( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485137 ครั้ง)

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :mew6: เลิกบุหรี่เหอะอาฟ ไม่เห็นจะเท่ตรงไหน เหม็นก็เหม็นรำคาญก็รำคาญ เชื่อเมดเหอะ  :mew6:

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เมดน่ารัก

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 23

   ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วสำหรับความสัมพันธ์ของผมกับเมด ทุกอย่างที่เคยคิด เคยกังวล ว่ามันอาจจะแย่ อาจจะไม่โอเคเพราะนิสัยส่วนตัวของผม และหลายๆเรื่องที่มันดูไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่ตอนนี้เท่าที่อยู่ด้วยกัน มันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้น แต่ไม่รู้เพราะเพิ่งเริ่มต้นด้วยรึเปล่า ปัญหายังไม่เกิด เรายังไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ นิสัยเสียๆก็ยังไม่ออก คงมั่นใจพูดว่า ‘ ดี ‘ ออกไปไม่ได้ ก็ยังไม่รู้เลยว่าทิศทางความรักจะไปทางไหน

ผมเชื่อแล้วว่าความรักก็เหมือนเกมส์ เกมส์ที่ต้องเล่นด้วยกันสองคนและเป็นเกมส์ไม่มีวันจบ แรกเริ่มของเกมส์นี้ไม่มีอะไรยากเลย มันเป็นแค่การแสดงทักษะง่ายๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าผู้ร่วมเล่นของเราเป็นแบบไหนก็เท่านั้น และตอนนี้ผมกับเมดก็กำลังอยู่ในระยะแรกเริ่มของเกมส์นี้ 

ขยับตัวเองพลิกมากอดคนขี้เซาที่นอนอยู่ข้างกันตอนที่ได้สติ สูดกลิ่นจางๆของแป้งเด็กที่ติดตัวของอีกคนเข้าไปเต็มปอด ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆด้วยรอยยิ้มแบบไม่ให้อีกคนรู้ ก่อนจะเริ่มกิจวัตรที่ชอบทำทุกเช้า

“ อื้อ “ เสียงครางของคนนอนขี้เซาครางออกมาจากคอ ผมก้มลงไปหอมแก้มกลมนิ่มๆนั่นแบบเต็มแรง ชอบตอนที่ได้ฝังจมูกลงไปแบบแนบชิด

เข้าใจถึงความรู้สึกที่เค้าพูดกันว่า หมั่นเขี้ยว อยากหอมเวลาเห็นแก้มกลมๆของเด็กเล็ก ก็ตอนมีคนข้างๆมานอนอยู่ด้วยกัน ไม่รู้เพราะมันขยันกินมื้อดึกที่ปรุงด้วยโซเดียมเยอะเกินไปหรือยังไง แต่ไม่มีเช้าไหนที่ตื่นขึ้นมาแล้วแก้มมันจะไม่กลมและน่าหอม

“ หมวย ตื่นไปช่วยป๊าขายซาลาเปาได้แล้วมึง “ ฝังจมูกลงไปอีกครั้งแม้เจ้าของแก้มกลมจะพลิกตัวหลบ เมดเป็นคนที่นอนขี้เซาอย่างที่สุด เหมือนชีวิตนี้เกิดมาต้องได้รับการหลับนอนอย่างเพียงพอเท่านั้น ไม่งั้นจะไม่ตื่น “ หมวย ตื่นไปขายซาลาเปา ป๊าเรียกแล้ว “

“ ไม่เรียก วันนี้ป๊าปิดร้าน “ หลุดหัวเราะออกมาตอนที่อีกฝ่ายปฎิเสธ ผมหอมแก้มมันไปอีกเต็มฟอด เอาเข้าจริงเกิดมายังไม่เคยเอ็นดูใครได้ถึงขนาดนี้ ไม่เคยแม้จะแสดงความรู้สึกด้วยการหอมและกอดใครแบบนี้ด้วยซ้ำ

ถ้าเป็นในช่วงเวลาที่ปกติผมต้องหาข้ออ้างในการกอดมัน แต่ทุกอย่างตอนนี้มันกลืนความรู้สึกไม่ตรงกับใจอะไรแบบนั้นไปหมด เหมือนเหลือไว้แค่ว่า ‘ ก็มันน่ารักขนาดนั้นจะไม่ให้กอดไม่ให้หอมได้ยังไงวะ ’

“ หมวยตื่นไปขายซาลาเปา “ ดึงคนที่กำลังงัวเงียให้เข้ามาใกล้ เมดที่พลิกตัวเข้ามาซุกกับอกผม เอื้อมมือมากอดกันไว้ มันนิ่งอยู่แบบนั้นสักพักเป็นอาการที่บอกกันว่า คนน่ารักที่กำลังขี้เซากำลังจะตื่นนอนแล้ว

“ กี่โมงแล้ววะ “ คำถามแรกที่เอ่ยขึ้นมาผมก็นิ่งไป แปลกดีเหมือนกัน ทำไมพออีกฝ่ายมีสติไอ้ความรู้สึกที่จะกล้ากอดกล้าหอมมันก็ค่อยๆลดลง เหลือไว้แต่ไอ้ขี้เก็กที่ทำเหมือนไม่รู้อะไรในแต่ในใจกลับมีความสุขราวกับลิงโลดในตอนที่เราได้ใกล้ชิดกัน

“ ตื่นแล้วก็หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเอง “ ผมบอกอีกคนที่ก็ถอนหายใจกับความกวนตีนของผมที่ชอบแกล้งมันในทุกเช้า “ สิบโมงกว่า “

“ สิบโมงกว่าแล้วเหรอวะ หิวยังอะ “ คำถามที่สองชวนให้ผมยกยิ้มก่อนจะกอดมันไว้แน่นขึ้น เมดเคยบอกว่ามันเป็นคนที่ชอบดูแลคนอื่นจนดูเหมือนกับว่าจะเยอะเกินไป แต่ผมกลับชอบนะ ในทุกความดูแลที่มันมอบให้นั่นแหละ แม้ว่าสิ่งที่มันทำจะดูห่างไกลจากคำว่าแฟนทำให้ไปแล้ว เพราะมันคล้ายกับคำว่าเมียทำให้มากกว่า

“ นิดนึง แต่กินซาลาเปาไปก่อนก็ได้ “ หันไปงับแก้มมันอีกคนที่ก็ดึงตัวเองออกห่าง เมดเอามือแนบแก้มตัวเองไว้ มันเหลือบมองผมด้วยสายตาขุ่นเคือง

“ ยุ่งอะไรกับแก้มกูทุกเช้า “

“ ไม่บอก “ บอกมันแค่นั้น อีกคนก็จ้องมองมาเหมือนจะจับผิด

“ แอบหอมแก้มกู กูรู้นะอารยะ “

“ แล้วมึงจะยุ่งอะไรด้วย กูหอมแก้มแฟนกู “

“ แฟนมึงก็คือกูนั่นแหละ “ อีกคนว่ายิ้มๆก่อนจะพลิกตัวเองมากอดไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมาเหมือนเด็กงอแง “ ขี้เกียจ “

“ ไปอาบน้ำ มึงนัดทำรายงานกับเพื่อนมึงกี่โมง “

“ พวกมันไม่ใช่เพื่อนกู “ ดึงตัวเองขึ้นมาจ้องหน้าผมแบบเอาเรื่อง แต่เหมือนแมวขู่ฟ่อมากกว่า ผมยกยิ้มนิ่งๆไม่ได้ตอบอะไรมัน เมดก็ล้มตัวลงมากอดไว้อีกครั้ง มันจะรู้ตัวมั้ยว่าบางทีมันก็ขี้อ้อนแล้วก็วอแวติดอันดับจัดว่าน่ารำคาญเหมือนกัน “ ไม่อยากจะไปเลย ทำไมอาจารย์ต้องให้กูทำรายงานกับพวกแม่งด้วยวะ “

“ กูก็บอกอยู่ว่าจะไปเป็นเพื่อน “

“ ไปเป็นแฟนได้มั้ย “ ผมหลุดยิ้ม แม่ง.. ร้ายจริงๆ

“ ตามนั้น “

“ แต่ก็ยังไม่อยากไปอยู่ดีนั่นแหละ “

“ หรือจะให้ไอ้เดย์ไป ไอ้เจหรือไอ้อัยย์ก็ได้เลือกเอา  “ ผมถามย้ำมันอีกคนก็ส่ายหน้าไป เมดดึงตัวเองขึ้นนั่งผมยุ่งๆของมัน ผมเองก็เผลอยกมือขึ้นจัดให้แบบไม่ได้ตั้งใจ

พอรู้อยู่ว่าอีกคนรู้สึกยังไง ในใจของมันลึกๆคงไม่อยากจะให้ผมไปด้วยเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เพื่อนแย่งแฟนอีก ถึงจะบอกไปแล้วว่าเรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง แต่แผลยังไงก็คือแผล มองดูในแง่มุมไหนใช้เหตุผลมากมายยังไง เจ็บก็คือเจ็บ

“ ถ้าเกิดน้องเดย์น้องอัยย์แล้วก็เจ ชอบหนึ่งในมันสองคนกูก็คงทนไม่ได้หรอก ญาติดีกันไม่ลง “

