( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485144 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เขาดูแลกันดีเนอะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เขาหยอกกันได้น่ารักจัง รำยีนส์อ่ะ

 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนนี้มีความสะใจ กับอดีตเพื่อนรักของเมดมาก ทำตัวน่ารังเกียจมาก

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หึ ก็เห็นนิสัยจริงๆของยีนส์แล้วก็คิดว่า เออ เลิกแอ๊บว่าใสซื่อ คนดีได้แล้วเนาะ นอนกะผ.เพื่อนก็ไม่มีทางนิสัยอยู่แล้วอ่ะจ้า
ดีใจที่เมดตอกหน้าได้สะใจดี จบงานนี้แล้วก็ขอให้เมดหลุดพ้นจากพวกเลวๆนี่นะ

พิอาฟคนซึนของน้องงงงงงงง น่ารักเหลือเกิน
อยากขอแบบนี้อีกสักคนมาให้เรา งื้อ

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หึ ก็เห็นนิสัยจริงๆของยีนส์แล้วก็คิดว่า เออ เลิกแอ๊บว่าใสซื่อ คนดีได้แล้วเนาะ นอนกะผ.เพื่อนก็ไม่มีทางนิสัยดีอยู่แล้วอ่ะจ้า
ดีใจที่เมดตอกหน้าได้สะใจดี จบงานนี้แล้วก็ขอให้เมดหลุดพ้นจากพวกเลวๆนี่นะ

พิอาฟคนซึนของน้องงงงงงงง น่ารักเหลือเกิน
อยากขอแบบนี้อีกสักคนมาให้เรา งื้อ

ออฟไลน์ Ampaiem33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สรุปวันนี้ไม่ได้เรียนเลยจ้า :laugh: :laugh: ชอบตอนเมดคุยกับวิวเม้าส์เมามันมาก พี่อาฟคือผัวแห่งชาติที่ปากหมาไปหน่อยแต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ :กอด1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ทำไมด้านจังวะ ทั้งยีนส์ กะ จิง ต้องทำมาขนาดไหนถึงได้

มีความหนาระดับนี้ กราบเทอจิง ๆ คอนกรีตราดทับด้วยยางมะตอย

ว่าหนาแล้ว ยังไม่ด้านเท่าหน้า 2 คนนี้

ส่วนด้านข้าวใหม่ นั้น โนคอมจ้าาาา เหม็นกลิ่นความรัก

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ตอนที่ 22

ตัดสินใจวนรถกลับเข้ามาจอดที่หน้าคณะของอีกคน หลังจากได้รับคำสั่งก่อนจะลงไปว่า ‘ จะไปไหนต่อกได้ แต่ถึงแล้วก็ส่งข้อความมาบอกด้วยนะ อ้อ แล้วก็อย่าตอบข้อความใครตอนขับรถละ ’ ผมไม่ได้พยักหน้ารับตอบกลับอีกคนนี่สั่งแบบยิ้มๆก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป แต่ทำทีเป็นขับรถออกไปจากหน้าคณะของมันแล้วสุดท้ายก็วนกลับมาจอดที่ลานจอดเหมือนเดิม ‘ ก็แค่เบื่อกับรถติด ก็เลยนั่งรอ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายกว่านั้น ’ แล้วนี่มันก็เป็นข้ออ้างที่ผมบอกกับตัวเองในตอนที่เดินลงมาจากรถ

ช่วงนี้การขับรถแล้วต้องเผชิญกับปัญหารถติดไม่ได้ดูแย่เท่าไหร่แล้ว อย่างน้อยก็ยังมีคนที่คอยบ่นงุ้งงิ้งกับเรื่องต่างๆรอบตัวอยู่ข้างกัน อย่างพวกมอเตอร์ไซต์ที่ขับเบียดเพราะพยายามจะขึ้นไปข้างหน้า หรือไม่ก็รถติดแบบไม่ขยับไปไหน

เดินไปซื้อกาแฟตรงร้านที่อีกคนเคยพาไป แล้วกลับมาหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้หน้าคณะ ผมหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นเกมส์ฆ่าเวลาสลับกันการคุยกับคนที่เข้าเรียนไปแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมสนใจเรียน แอบคุยกับผมอยู่แบบนั้น

เผลอยิ้มออกมาในตอนที่อ่านประโยคพวกนั้น มันไม่ใช่บทสนทนาที่ยืดยาวอะไร ก็แค่คุณมินเมดที่ก็ยังคงเป็นคุณมินเมดเสมอ คนที่มีความงอแงกับเรื่องเล็กๆ แล้วก็มักแสดงออกอะไรแบบตรงไปตรงมาแต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ตัว

ก็ค่อนข้างเป็นคนขี้หึง ผมรู้ก็ตอนที่มันถามว่า ตอนนี้ผมอยู่ไหน สัมผัสถึงความหึงหวงออกจากอักษรไม่กี่ประโยคนั่นของมันได้อย่างดี  เผลอยิ้มออกมาตอนที่รู้สึกว่ามันก็..น่ารักไปอีกแบบ

เชื่อแล้วว่าคนเราพอรู้สึกดีกับใคร อะไรที่เคยไม่ชอบ มันกลายเป็นเรื่องที่ดูน่ารักไปหมด ผมเคยรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเห่อแฟน แต่หลังจากเป็นมีแฟนเป็นเมด ผมไม่รู้ว่าตัวเองยังเป็นแบบนั้นอยู่มั้ย

‘ ขมรมคนรักพี่เมด ’  ตัวเลขแจ้งเตือนของจำนวนข้อความที่อยู่ในแชทกลุ่มนี้ มีอยู่จำนวนไม่มากนัก จะว่าไปตั้งแต่เมื่อคืนผมก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไปเลย เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จับมือถือเลยด้วยซ้ำเหมือนชีวิตมันมีอะไรให้น่าสนใจมากกว่า

[ ข่าวคาวเงียบหายไปสองสามปี ] ข้อความแรกเป็นของเพื่อนผมที่ส่งเข้ามา ก่อนจะเป็นสติกเกอร์แบบตัวน่ารักที่แอบอยู่กับกำแพงและไม่เข้าหนังหน้าคนส่งเลยสักนิดถูกส่งเข้ามา จะว่าไปสติกเกอร์ที่กูมีก็ไม่ได้เข้ากับหนังหน้ากูไหร่เหมือนกัน ติดแค่ว่าคนซื้อให้ น่ารักดี เลยต้องใช้  [ @after ตายรึยัง ]

[ ไอ้เดย์มึงอยู่คอนโดมั้ย @dday ] ไอ้อัยย์ที่เหมือนจะตื่นแล้วเหมือนกัน มันส่งข้อความไปหาน้องชายผม คงอยากจะอัพเดทชีวิตของผมที่พวกมันก็คงอยากรู้ใจจะขาด นั่นคือความสัมพันธ์ของผมกับเมด

[ นอนห้องน้องแพมจ้า ไม่ได้กลับห้องจ้าพวกมึง ]

[ แรดจังจ้า ] ไอ้เจเพื่อนผมว่า [ แต่ขึ้นว่าอ่านครบ มีไอ้สัดตัวนึงก็คงแอบซุ่มอยู่แน่นอน ]

[ รำคาญพวกมึง ] ผมส่งข้อความไปให้พวกมันที่ก็ส่งสติกเกอร์แบบล้อเลียนกันมาคนละตัว ไม่เข้าใจอยู่อย่างทำไมเวลาส่งสติกเกอร์พวกมันต้องส่งพร้อมกันด้วยวะ คือกลัวกูไม่รู้เหรอ ว่าพวกมึงแม่งเหี้ยเหมือนๆกัน ผมกดเข้าไปในส่วนของสติกเกอร์ตัวเองที่มีคนซื้อให้สดๆร้อนๆ เลือกตัวหน้าโกรธส่งไปตัวนึง

[ … ] และก็เป็นอย่างที่คิด สำหรับคนที่ไม่คิดจะซื้อของปัญญาอ่อนแบบนี้เลย ทุกคนส่งมาแค่จุดนั้นตอนที่เห็นสติกเกอร์ของผม
[ อย่าเข้ามานะ กูมีพระ ] ไอ้เจบอกก่อนที่น้องชายผมจะเสริม

[ สัดพี่มึงเชี้ยไรเนี้ย ]

[ พี่เมดเหรอครับ ] อัยย์มันส่งข้อความเข้ามาให้เดามันคงคิดว่าคนที่เล่นมือถือผมอยู่ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่เมดสุดน่ารักของพวกมัน

[ ทำไมคิดงั้น ] ผมถามทุกคนก็เงียบไปสักพัก

[ ก็ปกติเฮียไม่มีสติกเกอร์อะ เฮียไม่ใช้ เฮียบอกปัญญาอ่อน งั้นแสดงว่าพี่เมดก็ต้องเล่นมือถือเฮียแล้วซื้อให้เฮีย ]

[ ไอ้อาฟไม่ให้ไอ้เมดเล่นมือถือหรอกสัด ] เพื่อนสนิทผมบอกแบบรู้ใจ [ เรื่องเหี้ยๆมีตั้งเท่าไหร่ สาวๆที่แอบคุยด้วยอีกละ ในเฟส ในไลน์ มันคงไม่โง่เปล่าวะ ขนาดพวกมึงยังไม่ให้สาวที่คุยด้วยจับมือถือเลย ]

