกลึงขยับชนกับอะไรบางอย่างที่เข้าค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่รีโมตโทรทัศน์ที่วางอยู่ผิดที่ ขวัญข้าวแทบจะลุกออกไปในทันทีด้วยความเขินอาย แต่อะไรบางในห้วงความคิดหยุดเขาไว้เสียก่อน
“ขวัญ...ขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งยุกยิกได้มั้ย”
จอมทัพซุกหน้าลงบนซอกคอขาว กอดอีกฝ่ายไว้แน่นเพื่อให้คนรักหยุดขยับไปมา แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ กลิ่นหอมอบอวลที่ได้รับจางๆทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่จมูกสัมผัสโดยตรงกับผิวกายเนียนนุ่ม
“ยุกยิก...แบบนี้เหรอครับ?”
สะโพกกลมกลึงขยับบดเบียดกับเจ้าตัวที่พองตัวขู่คำรามอย่างเกรี้ยวกราด จอมทัพถึงกับร้องซี้ดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ คว้าสะโพกมนไว้ให้หยุดการเคลื่อนไหวก่อนที่เขาจะสติหลุดไปมากกว่านี้
“พอ...พอแล้ว...”
“คิก…น่ารักจัง”
คนแกล้งหลุดขำออกมากับท่าทีของร่างสูง เสียงหวานที่ดังขึ้นข้างหูเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายของจอมทัพ ชายหนุ่มผลักร่างเล็กลงบนเตียงด้วยแรงไม่เบานัก โชคดีที่ความนุ่มของเตียงทำให้ขวัญข้าวไม่กระแทกโดนอะไร ดวงตากลมโตช้อนมองร่างของคนรักที่ทาบทับอยู่ข้างบน ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นแววตาที่เข้มขึ้นของร่างสูง
“รู้ใช่มั้ย เด็กดื้อที่พูดไม่ฟังต้องโดนอะไร...”
“ผม…อ๊ะ!”
เสียงหวานหลุดลอดออกมาเมื่อจอมทัพก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวเนียน ร่างเล็กสั่นระริกกับความรู้สึกวาบหวามของลิ้นร้อนและริมฝีปากได้รูปที่ดูดดึงผิวเนื้อขาวไล่ตามกกหูลงมาถึงกระดูกไหปลาร้า ทิ้งรอยจ้ำสีกุหลาบไว้ตามทางแสดงความเป็นเจ้าของ
“ขวัญ...ฉันไม่ไหวแล้ว...อึก...วันนี้...ขอได้มั้ย..”
เสียงของจอมทัพฟังดูหมดแรง ราวกับเหนื่อยล้าจากการอดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้จนแทบระเบิด ขวัญข้าวอมยิ้ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะคนรักเบาๆอย่างอ่อนโยน มืออีกข้างค่อยๆปลดกระดุมของตัวเองทีละเม็ดอย่างเชื่องช้าแทนคำตอบ จอมทัพเบิกตากว้าง เลียริมฝีปากที่แห้งผากมองตามมือของคนรักตาไม่กระพริบ
ครั้งแรกของขวัญข้าวกับจอมทัพอย่างเป็นทางการ ร่างเล็กรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ
“อ๊ะ…อ๊ะ....”
เลขาตัวน้อยบิดเร่า ร่อนสะโพกตามจังหวะการกระแทกของสะโพกสอบตามสัญชาตญาณ จอมทัพกัดฟันกรอดกับความคับแน่นที่เพิ่งเคยสัมผัสของคนรัก แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับไหล่บางเร่งจังหวะพาคนรักไปสู่จุดหมายปลายทางที่พวกเขาตามหา
ขวัญข้าวหอบหายใจอย่างยากลำบาก ดวงตาสีน้ำตาลจดจ้องอยู่บนเพดาน ไม่กล้าหันไปมองคนที่ทิ้งตัวลงนอนข้างเขาพร้อมกับดึงร่างเล็กเข้ามากอด
ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี หรือว่าไม่ทำให้ขวัญข้าวพึงพอใจอะไร แต่หากเทียบกับครั้งที่จอมทัพเมาในตอนนั้น ครั้งนี้ถือว่านุ่มนวลกว่ามากจนแทบจะเป็นคนละคน
และขวัญข้าวอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขา...ชอบครั้งนั้นของเขากับจอมทัพมากกว่าเล็กน้อย
“เจ็บมั้ยขวัญ...ฉันรุนแรงไปรึเปล่า”
ร่างสูงถามอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป ขวัญข้าวส่ายหน้า ยิ้มให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจ
“ไม่เจ็บครับ ไม่ต้องห่วงหรอก”
“เหรอ...ค่อยยังชั่ว”ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก ตวัดผ้าห่มลุกขึ้นจากเตียง “ฉันไปอาบน้ำนะ ขวัญนอนไปเลยก็ได้”
“ครับ”
ขวัญข้าวพยักหน้า แต่อะไรบางอย่างในสีหน้าของร่างสูงทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ร่างเล็กรอจนอีกฝ่ายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบ แนบใบหูกับประตูห้องน้ำอย่างสงสัย
“อึ่ก...ขวัญ...ขวัญ....”
เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอทำให้เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนั้น ขวัญข้าวถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงอย่างเหงาหงอย
ทั้งที่คิดว่าพวกเขาเข้าใจกันแล้วแท้ๆ
หลังจากนั้นจอมทัพก็กอดเขาทุกคืน
แต่ทุกครั้งก็เป็นเหมือนเดิม หลังจากทำไปได้ครั้งเดียว อีกฝ่ายก็ขอตัวไปห้องน้ำ แล้วนอกใจเขาด้วยน้องนางทั้งห้าของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะกลับมานอนกอดเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถึงแม้ขวัญข้าวจะพยายามออดอ้อนขอต่อยกสองอย่างโจ่งแจ้งที่สุดเท่าที่หนังหน้าบางๆของเขาจะเอื้ออำนวย แต่จอมทัพมักจะหัวเราะแล้วปัดคำขอร้องนั้นทิ้งไป ราวกับไม่อยากเชื่อว่าร่างบอบบางของคนรักจะสามารถรองรับอารมณ์เขาได้มากกว่าหนึ่งรอบต่อคืน
ส่วนขวัญข้าวก็ได้แต่ข่มตานอนอย่างค้างคา อายเกินกว่าจะทำอะไรๆด้วยตัวเองในห้องน้ำทั้งที่เขารู้ว่าร่างสูงอยู่ในห้องนอนแบบนี้
ขวัญข้าวไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนในชีวิต
คิ้วเรียวขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลาจนพนักงานที่ผ่านไปมาซึ่งชอบไหว้วานให้เขาทำโน่นทำนี่ให้ยังไม่กล้าเข้าใกล้
“ทำหน้าน่ากลัวแบบนั้น คนจะหนีหมดนะ”
แต่คนที่เตือนเขาในที่สุดกลับเป็นคนที่ขวัญข้าวคิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายมีปัญหากับหน้าตาบูดบึ้งของเขาในบริษัท มธุวันวางเอกสารลงบนโต๊ะของเขา เหลือบมองจอมทัพที่นั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นอยู่ในห้อง
“แฟนไม่ทำการบ้านเหรอ”
“คะ…คุณมธุวัน!”
ร่างเล็กแตกตื่น มองซ้ายขวาเลิ่กลั่กด้วยกลัวว่าใครจะได้ยินคำพูดของเลขารุ่นพี่ แต่โชคดีที่ในบริเวณไม่มีใครอยู่ในรัศมีการได้ยิน
“ว่าไง?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ขวัญข้าวลังเล ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ก็…ไม่เชิงว่าไม่ทำหรอกครับ..”
ก่อนจะรู้ตัว ร่างเล็กก็ย้ายสังขารมาระบายทุกข์กับมธุวันในห้องเบรกอย่างอัดอั้นตันใจ ชายหนุ่มกอดอกฟังคำบ่นของเขาเงียบๆ ขวัญข้าวไม่เคยรู้เลยว่าท่าทีของมธุวันมีความหมายว่าเจ้าตัวกำลังตั้งใจฟังหรือไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดกันแน่
“ผมไม่รู้ว่าจะบอกยังไงให้ชัดเจนกว่านี้แล้วครับ”
ขวัญข้าวฟุบลงกับโต๊ะห้องเบรกอย่างหมดแรง เหลือบมองเลขารุ่นพี่อย่างรอคอยคำชี้แนะและทางสว่าง
“ก็บอกไปสิ ว่าเลือกเอาว่าจะทำหรือจะให้ใช้มะเขือยาวแทน”
ขวัญข้าวไม่เคยชินกับคำพูดแต่ละอย่างกับใบหน้าเป็นการเป็นงานของหนุ่มแว่นร่างโปร่งที่ไม่เคยไปทางเดียวกันเลยให้ตายสิ
“มะ…มะเขือยาว?”
“จริงๆก็แล้วแต่ไซส์” มธุวันไหวไหล่ “ถ้าปกติชินกับเบบี้แครอทก็ตามนั้น”
ก็...ก็ต้องมะเขือยาวอยู่แล้วสิครับ!!
ไม่สิ..มันใช่ปัญหาตรงนั้นซะเมื่อไหร่ล่ะครับ?!!!!
“คะ...เคยทำเหรอครับ?”
ความอยากรู้อยากเห็นประกอบกับการที่มธุวันดูจะพูดคุยกับเขามากกว่าปกติในวันนี้ทำให้ขวัญข้าวหลุดถามออกไป มธุวันเลิกคิ้ว เท้าแขนกับโต๊ะโน้มลงมาหาร่างเล็กที่รู้ตัวทันทีว่าตัวเองเพิ่งข้ามเส้นที่ไม่ควรข้ามไป
“ทำไม....อยากให้สอนเหรอ?”
“มะ…ไม่เป็นไรครับ ขอโทษครับ!”