“ เกลียดอะไรระวังจะได้อย่างงั้น “

“ งั้นไม่เกลียดก็ได้ “ มันโบกมือไปมาปฎิเสธหน้าตกใจเหมือนเด็กๆที่กำลังโกหก “ กูรักพวกมันม๊ากกมากก “ ผมหลุดยิ้ม

“ นี่ก็ดูตอแหลไป “ บอกอีกคนก็ถอนหายใจ “ ไปอาบน้ำ จะได้รีบไปแล้วก็รีบทำให้เสร็จ คืนนี้ต้องไปทำงานที่ผับอีก “

“ อื้ม ก็ได้ “  เมดพยักหน้ารับ มันถอนหายใจก่อนจะขยับตัวลงไปจากเตียง “ มึงนอนต่อไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูค่อยปลุก “

“ อื้ม “ ยักคิ้วให้มันผมย้ำเรื่องที่พูดกับมันเมื่อคืน “ แล้วอย่าลืมที่บอก “

“ อะไร “

“ ไปทำงานกลุ่มก็เก็บไว้กับตัวด้วยชุดนึง อย่าไว้ใจให้อดีตเพื่อนมึงเก็บไว้แค่คนเดียว เข้าใจมั้ย เซฟเก็บกลับมาด้วย “

“ อื้ม เข้าใจละ “ พยักหน้ารับยิ้มๆ เมดเดินเข้าไปในห้องน้ำส่วนผมก็นอนต่ออีกสักพัก

หลับหลับสนิทไปอีกครั้งก่อนจะตื่นขึ้นมาพบกับภายในห้องที่ค่อนข้างเงียบ เอื้อมมือไปจับที่นอนข้างๆที่ตอนนี้ไม่เหลือไว้แม้แต่ไออุ่น ดึงตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเดินออกไปข้างนอกห้องทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ

เสียงกระทบกันของจานชามดังมาจากในครัว ภาพที่ผมเห็นคือแฟนตัวเองที่อยู่ในชุดเตรียมออกไปข้างนอก เสื้อแขนยาวแบบพ้นมือสีขาวของมัน หันไปมองที่เก้าอี้ก็มีเสื้อนอกสีน้ำเงินวางอยู่ กางเกงขาดเข่าสีดำแบบเดฟแนบตัว ไหนใครบอกว่าแต่งตัวไม่เก่งว่ะ แต่ทำไมแต่งออกมาแล้วดูน่ารักทุกวันเลย

“ ยังไม่อาบน้ำอีก “ เมดหันมามองผมก่อนจะพูดแบบนั้น ถอนหายใจออกมาตอนที่ฟังเผลอยกมือขึ้นขยี้หัวยุ่งๆของตัวเอง แล้วอ้าปากหาวออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

หยิบแก้วน้ำมากดน้ำกินพลางมองเมนูที่อีกคนทำใกล้ๆ ตั้งแต่มีมันเข้ามาในชีวิตอาหารมื้อแรกก็จัดเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ของเรา เมดไม่ใช่คนทำอาหารเก่งอย่างที่มันบอกไว้นั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดปิ้งขนมปังยังไหม้แล้วก็ทาแยมไม่เป็น

เพราะงั้นเมนูง่ายๆของเราตอนเช้าเลยไม่มีมากเลย แค่หนมปังปิ้งคนละสามแผ่น กับแยมแบบต่างๆ แต่ที่สำคัญกว่าอะไรพวกนั้นคือ กาแฟคาราเมลมัคคิอาโต้หอมๆที่อีกคนชงให้จากเครื่องทำกาแฟ ที่รบเร้าให้ผมซื้อให้เมื่อสองวันก่อน ความลับอีกอย่างที่ผมเพิ่งรู้ในตัวอีกคนคือ เมดเป็นคนมีฝีมือในการชงกาแฟ “ วันนี้จะกินหนมปังอะไร นูเทล่า หรือว่าแยมส้ม “

“ แล้วแต่มึง“ บอกแบบนั้นก่อนจะคว้าเอากาแฟร้อนของผมที่ตั้งอยู่บนเค้าเตอร์ข้างตัวอีกคนขึ้นมาดื่ม

“ เดี๋ยวๆ ยังไม่อาบน้ำแปรงฟัน ก็จะกินเลยรึไง “

“ หิว “ บอกมันแค่นั้นอีกคนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เมดรู้ว่าบ่นไปก็เท่านั้น ไม่ว่ายังไงผมก็ทำอยู่ดี

เดินถือแก้วกาแฟมาเปิดทีวีฟังเพลงเหมือนปกติ ก่อนจานขนมปังจะถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมกับคนร่วมโต๊ะที่ก็นั่งลงเช่นกัน เมดกินโกโก้ร้อนเหมือนปกติเรากินขนมปังสามแผ่นที่ทาแยมสองแผ่นและนูเทล่าอีกหนึ่งแผ่นเหมือนกันทุกวัน  นั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกัน ก่อนที่เมดจะยื่นแก้วมากับชนแก้วของผมเบาๆ เสียงกระทบดังขึ้น

“ อรุณสวัสดิ์ “ มันบอกแบบนั้นทุกเช้าก่อนจะยกโกโก้ขึ้นกิน เป็นคนชอบสร้างบรรยากาศดีๆให้กันเสมอ ส่วนผมก็รับหน้าที่ทำลายบรรยากาศนั้น

“ อรุณสวัสดิ์อะไรของมึงจะสิบเอ็ดโมงอยู่แล้ว “ คนฟังถอนหายใจออกมาเซ็งๆ มันยกมือขึ้นค้ำแก้มของตัวเองส่วนอีกข้างก็ยกโกโก้ขึ้นกิน แล้วตอนที่เอื้อมมือมาหยิบขนมปังในจานตัวเองขึ้นไปกินมันก็บ่นเบาๆ

“ มึงแม่งชอบทำให้เสียอารมณ์จริงๆ “

“ หึ “ ผมหลุดยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดคราบช็อกโกเล็ตที่ติดอยู่ที่มุมปากของมันแบบไม่ได้พูดอะไร เมดเองก็นิ่งไปเหมือนกันก่อนจะเลียเริมฝีปากแล้วยกแก้วขึ้นมาบังหน้าแดงๆของตัวเอง

“ เป็นไง อารมณ์ดีขึ้นยัง “ ผมถามตอนที่ก้มลงกินขนมปังของตัวเองต่อไปแบบไม่สนใจ

“ นิสัยเสีย ชอบมาทำตัวอบอุ่นง้อกูทุกทีเลย ส้นตีน “ คำด่าแก้เขินของมัน ตั้งแต่ที่มีมันเข้ามาอยู่ด้วยกัน ก็ได้ฟังทุกวันพร้อมอาหารเช้าในทุกเช้าเลย

“ แล้วตกลงนัดเพื่อนไว้กี่โมง “


“ ก็บอกว่าไม่ใช่เพื่อน เรียกว่า อีสองตัวนั้น “

“ นัดสองคนนั้นกี่โมง “

“ สองตัว “ มันเถียงผมที่ถอนหายใจออกมา “ มึงควรเกลียดมันอะ มันทำกูเจ็บนะ “

“ อย่ามางี่เง่า มันทำมึงไม่ได้ทำกู จะเกลียดก็เกลียดไปไว้มันมาทำกูเมื่อไหร่ กูค่อยเกลียดมัน “

“ ไม่มีฟิลลิ่งแบบ มึงทำคนที่กูรัก กูจะเกลียดมึงงี้เหรอ “ เมดวางแก้วโกโก้ที่กำลังกินพลางเอียงหน้าถามผม “ อยากได้ความรู้สึกงั้น บ้างอารยะจัดให้หน่อย “

“ ไร้สาระ “

“ อะไรวะ เซ็ง “ อีกคนถอนหายใจตอนได้ฟัง เมดหยิบขนมปังขึ้นมากิน

“ ตอนนั้นมันเป็นอดีตกูไม่เกี่ยวด้วยจะไปเกลียดทำไม ไว้ให้มันมาทำอะไรมึงตอนนี้ก่อนก็แล้วกัน กูจะเกลียดให้ “ ผมบอกก่อนจะก้มลงหยิบกาแฟขึ้นมากินก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ “ ไม่สิ คงไม่แค่เกลียด แต่กูคงไม่ปล่อยมันไว้ “ 

“ ดุจัง “ เมดแซวยิ้มๆ ผมก็ลุกขึ้นเต็มความสูงหลังจากกินอาหารเช้าของตัวเองเสร็จ “ บีบยาสีฟันไว้ในแล้วนะ โอเครึเปล่า “

“ ทำไมจะไม่โอเค “ ผมถามอีกคนก็นิ่งไปก่อนจะส่ายหน้า ผมจ้องหน้ามันเมดก็เลิกคิ้ว

“ อะไร “

“ ไอ้บินเคยไม่โอเคอีกละสิ “ ถามออกไปเพราะรู้สึกได้จากแววตาของมัน เมดนิ่งไปพลางเหลือบมองซ้ายขวาราวกับกำลังคิดว่าจะให้เหตุผลว่าอะไรที่จะไม่ทำให้ผมเสียใจ แต่พราะมันไม่เหตุผลอื่นอีกคนเลยแค่ยิ้มจางๆ