[ นั่นก็จริง ] ไอ้อัยย์บอกก่อนจะส่งสติกเกอร์เพื่อแทนความรู้สึกของตัวเองขึ้นมา

[ แล้วคิดไงซื้อสติกเกอร์มาใช้วะสัดพี่ น่ารักมุ้งมิ้งไม่เข้ากับหนังหน้ามึงเลย ] ผมส่งสติกเกอร์โกรธไปให้น้องชายอีกที เพื่อนผมก็บอก

[ กูขอ อย่าใช้ จะอ้วกไอ้สัด รับไม่ได้ ]

[ พวกมึงซื้อสติกเกอร์กันยังไงวะ ] ผมถามพวกมัน

[ ก็ตัดจากบัตร ] น้องชายผมบอก [ ผูกบัตรไว้กับแอคเค้าท์ซื้อแอปในมือถือถามทำไมวะ ]

[ งั้นสติกเกอร์พวกมึง พวกมึงก็ซื้อเอง ]

[ ก็ใช่นะสิวะใครมันจะมาซื้อให้กู ] ไอ้เจบอก

[ แต่ของกูเมดซื้อให้วะ ] พูดแบบนั้นก่อนจะส่งสติกเกอร์ไปอวดพวกมันทั้งสองแบบ [ เมดซื้อให้กูทั้งสองแบบเลย ]

[ นี่คือเฮียแม่งอวดถูกมั้ย ] ไอ้อัยย์ถาม

[ ไม่ได้อวดแค่บอก ] ส่งสติกเกอร์ไปอีกครั้ง ก่อนคนที่อ่านจะส่งสติกเกอร์คล้ายอยู่ในอาการหมั่นไส้มาคนละตัว แล้วตอนนั้นไอ้เจก็ถามเรื่องที่มันอยากรู้ขึ้นมา

[ บอกมาซะดีๆ ว่ากับคนที่ซื้อสติกเกอร์ให้มึงอะ ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ]

[ สดหรือถุงเอาให้เคลียร์ ]   ไอ้อัยย์เสริม

[ อะไรของพวกมึง ]

[ มึงกับเมดเป็นยังไง เมื่อคืนพาขึ้นไปชั้นสามแล้วเงียบไปเลย ]

[ เค้าอาจจะไม่เงียบแต่พวกเราแค่ไม่ได้ยิน ] น้องชายผมบอก [ เพราะมันคงดังแค่ว่า อ๊า อ๊ะๆ แรงอีก แรงอีก ]

[ กูเคยบอกพวกมึงว่าไง ] ผมถามพวกมันเพราะเหมือนจะลืมสิ่งที่ผมเคยบอกไปแล้ว ว่าอย่าพูดอะไรถึงไอ้เมดในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นอีก

[ อุ้ยยยย น้องลืม ก้มกราบ สัดพี่น้องเดย์คนนี้ไม่ได้ตั้งใจ คือแมวมันพิมพ์ง่ะ ]   

[ ง่ะ ที่หน้ามึง ] ผมบอก

[ เฮียไอ้เดย์มันโกหกเฮียอะ น้องอัยย์เห็น น้องอัยย์ว่าเดย์เป็นเด็กไม่ดีเลยครับ ]

[ ให้กูแคปไอ้ใส่สดกับถุงมาให้สัดพี่มันอ่านอีกทีมั้ย ยังไงดี ]

[ อุ้ย ]

[ โอยยยยย กูไม่ได้ตื่นมาฟังพวกมึงทะเลาะกันเด้อ กูตื่นมาฟังไอ้สัดอาฟเล่าเรื่องไอ้เมด ว่าตกลงมันยังไงกันแล้ว ไอ้พวกน้องเหี้ย ] ไอ้เจโวยวายผมก็หลุดยิ้ม [ มึงได้กันยังไอ้อาฟ กับไอ้เมด ]

[ ยัง ]

[ ไรวะ] ไอ้เดย์พิมพ์ราวกับสถบออกมาตอนที่ผมตอบแบบนั้น [ จริงอะ ไม่อยากจะเชื่อคนอย่างสัดพี่มึงปล่อยให้รอดไปได้เหรอวะ กูคิดว่าได้กันแล้ว เห็นเงียบไปเลย แถมออกไปตั้งแต่ก่อนผับจะปิดอีก ]

[ ปกติพี่เมดจะทักพวกกูก่อนกลับ แต่นี่เงียบมากไม่มาทักเลย หรือว่ายังไงทะเลาะกันเหรอ ? ] อัยย์เสริมขึ้น [ ไม่ใช่ว่าพี่เมดบอกเฮียว่า เราคบกับอาฟไม่ได้หรอกอาฟเหี้ยเกินไป เราคิดว่าคนดีๆแบบเราไม่ควรมาคบกับคนแบบอาฟได้ ]

[  ไอ้สัดอัย ไอ้เหี้ยยยยยยยย ] น้องชายผมพิมพ์เข้ามารู้สึกเหมือนมันจะถูกใจเอามากสำหรับประโยคนั้น

   ผมนั่งอ่านข้อความพวกนั้นพลางกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ถ้าส่งภาพตอนไอ้เมดโป้ครึ่งบนไปได้ก็จะส่งไปให้ จะได้บอกสถานะของอีกคนโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ ให้ดีเป็นมุมสูงตอนทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่ท่าทางจะเด็ด แต่เพราะผมไม่มีภาพแบบนั้น ส่วนใหญ่ก็แค่ภาพแอบถ่ายไม่รู้ตัว ตอนที่อีกคนนั่งอยู่ตรงกันข้ามเวลาเรากินข้าวกันก็เท่านั้น

[ มึง ] กดเข้าไลน์ manmade ผมส่งข้อความไปหาคนที่กำลังเรียนอยู่ในตึก คนที่ตอบเข้ามาเร็วมากจนทำให้ผมรู้ว่า ค่าน้ำมันที่ขับพามันมาเรียนคงไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่

[ ว่า ] ข้อความสั้นๆที่อีกคนตอบกลับมาพร้อมกับสติกเกอร์น่ารักตามฉบับ เมดบอกว่าคนเราส่งสติกเกอร์กันเพราะบอกความรู้สึกในตอนนั้น แต่ในความคิดผมมันเหมือนจะไม่ใช่ สำหรับเมดก็แค่ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความน่ารักของคนส่งแบบชัดเจนขึ้น

[ แฟนมึงชื่ออะไรวะ ]

[ ถามอะไรของมึง ] ข้อความที่ตอบกลับนั้นถ้าเดาไม่ผิดมันคงกำลังยิ้มอยู่แน่นอน ก็ดี.. จะได้เป็นเสี้ยววินาทีที่มันมีความสุขบ้าง
แม้จะแค่สั้นๆ สำหรับช่วงเวลาหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนของมันในตอนนี้

[ ก็แค่บอกเปล่าวะ ]

[ ไม่ลองเปิดกล้องแล้วถ่ายดูละ ] แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นผมที่ต้องยิ้มออกมาบ้างตอนที่อ่านข้อความนั้นของมัน ผมยกมือถือขึ้นแล้วตอนที่เปิดกล้องของตัวเอง ก่อนจะพบว่ามันเป็นแค่วิวหน้าคณะของอีกคน ที่มีโต๊ะม้าหินอ่อนแล้วก็ต้นไม้ที่ค่อนข้างร่มรื่น ผมกดถ่ายรูปก่อนจะส่งไปให้มันแบบซื่อๆ

[ ไหนแฟนมึง ]

[ กวนตีนกูละอารยะ ] อีกคนบอกผมก็ยิ้มกว้าง [ กล้องหน้าสิวะ ] กดเปลี่ยนเป็นกล้องหน้า ผมเห็นตัวเองอยู่ในนั้น ตัวเองที่กำลังยิ้ม ยิ้มอย่างไม่ใช่ตัวผมที่ชอบยิ้ม ผมพยายามกลั้นมันเก็กหน้านิ่งแบบที่ตัวเองชอบทำ แต่มันก็ไม่ได้ผล หูของผมเริ่มแดง ก่อนจะสถบออกมาเบาๆ

“ มึงแม่งร้ายจริงๆไอ้เมด “

[ ไหน ถ่ายแล้วส่งมาให้ดู ]

[ เสือก ] ผมตอบมันแบบกวนตีน ตอนที่กดเข้าไปในคลังภาพผมลังเลกับการจะส่งภาพตัวเองไป มันเป็นภาพหน้าเต็มที่เห็นทั้งหูทั้งหน้าแดงไปหมดแถมยังกำลังเก็กนิ่งแบบไม่เป็นธรรมชาติ

[ ส่งมาให้ดูหน่อย จะได้แน่ใจว่าใช่แฟนกูเปล่า ] ตัดสินใจส่งภาพแบบครึ่งหน้าไปให้มัน อีกคนก็แซว [ หูแดงแบบนี้ แฟนกูแน่ๆ ]

[ แฟนมึงชื่ออะไรนะ ]

