สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก
Kaminsay-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ โชคครั้งที่ • 18.2 • • • • ต่อค่ะ 100% • • •
พี่เรนผมได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อน้ำจากสายยางตกลงมาโดนตัว หันกลับไปมองก็เห็นว่าเพื่อนน้องกายกำลังฉีดน้ำจากสายยางขึ้นไปบนฟ้าจนมันตกลงมาเหมือนกับฝน
หันไปมองน้องกายที่ถือกล้องอยู่ ผมเกร็งมากทีเดียวเพราะปกติแล้วผมไม่ชอบถ่ายรูป แม้จะยอมให้น้องกายถ่ายรูปผมเล่นบ่อยๆ ก็เถอะ แต่มันไม่เหมือนกันนี่นา... อันนั้นรู้ว่าถ่ายเล่นๆ แต่อันนี้น้องเอาไปส่งเป็นโปรเจคใหญ่เลยนะ ผมเลยค่อยข้างกังวลมากทีเดียว
“พี่เรนครับ ปล่อยตัวตามสบายนะครับ ไม่ต้องกังวลอะไร” น้องกายเงยหน้าจากกล้องที่ถืออยู่ขึ้นมาบอกผม
ผมได้แต่พยักหน้าแต่ก็ยังเกร็งอยู่ดี น้ำที่ตกลงมาโดนตัวเยอะขึ้นจนผมรู้สึกเปียกไปหมด ผมชอบน้ำนะ ชอบน้ำ ชอบฝน มันให้ความรู้สึกสดชื่นดี บ้านน้องกายก็ต้นไม้เยอะ พอมีน้ำแบบนี้กลิ่นไอดิน กลิ่นเย็นๆ ก็ลอยฟุ้งไปทั่ว ผมยื่นแขนออกไปรองรับน้ำที่ตกลงมา มองหยดน้ำที่ตกลงบนมือแล้วก็แตกออกก่อนจะยิ้มออกมา
“อย่างนั้นแหละครับ แค่เป็นตัวของตัวเอง” น้องกายพูด
ผมหันไปมอง เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกล้อง นิ้วของน้องยังคงกดอยู่ที่ชัตเตอร์ ผมเพิ่งสังเกต เวลาน้องถ่ายรูปน้องดูจริงจังมาก ต่างจากเวลาปกติที่ชอบยิ้มร่า แล้วก็... ชอบทำให้ผมคันแก้มแปลกๆ
ผมเผลอมองน้องกายที่ยืนถือกล้องอยู่ ไม่แน่ใจว่ามองนานแค่ไหนแต่ก็มองอยู่แบบนั้น น้องกายในตอนนี้ดู... ยังไงล่ะ ดึงดูดสายตาจนละไปไหนไม่ได้ แล้ว... ผมก็รู้สึกคันๆ ที่แก้มอีกแล้ว
ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกว่าน้องกายกำลังมองผม มองผ่านเลนส์ตัวนั้นที่น้องเขาถืออยู่ แม้จะรู้สึกคันๆ แก้มจนอยากจะหันหน้าไปทางอื่น แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่มองน้องเขาอยู่แบบนั้น จนรู้สึกว่าเริ่มมองไม่ชัดเพราะน้ำเกาะอยู่เต็มแว่น ผมเลยถอดแว่นออกมาเช็ดก่อนจะสวมกลับไปอีกรอบ ยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องหมีวิ่งดุกดิ๊กมาหา
น้องหมีเป็นแมวที่ชอบน้ำมาก ไม่กลัวน้ำเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะอย่างนั้นถึงได้วิ่งมาหาผมเพราะผมกำลังเล่นน้ำอยู่
“ฮึบ!” น้องหมีตัวขาวๆ กลมๆ หายไปแล้ว เหลือแต่น้องหมีตัวแบนๆ เพราะขนลูบแนบลำตัวไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นน้องหมีของผมก็น่ารักที่สุดในโลกเลย
ผมทำหน้าเหวอตอนที่น้องหมีดิ้นจนหลุดจากมือของผม พยายามจะตามจับน้องหมีที่วันนี้ดูคึกมากเป็นพิเศษ เล่นสนุกกับแมวของตัวเองจนผมลืมไปเลยว่ากำลังเป็นแบบให้น้องกายถ่ายรูป
ผมหัวเราะตอนที่เห็นน้องหมีลื่นล้ม ก่อนจะตามไปอุ้ม น้องหมีร้องแง๊วๆ เหมือนจะฟ้อง
“ล้มเลย น้องหมีล้มเลย ไม่เจ็บน้า โอ๋ๆ นะ” ผมกอดน้องหมีที่ตัวเปียกลู่เอาไว้ โยกไปมาเหมือนกล่อมเด็ก ก่อนจะยิ้มเมื่อน้องหมีแลบลิ้นเลียที่มือของผม
“อ่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อไม่รู้สึกถึงน้ำที่ตกลงมาโดนตัวแล้ว น้องกายกำลังกางร่มให้ผมอยู่
“พอแล้วครับ นานกว่านี้เดี๋ยวไม่สบาย” น้องกายพูดใช้ผ้าขนหนูคลุมหัวผมเอาไว้ ก่อนจะแย่งน้องหมีไปส่งให้น้องแม็ครับไป “กูฝากเช็ดตัวเช็ดขนให้หมีด้วย”
“เออ เดี๋ยวจัดการให้” น้องแม็คใช้ผ้าขนหนูห่อน้องหมีก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้าน
ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ฝนตกจริงๆ แล้ว พวกเพื่อนๆ น้องกายก็ขนของเข้าบ้านกันไปเกือบหมด
“แล้ว... งานเป็นยังไงบ้าง พี่มัวแต่เล่นกับหมีอย่างเดียวเลย” ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมมาทำงานให้กับน้องกาย
“เรียบร้อยแล้วครับ เอาไว้ผมแต่งรูปอะไรเรียบร้อยจะส่งให้พี่เรนดูนะ สวยมากทุกรูปเชื่อมือผมได้เลย”
น้องกายยิ้มกว้าง แบบที่ผมเองก็เผลอยิ้มตามแล้วก็พยักหน้ารับ “อื้ม!”
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันครับ เดี๋ยวไม่สบายไปเสียก่อน” น้องกายดันผมให้เดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเช็ดตัวก่อนจะเอาห่อตัวเองไว้เพราะเริ่มรู้สึกหนาวแล้ว
“รีบไปอาบน้ำกันลูก เดี๋ยวม๊าชงนมอุ่นๆ เอาไว้ให้” แม่ของน้องกายพูดตอนผมกับน้องโผล่เข้าไปในบ้าน
“ครับม๊า ไปครับพี่เรน” ผมเดินตามน้องกายที่จูงมือผมขึ้นมาบนชั้นสอง
น้องให้ผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน “แต่กายก็เปียกเหมือนกันนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมไปใช้ห้องน้ำห้องม๊าได้ พี่เรนรีบเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว” น้องดันหลังผมให้ตรงไปที่ห้องน้ำ “ถ้านับถึงสามยังไม่เข้าไปนะ ผมจะช่วยพี่เรนอาบน้ำ หนึ่ง...”
ไม่ต้องรอถึงสามผมก็แทบจะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้องกายหัวเราะด้วย ผมเลยหันไปย่นจมูกใส่ แต่ย่นใส่ประตูห้องน้ำนะ
อ่า... คนในกระจกนั่นใคร ทำไมหน้าแดงจัง
แถมหัวใจก็เต้นเร็วด้วย น้องกายแกล้งผมอีกแล้วสินะ ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว
ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอออกจากห้องน้ำไปก็เจอน้องกายนั่งสำรวจกล้องอยู่บนเตียง ผมยังเปียกลู่อยู่เลยไม่ยอมเช็ด
“พี่เรนเช็ดผมให้แห้งด้วยครับ เดี๋ยวไม่สบาย” เงยหน้ามาบอกผม แล้วก็ก้มลงไปเช็ดกล้องต่อ
ตัวเองยังไม่ยอมเช็ดผมเลย! ฮึ่ม
“กล้องเปียกเหรอ”
“นิดหน่อยครับ อีกอย่างผมก็เอามาเช็ดทำความสะอาดเป็นปกติอยู่แล้วด้วย แล้วทำไมพี่เรนไม่เช็ดผมให้แห้งเนี่ย”
อ่ะ!
น้องกายดึงผมไปนั่งข้างๆ วางกล้องเอาไว้บนเตียงก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่คอของผมมาเช็ดผมให้ “กายก็ยังไม่ยอมเช็ดผมเลย”
“เช็ดให้ผมหน่อยสิ”
ผมเม้มปากตอนที่น้องยื่นหน้ามาใกล้ รู้สึกแก้มร้อนๆ อีกแล้ว แต่ก็ยอมยกมือขึ้นเช็ดผมให้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเราเช็ดผมให้กันอยู่ แถมน้องกายก็อยู่ใกล้ผมมากเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นน้องใกล้ๆ แบบนี้ ปกติเวลาน้อง... อ่า... มาหอมแก้ม ห หรือ จ จุ๊บ! ผมไม่ค่อยกล้ามองเท่าไหร่
น้องเองก็มองผมอยู่ แถมยังยิ้มให้ด้วย งือ... หน้าผมร้อนมากๆ มากๆ แบบมากๆ เลยด้วย รู้สึกว่าถ้ายังมองหน้าน้องต่อหน้าผมต้องไหม้แน่ๆ เลย เลยได้แต่ก้มหน้าลง
“อ๊ะ”
ผมถูกคว้าตัวไปกอดจนแน่น มือสองข้างมันดูเกะกะไปหมดจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน
“ผมน่ะ... รักพี่มากขึ้นทุกวันๆ เลยรู้ไหม”
น้องกอดผมแน่นมาก แต่ก็น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับอ้อมกอดของน้องกาย
“พี่ถามได้ไหม...ทำไมถึง... อือ... ช ชอบพี่”
“ผมน่ะชอบพี่เรนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ผมน่ะไม่ได้เพิ่งชอบพี่นะ แต่ผมชอบพี่มาเป็นปีแล้วนะ” ผมได้แต่ทำตาโตตอนที่ฟัง แล้วก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองชักจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย
“งืออออออ”
น้องกายผมอมยิ้มตอนมองพี่เรนที่หน้าแดงก่ำไปหมดแล้วตอนนี้ เห็นแล้วอยากฟัดมากเลย คนอะไรทำไมไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารัก น่าเอ็นดูไปหมดก็ไม่รู้
“ผมน่ะ เห็นพี่ครั้งแรกตอนวันแบบนี้แหละ” ผมบอก ชี้ไปที่หน้าต่างที่สายฝนยังคงตกกระหน่ำไม่หยุด “ผมเจอพี่วันฝนตก พี่น่ะเป็นคนเดียวที่นั่งตากฝนเพื่อหาลูกแมวที่ส่งเสียงร้องอยู่”
ผมยังจำได้อยู่เลย วันแรกที่ผมเห็นพี่เรน วันที่ฝนตกหนัก เสียงของลูกแมวร้อง และคนแปลกๆ ที่เดินตากฝนไปนั่งที่พื้นฟุตบาทแล้วก็อุ้มลูกแมวมา ภาพแรกที่ผมถ่ายพี่เรนเอาไว้ แล้วก็เป็นภาพแรกที่ผมรู้สึกว่า... ผมถ่ายได้ดีที่สุด
“แล้วผมก็บังเอิญเจอพี่อีกเรื่อยๆ ไหนจะห้องที่เราอยู่ตรงข้ามกัน ผมน่ะ... คอยมองพี่มาตลอดนั่นแหละ ตอนแรกก็แค่คิดว่าพี่น่ารักดี แต่พอมองไปมองมาก็กลายเป็นชอบไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกที...”
ผมมองพี่เรนที่เอาแต่ก้มหน้า แต่แก้มแดงๆ กับหูแดงๆ ก็บอกผมได้ว่าพี่เรนกำลังเขินมากแค่ไหน
“ผมก็รักพี่... จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว”“งืออออออ”
พี่เรนยกมือปิดหน้าตัวเองพยายามจะเดินหนีผม แต่ผมก็คว้าเอวเขาเอาไว้ก่อน รั้งเข้ามาใกล้แล้วกอดเอาไว้แน่นๆ พี่เรนเหมือนตุ๊กตา... ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มน่ากอดเป็นที่สุด แล้วผมก็ชอบกอดพี่เรนแบบนี้ด้วย มันให้ความรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยล่ะ
“พ พอแล้ว” พี่เรนพูดเสียงสั่น เพิ่มความน่าเอ็นดูเข้าไปอีกหลายเท่าตัว เห็นแล้วอยากฟัดอ่ะ ฟัดได้ไหม
ได้สิ ก็เป็นแฟนผมแล้วนี่เนอะ ผมจะฟัดแฟนตัวเองผิดตรงไหน
“งือออออ” พี่เรนร้องออกมาเมื่อผมก้มลงไปหอมแก้มฟอดใหญ่
อย่างฟินอ่ะครับ พี่เรนอาบน้ำห้องผมใช้สบู่กลิ่นเดียวกับผม แต่ทำไมโคตรหอมเลย หอมกว่าผมอีก อ้ากกกก ไอ้กายฟิน อยากฟัดให้จมเตียงเลย จับพี่เรนโยนลงเตียงเลยได้ไหม คร่อมเลยได้หรือเปล่า อยากจะเห็นหน้าแดงๆ ของพี่เรนให้ชัดๆ
“พี่เรนน่ารัก รักพี่เรนนะ” ผมบอก พลางมองพี่เรนที่นอนอยู่ใต้ตัวผม ถึงแม้ท่าทางของเราจะสุ่มเสี่ยง แต่ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน
มีใครให้มากกว่าซอสมะเขือเทศสุดเข้มข้นไหม ตอนนี้แก้มพี่เรนแดงมากเลย แฟนผมนี่ขี้เขินเหมือนกันนะเนี่ย
“แล้วพี่เรนล่ะ... เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง อยากจะรู้ว่าความรู้สึกของพี่เรนที่มีต่อผมนั้นเพิ่มขึ้นบ้างหรือยัง แล้วเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนกัน
พี่เรนเม้มปาก พร้อมทั้งหลบสายตาไม่ยอมมองหน้าผมด้วย ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตามไปมองหน้าพี่เรนต่อ
“ว่ายังไงครับ เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ใช้จมูกคลอเคลียแก้มแดงๆ หอมๆ นั้นอย่างรักใคร่ แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มใคร่... แก้มพี่เรนอย่างหอมเลยครับ
“... ลุกก่อน” พี่เรนพูดเสียงเบาพร้อมกับดันไหล่ผมด้วย ไม่รู้ว่าพี่เรนแรงน้อย หรือไม่ออกแรงกันแน่ ผมถึงไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงผลักของพี่เขาเลย “งืออออ ลุกก่อน”
พอผมไม่ยอมลุกก็ส่งเสียงงอแงทันที ผมยิ้มขำก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ หอมๆ ไปฟอดใหญ่สองฟอดแล้วก็ยอมขยับตัวออกจากพี่เรน คว้ามือพี่เขามากุมเอาไว้หลวมๆ
“พี่ถามอะไรหน่อยสิ...” พี่เรนพูด “ถ้า... ถ ถ้าสมมติว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับกาย... กายจะทำยังไงเหรอ อ่า... คือพี่สมมตินะ” พี่เรนบอกเสียงรัวเหมือนกลัวว่าผมจะคิดมากแล้วก็เข้าใจผิดไป
“ผมก็ไม่ทำยังไงหรอกครับ ถ้าพี่เรนยังยอมคบกับผมต่อผมก็จะพยายามให้มากขึ้น มากขึ้นเพื่อทำให้พี่เรนรักผมให้ได้ แต่ถ้าพี่เรนไม่คบกับผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรักพี่เรนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ” ผมตอบ
ผมคิดและรู้สึกอย่างที่ตอบพี่เรนไปจริงๆ ถ้าผมมีโอกาส ผมก็จะพยายามอย่างหนักเพื่อให้พี่เรนชอบผม แต่ถ้าไม่มีโอกาสผมก็แค่ปล่อยพี่เรนไปแล้วก็รักพี่เรนต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้ว่าผมจะต้องอยู่อย่างเหงาๆ ผมก็คงเลือกที่จะรักพี่เรน ไม่เลิกรักง่ายๆ หรอกครับ
“พี่ก็... คิดนะ แต่พี่ก็ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าทำไมน้องกายถึงมาชอบพี่ได้” พี่เรนหันมามองผม “กายเป็นถึงเดือนคณะ หน้าตาก็ดี คงมีคนมาชอบตั้งเยอะ แล้วดูพี่สิ เฉิ่มก็เฉิ่ม เชยก็เชย ใส่แว่นหน้าเตอะ ไม่เห็นมีอะไรให้น่าชอบเลย”
“แต่เพราะพี่เรนเป็นพี่เรนไง ผมถึงชอบ ผมชอบที่พี่เรนใส่แว่นหนาเตอะ ผมชอบที่พี่เรนปล่อยผมหน้าม้าบังหน้าบังตา” ผมตอบ ใช้มือจับไปที่ผมหน้าม้าของพี่เรนที่มันเริ่มยาว “ไม่มีใครเห็นว่าพี่เรนที่ผมชอบน่ะ น่ารักแค่ไหน”
“ผมชอบพี่เรนที่ทุกอย่างคือพี่เรน”คำตอบแค่นี้เพียงพอไหมครับ ผมไม่ได้ชอบพี่เรนเพราะพี่เรนน่ารัก แต่ผมชอบทุกอย่างที่เป็นพี่เรน ชอบความโก๊ะ ความซุ่มซ่าม ความเป็นเด็กเนิร์ด ชอบทุกอย่างจริงๆ
“พี่น่ะ...”
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
“สัสกาย พี่เรน ม๊าเตรียมมื้อเย็นเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวกัน”
เสียงไอ้ไม้ตะโกนมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้อง ทำให้พี่เรนที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่างชะงักไปทันที ผมนี่นึกเคืองมันชิบหาย เข้าใจมาขัดจังหวะชะมัดเลย
“ไอ้กาย มึงได้ยินไหมเนี่ย” มันตะโกนมาอีกรอบเมื่อผมกับพี่เรนไม่มีใครตอบอะไรกลับไป “ไอ้กายโว้ยยยยยย”
“เออ! กูได้ยินแล้วไอ้สลัด!” ด่ามันไปครับ หงุดหงิด มาขัดจังหวะซะได้
ผมหันไปหาพี่เรนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงก่อนจะชวนลงไปข้างล่าง “ไปครับ ไปกินข้าวกันดีกว่า”
ผมชะงักเมื่อรู้สึกว่าเสื้อของตัวเองโดนดึงอยู่แล้วคนที่ดึงก็คงไม่พ้นคนรักของผมนั่นแหละครับ ผมหันไปมองอย่างจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่พี่เรนไม่ตอบอะไรนอกจากออกแรงดึงผมมากขึ้นจนผมต้องขยับไปใกล้ๆ สุดท้ายก็นั่งลงข้างพี่เรนอีกรอบนั่นแหละครับ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
พี่เรนยังคงนิ่ง ริมฝีปากเม้ม ท่าทางเหมือนคนที่กำลังคิดแล้วก็ตัดสินใจอะไรอยู่ ดูเคร่งเครียดแต่ในสายตาผม พี่เรนก็ยังน่ารักเสมอนั่นแหละครับ
จุ๊บ!
“พี่ก็ชอบกายนะ”แล้วพี่เรนก็วิ่งออกจากห้องของผมไป
ส่วนผมก็ได้แต่นั่งนิ่ง สมองกำลังทำงานประมวลผลเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ เหมือนได้ยินเสียงสองเสียง เสียงแรกเป็นเสียงจุ๊บ แน่นอนว่าผมไม่ได้จุ๊บพี่เรน แล้วในห้องมีแค่ผมกับพี่เขา ถ้าผมไม่ได้จุ๊บ ก็แสดงว่าพี่เรนจุ๊บผม
ส่วนอีกเสียง... มันเบามากจริงๆ เบาแบบเบ้าเบาเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเสียงที่เบาขนาดนั้นผมกลับได้ยินอย่างชัดเจน มันเป็นประโยคที่ฟังแล้วลื่นหูมากเลยทีเดียว
แล้วกว่าสมองของผมจะประมวลคำตอบเสร็จ...
พี่เรนจุ๊บแก้มผม! แถมยังบอกชอบผมด้วย!!
ผมตะโกนโวยวายลั่นห้อง คว้าหมอนมากอดแล้วฟัดๆ ไปที่หมอน ขึ้นไปกลิ้งสองสามตลบอยู่บนเตียง ปากงี้ฉีกยิ้มถึงหู โคตรจะมีความสุขเลยล่ะครับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนพูดอะไรแบบนี้ เพราะปกติพี่เขาจะไม่ค่อยพูดอะไร โดยเฉพาะเรื่องควารักของผมกับพี่เรน แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นละคุยเก่งมาก
นี่เป็นวันแห่งประวัติการณ์เลยนะเนี่ย
ผมเชื่อว่าผมยิ้มไม่หุบเลยตั้งแต่ออกจากห้อง จนเจอป๊า แนะนำพี่เรนให้ป๊ารู้จักอีกรอบ แล้วก็กินข้าว พูดคุยกับพวกไอ้เป้ จนพวกมันกลับกันไปหมดแล้ว เหลือผม ป๊า แล้วก็ม๊านั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย
มันคือความสุขครับ ความสุขมันล้นมากจนแสดงออกทางสีหน้าหมดแบนี้ แล้วไหนจะมีแก้มแดงๆ ของพี่เรนประกอบฉากเพิ่มความสุขเข้าไปอีก
ไอ้กายโคตรจะมีความสุขเลยโว้ยยยยยยยยยย!!!************************************************
ได้กลิ่นอะไรเหม็นๆ ไหมคะ นี่เหม็นคนมีความรักมากเลยค่ะ หลังจากที่น้องกายรอคอยมาแสนนาน สุดท้ายก็ได้คำตอบจากพี่เรนแล้วเนอะว่าอะไรยังไง ซึ่งก็ปล่อยเจ้ากายเพ้อไปค่ะ อย่าไปขัดความสุขนางเลย ฮ่าๆๆ อ๋อ... เรื่องนี้ไม่มี NC นะคะ ใสๆ จ้า ใสๆ ไร้ดราม่า ของจริง แล้วก็จะจบแล้วด้วย
ตอนแรกว่าไม่เกิน 25 ตอน ไปๆ มาๆ จะไม่ถึง 21 ตอนแล้วจ้า จะจบแล้วยังไงก็ฝากติดตามจนจบเลยเนอะๆๆ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ
อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