Three Couples of Love Season2: Back to School part2
บทนำ (ม.4 เทอม2)
คู่ที่1
วันอำลารุ่นพี่ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น โดยรอบเช้าเป็นงานพิธีการ ที่จัดขึ้นในโบสถ์
มีบรรดา บาทหลวง และคณะครูผู้บริหารโรงเรียนมาร่วมงานด้วย
บรรยากาศในพิธีดูศักดิ์สิทธิ์ และดูสง่าเป็นอย่างมาก
เหมือนเป็นการบอกบรรดานักเรียนชั้นม.6ที่จบจากที่นี้ไปว่า จงภูมิใจที่ได้รับความรู้จากสถาบันแห่งนี้
ผมได้เป็นตัวแทนนักเรียนชั้นม.4 กล่าวความรู้สึกที่มีต่อรุ่นพี่
ขนาดซ้อมมาเป็นสิบรอบแล้วผมยังตื่นเต้นอยู่เลย
เป็นครั้งแรกที่ได้พูดต่อหน้าคนเป็นพันๆ
ผมพยามเพ่งสมาธิไปยังบทพูด แม้จะมีแสงเฟลชคอยรบกวนตลอดการพูด
“พวกเราดีใจ และภูมิใจที่ได้เป็นพี่น้องใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ด้วยกัน ขอให้พี่ๆโชคดี และพบกับความสำเร็จในชีวิต ด้วยรักจากใจ น้องๆชั้นมัธยมศึกษาปีที่4”
ผมพูดประโยคสุดท้ายของบท พร้อมก้มคำนับประธานในพิธี แล้วเดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ด้านหน้าสุด ผมถอนหายใจโล่งอกที่ตัวเองพูดไม่ผิดเลย
ต่อไปเป็นการกล่าวความรู้สึกของชั้นม.5
ผมเพิ่งสังเกตเห็นคนที่เป็นตัวแทนชั้นม.5 ทั้งที่เมื่อกี้เขาก็นั่งข้างๆผม
สงสัยมัวแต่เตรียมตัวอ่านบทพูดเลยลืมสังเกตไป
ระหว่างที่พี่คนนั้นพูด ผมก็มองเขาตลอด รู้สึกว่าหน้าตาน่ารักดี
ผิวขาว คิ้วเข้ม ปากแดงอมชมพู ผมสีน้ำตาลเข้ม แต่ตัวเล็กไปหน่อย ตัวเท่าผมเลย
ผมไม่ได้ฟังสิ่งที่พี่เค้าพูดเลยสักนิด มัวแต่มองพี่เค้าอย่างเดียว จนพี่เค้าพูดจบ ผมเลยรู้สึกตัวเพราะเสียงปรบมือของคนในโบสถ์
พี่เค้ากลับมานั่งที่นั่งของตัวเองซึ่งนั่งข้างๆผม
ที่นั่งแถวของเรามีแต่เรานั่งอยู่สองคน เพราะทางโรงเรียนให้ตัวแทนนักเรียนที่จะกล่าวความรู้สึกนั่งอยู่ข้างหน้าสุด
ผมยังแอบๆมองพี่เค้าอยู่ มองด้านข้างก็น่ารัก เห็นชัดเลยว่าจมูกโด่งได้รูปที่เดียว
และแล้วพี่เค้าก็หันมาหาผม สายตาของผมกับพี่เค้าเลยจ๊ะเอ๋กันเข้า
ผมเลยหันหน้ากลับมาอัตโนมัติทันที พยายามเก็บอาการเขินไม่ไห้พี่เค้าเห็น
“น้องครับ น้องชื่ออะไร” พี่เค้าดันถามชื่อผม
“ชื่อโจ้ครับ” ผมหันไปตอบ
“น้องคือเด็กห้องศิลป์คำนวณที่สอบได้ที่หนึ่งของชั้นใช่ป่ะ”
“ชะ ชะ ใช่ครับ” ผมตอบตามความจริง เพราะเกรดออกแล้ว ซึ่งผมได้เกรดเฉลี่ยสูงสุดของชั้น
“น้องแน่มาก ปราบเด็กวิทย์ซะราบเลยนะ” ดูพี่เค้าจะชื่นชมผมมาก คงเพราะปกติแล้วที่หนึ่งของชั้นส่วนมากเป็นเด็กห้องวิทย์ซะมากกว่า พอปีนี้ที่หนึ่งเป็นเด็กห้องศิลป์ (ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะได้ที่หนึ่งของชั้น) ก็เลยฮือฮาเป็นพิเศษ จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของโรงเรียนไปเลย ผลสุดท้ายผมเลยมาเป็นตัวแทนรุ่นกล่าวความรู้สึกต่อพี่ม.6 อย่างที่เห็นนี้แหละ