[ อาฟเตอร์ อารยะ ] เมดบอกผมก็ถอนหายใจ เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองเป็นบ้ารึเปล่าถึงมานั่งยิ้มไม่หุบกับข้อความพวกนั้น [ แฟนกูชื่อเท่นะบอกไว้ก่อน ]

[ แต่แฟนกูน่ารักกว่า ] ผมบอกมันแบบนั้นเพราะอยากจะให้มันเขินดูบ้าง

[ แฟนมึงชื่อไร ถ้าให้เดาต้องชื่อจริงชื่อ มิณทร์ ชื่อเล่นเมด ชื่อไลน์ว่า มินเมดแน่นอน ]

[ หลงคนแล้วมั้ง ]

[ ไอ้สัด ] อีกฝ่ายสบถก่อนจะส่งสติกเกอร์หน้าโกรธมาให้แต่กลับดูน่ารักมากกว่า ผมส่งสติกเกอร์กลับไปหามันอีกคนก็แค่หัวเราะ [ 55555555555555 ชอบๆ ]

[ ชอบกู ? ]

[ หลงคนแล้วมั้ง ] ผมหลุดยิ้มตอนที่อ่านเหมือนหมายจะเอาคืนที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้

[ อยากให้แน่ใจ ส่งภาพมาให้ดูหน่อยจะได้บอกว่าใช่คนเดียวกันรึเปล่า ]

[ หน้าตาแบบนี้แน่นอน ] ภาพน่ารักของอีกคนถูกส่งมา .. ผมกดเซฟรูปนั้น แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่า รู้สึกตัวเองเหมือนแพ้น็อคแล้วเอาแต่ยิ้มกว้างไปแล้วในตอนนี้ และไม่ว่าจะพยายามฝืนกลับมาปั้นหน้านิ่งเท่าไหร่ยังไงมันก็ไม่สามารถทำได้

[ เออ หน้ากลมเหมือนซาลาเปาแบบนี้แหละ ]

[ เชี้ย ]  แม้แต่คำสถบที่ส่งมาพร้อมอิโมจิโกรธก็ยังทำให้ยิ้มได้

ไม่ลืมแคปหน้าจอ ตัดข้อความสำคัญที่เมดเขียนว่าแฟนมันชื่ออะไร ก่อนจะส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มของ ‘ ชมรมคนรักพี่เมด ’ อีกครั้ง

[ ของจริงไม่ต้องพูดเยอะ ]

[ เอ่อ...] ไอ้อัยย์ส่งข้อความเข้ามาคนแรก [ พวกมึง @dday @jisj ] ไอ้เดย์เข้ามาอ่านคนที่สองมันที่พิมพ์เสียงกรีดร้องขึ้นมา

[ กรี๊ดดดดดดดดดดด ม่ายยยยยย พี่เมดของกู ]

[ หมายความว่ามึงเป็นแฟนกับไอ้เมดแล้ว ] เจถามผมขึ้นมาหลังจากที่มันเข้ามาอ่านข้อความในภาพนั้น

[ โง่กันจังว่ะ ] พูดแค่นั้นก่อนจะกดเข้าไปในกลุ่มไลน์ ผมเปลี่ยนชื่อจาก ‘ ชมรมคนรักพี่เมด เป็น ‘ ชมรมคนรักแฟนพี่อาฟ ’ [ ถ้ายังโง่อีกเดี๋ยวจะส่งภาพตอนเอากันให้ดู ]

[ ไม่เข้าใจ ] ไอ้เจบอกก่อนจะพวกลูกหมาหน้าเหี้ยจะเล่นตามเกมส์มันเหมือนนัดกันมา

[ อุ้ยงง ]

[ เออไรวะเฮีย งงจัง ]

[ พวกหน้าเหี้ย ]

[ 55555555555555555555 ] ไอ้อัยย์ส่งเข้ามาก่อนไอ้เดย์จะถามเพื่อความมั่นใจ

[ แต่เดี๋ยวนะ กูขอเข้าเรื่องคือพี่มึงเป็นแฟนพี่เมดแล้ว พี่เมดของกู คุณมินเมดเจ้าหน้าที่บัญชีของผับ throw up คนในหัวใจของกูน้องเดย์ผู้เป็นบาร์เทนเดอร์ที่หล่อที่สุดในผับแห่งนี้ ถูกต้องมั้ย ]

[ เล่นใหญ่เพื่อใครไอ้สัดเดย์ ] ไอ้เจด่าน้องชายผมแต่ผมเองก็แค่ตอบกลับพวกมันสั้นๆ

[ อื้ม เมดเป็นแฟนกูแล้ว ]

[ ไม่ชอบขาวเป็นแป้งเนอะ ] เดย์บอก [ ปากก็บางไปเนอะ อะไรอีกอะ พวกมึงมารุมมัน ]

[ หน้าเหมือนไอ้ตี๋ขายซาลาเปา ไม่ชอบ ] เจบอกเดย์

[ ไม่ช๊อบบบบบบบบบบบบบบ เนอะ อยากแหมไปถึงดาวพุธ ]

[ รู้เหรอ อยู่ไหน ]

[ รู้ เพราะคงอยู่ไม่ไกล แค่ถัดไปจากดาวอังคาร ]

[ พ่อแม่ต้องภูมิใจในตัวมึงอะเดย์ ]

[ คือกูกำลังคิดว่ากูต้องรู้สึกยังไง ] ไอ้อัยย์บอกสวนไอ้เจกับไอ้เดย์ที่กำลังเล่นมุกที่ไม่ขำสักเท่าไหร่ขึ้นมา [ คือกูดีใจนะที่เฮียได้เป็นแฟนพี่เมดเพราะพี่เมดน่ารัก แต่คือกูก็ไม่คิดว่าเฮียจะเอาพี่เมดจริงๆ แบบว่า ก็เห็นว่าเฮียชอบๆ แต่ไม่คิดว่าเฮียจะกล้าเข้าไปขอเค้าเป็นแฟน เฮียแม่งชอบให้คนอื่นเข้ามาหามากกว่าอะ กูยังคิดว่านี่ฮียจะมองพี่เมดทั้งชาติเลยมั้ย ]

[ กับคนบางคน มันก็มีต้องมีข้อยกเว้น ] ไอ้เจบอกไอ้อัยย์พร้อมกับอีโมแว่นดำที่ส่งมาให้ [ และกูขอพูดสั้นๆว่า ในที่สุดก็ได้มาสักที ยินดีด้วยนะครับ สำหรับความสำเร็จนี้รักษาไว้ในดีนะครับ @after เลี้ยงเหล้ากูด้วยไอ้สัด ]

[ เออ ]

[ สั่งเสียเหมือนวันแต่งงานเลย กลัวตายก่อนสัดพี่แต่งงานเหรอพี่เจ ] น้องชายผมถามอีกคน

[ อยากเอาตีนไปเหยียบขี้หมาแล้วมาเหยียบหน้ามึงอะเดย์ ]

[ รุนแรงกับน้องงงงง ] มันว่าก่อนจะหันมาสนใจผม เดย์ถามในสิ่งที่ทุกคนคงอยากรู้ [ แล้วไปขอกันท่าไหนวะ ]

[ ท่ายืน ]

[ ครั้งแรกก็ท่ายืนเลย ] ขมวดคิ้วกับข้อความที่ถูกถามกลับรู้สึกว่า ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเราไม่ได้คุยถึงเรื่องเดียวกันอยู่ แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ตอบมันไปตามตรง

[ อื้ม ที่ระเบียง ]

[ นี่สัดพี่มึงเล่นแบบ full view เลยเหรอวะ ใจสัดพี่แม่งได้วะ ]

[ อื้ม กูอยากให้เมดมันประทับใจ ตอนนั้นเมดมันตื่นเต้นด้วยนะ มือกำขอบระเบียงไว้แน่นเลย ]

[ เป็นไงๆ ความรู้สึก ]

[ ก็ดี ]

[ แค่ก็ดีเหรอวะ  ] เดย์ยังคงถามต่อ ผมก็เองก็ยังตอบเหมือนปกติ อยากรู้ว่าความโง่ของมันขีดสุดจะอยู่ที่ตรงไหน และอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันจะพูดว่า นี่เราพูดเรื่องเดียวกันเปล่าวะสัดพี่ แต่ผมคิดว่าเดย์ก็คือเดย์ ชีวิตน้องชายผมไม่เคยคิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้น

[ แล้วมึงจะให้กูรู้สึกอะไรมากกว่านั้น ]

[ ก็แบบว่า... เสียว กลัวคนเห็น] มันขยายความ [ ขาสั่นเลยมั้ยทั้งเค้าทั้งสัดพี่มึง ]

[ กูไม่สั่น แต่เมดสั่นอยู่ ]

[ อูยยยยยยยยย เสียวว่ะ อยากลองบ้าง ตรงระเบียงยังไม่เคยเลย ]

[ เอาดิ แต่ต้องเอาระเบียงสูงๆหน่อยนะ วิวดี ส่วนตัวด้วย คนไม่ค่อยเห็น ]

[ เออๆ ได้ๆ กูต้องไปหาสถานที่ดีๆก่อน แต่ที่ผับโอเคเหรอวะ กูว่าตึกมันไม่ได้สูงเท่าไหร่ ]

