อิอิ เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องดองเรื่องสั้น กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป เอาไว้ก่อนนะครับ แต่ก็คงไม่นานเกินรอที่จะได้ติดตามกันต่อนะ
ตอนนี้ผมก็เลยเอาเรื่องนี้ที่ดัดแปลงจากหลายๆเรื่องที่ได้เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วเอามาแต่งเติมเสริมๆเอานะครับ ก็ได้เป็นซีรี่ย์สั้นๆ 3 ภาค แล้วจะทยอยลงให้อีกครั้งนะ รับรองว่าไม่ดองนาน เผื่อว่าท่านผู้อ่านจะได้ไม่เบื่อที่จะรออ่านเรื่องสั้น กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป เลยเอาเรื่องนี้มาให้อ่านเล่นระหว่างรอนะครับ
ถ้าถูกใจก็เม้นท์หน่อยนะครับ ขอบคุณคร้าบ
ปล. เนื่องจากพอดีว่าเกิดความผิดพลาดของผมเองอ่ะ เลยสับสนในการลงชื่อตอนนะครับ สำหรับท่านที่ได้อ่านไปแล้วอย่างงนะครับ ว่าทำไมเปลี่ยนชื่อตอนทีหลังนะ ผมเบลอเองครับ แฮะๆ
Chapter 1Summer Romance ***************
สงสัยไอ้คำว่า "เซ็งเป็ด" เนี่ย มันคงไม่เพียงพอจะใช้บรรยายความรู้สึกเซ็งของผมในตอนนี้ได้ละมั๊งครับ
เพราะแมร่ง โคตรเซ็งจริงๆครับ แต่ว่าจะเพราะอะไรน่ะเหรอ
ลองคิดดูครับ ถ้าคุณเป็นคนเดียวในชั้นปีที่ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อของผู้จบการศึกษาปีนี้น่ะ
ว่าง่ายๆก็คือ คุณเรียนไม่จบ ไม่มีสิทธิ์ร่วมรับพระราชทานปริญญาบัตรกับเพื่อนๆแล้ว
คุณจะเซ็งมั๊ย ยังงี้จะต้องใช้คำว่า "เซ็งเป็ด" สักกี่ร้อยคำอ่ะ ถึงจะบรรยายความเซ็งของคุณตอนนี้ได้
-
-
แต่ก็นั่นแหละครับ จะไปโทษใครล่ะ นอกจากตัวเองน่ะ
" เฮ้ย นี่ตกลงมึงเลยไม่จบเหรอวะ ไอ้หยุน ก็เห็นมั๊ย กูบอกมึงแล้วว่าอย่ามัวไปเล่นดนตรีดึกๆดื่นๆอยู่ เรียนมึงก็ไม่ค่อยมาเข้าเรียนอะ ถ้าไม่งั้นป่านนี้มึงก็จบพร้อมพวกกูแล้ว" ไอ้ดลเพื่อนเลิฟผมหันมาบอกขณะที่เรายืนดูรายชื่อกันที่บอร์ด
" เออๆ สาด... กูรู้ละ ไม่ต้องย้ำ กูขาดอยู่แค่หน่วยเดียวเอง ปีหน้ากูจบแน่รับรอง"
" อ่านะ กูก็ขอให้มึงจบแล้วกันนะ แต่ไม่ใช่จบเห่ล่ะ อ้าวแล้วนี่มึงจะไปไหนอ่ะ" มันถามเมื่อเห็นผมกำลังเดินจากไป
" ก็กลับบ้านกูดิวะ จะอยู่ทำหอกอะไรอีกละ เซ็งเว้ย" ผมหันไปบ่น
" เออๆ งั้นมึงไปเหอะ พวกกูจะไปหาอาจารย์กัน" ไอ้ดลบอกแล้วมันก็เดินขึ้นตึกคณะไป
มันคงรู้นิสัยผมดี ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาปลอบใจอะไรกันมากมาย และไม่ต้องการความสงสารจากใครทั้งนั้นแหละ
เพราะตอนนี้ผมสำนึกแล้วจริงๆ ว่าเราผิดเองทุกๆอย่าง ที่ผ่านมาผมทำตัวเองทั้งนั้น
แล้วตอนนี้สภาพที่ผมเป็นอยู่นี้มันก็คือ "บทลงโทษ" ของผมนั่นเอง
-
-
