บทที่ 26 ไปทำงานวันแรก
มิคาเอลรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ในวันนี้เป็นวันแรกที่เขาจะเริ่มทำงานให้กับองค์เดเมี่ยน และยังเป็นวันแรกที่เขาได้ออกมาจากวิลล่าในฐานะพระสนมขององค์เดเมียนอีกด้วย
มิคาเอลสวมชุดที่องค์เดเมี่ยนเตรียมไว้ให้ ชุดสีดำสไตล์ราชวงค์ของคานาเดีย เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว คลุมทับด้วยเสื้อกั๊กตัวยาวมีลวดลายงดงาม ด้านหน้าถูกถักร้อยด้วยเชือก ดูไปแล้วคล้ายกับคอร์เซ็ท ที่โอบรัดเข้ากับร่างกายของเขา ในส่วนที่เว้า ก็เว้า ในส่วนที่โค้ง ก็โค้ง จนองค์เดเมี่ยนจ้องมองตาไม่กระพริบ และเอ่ยปากชมไม่หยุด และหากชุดของเขายังเด่นไม่พอ องค์เดเมี่ยนยังทรงประทานสายสร้อยที่มีตราสัญลักษณ์เสือดำของพระองค์ให้เขาสวมใส่ สร้อยทั้งเส้นทำจากทองคำ ประดับอัญมณี จนทำให้มิคาเอลยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
เมื่อเดินทางมาถึงที่อาคารทรงงาน มิคาเอลเดินเยื้องมาด้านหลังองค์เดเมี่ยนเล็กน้อย เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่พระองค์ มิคาเอลก้มหน้าลงเล็กน้อย และเดินตามองค์เดเมี่ยนไปอย่างเชื่อฟัง ตามข้อตกลงที่เขาได้ทำไว้กับพระองค์ แต่กระนั้น ผู้คนที่พบเห็นก็ยังพากันโจษจันความงามของสนมคนใหม่ขององค์เดเมียน นาม มิคาเอล
พระองค์สั่งให้คนจัดโต๊ะทำงานของมิคาเอลไว้ในห้องทรงงานของพระองค์ เมื่อพระองค์มาถึง เลขาของพระองค์ก็รายงานสิ่งที่พระองค์ต้องกระทำอันยาวเหยียด และแอบตำหนิพระองค์ที่หนีกลับไปก่อนเมื่อวานด้วย มิคาเอลรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
"ที่สำคัญในคืนนี้ มีงานเลี้ยงที่พระองค์จะต้องเข้าร่วมด้วยนะขอรับ และนี่เป็นรายละเอียดโดยย่อและรูปถ่ายของแขกคนสำคัญที่พระองค์จะต้องจดจำ” เลขาของพระองค์วางเอกสารปึกใหญ่ลงตรงหน้าพระองค์
“แขกมีตั้งหลายร้อย เจ้าคิดว่าเราเป็นคอมพิวเตอร์หรือยังไง” ทรงตรัสประชด
“กระหม่อมเตรียมข้อมูลไว้ให้ตั้งแต่2 อาทิตย์ที่แล้ว พระองค์นั่นแหล่ะ ที่ทรงไม่สนใจ ถ้าอย่างนั้นกระหม่อมคงจะใช้วิธีติดกล้องสแกนหน้าของแขกก็แล้วกัน” เลขากล่าว
“เครื่องสแกนห่วยๆ ของเจ้า ช้าจะตายกว่าจะรู้ผลแขกคนอื่นก็เข้ามาทักแล้ว” ทรงตรัสตำหนิ
“นี่ก็เป็นรุ่นล่าสุดแล้วนะขอรับ” เลขายังไม่ยอม
มิคาเอลที่มองดูทั้งสองคนเถียงกันจึงถือวิสาสะหยิบเอกสารขึ้นไปพลิกดู พบว่าแขกส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนที่เขารู้จัก เนื่องจากเขาต้องตามไปถ่ายรูป คนมีชื่อเสียงมากมาย การหาข้อมูล การเตรียมพร้อมเป็นสิ่งจำเป็น มิคาเอลจึงมีความสามารถในการจดจำใบหน้าของคนได้อย่างรวดเร็ว และแขกที่จะมาร่วมงานก็เป็นคนที่มิคาเอลรู้จักเสียส่วนใหญ่จากการหาข้อมูลในอดีต