“ ก็ประมานนั้น “

   ผมไม่ได้ตอบอะไร ก็รู้อยู่แล้วโดยไม่ต้องถามอะไรด้วยซ้ำ มันเป็นแบบนี้อยู่ตลอดทุกอย่างรอบตัวเรา ทุกอย่างที่เมดทำให้ผม มันทำเพราะอยากจะทำให้นั่นแหละผมรู้ แต่แค่ทุกครั้งมันยังกังวล ยังกลัว ว่าจะทำให้ดีมั้ย เหมือนในสมองของมันมีแค่คำว่า ‘ ทำให้แบบนี้อาฟจะชอบมั้ยวะ ตอนนั้นไอ้บินยังไม่ชอบเลย อาฟก็ต้องไม่ชอบแน่ๆ ’

   อดีตสอนให้ระวังตัวในปัจจุบันนั่นก็จริงอยู่ แต่คงใช้ได้แค่เฉพาะบางเรื่องเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเรื่องของความรัก ไม่มีคนในปัจจุบันคนไหนอยากจะให้คนในอดีตเข้ามาอยู่ในชีวิตรักของตัวเองหรอก

“ อาฟ “

“ จัดชุดให้หน่อยสิ “ ผมบอกขัดมันเพราะรู้ว่าเมดจะพูดว่าอะไร คำว่าขอโทษ ได้ยินมาเป็นอาทิตย์แล้วในตอนที่มันคิดถึงใครคนนั้น
“ เบื่อจะฟังมึงพูดว่าขอโทษ ให้ดีช่วยเลิกพูดอะไรที่ทำให้ต้องพูดว่าขอโทษน่าจะดีกว่า เพราะกูรำคาญมันเต็มทนแล้ว “

“ อื้ม “ เสียงตอบรับสั้นๆที่ได้ยิน ผมเดินเข้าไปในห้องไม่ได้หันไปสนใจคนที่ยืนอยู่

เจ็บปวดเหมือนกันเพราะถ้ามันสังเกตสักนิด เมดจะรู้ว่าไม่มีอะไรที่มันทำให้แล้วผมไม่ชอบ ก็ชอบทุกอย่างที่เป็นมัน แม้แต่กาแฟเย็นที่มันสั่งให้โดยไม่ถาม พร้อมบอกกับพนักงานว่าขอแบบไม่เข้มเกินไป เพราะรู้ดีว่าผมชอบกินกาแฟรสชาติไหน

   ยิ้มให้แปรงสีฟันของตัวเองที่ถูกบีบยาสีฟันเตรียมไว้ ผมหยิบมันขึ้นมาแปรง ถอนหายใจเลิกขึ้นเรื่องต่างๆ แล้วทำใจด้วยคำพูดที่บอกกับตัวเองบ่อยๆ ‘ มันเพิ่งเลิกกับแฟนก็ไม่แปลที่มันยังรู้สึก ‘ 

   เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูที่ห่อตัวเองอยู่ตรงท่อนล่าง เมดหันมามองผมตอนที่เดินออกมาก่อนจะหันไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง ท่าทางลังเลของมันเหมือนยังตัดสินใจเลือกชุดให้ผมใส่ไม่ได้

“ อยากใส่เสื้อยืดสีขาวหรือว่าเสื้อสีดำวะ “

“ เอาที่มึงชอบ “ บอกมันแค่นั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมาพลางทำเม้มปากแบบขบคิด ผมหยิบกางเกงในมาใส่ เซ็ตผมทรงที่ชอบทำ ฉีดน้ำหอมก่อนจะหันมามองคนที่เลือกเสื้อผ้าให้อีกครั้ง “ มึงจะให้กูไปเดินแฟชั่นวีครึยังไง เอาที่มึงชอบก็แค่หยิบๆมา “

“ มันยากนะมึง มันเป็นแบบที่กูคิดว่ามันดูดีนั่นแหละ แต่กลัวมึงใส่แล้วไม่ชอบไง “ เมดบอกก่อนจะหันมามองผมจริงจัง “ เลือกเองมั้ย จะได้ใส่แบบที่ชอบไง กูเลือกเสื้อผ้าไม่เก่งอะ ไม่มีความมั่นใจด้วย “

“ มึงเก่ง “ ผมย้ำความมั่นใจกับมัน ก็แค่เคยโดนใครคนนึงด่าว่าจนเสียความมั่นใจไปก็เท่านั้น แล้วผมก็อยากจะทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ไม่มีอะไรสักอย่างที่เมดผิด ผมรู้สึกแบบนั้น มันแค่ชอบดูแลคนอื่น วอแวบ้างถามประสาของคนที่มีนิสัยขี้อ้อน เอาใจใส่คนที่ตัวเองรัก จัดแจงทุกอย่างให้เพราะอยากให้เค้ามีความสุขกับการถูกดูแลเอาใจ แต่เพราะทุกอย่างมันเคยมีผลตอบรับที่น่าเศร้า พอมาเริ่มใหม่เมดเลยกลายเป็นคนที่ไม่กล้าทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองเคยดูด่าว่า โดยเฉพาะเรื่องการเลือกเสื้อผ้าให้คนที่ได้ชื่อว่าแฟน “ เลือกมา “ ผมย้ำอีกคนก็ถอนหายใจ

“ เดฟดำนะ “ มันพูดแบบนั้นก่อนจะยื่นให้ “ ส่วนเสื้อ..” ถอนหายใจออกมาก่อนจะเลือกเสื้อทีละตัวจากในตู้ ผมรู้ว่ามันคงเลื่อนเสื้อพวกนั้นไปมามากกว่าสิบรอบแล้ว เมดหันมองผม สลับกับกางเกงที่ผมเอาไปสวมก่อนจะหันมามองเสื้อในตู้

“ เมด “

“ หื้ม ? “ อีกคนหันมามองผมด้วยสีหน้าหนักใจ มันคงกำลังคิดมาก

ใจนึงก็ไม่อยากจะแสดงออกว่าตัวเองกังวลแค่ไหนกับแค่เรื่องเลือกเสื้อผ้า เพราะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากแฟนเก่า มันรู้ว่ายิ่งมันกังวลเท่าไหร่ ผมจะยิ่งเสียใจที่มันเอาแต่คิดถึงคนคนนั้นที่ทำเรื่องแย่ๆกับมัน แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าเลือกไปตามใจตัวเอง มันจะเป็นแบบเดิมอีก แบบไอ้บินที่เคยทำมันเสียใจมาก่อน

“ กูไม่ใช่ไอ้บินนะ “ ผมบอกมันอีกคนนิ่งไป “ เลือกมาเถอะ อยากมีแฟนแต่งตัวแบบไหนก็แค่เลือกมา “

“ อื้ม “ ตอบออกมาแค่นั้นตอนที่เงียบไปอยู่นาน เมดหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่งลายปักยี่ห้อที่อกมาให้ผม “ ไม่ต้องใส่ชายเสื้อไว้ข้างในนะ “

“ ก็แค่นั้น “ คว้าเสื้อตัวที่มันยื่นมาใส่ ผมยกยิ้มก่อนจะขยี้หัวมันจนยุ่ง มันมีบางคำที่เมดคงอยากจะพูด “ ถ้าจะพูดว่าขอโทษ ไม่ต้องพูดแล้ว “

“ ทำไมวะ “

“ มึงไม่ได้ผิดอะไรที่รู้สึกแบบนั้น “ ผมบอกมัน

“ มึงเข้าใจอะไรง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมกูรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเลยวะ “ ปิดประตูเสื้อผ้าเมดที่ยืนอยู่ตรงนั้นมองมาทางผมที่นั่งพิงลงที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะกางมือออก “ นี่กูต้องเดินข้าไปให้กอดเหรอวะ “

“ ถ้าอยากให้กูกอดก็เดินเข้ามา “ คนฟังยกยิ้ม เมดถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาให้ผมกอด “ กูไม่ได้เข้าใจง่าย กูแค่ต้องเข้าใจ ว่ามันต้องเป็นแบบนั้น “

“ ขอบคุณนะมึงที่เข้าใจ “

“ ไม่ต้องขอบคุณ “ เมดดึงตัวเองออกมามองหน้าผมที่พูดแบบนั้น “ เพราะแค่ต้องเข้าใจ กูไม่ได้เข้าใจจริงๆ “

   ผมไม่ได้แสนดีขนาดนั้น ไม่ได้ใจกว้าง เป็นแค่คนนึงที่เห็นแก่ตัวและหวงของ และนี่คือสิ่งผมรู้สึก ผมจะไม่พูดให้เมดรู้สึกดีแต่ผมต้องทนทรมานกับสิ่งที่มันทำ ผมจะพูดในสิ่งที่ผมรู้สึก ผมคิดว่ามันแฟร์กับทั้งผมและก็มัน เมดก็ต้องคิดถึงความรู้สึกผม เหมือนที่ผมกำลังคิดถึงความรู้สึกมัน

...............................................................