ผมเดินคิดอะไรไปเรื่อยๆจนออกมาที่หน้ามหาลัยโดยไม่รู้ตัว เลยหันกลับมาที่ประตูทางเข้าของมหาลัยแล้วยืนเหม่อมองไปเรื่อยพลางนึกย้อนไปถึงวันแรกที่ได้มาเรียนที่นี่
มันช่างเป็นวันที่ผมมีความสุขและตื่นเต้นซะจริงๆเพราะชีวิตผมกำลังจะเปลี่ยนจากเด็กมัธยมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จะได้พบการรับน้องที่แสนสนุกและประทับใจกับรุ่นพี่ที่น่ารัก และผมได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกมากมายที่นี่ ถ้าเพียงแต่ผมไม่ต้องเสียเพื่อนคนนึงที่ผมรักมากที่สุดไปซะก่อน
ไม่ใช่ว่าเพื่อนผมมันตายจากไปหรอกครับ แต่ผมเองที่ได้ทำลายความเป็นเพื่อนของเราลงไปด้วยมือผมนี่
ก็แค่เพียงเพราะว่าผมไปรักมันมากเกินเพื่อนซะแล้ว ความเป็นเพื่อนของเรามันเลยต้องพังทลายไป
และแม้แต่ตัวของมันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเพื่อนอย่างผมรักมันเกินเพื่อนไปอย่างนี้
-
-
" อ้าว... เฮ้ย ไอ้หยุน มึงมายืนทำอะไรตรงนี้วะ แล้วจะไปไหนอ่ะ" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังผมพร้อมๆกับมือที่ยื่นมาจับที่ไหล่ผม ทำให้ผมรีบหันไปทันทีแล้วก็ถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก
ไอ้เคนั่นเองครับ อดีตเพื่อนที่ผมรักที่สุด ต้องใช้คำๆนี้นะครับเพราะว่าก็เป็นงั้นจริงๆ ก็แค่เพราะว่าผมไปรักมันนี่แหละ เลยทำให้ความเป็นเพื่อนของเรามันต้องขาดสะบั้นไปแล้ว จนทุกวันนี้มันก็เลยต้องกลายเป็นเพียงอดีตสำหรับผมไปนะ
" นี่กูไม่เจอกะมึงนานมากแล้วนะเว้ย เห็นใครๆมันบอกว่าวงมึงแตกเหรอวะ แล้วมึงจะทำไงน่ะ" มันยิ้มอย่างดีใจที่เจอผม แต่ดันถามเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน ซึ่งก็ยังดีที่ไม่ถามเรื่องที่ผมเรียนไม่จบนะ
" ก็.... กูว่ากูก็คงต้องมาเรียนให้จบๆซะทีอ่ะ ก่อนที่กูจะแก่ตายไปซะก่อนนะ เออ..... แล้วนี่มึงเป็นไงบ้างอะ จบแล้วมึงจะไปทำงานที่ไหนวะ"
" อ๋อ... กูก็คงไปทำบริษัทพ่อกูแหละ มึงก็มาทำด้วยกันก็ได้นะเว้ย รับงานไปก่อนเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องมาทำอยู่ประจำนะ มึงจะได้มีเวลามาลงเรียนด้วยไง" มันเสนองานที่บริษัทตกแต่งภายในของพ่อมันให้ผม เฮ้อ..... ยังไงๆมึงก็รักและห่วงกูตามเคยนะ
" เออ... กู ก็ไม่เป็นไรหรอกว่ะ กูว่ากูยังไม่อยากทำงานหรืออยากคิดอะไรตอนนี้เลยน่ะ โทษทีนะเว้ย แต่กูขอบใจมากว่ะที่ชวนกูนะ" ผมตบไหล่มันเบาๆเพื่อเป็นการขอบใจแล้วก็ก้มหน้าลงอย่างเหนื่อยๆใจนะครับ มันเลยยิ่งหน้าเศร้าลงไปเหมือนว่าเป็นห่วงผมมาก
" เฮ้ย มึงอย่าคิดมากเลยนะเว้ย กูเห็นมึงอย่างนี้แล้วไม่สบายใจเลยว่ะ ยังไงซะมึงก็ต้องเรียนจบจนได้แหละน่า เชื่อกูดิ"
