คุณจิ๊บมาเยี่ยมกันด้วยยยยย จุ๊ฟๆ
แก้มก็ดีใจที่ทุกคนชอบเรื่องคุณจิ๊บเหมือนๆกัน
ก่อนอื่นขอโทษด้วยน๊าที่เมื่อวานไม่ได้มาต่อตามสัญญา เริ่มกันเลยดีกว่า เรื่องรักๆของป.ปลาคนรอง
------------------------------------------------------------------------------------------- >> รักแบบปอ <<
ป.ปลาคนรอง......................................................
“เป็นอะไรของมึงว่ะไอ้ปอนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ได้”
“ยุ่งน่า”
ผมหันไปค้อนคนถามพลางหันหน้าหนี
“เป็นอะไรอีกล่ะ”
ไอ้คนไม่รู้ตัวนั่งลงข้างๆผมแล้วเปิดหนังสือการ์ตูนที่เช่ามาอ่านโดนไม่สนใจผมอีก
เชอะ ไอ้บ้านี่
เมื่อกี้ตอนไปเช่าการ์ตูนอ่ะ มันไปยืนคุยหัวเราะต่อกระซิบอะไรไม่รู้กับพนักงาน
รู้แต่ว่าไม่ชอบใจ ไม่ชอบใจโวย....แล้วมันไม่ได้รู้ตัวเลยนะว่าผมโกรธมันอยู่อ่ะ
แต่ให้มันไม่รู้ไปน่ะดีล่ะ ถ้ามันรู้ มันก็ต้องรู้น่ะสิว่าผมคิดไงกับมัน
....เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที...
“บาร์ท...บาร์ท”
ผมเรียกไอ้บ้าที่นั่งอยู่ข้างๆผมแต่ไม่ได้สนใจผมเลย มัวแต่อ่านการ์ตูนอยู่ได้
“บาร์ท”
“หือ”
ในที่สุดมักก็หือก็อือครับ หลังจากที่ผมเรียกมันไปประมาณสิบกว่าที แต่น้ำเสียงเหมือนรำคาญๆยังไงไม่รู้
“หิวแล้ว”
ผมบอกไป แต่....ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาครับ มันยังก้มหน้าอ่านการ์ตูนอยู่เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด
ผมชักโมโหขึ้นมาอีกทีละ เมื่อกี้อุสส่าห์ ย้ำนะครับ ว่าอุสส่าห์หายโกรธมัน แต่ตอนนี้เริ่มจะโกรธขึ้นมาอีกล่ะ
ผมขยับตัวอย่างเสียอารมณ์ จิ๊ปากจิ๊คอไปตามเรื่องตามราว ให้ไอ้คนข้างๆมันรู้ว่าผมโกรธ
... แต่...
มันไม่ได้สะทกสะท้าน หรือหันมามองอะไรผมเลย ยังคงนั่งอ่านหนังสือของมันต่อไป
และแล้ว...ในที่สุด ผมก็หมดความอดทน
“เฮ้ย กูโกรธเมิงอยู่นะเว้ย สนใจหน่อยดิ”
ผมแหกปากดังลั่น พร้อมๆกับที่กระชากหนังสือการ์ตูนออกมาจากมือไอ้บาร์ท แล้วโยนลงไปกองไว้บนพื้น หรือที่เรียกง่ายๆว่าปาทิ้งนั่นแหละครับ
มันเงยหน้าขึ้นมองผมช้าๆ หน้าตาบ่งบอกว่ารำคาญเต็มที่
สายตาเฉยชาแบบที่ผมเห็นมันส่งให้คนอื่นบ่อยๆแต่กับผมมันไม่เคยทำ
มันลุกขึ้นไปหยิบการ์ตูนที่พื้นมาปัดและเช็ดรอยเปื้อนบนปกหนังสือออก
จากนั้นก็หันมาทางผม
“ถ้าหนังสือเค้าเป็นอะไรไปจะทำไง ทำอะไรไม่รู้จักคิด”
บาร์ทพูดแล้วเก็บหนังสือไว้ในกระเป๋าอย่างดี
“เอ้า!ที่นี้มีอะไรก็ว่ามาสิ”
มันว่าแล้วทำหน้าเบื่อหน่าย
ผมมองอาการแปลกๆของบาร์ทแล้วรู้สึกเจ็บๆในอกพิกล
“ไอ้บ้า !!”
ผมด่ามันพร้อมๆกับที่เตะหน้าแข่งมันอย่างแรงแล้ววิ่งออกมา
เชอะ ผมไม่เห็นจะง้อมันเลย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย ไม่ยุ่งด้วยแล้ว
แต่ก็แปลกนะ ทำไมมันถึงได้ทำท่าทางแปลกไป หรือว่าเป็นเพราะพนักงานร้านการ์ตูนคนนั้น บาร์ทคงเริ่มชอบเค้าแล้ว เลยโกรธที่ผมไปทำหนังสือเค้าเปื้อน หรือว่ามันรู้ความรู้สึกผม เลยรำคาญใจที่มีผมอยู่ใกล้ๆ
มันจะอะไรก็แล้วแต่ แต่ท่าทีแบบนั้นก็หมายความว่าไม่ต้องการให้ผมอยู่ข้างๆแล้วใช่ไหม แค่ในฐานะเพื่อนก็ไม่ได้งั้นสิ
โธ่เว้ย จะร้องไห้ทำไมว่ะ
ผมพูดกับตัวเองแล้วเริ่มเช็ดน้ำตาที่ไหลมา
พอกันที
.............................................................................................
“ไอ้ปอ เมิงมานั่งทำห่าอะไรแถวนี้ว่ะ ห้องเมิงอยู่ทางไหน ไปทางนั้นเลยไป๊”
ดู๊ ดู ดูมันพูดเข้าซิครับ ไอ้พี่เวรของผม พูดจาไม่ไพเราะเอาซะเลย ไม่เข้าใจว่าพี่ทิมชอบมันไปได้ไง โหด เลว เถื่อน ขนาดนี้
แค่ผมขอมานั่งให้สบายใจเล่นแค่ ไม่กี่วันแค่นี้ ทำเป็นไม่พอใจไปได้
“ไม่กี่วันบ้าอะไร นี่เมิงมาอยู่จะสองอาทิตย์แล้วนะโว้ย”
น่าน...ขนาดผมคิดในใจยังได้ยินอีกตลอดเลยพี่ผม
ผมเลิกสนใจมัน หันไปส่งสายตาอ้อนวอนที่พี่เอ่อ พี่เขย ไม่สิ พี่สะใภ้ของผมแทน
“น่าป่าน....ใจเย็นๆ”
เมิงเงียบไปเลย เย็นบ้าอะไร มันมาอยู่ที่นี้เกะกะจะตาย แล้วนี้ไม่ได้ทำมาตั้งสองอาทิตย์ จะลงแดงตายอยู่แล้ว
โถ่ นึกว่าโกรธอะไร ที่แท้ก็โกรธเพราะไม่ได้กอดพี่ทิม
โหย...รักน้องจังพี่กู ผมมองหน้าตาที่บ่งบอกว่าอยากมาก หื่นชะมัด และหันไปมองหน้าพี่ทิมที่แดงเอาแดงเอา แล้วกลับไปมองหน้าพี่ชายผมอีกที
“อยากทำอะไรก็ทำไปสิ”
ผมพูดแล้วเอนหลังพิงพนัก
“ไม่ต้องมาก็ทำไปสิเลย ถ้าทิมยอมกูทำไปแล้วโว้ย”
“หยุดเลยป่าน”
ในที่สุดพี่ทิมก็ออกโลงครับ 555 เป็นไงล่ะพี่ผม เงียบไปเลย ห้าวนัก ก็กลัวเมียนั่นล่ะหว้า
“ก็มัน...”
“ไม่ต้องมาก็มันเลย น้องไม่สบายใจอยู่ยังคิดแต่เรื่องอะไรไม่รู้อยู่ได้”
โดนครับโดน สมน้ำหน้ามันนัก
และแล้ว เสียงระฆังช่วยชิวิตพี่ผมก็ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน เสียงอ๊อดหน้าประตูนั่นเอง
พี่ทิมเดินไปเปิดประตู ส่วนพี่ผมงอนพี่ทิมเดินหายไปทางห้องนอน และแล้ว ความสงบก็มาเยือนอีกครั้ง
ผมนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่ที่โซฟา เหมือนจะนั่งดูทีวีนะครับ แต่ผมไม่ได้มองหรอก ทีวงทีวีอะไรนั่นน่ะ แล้วผมก็รู้สึกว่าโซฟามันยวบลง ไอ้พี่ป่าน มันจะเริ่มสงครามรอบสองอีกแล้วเรอะ
“อะไรนักหนาหึพี่ป่าน”
ผมหันไปกะด่าเต็มที่ แต่ แต่คนที่นั่งอยู่ไม่ใช่พี่ชายผมกลับเป็น... ใช่แล้วครับ อย่างที่ทุกคนคิดนั่นล่ะ พี่ทิมนั่นเองที่นั่งอยู่ข้างๆผม
“ไม่รู้หรอกนะว่ามีเรื่องอะไร แต่มานั่งกลุ้มคนเดียวแบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนะปอ การหนีน่ะไม่มีทางแก้ปัญหาได้หรอกนะ”
พี่ทิมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ผมมองหน้าพี่ทิมอย่างซาบซึ้ง
อะอ๊ะ แต่อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ จะใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพื่อให้ผมออกไปจากที่นี้ล่ะสิ ฮั่นแน่ ที่แท้ก็อยากทำกับพี่ผมเหมือนกันล่ะสิ เอาเถอะ เลิฟๆกันก็ดีล่ะ
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ฝากลาไอ้พี่บ้านั้นด้วย”
พูดแล้วเดินไปหยิบเป้ที่ติดตัวมา
“ไปก่อนนะครับ”
พี่ทิมโบกมือลาและปิดประตู ก่อนที่ประตูจะปิดลง ผมก็เห็นแขนของไอ้พี่บ้ามาดึงคอพี่ทิมเข้าไป
555 เสร็จพี่ผมแหงเลยงานนี้
TBC......