ต่อนะคะ หิรัญค่อยๆวางร่างของหมอวรงค์ลงบนเตียงกว้างของตนอย่างเบามือ ปัดเอาผมที่ปรกลงใบหน้าออกเพื่อให้เห็นใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม สายตาคมทอประกายแววหวานสุดใจด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมจนหากอีกคนตื่นขึ้นมาเห็นคงสั่นสะท้านไปทั้งตัว จมูกโด่งก้มลงแตะบริเวณผิวแก้มอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นหอมจากแก้มใสไปมาก่อนใบหน้าจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่จุดชีพจร เขารู้! รู้ดีว่าการทำแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการ ลักหลับ แต่ขอแต่ได้ชื่นใจก็ยังดี เขาทนมานานเหลือเกินแล้ว
มือหนากำแน่นเพื่อระงับความต้องการที่มีมากมาย สะกดกลั้นความปราถนาที่เป็นตัวสั่งการให้เขากระทำตามใจกับร่างที่กำลังหลับไหล
ทำสิ จะรออะไร กลิ่นนี้ ใบหน้านี้ คนๆนี้ อยากได้ไม่ใช่หรือ ต้องการไม่ใช่หรือ!!!
หากแต่หิรัญต้องอดทน กัดฟันบังคับตัวเองเอาไว้ ไม่ต้องการให้อีกคนเกลียดเขาเสียจนไม่อยากพบหน้า ร่างสูงรู้สึกราวกับมีตัวตนฝั่งความดีและความชั่วมานั่งถกเถียงกันอยู่ข้างหู หนึ่งความชั่วสั่งให้หยุดบังคับตัวเอง ปลดปล่อยความต้องการให้คนตรงหน้าได้รับรู้ แต่ความดีกลับบอกให้รั้งรอ เพราะเขาอาจจะเสียใจและเสียร่างเล็กๆนี้ไปตลอดการ
แพรขนตางอนค่อยๆขยับ คนตัวเล็กเริ่มลืมตามองด้วยความสับสน เกิดอะไรขึ้น นั่นคือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวจนเขาต้องกระพริบตาซ้ำๆพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านี้ และเขา.......ก็จำมันได้ สายตาที่บ่งบอกถึงความเกรี้ยวกราด บรรยากาศกดดันที่แผ่กระจายมายังตัวเขาราวกับจะบังคับให้หยุดหายใจ หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นระส่ำ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นด้านมืดของจิตใจมนุษย์
เขากลัว? ก็ใช่ เจอแบบนั้นใครบ้างเล่าจะไม่กลัว
มือบางค่อยๆดันตัวเองขึ้น สายตากวาดมองข้างกายก่อนจะเบิกตากว้าง ร่างกายเล็กๆแทบจะสิ้นเรี่ยวแรงเมื่อพบว่า บุคคลที่เพิ่งจะกระจายความดำมืดมาให้เขานั้น ได้มานั่งอยู่ข้างๆตนเอง แถมใบหน้าหล่อยังไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย วรงค์สัมผัสได้ถึงความจริงจังจากสายตาคู่นั้น และมันก็เต็มไปด้วย.....ความรู้สึกตัดพ้อ แค่เขาไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องตัดพ้อเจาเล่า เขาไม่ใช่หรือที่ถูกกระทำมาตั้งแต่แรก
“ทะ ที่นี่...”
“คอนโดกูเอง รหัสความปลอดภัยชั้นเยี่ยม สแกนลายนิ้วมือในการปลอดล็อคกลอน หึ......อย่าคิดหาทางออกให้เสียเวลาเปล่ายดีกว่า ยังไงซะ มึงก็ต้องอยู่นี่ไปอีกนานวาย!" วรงค์อยากจะถอยแต่ติดที่อีกฝ่ายยังคงจับมือบางเอาไว้ไม่ยอมให้หนี ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความสงสัยและแปลกใจ ตัวของวรงค์ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็ดูเหมือนอีกคนจะร้อนรนไปก่อนแล้วจนร่างเล็กได้แต่ถอนหายใจ
“เรามาคุยกันดีๆ ดีไหมวะหิน มาคุยกันให้จบๆไป”
“จบ? โทษทีวะ พอดีกูไม่ได้อยากจบ ยิ่งกับมึง กูยิ่งไม่ยอมจบง่ายๆ” นี่มันแค้นเขาเกลียดเขาขนาดนี้เลยเหรอ ถึงได้ไม่ยอมจบกับเขาสักที สองมือกำเข้าหากันจนแน่นด้วยความอึดอัด เจ็บยอกในใจแปลบๆกับความรู้สึกของอีกคน
อยากแก้แค้นกูสินะ เกลียดกูมากเลยสินะ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะโทษใครได้ เมื่อเขาเป็นคนเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับทุกอย่างเอง หากเจาไม่ยอมดิ้นตาม ไม่ยอมต่อล้อต่อเถียง ยอมจบไปเสียตั้งแต่วันที่เขาชกหน้ามันก็คฃไม่เป็นแบบนี้ ไม่โหยหาเวลาที่อีกคนห่างหาย ไม่เจ็บปวดเมื่อเจอะเจอคำพูดที่บาดลึกไปทั้งหัวใจ
“อ๊ะ! ทำอะไรวะ!!!” ลุกขึ้นนั่งได้ไม่นานก็ถูกมือใหญ่ผลักลงนอนบนเตียงอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้แขนทั้งสองข้างถูกยึดไว้ข้างตัวเสียแน่น ไม่ว่าจะดิ้นรนขยับแขนออกแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้เขาหลุดออกได้เลย ดวงตากลมโตหันไปจ้องกับคนตัวใหญ่ด้านบนอย่างไม่เกรงกลัว แม้ความจริงในใจจะหวาดหวั่นอยู่ก็ตามที
“บอกแล้วไง......ว่ากูจะมายอมจบ เพราะนี่คือการเริ่มต้น!!”
