,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}  (อ่าน 89073 ครั้ง)

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
คิดถึงแล้ว :mew2: :mew2: :mew2: ยังใงก็อย่าทิ้งขมิ้นกับพี่ไฮท์นะ :call: :call: :call:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-16-




        ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์หน้าตึกกลางของคณะ ผมควบหมวกกันน็อคไว้ที่กระจกรถก่อนเดินขึ้นตึกเพื่อไปเรียน วันนี้ตารางเรียนมีเรียนสาย แต่ผมก็ต้องมาเช้าเพราะนัดเจมส์มันไว้ ทันทีที่ขาก้าวขึ้นบันได ข้อศอกด้านซ้ายก็ถูกดึงจนผมตกใจพร้อมเหวี่ยงหมัดไปแบบอัตโนมัติ ยังดีที่คนดึงหลบทัน ไม่งั้นคางเขียวไปแล้ว

   “เดี๋ยวนี้เล่นแรงนะเนี่ย” คนดึงพยายามซ่อนสีหน้าตกใจภายใต้รอยยิ้มกว้าง แต่แววตามันซ่อนไม่ได้ว่าขวัญเสีย

   “มีอะไร” ถามกลับเสียงห้วน แต่อีกฝ่ายยังยิ้มแย้ม ไม่รู้สึกรู้สา

   “คิดถึงเมียเลยอยากมาเห็นหน้า ดูสิ ไปเข้าค่ายผิวคล้ำขึ้นเยอะ”

   ผมรีบปัดมือที่ยื่นเข้ามาจะจับหน้า โคตรไม่ชอบสายตาคู่ตรงหน้าที่กำลังมองสำรวจตัวผมเลย ถ้าเป็นพี่ขิงคงไม่รู้สึก แต่ผมไม่ใช่พี่ขิงไงเลยรู้สึก

   “พี่มีอะไรกับผมอีกถึงมาหาที่นี่” ย้ำไปแบบเดิมจนแฟนเก่าพี่ขิงส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

   “ก็บอกว่าคิดถึง” พอได้ยินแบบนั้นผมก็ทำท่าจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกดึงแขนไว้ “ก็ได้ๆ นิสัยใจร้อน ขี้หงุดหงิดนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”

   “พี่ต้องการอะไรถึงมาดักรอผม พูดเนื้อๆ นะ ผมมีเรียน” หลังจากดึงแขนตัวเองออกจากการจับกุมได้ ผมก็ขยับถอยหลังให้อยู่ในที่ไอ้พี่นาวไม่สามารถเอื้อมถึง

   “พี่ได้ข่าวมาว่า ขิงใช้หนี้บอลหมดแล้ว”

   “ใช้หนี้หมด? พี่ เอ่อ ผมใช้หนี้หมดแล้ว? ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

   “อ่าว ก็เสี่ยบอกขิงเอาเงินก้อนไปใช้หนี้หมดแล้วๆ มาย้อนถามพี่ ว่าตัวเองเอาไปใช้เมื่อไหร่ พี่จะรู้ได้ยังไงล่ะ”

   หลังจากได้ยิน คิ้วผมก็ขมวดทันที พี่ขิงใช้หนี้หมดแล้ว งั้นก็กลับมาได้แล้วสิ ใจหนึ่งก็ดีใจ แต่อีกใจทำไมเจ็บจี๊ดๆ ถ้าพี่ขิงกลับมาจริงๆ ผมก็คงต้องจากที่นี่ไป ทั้งที่จำได้ทุกซอกทุกมุมได้แล้วเชียว

   “แค่นี้ใช่ไหม งั้นผมไป...อะไรอีก” แขนผมยังถูกคว้าไว้อีกรอบเมื่อคิดจะเดินขึ้นตึก คราวนี้สายตาคนจับดูไม่น่าไว้ใจ นัยน์ตาแวววับยามจ้องหน้า ยิ่งมุมปากยกยิ้มดูเจ้าเล่ห์นั่น ทำให้ผมอยากพุ่งหมัดเข้าหน้า ติดที่ทำไม่ได้

   “นานแล้วนะ ที่เราไม่ได้ไปสนุกกัน” ไม่ว่าเปล่า มือที่จับข้อมือผมลูบไล้อย่างมีนัยยะแอบแฝง “พี่ว่าเรา...”

   “ผมต้องไปเรียน ขอตัวก่อนนะครับ” บิดข้อมือออกจากการจับกุมอีกรอบ คราวนี้ผมรีบขึ้นบันไดเข้าใต้ตึกทันที เมื่อกี้รู้สึกขยะแขยงจนต้องถูมือถูกแขนกับกางเกงยีนส์ มันทนไม่ไหวจริงๆ กับคนอื่นไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย 


   เดินขึ้นตึกเพื่อจะไปเข้าห้องเรียน ช่วงที่เดินผ่านห้องน้ำของชั้นสาม แขนผมถูกฉุดอีกรอบ ตอนแรกว่าจะต่อย แต่พอเห็นว่าใครก็ต้องรีบเดินตาม หัวใจตอนนี้เต้นรัวราวกับกลองรบยามมองแผ่นหลังคนข้างหน้าที่พาผมเข้าห้องน้ำ 

   “พี่มาได้ยังไง” ผมเอ่ยถามคนฉุดที่หน้าเหมือนผมราวกับส่องกระจก พี่ขิงสวมชุดนักศึกษา มีผ้าปิดปากเอาไว้คงป้องกันคนรู้จัก “หรือพี่จะมาเปลี่ยนตัวกับผมแล้ว”

   “ยังขมิ้น พี่ยังกลับมาไม่ได้” พี่ขิงดึงผ้าปิดปากออกพร้อมตีหน้าเศร้า ก่อนใบหน้าขาวจะเงยขึ้นมายิ้มบางๆ ส่งให้ผม “พี่ขอเวลาอีกหน่อยนะ”

   “พี่ใช้หนี้หมดแล้วไม่ใช่เหรอ ก็น่าจะกลับมาได้แล้วสิ แล้วแม่จะให้ผมไปถ่ายแบบกางเกงใน ผมไม่ไปแน่นอน” งอแงเต็มที่จนพี่ขิงขำออกมา “ผมพูดจริงๆ นะ”

   “งั้นเดี๋ยวพี่ไปถ่ายเอง”

   “พูดจริงเหรอ พี่จะไปถ่ายเองจริงๆ เหรอ”

   “อืม ขมิ้นก็อยู่ที่บ้านก็แล้วกันนะ”

   พอพูดถึงบ้าน หน้าพี่ขิงก็กลับมาเศร้าอีกรอบ ผมมองเห็นน้ำใสๆ เอ่อคลอที่หน่วยตาทำให้อดไม่ได้ที่จะถาม

   “พี่เป็นอะไร คิดถึงบ้านเหรอ ถ้าคิดถึงก็กลับไปสิ แม่ก็รอพี่อยู่นะ”

   “คือ พี่ก็คิดถึงแม่นะ แต่พี่กลับไปไม่ได้” น้ำเสียงพี่ขิงเริ่มสั่น จมูกโด่งก็เริ่มแดงเพราะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล “พี่กลับไปไม่ได้”

   “ทำไมกลับไม่ได้ล่ะ หนี้ก็ไม่มีแล้ว”

   “ชีวิตพี่ ไม่ได้สบายอย่างที่ขมิ้นเข้าใจหรอกนะ” แล้วน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มลงมา ผมเม้มริมฝีปากไม่กล้ายื่นมือไปเช็ด หรือส่งผ้าเช็ดหน้าราคาถูกๆ ให้ เจมส์เคยบอกว่า พี่ขิงหวงใบหน้าตัวเองมาก ของที่ใช้ต้องมีราคา อย่างผ้าเช็ดหน้าที่มีก็ผืนเป็นหมื่น

   “ไม่สบายตรงไหน พี่มีเงิน มีชื่อเสียง มันดีจะตาย”

   “แล้วขมิ้นสบายหรือเปล่าล่ะ อยู่ที่บ้านหลังนั้น” ผมรีบส่ายหน้าทันที ถ้ามีความสุขผมคงอยากกลับทุกวัน แต่นี่กว่าจะกลับไปก็ตอนดึกๆ “ใช่ไหม บ้านหลังใหญ่ก็จริง แต่มันไม่มีความสุขเลย ตั้งแต่พี่เข้าไปอยู่บ้านหลังนั้น มันเหมือนตกอยู่ในขุมนรก”

   “ขุมนรก ขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “ขมิ้นรู้อะไรไหม ที่คุณพ่อ...เขาทำเป็นว่ารักพี่ หวงพี่ ก็เพราะ...”

   “เพราะ?”