[ ก็ดีนะ ข้างหลังตรงระเบียงนั้นมันไม่มีอะไร แต่พูดอะไรไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ เสียงในผับมันดังแล้วทะลุขึ้นมาชัดอยู่ ]

[ ดีแล้ว เวลาร้องจะได้ไม่มีใครได้ยินไงสัดพี่ ] น้องชายบอก ผมก็พยักหน้ารับกับคำพูดของมันที่เรากำลังคุยคนละเรื่อง

[ อื้ม จริงของมึง ]

[ ไว้กูไปลองที่ผับชั้นสามบ้าง ]

[ ตามสบาย ]

[ นี่เรื่องจริงเหรอวะ ] ไอ้เจพูดขึ้น [ ตอนแรกคิดว่าพูดคนละเรื่องเดียวกัน แต่นี่คือพูดเรื่องเดียวกันถูกมั้ย ]

[ ก็กำลังพูดถึงฉากสารภาพรักในท่ายืน ระหว่างสัดพี่กับพี่เมด คนละเรื่องไงวะ ใช่มั้ยสัดพี่ ]

[ อื้ม ] ตอบรับมัน ไอ้เจเพื่อนผมก็ส่งสติกเกอร์งงๆเข้ามาพร้อมกับไอ้อัยย์ที่ส่งข้อความเข้ามาเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจบทสนทนานี้สักเท่าไหร่

[ งงนิดหน่อยแต่ไม่ค่อยเข้าใจมากๆ ]

[ เบื่อคุยกับพวกโง่ๆ ]

[ เออ เบื่อๆ ] น้องชายผมบอก [ เนอะสัดพี่เนอะ ]

[ กินปลาสิเดย์ จะได้ฉลาดๆ ]

[ กินทำไมอะ ฉลาดอยู่แล้ว ]

[ อื้ม เอาที่มึงสบายใจเลย ]

กดปิดหน้าจอก่อนจะหันไปรอบๆ แล้วเห็นข้อความใหม่ที่เตือนขึ้นมาที่หน้าจอ มันเป็นข้อความของคนที่ขึ้นไปเรียนแล้วตอนนี้มันก็ส่งข้อความมาบอกผมสั้นๆแค่ว่า ‘ เลิกเรียนแล้วนะ แต่ขอคุยกับอาจารย์ก่อน รออีกแปปนึงนะ ’ เป็นแปปที่ค่อนข้างนานกว่าคนที่ส่งข้อความจะเดินลงมาพร้อมกับใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

ผมเผลอยิ้มตอนที่ลุกขึ้นยืน ตอนนั้นเมดก็มองไปรอบๆ แล้วสีหน้าของมันจะหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า ในตอนนั้นผมเอื้อมมือไปดึงมือมันมาจับไว้แล้วจูงให้เดินออกไปพร้อมกัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแค่อยากให้มันรู้สึกว่า ‘ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล ผมยังมองแค่มันอยู่เหมือนเดิมตรงนี้ ’

“ เป็นอะไร “ เอ่ยถามอีกคนที่ยังคงหงุดหงิดแม้จะขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เมดถอนหายใจออกมาก่อนจะหันมามองผมแบบเซ็งๆ ราวกับมันก็เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำใจให้หายหงุดหงิดไม่ได้

“ กูต้องทำรายงานกลุ่มกับไอ้จิงไอ้ยีนส์ “ มันบอกก่อนจะเอียงหน้าเพียงเบาะรถที่นั่ง “ มึงปลอบหน่อย “

“ ทำยังไง “ หันไปถามมันอีกคนก็หันมามองอย่างสนใจ

“ มากูสอนให้ “

เรียนรู้การปลอบคนรัก เป็นชั่วโมงเรียนสั้นๆในรถที่อีกคนสอนให้ ผมรู้สึกว่ามันวุ่นวายพอตัว ที่ต้องคอยสังเกตว่าคนข้างๆเป็นยังไง ผมไม่ชอบความรู้สึกวุ่นวายแบบนั้น ทั้งในแง่ของการกระทำและหัวใจที่เต้นแรง ไม่ชอบตอนที่หูแล้วหน้าของตัวเองแดงจัด ผมไม่ชอบอะไรที่ควบคุมไม่ได้ แต่คงไม่ใช่เมด รายนั้นดูชอบเหลือเกิน เดาจากที่มันขยันทำให้อาการเขินพวกนั้นเกิดขึ้นกับผมบ่อยๆ 



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
“ ไปกินโรตีกันดีกว่า “ คำพูดสั้นๆของคนที่นั่งข้างๆก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดค้นหาอะไรสักอย่างตรงหน้าจอ ผมคิดว่าคงจะเป็นร้านโรตีอร่อยๆที่อีกคนอยากจะกิน “ กินแค่โรตีพอนะมึง กินอะไรเบาๆ แล้วค่อยไปกินมื้อเย็นอีกทีที่ซอยข้างผับ ”

   พยักหน้ารับไปแบบนั้น แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำว่า ‘ เบาๆ ’ ของอีกคนสักเท่าไหร่ เพราะทั้ง โรตีฝอยทอง โรตีไม่ใส่ไข่ โรตีใส่ไข่ ที่ถูกสั่งออกไปจากปากคนตรงหน้า สามจานนี่จัดว่าเบาเหรอวะ  เครื่องดื่มมีกาแฟเย็นที่คงเป็นของผม ส่วนโกโก้เย็นคงเป็นของมัน

“ มึง กินกาแฟเย็นได้มั้ย แต่มันไม่มีคาราเมลมัคคิอาโต้วะ กูก็ลืมถาม  “  แววตาเรียวที่จ้องหน้าผม เหมือนรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ทำอะไรพละการแบบนั้นโดยไม่ได้ถามกันเสียก่อน

“ กูกินได้ทั้งนั้น “

“ คราวหลังเดี๋ยวสั่งชามะนาวมาให้ “ มันพูดแหย่ผมก่อนจะยักคิ้วให้ แต่ถึงอย่างงั้นสายตาที่เอาแต่มองไปรอบๆก็เอ่ยพูดกับตัวเองขึ้นมา “ ไม่รู้เค้าจะชงกาแฟเย็นให้มึงเข้มเกินไปรึเปล่า กูไปบอกให้เค้าชงไม่เข้มหน่อยดีกว่า ปกติมึงกินไม่ค่อยเข้ม “ เผลอยิ้มออกมาตอนที่อีกคนเดินออกไป ด้วยท่าทางยิ้มๆที่เอ่ยพูดกับพนักงานร้าน ผมว่า ผมชอบความใส่ใจเล็กๆนี่มากเลยว่ะ

มื้อกลางวันแบบเบาๆ ในความคิดของอีกคนจบลง แล้วตอนนี้เราก็กลับมาที่คอนโดเรียบร้อย เมดเดินเข้าไปกินน้ำในครัวเป็นอย่างแรกก่อนจะล้างแก้วแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องนอน ผมเองก็นั่งลงบนเตียงไม่เคยรู้สึกอยากจะนอนมากขนาดนี้ จัดการหยิบมือถือกับกระเป๋ามาตั้งไว้บนโต๊ะลิ้นชักข้างๆ ก่อนจะเอนตัวนอนลงตักของอีกคนที่นั่งเล่นมือถืออยู่

“ ไปนอนดีๆ “ เมดบอกตอนที่ผละหน้าออกจากมือถือแล้วก้มลงมองผมที่ก็หลับตาลงแล้วกอดอกตัวเองนอนแบบนิ่งๆ “ อาฟ กูรู้ว่ามึงยังไม่หลับ อย่ามาทำเงียบกลบเกลื่อน “

โดนเจ้าของตักจิ้มแก้มไปทีนึง ก่อนที่นิ้วนั้นจะเลื่อนมาจิ้มนิ้วลงไปอีกสามครั้งในจุดที่ใกล้กัน ถ้าให้เดาคงกำลังเอานิ้วจิ้มไฝสามจุดของผมที่อยู่บนหน้า

“ มึงมีไฝบนหน้าตรงนี้เหมือนกลุ่มดาวเลย “ อีกคนที่พูดขึ้นแต่ผมก็ยังเงียบ “ แปลกดี แต่ก็เท่ห์เหมือนกันนะ “
 
“ ยังไงกันแน่ “ ผมเอ่ยถามมันตอนที่ลืมตาขึ้นมองก็เห็นใบหน้าอีกคนในระยะประชิด เมดดึงตัวเองขึ้น มันชะงักนิดหน่อยก่อนจะดันผมให้ลงไปจากตักของมัน “ ตกลงยังไงกันแน่ “

“ อะไรยังไง “ อีกคนถามพลางทำทีเป็นล้มตัวลงนอนเพื่อที่จะหลบเลี่ยงการตอบคำถามของผม
 
“ ไฝสามจุดบนหน้ากู มันเป็นยังไง “ เอ่ยถามมันตรงๆ ตอนที่พลิกตัวเองหันไปสบสายตากับมัน เมดก็หลับตาลงมันพลิกตัวไปอีกทางแต่ผมก็แค่เอื้อมมือไปดึงเอวมันมากอดประชิดตัวไว้