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

แวะกินข้าวก่อนจะเข้ามาที่มหาวิทยาลัยของอีกคน เมดนัดเพื่อนไว้ช่วงบ่าย เห็นบอกว่าเป็นรายงานที่ทำไม่ยากแค่ห้าชั่วโมงแบบไม่คุยอะไรกันเลยก็น่าจะเสร็จ แล้วมันเองก็ไม่อยากจะอยู่นานหลายวัน เลยตัดสินใจขอผมเลิกงานเร็วตั้งแต่เมื่อคืน กลับมานอนให้เต็มอิ่มแล้วตื่นมาทำรายงานนี้ให้เสร็จไปเสียที

เรานั่งลงที่โต๊ะตัวที่ว่างตรงหน้าคณะ เมดเปิดคอมตัวเอง ผมก็นั่งลงข้างๆมัน เพื่อนมันยังไม่มา ผมมองไปรอบๆที่วันนี้ดูมีนักศึกษามาน้อยกว่าหลายๆครั้งที่มานั่งรอรับมัน

“ วันนี้คนมันน้อยเพราะส่วนใหญ่คลาสวันเสาร์จะไม่ค่อยมีอะไร “ เมดบอกผมก็หันไปมองหน้ามัน

“ ฉลาดจัง กินแพคดีกรีหรือวิสกัสวะ “ เอื้อมมือไปเกาคางมันอีกคนก็ปัดหลบพร้อมด้วยหน้าตาหงุดหงิดตามฉบับ

“ กูเป็นคนไอ้สัด “

“ เห็นขนนุ่มคิดว่าใช่ “

“ ชมกูอ๋ออารยะ “ อีกคนหันมายกยิ้มมองผมก่อนจะยักคิ้วให้ “ ชมว่าผมกูนิ่มนี่ ชอบดมอะดิ ตอนกลางคืนรู้นะว่าชอบมาแอบหอม “

“ กวนตีนกูจังมิณทร์ จากหมาแมว อยากจะลองเปลี่ยนเป็นเหี้ยมั้ย ยังไงดีครับ “

“ สัด “ มันสถบก่อนจะส่ายหน้าแล้วหันมาทำหน้าจริงจังกับผมเพื่อสอนวิธีเป็นแฟนที่ดีให้กันเหมือนทุกครั้ง “ จริงๆมึงควรพูดว่า ใช่ครับ อารยะชมมิณทร์ไง แบบนี้ “

“ รำคาญ “ ผมบอกมันอีกคนก็จ้องตากลับมาเหมือนกำลังรอให้ผมพูดจาหวานๆกับมันแบบทุกทีที่ชอบทำ แต่ทว่าตอนนี้เพื่อนมันที่นัดไว้กลับเดินเข้ามาก่อน

“ มานานแล้วเหรอวะ “ ถ้าจำไม่ผิดคนที่ชื่อจิงจะเป็นคนเอ่ยทักมันขึ้นมาก่อน ใบหน้าน่ารักที่ยิ้มอย่างใจดีนั่นหันมาทางผมก่อนจะก้มหน้าทักทาย “ สวัสดีครับ “

“ สวัสดีครับ “ ตอบรับกลับไปตามมารยาทแต่พอหันไปข้างๆผมก็เห็นคนข้างตัวปั้นหน้าหงุดหงิดแบบไม่ชอบใจอยู่ แปลจากสายตาคงจะบอกกันว่า ‘ มึงไม่ต้องไปทักมัน ’

“ สวัสดีครับ “ เพื่อนอีกคนมันเอ่ยทัก ผมหันไปมองคนมาใหม่ที่หย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม คนนี้คงชื่อยีนส์ โจกย์เก่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนคนที่แย่งแฟนไปจากมัน หน้าตาก็จัดว่าน่ารักดีแต่คนละสไตส์กับคนข้างๆผม เมดออกแนวน่ารัก มีเสน่ห์ในแบบเด็กๆ ที่ดูหวาน น่ารัก น่าเอ็นดู ชวนให้หมั่นเขี้ยว แต่คนตรงหน้าจะดูน่ารักแบบมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่มากกว่า ถ้าพูดง่ายๆก็คงบอกว่า ‘ ดูร้ายกว่า ’ ก็คงจะไม่ผิดนัก “ ชื่อยีนส์นะ เมื่อก่อนเป็นเพื่อนเมดแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วละ “

“ ไอ้ยีนส์ “ เมื่อคนที่มาด้วยออกปากเตือนแต่อีกคนที่กำลังมองหน้าผมก็แค่ยิ้มแบบไม่สนใจ

“ ส่วนคนที่กำลังบ่นอยู่นี่ ชื่อจิง เป็นอดีตเพื่อนเมดแต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่แล้วเหมือนกัน “ ผมยกยิ้มกับการแนะนำตัวนั้นอีกคนที่ก็ยิ้มกว้างมาให้ “ แล้วชื่ออะไรเหรอ “

“ เสือก “ ไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่เป็นคุณมิณทร์ที่กำลังจ้องเพื่อนมันอย่างไม่พอใจ มือขาวของมันยกขึ้นมาปิดตาผมไว้ ท่าทางที่ชวนให้ยิ้มกว้างกับความหึงหวงแบบน่ารักของมัน เมดพูดกับผมเบาๆ “ กูไม่ให้มอง มึงไม่ต้องไปพูดกับมันนะ “

“ ขี้หวง “ ผมตอบกลับก่อนจะดึงมือมันลง แล้วตอบคนตรงหน้า “ ชื่ออาฟ “

“ เจ้าของผับ throw up “

“ รู้แล้วถามทำไมวะ “ ผมถามกลับคนที่ถามก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ ตามมารยาทไง “  เลิกคิ้วกับคำพูดนั้นผมยิ้มตอบกลับไปให้ก่อนจะเลิกคิ้วไม่ค่อยเข้าใจที่อีกคนพูดเท่าไหร่

“ งั้นเหรอ แต่เท่าที่รู้มา ดูเหมือนไม่ใช่คนมีมารยาทอย่างงั้นเลยวะ “

“ จริงของมึง “ เมดพูดขึ้นก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วหันไปมองเพื่อนมันด้วยสีหน้านิ่งๆ

แววตาที่ดูไม่ชอบใจของมัน จะว่าไปนี่ก็อาจจะเป็นครั้งแรกของมันที่ผมได้เห็นอีกมุมมองนึงที่ไม่เคยเห็น มุมที่ไม่ใช่เด็กขี้หึงขี้หวง มุมที่ไม่ใช่คนน่ารักแสนใจดีที่ใครๆชอบยกให้มันเป็น คนใจดีของ throw up แต่เป็นคนคนนึงที่มีเขี้ยวเล็บ และพร้อมจะร้ายกับสองคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ

“ ไม่รู้ว่าอาฟจะได้ฟังอะไรมา แต่บางทีนะมันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้นะ ทุกอย่างก็ต้องมีหตุผลของมัน “ ยีนส์ยิ้มให้ผมในแววตาที่กำลังเชิญชวนกันนั้น “ ของแบบนี้ บางทีมันต้องลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ “

“ พอเถอะไอ้ยีนส์ “ จิงพูดขึ้นก่อนจะคว้าแขนเพื่อนตัวเองไว้ ส่งแววตาห้ามปรามไปให้คนที่กำลังพูดกับผม ยีนส์ถอนหายใจออกมาแล้วหัวไปทางอื่น “ เรามาเริ่มทำงานกันดีกว่า จะได้เสร็จๆแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน “

ไม่มีเสียงตอบรับอะไร ผมหันไปมองเมดที่กำลังมองเพื่อนมันด้วยสายตาไม่ชอบใจเอามากๆ มือที่วางอยู่บนตักของมันกำกันแน่นเหมือนกำลังอดทนอย่างถึงที่สุด กับคำพูดที่อีกฝ่ายพูดออกมา ทั้งๆที่ปกติถ้าเป็นคนอื่นคงสวนกลับคำพูดนั้นแบบเผ็ดร้อน แต่กลับไม่ใช่คนที่นั่งอยู่ข้างผม เมดคงอยากจะพูดผมรู้ แต่มันแค่ไม่รู้ว่าคำพูดไหนที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ

เพราะเมดไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร เป็นแค่มือใหม่ที่เพิ่งหัดทำตัวให้ร้าย เพราะอีกฝ่ายร้ายกับมันก่อน เหมือนแมวบ้านที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี แต่สุดท้ายเจ้าของเอามาปล่อยทิ้ง มันที่ต้องหัดฉีกเล็บที่เคยถูกตัดอย่างดีเพื่อสู้กลับเพราะแค่ไม่อยากจะให้ใครมาทำร้ายมันอีก และผมเชื่อว่าเมดจะทำงานของมันนิ่งๆ ถ้าอีกฝ่ายนิ่ง แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่ใช่ คนบางคนต่ำตมทางความคิดมากเกินกว่าจะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำอะไรแบบนั้น

เอื้อมมือไปจับมือที่กำลังกำแน่นอยู่นั้น สอดมือเข้าไปจับมันไว้แน่น เมดหันมามองผมก่อนจะออกแรงบีบมือผมกลับเช่นกัน แค่อยากจะบอกให้มันรู้ว่าไม่ต้องหงุดหงิดอะไรขนาดนั้น ผมยังอยู่กับมันตรงนี้ ไม่ได้อยากจะไปไหน คว้ามือถือขึ้นมาสแกนหน้าจอปลดล็อค ก่อนจะพิมพ์เข้าไปในไลน์มัน