“หยุด อ๊ะ อื้ม!!!!!”
ริมฝีปากหนาบดจูบอันเร่าร้อนลงบนกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง ดูดดึงเสียจนคนตัวเล็กต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด รสชาติหวานมอมเมาสติสัมปชัญญะที่มีอยู่ให้หดหายไปจนไม่หลงเหลือ หัวใจดวงน้อยพ่ายแพ้ต่อศึกนี้อย่างราบคาบเมื่อริมฝีปากของคนที่ตนชอบบดเบียดลงมาเท่าไหร่ ความรู้สึกที่กดมันเอาไว้ตลอดมาก็ยิ่งถูกดึงให้ปรากฏ ร่างกายที่เคยดิ้นรนจากเหตุผลร้อยแปดค่อยๆอ่อนลงจนเหลือเพียงความหอมหวานที่ทั้งสองไก้มอบให้กัน
น้ำตาใสไหลลงจากหางตาด้วยความรู้สึกมากล้น ทั้งดีใจและเสียใจในเวบาเดียวกัน แต่วรงค์ไม่รู้เลยว่า น้ำตาเพียงหยดเดียวที่มีนั้น ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนและความไม่พอใจมากขึ้น
เสียใจเพราะกำลังจะเป็นของเขาหรือ ทรมานกับรสรักจากเขาใช่ไหม! ดี!! แบบนี้ จะได้จำไปจนตาย
ความรู้สึกแรงกล้าที่ถูกปลุกเร้ายิ่งเร่งความปราถนาในร่างให้ร้อนรุ่มยิ่งขึ้นไปอีกจนร่างกายทั้งสองแทบจะมอดไหม้ไปกับมัน หิรัญกวาดต้อนฉกชิมความหวานในปากบางไม่ยอมหยุด สองมือปลดปล่อยแขนของร่างบางออกเปลี่ยนมาลูบไล้และปลดเปลื้องสิ่งกีดขวางที่เรียกว่าเสื้อผ้าออกไปให้พ้น
กายบางเปลือยเปล่าเผยผิวสีน้ำนมให้ได้เห็น มือหนาลูบไล้ไปอย่างมัวเมา สะกิดยอดเล็กๆเบาๆจนเจ้าของสะดุ้งกับความเสียวซ่าน หิรัญลืมสิ้นหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความรัก ความแค้น หรือแม้แต่ความอ่อนโยน เหลือเพียงรสรักที่ถูกเก็บซ่อนมานานเท่านั้น
อยากได้ เขาก็ต้องได้
หินรัญไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ เมื่อกวางน้อยมานอนให้กินตรงหน้าในตอนนี้ มีหรือที่สิงโตอย่างเขาจะปล่อยไป ริมฝีปากดูดดึงผิวเนื้อตามลำคอขาวและแผ่นอกราวกับต้องการจะประกาศให้ได้รู้ ว่าคนตัวเล็กในตอนนี้เป็นของเขาแล้ว
“อืม อ๊ะ”
ปลายลิ้นตวัดเลียตุ่มไตสีชมพูอย่างหื่นกระหาย ดูดเม้มจนมันแดงและแข็งขึ้น เจ้าของยอดสวยสอดปลายนิ้วเข้าในกลุ่มผมจิกดึงอย่างต้องการระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ เผลอแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากหนาด้วยความไม่พอ ปากแดงช้ำหอบหายใจพร้อมกับเสียงครางหวานที่ทุกครั้งที่เขาได้ยิน บางสิ่งที่กำลังตื่นตัวใต้กางเกงก็ยิ่งขยายจนคับกางเกงไปหมด
หมอวรงค์ได้แต่หอบหายใจส่งเสียงครวญครางอย่างสุดจะกลั้น ความเย็นของเครื่องปรับอากาศสัมผัสผิวขาวโดยตรงจนสะท้าน ปราการทุกด่านถูกร่างใหญ่ที่ทาบทับลงมาปลดออกจนหมด เนื้อผิวที่ร้อนผ่าวแนบชิกันจนไร้ช่องให้อากาศได้ลอดผ่าน หิรัญขยับร่างกายเสียดสีกับเนื้อตัวของวรงค์อย่างเผลอไผล กลิ่นเนื้อหนุ่มจากคนใต้ร่างช่างหอมรัญจวนใจเสียเหลือเกิน จนหิรัญเผลอกัดลงไปอยู่หลายครั้ง รอยฟันปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดจนคนที่ลงมือต้องไล่เลียรอยนั่นราวกับจะปลอบโยน
“ฮือ เจ็บ อ๊ะ!”
แม้ว่าอีกคนจะครวญครางออกมากับความเจ็บปวดนั่นแต่หิรัญหน้ามืดกับความหอมหวานตรงหน้าจนลืมเลือนความยับยั้งชั่งใจที่จะถนุถนอมคนใต้ร่างเสียสนิท ยิ่งได้ลิ้มรสหิรัญก็ยิ่งหลงไหล ยิ่งได้ใกล้เท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งเต้นแรง เรือนร่างขาวนวลที่เคยได้แต่จินตนาการ ตอนนี้เขาได้มอง ได้เห็นจนเต็มตา มันช่างยั่วใจเขามากกว่าในจินตนาการของเขาเสียอีก
ริมฝีปากของหิรัญเลื่อนลงมาจนถึงความแข็งแกร่งที่กำลังท้าทายสายตา ปลายลิ้นเลียไปตามความยาวก่อนจะดูดกลืนความองอาจนั้นเข้าไป ทุกครั้งที่ตัวตนของวรงค์ถูกครอบครอง ร่างเล็กๆก็สั่นไปหมด สะโพกบางขยับตามจังหวะของริมฝีปากอีกคนอย่างลืมตัว
“อื่อ อ๊ะ อา”
เสียงหวานครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งถูกขยับครอบครองด้วยจังหวะที่เร่งเร้ามากเท่าไหร่ ความเสียวซ่านก็ยิ่งจุกอยู่บริเวณส่วนปลายจนแทบจะระเบิดออก ร่างเล็กบิดกายไปมาอยู่บนเตียงนุ่ม กัดปากตัวเองเพื่อระงับความกระสันที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ปลายนิ้วค่อยๆสอดแทรกเข้าไปยังช่องทางเล็กๆช้าๆ ขยับเข้าออกเป็นจังหวะทั้งที่ปากของหิรัญยังคงเต็มไปด้วยตัวตนของวรงค์
ร่างกายของวรงค์กระตุกเกร็งปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นจนเต็มปากของร่างสูง หิรัญกลืนหยาดหวานจนหมดอย่างไม่รังเกียจ มองภาพร่างเล็กที่นอนหอบหายใจปรือตาฉ่ำด้วยความปราถนา หัวใจของหิรัญพองโตเมื่อคิดว่ากำลังจะได้เป็นเจ้าของร่างบอบบางที่เฝ้าฝันหามานานหลายปี มือหนาปลดเปลื้องกางเกงตัวใหญ่ออกจากร่างกายพร้อมกับชั้นใน ความองอาจดีดตัวขึ้นท้าทายชี้ชูรางกับลูกศรที่คอยบอกความต้องการ
สวยเหลือเกิน หอมหวานเสียจนไม่อาจจะรั้งรอได้อีกแล้ว
หิรัญตะโบมจูบร่างเล็กอย่างเร่าร้อน ไม่คิดจะปล่อยให้สติของคนใต้ร่างกลับมาสักนิด มือใหญ่ประคองจับจ่อความทนงที่ผงกหัวตามความต้องการที่มีมากล้นไปที่จีบรักสีชมพู
“อื้อ!!!”
เพียงแค่ส่วนปลายรุกล้ำเข้าไปเท่านั้น วรงค์ก็เบิกตากว้างมือบางกระหน่ำตีไปตามอกแกร่งด้วยความเจ็บปวด จีบแดงฉีกขาดจากขนาดที่ใหญ่โตของหิรัญ แม้อยากจะร้อง อยากจะห้ามปรามเพรยงใด แต่ริมฝีปากหนาที่บดเบียดมอบจุมพิตอันร้อนแรงไม่ยอมปล่อยให้เสียงใดๆเล็ดลอดออกมานอกจากเสียงอื้ออึง ความเจ็บปวดยังคงไม่คลาย จีบรักยังคงรัดความทนงจนแน่น ร่างบอบบางสั่นไปหมดแม้แต่มือที่ยกขึ้นดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อยังสั่นอย่างไม่อาจจะห้าม เล็บเล็กๆจิกเข้าไปในผิวขิงหิรัญอย่างไม่ผ่อนแรง แม้ในใจจะแอบสะดุ้งแต่สัญชาตญาณของหิรัญกลับร่ำร้องอย่างถูกใจ
“ซี๊ด อ๊า”
“อยะ อย่า อื้อ เจ็บ!”
แต่หิรัญไม่สนใจ ความคับแน่นและอุ่นร้อนภายในร่างเล็กช่างให้ความรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่สุด กายแกร่งโหมกระหน่ำกระแทกกายเข้าไปจนสุดในครั้งเดียวจนคนใต้ร่างสะดุ้ง ใบหน้าหวานลิดเบี้ยวน้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย ริมฝีปากได้แต่ปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมา น้อยใจเหลือเกินที่อีกคนไม่คิดแม้แต่จะถนอมเขา นี่คงเกลียดเขามากสินะ ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้วรงค์ร่ำไห้ หัวใจดวงน้อยแทบจะแหลกสลาย เจ็บกายยังพอทนได้ไหว แต่หัวใจเขาเล่า จะรักษามันอย่างไร
“วาย อืม ซี๊ด อา”
“อ๊ะๆ”
เสียงทุ้มที่กระซิบเรียกชื่อของคนตัวเล็กเบาๆช่างเป็นเหมือนดั่งสายธารเย็นช่ำที่ถูกรดลงมายังต้นไม้อันเหี่ยวเฉา หัวใจของวรงค์เต้นแรง ความดีใจตีตื้นขึ้นมาอย่างไม่อาจจะห้ามได้ไหว สะโพกหนาขยับนำความโหดร้ายเข้าออกเสียดสีกับผนังอุ่นร้อนภายในจีบรักที่รัดรึงจนหิรัญแทบจะปลดปล่อยความต้องการออกมาในทันที ยิ่งเสียงทุ้มครางกระเส่าเรียกชื่อเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตอดรัดความองอาจที่ใหญ่โตจนคับไปหมด หยาดเหงื่อยผุดขึ้นตามไรผมของวรงค์ด้วยความร้อนที่แผดเผารางกับต้องการจะให้มอดไหม้
หิรัญจับจ้องริมฝีปากบางที่สั่นระริก ร่ำไห้ครวญครางกับความเสียวซ่านอย่างถูกใจ กายใหญ่ยิ่งขยับเข้าออกถี่ยิบจนเตียงใหญ่สั่นคลอน เสียงหัวเตียงกระทบกับผนังดังสนั่นแข่งกับเสียงครางของทั้งสองคนจนแทบจะกลมกลืนเป็นเสียงเดียวกัน แรงขับกายเข้าออกรุนแรงราวกับระรอกคลื่นใหญ่ที่เฝ้าคอยโจมตีเรือเล็กให้จมหายไปใต้สมุทร หากแต่มันกลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นและความเสน่หาที่เจ้าของร่างใหญ่โตอย่างหิรัญหวังส่งออกไปให้คนใต้ร่างรับรู้มันสักนิด
วรงค์สบตาคมที่ทอดแววหวานฉ่ำไปด้วยร่องรอยความต้องการและความรักใคร่ด้วยความสับสน แววตาหวานสั่นระริกจนอีกคนเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรสนใจเมื่อความต้องการกำลังเล่นงานจุกอยู่กลางกายใหญ่ที่จมหายเข้าๆออกๆอยู่ในจีบสีช้ำ
“อื้อ อ๊ะๆ อ๊าๆ”
“วาย ซี๊ด วาย อ๊า ไม่ไหวแล้ว ฮึ่ม!!”
หยาดธารสีขุ่นถูกปลดปล่อยเข้าไปสู่ภายในจีบรัก แม้ความองอาจจะถูกรีดพิษออกไปจนหมดแต่หิรัญด็ยังไม่คิดดึงกายออกมาสักนิด จีบรักอุ่นร้อนตอดรัดเป็นจังหวะ แก่นกายเล็กของวรงค์ถูกอุ้งมือใหญ่ขยับรูดรั้งอย่างรุนแรงจวบจนร่างเล็กๆกระตุกเกร็งยอมปลดปล่อยสารธารหวานออกมาจนเปื้อนมือใหญ่ไปหมด
หิรัญมองคราบขาวขุ่นในมือด้วยสายตาเร่าร้อน ลิ้นสากเลียหยาดรักของคนใต้ร่างจนหมดสิ้นโดยไม่มีทีท่ารังเกียจกลับเป็นวรงค์เองที่ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงซ่านด้วยความเขินอาย แผ่นอกบางของคนบนเตียงขยับถี่ตามอาการหอบหายใจ หิรัญถอดถอนร่างออกจากจีบเล็กที่บัดนี้ข้ำแดงไปหมดกับความใหญ่โตที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน คราบรักสีขุ่นปนเลือดสีแดงฉานหลั่งไหลย้อนออกมาจนเลอะที่นอน แต่หิรัญกลับไม่ได้ใส่ใจมันสักนิด ทอดกายลงนอนเคียงข้างใช้อ้อมกอดของตัวเองกักขังคนที่เพิ่งถูกมอบความรักอย่างหวงแหน
ริมฝีปากหนาจุมพิตเบาๆกับกลุ่มผมหอม ลูบไล้ฝ่ามือขึ้นลงตามเนื้อกายของวรงค์อย่างหลงไหล หวาน หวานอย่างที่คิด หัวใจของหินัญเต้นแรงจนคนตัวเล็กที่ได้แต่นอนนิ่งเพราะความเจ็บปวดทางด้านหลังรับรู้ได้ถึงจังหวะที่รุนแรงสะท้านอก