“ ถ้ากอดไว้แบบนี้กูจะไม่บอกนะสัดอาฟ “

“ คิดว่าจะกลัว “ ถามมันแบบนั้นก่อนจะเอียงหน้าใช้ริมฝีปากขบใบหูของมันเบาๆ อีกคนก็หดตัวเกร็ง

“ ไอ้เชี้ยย ทำเหี้ยอะไรวะ “

“ มาดูกันว่ามึงกับกูใครจะแน่กว่ากัน “

“ ไอ้สัด มึงแม่ง “ มันสถบเหมือนรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าต้องแพ้ เมดนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของผมเงียบๆ ศีรษะของเราหนุนอยู่บนหมอนใบเดียวกัน ผมก้มลงสูดกลิ่นแชมพูเด็กตรงเรือนผมของอีกคนเข้าไปเต็มปอด รู้สึกว่าบางทีกลิ่นแชมพูเด็กก็หอมดีเหมือนกันแต่ไม่รู้เพราะมันอยู่บนร่างขงคนในอ้อมกอดด้วยรึเปล่า  “ ก็ดูแปลกดีแต่ก็เท่ห์ ไม่เหมือนใคร “

“ ชอบมั้ย “ ถามมันออกไปสั้นๆเหมือนไม่ใช่ตัวผมที่ตั้งคำถามพวกนั้น ก็รู้ว่าเมดคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไร แต่มันก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อบ่ายเบี่ยงสิ่งที่ผมถามอยู่ดี

“ หมายถึงอะไร “

“ ไฝสามจุดบนหน้ากู “ ผมขยายความก่อนย้ำ “ มึงชอบมั้ย “

“ นิดหน่อย “

“ แล้วเมื่อไหร่จะมาก “

“ ก็ต้องดูจากการกระทำก่อน “ อีกคนบอกแค่นั้นผมก็กอดมันไว้แน่นขึ้น “ ถ้าทำดีก็มากขึ้น ถ้าทำเหี้ยก็ลดลง “

“ ท่าทางว่าน่าจะลด “ ผมบ่นกับตัวเองเบาๆอีกฝ่ายก็หัวเราะ

“ ทำไมมึงชอบบอกว่าตัวเองไม่ดีนักวะ “ เมดถาม “ เอาจริงๆนะ มึงคิดว่าตัวเองนิสัยไม่ดีจริงๆ หรือว่า มึงฟังจากคนอื่นมา คนอื่นที่บอกว่ามึงนิสัยไม่ดี มึงเลยคิดว่าตัวมึงเองนิสัยไม่ดี “

“ คงอย่างหลัง “

“ แล้วใครบอก “

“ สาวคนก่อน “ ได้ยินเสียงถอนหายใจเซ็งๆของคนที่ฟังคำตอบ ผมเผลอยิ้มกับท่าทางหงุดหงิดแบบฉับพลันของมันไอ้เด็กขี้หึง “ ไอ้เจ ไอ้เดย์ ไอ้อัยย์ก็บอกแบบนั้น “

“ กูมองว่านิสัยเหี้ยๆของคนคนนึง มันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้น เพราะคนบางคนเค้ารับได้แต่บางคนเค้าก็รับไม่ได้มันก็แค่นั้น กูไม่ค่อยชอบตัดสินว่าคนคนนึงเหี้ยหรือไม่เหี้ยจากคำพูดของคนอื่น “

“ งั้นเหรอ “

“ ก็บางทีที่เค้าว่าเหี้ย กูอาจจะมองว่ากูรับได้แล้วมันก็ดีกับกูก็ได้นะ “

“ ยกตัวอย่างเช่น “

“ ก็อาจจะเช่น กูเป็นพวกเจ้ากี้เจ้าการชอบทำอะไรให้แฟนเยอะแยะไปหมด แบบกูชอบดูแลเค้า ทำเหมือนรู้ดีไปหมดว่าแฟนต้องการอะไร  จัดแจงให้แบบไม่ต้องบอกให้ทำ แต่สำหรับบางคนมันก็มากเกินไปจนกลายเป็นว่า เสือก จุ้นจ้าน แล้วก็น่ารำคาญ “

“ กูชอบให้คนดูแล “

“ หึ “ เมดหลุดหัวเราะ “ ลองดูก่อน บางทีมึงอาจจะไม่ชอบก็ได้ กูเยอะจริงนะ มีคนเคยเกลียดมันมากเลยที่กูเป็นแบบนี้ “ ท้ายประโยคที่ดูเศร้าของมัน ผมเผลอกอดอีกคนไว้แน่นขึ้นตามความรู้สึก ผมรู้ดีว่าเมดหมายถึงใคร ก็มีอยู่แค่คนเดียวไม่ต้องไปคิดถึงใครอื่น เหมือนกับว่าในหัวใจของมันก็มีแค่เค้าคนนั้น คนที่เคยเป็นทั้งความรักและความเสียใจ

เริ่มเข้าใจคำพูดของไอ้เจที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ‘ ก็มันเพิ่งเลิกกับแฟน มันที่กำลังเสียใจ ถ้ามึงทำดีกับมันมากๆ มันก็อาจจะสนใจมึงได้ง่าย แต่ว่าจะเหี้ยหน่อย ก็ตรงที่มึงคงจะได้เป็นแค่ตัวแทนคนเก่าละนะ แบบว่าคบมึงเพื่อลืมใครอีกคน ’

“ หันมานี่มา “ ดึงคนที่นอนหันหลังให้ผมเข้ามาเผชิญหน้ากัน เมดก้มหน้าลงมันพลิกตัวมากอดผมแบบว่าง่าย ซุกตัวเข้ามาในอกเหมือนเด็กเล็กๆที่มักจะกอดแน่นเวลาโดนโอ๋ แขนข้างนึงของมันกอดผมไว้

“ ขอโทษ “ อีกคนพูดเสียงเบาๆ

“ เรื่อง “

“ ไม่รู้คำพูดกูเมื่อกี้จะทำให้มึงคิดมากรึเปล่า “ เมดกอดผมแน่นขึ้น “ กลัวมึงคิดว่ากูเอาคนเก่ามาเป็นบรรทัดฐานให้มึง “

“ กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น “ โกหกอีกคนไปเพื่อความสบายใจ ยอมรับว่าผมก็คิดแบบที่คนในอ้อมกอดบอก ผมรู้สึกว่าเมดกำลังเอารักครั้งเก่าที่เคยเหี้ยของมัน มาเป็นบรรทัดฐานให้กับรักของเรา “ สำหรับกู มึงแค่เป็นตัวเอง ถ้ามีอะไรที่มากเกินไป กูจะบอก ว่ากูไม่ชอบ เพราะกูไม่ใช่คนที่ทนอยู่กับอะไรที่ไม่ชอบ “

“ เหรอ “

“ อื้ม “

ทุกอย่างเงียบไปคล้ายกับต่างฝ่ายต่างจมลงไปในความคิดของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าเมดคิดอะไรอยู่ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ดี บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ร้าย แต่ไม่ว่าอะไรก็ช่างมันเถอะ อยู่กับวันนี้ก็พอ บอกตัวเองแบบนั้น   ก่อนหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจออกมาช้า ในช่วงเวลาที่สมองกำลังปล่อยวางความง่วงงุนก็เข้ามาแทนที่ ผมหลับไปหลังจากนั้น
 
................................................................


ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วสิ่งแรกที่รู้สึกหลังจากได้สติทั้งหมดกลับมานั่นคือ ‘ ปวดแขน ’ เมดยังคงอยู่ในอ้อมกอดผม และตอนนี้ก็กำลังเอาแก้มกลมๆของมันมานอนบี้กับท่อนแขนของผมอยู่

“ พบเจ้าตัวการที่ทำให้ปวดแขนแล้ว “ ผมบอกกับตัวเองตอนที่ก้มลงมองหน้าอีกคนที่ยังหลับอยู่แบบนั้น แก้มขาวตัดกับสีแขนของผมแบบชัดเจนเป็นภาพน่ารักที่ชวนให้หลุดยิ้มออกมาจนลืมความรู้สึกปวดแขนไปเลย ก้มลงจูบเบาๆที่แก้ม อยากจะฝังจมูกให้แรงกว่านี้สักหน่อยเพราะรู้สึกหมั่นเขี้ยวเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าใครอีกคนจะตื่น ผมผละออกจากแก้มก่อนจะจูบที่ริมฝีปากนุ่มนั่นเบาๆ

“ อื้อ “ เสียงครางเบาๆที่อีกคนประท้วงขึ้น เมดขยับตัวเข้ามากอดผมไว้แน่นขึ้น ใช้จังหวะนั้นค่อยๆดึงแขนที่อีกคนหนุนอยู่ออก ผมใช้เวลาหลายนาทีเพื่อรอให้มันหายจากอาการเหน็บชา สะบัดมือไปมาแล้วดึงตัวเองขึ้นพิงกับหัวเตียงช้าๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ก่อนจะหยิบมือถือที่วางไว้ข้างเตียงขึ้นมาดูเวลา ที่กำลังเข้าสู่ช่วงห้าโมงเย็น