" เออๆ... มึงอย่ามากลุ้มใจไปกะกูเลยน่า นะ... กูไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงๆ" ผมยิ้มบอกกับมันเพราะอยากให้มันสบายใจนะ แล้วเราก็เลยเดินออกมารอขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์
มันนานมากแล้วจริงๆที่ผมไม่ได้คุยอะไรกับมันอีกเลย ก็ตั้งแต่ที่ผมเปลี่ยนไปรักมันนี่แหละ
การที่ผมรักมันอย่างนี้ผมก็ไม่รู้นะว่าจะทำยังไง จะไปบอกมันยังไงได้ล่ะ ว่ารักมันแบบนี้แล้ว
ในเมื่อผมว่ามันก็คงไม่ใช่เกย์ เพราะมันก็มีแฟนของมันอยู่
นั่นแหละประเด็นเลยครับ มันก็มีคนที่มันรักอยู่แล้ว
แล้วผมจะทำอะไรได้อีกล่ะ เพราะอะไรๆมันเกมโอเวอร์ไปแล้วนี่นะ เค้าแฮปปี้เอนดิ้งกันไปเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ใจสลายไปเลย แล้วก็ประชดชีวิตต่างๆนาๆตั้งแต่เที่ยวกลางคืน ก็เที่ยวซะหัวปั่นไปพักนึงจนมีรุ่นพี่มาชวนไปเล่นดนตรีนั่นแหละครับ เลยได้ไปเล่นร่วมวงกันประจำในผับแห่งนึงมาตลอดเลย ทำให้ผมไม่ค่อยได้เข้าเรียนและต้องมาเป็นคนเดียวที่เรียนไม่จบอยู่ตรงนี้
ซึ่งทั้งหมดนั้นตัวไอ้เคมันก็ไม่เคยรู้เลยครับเพราะผมไม่เคยบอกมัน หนำซ้ำผมยังต้องคอยหลบหน้ามันตลอดเลย
เพราะว่าผมทำใจไม่ได้นั่นเองครับ ผมก็เลยต้องห่างมันออกมาซะเผื่อว่าจะช่วยให้ลืมมันไปได้บ้าง
แต่ก็ไม่เคยทำได้เลยจริงๆ.................
-
-
" เออ.. แล้วตกลงนี่มึงกำลังจะไปไหนวะ" มันเอ่ยถามผม
" ก็... ว่าจะกลับบ้านว่ะ"
" บ้านเหรอ อืม... แล้วมันบ้านที่นี่หรือที่ปราจีนฯละวะ"
" อ๋อ... ก็ที่นี่ดิวะ ยังไม่กลับไปโน่นหรอก ไม่กล้าสู้หน้าแม่กูว่ะ เดี๋ยวไม่งั้นเค้าตัดกูออกจากกองมรดกแน่ เรียนไม่จบยังงี้อ่ะ" ผมบอกมันแล้วก็หัวเราะ มันก็เลยยิ้ม
" เฮ้อ... มึงนี่นะ ตอนนี้มึงไม่เหมือนคนผิดหวังที่เรียนไม่จบแล้วว่ะ ทำหน้าระรื่นได้ยังงี้กูคงไม่ต้องห่วงมึงละ"
" อ้าว... ก็แล้วไม่งั้นมึงจะให้ไปกูร้องไห้โวยวายหน้ามหาลัยรึไง มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้อยู่ดี ใช่มั๊ยล่ะ"
" เออๆ ก็ดีแล้วว่ะ กูจะได้ไม่ต้องห่วงมึงนะ อืม งั้นเอางี้ไปห้องกูกันดีกว่า เดี๋ยวแวะซื้ออะไรไปนั่งกินกันเล่นๆนะเว้ย ไม่ได้เจอมึงตั้งนานแล้วอ่ะ กูเลี้ยงเอง"
" อืม..... จะดีเหรอวะ" ผมลังเลไปนิดนึง แต่มันก็ยังคงมองผมด้วยสายตาอ้อนวอนอยู่
" เออ..... โอเคๆ กูก็ไม่ได้ไปห้องมึงมานานแล้ว ที่จริงก็อยากไปอยู่ห้องกะมึงเหมือนเมื่อก่อนนะเว้ย ถ้ากูไม่ต้องไปซ้อมดนตรีบ่อยๆซะ กูก็คงไม่ต้องย้ายออกไปอยู่กะพวกรุ่นพี่เค้าน่ะ" ผมยอมไปกับมันในที่สุด เพราะใจนึงก็นึกอยากจะกลับไปที่นั่นมากๆอยู่แล้วนะ
