Chapter 23
มือถือใบ(สั่ง) ไฟส่องหน้า
“พี่ว่าให้ข้างหลังเบลอๆ ก็สวยดีนะ”
มือเรียวสวยจับนั่นแต่งนี่อยู่นาน เพราะตัวเองก็ทำไม่เป็น
กล้อง DSLR สีดำขลับ สัญชาติญี่ปุ่นที่เสี่ยเพิ่งถอยออกมาให้ลูกสาวคนสวยกำลังอยู่ในมือของคนที่เล่นไม่เป็น ...เอาตรงๆ ก็เล่นไม่เป็นเลยสักคน เสี่ยแกแค่ซื้อให้เป็นของขวัญเรียนดี เพราะน้องแป้งร่ำร้องอยากได้มานานแล้ว และถ้าลูกสาวเอาดีทางด้านนี้จริงๆจังๆ เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่อีกคนนี่สิ ท่าทางจะเห่อมากกว่าเจ้าของเสียอีก จับใหญ่เลย ...
เฮ้อ! น่ารักชะมัด
“มองอะไรครับเสี่ย กาแฟเย็นหมดแล้ว รีบกินเลยๆ”
ไม่ต้องบอกว่าเขิน ก็ดูออกว่าเขินมาก เสี่ยจึงหยิกแก้มคนข้างๆด้วยความมันเขี้ยวไปหนึ่งที โดยทำเป็นไม่สนใจท่าอาเจียนของลูกสาวที่นั่งตรงข้าม น้องแป้งเลยจัดไม่เด็ดไปหนึ่งดอก
“พี่เน่ดูภาพเป็นอย่างเงี้ย แสดงว่ารับงานบ่อยเลยใช่มั้ยคะ”
โดนหางานให้แล้วไหมล่ะ เนเน่รีบวางกล้องลง หน้าตานิ่ง แต่แววตาลนลานอย่างปิดไม่มิด
เสี่ยมองควันจากกาแฟ มันกำลังลอยคุกรุ่น คล้ายดั่งอารมณ์เขาตอนนี้ พอเป็นเรื่องของเน่ หัวใจก็ควบคุมไม่ค่อยจะอยู่ ...เป็นคนแก่ที่แย่จริงๆ
“น้องแป้งก็พูดไป พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
ตอบด้วยเสียงเบาราวปุยนุ่น
“ทำน่ะทำได้นะ แต่ต้องพอประมาณ”
“ครับเสี่ย เสี่ยก็รู้ว่าพี่หมีตามตลอด ไม่มีอะไรหรอกเนอะ”
เด็กเสี่ยแอบอ้อนออเซาะ เอาหัวถูไหล่แกร่งไปมา
“เพิ่งผ่านมาแค่สองเดือนเองนะ อย่าให้ต้องบ่นหลายรอบ ตั้งใจเรียนอย่างที่หวังไว้สิ”
“คร้าบผม”
ปากน่ะยิ้มนะ แต่ในใจเน่ขมขื่น
เน่ชอบภาษาอังกฤษก็จริง แต่การเรียนในสิ่งที่มันไม่ท้าทาย และเรารู้ค่อนข้างเยอะ ทำให้เขาเบื่อมากๆ ถึงมากที่สุด แต่ไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้เลย เพราะนี่คือสิ่งที่เน่เลือกเอง เขาร้องไห้ เขาอ้อนวอน เขาขอร้องเสี่ยให้ได้มาอยู่ ต้องทนคิดถึงสุพรรณ คิดถึงบ้านทรงไทยบรรยากาศเกินล้านมาได้ตั้ง 2 เดือน!