‘ ค่อยปลุกตอนหกโมงแล้วกัน ’ สงสารเด็กไม่ได้นอนมาทั้งวัน พูดกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะกึ่งนั่งกึ่งนอนมองคนที่หลับอยู่แบบนั้น เผลอคิดถึงคำพูดของไอ้เจที่เคยพูดไว้ขึ้นมาอีกครั้ง สลับกับคำพูดของคนที่นอนอยู่

รู้สึกแย่ว่ะ .. รู้สึกแย่ที่ต้องเห็นคนที่เรารัก รักคนอื่นและเจ็บปวดเพราะคนอื่นอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่ตัวผมเองก็รู้ดีว่าทุกอย่างที่เป็น มันก็สมควรแล้วที่เป็นแบบนั้น ไม่แปลกที่เมดจะยังรู้สึก ไม่รู้สึกสิแปลก แต่ถึงจะรู้อย่างงั้นผมก็ห้ามความรู้สึกหงุดหงิดใจนั่นไว้ไม่ได้

ถ้าทำได้ ตอนนี้กูอยากจะครอบครองมึงไว้ทั้งหมด ทั้งร่างกายและความรู้สึกนึกคิดนั่น อยากเป็นคนที่อยู่ภายในหัวใจของมึงทั้งหมด คนที่จะควบคุมความรู้สึกของมึงได้ เป็นทั้งคนที่ทำให้มึงมีความสุขแม้แต่เรื่องเล็กๆและเช่นกันกูอยากจะเป็นคนที่ทำให้มึงเสียใจแม้แต่เรื่องเล็กๆด้วย  มันน่าหงุดหงิดที่ตอนนี้ตัวผมไม่ใช่คนที่ควบคุมทุกพื้นที่อยู่ในนั้น เป็นแค่คนคนนึงที่อาจจะอยู่ในนั้นก็จริง แต่อีกเสี้ยวนึงเล็กๆ ก็ยังมีใครอีกคนอยู่ และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะหายไป

[ ทำอะไรอยู่วะ ] ผมส่งข้อความไปหาเพื่อนสนิทอย่างไอ้เจ ไม่ลืมปิดเสียงเพื่อกันการรบกวนคนที่นอนอยู่ข้างๆ หน้าจอตรงข้อความที่ขึ้นว่าอ่าน ไม่นานไอ้เจก็ส่งข้อความกลับมา

[ เดี๋ยวนี้ใช้ไลน์บ่อยจังเลยนะครับ ] ผมไม่รู้จะเริ่มพูดคำไหนกับเพื่อน การที่บอกออกไปตรงๆว่าจะมาปรึกษาปัญหาหัวใจดูไม่ใช่ทางสักเท่าไหร่ [ แล้วก็เงียบไป ... มีอะไรไอ้สัด อย่าลีลา ]

[ ถ้าแฟนมึงยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่จะทำยังไง ]

[ เมดคิดถึงไอ้บินอยู่ทำไงดี ] เพื่อนผมถามกลับ [ หรือจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของมึงอีก แบบเรื่องของเพื่อน แล้วมึงชื่อ เพื่อนงี้ ]

[ ไม่ใช่เวลาที่มึงจะมากวนตีน ]

[ ฮ่าๆๆ ] ไอ้เจหัวเราะ มันเงียบไปสักพักก่อนจะส่งข้อความตอบกลับมา [ มันก็ปกติเปล่าวะ ไม่รู้สึกเหี้ยไรสิแปลก ]

[ เหรอวะ ]

[ เข้าไปจีบเค้า มึงก็รู้อยู่แล้วว่าเค้ายังเจ็บกับเรื่องแฟนเก่า มึงอยู่กับไอ้เมดตลอดเวลาตั้งแต่เจอมัน มึงจะบอกกูว่าไม่รู้เหรอวะ ] ผมเถียงไม่ออก ก็เป็นอย่างที่เพื่อนพูดผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันรู้สึกยังไงกับรักครั้งเก่า รู้ด้วยซ้ำว่าแม้แต่ตอนนี้มันก็ยังเจ็บปวดอยู่ แค่เลือกที่จะไม่พูดและแสดงออกมาให้เห็น [ เลือกแล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ มึงก็ต้องยอมรับ ]

[ อื้ม ] ไม่รู้จะตอบอะไรก็เลยตอบออกไปแค่สั้นๆ

[ กูเข้าใจมึงนะ มึงคงอยากจะให้ไอ้เมดไม่คิดถึงไอ้บินอีก อยากจะให้ไอ้เมดมันมองมึงคนเดียว เป็นของมึงคนเดียว แต่ทุกอย่างมันก็ต้องใช้เวลาเปล่าวะสัดอาฟ มึงเลือกที่จะรักเค้าในตอนนี้เอง มึงก็ต้องทำใจว่ะ ]

[ มีทางลัดมั้ย ] ผมถอนหายใจออกมา อยากจะบอกเพื่อนออกไปตรงๆในสิ่งที่รู้สึกว่า กูไม่ชอบความรู้สึกที่เหมือนเป็นรองตอนนี้เลย มันเหมือนกูได้ครอบครองเค้าแค่ตัว กูมีตำแหน่งเป็นแฟน แต่นอกจากนั้นกูไม่มีอะไรเลย เค้าอาจจะหึงกูบ้าง เค้าอาจจะมีความสุขเพราะกู แต่ถ้าไอ้เหี้ยนั่นโผล่หน้าขึ้นมาเมื่อไหร่ แม้แต่ในความคิด  ตัวกูก็จะหายไปทันที ต่อให้กูทำให้เค้ามีความสุขแค่ไหน มันก็หายไป นั่นเพราะไอ้เหี้ยนั่น ยังเป็นคนที่สำคัญ คนที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ กูจะได้เข้าไปแทนที่สักที

[ มึงอย่าใจร้อน มันไม่มีทางลัดอะไรทั้งนั้นแหละ ]

[ แล้วกูต้องทำไง ]

[ ช่างหัวแม่ง ] เจบอกผมก็ถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านข้อความนั้น [ มึงต้องเข้าใจก่อนนะว่าไอ้บินอยู่กับไอ้เมดมาสี่ปี มันมีทั้งเรื่องดีๆ เรื่องเหี้ยๆ กันเยอะแยะ มันพิ่งเลิกกันไม่นาน มึงจะให้เมดลืมไอ้บินหมดใจแล้วมีแต่มึงที่สารภาพรักมันเมื่อวานแถมยังรู้จักกันไม่ถึงสองอาทิตย์ในใจทั้งดวงมันก็ไม่ใช่ไงสัด ]

[ อื้ม ]

[ กูถามจริง มึงอื้มนี่เข้าใจเปล่าวะ ]

[ เข้าใจ แต่ไม่อยากจะเข้าใจ ]

[ มึงต้องให้เวลาไอ้เมดมัน เสือกอยากจะจีบตอนเค้าเพิ่งอกหักมาก็แบบนี้แหละ มันหวั่นไหวง่ายก็จริง แต่มันจะเหี้ยหน่อยก็ตรงที่มันจะคาบกึ่งระหว่างคนใหม่กับคนเก่า ] เจบอก [ แต่มึงจะไปแคร์อะไรวะ เมดมันยังเจ็บกับไอ้เชี้ยบินก็เรื่องของมันดิวะ ถ้ามึงดีกับมันมากๆ มันก็ลืมไอ้เชี้ยนั่นไปได้เองนั่นแหละ คบกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวอะไรมันก็เปลื่ยนไป ]

[ มันมีมั้ยวะ ที่จะไม่เปลี่ยน ] ข้อความที่ขึ้นว่าอ่านและอีกฝ่ายกลับเงียบ [ กูหมายถึงเมดที่ยังรักไอ้เชี้ยนั่นไปตลอด แล้วไม่ว่ากูจะทำยังไงก็ไม่มีวันที่มันจะรักกูได้เท่าไอ้บิน ยังไงก็ยังรักไอ้บินอยู่ ]

[ มันก็คงมี ] เพื่อนผมบอก [ แต่มึงจะไปคิดถึงผลลัพธ์แย่ๆทำไมวะ ทำไมไม่คิดถึงอะไรดีๆ มั่นใจในตัวเองหน่อยสัด ว่าตัวเองจะดีจนชนะใจเค้าได้ในสักวัน  ]

[ ช่วยพูดให้สมกับที่รู้จักกูมานานหน่อย ]

[ ถูกแล้ว นั่นแหละคำพูดของเพื่อนอย่างกูที่รู้จักมึงมานาน แต่ถ้ามึงทนไม่ไหวมึงก็แค่พูดออกไปอย่างที่มึงเป็นนั่นแหละ อย่าฝืนความเป็นตัวเองมาก เดี๋ยวพอคบกันไปนานๆ มึงเผยความเป็นตัวเองขึ้นมาเมดมันจะรับไม่ได้ ]

[ เรื่องเยอะชิบหาย ] ความรักแม่งละเอียดอ่อนจนรู้สึกน่าเบื่อ ราวกับแก้วบางที่ถ้าบีบแรงก็แตกและถ้าถือเบาไปก็คงไหลหลุดมือ
[ เป็นคนดี แต่ก็ดีในแบบที่มึงเป็นตัวเอง เข้าใจมั้ย ]

[ ไม่เข้าใจ ]