   “เขา...ข่มขืนพี่” ผมเซถอยหลังจนไปชนกับกำแพงห้องน้ำ ตอนนี้เหมือนหูอื้อไปชั่วขณะ ส่วนพี่ขิงก็ร้องไห้จนตัวโยนอย่างน่าสงสาร “เขาใช้กำลังกับพี่ ตั้งแต่พี่อยู่มัธยม”

   “แล้วแม่ล่ะ แม่ทำอะไรอยู่ถึงให้เขาทำกับพี่ได้” 

   “แม่ไม่รู้ ขมิ้นอย่าบอกแม่นะ พี่ไม่อยากให้แม่เสียใจ”

   เผลอกำหมัดแน่นตอนไหนยังไม่รู้ตัว ตอนนี้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก เขาที่พี่ขิงว่า คงจะเป็นลุงเจ้าของบ้านแน่ๆ มิน่าล่ะ ถึงดูทั้งรัก ทั้งหลงพี่ขิงขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะเลวได้ขนาดนี้

   “พี่ควรบอกแม่นะ”

   “บอกไม่ได้ ขมิ้นก็รู้ ว่าแม่รักเขามากแค่ไหน ถ้าแม่รู้ แม่ต้องเสียใจ พี่ไม่อยากเห็นแม่เสียใจ” ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วย พี่ขิงขยับเดินเข้ามาหา พร้อมยื่นมือมาจับมือผมไว้ “สัญญานะขมิ้น สัญญากับพี่ ว่าขมิ้นจะไม่บอกเรื่องนี้กับแม่ สัญญาสิ” ถึงแม้ไม่อยากรับปาก แต่ก็ต้องพยักหน้าเพราะพี่ขิงร้องไห้จนตัวแดงไปหมด

   “พี่ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่ต้องปิดเรื่องเลวๆ พวกนี้” บอกตามความรู้สึก พี่ขิงยกยิ้มบางๆ หลังจากเช็ดน้ำตาตัวเองจนแห้งเหือด

   “ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ พี่ก็กลัวเขานะ แต่พอมาเรียนที่นี่ พี่รู้จักกับเพื่อน ได้ไปเที่ยวในแบบที่ไม่เคยได้สัมผัส ขมิ้นรู้ไหม ว่าเขาไม่เคยให้พี่ไปเที่ยวกลางคืน หรือแม้แต่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย พี่ต้องยอมทำตามเขาทุกอย่าง จนวันหนึ่ง พี่รู้จักกับคนๆ หนึ่ง เขาดูแลพี่ คอยเอาใจใส่จนพี่อยากออกมาจากวังวนเลวๆ นั่น แต่พอเขารู้ เขาก็กักขังพี่ ข่มขืนพี่ จนพี่ทนไม่ได้...”

   “พี่เลยหนีเหรอ” ไม่ใช่เพราะหนีหนี้บอลเหรอวะ

   “มันก็หลายเรื่อง พี่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แต่ที่พี่ทำตัวแย่ๆ แบบนี้ก็เพราะอยากประชดเขา ประชดตัวเอง ประชดทุกอย่างบนโลกที่ทำให้พี่ต้องเจอเรื่องร้ายๆ แบบนั้น”

   “ประชดแล้วได้อะไรวะ”

   “นั่นสิ พี่ได้อะไร ที่พี่ทำตัวแย่จนไม่มีเพื่อน ก็เพราะกลัวเขาทำร้ายเพื่อนของพี่ เขามีซุ้มมือปืนด้วยนะ”

   “ผมรู้” เพราะเคยเกือบถูกมือปืนยิงเมื่อตอนนั้น

   “แต่พี่ก็ไม่ได้สบายหรอกนะที่ออกมาอยู่ข้างนอก ชีวิตมันลำบากมาก ดีที่แม่โอนเงินให้พี่ใช้ ไม่งั้นพี่คงฆ่าตัวตายไปแล้ว”

   คิ้วกระตุกนิดๆ เมื่อได้ยินประโยคนั้น แม่โอนเงินให้พี่ขิง แปลว่าแม่ก็ต้องรู้ว่าพี่ขิงอยู่ไหนตั้งแต่แรกสินะ ผมว่าเรื่องมันแปลกๆ แล้วว่ะ

   “แล้วพี่จะทำยังไงต่อ จะไปอยู่ที่ไหนถ้าไม่กลับบ้าน”

   “ตอนนี้พี่เช่าคอนโดอยู่กับเพื่อน ส่วนหนี้ก็อย่างที่ขมิ้นรู้ พี่ใช้หมดแล้ว” ผมพยักหน้าเมื่อได้ยิน ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อถูกถามบางเรื่อง “ขมิ้นสนิทกับพี่ไฮท์เหรอ”

   “ก็ไม่ได้สนิทนี่ พี่รู้ได้ยังไงว่าผมสนิทกับพี่ไฮท์” พอถูกถามกลับ แว๊บหนึ่งผมเห็นความไม่พอใจออกจากสายตาพี่ขิง “พี่ไฮท์เขาเกลียดพี่ขิง แล้วเขาจะมาสนิทกับผมได้ยังไง จริงไหม” ยิ่งผมพูดประโยคถัดมา ท่าทางยิ่งชัดเจน แต่พี่ขิงดูยังเก็บอาการได้ดี

   “ก็จริงอย่างที่ขมิ้นว่า พี่ไฮท์รวมทั้งทุกคนไม่ชอบพี่” พี่ขิงทำหน้าสลดลงจนผมต้องยื่นมือไปแตะบ่า “แล้วนี่ขมิ้นจะเข้าเรียนไหม เลยเวลาแล้วนะ”

   “ไม่ล่ะ ผมขี้เกียจ แล้วพี่ล่ะ”

   “พี่ก็ว่าจะกลับเหมือนกัน กลัวคนจับได้ ขอบใจนะขมิ้นที่เข้าใจพี่”

   “อืม แต่จะดีกว่านี้ ถ้าพี่รีบกลับมา แล้วก็อย่าลืมไปถ่ายแบบกางเกงในนะ เพราะผมไม่ไปถ่ายแน่”

   “รู้แล้วน่า พี่ไปนะ”

   ผมยืนมองพี่ขิงที่ออกจากห้องน้ำไปพร้อมถอนหายใจ ตลอดเวลาในการพูดคุยเรื่องเมื่อกี้ ผมแทบหาความจริงจากสายตาและคำพูดของพี่ขิงไม่ได้เลย ผมไม่ได้โง่ที่จะมองไม่ออกว่าพี่ขิงโกหก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะผมเกือบถูกกระทืบอยู่ทุกวันตั้งแต่มาเหยียบที่นี่ในนามพี่ขิง นิสัยต่างๆ จากปากทุกคนมันทำให้ผมได้รู้ว่า พี่ขิงไม่ใช่คนดี แต่ผมก็ไม่ได้ว่าเขาเลวหรอกนะครับ

   แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย...ลุงเจ้าของบ้านจะข่มขืนพี่ขิงจริงๆ เหรอ หากสังเกตจากพฤติกรรมแล้วก็มีความเป็นไปได้อยู่มาก เพราะเขาเกลียดผมที่มาแทนพี่ขิง เขารักพี่ขิงมากซะจนผมยังนึกว่าพี่ขิงเป็นลูกแท้ๆ ของเขา   





   พี่ขิงออกไปนานพอสมควร ผมถึงออกไปบ้าง ด้านนอกยังมีนักศึกษาเดินกันให้วุ่น บ้างก็ยกมือไหว้ผม บ้างผมก็ต้องยกมือไหว้ จากวันแรกที่ผมมักถูกมองด้วยหางตา แต่ตอนนี้ทุกคนยิ้มแย้ม พูดจาเล่นหัวกับผมเป็นปกติ มันทำให้ผมมีความสุขเวลามาเรียน ไม่ใช่ต้องคอยระวังมือ ระวังตีนเหมือนเมื่อก่อน

   ความคิดในหัวของผมกำลังตีกันให้ยุ่งเหยิง ผมเลยเลือกที่จะไปปลดปล่อยความคิดกับการดูหนังในห้างมากกว่าเข้าเรียน เสียงหัวเราะของคนในโรงภาพยนตร์ไม่ทำให้ผมคล้อยตามได้เลย หนังไม่สนุกหรือ ก็เปล่า ผมว่ามันก็สนุกนะ แม้จะดูไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ

   สองชั่วโมงผ่านไปโดยประมาณภาพยนตร์ก็จบลง ผมเดินออกมาเจอบรรดาแฟนคลับพี่ขิงเข้ามาคุยด้วย ผมก็ตีเนียนไปเช่นทุกครั้ง คนดังมักจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ หากให้ผมเลือกละก็ ขอเป็นคนธรรมดาดีกว่า ผมออกจากห้างสรรพสินค้าตรงกลับบ้าน ระหว่างทางก็ชั่งใจว่าจะถามลุงเจ้าของบ้านดีไหม แต่ถ้าถามก็กลัวเขาจะบอกแม่ มันไม่มีอะไรดีเลย

   กลับถึงบ้านเจอแม่นั่งขัดสร้อยเพชรของตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นชุดใหม่ยกเซ็ทเพราะผมไม่เคยเห็น และมันก็จริงที่พอผมเข้าไปแม่ก็กวักมือเรียกแล้วยกขึ้นเทียบอกให้ดู