-
-
ขณะนี้ผมกำลังเดินขึ้นไปที่ห้องคอนโดฯของมันที่ครั้งนึงผมเองก็เคยอยู่ร่วมกับมันที่นี่ เพราะเมื่อก่อนนี้ความที่ผมสนิทกับมันมากนั่นแหละก็เลยมาเช่าห้องที่คอนโดฯนี้อยู่กับมันเพื่อเป็นการประหยัดไปในตัว โดยหารู้ไม่ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์เลยของผม
เพราะนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องเสียความเป็นเพื่อนของเราไป
ยิ่งผมได้ใกล้ชิดกับมันทุกวัน ได้เห็นมันตลอดเวลาผมก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นส่วนนึงในชีวิตผมจริงๆ
ผมได้เห็นมันหลับไปในทุกคืนและตื่นขึ้นในทุกเช้า นั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้ตัวเลยว่าผมคงรักมันจริงๆและมันเกินเลยมากกว่าเพื่อนไปซะแล้ว
พอผมได้เดินเข้าไปในห้องนั้น ภาพอดีตทุกอย่างก็เริ่มแจ่มชัดขึ้นมาในความรู้สึกของผมอีกครั้ง
โซฟาที่เรานั่งนอนและเครื่องเกมส์ที่เรานั่งเล่นด้วยกันอย่างสนุก ห้องครัวที่เราทำอะไรกินกันบางครั้ง
หรือแม้แต่เตียงที่ผมกับมันนอนข้างๆกันมาทุกคืนเมื่อตอนนั้น มันช่างทำให้ผมรู้สึกใจหายที่คิดถึงวันเก่าๆ
" เดี๋ยวเอากับข้าวใส่จานเลยนะเว้ย หยุน หิวแล้วว่ะ" เสียงของมันทำให้สติผมหลุดจากภาพอดีตเหล่านั้น
" เอ้อ... ลืมซื้อน้ำแข็งเลยว่ะ หมดพอดี งั้นเดี๋ยวกูลงไปเองนะ มึงรออยู่นี่แหละ" มันบอกผมอีกแล้วก็รีบเดินออกจากห้องไป
ระหว่างที่รอผมก็เลยไปยืนรับลมเล่นที่ริมระเบียงแล้วก็นึกไปถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมาอีก ก็อดไม่ได้น่ะครับ จะว่าไปผมก็ยังเสียดายนะ เสียดายความเป็นเพื่อนของเราที่มันต้องมาเสียไปเพราะผมเองจริงๆน่ะ
" เฮ่ย... ทำไรอยู่วะ ยืนเก๊กถ่ายมิวสิคเหรอมึง มากินกันเหอะ เร็ว" เสียงมันทำเอาผมสะดุ้งอีกแล้วครับ ก็แหงผมใจลอยซะขนาดนั้น ขนาดมันเปิดประตูเข้ามายังไม่ได้ยินเลย
" เอ้อ... ป่าวๆ กูคิดอะไรเพลินไปหน่อย เออ... ไปกินกันเหอะ" ผมตอบมันไป แล้วก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะกับมัน ระหว่างที่เรานั่งกินกันมันก็ชวนผมคุยไปเรื่อยและถามว่าผมเป็นไงบ้าง เพราะเราก็แทบไม่เจอกันเลยนานมาก
โดยเฉพาะช่วงหลังๆตอนเราเรียนปี4 ยิ่งไม่ได้เจอมันอีกเลยนะครับ เพราะมันไปฝึกงานที่บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง และตอนนี้เค้าก็เลยตามมาจองตัวมันให้ไปทำงานกับเค้าแล้วเพราะว่ามันเก่งมากๆน่ะ
" ที่จริงนะ ถ้าตอนนี้มึงไม่รู้จะทำไง กูอยากขอให้มึงกลับมาอยู่ที่ห้องนี้กะกูได้มั๊ยวะ เพราะมึงก็ย้ายออกมาจากห้องรุ่นพี่มึงแล้วนี่หว่า ไม่งั้นมึงจะไปอยู่ไหนล่ะ" มันบอกแล้วก็มองสบตา เล่นเอาผมอึ้งๆไปหน่อยนึง
" เฮ่ย.... แล้วมึงไม่ได้อยู่กะยัยหนิงเด็กมึงเหรอวะ ถ้าเป็นงั้นมันก็ไม่สะดวกเค้าดิ ขืนกูมาอยู่น่ะ" ผมรีบอ้างเหตุผลไป แต่ใจจริงๆตอนนั้นผมก็อยากกลับมาอยู่กับมันจะตายไปนะนั่น
" โอ๊ย... มึงไม่ต้องมาห่วงหรอกน่ะ เรื่องนั้นน่ะ เค้าไม่ได้มาอยู่นี่กะกูอยู่แล้วนะ"
" อ้าว... เหรอ งั้นที่ผ่านมานี่มึงก็อยู่คนเดียวมาตลอดเลยนะเหรอ" ผมถามมัน ใจนึงก็เหมือนโล่งใจนะ ที่มันไม่เคยเอาแฟนมันมานอนนี่เลย แต่อีกใจก็สงสารมันแฮะ มันอยู่ห้องคนเดียวก็น่าจะเหงานะ
" ก็ เออดิ... เบื่อจะตายห่านะ อยู่นี่คนเดียว ไม่มีคนแชร์ค่าห้องด้วย ฮะๆๆ" มันหัวเราะแล้วก็มามองหน้าผมอย่างจริงจังทันที
" นะ... มึงกลับมาอยู่นี่เหอะว่ะ กูจะได้มีเพื่อนอ่ะ" มันสบตาแล้วก็ขอร้องผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมเลยทำหน้าไม่ถูกเลยครับ จะตอบมันว่าไงดี
" ก็ที่จริงมึงไม่ให้เด็กมึงมาอยู่ด้วยซะเลยล่ะวะ น่าจะดีนะเว้ย หรือไม่งั้นก็แต่งกันก่อนแล้วค่อยย้ายมาก็น่าจะได้อยู่นะ ไหนๆก็คบกะเค้ามาตั้งนานเหมือนกันนี่หว่า หรือยังคิดจะดูใจกันต่ออีกวะ ระวังนะเว้ย... นานเกินเดี๋ยวหมามันจะคาบไปแดกซะก่อนน๊า.... ฮ่าๆ" ผมบอกมันแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี อยากให้มันขำน่ะครับ
แต่ทว่ามันไม่ขำกะผมเนี่ยดิแล้วมันก็เลยก็ก้มหน้านิ่งไปนิดนึง จนผมงงเลยที่มันเงียบไปอย่างนั้น เฮ้ย... นี่เราพูดอะไรผิดไปรึเปล่าเนี่ย
" เออ... มึงพูดถูกแล้วล่ะ หมามันคาบไปแดกแล้วจริงๆว่ะ" มันพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าผมเลย ฟังแล้วผมก็หน้าชาตัวชาเลยครับ ตกใจจนเหวอไปเลย
" เฮ้ยๆ เชี่ยเอ๊ย...ย กูขอโทษทีว่ะ ไอ้เค กูแม่งปากหมาเองอ่ะ กูไม่รู้จริงๆว่ามึงเลิกกะเค้าแล้ว ขอโทษจริงๆว่ะเพื่อน" ผมรีบขอโทษขอโพยมันเป็นการใหญ่ ไม่นึกว่าที่ผมล้อเล่นมันจะดันเป็นจริง และนี่คงไปทำร้ายจิตใจมันเข้าแล้วมั๊งนี่
แต่พอลองนึกๆอีกที นี่อาจเป็นข่าวดีของผมก็ได้นะ แต่ก็นั่นแหละผมจะมามัวคิดงี้ได้ไง ในเมื่อไอ้เคมันเสียใจอยู่นะครับ
" เออๆ มึงไม่ต้องขอโทษหรอกว่ะ จริงๆแล้วกูก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากมายเลย เพราะเสียแฟนไปมันก็ไม่เท่าเสียเพื่อนหรอกนะสำหรับกูน่ะ" ผมฟังถึงตรงคำว่า " เสียเพื่อน " ของมันแล้ว ก็เลยรีบหันไปทันทีเลยครับ แต่แล้วก็ต้องรีบหลบตามันเลยเพราะมันก็จ้องมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว
" เอ่อ.... อืมๆ แล้วทำไมมึงคิดงั้นวะ พูดยังกะมึงไม่ได้รักเด็กมึงเลยยังงั้นอ่ะ" ผมแกล้งถามมันไปอย่างตะกุกตะกักนะ เพราะว่ารู้สึกแปลกๆกับคำพูดของมัน
" ถึงรักยังไงนะ กูว่ากูก็คงไม่รักเค้าเท่ากูรักเพื่อนกูหรอกนะ" มันตอบแล้วก็ยังคงมองเหมือนจะสบตาผมให้ได้ ผมก็มองไปแต่แล้วก็ต้องหลบตามันอีกแล้วครับ ว่าแต่นะ ทำไมมันต้องมองผมด้วยสายตาแปลกๆเหมือนกำลังจงใจบอกอะไรสักอย่างกับผมอยู่ ไม่เข้าใจจริงๆครับ
" เอ่อ แล้วนี่ตกลงมึงเสียใจมั๊ยวะที่เลิกกะเค้าน่ะ"
" ก็... ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แปลกนะที่กูว่ากูเหมือนไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ว่ะ ทั้งที่เค้าทิ้งกูไปเลยนะ ไปคบคนอื่นเลยเค้าคงเบื่อกูแหละว่ะ ที่กูเหมือนไม่ค่อยรักเค้านะ เพราะงั้นที่เค้าไปน่ะมันคงเพราะกูผิดเองแหละ" มันบอกแล้วก็กระดกแก้วเหล้าเข้าปากพรวดเดียวหมดเลยครับ
" เฮ้ยๆ ใจเย็นเว้ยมึง กระดกซะขนาดนี้ เดี๋ยวก็พับอยู่ตรงนี้หรอก" ผมรีบเตือนมัน
" เออ.... วันนี้อยากเมาหน่อยว่ะ ได้อยู่กะมึงอ่ะ เมาเป็นเพื่อนกูหน่อยนะเว้ย เอ้า... ชนๆ" มันบอกแล้วก็ชูแก้วมันขึ้นจะให้ผมชนกันมัน ผมก็เลยชนกันมันไปทีนึง แล้วมันก็ดื่มพรวดเดียวหมดอีกแล้วครับ โห... นี่มึงกะเมาจริงๆเลยเหรอวะ ไอ้เค
แล้วก็เป็นดังคาดครับ หน้ามันแดงก่ำแล้วครับตอนนี้ แล้วก็เริ่มนั่งโงนเงนไปมา ผมว่ามันคงเต็มที่แล้วแน่ๆ
" เฮ้ย... ไอ้เค มึงเมามากแล้วนะ ไปนอนกันดีกว่าว่ะ" ผมบอกมัน แต่มันก็ดูท่าจะไม่ไหวจริงๆ แล้วมันก็ฟุบไปเลย
" เอ๊า... ไอ่เวร กูว่าแล้ว ก็ทุกทีมึงชอบกินกะเค้าที่ไหนล่ะ เหล้าเนี่ย คอเลยอ่อนยังงี้ไง เฮ้อ...." ผมบ่นไปแล้วก็เลยประคองมันไปนอนที่เตียง จากนั้นก็ยืนคิดนิดนึงว่าจะเอาไงดีเลยเดินไปเอาผ้าชุบน้ำจะมาเช็ดตัวให้มัน
พอมาถึงผมก็ถอดเสื้อผ้ามันออกแล้วก็เช็ดตัวมันไป อ้อ ไม่ได้ถอดหมดหรอกครับผม อย่าจิ้นกันเลย แค่เหลือกางเกงในมันน่ะ
ที่จริงมันก็รูปร่างดีมากเพราะมันเป็นนักกีฬาบาสฯของมหาลัยเลยนะ ผมเองอยากรูปร่างดีๆอย่างมันอยู่ สาวๆก็กรี๊ดมันเยอะมาก เพราะหน้าตามันดีด้วยน่ะครับ ผมยังเคยนึกอิจฉามันเลย แต่ไปๆมาๆก็ไม่รู้ว่ามาหลงรักมันได้ไงนะ นี่ก็ยังงงตัวเองมากอยู่ เพราะผมก็ว่าผมไม่ได้เป็นเกย์นะ
แต่จากที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่กับมันผมก็ค่อยๆรักมันมากขึ้นจนเลยขีดขั้นความเป็นเพื่อนไปซะงั้น
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะครับ ทั้งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะชอบผู้ชายได้เลย
แต่กับมันแล้วผมกลับรู้สึกแบบนี้ได้ ก็ไม่เข้าใจจริงๆนะครับ....
" อือ.... เฮ้ย.... กูหลับไปเหรอวะนี่" อยู่ๆมันก็รู้สึกตัวขึ้น แล้วก็หันมาถามผม
" เอ้า เชี่ยนี่ อยู่ๆก็ตื่น เออ ก็กูบอกแล้ว เสือกกระดกไม่ยั้งอย่างงั้นอ่ะ ไม่หลับก็บ้าแล้วมึง กูเช็ดตัวให้มึงอยู่น่ะ อืม มึงยังลุกไหวป่ะ ไปเปลี่ยนกางเกงดิ" ผมบอก แล้วมันก็เลยก้มมองร่างเกือบเปลือยของมันที่ถูกผมลอกคราบออกไป
" เออๆ นี่กี่โมงแล้ววะเนี่ย อืม... เดี๋ยวมึงนอนนี่ได้มั๊ยวะ นอนเป็นเพื่อนกูหน่อยนะเว้ย" มันบอกแล้วก็ลุกขึ้นมานั่งขอบเตียงอีกด้านนึงถอดกางเกงในออกแล้วใส่กางเกงขาสั้นที่ผมหยิบมาให้มันอย่างเก้ๆกังๆด้วยความเมา
" อืม... ได้ดิ เดี๋ยวกูนอนนี่แหละ พรุ่งนี้เช้ามึงจะไปไหนมั๊ยล่ะ"
" เออ... ไม่อ่ะ แล้วมึงจะกลับบ้านเลยเหรอวะ" มันถามผม ที่จริงผมก็คิดไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวที่ไหนสักพักนะอยากให้มันสบายใจน่ะครับ
" อืม... ก็กูว่ากูอยากไปเที่ยวไหนสักพักน่ะว่ะ อยากไปพักใจน่ะนะ ถ้าสบายใจแล้วกูก็คงกลับไปบ้านแม่กูก่อน ให้เค้าด่ากูสักหน่อยแล้วค่อยกลับมาลงเรียนเก็บหน่วยกิตที่เหลือว่ะ" ผมสรุปแผนที่คิดไว้ให้มันฟัง มันก็ยิ้ม
" เออ... เฮ้ย ถ้ามึงจะไปเที่ยวนี่ กูขอไปด้วยคนดิวะ ได้มั๊ยอ่ะ กูก็อยากไปพักมั่งแหละว่ะ โอเคนะเว้ย งั้นเดี๋ยวกูนอนละ ไม่ไหวแล้วว่ะ" มันบอกผมเสร็จแล้วก็ล้มตัวนอนไปเลย ผมก็ดันมัวอึ้งกับคำพูดมันอยู่ก็เลยไม่ทันจะรับปากเลย มัดมือชกกูเหรอวะเนี่ย ไอ้เค......
แล้วผมก็เลยมานั่งคิดอะไรอยู่ริมระเบียงห้องคนเดียว ผมหยิบบุหรี่ที่พกไว้ขึ้นมาจุดสูบ ตาก็เหม่อมองออกไปที่ข้างนอก แล้วก็คิดถึงสิ่งที่มันพูดกับผมวันนี้
ผมแปลกใจกับท่าทางของมันที่ดูก็เหมือนคนอกหักอยู่นะ แต่จะว่าไปมันก็บอกเองว่าไม่ได้เสียใจเท่าไหร่
แล้วไอ้คำพูดของมันนี่สิที่ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ ว่านี่มันจงใจจะบอกอะไรผมรึเปล่านะ
แต่มาคิดอีกทีหรือว่ามันจะเสียใจมากที่โดนทิ้งจนเบลอๆ พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นเอง ไม่ได้จงใจบอกอะไรผมเป็นพิเศษหรอก ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้
ว่าแต่พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปกับมันอีกเหรอนี่ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไปพักใจสงบๆคนเดียวนี่นา
แล้วนี่ต้องหนีบมันไปอีกคนเหรอนี่ เฮ้อ... ยิ่งพยายามจะหลบๆหน้ามันอยู่นะ
จะทำไงดีว้า........
-
-
ฟ้าสางแล้วผมเลยรีบตื่นมาก่อน มองนาฬิกาก็เห็นว่าหกโมงเช้าเองเลยรีบลุกไปล้างหน้าเฉยๆ แล้วก็รีบมาแต่งตัวอย่างเร็ว แล้วก็เลยเขียนโน๊ตทิ้งไว้ให้มัน
" โทษทีว่ะ เพื่อน กูขอไปของกูคนเดียวก่อนนะเว้ย อย่าโกรธกูเลยนะ กูอยากอยู่คนเดียวเงียบๆจริงๆว่ะ มีอะไรที่กูต้องคิดต้องทำเยอะเลย แต่ไม่ใช่ว่ากูเห็นมึงเป็นคนอื่นนะเว้ย แค่กูขอเวลาทำใจหน่อยว่ะ แล้วกูก็จะกลับมาเป็นเพื่อนรักมึงเหมือนเดิมนะเว้ย กูสัญญาว่ะ"
รักมึงว่ะเพื่อน
หยุน
แล้วผมก็กลับไปเก็บของที่ห้องผมซึ่งก็มีแค่ไม่มากเท่าไหร่ออกมาทั้งหมด เพราะวันนี้ผมต้องคืนห้องให้รุ่นพี่ผมแล้ว จากนั้นตอนสายๆก็เลยเอาของส่วนใหญ่ไปฝากบ้านไอ้ดลมันก่อนแล้วบอกมันว่าจะกลับมาเอาอีกที มันก็รับฝากไว้โดยไม่ได้ถามอะไรผมอีก
ตอนนี้ผมเริ่มมาคิดครับว่าผมจะไปไหนดีแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ แป๊บนึงก็คิดออกครับว่าไปทะเลดีกว่า แล้วผมก็เลยรีบไปจองตั๋วรถไฟเลย วันนี้อยากนั่งรถไฟครับ คลาสสิคดี จะได้นั่งกินลมชมวิวให้เพลินเลย
-
-
ตอนนี้ผมก็ได้มานั่งชิลล์ๆอยู่บนรถไฟที่จะเดินทางไปยังปรานบุรีแล้ว ผมมองวิวข้างทางไปอย่างสบายใจเพราะไม่ได้มาเที่ยวอย่างนี้นานมากเลยนะครับ ก็ตั้งแต่ผมรักมันนั่นแหละ ผมก็เลยจำเป็นต้องตัดขาดตัวเองออกมาจากมันอย่างนี้ แล้วก็ทำให้ไม่มีอารมณ์ที่จะมาเที่ยวเพลิดเพลินใจอย่างนี้กะใครอีกเลยนะ
แต่ขณะนั้นเองก็มีนักศึกษาชายที่มาด้วยกันสองคนเดินมานั่งที่นั่งตรงข้ามผม ซึ่งสองคนนี้มันก็ดูรักและสนิทกันดีนะครับ ก็คงเหมือนผมกับไอ้เคนั่นแหละ เลยทำให้ผมคิดถึงมันขึ้นมา นี่ถ้าจริงๆผมให้มันมาด้วยก็คงจะดีไม่น้อยเลย
แต่จะทำไงได้ล่ะ ก็ผมอยากตัดใจจากมันน่ะครับ ถึงต้องถอยห่างมันออกมาเองนะ
แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะโกรธผมรึเปล่า ที่ทิ้งมันมาคนเดียวอย่างนี้น่ะ...........
**********************