ปล. อยากบวกให้ซ้าก 2-3 แต่เดี๋ยวเจ้าพ่อเจ้าแม่คุมบอร์ดจะหาว่ามีซัมซิงรองกะคุงป้อม...
เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาของเจ้าพ่อ - เจ้าแม่ งั้นเรามามี ซัมติ้ง รองกัยเลยจริงๆดีกว่า ครับ อิอิ
กลับมาแล้วครับ ขอโทษด้วยค๊าบบที่ข้ามตอน เบลอไปหน่อย เลยลงข้ามเฉยเลย
มึนๆ ไม่สบาย ใครช่วยปลอบที
ขอบคุณ K. ตามไปดู ที่มาลงแก้ให้นะค๊าบบ
ขอบคุณตาเรย์ที่มาช่วยย้ายให้อ่านรู้เรื่องค๊าบบบบบบบ
ต่อกันเลยดีกว่า สำนึกผิด ลง 2 ตอนเลย วันนี้
**************************************************************************************
“เอ็ม”
เสียงใสๆดังขึ้นมาข้างหลัง เอ็มหันไปมองแก้วกำลังยืนส่งยิ้มหวานให้เขา เขาเลยต้องยิ้มตอบก่อนทัก
“ยังไม่กลับเหรอครับแก้ว”
“รอพ่อมารับแน่ะป่านนี้ยังไม่มาเลยอ่ะแล้วเอ็มล่ะ”
“เพิ่งเลิกจากเล่นบาสเมื่อกี้เองเนี่ยกำลังจะกลับ”
“ว้านึกว่าจะมีเพื่อนคุยจะกลับแล้วเหรอ”
แก้วทำหน้าผิดหวังนานๆจะมีโอกาสอยู่คุยกะเอ็มแบบนี้ ปกติแก้วก็เห็นเอ็มอยู่แต่กะกลุ่มเพื่อนๆ แต่วันนี้แปลกแยกตัวมาคนเดียว
“ผมก็ไม่ได้รีบอะไร ให้อยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะครับ พ่อแก้วมาผมค่อยกลับก็ได้”
“จริงเหรอเอ็มดีจัง งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งคุยรอทางโน้นดีกว่า แก้วนัดพ่อไว้ทางโน่นแน่ะ” เอ็มออกเดินตามแก้วไปไม่รู้อารมณ์ไหนวันนี้เขาก้อไม่อยากกลับห้องเร็วเหมือนกัน
“แล้วทำไมวันนี้เอ็มแยกตัวมาคนเดียวล่ะ ปกติเห็นอยู่กับเพื่อนๆ” แก้วเอ่ยถามเมื่อหาที่นั่งได้เรียบร้อยแล้ว
“ก็ไม่มีไรครับแค่อยากอยู่คนเดียวมั่ง”
“อ้าวอย่างงี้แก้วมากวนหรือเปล่าอ่ะ”
“เฮ้ยไม่เกี่ยวครับผมคุยได้”
“อืมแต่ท่าทางเอ็มมีเรื่องให้คิดดูไม่ค่อยร่าเริงเลย”
“เหรอผมคงเหนื่อยมั้งครับ”
“งั้นเดี๋ยวพอพ่อแก้วมารับ เอ็มก้อกลับพร้อมแก้วก้อได้เดี๋ยวให้พ่อแวะไปส่ง”
“อย่าเลยเกรงใจ”
“เกรงใจไรล่ะอุตส่าห์คุยเป็นเพื่อนแก้วเหอะนะ” แก้วทำท่าอ้อนจนเอ็มเออออตาม เขาจึงได้นั่งคุยกับแก้วจนพ่อแก้วมารับ
เอ็มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องนั่งรถร่วมมากับแก้วที่เอาแต่คุยจ้อไม่หยุด เขาอยากที่จะไปถึงห้องให้เร็วที่สุด แต่ต้องเซ็งขึ้นมาหน่อยเมื่อพ่อแก้วบอกจะขอแวะเข้าไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลแถวที่เป็นทางผ่านไปห้องเขา ไอ้ครั้นที่เขาจะขัดมันก็ยังไงๆอยู่ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไหนๆก็หลวมตัวมากะแก้วแล้ว
“เราสองคนจะรอในรถก็ได้นะ พ่อไปไม่นานหรอก”
