= 2 = “หยุดสักที!!!” ผมตะเบ็งเสียงดังลั่นบ้าน ก่อนจะหอบหายใจโยนตัวสั่นปากสั่นไปหมด
บอลลูนตาโตคงไม่คิดว่าผมจะปรี๊ดปรอทแตก
“เปิดสิ มีเรื่องจะคุย” น้องลดน้ำเสียงลง ผมยังไม่ยอม
“ทำไมไม่รอ บอลไม่ถ่ายแบบแล้วนะ” ประโยคแรกไม่เท่าไหร่ ประโยคหลังผมถึงกับนิ่วหน้า
“ทำไมไม่ถ่าย” เผลอหลุดปากถามจนได้
“เขาไม่เลือกบู” ผมคิดผิดมหันต์ ยืนยันพี่วิชญ์ว่าบอลลูนมีความรับผิดชอบ สงสัยหวังมากไป น้องเด็กมาก
นิสัยเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ
“จะสร้างปัญหาให้เขาทำไม ไม่คิดว่าคนอื่นจะเดือดร้อนบ้างห่ะ!” อดอบรมไม่ได้
สุดท้ายสัญชาตญาณคนเป็นพี่ก็เกิดขึ้นเอง
“มันเรื่องของเขา ไม่อยากเดือดร้อนไม่เอาบูก่อนทำไมเล่าว่ะ!” เออ..ผมผิดอีก
“บอล..พี่วิชญ์ไม่ได้ไม่อยาก แต่ทางยุโรปต่างหากที่ไม่เอาบูถ่าย มีเหตุผลหน่อย
อย่าเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ บอลทำแบบนี้เสียนิสัย แคร์ความรู้สึกคนอื่นบ้าง”
ครั้งแรกในรอบสามวันที่ผมพูดประโยคยาวๆ
“ทำมาสอน บูเองเคยแคร์ความรู้สึกคนอื่นด้วย” ย้อนอีก
“อย่างน้อยบูไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร” ผมเถียง
“มีสิ ไอ้หนุ่ยไง” นิ่งเลย
“ตะ..แต่นั่น พี่ทำเพราะไม่อยากให้หนุ่ยเสียใจมากกว่านี้ เลิกกันตอนนี้ดีที่สุดแล้ว จะยื้อไปทำไม
ในเมื่อพี่รู้ตัวว่าไม่มีทางรักหนุ่ย”
“ไม่ใช่เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนไปคบไอ้เขม” น้องเอาลิ้นดุนพุงแก้มมองผมแบบกวนๆ
“หนุ่ยกับบอลคิดกันเอาเอง ช่างเถอะพูดไปคงไม่มีประโยชน์” ผมส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
“แน่ใจว่าไม่ได้คิดจะคบมัน” น้องยังย้ำ
“เออ..ไม่ได้คบ แค่นี้ใช่ไหมที่อยากรู้” ชักรำคาญ
“เดี๋ยว..อย่าให้รู้ว่าแอบคบใครอยู่” น้องชี้นิ้วใส่หน้า
“นี่..พี่เป็นพี่นะ” ผมปัดมือทิ้ง
“ไม่ใช่โว้ย..เป็นเมีย!!!” เสียงแปดหลอดดังลั่น ทำผมตะลึงตาค้าง
น้องเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา ถึงกับนิ่งกึกทันควัน
“พะ..พูดอะไร..รู้ตัวไหม” ผมตะกุกตะกัก ไม่คิดว่าบอลลูนจะหลุดปากตะคอกแบบนี้
น้องเม้มปากแน่น จ้องผมไม่มีหลบ รีบแก้สถานการณ์
“ช่างเถอะ เรื่องถ่ายแบบอย่าให้พี่วิชญ์เขาเดือดร้อน ทำให้มันเสร็จตามที่ตกลงกับพี่เขา รับเงินมาแล้ว
นั่นไม่เท่ากับเราต้องรักษาคำพูด ขอเรื่องนี้เรื่องเดียว” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“อืม..” น้องขานรับ
“จะอ่านหนังสือ”
“เดี๋ยว พรุ่งนี้ไปโรงเรียนพร้อมกัน”