[ อย่าทำหน้าเหี้ยอย่างงั้น อยากจะให้เพื่อนสมเพชมึงรึไง อยากให้เพื่อนรู้เหรอว่ามึงเป็นคนปั่นหัวได้ง่ายเพราะเรื่องกลัวใครจะแย่งผัว ]

[ แฟนพอมั้ง ] มันพิมพ์กลับมายิ้มๆ ก่อนจะบีบมือผมไว้แน่นกว่าเดิมแทนความรู้สึกที่ปกติมันจะส่งสติกเกอร์ให้กัน

[ แล้วอย่าลืมเซฟงานที่ทำกันไว้ด้วย เซฟมาให้ครบ เข้าใจมั้ย ]

[ ครับพ่อ ]

   กดล็อคมือถือตัวเองแล้วฝากไว้บนมือของคนที่นั่งข้างๆ ผมหยิบไอแพตตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดเข้าเกมส์ออนไลน์ที่เล่นอยู่ประจำ ผมได้ยินเสียงการแบ่งงานแบบนิ่งๆ ไม่มีการถกเถียงอะไรมากมาย ก่อนที่ต่างฝ่ายจะทำงานของตัวเองไป

“ กินน้ำอะไรหน่อยมั้ย หิวยัง “ เมดหันมาถามผมที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองมันเลย เวลาผ่านไปสักพักใหญ่แล้วแต่มือกับตาของผมก็ยังโฟกัสอยู่กับการเล่นเกมส์ ผมส่ายหน้าก่อนจะได้ยินเสียงคนข้างๆยิ้ม เมดยกมือขึ้นจับที่แก้มผมเหมือนแกล้ง แต่คงทำให้เพื่อนรู้มากกว่า ว่าเราสวีทกันมากเหมือนกัน ทั้งๆที่ความจริงคือถ้ามันหวานมาผมก็แค่กวนตีนกลับ ไร้ความโรแมนติกใดๆ แต่หนนี้คิดว่าควรจะนิ่งไปแล้วกัน ไว้หน้ามันสักหน่อย

“ พูดถึงก็หิวน้ำ ใครเอาอะไรบ้างกูไปซื้อให้ “ จิงผละหน้าออกจากจอคอมของตัวเอง ก่อนจะหันมาถามทุกคน

“ กูเอาโกโก้แก้วนึง “ ยีนส์บอกเพื่อนตัวเอง คนที่กำลังจะลุกก็พยักหน้ารับก่อนจะหันมาหาเมด

“ มึงเอาน้ำอะไรมั้ยเมด “  คนโดนถามส่ายหน้าแบบไม่สนใจอะไรก่อนจะพูดในขณะที่มือก็พิมพ์งานของตัวเองไปเรื่อย

“ ไม่เอาอะ กลัวตาย “

“ งั้นเดี๋ยวกูมา “ พูดออกมาแค่นั้น คนที่เดินไปทิ้งท้ายไว้ด้วยการถอนหายใจเซ็งๆ ผมก้มลงเล่นเกมส์ต่อจนชนะก่อนจะเงยขึ้นมาขยับคอไปมาเพราะความปวดกับการที่ต้องก้มนานเกินไป

“ ปวดคอเหรอ “ ไม่พูดเปล่า เมดเอื้อมมือมานวดเบาๆที่คอให้ มันถามย้ำอีกครั้ง “ มึงจะกินอะไรหน่อยมั้ย คาราเมลมัคคิอาโต้สักแก้วเป็นไง ขนมสักชิ้น “

“ มึงนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ “ เสียงของยีนส์ที่คงมองดูผมกับเมดอยู่นานแล้วเอ่ยถามขึ้น “ ชอบดูแลคนอื่นยังไงก็ชอบดูแลแบบนั้น “

“ แล้วเสือกอะไรมึงด้วยวะ “

“ มึงจะขี้ยั๊วะ ขี้หวงไปถึงไหนวะ กูก็แค่ชวนคุย “ อีกคนย้ำเหมือนว่าคนฟังเป็นคนปัญญาอ่อน ไม่ก็พวกแยกแยะไม่ออกสิ่งที่อีกคนพูดเป็นเพียงคำถามหรือการปั่นหัวให้เสียอารมณ์

“ กูไม่ได้อยากจะคุยกับมึง “ อีกฝ่ายยกยิ้ม

“ เหมือนกันนั่นแหละ แต่ก็แค่อยากจะเตือน “ ยีนส์บอกก่อนยกยิ้ม “ มึงรู้มั้ยบางทีการดูแลของมึงมันก็มากไปนะ เคยมีคนคนนึงมาบ่นให้กูฟังว่า มึงแม่งเป็นคนเยอะ เยอะจนเค้ารู้สึกรำคาญอะเมด “ สองสายตาที่สบกันถ้าเป็นการ์ตูนสักเรื่องที่ผมเคยอ่านตอนม.ปลาย เหตุการณ์ตอนนี้คงถูกวาดให้มีสายฟ้าฟาดลงมาระหว่างคนทั้งสองคน

“ กูไม่ได้อยากรู้ “

“ แค่เตือน “ ยีนส์ย้ำจุดประสงค์ไม่จริงของตัวเอง “ ถามจริงไม่กลัวแฟนใหม่รำคาญบ้างเหรอวะ ปรับปรุงตัวเองได้แล้วมั้ง เดี๋ยวก็ซ้ำรอยเดิมหรอก “

“ กูไม่รำคาญนะ “ ผมพูดตอบอีกคน ตอนที่หันไปมองเมดที่กำลังโกรธจนตาแดง ผมยิ้มให้มันก่อนจะหันไปยิ้มให้คนที่อยู่ตรงหน้า

สายตาที่ดูมั่นใจของยีนส์ มันคงคิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรกับไอ้เมดก็ได้ จะปล่อยนิ่งเฉยไม่ทำอะไรก็ได้ หรือจะทำให้อีกคนแค้นแบบสุดๆ หรือเสียใจแบบสุดๆ มันก็ทำได้ และนั่นก็ไม่ผิดหรอก เมดกำลังเป็นแบบนั้น กำลังแค้นแบบสุดๆ เพราะมันยังคงหวั่นไหวและเจ็บปวดกับเรื่องพวกนั้นอยู่ แล้วเพื่อนที่รู้จักกันมานานแบบยีนส์ก็คงรู้ว่าสิ่งที่เมดเป็นก็แค่คนที่พยายามจะเข้มแข็งก็เท่านั้น

การทำศึก ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าคู่ต่อสีรู้จุดอ่อน ก็มีแค่แพ้กับแพ้

“ ไม่รำคาญจริงอะ “ อีกฝ่ายถามย้ำ ผมก็พยักหน้ารับแล้วหันไปมองคนข้างๆอีกครั้ง

“ กูชอบกาแฟที่มึงชงให้กินทุกเช้าเลยนะ “ ผมยิ้มบอกมัน “ ขนมปังที่มึงปิ้งแล้วทาแยมก็อร่อยทุกแผ่น กูชอบเวลามึงเช็ดตะเกียบกับช้อนให้ ชอบวันที่มึงยืนเลือกแก้วใส่กาแฟของเราที่ต้องมีลายคู่กันเป็นชั่วโมงเพราะไม่รู้ว่ากูชอบสีโทนไหน ชอบแปรงสีฟันที่มึงบีบยาสีฟันทิ้งเอาไว้ให้ในห้องน้ำ ชอบเวลามึงคิดหนักกับเสื้อผ้าของกูที่เวลาต้องเลือกให้  “  เอื้อมมือขึ้นลูบหัวมัน

คนที่กำลังพูดความจริงออกมาตรงๆแบบนี้ดูไม่เหมือนคนอย่างผมสักเท่าไหร่เลย การกระทำที่แสดงอยู่ตอนนี้ก็ด้วย เพราะถนัดมากกว่ากับการกวนตีนมัน แต่ที่ต้องเป็นแบบนี้คงเพราผมแค่อยากจะปกป้องมันเอาไว้ ปกป้องความรู้สึกของมันที่กำลังโดยทำร้ายโดยคนที่รู้จักจุดอ่อนของมันดี ว่าเมดอ่อนไหวกับเรื่องไหน “ กูไม่รู้ว่าคนอื่นมองยังไง แต่สำหรับกู กูชอบนะ มึงแคร์แค่คนที่มึงทำให้แบบกูก็พอ ถ้ากูชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน “

“ โคตรเท่ห์เลยวะ “ ยีนส์บอกก่อนจะยิ้มกว้างแล้วจ้องผมอยู่แบบนั้น ผมที่จ้องมันกลับอีกฝ่ายก็พูดออกมาสั้นๆตอนที่เราสบตากัน  “ ชอบ “

“ คุยอะไรกันอยู่วะ “ จิงที่เดินออกไปซื้อน้ำเดินมาถึงพอดี มันที่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรและยังไม่ทันนั่งด้วยซ้ำ แต่โกโก้เย็นแก้วที่ถือมากลับถูกแย่งไปด้วยฝีมือเมดที่ยืนขึ้นด้วยความโกรธแบบทนไม่ไหวและด้วยความรวดเร็วแบบที่ไม่มีใครคาดคิด แก้วนั้นถูกเปิดฝาออกก่อนจะสาดใส่ยีนส์แบบเต็มๆหน้า