ไม่เอาหรอก
ไม่บอกใครหรอก
...เรียนๆไปมันคงดีขึ้นเองล่ะมั้ง
อย่างน้อยๆตอนนี้ก็รับงานถ่ายแบบกับถ่ายงานเล็กๆน้อยๆให้เด็กนิเทศฯ ซึ่งก็พอถูไถไปได้บ้าง แถมบางงานยังหลอกพี่หมีว่าไปทำการบ้านกับเพื่อน ทั้งๆที่จริงไปถ่ายงานในตัวเมืองกับเต้ เด็กไอทีที่เน่ไปทำรถเขาเป็นรอยวันนั้นอีก
สนุก....มั้ง
ถลำตัวไปแล้ว ถอยกลับไม่ได้แล้วล่ะ
“สั่งอะไรเพิ่มไหมคะพ่อ พี่เน่”
คุณลูกสาวผู้รู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุให้บรรยากาศเสียเอ่ยแทรกขึ้นมาเพื่อกลบความอึดอัดทิ้งไป ก็วันนี้มาเที่ยวใจกลางเมืองกรุงเทพฯทั้งที มันก็ต้องเอาให้สุด เข้าร้านกาแฟแพงๆแบบที่คนไม่เข้า ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความอบอุ่น
“เอาเรดเวลเวดมั้ย ให้น้องแป้งถ่ายรูป”
เน่พูดถึงเค้กสีแดงสด รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ เขาไม่ได้กินนานแล้ว อยู่กับพี่หมี แกก็เอาแต่นอนในห้อง แต่ถ้าจะให้ไปเที่ยวด้วยกัน มันก็ยังไงอยู่
“ก็ได้ค่า”
เด็กหญิงอาสาเดินไปสั่งด้วยตัวเอง นัยว่าให้สองคนที่เหลือเคลียร์ใจกันซะ
เนเน่ไม่รู้ว่าเสี่ยรูปหล่อจ้องมองเขาตลอดทุกการกระทำ
พิงไหล่
แคะเล็บ
กัดปาก
ปัดฝุ่นออกจากกางเกง
นั่งมองเท้าตัวเอง
ทุกช่วงเวลาปรากฏอยู่ในสายตาของเสี่ย
แกไม่อยากเดาเรื่องอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ รู้เพียงแค่ว่าเนเน่ เด็กดื้อของเขา ควรมีความสุขมากกว่านี้ ตอนนี้เน่ขาดความเป็นธรรมชาติ แววตาไร้ประกาย
“ถ่ายแบบมากเกินไปหรือเปล่า”
“หือ?”
การเป็นตัวของตัวเองนั้นดีที่สุด แต่เน่คงทำงานจนหลงลืมมันไป เฝ้าสวมคาแรคเตอร์ของคนอื่นเพื่อให้ดูดี เพื่อให้ขึ้นกล้อง ซึ่งไม่ควรนำกลับมาใช้ที่บ้าน
“อย่าดื้อนะ”
“อื้อ ไม่ดื้อหรอก”
เด็กยิ้มให้กับเสี่ย ให้กับมืออันอบอุ่นของเสี่ยที่ลูบหัวเขา
•
รถเก๋งทรงยาวสวยจอดเข้าซองในบริเวณของอาคารเรียนรวม ซึ่งวันนี้เนเน่ต้องมาเรียนวิชาเสรี เป็นวิชาเลือก เราอยากเรียนอะไรก็ได้ตามที่ใจปรารถนา แล้วก็เป็นวิชาง่ายๆ อาจจะมีงานกลุ่มบ้าง แต่ไม่เคร่งเท่าวิชาหลัก จะว่าไปก็เหมือนวิชาช่วยมากกว่า เด็กๆจึงนับวันรอเพื่อมาเรียนวิชาเสรีกันแทบทุกคน แถมยังได้เจอเพื่อนต่างคณะด้วยแน่ะ อย่างนี้ใครจะไม่ชอบ
สำหรับเนเน่ เขาเลือกวิชา Family Management คิดเอาไว้ว่าจะนำไปปฏิบัติเวลามีลูกกับเสี่ยน่ะนะ
“ไม่รีบเหรอ เดี๋ยวสายนะ”
เช้านี้เป็นเช้าที่พิเศษมากๆ เพราะเสี่ยมาส่งเน่ด้วยตัวเอง แต่มีที่ไหนมาบอกให้เขาลงจากรถ ทั้งๆที่มือยังจับกันอยู่เลย
“อีกสิบนาที ว่าแต่เสี่ยนั่นแหละ เข้าซองทำไมล่ะครับ”
“ว่าจะไปซื้อกาแฟก่อน”
“เน่ไปด้วยสิ”
“ไม่อายเหรอ”
“อายทำไม เขารู้กันทั้งคณะ”
พูดมาได้หน้าตาเฉย เสี่ยเลยเขกมะเหงกไปที
“กวนหรือเปล่า”
“จริง เขารู้หมดแล้วครับเสี่ย พ่อที่ไหนจะหล่อแบบนี้ อีกอย่างนะ เน่ก็แอบถ่ายรูปเสี่ยลงไอจีประจำ”
“โม้”
“ไม่โม้ๆ เอาเรื่องจริงป้ะ”
“เอา...—เอากันตรงนี้แหละ!”