“ให้แก้วขึ้นไปเยี่ยมด้วยสิคะพ่อ เบื่อตายเลยรออยู่ในรถ” แก้วรีบขัดขึ้นเมื่อพ่อบอกให้รอในรถ
“แล้วเพื่อนเราล่ะ”
เอ็มสบตาพ่อของแก้วยังไม่ทันเอ่ยอะไรแก้วก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ก็ไปด้วยกันไงคะ นะเอ็มนะพ่อแก้วเวลาเจอเพื่อนคุยนานนะ”
“ครับ ไปก็ไป”
เอ็มตอบออกมาเสียไม่ได้ นึกรำคาญแก้วอยู่ในทีเพราะปกติเขาไม่ได้ให้ใครมาสั่งให้เขาทำอะไรได้ง่ายๆ แต่ครั้งนี้เขาแค่เกรงใจผู้ใหญ่ที่เขาติดรถมาด้วยเท่านั้น
“จะเข้าไปหรือเปล่าหรือรออยู่ข้างนอก” พ่อของแก้วเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเดินมาจนถึงหน้าห้องที่ต้องการที่จะมาเยี่ยม
“ไหนๆก็มาแล้วเข้าไปกับพ่อละกันจะได้รู้จักเพื่อนพ่อด้วยไงคะ”
แก้วจัดแจงทุกอย่างอีกตามเคย เอ็มแอบถอนหายใจอย่างเบื่อๆแต่ก็เดินตามพ่อลูกเข้าไปในห้อง
เสียงทักกันดังขึ้น เอ็มก็ได้แต่ยืนเก้ๆกังๆเพราะเขาไม่รู้จักใครในห้องเลยจะให้เขาทำตัวยังไงก็ทำไม่ถูก ดีที่พ่อของแก้วบอกว่าเขามากับแก้วเป็นเพื่อนของแก้ว เขาจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าไปเท่าไหร่
“อืมเห็นไอ้หนุ่มนี่แล้ว ก็อดนึกถึงลูกชายไม่ได้เนอะ”
ร่างชายวัยกลางคนที่นอนซมอยู่บนเตียงผู้ป่วยกล่าวยิ้มๆมองมาที่เขา เอ็มเลยยิ้มตอบเจื่อนๆ
“แล้วลูกชายไปไหนล่ะ” พ่อของแก้วเอ่ยถาม
“เห็นโทรบอกกำลังจะมาถึง รายนั่นน่ะห่วงพ่อน่าดู พอรู้เรื่องว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลเท่านั่นแหละรีบลงมาจากเชียงใหม่เลยเชียว”
ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่เป็นคนเอ่ยตอบพลางมองที่เขายิ้มๆ
“แล้วลูกคุณอาเรียนที่เชียงใหม่เหรอคะ” แก้วเอ่ยถาม
“จ๊ะเดี๋ยวหนูแก้วรอเจอก็ได้นิเนี่ยเดี๋ยวก็มาถึงแล้ว”
“อันนี้คงแล้วแต่คุณพ่อค่ะ”
แก้วบอกอย่างอายๆ เอ็มเห็นท่าว่าทุกคนจะคุยกันยาวจึงคิดจะออกไปรอข้างนอก แล้วอาจจะแวบกลับเดี๋ยวค่อยโทรมาบอกพ่อลูกก็ได้เขาเริ่มเบื่อกับบรรยากาศขึ้นมา
แก้วบอกจะตามไปด้วยแต่เอ็มห้ามไว้ก่อน
“อย่าเลยแก้ว”เซ้าซี้ไปก็ไม่เป็นผลดี แก้วจึงฟัง
เอ็มจึงเดินไปเปิดประตูอย่างโล่งอกที่เขาจะได้หายอึดอัดเสียที แต่เขายังไม่ทันที่จะได้แตะที่ประตูด้วยซ้ำประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงๆของเด็กหนุ่มที่ก้าวเข้ามา
เอ็มต้องชะงักกับภาพตรงหน้าเด็กหนุ่มหน้าตี๋ตัวสูงราวๆกับเขา ใบหน้าใสๆบ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยมาบ้าง แต่ยังคงความดูดีในแบบเซอร์ๆ ดูเหมือนว่าสองคนจะจ้องกันนานอยู่พักหนึ่งในเมื่อต่างคนต่างชะงักจนมีเสียงทักทางด้านหลัง จึงดึงสายตาคนทั้งสองให้ละจากกันได้