คนโดนแหย่แทบจะมุดหนีลงไปใต้โต๊ะ มธุวันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟของตัวเองเดินออกไป ขวัญข้าวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าเขาชอบมธุวันแบบนี้หรือแบบที่ไม่พูดอะไรกับเขาเกินความจำเป็นมากกว่ากัน
จอมทัพกำลังง่วนอยู่กับงานเอกสารเมื่อเสียงกดกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ขวัญข้าวลงไปซื้อของสดมาทำอาหารสักพักแล้ว เขาจึงลุกไปเปิดประตูด้วยคิดว่าคนรักลืมคีย์การ์ดไว้ในห้อง แต่คนตรงหน้ากลับเป็นชายในชุดพนักงานส่งของ
“พัสดุคุณขวัญข้าวครับ”
“ขอบคุณครับ”
จอมทัพเซ็นรับพัสดุงงๆ นึกไม่ออกว่าอีกฝ่ายบอกเขารึเปล่าว่าสั่งอะไรไว้ ทีแรกชายหนุ่มคิดจะวางกล่องไว้ให้อีกฝ่ายบนโต๊ะ แต่ชื่อเว็บไซต์ที่ค่อนข้างโจ่งแจ้งว่าขายอะไรทำให้ร่างสูงยกกล่องขนาดกลางขึ้นมาสำรวจ ก่อนจะตัดสินใจเอากรรไกรกรีดเทปที่แปะปิดกล่องกระดาษนั้นไว้
“คุณจอมทัพ วันนี้ผมทำแกงจืดเต้าหู้กับไข่เจียวนะครั...ทำอะไรน่ะครับ?!”
ขวัญข้าวที่เพิ่งกลับมาร้องเสียงสูงเมื่อเห็นอุปกรณ์จำลองที่อยู่ในมือของคนรัก จอมทัพก้มมองเจ้าอุปกรณ์ขนาดสมจริงสีดำสนิทในมือสลับกับคนรักด้วยสีหน้าช็อคถึงขีดสุด
“ขวัญ..นี่อะไร?”
“เอ่อ คือ…” ขวัญข้าวอึกอัก ยกมือขึ้นเกาแก้มอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไร “ผม...”
“….”
จอมทัพตั้งใจฟังคำแก้ตัวของคนรัก ใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าเป็นกังวลทำให้ขวัญข้าวตัดสินใจเอ่ยตามความเป็นจริง
“ผมแค่รู้สึกว่าที่เราทำมัน...ไม่ค่อยพอ”
“ขวัญ...ที่เคยบอกว่าอยากทำอีก ไม่ใช่แค่เกรงใจฉันเหรอ?”
ร่างสูงถามอย่างไม่อยากเชื่อ ขวัญข้าวส่ายหน้า ทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างอับอาย เขาคิดอะไรอยู่ถึงได้บ้าจี้ทำตามที่คุณมธุวันแนะนำ ต้องให้แผนล่มใส่เขาอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจ
“ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณลำบากใจ แต่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ขวัญ...”
“ผมรู้ว่าคุณจอมทัพคิดว่าผมเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่แตะนิดแตะหน่อยก็พัง แต่ผมเป็นคนนะครับ ผมก็มีความต้องการ ผมก็มีความอยาก ผมพยายามบอกคุณแล้วว่าผมรับได้ แต่คุณก็....อื้อ....”
ริมฝีปากรูปกระจับถูกปิดด้วยริมฝีปากของร่างสูง จอมทัพดึงแขนของอีกฝ่ายให้โอบรอบคอเขา ขวัญข้าวตวัดขาโอบรอบเอวสอบอย่างรู้งาน ปล่อยให้คนรักอุ้มไปยังห้องนอน วางร่างเล็กลงบนเตียงทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ละจากกันแม้แต่วินาทีเดียว
“ฉันขอโทษนะขวัญ...ฉันไม่รู้เลยว่าขวัญรู้สึกแบบนี้....”
“ถ้าอย่างนั้น...”ขวัญข้าวปลดกระดุมเสื้อให้ร่างสูงด้วยมืออันสั่นเทา เอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำตามประสาคนขี้อาย “...วันนี้ก็ชดเชยก่อนหน้านี้ด้วยแล้วกันนะครับ”
“….ตามที่ขวัญต้องการเลยครับ”
จอมทัพฉีกยิ้ม ก่อนจะเริ่มต้นบทเพลงรักที่เขาติดค้างอีกฝ่ายไว้ เสียงหวานครางสอดประสานกับจังหวะรักของสะโพกสอบ ผ้าปูที่นอนสีขาวยับย่นจากทุกท่วงท่าที่ถูกอีกฝ่ายรุกเร้าจนแทบละลาย
…ส่วนเจ้าของเล่นที่สั่งมาก็นอนอยู่บนโต๊ะห้องนั่งเล่นอย่างไม่มีใครเหลียวแล
-------------
สั้นๆ งงๆ เบลอๆ5555