   “พี่ขิงจะไปถ่ายแบบกางเกงในเองนะแม่” บอกไปหลังจากทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา แม่ยังทำเหมือนไม่ได้ยินจนผมต้องย้ำอีกรอบถึงได้พยักหน้าตอบรับ
 
   “พี่เขาโทรบอกแม่แล้ว เห็นไหมว่าพี่เขามีความรับผิดชอบ” แทบอยากจะขำออกมาเป็นภาษาสเปน “ขมิ้นต้องดูพี่ขิงเป็นตัวอย่างนะลูก ทำงานเก่ง เรียนก็ดี เพื่อนก็รัก เพอร์เฟกที่สุด”

   “คนเกลียดทั้งมหาลัยน่ะสิไม่ว่า” พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนหันซ้ายหันขวา “แล้วนี่ ลุงเขายังไม่กลับมาอีกเหรอ”

   “ยัง”

   แม่ยังพูดไม่จบดี เสียงรถยนต์ก็วิ่งเข้ามาจอด ไม่นานลุงเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามา ใบหน้าบึ้งตึงราวกับกินรังแตนมาทั้งรัง ทันทีที่เขาเห็นหน้าผมกับแม่ก็รีบสาวเท้ายาวขึ้นชั้นสองไป เขาไม่แม้แต่จะหันมาทักทายแม่อย่างแต่ก่อน และแม่ก็ดูไม่สนใจอะไรนอกจากเครื่องเพชรชุดใหม่

   “ลุงเขาเป็นอะไรน่ะแม่ เหมือนโมโหใครมา”

   “ไม่รู้สิ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวาน แม่คุยด้วยก็ไม่คุย”

   “แล้วแม่ไม่ไปดูหน่อยเหรอ”

   “ขี้เกียจ ขมิ้นว่า เครื่องเพชรชุดนี้แม่จะใส่กับชุดไหนดี ขมิ้น”

   ไม่อยู่รอฟังคำถามจนจบ ผมเดินหนีขึ้นชั้นสองทันที แม่ไม่เคยเห็นใครดีกว่าเครื่องเพชรของตัวเอง ไม่สิ มีอยู่อย่างหนึ่งที่แม่สนใจ นั่นคือพี่ขิง เดินขึ้นมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายก็เจอหน้าลุงเจ้าของบ้าน ที่กำลังออกจากห้องตัวเอง ดวงตาดุตวัดมองดูน่ากลัวมากกว่าทุกที

   ถามดีไหมวะ

   มัวแต่คิดเยอะ ลุงเจ้าของบ้านเดินผ่านลงไปด้านล่างแล้ว คงมาเปลี่ยนชุดไปงานอะไรสักอย่าง ผมยักไหล่ก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง มือก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่องหลังจากปิดไปตอนเข้าโรงหนัง ทันทีที่เปิด ข้อความก็เตือนขึ้นมาว่ามีคนโทรหาเกือบสิบสาย คนโทรเข้าคือพี่ไฮท์กับเจมส์ พวกเขามีอะไรกับผมหรือเปล่าวะ ผมตัดสินใจโทรหาเจมส์ รอสายไม่นานเจมส์ก็รับ น้ำเสียงที่ดังผ่านสายมาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

   “เป็นอะไรวะ” กรอกเสียงถามไป

   (มึง...เดี๋ยว) ต้องรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหูหลังจากเจมส์โวยวายเสียงดัง พอเอากลับมาแนบอีกครั้ง ปลายสายกลับเป็นพี่บิ๊กที่ตวาดใส่ผมเป็นชุด (ถ้ามึงจะให้ไอ้ขิงมาเรียนแทน มึงก็ควรบอกไอ้เจมส์บ้าง ไม่ใช่ให้มันโดนด่าแบบนี้ มึงก็รู้ว่าไอ้ขิงเป็นคนยังไง แต่มึงก็ทำเป็นไม่สน เห็นไอ้เจมส์เป็นเพื่อนจริงหรือเปล่าวะฮะ!)

   “พี่บิ๊กว่าอะไรนะ พี่ขิงเข้าเรียนแทนผมเหรอ” ถ้าจำไม่ผิด พี่ขิงบอกจะกลับไม่ใช่เหรอวะ

   (เออสิ ออกลายจนไอ้เจมส์โดนอาจารย์ด่ามัน ทีหลังถ้ามึงจะให้พี่มึงมา ช่วยบอกมันหน่อย)

   “ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าพี่ขิงจะเข้าเรียน” ทำไมพี่ขิงถึงเป็นคนแบบนั้นวะ “เจมส์ กูขอโทษ กูไม่รู้จริงๆ” เสียงเรียกของเจมส์ทำให้ผมรีบพูด

   (ไม่เป็นไร กูก็โง่เองที่ไม่ทันสังเกต)

   “ขอโทษจริงๆ นะ”

   (กูบอกแล้วว่าไม่เป็นไรไง ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว)

   “เมื่อเช้าพี่ขิงมาดักรอกู เขามาคุยเรื่องที่หนี้หมด”

   (มันใช้หนี้หมดแล้วเหรอวะ)

   “อืม ไอ้พี่นาวนั่นก็บอกแบบนั้น แต่เจมส์ กูถามอะไรมึงหน่อยสิ”

   (ถามอะไรวะ)

   “มึงสนิทกับพ่อเลี้ยงพี่ขิงไหม รู้จักมากไหม”

   (พ่อเลี้ยงไอ้ขิงเหรอ ก็เคยเจอนะ เขาก็ปกตินะ ยิ้มแล้วก็คุยปกติ)

   “มีหวงพี่ขิงมากกว่าปกติหรือเปล่า”

   (หวงเหรอ? มึงต้องการถามอะไรกันแน่ มึงสงสัยอะไร ไอ้ขิงพูดอะไรให้มึงฟัง)

   “คือว่า...” ผมเม้มปาก ลังเลว่าจะถามดีไหม แต่ก็ไม่อยากเก็บไว้คนเดียวเลยตัดสินใจถามออกไป “พี่ขิงบอกกูว่า ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่เด็ก”

   (พ่อเลี้ยงข่มขืน? เชี่ย เรื่องจริงเหรอวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง เรื่องจริงเหรอวะ แม่ง...)

   “ใจเย็นๆ มึง กูแค่สงสัยว่าพี่ขิงพูดจริงไหม เพราะเรื่องอื่นแม่งไม่จริงสักเรื่อง”

   (ถ้าถามว่าถูกข่มขืนไหมกูไม่รู้ว่ะ แต่ถ้าถามว่าหวงมากไหม ก็มากเอาการ แต่ไอ้ขิงมันไม่ค่อยออกไปไหนกับเพื่อนอยู่แล้ว นอกจากไปทำงานกับแม่มึงน่ะ)

   “ตอนแรกกูคิดจะถามเขา แต่ก็กลัวแม่รู้ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง”

   (ทำไมไอ้ขิงถึงไม่เล่าให้กูฟังวะ คบกันมาตั้งนาน พูดแล้วน้ำตาจะไหลเลยไอ้ห่า)

   ก็อยากจะขำนะครับ แต่เสียงสะอื้นเฮือกหนึ่งที่ดังเข้ามา ทำให้รู้ว่ามันอยากร้องไห้จริงๆ แถมเสียงพี่บิ๊กที่แทรกเข้ามาสั่งห้ามร้องไห้อีก

   “คงไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่เรื่องนี้กูต้องรู้ให้ได้ ถ้าเป็นจริง กูก็อยากจะถามแม่ว่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง”

   (กูก็อยากจะช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยว่ะ)

   “ไม่เป็นไร เรื่องนี้กูจะตามเอง ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วกูจะบอก”

   (มีอะไรที่กูช่วยได้ มึงรีบบอกเลยนะเว้ย)

   “ขอบใจนะเจมส์ แล้วก็ขอโทษจริงๆ ที่ปล่อยให้มึงโดนพี่ขิงว่าให้อีกแล้ว ทั้งที่กูสัญญาว่าจะไม่ให้พี่ขิงทำร้ายจิตใจมึงอีก”

   (ก็มึงไม่รู้นี่หว่า แต่ไอ้ขิงมันซูบผอมลงเยอะ เหมือนไม่ค่อยได้กินข้าว ผิวก็หยาบไม่ขาวใสเหมือนเมื่อก่อน)

   “กูไม่ได้สังเกต” อีกอย่าง เพราะผมไม่ได้เจอพี่ขิงทุกวัน เลยไม่รู้ว่าผิวเมื่อก่อนเป็นยังไง “มีอีกอย่างที่กูสงสัย...”