น้ำเสียงกัดฟันเหมือนเขี้ยวจะงอกมากินหัว เนเน่กำลังจะอ้าปากพูด ก็ถูกเสี่ยจูบระรานอีก ฟันหน้าอันแข็งแรงฝังรอยเขี้ยวไว้ปลายคาง อีกทั้งลิ้นร้อนยังขอชิมรสปากเด็กหนุ่มอยู่นานกว่าจะปล่อย
“อือ....เสี่ย..เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก”
“ให้เห็นไปสิ เธอไม่อายไม่ใช่เหรอ”
“เฮอะ! พ่อที่ไหนมาจูบลูก”
“เป็นพ่อทูนหัว ที่เป็น ‘ผัว’ เธอ”
“ฮ่าๆๆ โอ๊ยเสี่ย พอพูดคล้องจองแบบนี้แล้วดูแก๊แก่ ...ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าคุณพ่อแก่แล้ว ฮ่าๆๆ”
เน่เผลอหัวเราะไป โดยลืมว่าตาแก่ขี้เก๊กเป็นคนกลัวเสียฟอร์ม พอถูกหัวเราะใส่เลยยั้วะ ทำท่าจะขย้ำลูกหมาอีกแล้ว
“อือ ...ไม่เอาาาาา”
วันนี้เสี่ยลืมโกนหนวด ปลายคางจึงมีขนเป็นตอทิ่มออกมา แล้วมันก็ทิ่มแก้มเน่ ปากเน่ คอเน่ มันเห่อแดง ลามไปถึงหู เสียงของเด็กหนุ่มเบาลง...เบาลง จากที่ต่อต้านในตอนแรก กลับกลายเป็นโอนอ่อนผ่อนตาม
.
.
.
.
สุดท้ายเน่ก็เข้าคลาสสายไปครึ่งชั่วโมง เพราะมัวแต่เถียงกับเสี่ยเรื่องจะกินกาแฟรสอะไร......มั้ง
ไหนจะปั้นเรื่องโกหกเสี่ยว่าอาทิตย์นี้กลับสุพรรณฯไม่ได้อีก
ฟังไม่ผิดหรอก
เน่โกหกเสี่ย
สาเหตุที่เสี่ยมาหากลางสัปดาห์ก็เพราะเน่ไปปดเอาไว้ว่าเสาร์-อาทิตย์มีงาน ต้องทำงานกับเพื่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ผ่านแน่ เพราะงานชิ้นนี้คิดเป็น 30% ของทั้งหมด ทั้งต้องสัมภาษณ์ฝรั่ง ทั้งเขียนรายงาน ทั้งจัดทำพรีเซนต์หน้าชั้นเรียน เน่น่ะกลับเรือนไทยไม่ได้แน่ๆ
เสี่ยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บวกกับพี่หมีก็ไม่รู้ คิดว่าเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่สิ
ไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องอะไรทั้งนั้น มันก็แค่เรื่องธรรมดาของเด็กวัยมหาลัย
จะโกหก ไม่โกหก ไม่เคยอยู่ในหัว
แล้วเรื่องจริงล่ะ...?
เนเน่มีงานถ่ายแบบกับเต้ เป็นตีมคู่รักวัยรุ่นที่กำลังมีกระแส โดยโลเคชั่นเป็นป่าดอกหญ้า เน่เดาเอาว่าภาพคงออกแนวฟุ้งๆ ชวนฝัน เพราะต้องให้เข้ากับหน้าบล็อกของนักท่องเที่ยวรุ่นพี่นิเทศฯ ซึ่งพี่แกเป็นสาววาย อยากจะได้อะไรฟินๆมาประดับหน้าบล็อก
เขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนชอบมากขนาดนี้ แค่ถ่ายโปสเตอร์ด้วยกันกับเต้ครั้งนั้น ก็เริ่มมีแฟนคลับ เริ่มมีงานเล็กๆน้อยๆ ซึ่งช่วยแบ่งเบาความน่าเบื่อไปได้มาก นี่เต้มันก็แอบไปแคสงานละครด้วยนะ ไม่รู้ว่าถ้าดังแล้ว คู่จิ้นคู่นี้จะมีกระแสเพิ่มหรือเปล่า ตอนนี้ยังดังแค่ในวงเล็กๆ แต่เน่ก็ชอบ ไม่รู้สึกว่าถูกแย่งความเป็นส่วนตัวเลย
[มาเอาขนมที่กูด้วยนะ น้องฟิล์มฝากมา]
ข้อความจากเต้ถูกส่งมาระหว่างที่เน่กำลังจะแยกกับเสี่ย
คนมีประสบการณ์เรื่องความรักมาอย่างโชกโชนลอบสังเกตท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่น
เสี่ยคว้ามือเน่ไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินห่างออกไป
“ทำงานวันธรรมดาไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้หรอกครับ”
“ถ้าเธอเหนื่อย ก็กลับบ้านเรานะ อย่าแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
“โถ่เสี่ยอ่ะ พี่หมีก็อยู่ ขี้หวงมากกว่า อย่ามาอ้างเลย”
คนฟังอมยิ้มน้อยๆ
“ก็รู้ว่าเป็นคนยังไง อย่าให้มีเรื่องแล้วกัน”
เนเน่พยายามไม่ทำสายตาหลุกหลิกกับคำขู่นั่น
“เสี่ยรักเน่ไม่ใช่เหรอครับ”
พูดพร้อมกอดแน่นๆ
“เดี๋ยวเน่ง้อ เสี่ยก็หายงอนใช่ป่ะ”
เสี่ยไม่พูดอะไร ทำเพียงลูบผม สัมผัสสุดท้ายก่อนจากกัน
“นี่...—ถ้าเน่เลิกเร็ว ก็อาจจะไปหานะ ...รอนะครับ”
“อืม”
“...รักเสี่ยที่สุดเลย”
เน่คงลืมไป
ว่าคนรักกัน
ไม่ควรทำแบบนี้
•
แอบมากับเต้จนได้
บอกพี่หมีว่าไปทำงานบ้านเพื่อน เดี๋ยวเพื่อนมารับ ก่อนจะเช็กตัวเองให้ชัวร์ว่าพี่แกไม่ได้แอบติดgpsไว้ที่ไหน ทั้งยังไม่พกโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าเน่ทำแบบนี้จนชิน จนเหมือนแอบสามีมาหาชู้ยังไงก็ไม่รู้
“ขยับเข้ามาอีกสิ”
เต้ดึงไหล่บางเข้าหาตัวเอง พยายามหามุมกล้องให้ดูเหมือนว่ากำลังจะจูบกัน แต่เน่คิดว่าแรงไป ไหนว่าจะมาถ่ายแนวคู่รักใสๆไง
“มันก็ใกล้แล้วนะ”
“เขินเหรอ”
ขยี้หัวซ้ำอีก
ก็เน่น่ารัก ไปที่ไหนคนก็เอ็นดู
“ไม่โว้ย แค่เกรงใจแฟน”
“หลอกเขามาขนาดนี้ยังเกรงใจกันอีก”
“ดูหน้าด้วย หน้าเราใสๆ ซื่อๆ บริสุทธิ์ผุดผ่อง”
“เชื่อจ้ะเชื่อ”
“โอ๊ยทำไมมดแถวนี้มันเยอะจังวะ”
เสียงรุ่นพี่แซ็วดังแทรกขึ้นมาในโลกของทั้งคู่
ไม่ปฏิเสธว่าเน่สบายใจมากเวลาได้อยู่กับเต้ แต่มันเป็นความรู้สึกคนละแบบกับคนรัก เขาไม่เคยคิดอยากจะมีอะไรกับเต้ พวกความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวอะไรนั่น แล้วก็ไม่พากันบ้าๆบอๆ แบบที่คบกับเอ็มมิค แต่เป็นความรู้สึกเรื่อยๆ สบายๆ มากกว่า
“เมื่อกี๊พี่ได้หลายช็อตเลย สวยมาก”
“ตอนเราเผลอเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แต่เสียดายแสงตรงนั้นมันเข้าทางฝั่งน้องเน่ซะเยอะ ไอ้เต้เลยดำๆไปนิด”
“ขอผมดูหน่อยสิพี่”
เต้เป็นคนเอาการเอางาน และจริงจังกับวงการนี้มาก จึงอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถ้าเขาแก้ไขงานตัวเองได้ ก็จะขอถ่ายใหม่ตลอด
“ก็สวยนะ”
ในรูปเท่าที่เน่เห็นนั้นสวยมากจริงๆ ภาพโฟกัสเขาสองคนยืนคุยกันห่างออกไป มีต้นหญ้ากระทบกับแสงแดดยามบ่ายขึ้นบังอยู่ข้างหน้ากำลังพอดี
“เหมือนนางฟ้าเลย”
เนเน่เหมือนไม่ใช่คนจริงๆ ด้วยแสงแดดที่ส่องเข้าหาแผ่นหลัง กับรอยยิ้มละมุนละไมนั่น มันลอยฟุ้ง มันสดใส คล้ายกับว่าปีกจะงอกออกมาตอนไหนก็ได้ ส่วนเต้เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้พบนางฟ้า
“ก็ไม่ดำมากนะ”
เน่ทัก เขาคิดว่ามุมนี้เต้หล่อดีออก เข้มขึ้นด้วย จากที่ปกติจะออกแนววัยรุ่นหน้าตาดีธรรมดา
“อาทิตย์หน้าจะไปแคสติ้งบทตัวร้าย เอามุมนี้ดีไหมเน่”
“ก็ลองสิ หันข้างนิดๆ หลบแสงหน่อยๆ แล้วมองแรงๆใส่กรรมการ”
“พี่ว่าแกก็ร้ายอยู่นะเต้ ไม่ต้องหามุมหรอก”
“พี่หลอกด่าผมป่ะเนี่ย”
“ไปเป็นตัวร้ายทำไมวะ ทำไมไม่ไปแคสละครวาย ดังไวนะเว่ย เนี่ยเล่นคู่กับเน่สิ”
“มันมีเหรอครับ”
“อื้อ เดือนหน้านี้ไง ที่พารากอน ลองไปสมัครดูดิ บอกสังกัดแกด้วยไอ้เต้ เผื่อจะช่วยฝากๆกันได้”
“ไม่เอาหรอก รู้สึกผิด”
“จ้า พ่อคนดี แต่ถ้าสนใจบอกพี่นะ ไม่ต้องเป็นเด็กฝาก แต่ติดต่อสังกัดแกไว้
ก็พอ ส่วนพี่จะช่วยแต่งหน้าแต่งตัวให้หล่อๆเลย ไปหาอ่านดูรายละเอียดตัวละครที่เขาคัดในเน็ตก็ได้ พี่เชียร์ว่ะ รุ่งแน่เอ็งสองคน เคมีเข้ากันออกอย่างนี้ ...ว่าแต่แฟนน้องเน่คงไม่โกรธใช่มั้ย”
คนถูกถามยิ้มเจื่อน
“น่าจะนะครับ”
“ก็ดีแล้ว—เอ้อ! มันมีเด็กคนนึงบอกว่าเป็นแฟนคลับแกสองคน พี่ให้ไปนั่งรอข้างนอก ลองไปหาสิ”
เนเน่ไม่ตกใจที่มีคนมาตามเพราะก็มีมาอยู่เรื่อยๆ แอบถามจากกองบ้างล่ะ จากเพื่อนบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าจะขยันอะไรกันนักหนา บางคนตามจนจำหน้าได้ แต่น้องมันก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร มาขอถ่ายรูปแล้วไปแค่นั้น รายนี้ก็คงเหมือนกัน
เด็กผู้หญิงหน้าตาดี ผิวขาวจัด แต่งหน้าเข้ม และทั้งคู่ไม่เคยเจอมาก่อน นั่งรอพร้อมยิ้มแป้น
“สวัสดีค่ะพี่เต้ พี่เนเน่”
“สวัสดีครับน้อง”
“ดีใจจัง...ได้เจอพี่สองคนสักที หนูชอบพี่ๆม้ากมากเลยค่ะ พี่เหมาะสมกันมากกกกก €¥#&&)>%*$|#^”
เน่กับเต้มองตากันอย่างรู้ทันว่าสิ่งที่น้องพูดมานั้น มึงเบื่อแล้วใช่ไหม เพราะน้องแกเล่นสาธยายตั้งแต่ที่หลงรักครั้งแรก ไปจนถึงเก็บรูปไว้ใต้หมอน ซึ่งยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ
“เอ้อน้อง”
“คะ?”
