:: ๑๐ ::
ช่อดอกไม้
“เก็บไว้ใช้กับผู้หญิงของมึงเถอะ” ไอร์เมินหน้าแล้วหันไปพูดกับผู้เป็นแม่ต่อ “แม่ครับผมไปแล้วนะ” เจ้าตัวยกมือไหว้
ต๋องยิ้มเจื่อนเหมือนใบหน้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นับล้านชิ้น
“ขับรถดีๆ ล่ะลูก” ปิ่นแก้วบอกกับลูกชายก่อนจะปรายตามองแขกผู้มาเยือนด้วยความเห็นใจ
“ครับแม่”
“อันดาไหว้คุณยายเร็วลูก”
“อันดาไปโรงเรียนก่อนนะคะคุณยาย” เด็กหญิงตัวน้อยยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“อย่าซนล่ะวันนี้เดี๋ยวยายทำขนมไว้รอ”
“น้องอันดาจะเป็นเด็กดีค่ะคุณยาย” อันดาพูดกับยายแล้วหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เจ้าตัวเห็นอย่างนั้นก็ทำหน้านิ่งเพราะยังรู้สึกตื่นกล้วกับเหตุการณ์เมื่อวาน
“อันดามาหาพ่อสิลูก” ต๋องนั่งยองๆ กับพื้นแล้วอ้าแขนรอ
“คุณแม่บอกว่าพ่อของอันดาอยู่บนสวรรค์” เด็กหญิงพูดหน้าซื่อแล้วมองหน้าผู้เป็นแม่
ปิ่นแก้วมองลูกชายแล้วพยักหน้าสื่อว่าให้บอกความจริงเสียที
“น้องอันดาคะ...แม่มีอะไรจะบอก จริงๆ แล้วพ่อของหนูไม่ได้อยู่บนสวรรค์หรอกลูก แต่คนที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหากที่เป็นพ่อของหนู” ไอร์นั่งลงแล้วพูดต่อหน้าลูกสาว
“เข้าไปหาพ่อสิอันดา” ปิ่นแก้วบอกกับหลานสาว
ต๋องยิ้มกริ่มพร้อมกับอ้าแขนรอลูกสาวอย่างใจจดใจจ่อ อันดาค่อยๆ เดินเข้าไปก่อนจะสวมกอดผู้เป็นพ่ออย่างช้าๆ ผู้เป็นพ่อรู้สึกมีความสุขมากจนน้ำตาซึมออกมา ก่อนจะผละตัวลูกสาวออกมาหอมแก้มทั้งสองข้างด้วยความเอ็นดู
“อันดาลูกพ่อ”
“คุณลุงเป็นพ่ออันดาจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ...พ่อต๋องเป็นพ่อของอันดาจริงๆ ไหนเรียกพ่อต๋องให้พ่อชื่นใจหน่อยสิ” ต๋องยิ้มกริ่มจ้องหน้าลูกสาวรอฟังคำที่อยากได้ยินมากที่สุดในชีวิต
“พ่อต๋อง” อันดายอมทำตามคำสั่งโดยง่ายก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา ในที่สุดความฝันของเด็กหญิงก็เป็นจริงขึ้นมา อันดาอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะเวลาไปโรงเรียนเพื่อนมักจะมาพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ตัวอันดาเองกลับมีแค่แม่เท่านั้น
“อันดาของพ่อ” ต๋องกอดลูกสาวอีกครั้งอย่างแนบแน่น
“อันดารีบไปโรงเรียนกันเถอะลูก” ไอร์เอ่ยเรียกลูกสาวเพราะให้เวลากับต๋องมากเกินไปแล้ว
“อันดาอยากให้คุณพ่อไปส่ง” เด็กหญิงอยากจะอวดเพื่อนๆ ว่าตัวเองก็มีพ่อเหมือนกัน
“ไม่ได้อันดาต้องไปกับแม่” ไอร์ดุให้ลูกสาวเสียงดังจนเจ้าตัวเล็กถึงกับหน้าเสีย
“ทำไมมึงต้องดุลูกด้วยวะ เดี๋ยวกูจะไปส่งลูกเอง” ต๋องอุ้มลูกสาวขึ้นทันที
“ไม่ได้ลูกต้องไปกับกู” ไอร์ไม่ยอมก่อนจะเดินไปแย่งตัวลูกสาวมา
“ไอร์ให้ต๋องไปส่งอันดาเถอะ อยากให้ลูกมีความสุขไม่ใช่เหรอ” ปิ่นแก้วปรามลูกชายไว้ ไอร์เริ่มได้สติจึงพยายามสงบสติอารมณ์
“กูให้มึงไปส่งอันดาก็ได้แต่ไม่ยอมให้อันดาคลาดสายตาแน่นอน เดี๋ยวกูจะขับรถตามไปด้วย”
“ทำไมไม่ไปคันเดียวกันเลยล่ะ เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่โรงพยาบาลด้วย” ต๋องยิ้มให้
“ไม่จำเป็นกูไปเองได้”
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับแม่” ต๋องยกมือไหว้
“จ๊ะ” ปิ่นแก้วยิ้มให้
ต๋องอุ้มลูกสาวเดินไปที่รถโดยมีไอร์เดินตามหลัง
“มึงไม่ไปกับกูจริงๆ เหรอวะ”
“ไม่ล่ะ” พูดจบก็เดินไปที่รถของตัวเอง ส่วนต๋องก็พาลูกสาวขึ้นรถแล้วขับออกไป
ขณะอยู่บนรถ
“น้องอันดาเรียนที่ไหนคะ” ต๋องถามลูกสาว
“อันดาเรียนที่ XXXX ค่ะ”
“น้องอันดาอยากให้พ่อมาส่งทุกวันรึเปล่าน๊า”
“คุณพ่อมาส่งอันดาทุกวันได้เหรอคะ” เจ้าตัวเล็กหันหน้าไปมองผู้เป็นพ่อ
“ได้สิคะเพื่ออันดาพ่อทำได้ทุกอย่างเลยนะ”
“เย้! อันดาจะได้อวดเพื่อนว่ามีพ่อเหมือนกัน เพื่อนชอบล้ออันดาว่าไม่มีพ่อตลอดเลย” เด็กหญิงแก้มป่องเอ่ยออกมา
ต๋องได้ยินก็สะอึกทันทีเขาทำให้ลูกต้องมีปมด้อยมาตลอดเลยงั้นเหรอ ต่อไปนี้ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางว่าลูกสาวได้อีกแล้ว
“ต่อไปนี้พ่อจะมาหาอันดาทุกวันเลยดีไหมคะ”
“ดีที่สุดเลยค่ะคุณพ่อ”
“พ่อจะไม่จากอันดาไปไหนอีกแล้วพ่อสัญญา”
“สัญญาแล้วนะคะ” เด็กหญิงชูนิ้วก้อยขึ้นมา ต๋องเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มแล้วผละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาเกี่ยวก้อยลูกสาว
“พ่อสัญญาค่ะ”
หลังจากรู้ว่าตัวเองมีพ่อเหมือนคนอื่นๆ อันดาก็ร่าเริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างทางเจ้าตัวชวนผู้เป็นพ่อคุยไม่ยอมหยุดแม้แต่วินาทีเดียวจนถึงโรงเรียน
เมื่อถึงหน้าโรงเรียนต๋องก็จอดรถไว้ข้างถนน แล้วจูงมือลูกสาวมายืนรอไอร์ที่กำลังจอดรถ
“อันดามาหาแม่เร็ว” เมื่อเดินมาถึงไอร์ก็เอ่ยกับลูกสาวทันที แต่ไม่ยอมมองหน้าอีกคน
“คุณแม่นั่นล่ะมานี่ค่ะ” อันดากวักมือเรียก
ต๋องมองหน้าแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก ตอนนี้อันดาเห่อเขาเป็นที่สุดนั่นทำให้เป็นต่อในทุกๆ เรื่องเพราะมีลูกสาวให้ท้าย
“เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังแม่แล้วใช่ไหม” ไอร์ดุลูกสาวอีกครั้งจนเจ้าตัวก้มหน้าลง
“ทำไมต้องดุลูกด้วยล่ะ ไม่ดีรึไงที่ลูกของเราจะได้มีทั้งพ่อและแม่มาส่งที่โรงเรียนอย่างพร้อมหน้าเหมือนคนอื่นๆ” ต๋องกอดลูกสาวเอาไว้
“มึงไม่ต้องมายุ่งเลยกูจะสอนลูกเอง”
“อันดาก็เป็นลูกกูเหมือนกันทำไมกูจะยุ่งไม่ได้”
“บอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิวะ” ไอร์เริ่มขึ้นเสียงใส่
“เถียงกันต่อเลยนะคะอันดาจะเข้าไปแล้ว” เมื่อเห็นพ่อและแม่ยืนเถียงกันอยู่ตรงหน้า อันดาก็เดินหน้าบึ้งไปหาคุณครูที่ยืนรออยู่หน้าโรงเรียน แทนที่วันนี้จะได้อวดเพื่อนๆ แต่พ่อกับแม่กลับยืนเถียงกันซะอย่างนั้น
“อันดา!” ทั้งสองคนตะโกนขึ้นพร้อมกันแล้วรีบเดินตามหลังลูกสาวไป
“แม่ขอโทษนะลูก” ไอร์บอกกับลูกสาวเมื่อเดินมาถึง
“พ่อก็ขอโทษนะลูก ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะไม่เถียงกันต่อหน้าลูกอีกแล้วนะ พ่อกับแม่จะมาส่งอันดาทุกวันเลยดีไหม” ต๋องใช้โอกาสนี้โอบไหล่ไอร์เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เจ้าตัวเห็นอย่างนั้นก็ทำหน้าดุใส่แต่ต๋องกลับยิ้มหน้าระรื่นให้ “จริงไหมครับที่รัก” ตอนนี้อยู่หน้าลูกสาวไอร์จำต้องยอมตอบรับแต่โดยดี
“จริงครับ” เจ้าตัวกัดฟันพูดเสียงต่ำ แล้วหันไปยิ้มให้ลูกสาว
“เย้ๆ อันดาดีใจที่สุดเลยค่ะ” พูดแล้วก็แทรกตัวเข้ามาตรงกลางก่อนจะจูงมือทั้งสองคนเดินเข้าไปหาคุณครู
“สวัสดีค่ะคุณครู” เด็กหญิงอันดายกมือไหว้แล้วมาจับมือพ่อกับแม่ไว้เหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะน้องอันดาทำไมวันนี้ยิ้มมาแต่ไกลเชียว”
“ก็วันนี้อันดามีคุณพ่อมาส่งที่โรงเรียนด้วยนี่คะ” เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองผู้เป็นพ่อแล้วยิ้มกว้าง
“ว้าวครูดีใจด้วยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะคุณครู”
“สวัสดีครับผมชื่อภูวดลหรือเรียกว่าต๋องก็ได้ครับ ผมเป็นพ่อแท้ๆ ของอันดาครับ” ต๋องแนะนำตัวกับคุณครู
“สวัสดีค่ะคุณต๋อง ครูดีใจที่น้องอันดามีทั้งพ่อและแม่มาส่งเหมือนกับคนอื่นซะที ตอนอยู่ในห้องเรียนแกก็ชอบบ่นให้ครูฟังบ่อยๆ ว่าอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นเขา” คุณครูกล่าว
“ต่อจากนี้ผมจะมาส่งแกทุกวันเลยครับไม่ต้องห่วง” ต๋องยังไม่คลายมือจากไหล่บางนั่นเลย
“ครูดีใจด้วยนะน้องอันดา”
“ขอบคุณค่ะ ต่อไปนี้น้องอันดาจะไม่บ่นเรื่องพ่อให้คุณครูฟังแล้วน้า” เจ้าตัวเล็กยิ้มให้กับคุณครู
“ฝากด้วยนะครับคุณครู” ไอร์พูดก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเบาๆ ที่เรือนผมลูกสาว
“ไม่ต้องห่วงค่ะน้องอันดาเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนแถมยังฉลาดอีกด้วย”
“ได้ยินคุณครูพูดอย่างนี้ผมก็ดีใจครับ” ต๋องเอ่ย
“น้องอันดาเข้าไปแล้วนะคะ” เจ้าตัวเล็กยกมือไหว้พ่อกับแม่
“ตั้งใจเรียนนะคะเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะมารับ” ไอร์พูดกับลูกสาว
“พ่อก็จะมารับด้วย” ต๋องแทรกเสียงเข้ามาทำให้ไอร์ถึงกับหันขวับไปมองด้วยหางตา
“คุณพ่อสัญญาแล้วนะคะน้องอันดาจะรอทั้งสองคนเลยน้า” พูดจบก็โบกมือให้พ่อกับแม่แล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ
ทั้งสองคนยืนมองดูลูกสาวด้วยร้อยยิ้มอยู่นาน จนไอร์ลืมไปว่าตอนนี้กำลังโดนอีกคนยืนโอบไหล่อยู่ เมื่อรู้ตัวก็กระทุ้งศอกไปที่ท้องอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย! เจ็บนะครับ” ต๋องปล่อยมือออกจากไหล่ทันที
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย เห็นลูกให้ท้ายแล้วเอาใหญ่เลยนะ”
“แล้วไอร์ไม่อยากให้ลูกมีความสุขเหรอครับ” ต๋องทำหน้าระรื่นใส่
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลยกูไม่มีทางใจอ่อนให้มึงหรอกโว้ย” พูดแล้วก็เดินกลับไปที่รถ
ต๋องรีบเดินตามหลังไปหยิบช่อดอกกุหลาบที่รถของตัวเอง แล้วรีบวิ่งเข้าไปนั่งในรถของไอร์ก่อนที่จะขับออกไปเสียก่อน
“เฮ้ย! มึงออกไปจากรถกูเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่! จนกว่ากูจะตกลงกับมึงได้” ต๋องนั่งนิ่งไม่ยอมลุกไปไหน
“แต่กูไม่มีอะไรจะตกลงกับมึง ลงไป!”
“ไม่! จนกว่ามึงจะรับปากว่าจะให้กูมารับมาส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน”
“กูไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน”
“แล้วมึงไม่อยากให้ลูกมีความสุขเหรอวะ”
“อยากสิวะ”
“ถ้างั้นก็ถือว่าทำเพื่อลูกละกันนะ กูเองก็อยากให้ลูกมีความสุขเหมือนกัน”
ไอร์นิ่งหยุดคิดสักพักก่อนจะตอบกลับไป
“ก็ได้ถือว่ากูทำเพื่อลูกมึงอย่าคิดว่าลูกให้ท้ายแล้วจะได้ใจ”
“ไม่หรอกน่ากูไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย กูรักลูกแต่ก็เคารพเมียนะเว้ย” ต๋องยิ้มกวนๆ เมื่อได้รับอนุญาต
“ใครเมียมึง!” คนที่พูดมองค้อนใส่
“กูก็พูดไปลอยๆ ไม่ได้เอ่ยชื่อใครสักหน่อย ถ้ามึงจะรับไปกูก็ไม่ว่าหรอกนะ” เจ้าตัวพูดอย่างลอยหน้าลอยตา
“พอใจแล้วก็ลงไปสักทีสิวะ”
“ไม่!” ต๋องยังนั่งทำหน้าตายไม่ยอมขยับเขยื้อน
“โอ๊ย! มึงต้องการอะไรจากกูอีกกกก” ไอร์หน้าแดงก่ำเพราะความดื้อด้านของอีกฝ่าย
“จนกว่ามึงจะรับช่อดอกไม้กูก่อน”
“ไม่รับโว้ย! เอาไปให้ว่าที่เจ้าสาวมึงเถอะ” ไอร์ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้จัดการปัญหาเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องนี้กูคุยกับพ่อแม่กูแล้ว ท่านจะไปยกเลิกงานแต่งให้...กูลืมบอกมึง”
“ทำไมมึงทำอย่างนี้วะต๋อง กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ต้องมารับผิดชอบกูกับลูก” ไอร์พูดอย่างเหลืออด
“มึงจะให้กูแต่งงานกับคนอื่นได้ไงวะในเมื่อกูรักมึง กูรักมึงได้ยินไหมไอร์” ต๋องตะโกนใส่หน้าบ้าง
“มึงเคยบอกว่าชอบผู้หญิง”
“กูหลอกตัวเองมาตลอด กูขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจนะเว้ย”
“ช่างเถอะมันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเพราะตอนนี้กูไม่ได้รักมึงแบบนั้นแล้ว”
“กูไม่เชื่อสายตามึงมันฟ้อง มึงหลอกกูไม่ได้หรอกไอร์ มึงยังรักกูเหมือนเดิม”
“มึงหลงตัวเองเกินไปไหมวะ”
“กูไม่เคยหลงตัวเองนะเว้ย มีแต่มึงนั่นล่ะที่มาหลงกูใครกันน้าที่เคยบอกรักกู มึงจำไม่ได้แล้วรึไง” ต๋องยิ้มที่มุมปากแล้วมองหน้าเพื่อนรักปานจะกลืนกิน
“นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าหลงตัวเอง จะลงไปดีๆ หรือจะให้กูถีบมึงลงไป” ไอร์ทำหน้าโหดใส่
“มึงกล้าถีบกูได้ลงคอเหรอวะ” ต๋องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่นั้นเลย
“ทำไมกูจะไม่กล้าล่ะ”
“ถ้ามึงกล้ากูก็ยอมให้มึงถีบเอาเลยสิวะ ถีบตรงหัวใจกูเลยยิ่งดี” ต๋องหลับตาลงยอมให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจได้ทุกอย่าง
เห็นอย่างนั้นไอร์ก็ไม่กล้าทำอะไรอย่างที่พูด เขาโน้มตัวไปเปิดประตูรถอีกฝั่งแทน
“ครั้งนี้กูจะไม่ทำอะไรมึง แต่ถ้ามีครั้งหน้ามึงไม่รอดแน่ ลงไป!”
ต๋องลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“เห็นไหมล่ะว่ามึงยังรักกู”
“กูเป็นหมอมีหน้าที่รักษาคนไข้ ไม่ใช่มาทำร้ายคนอื่นอย่างนี้เข้าใจด้วยนะ” เขาเอาเรื่องหน้าที่มาเป็นข้ออ้าง
“ถ้างั้นคุณหมอช่วยรักษาแผลใจผมหน่อยได้ไหมครับ” พูดพร้อมกับกุมมือที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย
“หยุดเพ้อเจ้อแล้วลงจากรถกูไปซะ” เจ้าตัวทำหน้าเบื่อหน่ายกับคนที่ยังดื้นด้านนั่งอยู่ในรถ
“กูลงไปก็ได้แต่มึงช่วยรับช่อดอกไม้กูหน่อยเถอะกูตั้งใจซื้อมาให้มึงจริงๆ นะเว้ย” ต๋องยังยืนยันที่จะให้ไอร์รับช่อดอกไม้ให้ได้ เพื่อตัดรำคาญเจ้าตัวก็รับมาแต่โดยดีแล้วโยนไปไว้เบาะหลังอย่างไม่ใยดี
“พอใจยังลงไปได้แล้วเดี๋ยวกูจะสาย”
“ถึงมึงจะทิ้งมันไปอย่างไม่ใยดี แต่กูก็ดีใจที่มึงยอมรับมันไว้ ขับรถดีๆ ล่ะครับกูเป็นห่วง” พูดแล้วก็ลงจากรถไปแล้วยืนโบกมือให้นอกรถ
วันแรกก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ลูกสาวที่เขาไม่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กกลับยอมรับในไม่กี่ชั่วโมงที่เจอกัน ส่วนไอร์น่ะเหรอเขารู้ว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้ นั่นมันไม่ยากเลยที่จะเอาชนะใจไอ้เพื่อนรักที่เปลี่ยนสถานะเป็นเมียและเป็นแม่ของลูกให้ได้อีกครั้ง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*