“กนกจะมารับ”
“ไม่ต้อง โทรบอกไปกับบอล”
“เราห่างกันสักพักเถอะ” ตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดจะทำ
“ห่าง..ทำไมต้องห่าง..ห๊ะ!” กลับมาขึ้นเสียงอีกแล้ว
“บอล..เราเป็นพี่น้องกันนะ แล้วดูที่บอลทำกับบูสิ มันสมควรไหม”
“ใครเริ่มก่อนว่ะ..ถ้าไม่ยั่วโมโหจะทำไหม” น้องไม่ยอมรับผิด
“แต่มันใช่วิธีที่ต้องทำหรือไง ไหนบอลเกลียดตุ๊ด สิ่งที่ยัดเยียดทำกับบูมันดีกว่าตุ๊ดตรงไหน” ผมอดไม่ได้
“แม่ง..ไอ้ตุ๊ดเหี้ยที่เคยทำบอล มันเคยคิดหรือเปล่าหืม” น้องพาล
“แต่ตุ๊ดทั้งโลกไม่ได้เหี้ยกันหมด คนเรายังมีดีเลว สำคัญพี่ทำอะไรบอลร้ายแรงหรือไง
ถึงได้ทำร้ายพี่เหมือนไม่ใช่คน” คราวนี้น้ำตาเจ้ากรรมที่ตั้งใจจะไม่ยอมร้องอีก ดันหยดแหมะร่วงผล่อยลงมาเฉย
เวรเอ้ย!..ไม่อยากเจ้าน้ำตาสักนิด แต่ดันบังคับไม่ได้
“ขอโทษ..จะไม่ทำอีก บูก็ห้ามทำให้บอลโมโหเหมือนกัน” นี่ขนาดขอโทษ ยังมีเงื่อนไขต่อท้าย
“เคยถามตัวเองไหม บอลโมโหพี่เรื่องอะไรถึงต้องลงมือทำร้ายกันขนาดนี้” ผมใจเย็นลง
ปาดน้ำตาทิ้งสงบใจคุยกับน้องดีๆ
“อยากรู้เหรอ” น้องถาม
“อืม..” พยักหน้ารับ
“แน่ใจว่ารับมันได้” ชักสงสัย เหมือนมีลับลมคมใน
“อะไร” จ้องน้องนิ่ง
“งั้นตามมา” น้องไม่พูดอะไรอีก หันหลังเดินกลับห้องตัวเอง ทำให้ผมเกิดคำถามมากมาย ตามน้องไปทันที
“อ่านดูเอง..” มาถึงห้อง บอลลูนเปิดลิ้นชักที่มักล็อกกุญแจประจำ รื้อจดหมายออกมายื่นให้
ผมรับมาแกะอ่านพร้อมกับส่ายหน้าคัดค้านต่อสิ่งที่กำลังอ่านอย่างไม่เชื่อ
‘ถึงหลานรักของน้า’ ถ้าหนูโตขึ้น ติดต่อขอรับมรดกพ่อแม่ น้าคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว น้าเป็นมะเร็งอยู่ได้ไม่ถึงปี
อดห่วงไม่ได้ วิธีที่จะให้หลานรู้ความจริง น้าแอบเขียนจดหมาย ติดต่อทนายซึ่งดูแลมรดกของพ่อแม่หนู
รบกวนให้เขาใส่จดหมายนี้ไว้กับพินัยกรรม พ่อแม่หนูตามข่าวถูกฆ่าชิงทรัพย์ แท้จริงเป็นฆาตกรรมอำพรางถูกหักหลังโดยเพื่อนสนิทหุ้นส่วนธุรกิจ
ตอนหลังโดนจับตายอยู่ในคุกชดใช้กรรมแล้ว มันชื่อ ภานุเมศ บริรักษ์ น้องชาย ภานุสิทธิ์ บริรักษ์ ครอบครัวที่รับหนูไป
เป็นลูกบุญธรรม หนูไม่มีญาติที่ไหนอีก น้าเองเหลือเวลาไม่มาก ไร้ความสามารถที่จะปกป้องดูแลหลานคนเดียวได้
หวังเพียงสองผัวเมียพ่อแม่บุญธรรมหนู จะมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ ทั้งคู่เป็นคนที่พ่อแม่หนูไว้ใจและเคยฝากฝังกันมา แต่ยังไงน้องชายของเขาคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของหนู หากเขาไม่ดีกับหนูล่ะก็ ขอให้หนูดิ้นรนเอาตัวรอด
อยู่ให้ได้ด้วยตัวเองนะลูก สุดท้ายนี้น้าไม่มีอะไรจะให้ นอกจากอวยพรให้ชีวิตของหนูจงพบกับความสุขความเจริญ
อย่าได้อาภัพเหมือนพ่อแม่และก็น้าอีกเลย รัก...น้าพรจิต เปรมภักดี’ “ไม่จริง..เรื่องนี้โกหก” ผมน้ำตาไหลอาบแก้ม เผลอขย้ำจดหมาย บอลลูนรีบแกะมือดึงออกไปเก็บ
“มันเป็นความจริง หลังรู้เรื่องนี้ บอลได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว น้องพ่อคือคนที่ฆ่าพ่อแม่บอล”
สายตาบอลลูนแข็งกร้าว กำหมัดเกร็งแน่น
“แต่พ่อกับแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ท่านรักบอลมาก” ผมกลั้นเสียงสะอื้น ชี้ให้น้องเห็นความจริง
“เพราะแบบนี้ไง บอลถึงรู้สึกแย่” น้องเสียงแผ่วโหย
“ที่บอลทำร้ายพี่ เพื่ออยากให้ชดใช้กับสิ่งที่ครอบครัวพี่ทำร้ายครอบครัวบอลหรือ
เราไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วใช่ไหม..บอลลูน” ผมคราง เรียกชื่อเล่นน้องเต็มยศ แต่น้องไม่ยักโมโห หรือไม่สะกิดใจ
“ดูรูปนี่สิ” น้องก้มไปหยิบรูปใบหนึ่งมายื่นให้ ผมรับมาดูถึงกับอึ้ง คนในรูปเป็นใคร หน้าผมมีส่วนคลายเขามาก
“ขะ..เขาเป็นใคร” ถามปากสั่น ใจคิดไปต่างๆนาๆ
“เขาคือคนที่ฆ่าพ่อแม่บอล น้องชายของพ่อ” คนนี้หรือที่มีจิตใจโหดเหี้ยมทารุณ
หน้าตาผมมีส่วนคล้ายไม่น้อย แต่ก็ไม่เหมือนทีเดียว
“อาของเรา” ผมครางเสียงแผ่ว
“ไม่ใช่ เขาเป็นพ่อของบูต่างหาก” น้องพูด ก่อนจะจ้องผมเขม็ง
“อะไรนะ..พูดใหม่อีกทีสิ” ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“เขาเป็นพ่อบูไม่ใช่อา พ่อเราเป็นหมัน แม่บัวเป็นคนรักเก่าเขา พอแม่ท้องแล้วเขาไม่ยอมรับ
พ่อจึงแต่งกับแม่บัว” ผมเข่าทรุดกองลงไปกับพื้น
“ไม่จริง..พี่ไม่เชื่อ!! บอลไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน รู้ได้ยังไงไปฟังใครเขามา ไม่จริง!!!!”
ผมส่ายหน้าปฏิเสธใหญ่ ผมไม่เชื่อ น้องต้องโดนใครหลอกมาแน่ๆ
“มันเป็นเรื่องจริง บูต้องยอมรับ หลักฐานทั้งหมดบอลจ้างนักสืบใช้เวลาตรวจสอบหลังได้มรดก
พอรู้ความจริงจากจดหมายน้าพร ผู้ใหญ่ต่างหากที่หลอกลวงเรามาตลอด” ผมอึ้ง หากน้องยืนยันขนาดนี้
แสดงว่าคงสืบเรื่องนี้จนแน่ใจ น้องเก็บเรื่องไว้กับตัวเอง ผมไม่เคยรู้อะไรสักอย่าง
“ฮึก..อึก..ฮืออ!!!” ร้องไห้ฟุบอยู่กับเข่ากอดไว้แน่น ทรมานหัวใจมากกับความจริงที่ได้รู้
นี่สินะที่บอลลูนเกลียดชังผม ทำร้ายผม เพราะน้องต้องทนอยู่กับลูกของฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ ทำลายครอบครัวของน้อง...
ความจริงช่างโหดร้ายนัก ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ภาพครอบครัวอบอุ่นของเราวันวาน
รอยยิ้มของพ่อกับแม่ที่ดูอ่อนโยน คำสัญญาที่แม่ให้ผมรับปาก
‘บูสัญญากับแม่ว่าจะดูแลไม่ทอดทิ้งน้อง’ มันไม่ได้เป็นการสัญญาปกติที่คนเป็นพี่พึงกระทำ
แม่ย้ำนักย้ำหนา แม้เสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนหมดลมหายใจ ที่แท้มันมีปมซ่อน ความรู้สึกผิดที่ฝังใจแม่
ได้มอบหมายให้ผมเป็นคนไถ่บาป แล้วบอลลูนล่ะ คิดว่ากำลังให้ผมชดใช้อยู่ใช่ไหม...??
มาต่อให้แล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ช่วยกันโพสฯ คอมเม้นท์ให้มากมาย
กดบวก 1 ให้ทุกคนค่ะ ตอนนี้ยาวสุดๆ เห็นปมในใจของไอ้น้องบอลซึนกันหรือยัง
ตอนหน้าไปจะเปลี่ยนเป็นโจ๊กเล่าแล้วนะ จะได้รู้ความเป็นมาทางฝั่งตุ๊ดหล่อบ้างแล้วทีนี้
พบกันวันอาทิตย์ ถ้ากำลังใจตามกันเยอะอีก คนเขียนจะเร่งปั่นมาโพสฯ ก่อนค่ะ
พยายามสุดกำลังของสติปัญญาน้อยๆ พึงจะมี หวังว่าดร่าม่าของเรื่องนี้คงไม่ทำให้หลายคน
จิตตกนะคะ ไม่เยอะไม่แยะหรอกค่ะ เป็นดราม่าปกติของชีวิตมนุษย์ ก่อนพบความสุขย่อมผ่านอุปสรรค
รักคนอ่านที่น่ารักทุกคนที่รอคอยตามอ่านกันค่ะ
Luk.
PS. ฝากที่เหลือด้วยค่ะ ใครอยากได้เหลืออยู่จำนวนเท่านี้ สนใจดูรายละเอียดได้เลยนะคะ หมดแล้วหมดเลยค่ะ
ตอนนี้หนังสือยังมีเหลือ ใครอยากได้รบกวนติดต่อตามรายละเอียดข้างล่างนี้เลยนะคะ
แบบธรรมดา บ็อกเซท เหลือจำนวน 4 ชุด ราคาชุดละ 1,000 รวมค่าจัดส่งแล้วรายละเอียดหนังสือ1.นิยายมี 2 เล่มจบ
2.เนื้อในกระดาษถนอมสายตา จำนวน 640 หน้าต่อ 2 เล่ม
3.ที่คั่นหนังสือ
4.ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเล้าฯ 5 ตอน เป็นของคู่เอก 3 ตอน คู่รอง 2 ตอน
4.1.เจ้าพ่อของจริง
4.2.มังกรล่อแก้ว
4.3.ขืนใจ..รามูน
4.4.เสือเล่นน้ำ
4.5.แฮปปี้เบิร์ดเดย์..คงคา
ราคานิยาย+ บ็อกเซท 1,000 บาท รวมค่าจัดส่งลงทะเบียน
1.โอนได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 391-214997-2
ชื่อบัญชี นายภาณุพงศ์ ทับประสูติ2.โอนแล้วแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมที่อยู่จัดส่งหนังสือมาทาง Mail ได้เลยค่ะ
luxilove_19690 แอท hotmail ดอท comThank so.
ลักษ์.