"ผมรู้จักคนส่วนใหญ่ในรูปพวกนี้ มีเพียงแค่ สิบกว่าคนที่ผมไม่รู้จัก ซึ่งผมแน่ใจว่าก่อนงานจะเริ่ม ผมสามารถจดจำรายละเอียดได้ทั้งหมด” มิคาเอลเอ่ยขึ้น ทั้งสองจึงหันมามอง คุณเลขาจึงพลิกเปิดไปหน้าท้ายๆ ก่อนชี้ในเชิงถามว่าใคร
“คนๆ นี้คือนักธุกิจใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ออกงานบ่อยนัก แต่มีธุรกิจด้านการเงินที่ใหญ่โต และมีอิทธิพลมากคนหนึ่งในยุโรป คุณ อาร์เธอร์ แมคฟาร์แลนด์” มิคาเอลตอบ แต่คุณเลขาก็พลิกเปิดและถามไปเรื่อยๆ อีกหลายคน แต่มิคาเอลก็ตอบได้หมด องค์เดเมี่ยนมองด้วยความพอใจในความสามารถของคนตรงหน้า
“พอได้แล้วอาร์ชี่ ถ้าเจ้าห่วงนักก็ติดกล้องสแกนไปด้วยก็ได้ แต่เราจะพามิคาเอลไปงานกับเรา” องค์เดเมี่ยนกล่าว แต่เป็นมิคาเอลที่ตกใจ
“ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องพาผมไปในงานก็ได้นี่ครับ ผมดูผ่านกล้องของพระองค์ก็ได้” มิคาเอลกล่าว
“เจ้าอยากทำงานไม่ใช่เหรอมิคาเอล และนี่คืองานของเจ้า เราจะสั่งให้คนเตรียมชุดไว้ให้เจ้า” ทรงตรัส แม้มิคาเอลอยากจะประท้วงแต่ก็กลืนคำพูดลงคอ เขารู้ว่าอย่างไรเสียพระองค์ก็ไม่ฟังอยู่ดี
ตลอดช่วงเช้ามิคาเอลจึงเอาแต่ทบทวนข้อมูลของรายชื่อแขก พอตอนบ่ายเขาก็จดจำรายละเอียดได้ทั้งหมด องค์เดเมี่ยนดูพอใจในตัวของมิคาเอลมิใช่น้อย และสั่งให้อาร์ชี่สอนงานเลขาให้แก่มิคาเอล และเมื่อพระองค์ทรงงานเสร็จในตอนหัวค่ำ พระองค์จึงพามิคาเอลกลับมาที่วิลล่า
แต่เมื่อกลับมาถึงพระองค์ก็รั้งร่างของคนตัวเล็กเข้ามากอด
“ทำไมเจ้าไม่บอกเราว่าเจ้ามีความสามารถมากขนาดนี้” ทรงตรัส และ ประทานจุมพิตให้แก่คนตัวเล็ก แต่มิคาเอลกลับปฏิเสธ และพยายามผลักพระองค์ออก
“ก็พระองค์ไม่เคยถามนี่ครับ ผมก็คิดว่าพระองค์สนแค่ร่างกายของผม” มิคาเอลตอบหนีออกจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” มิคาเอลตอบและเดินเข้าไปในห้องน้ำ โดยที่ไม่เห็นสายตาขององค์เดเมี่ยนที่มองมาที่เขา
มิคาเอลรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เขาไม่เคยทำงานที่นั่งโต๊ะแบบนี้มาก่อน ชั่วโมงที่ยาวนานทำให้เขารู้สึกเหนื่อย เขาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออก จนร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำฝักบัว สายน้ำอุ่นที่ราดรดผ่านร่างกาย ทำให้เขารู้สึกดี และผ่อนคลาย แต่แล้วเขาต้องตกใจที่ถูกโอบกอดเอาไว้จากด้านหลัง
“ฝ่าบาท!! พระองค์เข้ามาทำไมครับ ผมกำลังอาบน้ำอยู่” มิคาเอลตกใจ และเริ่มเขินอายที่ร่างกายเปลือยเปล่าของเขาปรากฎแก่สายตาของคนตรงหน้า มิคาเอลจึงหันหลังให้พระองค์
“เราก็อยากอาบน้ำเช่นกัน” ทรงตรัส
“พระองค์รอให้ผมอาบให้เสร็จก่อนก็ได้นี่ครับ” มิคาเอลกล่าว
“ห้องอาบน้ำออกจะใหญ่ เราอาบด้วยคนจะเป็นไรไป” พระองค์เอื้อมไปเปิดฝักบัวเพิ่มอีกสองตัว สายน้ำฝักบัวไหลเพิ่มมาจากด้านบนและด้านข้าง
“ผมอาบเสร็จแล้วครับ ผมออกไปก่อนนะครับ” มิคาเอลพยายามเดินเลี่ยงออกไป แต่องค์เดเมี่ยนก็รั้งเขาเอาไว้
“เจ้าจะอาบเสร็จแล้วได้อย่างไร เราจะอาบให้เจ้าก็แล้วกัน” ทรงตรัสรั้งร่างมิคาเอลเข้ามาใกล้
“อย่าครับ ฝ่าบาท ปล่อยผม ผมอาบเองได้” มิคาเอลพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ แล้วก็รู้สึกถึงความเย็นจากของเหลวที่พาดผ่านไหล่ของเขา องค์เดเมี่ยนบีบสบู่เหลวใส่เขา พร้อมกับกดที่เซนเซอร์ น้ำจากฝักบัวก็ไหลน้อยลง ทำให้น้ำไม่ล้างสบู่ออกจากตัวของมิคาเอล
“ฝ่าบาท อย่าแกล้งสิครับ” มิคาเอลประท้วง
“อยู่เฉยๆ สิ เราจะฟอกสบู่ที่หลังให้” ทรงตรัส และใช้มือใหญ่ถูสบู่ไปทั่วแผ่นหลัง เพียงสัมผัสธรรมดาพระองค์ ก็ทรงช่ำชองมากเกินไปแล้ว พอผิวที่ลื่นไปด้วยสบู่ ถูกมือใหญ่ของพระองค์สัมผัส ความรู้สึกแปลกใหม่ เย้ายวน รัญจวนใจก็เกิดขึ้น โดยที่มิคาเอลมิได้ยินยอมพร้อมใจ
มือใหญ่ของพระองค์ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะไล้ไปที่แขนทั้งสองข้าง ก่อนพระองค์จะโอบกอดจากด้านหลัง และเอื้อมมาฟอกสบู่ที่ด้านหน้าของคนตัวเล็ก มิคาเอลรู้สึกหมดแรงเอาดื้อๆ จนต้องเอนกายพิงร่างกับอกกว้างของพระองค์ ทุกๆ ที่ ที่พระองค์สัมผัส กลับร้อนรุ่ม ไฟปรารถนาค่อยๆ ก่อตัวขึ้นช้าๆ โดยที่มิคาเอลมิอาจขัดขืนได้
มือของพระองค์ลูบไล้ไปที่ทับทิมเม็ดงามทั้งสองเม็ด ก่อนจะหมุนวนจนมันแข็งเป็นไต มือเล็กพยายามจะรั้งมือของคนตัวใหญ่ไว้ให้หยุด แต่มันก็ดูจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ในสมองกลับว่างเปล่า ไม่อาจจะคิดอะไรได้ ทำได้เพียง โอนอ่อนไปกับสัมผัสที่พระองค์มอบให้
พระองค์ก้มลงขบเม้มติ่งหูของคนตัวเล็กเบาๆ จนคนตัวเล็กต้องครางออกมาอย่างไม่อาจกลั้น จากนั้นพระองค์ก็ค่อยๆ เลื่อนมือลงต่ำไปสัมผัสกับส่วนอ่อนไหว ที่กำลังตื่นตัวเบื้องล่าง มิคาเอลรวบรวมสติสุดท้ายที่เหลืออยู่ พยายามปัดป้องการสัมผัสจากพระองค์ แต่พระองค์ก็ก้มลงจูบคนตัวเล็กอย่างดูดดื่ม จนคนตัวเล็ก ตกอยู่ในความฝันอีกครั้ง มือใหญ่ของพระองค์ ค่อยๆ สัมผัสร่างที่ตื่นตัวของมิคาเอล ทรงขยับช้าๆ จนคนตัวเล็กครางออกมา ก่อนจะเริ่มขยับเร็วมากขึ้น มิคาเอลร้องครางออกมา และเผลอไปกดเซนเซอร์เข้า น้ำฝักบัวก็ไหลออกมาอีกครั้ง และเพียงไม่นานมิคาเอลก็ปลดปล่อยของเหลวสีขุ่นออกมา
คนตัวเล็กยืนหอบหายใจ พยายามรวบรวมสติ และพยายามเข้าใจกับสถานะการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น น้ำฝักบัวไหลผ่านร่างของเขา และล้างคราบสบู่ออกจนหมด ร่างเล็กหันหน้ามาหาคนตัวใหญ่ที่กำลังก้มหน้าลงมา หมายจะจูบ แต่มิคาเอล ก็ตบหน้าคนตัวใหญ่อย่างแรง และเดินออกไปจากห้องอาบน้ำอย่างหัวเสีย องค์เดเมียนเดินตามออกมา นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวอย่างหมิ่นเหม่ เดินเข้ามาหามิคาเอล
“เจ้าจะไปไหน” ทรงถาม เมื่อเห็นมิคาเอลที่สวมชุดคลุมอาบน้ำกำลังจะเดินออกไปจากห้องบรรทม
“ผมจะกลับห้องของผมที่วิลล่าเล็ก” มิคาเอลตอบ
“เราไม่ให้ไป เจ้าต้องไปงานเลี้ยงกับเรา” ทรงตรัส
“พระองค์ไม่รักษาสัญญา คนฉวยโอกาส” มิคาเอลกล่าวหา
“เราก็แค่สัมผัสเจ้า เจ้าก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ” ทรงตรัส มิคาเอลหน้าแดง
“ผมไม่ชอบ ผมไม่ต้องการให้พระองค์ทำแบบนี้ ตามข้อตกลงพระองค์จะร่วมรักกับผมแค่อาทิตย์ละครั้ง แต่นี่พระองค์คอยแต่จะเอาเปรียบผม” มิคาเอลกล่าว
“เราบอกว่าอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งต่างหาก และเมื่อกี้เราก็แค่สัมผัสเจ้า เราไม่ได้ร่วมรักกับเจ้าสักหน่อย” ทรงตรัสแย้ง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ตกลง ผมยกเลิกข้อเสนอของพระองค์” มิคาเอลกล่าว
“เราไม่อนุญาต หากเจ้าผิดสัญญา เราก็จะใช้กำลังบังคับเจ้า และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าพบน้องชายอีก” ทรงตรัสอย่างไม่ยอม
“พระองค์ใจร้าย คนไม่มีหัวใจ ผมไม่น่าไว้ใจพระองค์เลย ผมน่าจะรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างพระองค์ รักใครไม่เป็น คำพูดของพระองค์ก็เชื่อถือไม่ได้” มิคาเอลกล่าวหา น้ำตาค่อยๆ ไหลเมื่อคิดว่าจะไม่ได้พบกับโทนี่อีก องค์เดเมียนก็รู้สึกผิดขึ้นมา แต่ในสายตาของคนตัวเล็ก พระองค์เป็นเพียงคนใจร้ายที่ไม่มีหัวใจ พระองค์ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา แม้พระองค์จะอยากอ่อนโยนกับคนตรงหน้า แต่พระองค์กลับได้ยินเสียงของพระองค์พูดขึ้นมา
“ใช่สิ ในเมื่อเราไม่ใช่ราฟาเอลผู้เป็นที่รักของเจ้า การถูกเราสัมผัสมันคงทรมานมากสินะ” ทรงตรัสออกมาอย่างเย็นชา
“คนอย่างพระองค์ไม่มีอะไรเทียบกับองค์ราฟาเอลได้หรอก การที่ไม่มีใครรัก คนที่โหดร้ายอย่างพระองค์ มันก็ถูกต้องแล้ว” มิคาเอลพูดออกไปโดยไม่คิด และเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
องค์เดเมี่ยนมีสีหน้าที่โกรธกริ้ว หันหลังกลับ และเดินออกไปจากห้อง พร้อมกับกระแทกประตูปิดเสียงดัง และมิคาเอลก็ยังได้ยินเสียงข้าวของตกแตกตามมา
________________________________________
องค์เดเมี่ยนนี่ก็นะ ไม่รู้จักพอจริงๆ โดนโกรธซะแล้ว
รออ่านคอมเม้นท์นะ