“กูรักมึงนะวาย จากนี้กูจะไม่เสียเวลาอะไรอีก มึงเป็นของกูแล้ว” วรงค์ตัวแข็งทื่อกับคำว่ารักที่เพิ่งได้ยินจากปากของคนด้านหลัง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความลิงโลด ไม่คาดคิดสักนิดว่าหินัญจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา
“มะ มึง เอ่อ มึงพูด จริงๆเหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามราวกับเพ้อพก ไม่แน่ใจว่าในตอนนี้ตนกำลังละเมอหรือฝันอะไรอยู่หรือเปล่า แต่หิรัญกลับหัวเราะเสียงแผ่ว เอี้ยวตัวกดริมฝีปากลงบนแก้มใสอย่างรักใคร กระซิบคำหวานใกล้ๆใบหูเล็กอีกครั้ง
“จริงสิ กูรักมึง รักมาตลอด” วรงค์พยายามอย่างยิ่งไม่ให้ตัวเองยกยิ้มขึ้นมา แต่แม้อาจจะห้ามไม่ให้ยิ้มได้ แต่อย่างไรก็ไม่สามารถห้ามเสียงหัวใจไม่ให้เต้นเร็วได้เลย
“แล้วมึงละวาย มึงเกลียดกูไหม”
“เปล่า!! เอ่อ ไม่ได้เกลียด” สติของวรงค์แทบจะไม่เต็มร้อยแล้ว เพียงแค่ร่างสูฃที่เพิ่งเอ่ยความในใจถามไถ่ถึงความเกลียดชังที่เคยมี เขาก็รีบตอบกลับเสียจนอยากจะทุบตีตัวเองนัก
“ถ้างั้น.......มึงรักกูไหม” วรวค์กัดริมฝีปากที่สั่นระริกแน่น จะให้พูดออกไปมันก็ช่างหน้าอายเสียเหลือเกิน ยิ่งเขาและหิรัญเพิ่งจะผ่านพ้นสงครามรักบนเตียงอันดุเดือดมาหยกๆด้วยแล้ว ความอายก็แล่นมาจุกอกจนพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับไป
“ตอบให้กูได้ยินหน่อยสิ อย่าเอาแต่พยักหน้า” รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังอายและขวยเขิน แต่หิรัญกลับชอบใจและไม่อาจจะหยุดแกล้งได้เลย ใจหนึ่งเขาก็รู้แล้วว่าวรงค์รู้สึกกับตนเช่นไร หากแต่อีกใจก็ยังอยากได้ยินเสียงของอีกฝ่ายพูดคำๆนั้นให้ได้ยินอีกสักครั้ง วรงต์กำผ้าปูเตียงแน่น ในใจได้แต่กร่นด่าหิรัญในใจที่ได้คืนหวังจะเอาศอก
“ระ รัก”
แม้จะแผ่วเบาแต่หิรัญก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ซ้ำยังดังก้องอยู่ในหูไม่ยอมหยุดเสียด้วย ความดีใจส่งผลให้แขนแกร่งรัดร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขนแน่นขึ้น พรมจูบที่หลังคอเล็กด้วยความรักใคร่อย่างสุดใจ ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง ในที่สุดเขาก็ได้คนในอ้อมแขนมาครอบครองทั้งกายและใจ
“ขอบคุณ..”
ทั้งสองต่างยิ้มให้กับความรู้สึกของตัวเอง หัวใจของหิรัญและวรงค์เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ทั้งสองหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความสุขใจ อิ่มเอมรสรักและคำรักที่ได้สัมผัสจนปลื้มใจ ทุกอย่างมันเป็นอย่างที่ควรเป็นแล้ว มันควรจะเป็นแบบนี้มานานแล้ว หากเขาและหิรัญไม่ถือทิฐิและความโกรธมาเป็นหลักความรู้สึก พวกเขาก็คงไม่ต้องปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานเช่นนี้หรอก พวกเขาคง.....กลายเป็นคนรักกันไปนานแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสงแดดสาดส่องเข้ามารบกวนการนอนของทั้งสองอย่างที่สุด หากแต่หิรัญเพียงแค่กอดรัดร่างเล็กข้างกายมากขึ้นเท่านั้น แต่วรงค์ที่ถูกรัดจนอึดอัดได้ลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ สายตาหวานไล่มองแขนใหญ่ที่กำลังรัดร่างเขาราวกับงูใหญ่รัดเหยื่อด้วยความงุนงง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนถูกรีรันกลับมาฉายใหม่อีกครั้งราวกับละครจนใบหน้าหวานขึ่นสีระเรือ ความเขินอายทำให้วรงค์ต้องจับแขนแกร่งนั้นออกจากลำตัวของตนอย่างเสียไม่ได้ อย่างไรเขาก็ต้องไปทำงาน
“อึก!!”
ความเจ็บแล่นเข้าสู่ร่างกายจนคนตัวเองนิ่วหน้าทันทีที่ขยับขาลงจากเตียงใหญ่ ริมฝีปากบางถูกกัดไว้แน่นไม่ยินยอมปบ่อยเสียงร้องออกมารบกวนคนที่หลับไหลอยู่แน่ๆ ด้วยเขารู้ดีว่าหากอีกคนตื่นขึ้นมา คงไม่แคล้วได้ต่อรอบสองแน่ๆ
หมับ!
“จะไปไหน” มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กๆเอาไว้ได้ทันก่อนที่คนตัวเล็กจะลุกขึ้นจนวรงค์สะดุ้งด้วยความตกใจ
“กู....ต้องไปทำงานแล้ว วันนี้มีคนไข้เข้า” แม้จะบอกออกไปอย่างนั้น แต่อีกคนดูจะไม่เข้าใจสักนิด ซ้ำยังกระตุกแขนให้ร่างของเขาถลาล้มลงไปนอนใช้แขนแกร่งกัดกอดเอาไว้เสียนี่ ใบหน้าหวานเหยเก มันลืมไปหรือเปล่าว่าเขายังเจ็บอยู่!!
“ไม่ให้ไป ไม่ต้องไป กูจะนอนกอดเมีย” เอากับมันสิ ดื้อรั้นเป็นเด็กแบบนี้ เห็นทีจะปราบยาก บนจะอ้อนไอหิรัญมันก็อ้อนเสียเหลือเกินจนใจเขาอ่อนยวบ แต่อย่างไร งานก็คืองาน แม้จอยากอยู่กับอีกคนมากเท่าไหร่ก็ต้องตัดใจอยู่ดี
“มึงก็กอดหมอนข้างไปก่อน วันนี้กูต้องรักษาคนไข้นะ” มือเล็กๆลูบแผ่นหลังใหญ่อย่างปลอบโยน พยายามใช้เหตุผลกับคนที่โตแต่ตัวอย่างมาก
“ไม่เอา......อยากกอดมึง”
“หิน กูต้องทำงาน” เสียงหวานเริ่มเข้มขึ่นเมื่ออีกคนไม่มีทีท่าจะเข้าใจอะไรเลย
“ไม่ต้องทำ เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง”
“ปล่อยกูเลย กูจะไปคลินิกแล้ว!!”
เพี๊ยะ!!
“โอ๊ย! วาย!! มึงตีผัวได้ไงวะ!” คนตัวโตปล่อยมือออกทันทีที่ถูกฝ่ามือเล็กๆฟสดเข้าให้เต็มรักจนแผ่นหลังเกิดรอยแดง
“ก็แล้วผัวมันฟังกูไหมล่ะ อย่าเถียงกูนะ!” วรงค์ชี้หน้าอย่างเอาเรืทองจนหิรัญต้องหุบปากลงและมองสบตาหวานคู่นั้นอย่างออดอ้อน แต่วรงค์ไม่สนใจสักนิด เดินดุ่มออกไปเข้าห้องน้ำทั้งที่ขาสั่นจนแทบจะล้ม
หิรัญนั่งมองแผ่นหลัฃเนียนที่เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยความเอ็นดู ในใจปลาบปลื้มเสียจนต้องระบายยิ้มออกมาบนใบหน้า นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้ยิ้มอย่างเต็มที่แบบนี้ มันก็หลายปีแล้วจริงๆ หิรัญรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีแรงขึ้นมามาก อีกทั้งยังรู้สึกราวกับได้พักผ่อนมาจนอิ่ม ทั้งที่เขาผ่านศึกรบรักกับวรงค์บนเตียงที่ตอนนี้ยับย่นอย่างไม่ค่อยน่าดู ผ้าปูสีขาวเปื้อนคราบรักจนเป็นรอยน่าอาย
เสียงน้ำไหลผ่านร่างบอบบางลอดผ่านมาให้ได้ยิน เพียงแค่นั้นหัวใจของหิรัญก็เต้นแรงขึ้น นึกถึงกลิ่นและสัมผัสเมื่อคืนด้วยแล้วยิ่งทำให้บางสิ่งที่ถูกผ้าห่มปกปิดเอาไว้ดีดตัวขึ้นมาตั้งตระหง่านท้าทายสายตาจนเจ้าของปวดหนึบ เขารู้สึกราวกับตัวเองช่างโรคจิตเสียเหลือเกินที่ได้กินไปเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเอมเลยสักนิด ซ้ำยังหิวโหยร่างเล็กๆนั้นยิ่งขึ้นไปอีก
อยากทำอีก
อยากเข้าไปข้างในที่อุ่นและร้อนนั่นอีก
สุดท้ายเขาก็ทนต่อความปราถนาที่มันเรียกร้องไม่ไหว เดินเข้าไปในห้องน้ำตามหลังอีกคนทันที แผ่นหลังบอบบางของวรงค์ที่มีหยดน้ำไหลผ่านช่างเป็นยากระตุ้นชั้นดีเหลือเกิน หิรัญเดินเข้าไปในสายน้ำเดียวกันโอบกอดวรงค์ไว้จากทางด้านหลังจนวรงค์เองสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ริมฝีปากร้อนพรมจูบไปตามลำคอระหงด้วยความหลงไหล มือหนาป่ายไปมาตามเรือนร่างบอบบางแสนรักสะกิดยอดชูชันทั้งสองข้างอย่างต้องการยอกล้อ
“อื้อ ไอหิน พะ พอ”
“มึงยั่วกูเกินไปวาย กูทนไม่ไหวแล้ว เห็นไหม” หิรัญแนบกายลงไปจนชิด บางสิ่งกลางร่างเสียดสีอยู่กับก้นงอนของวรงค์อย่างเรียกร้อง
ริมฝีปากบดจูบอันร้อนแรงใต้สายน้ำเย็นที่ไหลผ่าน จับกอบกุมเอาวรงค์น้อยที่ขยายตัวไว้ในอุ้งมือหนาก่อนจะค่อยๆขยับสาวมือตามความยาว จนวรงค์น้อยเริ่มปริ่มน้ำ ร่างเล็กสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านจนครางกระเส่า หิรัญย่อกายคุกเข่าลงบนพื้น สองมือหนาจับยึดสะโพกบางเอาไว้ก่อนจะใช้ริมฝีปากครอบลงไปดูดกลืนความองอาจ กลิ่นหวานๆของหยาดน้ำหวานลอยคละคลุ้มอยู่ในปากของหิรัญ ปลายลิ้นตวัดเลียไปตามแท่งร้อนครอบครองริมฝีปากเข้าออกอย่างเอร็ดอร่อยจนวรงค์ต้องจิกมือขยุ้มเส้นผมของหิรัญเอาไว้เพื่อระบายความกระสันที่ตีขึ้น
“หะ หิน อื้อๆ”
จ๊วบ แผล่บเพียงไม่นานวรงค์น้อยก็ปลดปล่อยหยาดรักรสหวานปะแล่มๆเข้าเต็มปาก หิรัญกลืนลงคอจนหมดเลียริมฝีปากด้วยความเสียดาย วรงค์หอบหายใจต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วสอดเข้าไปยังจีบรักที่บวมช้ำจากการใช้งาน คราบรักสีขุ่นที่คั่งค้างจากครั้งเก่าไหลออกมาตามนิ้วเรียวที่หายเข้าไปภายในช่องทางเล็กๆ หิรัญหยัดกายขึ้นจูบซับตามลำคอและแนวไหล่ จีบรักรัดรึงปลายนิ้วเริ่มคลายตัวลง ปากบางเริ่มปลดปล่อยเสียงครางกระเส่าออกมาอย่าหยุดไม่อยู่ แข้งขาอ่อนแรงจนไม่สามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเอง
“อ๊า อ๊ะ!!”
หิรัญยกกายบางขึ้นดึงขาเรียวเกี่ยวเอวสอบไว้ก่อนจะจับความใหญ่โตจ่อที่จีบสีช้ำก่อนจะดันร่างเข้าไปจนสุด เสียงครางดังลั่นด้วยความเจ็บปวดในคราแรกจนต้องทุบลงไปบนไหล่กว้าง มองค้อนใบหน้าหล่ออย่างมั่นไส้ ร่างสูงหัวเราะใบลำคออย่างแผ่วเบาไม่เจ็บสักนิดที่โดนคนตัวเล็กทุบเอาแบบนี้
แท่งร้อนขยับเข้าออกจนได้ยินเสียงน่าอาย สองแขนบางโอบรอบคอของหิรัญเอาไว้แน่น แหงนเงยใบหน้าขึ้นร้องครวญครางอย่างลืมตัวยิ่งเป็นการกระตุ้นเลือดในกายของหิรัญให้ร้อนจนต้องขยับสอดใส่อย่างรุนแรง มือใหญ่กระชับสะโพกบางขึ้นลงตามจังหวะที่สอดใส่ ผนังอุ่นถูกเสียดสีจนร้อนระอุตอดรัดสิ่งรุกล้ำจนแน่น
“อา วายมึงรัดกูแน่น ซี๊ด”
“อื้อ อ๊ะ อา”
หิรัญทรุดกายลงกับพื้นเปียกใต้สายน้ำที่ไหลลงมา แผ่นหลังบางสัมผัสกับผนังห้องน้ำที่เย็นเฉียบแต่ความร้อนจากแรงปราถนาก็ทำให้วรงค์ลืมเลือนความเย็นของมันไปจนหมด จดจ่ออยู่กับจังหวะสอดใส่ของท่อนลำที่ผลุบเข้าออกและความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น
ร่างสูงประกบจูบดูดดื่ม เกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กอย่างดุเดือด สองร่างโรมรันกันอย่างเมามันจนแนบชิด เสียงครางของหิรัญและวรงค์ดั่งต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด สะโพกหนาเร่งเร้าสอดกายเข้าออกถี่ๆเมื่อรับรู้ได้ว่าใกล้จะถึงฝั่งฝัน หิรัญกอบกุมแท่งรักสีสวยเอาไว้ในมือ ขยับรูดรั้งมันตามจังหวะที่สะโพกสอบเร่งจังหวะ เสียงหยาบโลนอันน่าอายดังไม่หยุด ใบหน้าของหิรัญและวรงค์แดงซ่านเมื่อความเสียวกระสันไหลมารวมอยู่ตรงส่วนปลาย
หิรัญหยัดกายเร่งจังหวะอยู่สองสามครั้งก่อนที่ร่างทั้งสองจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยสายธารรักสีขุ่นออกมา เสียงหอบหายใจดังไปทั้งห้องน้ำด้วยความเหนื่อยอ่อน ความองอาจถูกถอดออกมาช้าๆโดยมีหยาดสีขุ่นไหลออกมาตามจีบรักที่เปิดออกกว้าง หิรัญได้แต่หัวรำเบาๆและจูบซับตามไรผมของวรงค์อย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านอนหอบหายใจและหมดเรี่ยมแรง
“หึหึ อีกรอบไหม” วรงค์หน้าแดงซ่านมองค้อนคนที่ถามทั้งที่ยังเอาความแข็งแกร่งเบื้องล่างมาจ่อที่ช่องรักของตนอยู่ด้วยความหมั่นไส้ ยังจะถามอีก!
“ไม่เอาที่ห้องน้ำแล้วนะ...”
“งั้น.....บนเตียง”
“วะ เหวอ!!!!!”
ไม่ทันจะพูดหรือตอบกลับสิ่งใดออกไป ร่างของวรงค์ก็ถูกยกขึ้นจนตัวลอยจนเจ้าตัวต้องรีบโอบรอบคำลอของหิรัญเอาไว้ บทรักบทใหม่ถูกเขียนขึ้นอีกครั้งบนเตียงนุ่มไม่หยุดพัก หิรัญจมอยู่กับความปราถนาที่มีต่อวรงค์ ใช้เวลากลืนกินคนที่ลุ่มหลงช้าๆไม่รู้เบื่อ ดอกรักที่ผลิบานในหัวใจของทั้งสองคนถูกรดน้ำจนเติบโตโดยที่รู้ดีว่ามันจะไม่มีวันล่วงโรย เขาจะช่วยกันดูแลความรักที่มีอยู่อย่างดี จะทำให้มันเตอบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่มีวันล้มแม้จะเจอพายุฝนโหมกระหน่ำแค่ไหน เขาและหิรัญเสียเวลามามากพอแล้วกับทิฐิ เขาจะไม่มีวันเสียเวลาที่เหลือไปอีก แม้ว่าเวลาที่เหลือที่ว่า จะต้องอยู่แต่บนเตียงเพราะความหื่นกามของหิรัญก็ตาม
The End
โอ้ย!!! ไอคนหลงเมีย เกลียดมาก เหม็นความรัก เห็นไหมๆนายหินของเรารักหมอวายขนาดไหน ความรักของคนสองคนไม่จำกัดเพศนะคะ ถ้ามอฃว่ารักเป็นสิ่งสวยงามไม่ว่าเพศไหนมันก็ดูสวยงามเหมือนเดิม จริงๆแมวคิดอยู่ว่าจะลองเอาเรื่องนี้ส่งสำนักพิมพ์ดูเล่นๆเผื่อฟลุ๊ค ติดแค่ว่าแมวกลัว ncจะเยอะไปไหม!!! เพราะเขาบอกว่ารับแบบกรุบกริบ ภาษาสวยไม่บรรยายซะแบบจาบจ้วง ไอของเรามันเข้าข่ายส่อไหมเนี่ย เอาเถอะ เดี๋ยวแมวจะลองส่งไปดู ถ้าได้รับพิจารณาก็ดี ถ้าไม่ได้ผ่านก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผ่านก็คงดีแมวจะได้เอาเงินมาเปย์แม่ต่อ(ตกลงหล่อนทำเพื่อเงินใช่ไหมตอบ!!!)55555
ป.ล ตอนหน้าเป็นตอนของหนูจิ้งกับพี่ภพนะคะ จะเป็นยังไงน๊าาา ต้องมารอลุ้นกัน~Facebook :
https://m.facebook.com/PassionateFictionTwitter :
https://mobile.twitter.com/little_kittensY