   (มึงสงสัยว่าไอ้ขิงเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ใช่ไหม ถ้าใช่ มึงคิดเหมือนกูเลยว่ะ)

   “หรือจะขายรถอย่างที่มึงบอกจริงๆ วะ”

   รถยนต์ราคาเป็นล้าน ขายใช้หนี้แถมมีเงินเหลืออีก

   (เป็นไปได้มากที่สุด)      

   “หมดหนี้แล้วทำไมยังไม่กลับมา กูโคตรไม่เข้าใจ”

   (กูก็ไม่เข้าใจ แต่กูก็ไม่อยากเข้าใจ)

   “ทำไม ชอบกูขึ้นมาละสิ”

   (ไอ้สัด) ไม่ใช่เสียงเจมส์นะครับ แต่เป็นเสียงคนข้างๆ ที่ตอนนี้คงตีหน้ายักษ์ หากผมพูดตอนเห็นหน้า อาจถูกกระทืบได้ (พรุ่งนี้มึงจะมาเรียนหรือว่าไอ้ขิงจะมา)

   “ก็ต้องกูสิวะ” เจมส์คงผวานิดๆ ไม่รู้โดนพี่ขิงว่าอะไรให้บ้าง “ไหนมึงบอกสังเกตเก่งไง ขี้โม้นี่หว่า”

   (ไม่ได้โม้ แค่ไม่ได้สังเกตเว้ย)

   “เหรอ” ผมพูดจบ เราสองคนก็หัวเราะออกมา ดูเจมส์ผ่อนคลายลงมาก น้ำเสียงก็ดีขึ้น “ถ้ากูเจอพี่ขิง กูจะแก้แค้นให้มึงเอง ไม่ต้องห่วง”

   (อยากเป็นพระเอกเหรอมึง อย่างมึงเป็นได้แค่ตัวร้าย)

   “ถึงกูจะร้าย กูก็รักไม่น้อยกว่าเขา แล้วเหตุใดเล่า จึงเป็นตัวเราที่แพ้เสมอ~” ชงมาให้ขนาดนี้แล้วผมเลยจัดให้เสียหน่อย เจมส์มันก็ขำเอิ๊กอ๊าก มีพี่บิ๊กถอนหายใจเสียงดังแทรกเข้ามาด้วย “แค่นี้นะ เจอกันพรุ่งนี้”

        วางสายปุ๊บ ผมก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่ม ปัญหาทุกอย่างของพี่ขิงมันเริ่มมาจากตรงไหน เริ่มจากที่พ่อกับแม่เลิกกันแล้วแม่พาพี่ขิงมาอยู่ที่นี่เหรอ หรือว่าเริ่มจากตัวพี่ขิงเอง แต่ยังไงก็แล้วแต่ เรื่องที่พี่ขิงถูกข่มขืน ผมจะต้องถามให้รู้ความ ไม่อย่างนั้นคงจะรู้สึกเหมือนกินข้าวแล้วไม่ได้กินน้ำ


   แล้วผมต้องโทรไปหาพี่ไฮท์ต่อไหม...หรือไม่ดี


   ‘พี่อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ ไว้เจอกันครับ’

   วางมือถือลงข้างตัวหลังจากส่งข้อความเสร็จ รออยู่นาน ยกมือถือขึ้นมาดูก็แล้วแต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา หรือจะโกรธวะที่ผมไม่รับสาย แต่จะโกรธทำไม ไม่มีเหตุผลให้ต้องโกรธสักหน่อย ไม่แน่ ตอนนี้อาจกำลังกินข้าว ไม่ก็อาบน้ำ หรือถ่ายหนักอยู่ถึงไม่ตอบกลับ เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับ ผมเลยไปอาบน้ำแทน กว่าจะออกมาก็เห็นหนึ่งข้อความที่โชว์

   ‘เรื่องของมึง’

   พี่ไฮท์ตอบมาแบบนี้เล่นเอางง เรื่องของมึง? เรื่องของผมเหรอ เรื่องอะไรวะงงเลย ผมไม่ตอบกลับไปอีกเพราะไม่เข้าใจในความหมายจริงๆ กลัวตอบกลับไปแล้วไม่ถูกใจจะโดนด่า เอาเป็นว่า ถ้าเจอหน้าไว้ค่อยถามแล้วกัน คนๆ นี้ยิ่งเดาความรู้สึกยากอยู่ เดี๋ยวเหวี่ยง เดี๋ยวดี ไอ้ขมิ้นปวดหัว


...TBC

กราบขอโทษด้วยเจ้าค่ะ ที่มาช้าไปมากโข ได้โปรดให้อภัยข้าด้วยเจ้าค่ะ (ก้มกราบ)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

มาแล้ว  พ้นสภาวะลงแดงสักที

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4:
ปมเยอะจัดดด
ขิงพูดมามีไรจริงบ้างเนี่ย ไหนจะเรื่องที่ขิงมีท่าทีแปลกๆตอนพูดเรื่องพี่ไฮท์อีก

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขิงจะมาดีหรือร้าย ขมิ้นต้องฟังหูไว้หูนะ ตัดสินใจให้ดีๆ

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ยังยืนยันคำเดิม ออกมาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 16] [P.6] // {08/03/61}
« ตอบ #159 เมื่อ: 09-03-2018 08:43:04 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขิงพูดอะรมาก็ดูน่าสงสัยไปซะหมดอะ555555 ให้กำลังใจขมิ้นสู้ๆ ชอบที่ไม่เชื่อไปตามที่พี่บอกซะหมด รู้จักรับมือดีมาก ว่าแต่พี่ไฮท์เป็นอะไรละนิ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ก็ยังไม่เชื่อที่ขิงพูด  ขมิ้นควรกลับไปอยู่พ่อนะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เรื่องราวซับซ้อนนะคะ ขิงทำตัวขิงมากจริงๆ

สงสารเจมส์ ทำไมต้องมาเจอเพื่อนแบบนี้

ขมิ้นเอ้ย บางเรื่องก็ไม่ต้องอยากรู้มากก็ได้
เอาเวลาไปหาความสุขและกลับไปหาพ่อดีกว่า

พี่ไฮท์เคืองอะไรน้องคะ 5555

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-17-





        “พี่โกรธผมเหรอ” ใช้นิ้วจิ้มๆ แขนเสื้อพี่ไฮท์ที่นั่งปรับสายกีต้าร์ไม่สนใจผม “พี่ไฮท์” แน่ะ สะบัดหนีอีก ผมว่าไม่ได้โกรธแล้วล่ะแบบนี้ “เดี๋ยวหัวล้านนะ”

   “กูไม่ได้น้อยใจ”

   “ไม่ได้น้อยใจแต่งอน?” เงียบครับ ไม่มีสัญญาณตอบกลับ “งอนอะไรผมวะ”

   “เมื่อวานมึงนัดกูกินข้าวเที่ยง”

   ได้ยินปุ๊บ ประโยคคำชวนที่ผ่านสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายเมื่อวันก่อนก็แทรกเข้ามาในความทรงจำ ผมรีบยิ้มแห้งทันทีตอนโดนสายตาดุจ้อง

   “ผมไม่ได้ตั้งใจลืมนะ มันลืมเอง” พี่ไฮท์ขยับตัวหนีแต่ผมยังขยับตาม “ขอโทษ”

   “เมื่อวานมันไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะรอมึงนั่นแหละ” พี่บิ๊กคงเห็นผมง้อไม่สำเร็จเลยรีบขยายความในความผิดของผมว่ามันร้ายแรงแค่ไหนถึงทำให้ถูกงอนได้ขนาดนี้

   “จริงเหรอ เมื่อวานพี่ไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะรอผมเหรอ” ถามแต่ไม่ตอบอีก “งั้นเดี๋ยวเที่ยงนี้ผมเลี้ยงข้าวพี่...”

   “กูมีเงิน”

   “รู้ว่าพี่รวย ผมมันจน...”

   “ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”

   “หายงอนแล้วใช่ป่ะ” พอเห็นผมเสียงกระด้างพี่ไฮท์ก็อ่อนลงทันตา ผมเลยรีบไล่ต้อนถาม สรุปพี่แกก็ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้า “ก็แค่นี้ขี้งอนไปได้ ว่าแต่ เมื่อวานพี่ขิงสร้างวีรกรรมอะไรให้ผมถูกกระทืบบ้างไหม” รีบหันซ้าย หันขวาถาม เจมส์ที่ขำๆ อยู่ก็รีบเม้มริมฝีปาก พี่บิ๊กก็เสหน้ามองทางอื่น ส่วนพี่ไฮท์นั่งนิ่งไม่ยอมตอบ นี่ พี่ขิงสร้างเรื่องให้ผมอีกแล้วใช่ไหมวะ ผมต้องหลบมือหลบตีนอีกแล้วหรือนี่

   “มันไม่ได้กวนตีนใครเพิ่มหรอก จะมีแค่ไอ้เจมส์แล้วก็ไอ้ไฮท์แค่นั้นแหละ” พี่บิ๊กทำให้ผมคลายความกังวลได้มากโข แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี ที่พี่ชายผมเอาแต่สร้างเรื่อง “แล้วไอ้ขิงมันมาทำไม หรือจะมาเปลี่ยนตัวกับมึงแล้ว” พอพี่บิ๊กพูดจบ ทุกคนก็รีบหันมาจ้องหน้าผมเขม็ง โดยมีสายตาคู่หนึ่งกดดันเลเวลสูงสุด นี่ถ้าสิงผมได้คงทำไปแล้ว เพราะหน้าพี่ไฮท์แทบจะชิดกับหน้าผม

   “คือแบบว่า...” ไม่รู้จะต้องเริ่มพูดจากตรงไหน บางเรื่องมันก็ดูไม่สมควรที่จะบอกกับคนอื่น “มันแบบ...”

   “คือแบบมาอีกทีกูถีบจริงๆ” คนอยากรู้รีบพูดออกมา และไม่ได้พูดเปล่าเมื่อพี่ไฮท์ยกเท้าขึ้นถีบจริงแต่ไม่แรงมากแต่คือผมยังไม่ได้พูดเลย เล่นถีบมาก่อนแบบนี้ได้ยังไงวะ “ไอ้ขิงมาพูดอะไรกับมึง รีบๆ พูด”

   “พี่ขิงเขา...” ผมต้องพูดจริงๆ เหรอวะ “เขามาบอกว่าใช้หนี้บอลหมดแล้ว”

   “แค่นี้?” รีบพยักหน้าเมื่อถูกพี่ไฮท์ถาม

   “ไอ้ขิงเล่นบอลจริงๆ เหรอวะ งั้นที่ไอ้แน่บอกก็เรื่องจริงน่ะสิ” ผมหันขวับมองพี่บิ๊กทันที แต่พี่แกหันไปจ้องตากับเพื่อนสนิทแทน

   “บอกเรื่องอะไรเหรอ” ผมกำลังจะอ้าปากถาม แต่คนอยากรู้มากกว่าผมก็ได้ถามแทนแล้ว เจมส์ยื่นหน้าไปด้วยความสอดรู้เลยโดนฝ่ามือเข้าหัวไปเน้นๆ หนึ่งที จนหน้าง้ำงอไปเลย

   “พี่แน่บอกอะไรพวกพี่เหรอครับ” พยายามกลั้นขำเพื่อนพร้อมเอ่ยถามพี่บิ๊ก

   “ไอ้แน่มันเล่าให้พวกกูฟังตั้งแต่ต้นปีแล้วล่ะ มันบอกว่า คนที่มันรู้จักที่เดินโพยโต๊ะบอล มาโม้ให้ฟัง ว่ามีนายแบบหน้าสวยเป็นหนี้โต๊ะบอลหลายแสน ตอนนั้นพวกกูก็ไม่ได้สนใจเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับพวกกู” ผมขมวดคิ้วอัตโนมัติช่วงที่พี่บิ๊กเล่าเรื่องราว “ช่วงหาเงินมาใช้ไม่ได้ นายแบบนั่นก็จะใช้ตัวเองจ่ายแทนดอกเบี้ย ไอ้เสี่ยเจ้าของโต๊ะก็ดูหลงหนักมาก”

   “ใช้ตัวเองจ่ายแทน? เดี๋ยวนะ พี่จะบอกว่า พี่ขิงนอนกับเจ้าของโต๊ะบอลเพื่อใช้ดอกเบี้ยเหรอ” ช็อคพอๆ กับเรื่องที่พี่ขิงบอกว่าโดนลุงเจ้าของบ้านข่มขืนเลย แต่นี่โหดร้ายมากกว่า “พี่พูดจริงๆ ใช่ไหมเรื่องนี้”

   “ไอ้แน่มันเล่าให้กูกับไอ้ไฮท์ฟังแบบนี้ จริงไม่จริงกูก็ไม่รู้ว่ะ” ผมหันหน้าไปมองพี่ไฮท์ทันทีเพื่อขอคำยืนยัน พอพี่ไฮท์พยักหน้ารับผมก็แทบเซตกเก้าอี้ “แต่ก็ดีแล้วนะ ที่ไอ้ขิงใช้หนี้หมด มึงจะได้ไม่ต้องมารับความซวยแทนไง”

   “นั่นสิ” เจมส์เสริม แต่สีหน้ามันดูเหมือนไม่ดีใจเท่าไหร่

   “ถึงจะใช้หนี้บอลหมด แต่พี่ขิงบอกผมว่ายังไม่กลับมานะ ไม่รู้มีเหตุผลอะไร” ผมพูดจบ เจมส์ก็มีสีหน้าดีขึ้น รวมทั้งคนที่นั่งเงียบก็เริ่มยกยิ้มมุมปากนิดๆ “เรื่องที่พี่ขิงติดหนี้บอล มีคนอื่นรู้อีกไหมครับ”

   ไม่มีคำตอบจากทุกคนผมเลยได้แต่ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่า เรื่องที่พี่ขิงเล่นบอลจะมีใครรู้บ้าง ผมกลัวว่าถ้าเรื่องมันแพร่กระจายไปมาก ชีวิตของพี่ขิงก็อาจจะลำบาก ทั้งเรื่องเรียน อีกทั้งยังงานที่ทำอีก ล่มหมดแน่อนาคต

   “แล้วมึงถามพ่อเลี้ยงมึงหรือยัง ว่าข่มขืนไอ้ขิงจริงหรือเปล่า” ความอยากรู้ของเจมส์ทำให้คนอื่นตาโต รวมทั้งผมด้วย “ว่าไง”

   “ถามทำไมตอนนี้วะ” ผมรีบดึงแขนเจมส์ให้หยุดอยากรู้ แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน เพราะทั้งพี่บิ๊กกับพี่ไฮท์ได้ยินเต็มๆ แถมยังยื่นหน้ารอคำตอบจากผมเรียบร้อย “คือแบบว่า”

   “ไม่ไว้ใจกูเหรอ” ประโยคของพี่ไฮท์ทำเอาผมเม้มริมฝีปากแน่น “หรือเห็นกูเป็นคนนอก”

   “ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ ผมแค่ไม่รู้ว่าจะพูดดีไหม เพราะเรื่องจริงผมก็ยังไม่รู้”

   “ก็แล้วทำไมมึงไม่ถามล่ะ” เจมส์ถามแทรกเข้ามาก็คงตรงใจกับอีกสองคนที่พยักหน้าพร้อมกัน

   “ถ้ามันถามง่ายๆ กูก็ถามแล้วสิวะ”

   “ก็จริงของมึง”

   เมื่อไม่ได้ความอะไรต่อแล้ว ผมก็ชวนพี่ไฮท์ไปกินข้าวเที่ยงชดเชยที่เบี้ยวนัดไป แม้คนโดนชวนจะอิดออดทำบิดขี้เกียจยังไงแต่ก็ยอมเดินตาม พอเห็นท่าทางแบบนั้นแล้วผมก็หลุดขำออกมา พี่ไฮท์ดูต่างจากตอนแรกที่เจอกันลิบลับ คงจะจริงอย่างที่ใครๆ ว่า

   พี่ไฮท์ใจดีและน่ารักมาก

   ผมเดินนำในตอนแรกก่อนพี่ไฮท์จะรีบสาวเท้าเข้ามาเดินข้างๆ ไม่รู้หรอก ว่าพี่ไฮท์ทำหน้ายังไงเพราะไม่กล้าหันไปมอง รู้สึกเขินแปลกๆ หลายช่วงที่เดินผ่านจะมีสาวสวยหลายกลุ่มทักทาย บ้างก็โปรยยิ้มส่งมาให้ทั้งผมกับพี่ไฮท์ แต่ส่วนมากคงจะให้คนข้างผมนี่แหละ พี่แกดูสนิทกับทุกคนไปหมด กว่าจะถึงโรงอาหารเหงือกแห้งหมด

   “อยากกินอะไร” คำถามของพี่ไฮท์ไม่ค่อยเข้าหู เพราะผมกำลังสนใจกลุ่มของไอ้พี่นาวที่กำลังชี้มาทางผม “ขมิ้น อยากกินอะไร”

   “ครับ?” ยังดีที่พี่ไฮท์เรียกชื่อจริงๆ ของผมไม่ดังมาก “ข้าวมันไก่ก็ได้”

   “ไปหาที่นั่งเลย เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”

   “ครับ”

   รับคำแบบงงๆ หลังจากได้ยินคำว่าพี่ไปซื้อให้ แต่พอหาที่นั่งได้ฝั่งตรงข้ามผมก็มีคนมานั่งเฉย คนเข้ามานั่งตีหน้ายียวนดูแล้วชวนหาเรื่องมากกว่าอยากพูดคุย ไอ้พี่นาวมองหน้าผม สลับกับหันไปมองพี่ไฮท์ที่ยืนต่อแถวร้านข้าวมันไก่

   “เพิ่งรู้ว่าขิงญาติดีกับไอ้ไฮท์แล้ว ถึงขนาดควงกันมากินข้าวที่โรงอาหาร”

   “ผมจะมากินข้าวกับใครมันก็เรื่องผม พี่ยุ่งอะไรด้วย”

   “ที่ปฏิเสธพี่ เพราะไอ้ไฮท์ใช่ไหม ทำไม ลีลามันเด็ดกว่าพี่เหรอ”

   “ไอ้!!”