เต้มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว
“พี่ขอบคุณนะที่รักกัน ติดตามกัน แต่เดี๋ยวพี่สองคนไปทำงานต่อก่อนนะครับ ถ่ายรูปเลยดีมั้ย”
แทนที่จะดีใจ น้องหน้าขาวกลับขมวดคิ้วไม่พอใจ
“หนูยังพูดไม่จบ”
ท่าทางจะเจอคนประหลาดเข้าให้แล้ว เน่จึงยกให้เต้จัดการไปเลย เขาน่ะติดเหวี่ยงวีนกับคนเพี้ยนมาแต่ไหนแต่ไร ไม่กล้าในเวลาแบบนี้หรอก เสียภาพพจน์
“แต่งานพี่ยังไม่เสร็จเลย น้องรอได้หรือเปล่าครับ มันร้อนนะ”
“เอาล่ะๆ หนูเข้าใจค่ะ”
“โอเคครับ งั้นเรามาถ่ายรูปกัน”
“ไม่ๆ ที่จริงหนูมีเรื่องจะถามพี่เน่”
“ครับ?”
หน้าน้องจริงจังมาก
“พี่เน่มีพี่เต้อยู่แล้ว แล้วทำไมถึงมีคนอื่นได้อีก”
“ห๊ะ?”
“นี่ไง!”
จู่ๆก็ถูกเอามือถือกระแทกหน้าอกค่อนข้างแรง เนเน่ถึงกับเซไปข้างหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่เต้ก็ประคองไว้ทัน เจ้าตัวมีสติมากกว่า จึงหยิบมือถือของน้องหน้าขาวมาดู ซึ่งเปิดแอปอินสตาแกรมหน้าของเน่ค้างไว้ ในนั้นมีรูปไม่ถึงสิบรูป แต่ทั้งหมดเป็นภาพแอบถ่ายเสี่ย ไม่ก็ภาพมือสองมือจับกัน ภาพเงาของคนสองคน มีแต่เสี่ย แต่เสี่ยเต็มไปหมด
“พี่ล็อกไอจีไว้นี่”
“หนูมีวิธีก็แล้วกัน”
เด็กบ้าแย่งมือถือของตัวเองคืนไป
ควรทำหน้ายังไงวะ
เน่กับเต้มองหน้ากันอีกแล้ว สายตาส่งคำถามร้อยแปดให้กันว่าควรจัดการกับเด็กนี่ยังไง เจอคนบ้าเข้าแล้วไหมล่ะ
“น้องข้องใจแค่นี้ใช่ไหมครับ”
“ใช่! พี่เน่มีเสี่ยเลี้ยง แล้วก็มาคบพี่เต้ ถามจริงเถอะ ไม่สงสารพี่เต้เลยเหรอ น่าเกลียด ทุเรศมากๆ —พี่เต้ยอมได้ไงคะ ทำไมไม่แย่งสักที หรือไม่มีปัญญา”
“เฮ่ยน้อง น้องเป็นอะไรมากป่ะ”
“หนูรักพี่ทั้งคู่นะ แต่เราต้องทำให้ถูกต้องสิคะ พี่เน่เลิกกับเสี่ยนั่นเดี๋ยวนี้เลย”
“จะบ้าเหรอ”
กำลังงง เลยพูดได้แค่นี้จริงๆ
“ไม่งั้นหนูจะแฉว่าพี่เน่เป็นเด็กเสี่ย คบเสี่ยแก่ๆเพราะเงิน”
“อะไรน้อง ทำเพื่ออะไร มายุ่งวุ่นวายทำไม”
“ก็หนูอยากให้พี่สองคนคบกันอย่างมีความสุขนี่คะ”
“พี่สองคนเป็น เพื่อน! กัน!”
“ไม่เชื่อ!”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่อย่ามายุ่งกับพวกพี่อีก”
เต้รีบตัดบท ก่อนที่เน่จะหนุมานถวายแหวนใส่
ทั้งสองเดินหงุดหงิดเข้ากองไปฟ้องพี่ๆอีกทอด แม้จะเห็นว่าเด็กนั่นถ่ายรูปรัวๆเพื่อเอาไปทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ แต่เขาก็ไม่สนใจแล้ว อารมณ์มันเสียไปแล้ว ปล่อยให้พี่ๆจัดการไล่นางไปดีกว่า
บอกได้คำเดียวว่า เซ็ง!
•
To be continued...