ต่อเลยคร้าบ ค้างกันอยู่ใช่ป่ะ
Chapter 3Rainy Passion (จบ)
****************
พอสติผมกลับมาอีกทีก็เห็นมันทำท่าฮึดฮัดแล้วหันกลับไปเปิดประตูจะเดินออกไปจากห้อง
" เฮ้ย... มึงจะไปไหน" ผมรีบถามมันทันที
" ไปไหนก็ได้ มึงไม่ต้องสนใจกูหรอก" มันก็ตอบผมทันทีเหมือนกัน
" แล้วมึงจะออกไปยังงั้นน่ะเหรอ ไปใส่เสื้อก่อนเหอะกูว่า" มันเลยก้มมองตัวเองนิดนึง สงสัยมันคงลืมว่าตอนนี้มันใส่ขาสั้นแค่ตัวเดียวอยู่นะ
" ไม่ต้องอ่ะ กูจะไปยังงี้แหละ แคร์ใครทำไม" พูดปั๊บมันก็หันหลังเดินไปทันที ผมเลยรีบวิ่งตามมันไปโดยไม่ลืมคว้ากระเป๋าตังค์ไปด้วย
" เฮ้ย... เดี๋ยว..."
" เชี่ยไรอีก"
" กูไปด้วย" แล้วมันก็ก้มหน้าเดินงุดๆไปโดยไม่หันมามองแล้ว
ตอนนี้เราก็เดินออกมาเรื่อยๆจนมาถึงริมหาดที่เป็นระเบียงยาวที่มีบริเวณนั่งพักผ่อนสำหรับแขกที่มาพัก ซึ่งตรงนี้วิวจะสวยมากอีกเช่นกัน และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้วครับ
ผมกับมันก็เลยไปนั่งกันอยู่ที่โต๊ะตรงนั้น ตามันเหม่อมองไปยังทะเลเบื้องหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรเลยอยู่พักนึง ซึ่งผมก็เข้าใจมันนะครับ เลยไม่ได้ถือสาอะไรมันทั้งนั้นแหละ และยังอยากให้มันระบายอะไรๆที่ในใจมันมาให้หมดด้วยนะ
" มึงไม่โกรธกูเหรอวะ ที่กูคิดเชี่ยๆแบบนี้กะมึงน่ะ" มันเริ่มขึ้นมาก่อน หลังจากที่เงียบอยู่นาน
" แล้วกูจะโกรธมึงเพื่อ....?" ผมย้อนถามมันไป มันก็ถอนหายใจออกมา
" ก็... ไม่รู้ดิวะ กลัวมึงจะรับกูไม่ได้ไง ที่เพื่อนมึงคิดกะมึงแบบนี้น่ะ กูอึดอัดมาตลอดเลยนะ" มันเอามือเลื่อนมากุมที่ขมับเหมือนเครียดเต็มที
" มึงฟังกูนะ ถ้ามึงคิดยังงี้ก็เท่ากับว่ามึงยังรู้จักเพื่อนมึงน้อยไปว่ะ เราเห็นกันมากี่ปีแล้ววะ เกือบตลอดชีวิตเลยนะเว้ย แล้วเรื่องแค่นี้อ่ะกูรับได้อยู่แล้ว เพราะงั้นมึงไม่ต้องคิดมากแล้ว สัด" พอผมพูดจบมันก็หันมาจ้องหน้าผมเลย สีหน้ามันก็ดูผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว
" เฮ่ย... จริงๆเหรอวะ มึงคิดงั้นจริงเหรอวะ ไอ้เผือก"
" เออดิ.. ไม่ว่ายังไงมึงก็เพื่อนกู ไม่ว่ามึงจะคิดยังไงกูก็ไม่ว่ามึงเลย ขอแค่เรายังอยู่กันไปยังงี้กูพอใจแล้ว"
" เพราะจากตอนนั้นกูก็เข็ดแล้ว ที่มึงมีเมียแล้วไม่มีเวลาให้กูน่ะ เข็ดจริงๆว่ะ กูแม่งเซ็งโคตรๆ" ผมย้ำกับมัน
" อืม... กูขอบใจนะที่มึงเข้าใจกู เออ... กูสบายใจแล้วว่ะ บอกมึงไปแล้วกูก็โล่งไป ถ้ารู้ว่าจะเป็นยังงี้กูบอกมึงไปนานแล้วล่ะ" มันยิ้มออกมาได้ในที่สุด
" หึๆ สบายใจก็ดีแล้วมึง ไปๆ แดกข้าวดีกว่ากูหิวแล้ว" ว่าแล้วเราก็พากันเดินไปกินข้าวกันที่คาเฟ่ด้วยกัน ตอนนี้ผมสบายใจนะที่เพื่อนผมมันคงกลับมาเป็นคนเดิมได้แล้วซะที
-
-
คืนนั้นผมก็นอนมองมันหลับปุ๋ยอย่างสบาย มันคงโล่งใจมากแล้วจริงๆถึงหลับสบายอย่างนี้ ผมเลยลองกลับมาทบทวนอะไรๆอีกหลายอย่างที่ผ่านมาทั้งหมด
ตั้งแต่เรื่องของมีนเค้า ในเมื่อเค้าแต่งงานไปแล้วผมก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าร่วมยินดีกับเค้านะ ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนกันแค่นี้มันก็คงดีที่สุดแล้วล่ะ
แต่บางสิ่งที่ผมเคยสงสัยเกี่ยวกับไอ้ลิงมันตั้งแต่เมื่อครั้งที่ผมคบกับแฟนคนแรกแล้วมันทำตัวห่างๆไปนี่ เพราะว่ามันไม่พอใจผมตั้งแต่ตอนนั้นเลยรึไง งั้นก็เท่ากับว่ามันรักผมแบบนี้มานานขนาดนั้นเลยเหรอ
สงสัยผมคงต้องลองคุยกับมันดูนะ เพราะผมยังคงรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันค้างคาใจผมอยู่และผมอยากให้มันเคลียร์ไปจริงๆซะที
-
-
วันรุ่งขึ้นผมก็อยู่กับมันเกือบทั้งวันอีก ผมนั่งพิมพ์งานไปด้วย แล้วก็ออกไปเดินดูทะเลกันแป๊บนึงผมเลยได้จังหวะชวนมันคุย
" ไอ้ลิง กูมีอะไรอยากถามมึงหน่อยว่ะ"
" หือ......"
" กูถามมึงจริงๆนะ ว่ามึงเริ่มรักกูแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
" ทำไมอยู่ๆก็มาถามกูวะ นี่กูก็ว่ากูจะพยายามตัดใจนะ จะไม่คิดกับมึงอย่างนี้แล้วล่ะ" มันเอ่ย ผมเลยย่นคิ้วหากันด้วยความแปลกใจ
" ก็ยังไงซะมึงกะกูก็แค่เพื่อนกัน กูไม่อยากคิดอย่างนี้อยู่ฝ่ายเดียว มันเหมือนกูคิดไม่ซื่อกับมึงนะ ก็ไม่รู้ดิ" มันอธิบาย แต่ฟังแล้วผมเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
" เฮ่ย... มึงไม่จำเป็นต้องคิดแบบนั้นหรอก ที่กูถามนี่กูก็แค่อยากรู้ว่ามึงทุกข์ใจเพราะกูมานานแค่ไหนแล้ววะ ตั้งแต่กูคบกะแนนเค้าเลยใช่ปะ เพราะกูจำได้ว่าตอนนั้นมึงก็ห่างๆกูไปเลย เป็นเพราะมึงลำบากใจใช่มั๊ย" ผมพูดแล้วก็มองหน้ามัน มันก็ยิ้มที่มุมปากไปนิดนึง
" ก็ใช่อยู่ กูเห็นมึงกะเค้ากูก็ไม่สบายใจจริงๆ เวลาส่วนใหญ่มึงก็อยู่กับเค้า กูก็ต้องอยู่ของกูไป ตอนนั้นมันก็เซ็งมากๆเลยว่ะ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง" เฮ้อ... จริงๆซะด้วย ผมว่าผมผิดเองแหละ ที่ไม่นึกถึงมันเลย
" กูก็เลยต้องปลีกตัวออกมาเอง แล้วซื้อมอไซค์มาขี่เพราะกูไม่อยากนั่งรถมึงน่ะ ไม่อยากเห็นเค้านั่งอยู่กับมึง กูก็เลยต้องทำแบบนี้ เพราะกูรู้สึกแย่จริงๆว่ะ โทษทีนะเว้ยที่ไม่ได้บอกมึงไปตอนนั้น"
" ไม่หรอก มึงไม่ผิดหรอก กูสิผิดที่ไม่รู้เลยว่ามึงเสียใจ แล้วกรรมมันก็ตามทันกูแล้วไง ตอนมึงไปคบกับหนิงน่ะ กูก็ไม่ต่างกะมึงเหมือนกัน"
" และที่กูเจ็บแบบนั้นที่แท้มันก็เพราะว่ากูก็รักมึงแบบนี้เหมือนกันไง กูหายสงสัยแล้วล่ะ ว่าตอนนั้นกูเป็นอะไรเพียงแต่ว่าตอนนั้นกูนึกไม่ถึงเลยว่าที่แท้กูก็รักมึงแบบนี้เหมือนกัน" พอผมพูดจบ มันก็หันมามองผมหน้าตื่นๆ
" อะไรนะ นี่มึงจะบอกกูกว่ามึงก็คิดอย่างนี้กับกู รักกูแบบนี้เหมือนกันเหรอวะ ใช่มั๊ย" ผมฟังแล้วก็ได้แค่อึ้งๆไปเพราะใจก็ยังนึกสับสนตัวเองอยู่มาก ว่านี่ผมคิดแบบนี้กับมันจริงๆมั๊ยนะ หรือเราคิดผิดไปเอง
" กูก็ไม่แน่ใจหรอกว่ะ เพราะยังงี้กูเลยมาถามมึงไง แต่ถ้ากูเริ่มรักมึงแบบนี้ละก็ งั้นกูขอเวลามึงได้มั๊ย ตอนนี้กูสับสนหลายเรื่องว่ะ ให้กูได้แน่ใจตัวเองก่อนนะ แล้วกูจะบอกมึงเอง ขอเวลาให้กูได้มั๊ยวะ" ผมจับที่ไหล่ของมันเบาๆแล้วก็สบตามันนิ่ง
" เออ... ได้สิวะ กูยินดีจะรอมึงว่ะ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนนะ" มันยิ้มแล้วก็จับมือผมไว้
ตอนนี้ผมดีใจนะ โล่งใจด้วย มันต้องทุกข์ใจอยู่เงียบๆคนเดียวเพราะผมมาเป็นปีๆ ซึ่งผมรู้สึกผิดจริงๆที่ไม่เคยรู้เลย ปล่อยให้เพื่อนอย่างมันเสียใจอยู่คนเดียวตั้งนาน ในขณะที่ตัวเองก็บ้าบอไปกับอะไรก็ไม่รู้
แต่ที่จริงแล้วผมเองนั่นแหละที่ก็รักมันเกินเพื่อนอย่างนี้มาตั้งนานแล้วเหมือนกัน เพียงแต่ไม่เคยรู้ตัวเลยก็เท่านั้น
งั้นตอนนี้ผมจะสลัดทุกอย่างทิ้งไปให้หมด แม้แต่เรื่องของมีน...........
ตอนนี้เค้าก็คงได้สมหวังไปกับคนที่เค้ารักจริงๆแล้ว ผมคงต้องปลดปล่อยตัวเองจากความรักที่เคยมีให้เค้าได้แล้ว
เพราะผมจะถือว่าเค้าคงเป็นเพียงแค่อดีตของผมเท่านั้น แต่มันตะหากที่คือปัจจุบันของผมนะ
แล้วก็จะเป็นอนาคตต่อไปของผมอีกด้วย......................
-
-
หลังจากวันนั้นมาผมก็ได้มีเวลาพักผ่อนอย่างสบายใจได้จริงๆซะที โดยมีมันอยู่ด้วยตลอดนั่นแหละ อย่างวันนี้เราก็ออกมาเดินเล่นกันที่หาดอีกซึ่งวันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างสดใสนะครับไม่เหมือนเมื่อสองสามวันก่อน และมันก็สดใสเหมือนในใจผมตอนนี้นี่แหละ
" เฮ้ย เรามาเดินกันแบบนี้กูนึกถึงตอนเราเด็กๆจังว่ะ ไอ้เผือก ที่เรามาเล่นน้ำกันที่นี่อย่างมันอ่ะ เออ.. ใช่ มาสร้างปราสาทแข่งกันดีกว่าเว้ย" มันเอ่ยชวนผม ทำให้ภาพความหลังตอนเราเด็กๆผุดขึ้นในหัวผมอีกครั้ง
ตอนนั้นเราสนุกกันมาก เพราะผมกับมันจะเล่นสร้างปราสาททรายกันให้ใหญ่ๆแล้วทำเหมือนกำแพง จากนั้นก็จะทำเป็นว่ารบกันระหว่างสองฝ่าย เอาทรายมาปั้นๆเล่นขว้างกันแล้วหลบหลังกำแพงทรายที่ทำไว้นั้น
" เออ... เอาเด่ะ เดี๋ยวกูจะสร้างให้เจ๋งกว่ามึงอีก ฮ่าๆๆ" ผมบอกอย่างท้าทาย แล้วก็เริ่มลงมือสร้างไปซะจนได้ปราสาทหลังใหญ่เลยครับ
" เอาล่ะนะ" เสียงมันร้องบอกหลังจากที่มันสร้างของมันเสร็จแล้ว
" เออๆ มาเลย" ผมว่าแล้วก็รีบไปหลบหลังกำแพง แต่ก็ความที่เราไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆแล้ว กำแพงมันก็บังได้ไม่มิดหรอกครับ ปาใส่กันไปไม่กี่ที ตอนนี้ทั้งผมและมันเลยเละไปด้วยทรายเปียกเลย
" สัด... พอๆ เชี่ยเอ๊ย แม่ง สร้างกำแพงมาแต่ไม่ได้ช่วยอะไรเล๊ย" ผมบ่นพลางเอามือปัดๆทรายที่เลอะเต็มตัวไปหมด
" ฮะๆ จริงด้วยว่ะ เละไปหมดเลย งั้นลงทะเลดีกว่าเว้ย แน่จริงก็ตามมาจับกูให้ทันนะ ฮ่าๆ" มันว่าแล้วก็รีบวิ่งลงทะเลไปก่อน ผมเลยไล่ตามมันไปติดๆ
เวลานี้ผมมีความสุขจริงๆนะครับ ได้มาเล่นกับมันอยู่แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเวลามันย้อนกลับไปตอนเราเด็กๆอีกครั้ง ทะเลที่นี่ก็เป็นทะเลแห่งเดิมเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น หรือแม้แต่ท้องฟ้านั้นก็ยังคงเป็นฟ้าเดิมๆที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านมานานมากแล้ว
พอมองมาที่มันผมก็ได้เห็นสีหน้า แววตาและรอยยิ้มที่เป็นสุขของมันแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้ผมได้แน่ใจแล้วว่าตอนนี้ผมรักมันจริงๆ
ใช่แล้วล่ะครับ ผมมั่นใจแล้วจริงๆนะ ว่าผมรักมันที่สุดนั่นแหละ ที่ผ่านๆมาไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ผมหลงสับสนไปมากมายนั้น ตอนนี้มันก็จบและผ่านพ้นไปแล้ว
สิ่งที่อยู่ในใจผมตอนนี้เลยเหลือเพียงแค่ความรักที่ผมมีต่อมัน ความรักที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่หลับไหลอยู่ในใจผมมานานแสนนานแล้วนั่นแหละ
" เฮ้ย... ไอ้ลิง กูว่าฝนแม่งชักจะตั้งเค้าอีกแล้วว่ะ เดี๋ยวเรากลับห้องกันก่อนเหอะ" ผมบอกมันหลังจากที่เห็นเค้าเมฆฝนกลับมาเยือนอีกครั้ง ทำให้ท้องฟ้าเริ่มมืดมัวลงไปอีกแล้ว เราเลยรีบกลับไปที่ห้องกัน
" เออ... อาบน้ำก่อนเหอะ แล้วนี่มึงหิวยังวะเดี๋ยวไปกินข้าวกัน" มันเอ่ยถามผมแล้วก็ถอดเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป
ผมเลยเดินตามมันเข้าไปแล้วก็ถอดเสื้อผ้าออกเหมือนกัน พอเห็นมันยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้านั้น ผมก็เข้าไปกอดมันไว้จากด้านหลังจนมันสะดุ้งไปนิดนึง
" เฮ้ย... เชี่ยนี่ อะไรวะมึงอยู่ๆมากอดกู" สีหน้ามันก็ดูงงเต็มที่อยู่
" กูมีอะไรจะบอกมึง" ผมยังกอดมันไว้แล้วเลื่อนไปพูดเบาๆที่ข้างหูมัน พลางมองสีหน้ามันและหน้าผมเองผ่านกระจกที่เหนืออ่างล้างหน้านั้น
" อะไรอ่ะ"
" มึงรู้มั๊ยวะ ต่อไปนี้กูคงขาดมึงไม่ได้อีกแล้วนะ แล้วมึงล่ะคิดเหมือนกูมั๊ย" พูดจบมันก็ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
" ก็เออดิ จะเป็นจะตายยังไงกูก็จะไม่ขอห่างมึงไปไหนอีกแน่ๆว่ะ อย่าทิ้งกูไปก่อนก็แล้วกันนะ"
" ไอ้ลิง...."
" หือ...."
" ยังมีอีกอย่าง..."
" กูรักมึงนะ...." เท่านั้นแหละครับ ตามันก็เบิกโพลงขึ้นเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองพร้อมๆกับหันมาหาผมทันที
ผมเลยยืนยันคำพูดตัวเองด้วยการประกบปากจูบมันไปอย่างดูดดื่ม ซึ่งผมว่ามันคงแน่ใจแล้วนะว่ามันไม่ได้หูฝาดหูแว่วไปเอง
แต่ช่วงเวลานั้นเองฝนที่เริ่มตกโปรยปรายเบาๆก็สาดมาที่ร่างของเราสองคนพร้อมกับเสียงครืนๆของฟ้าร้อง มันเลยถอนจูบออกพลางมองขึ้นไปบนฟ้าเพราะว่าห้องน้ำนี้มันก็เป็นเอ้าท์ดอร์ คือไม่มีหลังคาด้านบนอยู่นะครับ
" เชี่ยเอ๊ย นี่ถ้าเรามีไรกันจริงๆฟ้ามันจะผ่าเรามั๊ยวะ" มันพูดทีเล่นทีจริงแล้วก็ยิ้มให้ผม
" ทำไมอ่ะ มึงกลัวเหรอวะ" ผมแกล้งถามมัน
" เปล่าหรอก กูว่าฟ้าคงปรานีเรานะ เพราะกูตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มานานแล้ว วันที่มึงกะกูจะได้ลงเอยกันซะทีน่ะ"
" ก็มึงไม่รู้เหรอว่าเมื่อกี๊ฝนที่ตกก็เพื่อให้เรามาอยู่กันตรงนี้ไง เห็นมั๊ยว่าจริงๆแล้วฟ้าเป็นใจให้เราว่ะ" ผมสรุปเอาเอง แต่ว่ามันก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วเป็นฝ่ายจูบผมบ้าง
ผมกับมันเลยแลกจูบกันกลางสายฝนนั้น เรากอดรัดและลูบไล้ไปตามตัวกันอย่างโหยหา กล้ามเนื้อและไรขนของมันนั้นยิ่งทำให้อารมณ์ผมลุกโชนขึ้นมาได้อย่างประหลาด ผมเลยจูบไล่ไปตามช่วงอกที่เต็มไปด้วยไรขนนั้นของมันอย่างไม่นึกรังเกียจ จนมันเงยหน้าขึ้นครางออกมาเบาๆ
แล้วมันก็ดันตัวผมนอนลงไปบนเตียงไม้ปูเบาะพลาสติกสำหรับนอนนวดสปาที่อยู่ตรงนั้น พลางระดมจูบผมอย่างไม่ยั้งไปทั่วซอกคอและไหล่จนผมก็ทนไม่ไหวต้องครางออกมาอย่างลืมตัวไปด้วย
ฝนที่ยังคงโปรยปรายลงมานั้นทำให้ร่างของเราสองคนรู้สึกเย็นฉ่ำไปหมด แต่ทว่าข้างในนั้นเรากลับรู้สึกว่ามันร้อนรุ่มจนแทบจะมอดไหม้ไปเลยทีเดียว คงเพราะอารมณ์ปรารถนาของเรามันลุกโชนขึ้นถึงที่สุดแล้ว
เราผลัดกันเป็นของกันและกันไปอย่างนุ่มนวลกลางสายฝนนั้น เหมือนกับว่าฝนเป็นใจให้เราจริงๆและผมกับมันก็รู้สึกดีเหลือเกิน เหมือนกับว่าเราต่างก็รอวันนี้กันมานานแสนนานแล้วจริงๆนั่นแหละ
ฝนเริ่มซาจนหยุดลงไปแล้ว คงเหลือแค่ความเปียกชื้นและเย็นฉ่ำกับเสียงหอบหายใจถี่ๆของเราหลังจากที่ได้สุขสมไปด้วยกัน ผมกับมันยังนอนกอดกันอยู่อย่างนั้นแล้วก็ยิ้มให้กันโดยไม่ได้พูดอะไรเลย
ในใจตอนนั้นรู้แต่ว่ามันช่างเป็นสุขซะจริงๆ เวลาที่ผ่านมาเกือบตลอดชีวิตของผมกับมันที่ได้เห็นได้คบกันมา พอในวันนี้มันก็กลายเป็นความรักจนได้ อยากขอบคุณโชคชะตานะครับที่ทำให้เรามาเจอกันได้ตั้งแต่ในวันแรกนั้น
แล้วเวลาก็ช่วยบ่มเพาะความรักของเราให้งอกงามจนมาถึงวันนี้จนได้
และเป็นวันที่ความรักของเราเบ่งบานอยู่ในใจเราสองคนนั่นเอง...............
-
-
" เฮ้อ... เสียดายว่ะ หมดพักร้อนกูซะแล้ว" มันบ่นขึ้นมาในขณะที่เราเก็บข้าวเก็บของกันเตรียมตัวจะไปเช็คเอ้าท์จากรีสอร์ท
" เออน่า... เดี๋ยวปีหน้าก็มาใหม่ดิ ว่าแต่จะมาสักช่วงไหนดีวะ"
" อืม... ก็ช่วงนี้แหละว่ะ หน้าฝนเนี่ย บรรยากาศมันดีเหมือนกัน คนน้อยด้วยนะไม่พลุกพล่านดี" มันสรุป
" อ้าว...ตอนแรกเห็นมึงบอกไม่ชอบหน้าฝนนี่หว่า แล้วทำไมเปลี่ยนใจวะ"
" ก็หน้าฝนมันทำให้กูได้สมรักกะมึงนี่หว่า จริงมั๊ยที่รัก" มันเดินเข้ามากอดผมไว้จากด้านหลังแล้วก็เอาคางมาถูไถที่คอกับไหล่ผมไปมา
" เฮ้ย... สาดด..ด เครามึงอ่ะ สากชิบหาย คันว่ะ" ผมว่าแล้วก็เอามือปัดๆ มันก็ยิ้ม
" ไปกันได้ละ ต้องไปเช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงนะ แล้วก็แวะแดกข้าวด้วย" ผมบอกมัน
หลังจากเช็คเอ้าท์กันแล้วเราก็มานั่งกินข้าวกะเจ๊บีด้วยกันอีกครับ เจ๊เค้าเลยถามว่าเป็นไงมั่งมาพักที่นี่คราวนี้ ไอ้ลิงมันก็เลยบอกเรื่องของเราไป
" ห๊า.... งั้นนี่ก็หมายความว่าแกสองคน........" เจ๊บีตะลึงไปเลยครับ
" ใช่คร้าบเจ๊ เราสองคนลงเอยกันแล้ว มันเป็นเมียผมละครับ" ไอ้ลิงพูดแล้วมันก็โอบไหล่ผมไว้ ผมเลยโบกกบาลมันไปทีนึง
" สัด.. พูดซะดังเลย ใครเป็นเมียมึง มึงแหละเมียกู" ผมด่ามันไปเบาๆ ก็กลัวคนได้ยินเหมือนกัน
" อ๊ายย....ย นี่มันอะไรกาน พวกแกเป็นงี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมชั้นไม่รู้เลย" ผมกับมันก็หัวเราะ
" แล้วตกลงที่เจ๊โวยๆอยู่เนี่ย เพราะรับเราสองคนไม่ได้รึว่าเสียเซล์ฟที่ตกข่าวกันแน่อ่ะ" ผมยิ้มที่เห็นเจ๊แกท่าทางรับไม่ได้อยู่
" ก็ใช่น่ะสิยะ ชั้นไม่ระแคะระคายเรื่องแกสองคนได้ไงเนี่ยทั้งที่ก็เห็นอยู่ตลอด ไปรักกันตอนไหนยะ เล่ามาเลย"
" ฮ่าๆ ผมไม่รู้จะบอกเจ๊ยังไงนะ เพราะว่าตัวผมเองผมยังไม่รู้เลยว่าตอนไหน พอมารู้อีกทีก็รักมันไปละ" ผมบอกแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
" แหม... หรือว่าเป็นเพราะรีสอร์ทชั้นยะ นี่รู้มั๊ยใครๆที่มารีสอร์ทชั้นน่ะ เค้าก็ได้ลงเอยกันไปหลายคู่แล้วนะจะบอกให้"
" หือ.. จริงเหรอเจ๊ ใครมั่งอ่ะ" ไอ้ลิงรีบถามอย่างสนใจทันที
" หึๆ... ที่เห็นๆนะ ก็น้องรหัสพวกแกสองคนนั่นแหละ โฮะๆ นอกนั้นก็มีอีกบางคนอยู่แถวๆนี้แหละ แต่ไม่บอกละกัน เป็นความลับส่วนตัว" เจ๊บีกล่าวพลางมองไปที่ "สร" กัปตันของคาเฟ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ จนสรมันมองเจ๊บีอย่างงงๆ ว่ามองมันทำไม
" จริงเหรอเจ๊..." ผมกับไอ้ลิงพูดขึ้นแทบพร้อมกัน แล้วก็หันมามองหน้ากันเลย
" ย่ะ... ไม่ดีเหรอ น้องกับน้อง พี่กับพี่ โอ๊ย.... ลงตัวจะตายไป โฮะๆๆ" เจ๊บีเลยหัวเราะอย่างสมใจ ยังกะว่าแกเชียร์น้องสองคนนั้นกับผมมาตลอดงั้นแหละ
" อืม... งั้นไว้ปีหน้าเราจะมาใหม่นะเจ๊ เก็บห้องเดิมไว้ให้เราด้วยนะคร้าบ" ผมบอกพลางลุกขึ้น
" ได้เลย ชั้นจะเก็บห้องชุดฮันนีมูนนั้นไว้ให้พวกแกอย่างดี โฮะๆ" เจ๊บีบอกพลางหัวเราะ ผมกับไอ้ลิงก็เลยยิ้มให้เจ๊อย่างอายๆแล้วเดินมาขึ้นรถไอ้ลิงมันด้วยกัน
เรื่องของเราสองคนนี่จะว่าไปก็ยังกะนิยายเหมือนกันนะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเอาไปเขียนจะมีใครอ่านมั๊ยเพราะมันเหมือนกับลงตัวและอาจจะน้ำเน่าเกินไปก็ได้
และมันก็เหมือนกับว่าฝนเป็นตัวนำพาอะไรๆให้เราได้ลงเอยกันแบบนี้อยู่นิดนึงนะ ซึ่งก็ตลกดีที่แม้แต่มันตอนนี้ก็ยังชอบทะเลหน้าฝนไปด้วยเหมือนกับผมแล้ว
ถ้าวันนั้นฝนไม่ตกไล่เราสองคนกลับห้องผมอาจยังไม่มีจังหวะจะบอกมันว่ารักก็ได้นะ
คงต้องขอบคุณหน้าฝนซะแล้ว นี่เลยยิ่งทำให้ผมชอบหน้าฝนมากเข้าไปอีก
เพราะฝนนั้นได้นำพาความรักมาด้วย จนใจผมกับไอ้ลิงชื่นฉ่ำไปกับความรักนั้นจนอิ่มเอมใจเลยอย่างนี้
แล้วจะไม่ให้ผมกับมันชอบหน้าฝนได้ไงครับ...........................................
*******************
Chapter Endedก็จบอวสานลงไปเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับไตรภาคของ ฤดูรักสองเรา แล้วก็เป็นตอนอวสานจริงๆของซีรี่ย์ทั้งหมดนะครับ
อ่านแล้วสนุกกันรึเปล่าเอ่ย หรือว่ามัวงงกับความเชื่อมโยงกันของตัวละครทั้งหมด
ก็ไม่ต้องคิดไรมากครับ แค่ว่าตัวละครทั้งหมดเชื่อมโยงกันอยู่ต่างเวลาต่างสถานที่เท่านั้น
อันที่จริงก็อยากทำตอนพิเศษเ้หมือนกันครับ แต่ว่าไม่รู้จะมีใครอยากอ่านมั๊ยน๊อ