   ผมตบโต๊ะเสียงดังจนคนแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถว แต่คนตรงหน้าดูไม่สะทกสะท้านเพราะยังยิ้มกวนโมโหอยู่
 
   “ไม่ต้องเขินหรอก เราก็รู้ๆ กันอยู่”

   “รู้อะไร”

   “ก็ลีลาของขิงไง เชี่ย!”

   ไอ้พี่นาวทำตาโตตกใจร้องจนสียงหลงเมื่อผมโผเข้ากระชากคอเสื้อนักศึกษา แม้จะมีโต๊ะคั้นกลางแต่ก็ไม่อาจขวางผมได้

   “หุบปากเน่าๆ ของพี่ซะ” ผมกัดฟันพยายามข่มความโมโหของตัวเองไม่ให้ระเบิดมากไปกว่านี้

   “ทำไม จะทำอะไรกู เมียจะทำอะไรผัวเหรอครับ” ไอ้พี่นาวทำลอยหน้าลอยตาจนผมกำหมัดแน่น “ความร่านของมึง เน่ากว่าปากกูซะอีก ไม่งั้นไอ้ไฮท์ที่เกลียดมึงเข้าไส้จะหลงมึงเหรอ”

   “มึง!”

   เสียงจานข้าวกระทบพื้นดังลั่นโรงอาหาร ยังไม่น่าตกใจเท่าร่างของไอ้พี่นาวปลิวลงพื้นเมื่อถูกต่อยเข้าเต็มหน้า คนต่อยเกือบจะเป็นผม หากพี่ไฮท์ไม่เข้ามากระชากร่างนั่นแล้วปล่อยหมัดใหญ่เข้าเต็มๆ โหนกแก้มจนทุกคนในโรงอาหารรีบลุกหนีเพราะกลัวถูกลูกหลง

   “ไอ้สัดไฮท์!!” เสียงกร้าวกระชากด่า เจ้าของชื่อกลับยังตีหน้านิ่ง แต่รังสีความน่ากลัวมันแผ่ออกมากดดัน ขนาดเพื่อนไอ้พี่นาวยังไม่กล้าเข้ามารุมเมื่อถูกพี่ไฮท์ตวัดตาขึ้นมอง “ต่อยกูทำเหี้ยอะไร”

   “กูเตือนมึงเมื่อวาน ว่าอย่ายุ่งกับคนของกู!” ผมทำตาโตมองพี่ไฮท์ชี้หน้าคนที่ยังนั่งกองที่พื้น

   “คนของมึงผ่านคนมาเป็นร้อย จะหวงอะไรนักหนาวะ”

   “ไอ้เหี้ยนาว!” ผมรีบคว้าเอวพี่ไฮท์ก่อนที่ฝ่าเท้าใหญ่ๆ จะพุ่งกระทบหน้าฝั่งตรงข้าม ตอนนี้คนที่ผมรวบเอวโกรธจนตัวสั่นไปหมด “ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งอีกละก็ กูเหยียบมึงจมดินแน่”

   “กูขอเถอะไฮท์ ไอ้นาวมันก็ปากหมาหาเรื่องอยู่แล้ว มึงอย่าถือมันเลยนะ กูขอล่ะนะ” คนตัวเล็กที่ยืนข้างไอ้พี่นาวรีบพูดขอ ตอนแรกพี่ไฮท์ทำท่าจะไม่ยอมจนผมต้องกระซิบเบาๆ ว่าให้พอพี่ไฮท์ถึงยอมหยุด

   “งั้นมึงช่วยดูแลเพื่อนมึงดีๆ ด้วยนะ อย่าให้มันเห่าไปเรื่อยถ้าไม่อยากถูกกูกระทืบ”

   “เออๆ กูจะดูแลมันเอง กูไปนะ”

        แล้วพี่นาวก็ถูกหิ้วออกจากโรงอาหารไป แม้เจ้าตัวจะดูหงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินตามกลุ่มเพื่อนตัวเอง ผมค่อยๆ ผละออกห่างจากพี่ไฮท์ และทันทีก็ถูกดวงตาดุตวัดมองจนสะดุ้ง นี่ผมจะถูกลูกหลงหรือเปล่าวะ แต่สิ่งที่กลัวไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อพี่ไฮท์ถอนหายใจออกมา ก่อนย่อตัวนั่งเก็บเศษข้าวมันไก่ที่พื้นแทน ผมย่อตัวนั่งลงข้างๆ มือก็ช่วยเก็บเศษข้าวด้วย 

   “พี่ ผมขอโทษ”

   “มึงไม่ใช่คนผิด จะขอโทษทำไม”

   แม้จะพูดตอบ แต่น้ำเสียงโคตรแข็งกระด้าง ผมเม้มริมฝีปากก่อนจะยื่นมือแตะหลังมือพี่ไฮท์เบาๆ แค่นั้นคนตาดุก็เริ่มอ่อนลงพร้อมช้อนตาขึ้นมอง

   “พี่”

   “ไปกินข้าวที่อื่นเถอะ”

   ตอนแรกก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่พอเราสองคนยืนขึ้นถึงได้รู้ความหมาย ทุกสายตาในโรงอาหารจ้องมาที่ผมกับคนข้างๆ เป็นตาเดียว หากไม่ได้สายตาโหดๆ ของพี่ไฮท์มองกราดไปยังทุกคน ป่านนี้คงมีเสียงกระซิบเล็ดลอดมาให้ได้ยิน ต้องขอบคุณดวงตาดั่งท่านลอร์ดของพี่เขา พี่ไฮท์เดินนำผมออกมาด้านนอก พวกเราตกลงกันว่าจะออกไปกินข้าวร้านอาหารอีสานที่เคยบังเอิญเจอกันคราวนั้นเลยต้องย้อนกลับมาเอารถของผม ขืนเอารถพี่ไฮท์ไปคงไม่ได้เรียนคาบบ่ายแน่ คงติดแหง็กอยู่บนถนนสักเส้น

   มอเตอร์ไซค์ KSR สีดำทะยานออกนอกรั้วมหาลัย พี่ไฮท์บิดเร่งความเร็วไม่พอ ยังปาดซ้ายปาดขวาจนผมต้องจับชายเสื้อไว้แน่น ไม่รู้จะรีบไปไหน หรือว่าหิวมากจนต้องเหาะขนาดนี้ 

   “พี่จะรีบไปไหนเนี่ย ควายหายหรือไง” ตะโกนโต้ลมถาม แต่ไม่ได้คำตอบใดๆ กลับมา

   อย่าบอกว่านี่คือการระบายอารมณ์โกรธเมื่อกี้ ไอ้ขมิ้นยังไม่อยากตายนะพี่ครับ

   กว่าจะถึงร้านหน้าผมก็แทบไร้ความรู้สึกคล้ายกับถูกฉีดยาชาไปทั้งหน้า คนขี่ยังทำหน้าเฉยจนอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ พี่ไฮท์เดินนำเข้าร้านไปแล้วผมเลยต้องวิ่งตาม ร้านที่เคยมานั่งยังคึกคักเหมือนเดิม ลูกค้าแน่นจนเกือบไม่มีโต๊ะ

   “พี่สั่งเลยนะ ผมกินอะไรก็ได้”

        บอกขณะหย่อนก้นนั่ง พี่ไฮท์เปิดดูเมนูครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาทำเอาพนักงานขำ

   “อะไรก็ได้ของมึงไม่มีในเมนู” ดูความกวนนี้ “สั่งใหม่” ว่าแล้วเมนูก็ถูกโยนมาตรงหน้า

   อารมณ์ที่ค้างมายังถูกระบายออกไม่หมดใช่ไหม

   ผมสั่งกับข้าวไปสองสามอย่าง ระหว่างรอก็อดที่จะมองหน้าคนตรงข้ามไม่ได้ มองจนถูกส้อมตีเข้าหน้าผากถึงเลิกมอง

   “พี่นี่ชอบใช้กำลังเนอะ”

   “ใช้เฉพาะตอนถูกกวนตีน”

   “แต่ที่โรงอาหารเมื่อกี้ พี่น่ากลัวจริงๆ ว่ะ” พูดตามความจริง สายตาดุดันนั่นยังติดตาผมอยู่เลย มันกร้าวมากกว่าตอนที่จะต่อยผมซะอีก “พี่ไม่ชอบไอ้พี่นาวเหรอ”

   “ไม่เชิง”

   “อ่าว” ไม่ได้ไม่ชอบแล้วไปต่อยเขาทำไมวะ “พี่ ไปเตือนอะไรเขาเหรอ”

   “เตือนอะไร”

   “ก็ผมได้ยินพี่บอกว่า พี่ไปเตือนของกูๆ อะไรสักอย่าง” ถ้าตอนนั้นผมไม่ตกใจคงจะรู้เรื่องมากกว่านี้ “เตือนเรื่องอะไรเหรอ”

   “ไม่ใช่เรื่องของมึง”

   “หาว่าผมเสือกอยู่ล่ะสิ ทำไมพี่ชอบพูดเรื่องจริงอยู่เรื่อย”

   “คิดว่าตัวเองเป็นคนตลกหรือไง”

         พูดจบก็ขำเอง แถมยังพาลให้ผมขำด้วย สรุปคือขำทั้งคู่โดยไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ไม่นานกับข้าวที่สั่งก็มา ความหิวทำให้เราหยุดพูดคุยกันไปพักหนึ่ง ก่อนหน้าผากผมจะถูกช้อนเคาะจนสะดุ้ง

   “ทำอะไรของพี่เนี่ย” ช้อนเปื้อนลาบอีสานด้วยนะนั่น

   “จะเขี่ยหมูย่างหาเลขเด็ดในจานหรือไง” ถูกทักปุ๊บ ผมก็รีบชักมือกลับ เพิ่งรู้ตัวว่าเขี่ยจนหมูกระเด็นออกจากถ้วยหลายชิ้น “มึงนี่มัน...”

   “มันกินได้ น้ำลายฆ่าเชื้อโรค” พี่ไฮท์ถลึงตาใส่ช่วงที่ผมหยิบหมูที่อยู่บนโต๊ะเข้าปาก “ผมแค่กำลังคิดเรื่องพี่ขิงอยู่”

   “อยู่กับกูจะคิดถึงเรื่องคนอื่นทำไม” ประโยคนี้ผมต้องเขินใช่ไหม...ใช่สิ แต่พี่ไฮท์ดูไม่ได้ใส่ใจประโยคที่ตัวเองพูดสักเท่าไหร่ เพราะมือยังหยิบไส้ย่างเข้าปาก “เรื่องบางเรื่อง คิดไปก็ปวดหัว”

   “มีผัวดีกว่างี้”

   “มึงว่าอะไรนะ”

   “เปล่าๆ” เกือบไปแล้ว อุตส่าห์พึมพำต่อประโยคแบบโคตรจะเบายังได้ยินอีก “พี่ว่า ถ้าผมถามลุงเจ้าของบ้านเรื่องพี่ขิง เขาจะบอกไหม ผมกลัวเขาไม่บอก”

   “ลุงเจ้าของบ้าน? พ่อเลี้ยงมึงน่ะเหรอ” รีบพยักหน้าเมื่อถูกถาม “แล้วได้ถามไปหรือยังถึงกลัวว่าเขาจะไม่ตอบ ถ้ายังก็อย่าเพิ่งคิดแทน”

   “เขาจะฆ่าผมหรือเปล่าวะ” นึกถึงตอนโดนปืนจี้คราวที่แล้วยังขนลุกไม่หาย

   “กฎหมายมีจะกลัวทำไม” ก็จริงอย่างที่พี่ไฮท์ว่า “แต่ถ้ากลัว เดี๋ยวกูไปนอนด้วย มึงจะได้มีคนเก็บศพ”

   นี่ผมต้องขอบคุณคนรอเก็บศพผมใช่ไหม

   “พี่จะไปนอนบ้านผมเหรอ”

   “ทำไม ทีมึงยังมานอนบ้านกูได้เลย หรือไม่อยากให้กูไป”

   “ไม่ใช่ ผมแค่กลัวพี่อึดอัด ถ้าเป็นบ้านของผมละก็ พี่จะไปนอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นี่บ้านคนอื่น...” พี่ไฮท์ไม่ตอบอะไรทำแค่ยักไหล่ คงจะเข้าใจความหมายที่ผมบอก “ผมถามได้ใช่ไหม พี่ว่าไง”

   “อยากรู้ก็ถาม ไม่อยากรู้ ก็ไม่ต้องถาม”

   “ก็จริง”

   “แล้วก็รีบๆ กิน เดี๋ยวกูเข้าเรียนไม่ทัน”

   “ก็จริง”

   “ไอ้ขมิ้น”

   “ก็จริง”

   เผลอกวนตีนไปหน่อยเดียวถึงกับโดนข้าวเหนียวปาใส่หน้า แต่พอดีผมเก่งเลยอ้าปากรอรับได้ทัน เคี้ยวไปยักคิ้วไปยั่วโมโหคนปา มันเกือบจะดีอยู่แล้วหากข้าวไม่ติดคอจนหาน้ำกินแทบไม่ทัน คนตรงข้ามก็หัวเราะจนงอหงายไม่ยอมช่วยอะไร


   เกือบตายเพราะข้าวเหนียวแล้วไอ้ขมิ้น





***


   “ได้เรื่องยังไงแล้วโทรบอกกูด้วยนะ” เจมส์สั่งก่อนจะแยกไปที่รถของตัวเอง “อย่าลืมนะเว้ย”

   พยักหน้าส่งให้เพื่อนก่อนจะควบมอเตอร์ไซค์คันโปรดกลับบ้าน ระหว่างทางนั้น ผมลองทวนคำถามที่เจมส์แนะนำมา หวังว่าพอถึงเวลาผมจะกล้าถาม เพราะหากใช้คำถามจากพี่ไฮท์ละก็ ผมคงได้ลูกตะกั่วแทนคำตอบ

   บ้านหลังใหญ่ช่วงบ่ายแก่ๆ ปกติแล้วจะไม่มีใครอยู่ แต่วันนี้กลับแปลกที่มีรถตู้คันสีดำจอดในโรง เหมือนโชคชะตาเป็นใจให้ได้ถามเรื่องราวที่อยากรู้ ผมจอดรถในโรงจอดก่อนจะเดินเข้าบ้าน ชั้นล่างเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่ หรือจะอยู่ชั้นบนวะ พอผมก้าวขาจะขึ้นบันได คนที่ตามหาก็กำลังเดินลงมา

   “สวัสดีครับ” ยกมือไหว้ตามมารยาทแฝงความสะดุ้งน้อยๆ ลุงเจ้าของบ้านพยักหน้าให้นิดๆ แล้วเดินลงมา ร่างสูงใหญ่กำลังจะผ่านหน้าไปแล้ว ผมก็รีบรวบรวมความกล้าแล้วกลั้นใจเรียกให้หยุด “ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

   “คุยกับฉัน?” ลุงเจ้าของบ้านหยุดเดิน ดวงตาดุที่เคยมองผมตลอดวันนี้ดูอ่อนลง “ถ้าถามไม่มากก็พอได้”

   “ขอบคุณครับ”

   ผมเดินตามหลังลุงเจ้าของบ้านไปนั่งที่โซฟารับแขก ความเกร็งก็เกิดขึ้นทันทีที่เผชิญหน้า

   “มีอะไร”

   “คือผม...” อยู่ดีๆ คำถามทั้งหมดก็หายไปจากความทรงจำ “คือผมอยากจะถาม...”

   “อยากถาม? ถามเรื่องอะไร รีบๆ นะ ฉันมีงานต่อ”

   “ถ้าผมถาม ลุงจะไม่ยิงผมใช่ไหม” พยายามพูดให้ติดตลก แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขำ ลุงเจ้าของบ้านขยับตัวนั่งตรงแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมเม้มริมฝีปากพร้อมตัดสินใจโพล่งเรื่องที่อยากรู้ออกไป “เรื่องพี่ขิง”

   “จะถามเรื่องอะไรของมัน” อยู่ๆ ลุงแกก็เหวี่ยงขึ้นมาเฉย ใบหน้าบูดบึ้งราวกับโมโห

   “พี่ขิงมาคุยกับผมเมื่อวาน” ก็อย่างที่พี่ไฮท์บอก อยากรู้ก็ต้องถาม ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องถาม แต่เพราะผมอยากรู้ไง เลยต้องถาม “พี่ขิงบอกถูกลุงข่มขืน จริงหรือเปล่า”

   “ว่าอะไรนะ!”

   ผมสะดุ้งจนตัวลอยเมื่อลุงเจ้าของบ้านฟาดมือลงบนที่พักแขนโซฟาเสียงดังลั่นบ้าน ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูเกรี้ยวกราดจนผมอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ เขาจะฆ่าผมหรือเปล่าเนี่ย

   “มันบอกแกแบบนั้นเหรอ! มันกล้ากล่าวหาฉันขนาดนั้นเชียวเหรอ!” 

   “ครับๆ”

   เสียงตะคอกทำให้ผมรับคำไปรัวๆ ยิ่งลูกน้องของลุงเจ้าของบ้านวิ่งเข้ามาด้วยแล้ว ผมก็ยิ่งหวาด ยังจำปลายกระบอกปืนของพวกเขาได้

   “ฉันอุตส่าห์เลี้ยงมัน รักมันเหมือนลูก แต่มันกลับหาว่าฉันข่มขืน เลว!”

   “ลุงไม่ได้ข่มขืน เชี่ย!”

   สะดุ้งอีกรอบเมื่อลุงเจ้าของบ้านตบโซฟา ขวัญเอ๊ยขวัญมาไอ้ขมิ้น

   “ถึงฉันไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่เลวขนาดข่มขืนคนที่รักเหมือนลูกได้หรอก ขี้ เยี่ยวมันฉันก็เช็ดล้างให้อย่างดีตั้งแต่เด็ก โตมาก็ให้ใช้เงินไม่ขาดมือ อยากได้อะไรก็ให้ อยากเข้าวงการฉันก็เอาเงินยัดให้ แล้วนี่คือสิ่งที่มันตอบแทนบุญคุณฉันหรือ” อึ้งจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ ก็พอรู้อยู่หรอก ว่าลุงเจ้าของบ้านรักพี่ขิงมาก แต่ไม่คิดว่าจะรักขนาดนี้ “ขโมยเงินฉันไปยังไม่พอ ยังกล้าโกหกว่าถูกฉันข่มขืนอีก มันน่ายิงทิ้งนัก”

   “ขโมยเงิน” ตาเหลือกตอนได้ยินว่าน่ายิงทิ้ง แต่ที่สะดุดหูอีกอย่างคือขโมยเงิน “ลุงว่าพี่ขิงขโมยเงินเหรอครับ”

   “เออสิ มันมาหาแม่มันแล้วแอบขึ้นไปขโมยเงินในเซฟฉัน”

   “เมื่อไหร่ครับ” พี่ขิงมาหาแม่ด้วย วันไหนวะ ทำไมแม่ไม่เห็นบอก

   “สองสามวันที่แล้ว คงโดนโต๊ะบอลทวงหนักเลยมาขโมย ไม่รู้ได้เชื้อเลวมาจากใคร”

   คำด่าฟาดงวงฟาดงาของลุงเจ้าของบ้านทำให้ผมเจ็บจี๊ดเหมือนกันนะครับ เพราะพี่ขิงก็สายเลือดเดียวกับผม เหมือนผมถูกด่าไปด้วย

   “ลุงรู้ได้ยังไงว่าพี่ขิงขโมย...” พูดไม่จบดี ลุงแกก็ยื่นโทรศัพท์เครื่องแพงมาให้ผม พอรับมาดูก็เห็นวีดีโอเคลื่อนไหว น่าจะเป็นกล้องวงจรปิดที่ติดในห้อง คนที่มีหน้าเหมือนผมราวกับส่องกระจกกำลังหันซ้าย หันขวาอยู่หน้าตู้เซฟ พอเปิดได้ก็รีบกวาดเงินกับกล่องกำมะหยี่ใส่กระเป๋าเป้ตัวเองก่อนปิดแล้วเดินออกจากห้องราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   พี่ขิงกล้าทำแบบนี้ได้ยังไงวะ

   “เป็นไง”

   “ลุง จะแจ้งตำรวจจับพี่ขิงไหม”

   หาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ ทำไมผมต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้ตลอดตั้งแต่ตบปากรับคำเข้ามาเป็นพี่ขิง คนที่ผมเคยคิดอิจฉามาตลอดหลายปี

   “ถ้าพี่แกโดนจับ คงติดคุกตลอดชีวิตเชียวล่ะ” ผมเงยหน้ามองลุงเจ้าของบ้านที่ขยับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองมือกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่ ก่อนตาดุจะปรายมามองผม “รีบๆ กลับบ้านแกไปซะ ถ้าไม่อยากเดือดร้อนมากกว่านี้ พี่แกไม่ใช่คนที่จะอยู่ใกล้ได้”

   คำเตือนที่ดูน่ากลัวแต่ก็แสนงงงวย พี่ขิงน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ

   ผมไม่ได้สนใจว่าลุงเจ้าของบ้านจะออกไปไหน เพราะตอนนี้ในหัวคิดแต่เรื่องพี่ขิงเต็มไปหมด ไม่ได้โดนข่มขืนแต่ทำไมต้องกุเรื่องขึ้นมา ทำให้มันดูน่าสงสารเหรอ หรือยังไง แถมยังกล้าขโมยเงินอีก ที่จริงลุงเจ้าของบ้านก็รักขนาดนั้น ขอยืมเงินไม่กี่แสนก็น่าจะได้ ดูสิ ลุงแกยังรู้เลยว่าพี่ขิงติดหนี้บอล ขอเงินก็ไม่น่าจะยากเท่าไหร่

   สรุปแล้ว พี่ขิงเป็นคนยังไงกันแน่ ดีหรือเลววะ

   จังหวะที่ผมคิดจนสมองรวน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชื่อที่โชว์คือคนที่บอกจะมารอเก็บศพผม พี่ไฮท์โทรย้ำมาอีกหลายรอบหลังจากผมปล่อยให้สายมันดับไป ไม่ใช่ไม่อยากรับ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรเป็นอย่างแรก เสียงริงโทนธรรมดาวนซ้ำอยู่อย่างนั้นจนสุดท้ายผมก็กดรับพร้อมกรอกเสียงลงไป


   “พี่ คืนนี้ผมไปนอนด้วยได้ไหม ผมเครียด”



...TBC


ขอบคุณทุกคนที่ชอบเรื่องนี้นะคะ หวังว่าเรื่องอึนๆ เอื่อยๆ จะไม่ทำให้ทุกคนรำคาญมาก ต้องขอประทานอภัยทั้งความล่าช้าและการบรรยาย จะรีบพัฒนาตัวเองให้มันดีกว่านี้ค่า พยายามทบทวนก่อนลงอยู่หลายรอบมากเพื่อให้มันออกมาดีที่สุด (ก้มกราบ) 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขิงเนี่ย  ได้นิสัย...มาจากแม่ใช่ป่ะ 

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ว่าจะพูดถึงขมิ้นกับไฮท์แต่มาเจอกับเรื่องที่ขิงทำไว้โหขอด่าหน่อยทำไมเลวได้คงเส้นคงวานักนะ
เพราะแม่หรือเปล่าขิงถึงได้เป็นขนาดนี้ :katai1: :katai1: :katai1: เฮ่อสงสารขมิ้น

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
อยากให้ "ขมิ้น" กลับไปอยู่บ้านกับพ่อแล้วค่ะ
ออกมาเป็นคนอื่นนานเกินไปแล้วนะคะขมิ้น

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ขมิ้นกลับบ้านได้แล้ว   เรื่องของขิงก็ปล่อยเถอะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กำลังพอดีค่ะ เราชอบ จะได้อ่านนานๆ 55555

โอยยยย ขิงร้ายขนาดไหนนะ รู้มาแต่ละเรื่อง
แล้วแม่ก็ช่วยปกปิดดีมาก เพื่อทำร้ายลูกอีกคน

ขมิ้นต้องลุกขึ้นสู้แล้วนะ
อย่ายอมให้แม่บังคับให้อยู่ต่อเลย

ไฮท์ช่วยน้องด้วย
ทุกคนดีกับขมิ้น แต่ดูแม่กับพี่สิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 17] [P.6] // {18/03/61}
« ตอบ #169 เมื่อ: 19-03-2018 07:22:11 »





ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่อึน ไม่เอื่อยนะไรท์ มั่นใจหน่อย เนื้อเรื่องสนุกเหมือนเรื่องที่ผ่านๆมาเลย น่าติดตาม เค้าเข้ามารออ่านแทบทุดกวันเลยนะ เป็นกำลังให้นะคะ....ทีมไรท์จ้า

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เรื่องชักไม่ชอบมาพากล ตกลงใครโกหกกันแน่  :a5:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ไม่อึน ไม่เอื่อยนะไรท์ มั่นใจหน่อย เนื้อเรื่องสนุกเหมือนเรื่องที่ผ่านๆมาเลย น่าติดตาม เค้าเข้ามารออ่านแทบทุดกวันเลยนะ เป็นกำลังให้นะคะ....ทีมไรท์จ้า

ใช่ค่ะสนุกนะเราชอบ รอทุกวันเหมือนกันแต่ก็เกรงใจไม่อยากกดดันหรือเร่งคนเขียน ยังใงก็อย่าทิ้งพี่ไฮท์กับขมิ้นนะเรารอได้

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อย่าทิ้งเงื่อนงำไว้นานแบบนี้สิไรท์...มาต่อๆเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เพิ่งได้มาอ่านสนุกมากค่ะ เอาใจช่วยขมิ้นนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ nixnix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อๆๆๆคร้า :3123:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
หน่อววว
พี่ไฮท์ที่พึ่งทางใจ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทำไมดูขมิ้นไม่ฉลาดเลยอ่ะ ขนาดนี้ขิงยังคิดไม่ได้ว่าถูกแม่กับขิงหลอกกลับไปอยู่กับพ่อจะดีกว่ามั้ยหาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทำไมดูขมิ้นไม่ฉลาดเลยอ่ะ ขนาดนี้ขิงยังคิดไม่ได้ว่าถูกแม่กับขิงหลอกกลับไปอยู่กับพ่อจะดีกว่ามั้ยหาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด