บทที่27
แขกแปลกหน้าที่มีเยือนห้องของพัดในช่วงสายของวันหยุดยาวถูกอินเชิญให้นั่งพักตรงโซฟาท่ามกลางความงุนงงของทั้งสองฝ่าย ด้านหญิงวัยกลางคนดูเหมือนจะปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้เลย แต่ด้านนายอินนั้นพอจะเห็นเค้าลางบางอย่าง...เค้าลางแห่งหายนะ
ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของไอ้พัด
ไม่รู้ว่าโชคร้ายที่อินดันตื่นขึ้นมาก่อน จึงต้องรับหน้าไปเต็มๆหรือโชคดีที่คุณแม่ไม่ต้องมาเห็นภาพลูกชายนอนก่ายอยู่กับผู้ชายด้วยกัน อินฉีกยิ้มเป็นมิตรและทำตัวสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการนำน้ำและของว่างมาเสริฟก่อนจะพาตัวเองเผ่นเข้าห้องนอนไปด้วยใจกระวนกระวาย
“เดี๋ยวผมปลุกพัดให้นะครับ”หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ เธอคงเข้าใจว่าเขาเป็นเพื่อนของลูกชายเลยทำท่าทางเอ็นดู
ทันทีที่ปิดประตูห้องนอน นัยน์ตาสีดำคมปราดก็จ้องทะลุใบหน้าของคนเพิ่งตื่นนอนซึ่งส่งยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวมาให้ อินถลึงตาใส่รอยยิ้มนั้นก่อนตรงเข้าไปคว้ากองเสื้อบนพื้นยัดใส่มือเจ้าของห้องแล้วกำชับเสียงเข้มว่า
“ใช่เวลามายิ้มมั้ยมึง งานเข้าแบบชิบหายแล้วเนี่ย แม่มึงมา!!”นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังประตูเชื่อมกับห้องนั่งเล่น”นั่งงงว่ากูเป็นใครอยู่นอกห้องโน่น! ไปเคลียร์ด่วนเลยมึง”สิ้นคำพัดก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ร่างสูงใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูออกไป
เผชิญหน้ากับมารดาที่มาผิดเวลา
“มะ...แม่...”เสียงทุ้มเอ่ยทักคนบนโซฟา พัดค่อยๆเดินไปหาแม่ของตนด้วยความฉงน
“ตื่นแล้วเหรอลูก”
“ครับ ว่าแต่แม่มาทำไมเหรอ”
“ตายจริงถามซะเย็นชาเชียว คนเป็นแม่จะมาเยี่ยมลูกชายต้องทำหนังสือขออนุญาตก่อนรึไง”เท่าที่พัดเคยเล่าให้ฟัง อินรู้แค่ว่าแม่ของมันชื่อรัตติกาล อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่กับพ่อและน้องชายและประกอบธุรกิจส่งออกไวน์องุ่นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้มันเท่าไหร่ การที่คุณรัตติกาลคนนี้เดินทางมาถึงกรุงเทพแสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญ
ทั้งสองคนหันมาสบตากันด้วยความหวาดหวั่น
“เราชื่ออะไรจ๊ะ”แต่แทนที่หล่อนจะเปิดประเด็นเรื่องธุระสำคัญเธอกลับหันมาชวนอินคุยเสียนี่ เล่นเอาคนมีชนักติดหลังถึงกับสะดุ้งโหยง จากเดิมที่นั่งไม่ค่อยสบายตัวอยู่แล้วตอนนี้กลายเป็นนั่งแทบไม่ติดไปเลย
“ผมชื่ออินครับ!!”ถ้าโดนถามว่าเป็นอะไรกับพัดต้องแย่แน่ๆ
“หล่อจังเลย เป็นเพื่อนของตาพัดเหรอจ๊ะ”นั่นไง ชัดเลย!! อินเหลือบสายตาขอคำปรึกษากับคนข้างกาย จะให้เขาตอบว่าใช่ครับ เป็นเพื่อนกันก็ได้อยู่หรอกแต่ถ้าพัดเกิดน้อยใจหรือมันดันไม่อยากโกหกแม่ขึ้นมาจะซวยเอา
และที่ซวยยิ่งกว่าคือถ้าบอกไปแล้วแม่มันเกิดรับไม่ได้ขึ้นมา
อินเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่คงทำใจไม่ได้ที่ลูกชายซึ่งชอบผู้หญิงมาทั้งชีวิตเปิดตัวว่าคบกับผู้ชาย ขนาดคนใจกว้างอย่างพ่อของเขายังออกอาการปลงตกซะมากกว่ายอมรับเลย
หลังจากแน่นิ่งมองตากันเสมือนทั้งห้องมีกันแค่สองคนอยู่ชั่วอึดใจ พัดก็ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ ดวงตาคู่สีน้ำตาลเข้มฉายแววรู้สึกผิด แต่อินก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะตอบความจริงออกไปอยู่แล้วจึงคลี่รอยยิ้มอ่อนกลับไป
“ครับ ผมอยู่กับเพื่อนที่ห้องข้างๆนี่แหละ เมื่อคืนแวะมาเล่นเกมส์กับไอ้พัดจนดึกเลยนอนต่อที่นี่เลย”
“เหรอลูก ดีจังเลยที่พัดสนิทกับเพื่อนบ้านแบบนี้ ตอนแรกแม่เองก็เป็นห่วงกลัวว่าเขาอยู่คนเดียวแล้วจะเหงา นี่ก็เลิกกับแฟนคนล่าสุดมาเป็นปีๆแล้วมีอินมาเล่นด้วยค่อยอุ่นใจหน่อย”ในสายตาของตนเป็นแม่ยังไงซะลูกก็ดูเด็กเสมอ คุณรัตติกาลพูดด้วยความ
อ่อนโยน ความห่วงใยนั้นทำให้คนหนุ่มสองคนต้องหลบสายตาด้วยความละอายใจ
หลายๆในคำพูดนั้นมันบาดหัวใจ
“ว่าแต่วันนี้แม่มีเรื่องด่วนอะไรเหรอครับ”พัดรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัดแปลกๆที่เข้ามาปกคลุมวงสนทนา เจ้าตัวเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วสมฉายาจอมเนียนที่อินมอบให้
“อ๋อ...ลูกชายคุณศรีลูกค้าเก่าแกของเราเขาจะแต่งงาน แม่ก็เลยต้องมาร่วมแสดงความยินดี ตอนแรกก็จะให้ตาพัดไปแทนให้อยู่หรอกแต่คิดว่าคงไม่ได้เรื่องเมื่อคืนโทรหาตั้งหลายสายก็ไม่รับ แม่เลยต้องจองตั๋วเครื่องบินด่วนมานี่แหละจ่ะ”
คำว่าเมื่อคืนโทรมาหลายสายแต่ไม่มีใครรับพุ่งเข้าปักกลางใจดำของอิน ลมหายใจของเด็กหนุ่มขาดห้วง
ไม่รู้ว่าจะโดนจี้ใจดำอีกสักกี่ประโยค เกือบสิบนาทีที่มานั่งคุยกับสองแม่ลูกเล่นเอาอินหน้าชาไปครึ่งแถบก่อนจะหาทางหนีกลับห้องดีดีด้วยคำขอตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า”ผมขอตัวกลับห้องก่อนดีกว่า เชิญแม่ลูกคุยกันตามสบายเลยนะครับ”จากนั้นร่างโปร่งก็รีบเผ่นออกจากห้องด้วยความเร็วแสง
“โอยยยย ไมเกรนขึ้น”เสียงห้าวบ่นกระปอดกระแปดเมื่อปิดประตูห้องของเพื่อนสนิทอย่างดีดีเขาก็เอาตัวพิงกรอบประตูแล้วก็ทุบหัวตัวเองเบาๆท่ามกลางสายตางุนงงของดีดีที่เพิ่งตื่นขึ้นมานั่งดูอนิเมพอดี
“เกิดอะไรขึ้นเหรออิน”
“แม่ไอ้พัดมา”อินตอบไปตามตรงก่อนจะเปิดตู้เย็นรินน้ำดื่มอึกใหญ่ ด้านดีดีก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อไม่รู้เป็นเพราะเห็นบรรยากาศมาคุรอบๆตัวของอินหรือเป็นเพราะกำลังดูอนิเมเพลินๆเลยไม่สนใจสิ่งอื่นๆแต่ก็นับเป็นการดี
“กูอาบน้ำแป๊ปนะ ใครมาหาบอกว่ากูออกไปข้างนอกแล้ว”พัดยิ่งเดาใจยากอยู่ เกิดมันอารมณ์แปรปรวนอยากแนะนำให้แม่กับแฟนสนิทกันขึ้นมาแล้วมาตามถึงห้องคงแย่เพราะเท่าที่พูดคุยกันเมื่อครู่คุณรัตติกาลดูจะรักและคาดหวังในตัวลูกชายคนโตคนนี้
มาก
เธอเป็นแม่ที่ดี เขาจึงไม่อยากทำให้แม่ต้องผิดหวัง...แม้ว่านั่นจะไม่ใช่แม่ของเขาก็ตาม
“แล้วทำไมกูต้องไปสนใจแม่ชาวบ้านขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย”
ก๊อกๆ
บ่นยังไม่ทันขาดคำก็มีคนมาเคาะประตูห้องน้ำ อินขมวดคิ้วมุ่น
“มีไรวะ”หรือดีดีจะปวดขี้กะทันหันอั้นไม่ไหวแล้ว อินคิดหาความเป็นไปได้ต่างต่างนานาทว่าเสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังกลบเสียงตอบรับจากด้านนอกจนหมด ร่างโปร่งที่ล้างสบู่เสร็จพอดีจึงคว้าผ้าขนหนูมาพันเอวไว้และเปิดประตูห้องน้ำออก...
ดวงตาคู่คมเบิกโพลงด้วยความตกตลึง
ภาพที่สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาสีดำขลับของอินก็คือ!!
คือ!!
คุณรัตติกาล!!
ด้านหญิงวัยกลางคนเองก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอยกมือขึ้นทาบอกแล้วก็อุทานเบาๆไม่ได้ศัพท์ ทั้งคู่ไม่มีท่าทีว่าจะดึงสติกลับมาได้เลยเดือดร้อนพัดที่แอบช็อคกับเหตุการณ์ดังกล่าวต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย
มือแกร่งดันอกขาวๆของอินให้ถอยกลับเข้าไปในห้องน้ำก่อนกระซิบเสียงแผ่วว่า”ใส่เสื้อผ้าซะ”ด้วยใบหน้าตึงเครียดก่อนจะปิดประตูลง
ประตูสีขาวของห้องน้ำเพียงห้องเดียวภายในห้องชุดของดีดีซึ่งอินคุ้นเคยกำลังหมุนไปหมุนมาตามความช็อคของสมอง นายอัครินทร์ตอนนี้สะกดคำว่าสติไม่เป็นอีกต่อไปเมื่อเขาเหลือบตาไปมองทางกระจก
สีหน้าหนักใจของพัดก่อนบานประตูจะปิดลงเขายังจำได้ขึ้นใจ
และรอยแดงๆตามตัวที่สะท้อนอยู่ในกระจกเองก็ขึ้นสมองของอินไปแล้วเช่นกัน
ชิบหาย!!
นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจว่าแม่ของพัดมาเคาะห้องน้ำในห้องชาวบ้านทำไมแล้ว
ประเด็นรอยพวกนี้!! รอยที่เกิดขึ้นใหม่ๆนี่!!
คุณรัตติกาลคงไม่โง่ถึงขนาดไม่รู้ว่ามันคือรอยที่เกิดจากอะไร...และเธอคงเฉลียวฉลาดพอจะเดาได้ว่าใครเป็นคนทำ...
ก็ในเมื่อคนที่อินอยู่ด้วยเมื่อคืนคือพัด
“ออกไปบอกว่าเป็นฝีมือดีดีเขาจะเชื่อมั้ยเนี่ย”
...............................................................................................
รวมรวบแรงเฮือกสุดท้ายสลัดกองหนังสืออกมาแต่งให้ค่ะ
ขออภัยที่ชอบหายไปนานๆนะคะ TT^TT
ยังไงก็แวะไปทวงหรือเสนอแนะติเตียนได้ในเพจเสมอเลยนะคะ
https://www.facebook.com/nikkouseries