[ ฮ่าๆ เพราะความรักมึงตอนนี้มันคือการยอมเว้ยอาฟ ]

[ ยอมอะไร ]

[ ยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น ทั้งมึงแล้วก็เมดนั่นแหละ ]

กดปิดหน้าจอมือถือผมวางมันลงข้างตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าบุหรี่ในลิ้นชักตรงหัวเตียงมาจุดสูบ ไม่ลืมเปิดเครื่องดูดกลิ่น ได้เวลาปลุกคนขี้เซาให้ตื่นขึ้นไปทำงานแล้ว ผมบอกตัวเองแบบนั้นตอนที่สูดควันจากก้นบุหรี่เข้าไปในปอดก่อนจะพ่นควันออกมาจากทางปากและจมูก นั่งมองดูควันที่ลอยสูงขึ้นไปพลางนึกทบทวนในสิ่งที่เพื่อนพูด

ก็เป็นอย่างที่อีกคนบอก ไม่มีอะไรผิดแปลกไปมากกว่านั้น หัวใจของเมดต้องใช้เวลาในการรักษา ส่วนผมเองต้องยอมรับกับจุดนั้นให้ได้ ก็ตัดสินใจเลือกเองว่าจะไม่ขอรออะไรอีก เพราะงั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน ไม่มีทางเลือกอื่น

“ อื้มมม “ เสียงของคนที่ตื่นขึ้นจากที่นอน ผมก้มลงมองแววตาเรียวที่ขมวดคิ้วก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้คับคล้ายว่าจะหนีกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่น

“ ตื่นได้แล้ว “ ผมบอกมัน อีกคนก็พูดอู้อี้ผ่านออกจากใต้ผ้าห่มผืนนั้น

“ กูเหม็น ไอ้เชี้ยอาฟ สูบทำไมไม่มีมารยาทเลย คนนอนอยู่แท้ๆไอ้สัด “ ผมบ่นยาวๆที่ทำให้ผมหลุดหัวเราะ ก่อนที่คนหัวเสียจะแค่โผล่ตาออกมาจากใต้ผ้าห่มผืนนั้น “ กลิ่นติดตัว ติดหมอนไปอีก “

“ เปิดเครื่องดูดกลิ่นแล้ว “

“ มันไม่หายไปหมดหรอกสัด ยังไงก็ต้องติด “ ใบหน้างอง้ำของมัน รู้สึกหงุดหงิดจริงๆที่เห็นผมถือบุหรี่มวนนี้อยู่ในมือ มันจ้องผมส่วนผมเองก็จ้องมัน “ ยังอีก “ เมดบอกเสียงนิ่งก่อนจะลุกขึ้นนั่ง “ ยังไม่เลิกสูบอีก “

“ บ่นเหมือนแม่เลยวะ “ ว่าแบบนั้นผมก็สูดควันจากมวนบุหรี่เข้าไปครั้งสุดท้ายก่อนจะดับ แต่เหมือนเมดมันจะไม่เข้าใจ มือเล็กเลื่อนมาหมายจะจับบุหรี่ แต่ผมก็เบี่ยงหลบ

“ อาฟ “

“ อย่าเอามือมาจับ เดี๋ยวมือโดนขี้บุหรี่แล้วจะเจ็บ “ ใช้มือข้างนึงจับมือมันไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ดับบุหรี่เข้ากับกล่องเก็บของมัน หันมามองมันที่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆกับกลิ่นที่ตัวเองไม่ชอบ

“ คืนนี้กูจะไปนอนห้องตัวเอง “

“ ใครให้ไป “

“ กูนี่แหละอนุญาตตัวเอง ขืนให้กลับมานอนห้องมึงกูนอนไม่หลับพอดี กลิ่นมันคงคลุ้งติดผ้าไปหมด “

“ เดี๋ยวเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ เปลี่ยนหมดตั้งแต่ผ้าปูเตียงยันผ้าม่านยังได้ “ ยักคิ้วให้อีกคน เมดที่ถอนหายใจออกมา มันไม่ได้พูดอะไรมีเพียงสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่านั้นที่มองผมก่อนจะพลิกตัวเองไปหยิบมือถือที่ตั้งไว้ตรงหัวเตียงอีกฝั่งก่อนจะบ่นๆเบาๆ

“ ทำไมชีวิตแม่งหนีคนชอบสูบบุหรี่ในห้องนอนไม่พ้นสักทีวะ “ มันว่าแบบนั้นแบบไม่คิดอะไรคล้ายกับบ่น แต่ก็คงไม่ใช่กับคนที่ฟังอยู่แบบผม “ ไอ้เชี้ยบินก็คนนึงละ มาเจอไอ้เชี้ยอาฟอีก แล้วนี่ก็...“

ประโยคที่เหลือถูกกลืนหายไปในตอนที่ผมดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบ สองแขนของผมกอดเอวมันไว้ ตอนที่บดเบียดริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย มันไม่ใช่จูบที่อบอุ่นแบบที่ผมเคยทำ เป็นจูบที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นแรงๆของบุหรี่ที่ก็คลุ้งอยู่ในปากของเรา ริมฝีปากแห้งที่สัมผัสกันทุกอย่างมันแตกต่างจากครั้งแรก แถมยังดูห่างจากความโรแมนติกไปไกล

เมดจะรู้รึเปล่าว่าทำให้ผมหงุดหงิดแค่ไหน แต่คงไม่..มันคงไม่ตั้งใจจะพูดชื่อของใครคนนั้นออกมาตั้งแต่แรกหรอก และก็คงไม่คิดว่านี่คือการเปรียบเทียบอะไร มันก็แค่บ่นไปเซ็งๆตามประสาเท่านั้น ผมเข้าใจมันอยู่แต่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความไม่ตั้งใจ และถูกพูดออกมาจากใจจริงๆที่ไม่ผ่านการไต่ตรองนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บ...เจ็บแม้แต่ตอนนี้ที่กำลังกดคางของอีกฝ่ายให้เปิดริมฝีปากออกเพื่อต้อนรับลิ้นชื้นของผมที่ต้องการจะเข้าไปกวาดทุกความรู้สึกภายในนั้น และถ้าทำได้ก็จะกวาดเอาความรู้สึกที่มันมีต่อใครอีกคนออกไปให้หมด

“ อยู่กับกูก็พูดแค่ชื่อกู “ ผละริมฝีปากออกเพื่อบอกมัน ก่อนจะจูบลงไปอีกครั้งโดยไม่รับฟังคำตอบใด เมดควรเรียนรู้ว่าผมไม่ใช่คนใจดี แต่เป็นแค่คนนึงที่จะดีกับมันอย่างที่สุด และเช่นกันถ้ามันทำให้ผมเจ็บผมก็ร้ายกับมันได้เหมือนกัน เพราะทุกอารมณ์ของผมขึ้นอยู่กับการทำตัวของมันแทบทั้งสิ้น

“ อะ อาฟ พะ พอก่อน “ เมดดึงตัวเองออกมันหอบใจน้อยๆ แต่ผมก็ไมได้ฟังอะไรทั้งนั้น จูบมันอีกครั้ง จูบแบบดูดดื่มที่แทบไม่มีช่วงเวลาเว้นว่างให้มันได้หายใจ

อารมณ์ของผมเริ่มคลายตัวลงเรื่อยๆ เมื่อผ่านเวลาไปหลายนาที  มือที่วางไว้นิ่งเริ่มเลื่อนตัวเองเข้าไปลูบภายในเสื้อของอีกคน ผิวขาวนุ่มลื่นมือยามที่ได้สัมผัส ผมลูบมันสูงขึ้นไปเรื่อยจนถึงยอดอกของอีกฝ่าย ก่อนจะใช้ปลายนิ้วสะกิดมันเบาๆ เมดก็งอตัวหลบพลางออกแรงผลักผมเสียเต็มแรง

“ ไอ้เชี้ย!”

“ ไรวะ “ ผมเผลอสบถออกมาด้วยความเสียดาย ก่อนจะหันไปอีกทางตอนที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายขมวดคิ้วมองด้วยความไม่ชอบใจอยู่แบบนั้น มือมันเลื่อนมาจับคอเสื้อตัวเองแล้วกำไว้ เป็นท่าทางน่ารักที่ชวนให้อารมณ์ผมดีขึ้นอย่างฉับพลัน

“ มึงแม่ง คิดจะทำอะไร “

“ คิดว่าถ้ามึงยอมวันนี้ก็ไม่ต้องไปผับ “

“ ไม่ยอมเว้ย!” เมดตะโกนออกมาจนผมต้องเขย่าหูตัวเองเพราะกลัวว่ามันจะอื้อไปเสียก่อน หันไปจ้องใบหน้าน่ารักที่กำลังมองผมอยู่ด้วยสายตาไม่ชอบใจอยู่แบบนั้น

“ โทษทีคร๊าบ คราวหลังจะไม่ทำแล้วคร๊าบ “ ยกมือขึ้นสองข้างเหนือหัว เหมือนพวกผู้ร้ายในทีวีตอนโดนคุณตำรวจจับกุมได้ “ ก็มันเพลินไปหน่อย “