   ทั้งน้ำแข็งทั้งน้ำปะทะใบหน้าของอีกคนอย่างจัง ไม่มีเสียงโวยวาย เงียบอยู่สักพักด้วยซ้ำก่อนที่ยีนส์จะได้สติมันลุกขึ้นยืนมองหน้าอดีตเพื่อนตัวองที่ก็คงไม่คิดว่าจะกล้าทำอะไรแบบนั้น เมดยืนมองเพื่อนมันนิ่งๆ หายใจเข้าออกเร็วๆแบบคนไม่เคยคิดเหมือนกันว่าชีวิตนึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ มือที่กำแก้วจนบิดงอไร้รูปร่าง ก่อนจะถามเสียงนิ่ง

“ ได้สติขึ้นมาบ้างมั้ย “

“ มึงเกินไปแล้วนะไอ้เมด “ ยีนส์พูดแบบนั้นก่อนจะปัดมือไปตามเสื้อของตัวเอง

“ มึงจะเอายังไงกับกูว่ามาเลยดีกว่า กูนิ่งแล้วนะยีนส์ เงียบแล้วด้วย แต่มึงพยายามจะหาเรื่องกูเองนะ “

“ คิดไปเองรึเปล่า มึงดูร้อนๆนะกูวะ “

“ อะไรกันวะเนี้ย “ จิงถามเพื่อนทั้งสองคน มันมองทั้งคู่สลับกันไปมา เมดหายใจเร็วขึ้นมันมองยีนส์ไม่วางตาด้วยความโกรธ และอีกฝ่ายก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น แต่แค่ชั่วโมงบินของยีนส์กับเรื่องแบบนี้คงสูงกว่าก็เลยตั้งสติได้เร็วกว่า

“ มึงร้อนตัวมากไปมั้ย คิดว่ากูต้องอยากจะได้ผัวมึงทุกคนจนตัวสั่นเลยรึไง “ ยีนส์ถามก่อนจะยกยิ้ม “ จะบอกอะไรให้มึงรู้ไว้นะ ผัวมึงตังหากที่อยากได้กูเพราะว่ามึงมันจืดชืดแล้วก็ไร้อารมณ์ไง มึงแม่งน่าเบื่ออะเมดจำไว้ “ คำสุดท้ายที่ถูกย้ำทำให้แววตาของเมดเปลี่ยนไปเหมือนความเสียใจวิ่งเข้ามาแทนที่ความโกรธสำหรับสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อน

“ ไอ้เชี้ยยีนส์! หยุด!”

“ กูไม่หยุด! กูจะพูดให้หมดเลยวันนี้ “ คนที่โดนสาดน้ำหันไปบอกเพื่อนตัวเองก่อนจะหันมามองเมดที่ยืนอยู่นิ่งๆอีกครั้ง “ มึงจำคำกูไว้นะเมด บางทีความแสนดีมันก็น่าเบื่อ บินทิ้งมึงมาหากูก็เพราะเรื่องนี้แหละ มึงมันน่าเบื่อเกินไป ตอนแรกกูก็จะไม่พูดแล้ว ไม่อยากจะทำร้ายมึง ไอ้จิงเองก็ขอไว้เหมือนกัน ก็เลยไม่อยากซ้ำเติมมึง “

“ ยีนส์..” จิงส่ายหน้า มันที่พยายามหยุดเพื่อนแต่ทว่าคนที่จะพูดก็แค่สะบัดตัวออกห่าง

“ มึงแม่งน่าหมั่นไส้มากอะเมด รู้ตัวบ้างมั้ย ยิ่งตอนที่รู้ว่ากูนอนกับไอ้บิน มึงหายหัวไปก่อนจะกลับมาด้วยท่าทางแบบทำหน้าเชิดไม่สนใจอะไร ควงผัวใหม่ที่ภาษีดีกว่า แสร้งทำเป็นรักกันมาก ทั้งๆที่ในใจก็เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว มึงเห็นพวกกูเหมือนอากาศ คิดว่าตัวเองอยู่สูงมากนักรึไงวะ คิดว่าชนะแล้วงั้นสิ “ อีกคนเอียงหน้าถาม “ ตอนคบบิน มึงรู้ว่ามันมีเล็กมีน้อยแต่ก็ยังทำเริ่ดทำเชิด หน้าชื่นอกตม มึงคิดว่าตัวเองดีเฟอเฟ็ค หน้าตาก็ดี เรียนก็เก่ง นิสัยดี ชอบดูแลแฟน มึงคงสินะว่าตัวเองดีขนาดนี้แฟนจะทิ้งไปเลือกคนอื่นได้ยังไง แต่จำไว้นะ มึงแม่งได้ชูคออยู่แค่นั้นแหละ แล้วก็เป็นได้แค่นั้นด้วย ไม่มีวันจะได้มากกว่านั้น “

“ ไอ้ยีนส์พอเถอะ มึงจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมาวะ “

“ ให้มันตาสว่างไง ให้มันได้รู้ว่าที่มันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวมันนั่นแหละ ไม่ใช่เพราะคนอื่นเลย มันที่เป็นคนน่าเบื่อ มันที่เหมือนของใช้การไม่ได้ ดูเหมือนมีค่านะ แต่ก็ไร้ค่า บินมองมึงเป็นแค่ของน่าเบื่อไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้นจำไว้ “ ยักคิ้วให้อีกคนที่ยืนฟังแบบไม่โต้เถียงอะไร ผมหันไปมองเมด คิดว่ามันคงพูดออะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ ราวกับว่าตัวมันก็ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นแบบนั้น แบบที่เพื่อนมันพูด
 “ แล้วกูถามจริงเถอะ ที่มึงหวงกูกับไอ้อาฟแฟนใหม่มึงเนี้ย มันเพราะอะไรกันแน่วะ  หรือเพราะว่ามึงก็รู้ตัวดีว่ามึงน่ะมันน่าเบื่อ เจ้ากี้เจ้าการ  มึงเองก็คงคิดสินะว่าสักวันไอ้อาฟแม่งก็ต้องเหมือนไอ้บินที่ทิ้งมึงไปนั่นแหละ ทิ้งไปไปเจอใครสักคนที่ดีกว่า คนที่ไม่ทำให้มันเบื่อเหมือนมึง ให้กูเดาตอนนี้มึงก็คงไม่กล้าทำอะไรที่เคยทำกับไอ้บินให้ไอ้อาฟ เพราะกลัวว่ามันจะซ้ำรอยเดิม ”

“ ไปกินบะหมี่หมูตุ๋นมั้ย “ ผมยืนขึ้นก่อนบิดขี้เกียจ หันไปถามเมดที่หันมามองผมด้วยสายตางงๆ  “ โตเกียว เครป หรืออยากจะกินโรตี “ ไม่มีเสียงตอบรับของคนที่หันมามองกัน หันไปมองยีนส์ที่ขมวดคิ้วกับสิ่งที่ผมพูดเหมือนอยู่ๆก็เปลี่ยนไปแบบฉับพลัน ผมยกยิ้มให้มันก่อนจะดึงตัวเองไปกระซิบข้างหูของอีกคน “ ยังไงก็ต้องขอบคุณที่เอาไอ้เหี้ยนั่นออกไปจากชีวิตไอ้เมดนะ แต่ว่ากูอยากเตือนอะไรมึงสักอย่าง ตัวเหี้ยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มึงครอบครองไว้คนเดียวไม่ได้นะ จำไว้ “

“ คิดว่าไอ้เมดมันรักมึงรึไง “ ยีนส์ถามผมตอนที่ดึงตัวเองออกห่างมัน สายตาที่กำลังโกรธของมัน ผมยกยิ้ม “ แต่ก็คงไม่ได้รักหรอก เพราะถ้ารัก เมดก็คงมั่นใจในตัวแฟนตัวเองมากกว่านี้ แต่นี่ดูไม่มั่นใจอะไรเลย “ อีกฝ่ายยกยิ้มให้ผมกลับ ก่อนจะหันไปมองเมดอีกครั้ง “ ได้ข่าวว่าแค่คบกันดามใจไม่ใช่เหรอ ยังไงตอนนี้มึงก็รักไอ้บินอยู่ดีนั่นแหละ เพราะแม้แต่ วินาทีนี้มึงก็ยังเจ็บปวดกับเรื่องของมัน มึงก็ยังคิดถึงมันอยู่ ในหัวใจมึงก็มีแค่มัน แค่ไอ้บินเท่านั้น ไม่มีไอ้อาฟสักนิด แต่ว่าเสียใจด้วยนะเมด บินมันรักกูว่ะ “

“ ถ้ามึงคิดว่าขี้มีค่า ก็เอาไปเถอะยีนส์ กูยกให้ “

   ก้มลงปิดหน้าจอคอมของตัวเองมันดึงเอาทุกอย่างขึ้นมาถือก่อนจะคว้าข้อมือผมแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น หัวใจของเมดคงแตกยับ ถ้าเป็นแผลตอนนี้ก็คงโดนเพื่อนสนิทคนเดิมขูดย้ำซ้ำแผลนั้นจนเลือดซิบอีกครั้ง