“พี่ชื่อ หมี อยู่ห้องวิทย์ ห้องเดียวกับพวกไอ้เอ๊ด ไอ้เติ้ง” พี่เค้าแนะนำตัวกับผม ที่แท้เป็นเพื่อนกับประธานและรองประธานชมรมของผมนั่นเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ คงได้คุยกันอีก” พี่เค้าปิดการสนทนาเพราะเราต้องออกจากโบสถ์ เพื่อทำพิธีลำดับต่อไป
ผมเดินมาหาเพื่อนๆที่กำลังตั้งแถวอยู่หน้าบันไดทางเข้าโบสถ์ เพื่อรอให้พี่ม.6ออกมาแล้วเอาดอกกุหลาบไปให้
“โจ้ๆ ทางนี้” เสียงของเชียร์ ผมเห็นเพื่อนตัวดีชูมือเรียกผม
“คนเยอะจังอ่ะ” ผมบ่นเพราะคนเบียดจนผมเดินไม่ได้
สักพักปอก็เดินมาหาพร้อมหอบดอกกุหลาบช่อใหญ่มาให้
“เค้าให้คนละกี่ดอกว่ะ”เชียร์ถาม
“ไม่รู้ว่ะ กูหยิบมาไม่ได้นับ” ปอยื่นดอกกุหลาบมาให้ผมทีละดอก
“ถึงจะได้กี่ดอกก็ให้พี่ไม่กี่คนหรอก”ผมตอบ เพราะพี่ม.6ที่รู้จักก็มีแค่ไม่กี่คน
“แล้วมึงจะบอกเค้าวันนี้หรือเปล่า” เชียร์ถามผม เพื่อเตือนถึงสิ่งที่ผมควรบอกให้คนๆหนึ่งได้รับรู้สักที
ผมเงียบสักครู่หนึ่งก่อนจะหันมายิ้มให้เพื่อนทั้งสอง
“บอกซิ” ผมตอบอย่างชัดเจน พร้อมความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้องมานาน
เชียร์กับปอยิ้ม พร้อมเอามือมาแตะบ่าผมเป็นการให้กำลังใจ
“สู้ๆนะ” เชียร์ให้กำลังใจผม
“อืมม” ผมยิ้มรับกำลังใจจากมัน
“โน้น มาแล้ว” ปอชี้ให้ดูคนที่ผมมุ่งมั่นจะบอกความในใจให้เขาได้รับรู้
ชายร่างสูงใหญ่ หุ่นนักกีฬา ผมดำเข้มที่เริ่มยาวประบ่า ทำให้ผิวขาวเนียนยิ่งเด่นชัด ในมือหอบดอกไม้จำนวนมากที่บ่งบอกเลยว่า เจ้าตัวเป็นที่ชื่นชอบแก่บรรดารุ่นน้องมากแค่ไหน
ผมยังคงมองชายคนนั้น ผู้ชายที่เป็นรักแรกของผม แม้ผมกับเค้าจะสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่ความสัมพันธ์นั้นก็เป็นแบบพี่น้อง ที่ผมเองไม่พยายามทำให้มันเกินไปกว่านั้น เพราะรู้ตัวดีอยู่เสมอว่าไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวเค้ามีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แต่ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักเค้า และมีประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน
“ไปเหอะ” แล้วไอ้เชียร์ก็ลากผมไปเมื่อเห็นพี่เค้าแยกตัวไปในห้องน้ำ
“พี่ยอด” เชียร์เรียกเจ้าของชื่อ ที่ยื่นอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ
“อ้าวเชียร์” พี่ยอดยิ้มให้เชียร์ แต่คงเห็นผมแอบอยู่ข้างหลังเชียร์ เลยยื่นหน้ามายิ้มให้
เชียร์ยื่นดอกกุหลาบมาให้พี่ยอด “ดีใจด้วยนะครับ ยังไงก็ขอให้โชคดี ตั้งใจเรียนป.ตรีนะ”
พี่ยอดบอกขอบใจพร้อมรับดอกกุหลาบจากเชียร์
“ไม่น่าให้พี่เลย มีคนให้เยอะอยู่แล้วนี้” เชียร์เริ่มแซว
พี่ยอดหัวเราะ “พอเชียร์กับโจ้จบก็คงได้เยอะกว่าพี่ม้าง”
“เออ พี่ยอด โจ้มันมีเรื่องจะพูดกับพี่” แล้วเชียร์มันก็เริ่มเข้าเรื่อง
พี่ยอดทำหน้างงงง แล้วหันมามองที่ผม ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอาย
“เชียร์ขอตัวเอาดอกกุหลาบไปให้พี่ๆคนอื่นๆก่อนนะ” แล้วเชียร์มันก็ปล่อยให้ผมอยู่กับพี่ยอดสองต่อสอง
ผมยืนเงียบทำตัวไม่ถูก ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะเริ่มด้วยคำพูดไหนดี
“พี่ว่าเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” ผมเองก็เห็นด้วย ให้มาสารภาพรักในห้องน้ำคงไม่ดีแน่
พี่ยอดเดินนำผมออกไป จนถึงห้องโถงตึกหอประชุมกลางซึ่งมีแต่คนแน่นไปหมด ผมเริ่มมองไม่เห็นพี่ยอดแล้ว
แต่แล้วก็มีมือมาคว้าแขนผมไว้ ผมหันไปมอง เห็นพี่ยอดยืนยิ้มอยู่
“เดี๋ยวไปทางลัดดีกว่า” แล้วพี่ยอดก็ลากผมไป โดยพี่เค้าเลื่อนมือมาจับมือผม พาผมออกด้านหลังของห้องโถง
แล้วอ้อมไปทางสนามบอลที่ติดอยู่กับหอประชุมกลาง ก่อนจะวกกลับไปตามทางเดินซึ่งตรงไปยังทะเลสาบของด้านหน้าของโรงเรียน
ตลอดทางที่เดินพี่ยอดจับมือผม ผมไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อน ทั้งที่ทางที่พี่ยอดพาผมเดินนั้นไกลเกือบกิโล แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันสั้นเหลือเกิน
พอมาถึงม้านั่งใกล้ทะเลสาบ พี่ยอดก็ปล่อยมือผม แล้วเดินไปนั่งตรงม้านั่ง ผมก็ค่อยๆเดินไปนั่งข้างๆ
พี่ยอดหันมามองผม ซึ่งผมเองก็หันมามองพี่ยอดเช่นกัน
“พี่รู้นะว่าโจ้อยากบอกอะไรพี่” พี่เขาพูดยิ้มๆ ผมเองก็ตกใจที่พี่เค้ารู้ความในใจของผม
“พี่ดูออกว่าโจ้คิดยังไงกับพี่” พี่เขาตอบพร้อมหันหน้าไปมองทะเลสาบ
“ตลอด3ปีที่พี่อยู่ที่นี้ มีคนมาสารภาพรักกับพี่เยอะจนนับไม่ได้” พี่ยอดพูดพร้อมหยิบก้อนหินเควี่ยงไปที่ทะเลสาบ
ผมนึกในใจว่าถึงพี่เค้าไม่บอกก็พอรู้ เพราะพี่เค้าหล่อซะขนาดนั้น แถมนิสัยโคตรรดีเลย ใครจะไม่ชอบว่ะ
“ขนาดเพื่อนในห้องเดียวกัน ยังมีเลย” พี่เค้าพูดพร้อมหัวเราะ ฮิ ฮิ ในลำคอ
“พี่เองก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอก แต่พี่พอรู้ว่าคนพวกนั้นชอบพี่เพราะอะไร เค้าชอบเพราะที่หน้าตาของพี่ ชอบเพราะรูปร่างของพี่ ชอบเพราะฐานะของพ่อพี่ ชอบเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปร่างภายนอกของพี่ จะมีสักกี่คนที่บอกว่ารักพี่ แล้วชอบที่ภายในจิตใจของพี่จริงๆ” หมดประโยคนี้ พี่ยอดเคี้ยวงก้อนหินไปสุดแรง จนหยดน้ำกระเด็นมาถูกเราสองคน
ผมหันไปมองพี่ยอด พร้อมนึกตามคำพูดของพี่เค้า ผมยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นพี่เค้าผมชอบเพราะหน้าตา รูปร่าง ของพี่เค้าจริงๆ แต่พอได้รู้จัก ได้พูดคุย ผมก็ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้นไปอีก
ผมกับพี่ยอด นั่งเงียบไปสักครู่หนึ่ง ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะพี่ยอดแย่งพูดความรู้สึกของผมไปหมดแล้ว
“ใกล้เวลาทานอาหารเที่ยง เราไปกันเถอะ” แล้วพี่ยอดก็ลุกขึ้นเดินออกไป แต่ผมยังคงนั่งอยู่ที่ม้านั่ง
แล้วน้ำตาของผมก็เริ่มไหลออกมา ผมกลั่นมันไว้ไม่อยู่จริงๆ รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง แม้ว่าพี่ยอดไม่ได้ตอบปฏิเสธผม แต่คำพูดของพี่ยอดมันเหมือนดูถูกว่าผมจะรักคนๆหนึ่งเพราะแค่มองจากภายนอกเท่านั้น
ไม่ได้ ผมจะไม่ยอมให้พี่เค้าคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นเด็ดขาด
ผมลุกขึ้นจากม้านั่ง หันไปมองที่พี่ยอดที่กำลังเดินห่างออกไปจากผมช้าๆ
ผมรู้ว่าอีกไม่นาน พี่ยอดก็จะไปจากผมแล้ว อาจจะไปจากชีวิตผมด้วยซ้ำ เพราะพี่ยอดจะย้ายไปเรียนต่ออังกฤษ และอาจจะย้ายไปอยู่ที่นั่นตลอดเลยด้วย
นี้จะเป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะทำให้รักครั้งแรกของผม
ผมวิ่งไปสุดแรง สายตายังคงจ้องด้านหลังของผู้ชายที่ผมเฝ้ามองมาตลอดเกือบปี
ผมวิ่งไปถึงพี่ยอด ผมคว้าตัวพี่ยอดไว้ ซบหน้าไปกับหลังของพี่เค้า แล้วน้ำตาของผมก็เริ่มไหล
“ใช่ ผมรักพี่เพราะหน้าตา เพราะรูปร่าง เพราะฐานะ และทุกอย่างที่ผมเห็น แต่รู้ไว้นะ ผมก็รักจิตใจ นิสัย บุคลิก เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ผู้คนรอบข้างในชีวิตของพี่ด้วย”
คำพูดพรั่งพรูออกมาจากปากของผม
ผมค่อยๆปล่อยตัวพี่ยอด แล้วเดินไปเผชิญหน้าของพี่เค้า
“ผมรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นพี่ ผมรักพี่มากกว่าที่พี่คิด”
ผมยังคงร้องไห้ มันเป็นความรู้สึกดีใจที่ผมได้พูดความรู้สึกออกมา และเสียใจที่จะไม่พบกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
พี่ยอดหน้าเหวอไปสักพัก คงตกใจที่ผมพูดไปร้องไห้ แล้วพี่ยอดก็เดินเข้ามากอดผมแน่น
“ขอบใจมากๆ ขอบใจที่มีความรู้สึกดีดีให้พี่ ขอบใจจริงๆ”
ผมเองก็กอดพี่ยอดแน่น น้ำตาแห่งความดีใจมันไหลออกมาแทบไม่หยุด
“พี่เองก็ดีใจที่มีน้องที่น่ารักอย่างโจ้ ดีใจที่มีคนรักพี่ มีคนห่วงพี่ รู้ไว้นะ พี่ก็รักโจ้ และห่วงโจ้ แม้พี่จะเป็นอย่างที่โจ้คิดไม่ได้ แต่พี่จะเป็นพี่ชายที่ดีให้โจ้ ตอบแทนกับความรู้สึกของโจ้ที่มีต่อพี่” แล้วพี่ยอดค่อยๆเลื่อนหน้าลงมา แล้วจูบที่หน้าผากของผม
ผมยิ้มดีใจที่พี่ยอดเข้าใจผม แม้สุดท้ายความรักของผมจะไม่ได้ลงเอยด้วยการเป็นคนรักกัน แต่ก็ผมดีใจและพอใจที่คนที่ผมรัก ได้รับความรู้สึกของผมเอาไว้ และเห็นคุณค่าของมัน
พี่ยอดเช็ดน้ำตาให้ผม แล้วก็ยื่นมือมาที่ผม ผมก็ยื่นมือไปจับมือของพี่ยอด
เราสองคนเดินมุ่งหน้าไปยังที่หอประชุม
ตลอดทางถึงหอประชุมผมและพี่ยอดจับมือกันแน่น เหมือนยืนยันถึงความรู้สึกของกันและกัน
น้องชายคนนี้จะรักพี่ชายเสมอไปครับ
********************************************************************************