“ มึงควรรู้ไว้ว่ากูไม่ชอบให้จูบตอนที่ปากมึงมีกลิ่นบุหรี่ กูไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ กูหายใจไม่ออกเวลาได้กลิ่น แล้วกูก็ไม่ชอบที่มีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่ในห้อง เพราะแค่มีติดมากับเสื้อผ้ามึงใส่ตอนสูบแม่งก็เต็มกลืนแล้ว แล้วก็ถ้าอยากจะให้กูมานอนด้วย มึงก็ต้องห้ามสูบในห้องเด็ดขาด จะไปสูบที่ริมระเบียงหรืออะไรก็ได้แล้วแต่เรื่องของมึง เพราะมะเร็งปอดมันจะเป็นกับมึงไม่ได้เป็นกับกู “

“ คร๊าบบ “ ลากเสียงยานๆบอกอีกคนเหมือนไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่สั่งเท่าไหร่ เป็นท่าทางกวนตีนที่อีกฝ่ายทำได้แค่ถอดหายใจ

“ แล้วก็ขอโทษ “ สบสายตาคนที่เอ่ยพูดคำนั้นออกมา แววที่รู้สึกเศร้าของมันเมดเม้มริมปากตัวเอง “ ขอโทษที่พูดชื่อที่มึงไม่อยากได้ยินขึ้นมา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มึงรู้สึกไม่ดีนะ “ ลดมือที่อยู่เหนือตัวตัวเองลง เมดก้มหน้าลงก่อนจะดึงตัวเองมากอดผมไว้ “ ขอโทษนะมึง “ มันว่าแบบนั้นก่อนจะซบลงที่ไหล่

สองมือที่กอดเอวผมไว้แน่นนั้น มีหลายความรู้สึกแล่นเข้ามาอยู่ในสมอง ก็ยังคงหงุดหงิดอยู่แต่เบาบางจนแทบจะหายไป แต่ความรู้สึกหนึ่งที่แจ่มชัดอยู่ในขณะนี้ ตอนที่สองมือของผมเอื้อมไปกอดอีกคนไว้แน่นเช่นเดียวกัน

‘ ทุกอย่างต้องใช้เวลา แล้วตอนนี้เมดก็กำลังพยายามอย่างที่สุด เพื่อลืมมัน ’

“ คืนนี้นอนนี้นะ “ ผมบอกอีกคนสั้นๆ ตอนที่เรายังกอดกันไว้อยู่แบบนั้น เมดเงียบไปสักพักก่อนจะถามผมเสียงอู้อี้มาจากไหล่

“ ขอเหตุผล “

“ ขี้เกียจขับรถ “

“ ส่งที่บีทีเอสเดี๋ยวกลับเอง “ มันตอบกลับ ผมก็ถอนหายใจ ได้ยินเสียงหัวเราะถูกใจเบาๆผมก็ยกยิ้มในความช่างแกล้งของมัน “ ขอเหตุผลที่มากกว่านี้ “

“ อยากให้ในห้องมีกลิ่นแป้งเด็ก “

“ ก็เอามาทาที่ตัวหลังอาบน้ำ “

“ ไม่ชอบทาเอง อยากให้มึงเป็นคนทาแล้วมานอนข้างๆกัน “ เมดมันเงียบไปก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น

“ มีเหตุผลที่ดีกว่านี้มั้ย “

“ ไม่มี “

“ เหตุผลนี้ดีที่สุดแล้ว “

“ คงไม่ “ ผมบอกมันไปตามตรง “ แค่เป็นความจริง “

“ แต่ยังไงกูก็ต้องกลับคอนโดกู “ เมดย้ำแบบนั้นผมก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะดึงตัวเองออกมาจากมัน ใบหน้าน่ารักที่กำลังยิ้มกว้าง

“ มึงนี่เหมือนจะวอนตีนกูนะเมด“

“ มึงก็อย่าเกรี้ยวกราดไปสิวะอารยะ ฟังกูให้จบก่อน “ อีกคนว่า “ กูหมายถึงว่ายังไงก็ต้องพากูกลับคอนโด กูต้องไปเอาเสื้อผ้า หนังสือเรียนอะไรอีก กูไม่มีใส่แล้วเว้ย “

“ อื้ม “ ยักคิ้วให้มันอีกคนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะแบะปากแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มันยิ้มล้อๆ

“ จะยิ้มดีใจก็ยิ้ม ขี้เก็ก “

“ รำคาญ “ บอกแบบนั้นก่อนจะดึงอีกคนมากอดไว้แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ‘ อยากเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจมึงว่ะ เมื่อไหร่จะถึงวันนั้นสักทีวะ ช่วงเร่งเวลาหน่อยได้มั้ย ’ แล้วนี่ก็คือความต้องการที่ออกมาจากใจของผม ในตอนที่กำลังกอดมันไว้ครับ


..................................................................

พี่อารยะของน้อง มันหม่นนิดหน่อยก็ตรงที่ว่า คือมันไม่มีใครผิด เมดก็ไม่ผิดที่ยังติดค้าง ยังรักลึกๆ เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนมา แผลยังไม่หายดี มันก็ไม่แปลกที่น้องยังรู้สึก และพี่อาฟก็ไม่ผิดที่คิดครอบครองหัวใจคนที่ตัวเองรักทั้งดวง
สุดท้ายนี้ ... พี่ว่าน้องเดย์ควรมาเป็นของพี่นะคะ #กดจองน้องเดย เอ็นดูความซื่อใส
และนี่คือทางไปนิยายแชท จอยลดา http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ครั้งแรกของอารยะกับการเหวี่ยงแฟน 555  บทจะยอมก็ยอมทุกอย่าง บทจะงอแงก็น่ารักอะ 

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ลงชื่อ ให้อาฟเลิกบุหรี่  :hao3:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ขอบวกเม้นบนค่ะ เลิกได้แล้ว :katai5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ต้องใช้เวลานิดนึงน้าาา เมื่อไหร่เมดจะรู้ว่าอาฟเป็นคนเอานมให้  :hao5:

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ลงด้วย ฮาฟเลิกบุหรี่ได้แล้ว น้องไม่ชอบ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ต่ออีกสิ งื้อออออ อยากอ่านฟินๆอีกกกก
อยากเห็นใครสักคนเอาคืน เพื่อนจอมปลอม อิเลววว

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ความใจร้อนของคนเพิ่งมีแฟนอย่างคุณอารยะ แก้ได้ด้วยการอ้อนแฟนมากๆนะคะ
แฟนจะได้รักเราหลงเราไวๆ /ตัดภาพไปพี่อาฟทำหน้าเอือมแต่หูแดง 55

ปล.อยากซื้อปลาฝากน้องเดย์~  :hao7:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เข้าใจเมดนะ เมดคบกับบินมานาน มันต้องใช้เวลาลบคนเก่าออกจากใจ
 แต่ก็เข้าใจอาฟเหมือนกัน เวลาเมดเผลอพูดชื่อแฟนเก่าออกมา คนฟังมันก็นอยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ชอบอะไรก้บอก ไม่ชอบก้บอก
เป็นตัวของตัวเอง จะได้ปรับตัว รักกันยืดๆ
ตีกันก้จบบนเตียง รับรอง ลูกดก

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อาฟได้เลิกบุหรี่ก็คราวนี้ ในห้องจะได้มีแต่กลิ่นแป้งเด็กอ่ะเนอะ

เอาใจช่วย แผลมันยังใหม่ ยังต้องใช้เวลา

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :serius2: โอ้ย เกลียดคนอวดสติ๊กเกอร์ หมั่นไส้ เหม็นความรักไปหมดค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อาฟเนียน ไหนว่าทำตามที่บอกไง
บอกให้ปล่อย ทำไมยังกอด แหนะ เนียนนะ
มีเขิน มีอาย คนบ้า

เมดน่ารักดี มีงอแง มีฟ้องด้วย 5555
เมดดูตรงดี ชัดเจนได้แล้ว ชอบ

ตลกวิว ยิ่งกว่าเอฟซีพี่อาฟไปอีก

อาฟต้องเข้าใจนะ มันยังตกค้างอยู่
ลืมไม่ได้แต่หรอก แต่ก็ไม่ได้คิดถึงน่ะ
เมดก็เผลอบ่อยนะ อาฟนอยด์เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2018 08:49:55 โดย labelle »

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สู้ๆอารยะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เข้าใจทั้งอาฟทั้งเมด เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
คุณอารยะมีความเกรี้ยวกราดเบา ๆ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มีความแสดงความเป็นเจ้าของ :hao7:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ทุกอย่างต้องใช้เวลา รอได้อยู่แล้วเนอะอาฟ

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :o8: อ่านไปนั่งยิ้้มไป ตอนไหนที่เมดคุยกับอดีตเพื่อนก็หัวร้อนแทน  :m16: อยากรู้ถ้าจินรู้นิสัยจริงๆของเพื่อนที่ตัวเองช่วยปิดจะรู้สึกยังไงดี(รึรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนชอบแย่งของคนอื่น) แล้วที่เมดออกมาจากตรงนัันได้ถึงจะเจ็บ ผิดหวังแต่สู้ๆนะเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
สนุกค่ะชอบแก้งพระเอกอยากให้วิวมาร่วมแก้งด้วยจัง
 :mew1:  :mew1: :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด