✿ เติมเต็มรัก ✿ ครั้งที่ 26
ผมนั่งร้องไห้อยู่สักพัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของผม ผมลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาภายในห้องและพยายามตั้งสติตัวเองให้หยุดร้องไห้ ผมหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมลังเลใจว่าจะโทรหาพี่เติมเต็มหรือจะไลน์ไปก่อนดี ...
ผมตัดสินใจกดมือถือโทรหาพี่เติมเต็ม สัญญาณดังอยู่นานจนสายตัดไป ผมลองกดโทรออกอีกครั้ง คราวนี้สัญญาณดังแค่สองครั้งก็เงียบไป พี่เติมเต็มคงจะกดตัดสายแน่ๆ ผมเปลี่ยนจากโทรเป็นส่งข้อความไปทางไลน์แทน
konkengg : พี่เต็มครับ
konkengg : ผมขอโทษ
konkengg : ผมอยากคุยกับพี่เต็มนะ
konkengg : เราไม่เป็นแบบนี้ได้มั้ย
พี่เติมเต็มไม่อ่านไลน์เลยครับ ผมนั่งคิดไปคิดมาสักพัก ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา ตอนแรกผมยิ้มออกมาด้วยความดีใจเพราะนึกว่าเป็นพี่เติมเต็มแต่ปรากฏว่าคนที่เข้ามาคือม๊าของพี่เติมเต็ม
"โถ ลูก ร้องไห้เลยเหรอเนี่ย ไหนม๊าดูสิ ตาช้ำหมดแล้ว" ม๊าของพี่เติมเต็มนั่งลงข้างผมพร้อมทั้งพิจารณาใบหน้าผมไปด้วย ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะรู้สึกว่าถ้าพูดผมอาจจะร้องไห้ออกมาอีก
ม๊าของพี่เติมเต็มใช้มือมาลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งพูดว่า
"เอาไว้ให้พี่เขาใจเย็นลงกว่านี้ก่อนค่อยคุยกันดีกว่านะคนเก่ง คุยกันตอนนี้ม๊าว่ามันจะมีแต่ทะเลาะกัน เชื่อม๊านะ"
ผมนิ่งคิดสิ่งที่ม๊าของพี่เติมเต็มพูด จากที่คิดว่าจะนั่งรอพี่เติมเต็ม ผมก็เลยเปลี่ยนใจคิดว่ากลับบ้านตัวเองก่อนดีกว่า ผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมาลำบากใจไปกับผมด้วย
"ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณป้า ผมขอโทษนะครับที่ทำให้บรรยากาศดีๆมันแย่แบบนี้" ผมเอ่ยปากขอตัวกลับและขอโทษม๊าของพี่เติมเต็มด้วย
"ไม่ต้องขอโทษ หนูไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ถ้าหนูจะกลับเดี๋ยวม๊าให้คนขับรถไปส่ง"
"ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมกลับเองดีกว่าครับ ผมอยากเดินเล่นด้วย"
"แต่ช่วงบ่ายแบบนี้แดดมันร้อนมากนะลูก"
"ผมเดินได้ครับ ... ถ้าอย่างนั้นผมขอลากลับเลยนะครับ" ผมยกมือไหว้ลาม๊าของพี่เติมเต็มอีกครั้ง เมื่อท่านเห็นว่าขัดผมไม่ได้แล้ว ท่านก็เลยเดินออกมาจากห้องพร้อมผม ตอนที่เดินออกจากห้องมาแล้วผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้ลาป๊าของพี่เติมเต็มเลย
"ผมยังไม่ได้สวัสดีคุณลุงเลยครับ" ผมบอกกับม๊าพี่เติมเต็ม
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ป๊าคุยกับพี่เขาอยู่ข้างบนน่ะ"
... กำลังคุยเรื่องผมกันอยู่หรือเปล่านะ
ผมกล่าวลาม๊าของพี่เติมเต็มอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพี่เติมเต็ม ผมใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีในการเดินกว่าจะถึงบ้าน ผมเจอแม่กับป้านั่งอยู่ที่ศาลาเล็กตรงสนามหน้าบ้าน
"อ้าว คนเก่ง ทำไมแม่ไม่ได้ยินเสียงรถเลยล่ะ"
"นั่นสิ ไหนว่าจะอยู่ทานข้าวเย็นที่บ้านโน้น"
พอได้ยินแม่กับป้าถาม ผมก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมเข้าไปกอดแม่และปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา
"แม่ครับ เก่ง ฮือ ... ฮึก ... เก่งว่า เก่งคงทำมันพังหมดแล้ว"
.
.
.
หลังจากที่ผมเล่าทุกอย่างให้แม่และป้าฟัง สิ่งที่แม่ผมพูดกับผมก็คือ
"เรื่องนี้แม่ไม่เข้าข้างคนเก่งหรอกนะ เพราะถ้าแม่เป็นพี่เต็ม แม่ก็ต้องเสียใจที่แฟนเราพูดกับเราแบบนี้ มันเหมือนเขาไม่ได้รักเรา แม่รู้ว่าคนเก่งรู้สึกยังไงแต่คนที่ต้องเป็นคนเลือกว่าจะให้ชีวิตเป็นแบบไหนคือพี่เขาไม่ใช่เรา เราจะไปกำหนดหรือวางแผนไม่ได้หรอกว่าพี่เขาจะรักจะใช้ชีวิตอยู่กับใคร และตอนนี้คนที่พี่เขาเลือกที่จะอยู่ด้วยก็คือลูกของแม่ ถึงแม้ว่าแม่อาจจะไม่ได้ใกล้ชิดหรือรู้จักกับพี่เต็มเขา แต่ถ้าพี่เขาไม่คิดจะจริงจังเรื่องของลูก เมื่อวานพี่เขาคงไม่เข้ามาคุยเรื่องของลูกกับแม่ เพราะลูกก็บอกเองว่าลูกไม่รู้ว่าพี่เขาจะทำแบบนี้ นั่นแสดงว่าพี่เขาคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าพี่เขาควรทำยังไง"
ยิ่งฟังแม่พูดผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่คบกันผมยอมรับว่าผมคิดมาก เพราะพี่เติมเต็มเป็นผู้ชายที่มีภาพลักษณ์ดีมาตลอด พี่เขาไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเลย แต่พอพี่เขาออกตัวชัดเจนว่าเป็นแฟนกับผม มีหลายคนที่บอกว่าเสียดายที่พี่เขาเป็นเกย์ บางคนก็บอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยนึกว่าแมนเต็มร้อย ผมไม่อยากให้ใครมองว่าพี่เขาไม่ดี ในตอนนั้นผมก็เลยคิดแค่ว่าขอแค่มีเวลาช่วงนี้ก็ได้ที่ผมจะมีความสุขกับพี่เขา
ผมเคยคุยกับพี่เติมเต็มนะ กับเรื่องที่ได้ยินมา พี่เขาเองก็ได้ยินไม่ต่างกัน แต่พี่เขาบอกว่าไม่เห็นต้องสนใจเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเราและคนอื่นไม่ได้รู้จักเราดี และพี่เติมเต็มก็บอกว่าคนอื่นก็คือคนอื่น ถ้าคนใกล้ตัวคนในครอบครัวเข้าใจก็พอแล้วสำหรับพี่เขา
พี่เติมเต็มดูไม่สนใจอะไรจริงๆครับพี่เขาค่อนข้างเฉยๆกับสิ่งที่ได้ยิน และพูดกับผมอยู่เสมอว่าไม่ต้องไปสนใจ
เฮ้อออออ ... แต่ผมมันก็เลิกคิดมากไม่ได้จริงๆ
ผมมองดูเวลาบนหน้าจอมือถือ ตอนนี้เกือบห้าทุ่มแล้ว ตั้งแต่ผมกลับมาหลังจากคุยกับแม่และป้าเสร็จ ผมก็พยายามโทรหาพี่เติมเต็มตลอดเลยแต่ไม่มีสักครั้งที่พี่เขาจะรับสาย ผมส่งข้อความไปหาทางไลน์เยอะมากแต่พี่เขาไม่แม้แต่จะอ่าน ผมใจคอไม่ดีเลยครับ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมาไม่เคยเลยที่พี่เขาจะปล่อยให้ผมรอนานขนาดนี้ อย่างมากก็ไม่ครึ่งชั่วโมงพี่เขาจะต้องอ่านไลน์ผม แต่ตอนนี้ผ่านมาเกินครึ่งวันแล้วไลน์ผมยังไม่ได้เปิดอ่านเลย
ผมลองเข้าไปดูในไอจีและเฟซบุ๊กของพี่เติมเต็มแต่มันไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย
ผมเปิดดูรูปภาพในโทรศัพท์มือถือดูรูปคู่ที่ถ่ายด้วยกัน ยิ่งทำให้ผมคิดถึงพี่เขามากขึ้น เปิดดูคลิปที่ผมเคยแอบถ่ายพี่เขาเก็บไว้ ยิ่งทำให้ผมอยากจะร้องไห้
konkengg : ผมคิดถึงพี่เต็มมากนะครับ
ข้อความสุดท้ายในคืนนั้นที่ผมส่งไปถึงทางไลน์ของพี่เติมเต็ม ผมไม่รู้หรอกว่าพี่เขาจะเปิดอ่านตอนไหนแต่ก็อยากให้พี่เขารู้ว่าผมคิดถึงมากๆ
คืนนั้นผมนอนหลับไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความคิดถึง ไม่รู้พี่เติมเต็มจะยังคิดถึงผมอยู่เหมือนเดิมมั้ย
วันต่อมา
ผมตื่นมาช่วงสายๆ เพราะเมื่อคืนกว่าผมจะหลับได้ก็เกือบสว่าง สิ่งแรกที่ผมทำคือผมรีบควานหาโทรศัพท์มือถือเพราะผมอยากรู้ว่าพี่เติมเต็มอ่านและตอบไลน์ผมบ้างหรือยัง แต่ผมก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะทุกอย่างยังว่างเปล่า พี่เติมเต็มยังไม่เปิดอ่านข้อความของผมเลย
วันนี้ตามที่นัดกันตอนแรกคือช่วงบ่ายเราจะต้องกลับมหาวิทยาลัย ผมไม่แน่ใจว่าพี่เติมเต็มจะมารับผมเหมือนทุกทีมั้ย บางทีผมอาจจะต้องนั่งรถตู้กลับเองก็ได้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็เดินลงมาข้างล่าง เจอแม่กับป้าคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก
"ตื่นสายเลยนะลูก" แม่ผมทักผม
"ทำไมแม่ไม่ปลุกเก่งล่ะครับ เก่งเลยตื่นสายเลย"
"แม่รู้ว่าเมื่อคืนกว่าลูกจะนอนหลับก็คงดึกมาก"
"แล้วหิวมั้ย วันนี้แม่เขาทำขนมจีนน้ำยาไว้แหนะ" ป้าบอกผม
"ของโปรดเลย" ผมยิ้มด้วยความดีใจ
"แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะไปง้อพี่เขายังไง" ป้าถามผม
เมื่อคืนนี้แม่กับป้าก็สรุปใจความสำคัญออกมากันเลยครับว่า ผมต้องเป็นคนง้อพี่เติมเต็ม ซึ่งผมเองก็คิดแบบนั้นอยู่แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมต้องง้อยังไงดี
ตอนที่ผมนั่งทานขนมจีนอยู่ในครัว ผมเห็นแม่เดินเข้ามาและเห็นแม่เปิดตู้เก็บของที่อยู่ข้างตู้เย็น ผมเห็นแม่หยิบกล่องพลาสติกที่เอาไว้ใส่อาหารออกมาหลายใบ และเห็นแม่ใช้ที่คีบขนมจีนคีบขนมจีนใส่ในกล่องอาหารจนเต็มกล่อง ต่อมาก็แม่ก็ตักน้ำยาขนมจีนใส่ในกล่องอีกกล่องหนึ่ง และกล่องสุดท้ายแม่ก็ใส่ผักต้มผักสดที่เป็นเครื่องเคียงใส่ลงไป
"แม่จะเอาไปฝากใครเหรอครับ"
"ไม่ใช่แม่จ้ะ แต่เป็นลูก เอาไปฝากบ้านพี่เต็มเขานะจ้ะ"
ผมที่ทานขนมจีนเสร็จพอดี ชะงักไปเล็กน้อยตอนที่แม่บอก
"พี่เต็มยังไม่รับสาย ยังไม่อ่านไลน์เก่งเลยนะแม่"
หลังจากตื่นมาผมก็ส่งไลน์ไปหา แม้ว่าข้อความที่ส่งไปก่อนหน้านั้นพี่เขาจะยังไม่เปิดอ่านก็ตาม
"ก็นี่ไง เป็นโอกาสดีที่เราจะไปง้อพี่เขา"
ผมนั่งคิดตามที่แม่แนะนำ และเห็นด้วยกับแม่ครับ หลังจากล้างจานเรียบร้อยผมก็ขึ้นไปบนห้องเพื่อเขียนการ์ดให้พี่เติมเต็มอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นแฟนกับพี่เติมเต็มแล้วแต่ผมก็ยังคงเขียนการ์ดให้พี่เขาอยู่เหมือนเดิมครับ
To ... พี่เติมเต็ม
หายโกรธน๊า ^__^
รัก ❤️
คนเก่ง
12/xx/20xx
หลังจากเขียนการ์ดเสร็จ ผมก็เอาใส่กระเป๋าเป้พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินและเดินลงไปข้างล่าง
"จะปั่นจักรยานไปเหรอ" ป้าถามผมตอนที่เห็นผมใส่หมวกและเดินไปจูงจักรยานออกมา
"ใช่ครับ ทำไมเหรอครับป้า"
"ขับรถยนต์ไปก็ได้ ใกล้เที่ยงแบบนี้แดดมันร้อน"
"ใส่เสื้อแขนยาว ใส่หมวกแล้วครับ" ผมบอก
"ไปเถอะลูก ปั่นดีๆล่ะ" แม่ผมบอก
ผมปั่นจักรยานออกมาจากบ้านก่อนที่จะแวะซื้อลูกอมห่อเล็กๆหนึ่งห่อที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย ก่อนจะปั่นมาอีกสักพักก็ถึงซอยทางเข้าบ้านพี่เติมเต็ม ยิ่งปั่นใกล้จะถึงบ้านพี่เติมเต็มมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งตื่นเต้น ใจผมเต้นระรัวจนผมรู้สึกเจ็บหน้าอก
ผมจอดรถจักรยานชิดกับกำแพงบ้านของพี่เติมเต็มก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
(มีต่อนะคะ)