ผมเปิดประตูออก เอาของที่ถือมาใส่ไว้เบาะหลังคนขับเมดเองก็ด้วย เราเข้าไปนั่งในรถพร้อมกันแบบเงียบๆ ไม่ได้มีใครพูดอะไรออกมา ราวกับว่าคนข้างผมกำลังจมอยู่กับคำพูดของเพื่อนที่ตะโกนด่ามันเมื่อครู่

เมดคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้น แบบที่เพื่อนของมันพูดทั้งหมด ทั้งน่าเบื่อและใช้การอะไรไม่ได้เป็นของไร้ค่าสักชิ้น ที่มีไว้แค่ประดับแต่ไม่ได้มีไว้ให้ความรัก

ขับรถออกมาจากมหาลัยของมัน บรรยากาศเงียบเชียบภายในรถแต่ผมกลับไม่ได้อยากจะเปิดเพลง พยายามหันไปมองมันเป็นระยะ แต่อีกฝ่ายกลับแค่มองออกไปนอกหน้าต่างเพียงท่านั้น เมดกำลังเศร้า เศร้าในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับผม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรักของเรา มันเศร้าเพราะเรื่องในอดีต อดีตที่มันยังรักและยังเสียใจ

“ กูว่ามันก็จริงนะที่ยีนส์พูด “ เมดพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบในตอนที่เรากำลังติดไฟแดงอยู่ที่แยกหนึ่ง “ กูเป็นคนน่าเบื่อ ไม่ชอบออกไปไหน เมื่อก่อนเวลาบินชวนกูไปไหนกูจะแค่ปล่อยให้มันไปแล้วตัวกูก็กลับมาที่ห้อง กลับมาดูหนังลาโรงบ้าง ทำความสะอาดบ้าง สิ่งที่กูชอบคือกูชอบดูแลแฟน มันมีหลายๆคำพูดที่กูชอบบอกกับบิน ผมยาวแล้วนะไปตัดผมสิ เสื้อตัวนี้สวยนะใส่แล้วคงเท่ห์มึงลองใส่สิ อาหารอันนี้น่าจะอร่อยนะไปลองกินกันมั้ย “ เมดเว้นเสียงไปมันร้องไห้ออกมาทั้งๆที่ตัวเองก็พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะกลั้นมันไว้

“  ทุกเช้ากูชอบตื่นนอนก่อน ชอบตื่นขึ้นมาทำนู้นทำนี่เตรียมไว้ให้มัน เหมือนในหนังรักที่กูชอบดู หนังรักที่คนมีความรักดีๆเค้าทำให้กัน ..กูคิด  คิดว่าตัวกูดีแล้ว แต่ก็อย่างที่ยีนส์บอก กูมันน่าเบื่อ บินไม่ชอบอยู่บ้านแบบกู มันชอบออกไปสังสรรค์แล้วก็มีเพื่อนเยอะๆ เราไม่เหมือนกันก็จริง แต่กูคิดมาตลอดว่า ถ้ากูเป็นคนดี บินก็ต้องไม่ไปไหน แต่มันไม่ใช่เลย “ เมดยิ้มทั้งน้ำตา “ ทั้งๆที่กูเป็นห่วงแต่มันกลับกลายเป็นว่ากูจุ้นจ้านมากเกินไป มันคงน่าเบื่อเนอะมึง ที่พอตื่นขึ้นมาก็จะเห็นอาหารที่กูจัดไว้ให้ แบบไม่ได้ถาม คงรู้สึกแย่น่าดูที่ทั้งๆอยากจะใส่เสื้อสีขาวแต่กูกลับจัดเสื้อสีดำไว้ให้ มันคงหงุดหงิดมากๆเลยในตอนนั้น จะว่าไปกูแม่งไม่มีอะไรดีเลยว่ะ เป็นแค่คนที่ทั้งน่ารำคาญแล้วก็น่าเบื่อเลยมึงว่ามั้ย “
 
“ ไม่รู้สิ “ ผมตอบอีกคนเบาๆในตอนที่บีบพวงมาลัยรถที่ขับไว้แน่น มันเจ็บที่เห็นเค้าร้องไห้เพราะคนในอดีต ทั้งๆที่ก็มีเราเป็นปัจจุบัน และมันก็ยิ่งเจ็บที่ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหนเค้าก็ยังเสียใจกับเรื่องนั้น

ถ้าหัวใจของเมดเป็นแก้ว ก็คงมีน้ำหลงเหลืออยู่เกือบเต็มแก้วนั้น และไม่ว่าผมจะพยายามใส่อะไรลงไปเท่าไหร่ ทำดีแค่ไหน น้ำที่มีอยู่เดิม ความเสียใจที่มีอยู่เดิมในแก้วนั้น มันก็หลอมละลายสิ่งที่ตัวผมเติมไปให้หายไปอยู่ดี และไม่ว่าจะพยายามใส่เท่าไหร่ก็เป็นแบบนั้น ตราบใดที่ยังมีน้ำเก่าอยู่เกือบเต็มแก้ว ทุกอย่างที่เติมไปมันก็เท่ากับศูนย์อยู่ดี
 
ถอนหายใจออกมา ผมหันไปเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมานั้นไว้  ก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้าอีกครั้ง บนเส้นถนนในช่วงบ่ายที่รถติด

มันไม่มีรถคันไหนได้เคลื่อนตัวไปหรอก เราทุกคนก็ติดอยู่ด้วยกันตรงนี้ เหมือนกับเมดที่ติดอยู่ในความรู้สึกเสียใจของอดีตที่เคยทั้งรักทุ่มเท ส่วนผมเองไม่ว่าจะพยายามดึงมันออกมาจากตรงนั้นสักเท่าไหร่ เมดก็ยังติดอยู่กับมันไม่ยอมไปไหน จนบางทีผมก็คิดว่า ไม่รู้ที่บอกว่าจะพยายามลืม.. อีกฝ่ายพยายามแต่ปากรึเปล่า

“ กูรู้แค่ว่า กูยิ้มทุกเช้าตอนที่หันมาเห็นหน้ามึงนอนอยู่ข้างๆ แล้วกูจะยิ้มกว้างขึ้นไปอีกก็ตอนที่เห็นมึงยืนอยู่ในครัวแล้วกำลังชงกาแฟกับทำขนมปังให้กูกิน กูหยุดยิ้มไม่ได้กับยาสีฟันที่ถูกบีบไว้บนแปรงสีฟันของกู แล้วกูก็ชอบชุดทุกชุดที่มึงเลือกให้กูใส่ กูอยากจะให้มึงจัดให้กูทุกวันเหมือนกับชุดนี้ที่กูใส่อยู่ตอนนี้ กูชอบเวลาที่มึงสั่งกาแฟให้กูโดยไม่ต้องถาม ชอบเวลาที่มึงเช็ดตะเกียบกับช้อนมาให้เวลาที่เราไปกินบะหมี่หมูตุ๋นด้วยกัน กูชอบเวลาที่มึงหันมามองกูแล้วคิดอยู่ตลอดว่ามีอะไรบ้างที่มึงต้องทำให้กู มีอะไรบ้างที่กูชอบ แล้วก็มีอะไรบ้างที่กูไม่ชอบ กูชอบที่มึงจดจำทุกอย่างของกูได้ ชอบทุกวินาทีที่มึงคิดถึงแค่กู “

‘ ทุกอย่างต้องใช้เวลา เค้าเพิ่งเลิกกับแฟนมาเราต้องเข้าใจ ’  คำพูดที่กรอกหูผมอยู่ตลอดเวลา ผมพูดกับตัวเองด้วยคำนี้ซ้ำไปมาราวกับกดเครื่องเล่นเพลงให้เล่นมาซ้ำๆ

แต่บางที

ใครจะรู้บ้างว่าผมไม่ได้อยากจะเข้าใจมันหรอก .. คนเราแม่งต้องยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่ทำให้เราต้องเจ็บปวดด้วยเหรอวะ

 “ อาฟ “

“ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงไม่ชอบมึง กูไม่รู้ว่าทำไมเค้าเบื่อมึง เพราะกูมีความสุขกับสิ่งที่มึงทำให้ทุกวัน และไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้น “
ผมถอนหายใจออกมา ก้มหน้าลงกับพวงมาลัยรถยนต์ที่อยู่เบื้องหน้า

 ผมเจ็บ  แต่ก็ทำได้แค่กัดฟันตัวเองทนเอาไว้ แล้วพูดสิ่งที่ทำให้รู้สึกเจ็บยิ่งกว่า นั่นความจริงที่ทั้งผมทั้งเมดก็รู้ดี “ แต่ว่ามึงคงไม่ได้สนใจหรอกมั้ง ว่ากูชอบในสิ่งที่มึงทำให้กูมากแค่ไหน เพราะว่าไม่ว่ายังไงในหัวใจมึงก็ยังสนใจแค่เค้าคนนั้น เค้าที่ไม่ได้ชอบอะไรในสิ่งที่มึงทำให้เลยสักอย่าง แต่มึงก็ยังคิดถึงเค้า “ ผมยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะถอนหายใจ

“ มึงยังเจ็บอยู่กับอดีตเมด กูเข้าใจ แต่กูก็เจ็บอยู่กับปัจจุบันเหมือนกัน ปัจจุบันที่กูรู้สึกว่า มึงไม่ได้มีกูอยู่ในหัวใจเลย แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมี  “


มันน่าเจ็บปวด ที่กูไม่ได้เป็นแม้แต่คนที่ควบคุมความรู้สึกของมึง
ไม่ว่าจะทั้งความสุขหรือความทุกข์ .. กูที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับความรู้สึกของมึงเลยสักอย่างเดียว


..........................................................

เป็นตอนที่เขียนยากมากกกกกกก ยากแบบ คือ ต้องเขียนอาฟที่เข้าใจว่าตัวเองต้องเจ็บปวด ทั้งๆที่ไม่อยากจะเข้าใจ ขัดกับนิสัยของตัวพี่อาฟมาก ปากบอกกูจะไม่ทนนะ แต่ตัดพ้อเมดเต็มที่มากด้วยความเจ็บปวดที่ตัวเองยังรักอีกคน เป็นความรักที่ทำอะไรไม่เลย ยกเว้นจะต้องเข้าใจ มันเท่านั้น #เอามือจับอกสงสารพี่อาฟ แต่ก็สงสารเมดด้วย คือเมดก็ไม่ผิดไง มันต้องเจ็บปวดอะ โดนซ้ำแผลไปอีก  แต่นั่นแหละ ความรู้สึกที่ยังเจ็บกับอดีต บางทีก็ทำร้ายปัจจุบันไง

เจอกันตอนหน้า ขอไปตั้งสติต่อสู้กับตอนต่อไป
และสำหรับตอนนี้ ฝากเม้นท์และ แท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

 :katai2-1: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 :mew4: :mew4:

สงสารเมดนะกับทุกเรื่องที่เจอมา เพื่อนแย่ๆ ผัวเหี้ยๆ  แต่เมดคงลืมคืดถึงแฟนปัจจุบัน คนที่คอยมองดูเมดอยู่ใกล้ๆแบบอาฟ


 :hao5: :hao5: :hao5:   

งื้ออออ..สงสารอาฟสุดใจ  นี่ถ้าไม่ติดว่าเอ็นดูเมดนะจะขอดามใจพี่แกเอง

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
โหหห อยากวิ่งไปตบยีนส์ซักฉาด นี่เคยเป็นเพื่อนกันแน่หรา แสดงว่าอิจฉาเมดมาตลอดเลยป่ะไม่งั้นมีเหตุผลอะไรต้องทำกับเพื่อนขนาดนี้วะ :fire:

เห็นใจทั้งเมดและอาฟนะ คนเคยเจ็บก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา อดทนอีกนิดนะอาฟ :กอด1:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อยากตบยีนส์ให้ตายคามือ  :katai1:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


อาฟคุยอย่างเปิดอกกันเลย.

เมดจะได้เข้าใจและคิดใหม่ทำใหม่

ให้ปัจจุบันและอนาคตได้สิ่งที่ดีและสวยงามนะ


……

 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:




ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยังไงคนลักกินขโมยกินมันก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดอยู่ดี เอาอกเอาใจเป็นคนแสนดี=น่าเบื่อ เจ้าชู้ ลักกินขโมยกินไปทั่ว=น่าค้นหา?

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารเมด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทุกคนเจ็บปวดหมดแหละ

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสารเมดนะ อาฟอาจจะผิดที่เร่งรัดขอเป็นแฟนมากเกินไป
แต่เมดก็อ่อนแอเกินไป ยึดติดอดีตแต่ก็ห่วงอนาคต มันจะไม่เหลือสักทางนะ  (=TェT=)

ปล.อยากตบยีนส์ ก็ไม่น่าเชื่อจะเป็นเพื่อนกันมานานขนาดนี้ แต่อีกทีก็ไม่แปลกใจก็เอาแฟนเพื่อนลับหลังมาได้ตั้งหลายปี   :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2018 22:15:29 โดย chaotic69 »

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เอาจริงๆนะ เราเริ่มรำคาญเมดอะ ดูโง่มากจริงๆ อ่านแล้วขัดใจมาก ไม่แปลกที่เพื่อนจะเกลียดขนาดนี้ หรือแฟนจะนอกใจ แต่เอาเข้าจริง นิยายส่วนใหญ่หาตัวเอกฉลาดๆแบบทันกันทั้งคู่ไม่ค่อยมี มีแต่โง่มาก โง่น้อย ตอนนี้ให้เป็นตอนของยีนส์เลย เอาง่ายๆ คิดว่ายีนส์มันก็คงเก็บกดแหละ แล้วก็เกลียดมานาน เลยเป็นซะอย่างนี้ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สงสาร ก็ สงสาร แต่ก็รำคาญ เมด ทำไงดีว้า

คบกันมานาน พอเลิก ก็ลืมไม่ได้ อ่ะก็จริง แต่เอทตัวเองยึดติด

กับอดีตที่มันกลับไปทำอะไรไม่ได้ป่ะวะ ขึ้นอยู่กับ อาฟ และ ก็เมดและจะเอาไงต่อ

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
คนแบบยีนส์ไม่มีทางรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ เพราะสันดานฝ่ายต่ำจะย้ำอยู่เสมอว่าตัวมีเสน่ห์กว่าใครตามคำป้อยอคำรักที่ก็ยึดเหมือนกันกับเมด เพียงแต่เมดเชื่อในความรักดีๆ เชื่อว่าความดีจะชนะใจ แต่ยีนส์เชื่อในเสน่ห์ ในความหลงใหล และเซ็กซ์ ซึ่งคนไม่รู้จักพอยังไงเขาก็ไม่พอและมีข้ออ้างเสมอ
คนแบบจิงเป็นคนไหลตามน้ำ อะไรได้หมด ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรมากมาย แค่ตัวเองได้ประโยชน์เป็นพอ...ก็ศีลเสมอกันกับฝั่งที่เขาเลือกมาตั้งแต่ต้นดีนะ

ชอบที่อาฟไม่ได้อดทนจนไม่พูดว่าเราไม่โอเค อธิบายตามจริง หวังว่าเมดจะคิดได้ว่าจะปรับยังไง...ทุกคนเข้าใจเรื่องเปรียบเทียบ ทั้งพี่-น้อง เพื่อน กระทั่งคนงานเก่า-ใหม่ ยังไงก็โดน เพียงแค่เปิดใจคุยและปรับตัว เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คนจะเหี้ย ยังไงก็ฉุดไม่อยู่
เมดควรจะตอกกลับไปเลย
และปล่อยอดีตได้แล้ว มันไร้ค่ามากนะ ถ้าเราเอาความรู้สึกต่างๆของเรา ไปให้ตัวเหี้ยมันย่ำยีอ่ะ อารมณ์โกรธ เกลียด แค้น ไม่ชอบใจ เราต้องจะไม่ยกให้มัน
 :katai4: :katai4:

แคร์คนที่อยู่กับเราในปัจจุบันดีกว่านะ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
เอาใจช่วยอาฟ เอาใจช่วยเมด
ต้องผ่านไปได้แน่ๆ ช่วยกันนะ
ความจริงที่ทั้งสองต้องยอมรับ
แล้วสร้างอะไรก็ตามที่เป็นเฉพาะของอาฟเมด
ไม่นาน เราเชื่อแบบนั้น ...
#รัก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ภาวนาให้เมดกับอาฟ ก้าวข้ามเรื่องดราม่าไปได้ด้วยดีเถอะ พลีสสส~

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
รู้สึกตัวซักทีนะ เมด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนอย่างยีนส์ มันน่าเอาไปฝังเนอะ  :katai1:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เฮียอาฟผู้น่าสงสาร ถ้าเมดรู้ว่าเจ้าของนมช็อคฯ ตัวจริงเป็นใคร จะเจ็บน้อยลงหรือว่ามากขึ้นนะ เพราะคนที่ตกหลุมรักคือคนที่ให้นมช็อคตัวเองมาตลอด แค่มีโจรมาแอบอ้างแล้วขโมยความรู้สึกไปหน้าด้านๆ เท่านั้นเอง

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ไม่เคยเกลียดตัวร้ายเรื่องไหน เท่าเรื่องนี้เลยจริงๆ
สารเลวมากอิยีนส์ รีบๆ โดนไอ้เหี้ยบินเขี่ยทิ้งเหอะ

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
แอบสงสารอาฟ ทำไมเปนคนดีอย่างนี้ สู้ๆนะ
ขอเวลาให้เมดนิดนึง ฮือออออ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
รู้สึกว่าตอนนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคืออาฟนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดราม่า..

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
สงสารทั้ง 2 คน เมดเองก็เพิ่งเลิกกับบินแล้วยังต้องมาเจอยีนส์พูดปั่น จะให้ลืมเร็วๆ หรือเลิกคิดเลิกเจ็บเพราะบินทันทีคงไม่ได้
อาฟเองก็อยากให้เมดเลิกเจ็บเลิกคิดเรื่องบินเร็วๆ  แต่ความคิดมันห้ามยากนะ  :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
4 ปีนะ มันนาน
อดทน เท่าที่ทำได้เถอะ ถ้าไม่ไหวก็คือไม่ไหว

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เริ่มรำคาญเมดล่ะ เพราะไม่ชอบเท่าไรที่นายเอกดูโง่ ไม่ทันคน

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
แย่งผัวเค้า ยังกล้ามีหน้ามาว่าเค้า
คนเราบางคนนี่ก็ ต่ำตม ทางความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด