ตุลย์-ปอนด์ พิเศษ
-1-
-ปอนด์-
จำได้ว่า ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกไอ้ตุลย์ไปว่า “ร้องเพลงนี่มันคือทุกอย่างของผมเลยนะ” ตอนที่มันบอกให้ผมเลิกไปร้องเพลง แต่หลังจากความน่าอับอายที่ริมทางวันนั้นก็ผ่านมาสองเดือนแล้วที่ผมไม่ได้จับไมค์ขึ้นเวทีอีกเลย แต่ตอนนี้ผมก็ยังอยู่ดีไม่ได้ล้มหายตายจากหรือดีดดิ้นทุรนทุกรายอะไร แต่สิ่งที่รู้สึกก็แค่ว่าง..... ว่าง..... ว่าง.....แค่นั้นเองแหละ ตรงข้ามกับพ่อกระต่ายนักกีฬาขายดีที่มันโคตรๆ จะยุ่งทั้งเรื่องเรียนเรื่องชมรมจนไม่มีเวลาแบ่งมาให้ผมสักกระผีกนึง
แรกๆ ที่ผมว่างแต่ตุลย์ไม่ว่าง ผมไปเฝ้ามันที่โรงยิมหลายวันเพราะผมกะจะไปกันซีนแจมป์นิดหน่อย แต่ยัยแจมป์ดันร้ายกว่าที่คิดเยอะครับ พอเจอหน้าผมนี่แทบถลาเข้ามาใส่ นอกจากล้อเลียนเรื่องความอ่อนแอ ทั้งร้องไห้ทั้งเป็นลมที่ริมทางอย่างกะสาวน้อย จนผมโกรธหน้าดำหน้าแดง ที่ร้ายกว่านั้นแม่นางยังงัดคลิปแอบถ่ายที่ผมโชว์พลังเสียงตะโกนเถียงเชี่ยตุลย์วันนั้นออกมาเปิดให้ฟังอีกต่างหาก พร้อมขู่ว่าถ้าผมมาดูนักกีฬาซ้อมให้เสียสมาธิแบบนี้บ่อยๆ สักวันนางจะแฉเรื่องวันนั้นให้รู้กันทั้งคณะ
บ๊ะ!! ขู่ขนาดนี้ใครจะไปยอม...
พอผมทำตัวเป็นนางร้าย ตัวร้ายไปฟ้องไอ้ตุลย์เรื่องความร้ายกาจของนาง แทนที่ไอ้ตุลย์จะเข้าข้างผม มันดันเห็นดีเห็นงามยิ้มน้อยยิ้มใหญ่บอกว่าถ้าผมอยากมาดูมันก็มาเถอะถ้านางอยากแฉก็แฉไปสิ ไม่เห็นเป็นไรนี่
เหอะ!! มันน่ะไม่เป็นอยู่แล้วล่ะ หน้าหนาเป็นคอนกรีตเสริมใยเหล็กอยู่แล้วนี่!! แต่ผมน่ะใจยังไม่ด้านพอ แค่ในร้านนี่ก็อายจนไม่กล้าโผล่ไปตั้งแต่วันนั้น ขืนให้รู้มากกว่านี้ ผมจินตนาการว่าผมคงได้ดรอปเรียนหนี หรือลาออกจากมหาวิทยาลัยให้รู้แล้วรู้รอดกันพอดี
เหอะ! ก็ได้ กูไม่ไปก็ได้วะ!!
สรุปเลยว่าหลังจากนั้นผมก็ไม่มีที่ไป จะไปเที่ยวคนเดียวก็กลัวถูกจับได้ แล้วไม่ตายดีเลยต้องทนแกร่วอยู่ที่ห้อง
ส่วนไอ้ตุลย์นะ แทนที่มันซ้อมเสร็จแล้วจะแวะมาหาบ้างมันก็ไม่มา กลับบ้านไปนอนสบายใจเฉิบไม่สนใจกันเลย หรือไม่บางทีมันก็มาเหมือนกัน มาตอนที่ผมหลับไปแล้ว และกลับไปตอนที่ผมยังไม่ตื่น...
ที่บ่นอยู่นี่ก็ไม่มีอะไรนะไม่ได้คิดถึงมัน ไม่ได้เหงา ไม่ได้นอยด์หรอก ก็ไม่ได้หงุดหงิดเลยด้วย
แต่คอยดูนะ ถ้าผ่านกีฬามหาวิทยาลัยนรกแตกนี่ไปได้เมื่อไรแล้วมันยังเป็นแบบนี้อยู่อีกล่ะก็!!!! บอกเลยว่าไอ้ปอนด์จะไม่ทน!!
กูจะหากิ๊กสักคนไว้แก้เงี่-----
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
ลบ
แต่คอยดูนะ ถ้าผ่านกีฬามหาวิทยาลัยนรกแตกนี่ไปได้เมื่อไรแล้วมันยังทำตัวเป็นวิญญาณหลอนแบบนี้อยู่อีก!!บอกเลยว่าไอ้ปอนด์จะไม่ทน!! ผมจะหากิ๊กน่ารักๆ สักคนคนมากกให้ชุ่มชื่นหัวใจ แล้วถ้าต่อมรุกในตัวผมเกิดทำงานขึ้นมาจนไม่อยากกลับไปรับแล้วล่ะก็มันจะต้องเสียใจที่ปล่อยผมทิ้งไว้โดยไม่เหลียวแลแบบนี้!!!
แต่..........
ยังไม่ทันถึงวันแข่งกีฬา ไอ้ตุลย์ก็โผล่หัวมาจนได้ครับ แต่ไม่ใช่วันที่ผมว่าง ผมกำลังเคลียร์รายงานที่ดองไว้อยู่พอดี
มาได้จังหวะมากเลยนะ!!
สวบ.... โถมกอดผมที่นั่งพิมพ์งานจากทางด้านหลังจนขยับแขนไม่ได้เลย
“ปล่อยก่อน พิมพ์รายงานอยู่...” ผมบอกเสียงรำคาญนิดหน่อย
“แป๊บเดียวจะเป็นไร ไม่เจอตั้งหลายวัน ไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง” มันกอดแน่นขึ้นอีก
“เหอะ! ใครแน่ที่ไม่คิดถึง นี่หายไปอีกวัน กูลืมหน้ามึงไปแล้วเนี่ย” ผมเอียงตัวไปทำหน้ามุ่ยใส่
“มึงก็รู้ว่ากูยุ่งๆ ไหนจะซ้อม ไหนจะงาน คิดถึงก็คิดถึง แต่ถ้ามาหาบ่อย คงอยากกดมึงทั้งคืนไม่ต้องทำอะไร”
ผมเหล่ตาอย่างระแวง.... มันจึงส่งยิ้มบางๆ แล้วคลายกอด
“แล้ววันนี้มาได้?”
“อือ เคลียร์รายงานของอาทิตย์หน้าหมดแล้ว” มันตอบพลางลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
“โห รีบไปเปล่าเนี่ย?”
“กูต้องเคลียร์เร็วเพราะกีฬามหา’ลัยล่อไป5วัน กลัวกลับมาแล้วทำไม่ทัน แล้วนี่....งานนี้มึงส่งเมื่อไร”
“ฮะ? เนี่ยเหรอ? พรุ่งนี้” ผมตอบเสียงอ่อย
มันมองหน้าผม..... คือสายตามันนิ่งมาก
“เพลงก็ไม่ได้ร้อง ว่างแสนจะว่าง เอาเวลาไปทำอะไรหมดเนี่ย...”
เอาเวลาไปคิดถึงมึงไงโว้ย .... มึงแหละผิด ไม่ใช่กูเลย...
“ก็ยังไม่มีอารมณ์ทำนี่” ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก
“เจริญนะ... ส่งพรุ่งนี้เพิ่งมีอารมณ์” มันถอนใจระอาแต่ทำอะไรไม่ได้ ทนมองผมเอานิ้วชี้จิ้มแป้นไปเรื่อยๆ
“จิ้มทีละนิ้วเมื่อไรจะเสร็จ ที่โรงเรียนไม่สอนพิมพ์ดีดหรือไง ฟหกด เอกอาสว”
“แบบนี้แหละเร็วแล้ว” ผมเถียงแล้วจิ้มแป้นต่อ
“เหลือเยอะไหม”
“ก็...ไม่เยอะมาก....” ผมตอบอ้อมแอ้ม คิดว่าเยอะเหมือนกันแหละแต่ก็ไม่อยากบั่นทอนใจตัวเอง
“พวกคำนำเสร็จหรือยัง ทำก่อนเลย เดี๋ยวช่วย” มันบอกอย่างใจดี
ถึงผมคิดว่ามันเอาแต่ใจอีกแล้วแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะเห็นว่ามันมีน้ำใจจะช่วย
คำนำ ผ่าน สารบัญ ต้องรอรายงานเสร็จ ต่อไปก็บรรณานุกรม....
“หนังสือมีกี่เล่มเนี่ย” มันหันมาถามเมื่อผมเริ่มพิมพ์คำว่าบรรณานุกรมลงกระดาษแผ่นถัดไป
“4เล่ม”
“งั้นใช้บรรณานุกรมไม่ได้นะ ต้องใช้คำว่าหนังสืออ้างอิง บรรณานุกรมใช้เฉพาะเมื่อใช้หนังสือ 5 เล่มขึ้นไป”
หันไปมองหน้ามัน
“รออะไรล่ะ พิมพ์ไปสิ มองหน้าเดี๋ยวจับจูบ...” สัด! เอะอะก็หื่นนะมึง!
รีบหันควับกลับมาพิมพ์ตามที่มันบอก ส่วนมันหยิบหนังสือที่ผมใช้มาเปิดดูทีละเล่ม แล้วจับเรียงเสียใหม่ ก่อนจะเริ่มต้นบอกให้พิมพ์ตามที่มันบอก
เก่งว่ะ.... ลำดับการเขียนบรรณานุกรม หนังสืออ้างอิงได้แบบไม่ต้องอ่านตำราเลย ถ้าให้ผมทำนี่คงเสริชถามอากู๋ให้วุ่น
ต่อไปก็ปก เสร็จจากปกก็เป็นเนื้อหารายงานล้วนๆ แล้วนะ
“งั้นตั้งใจทำไปนะ ของีบแป๊บ...” มันบอกแล้วลุกขึ้นยืนบิดแล้วหมุนไหล่ ผมพยักพะเยิดอย่างขอไปที
นาทีต่อมามันก็โน้มตัวลงมาจูบหน้าผากผมทีนึงจนหัวโยก...แล้วรีบเผ่นหนีไป ผมเอามือถูหน้าผากยิ้มๆ ก่อนจะเริ่มต้นพิมพ์รายงานนั่นต่อไปอีก ไม่นานนักก็ไดยินเสียงกรนเบาๆ ตุลย์หลับไปแล้ว คาดว่ามันคงเหนื่อยจริงๆ เพราะไฟในห้องยังเปิดอยู่ แต่มันหลับได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่ปิดไฟ
เสียงอะไรไม่รู้ดังลั่น.... ผมตกใจจนสะดุ้งตัวลุกขึ้นแสงสว่างที่ส่องจากหน้าต่างทำให้รู้ว่าเช้าแล้ว หันซ้ายแลขวาพบว่าตัวเองอยู่เตียง เดี๋ยวสิ ผมมานอนที่เตียงได้ยังไง ในเมื่อตอนแรกยังนั่งทำรายงานอยู่เลย
เดี๋ยวนะ รายงานเหรอ? ฉิบหายแล้ว ยังทำไม่เสร็จเลยนี่หว่า คว้ามือถือมาปิดเสียงปลุก พร้อมดูนาฬิกา 9โมงแล้ว ผมมีเรียน10 โมง แต่งานให้ส่งก่อนเที่ยง แม่เจ้า! สงสัยมีแววต้องโดดเรียนวิชานี้เสียแล้วสิ
ผมรีบกุลีกุจอ ลุกขึ้นไปที่คอมกะว่าจะทำงานต่อ แต่มีข้อความทิ้งไว้ว่า
เซพงานไว้ให้แล้วมาเอาที่ม้าหินใต้คณะก่อน 10โมงนะ จะรอ
แหม่... รู้ดีไปหมดนะไอ้กระต่าย.... ผมบ่นได้แค่นั้นแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว
ผมรีบวิ่งไปยังที่นัดหมายตอน 9.30น. เห็นมันนั่งกินข้าวอยู่กับเหล่าผองเพื่อนมันพอดี
“ไหนแฟรชไดรฟ์” ผมรีบถามเมื่อเจอหน้า
“นั่งก่อน กินอะไรมาหรือยัง”
“เดี๋ยวค่อยกิน จะทำงานก่อน”
“ปังไส้กรอก กินซะ หรือจะกินข้าวเดี๋ยวซื้อให้...”
“ตุลย์.....”
“นั่งลง... จะเอาไหมรายงานมึงน่ะ”
ฮึ่ย... ฮึ่ย... โมโห เดือด แต่มีรายงานเป็นตัวประกันเลยทำอะไรไม่ได้นอกจาก....นั่งลงแล้วแกะถุงขนมปัง
กินซะหน่อยแล้วกัน ที่จริงก็หิวนิดๆ
“นี่น้ำอะไร ของมึงป่ะ” หันไปถามถึงแก้วทึบที่ตั้งข้างๆ
“คาปู” มันตอบสั้นๆ
“ขอกินหน่อย”
มันเลื่อนแก้วเข้ามาใกล้นั่งมองผมกินจนผมอดเขินไม่ได้
5 นาทีพอสำหรับการกิน...
“พอใจยัง ทีนี้ ...เอาแฟลชไดรฟ์มาได้ยัง” ผมหันไปถาม
มันควักแฟรชไดรฟ์ที่เสียบคาคอมผมเอามาคืนให้ ผมทำท่าจะลุกเพราะยังเหลือที่ยังไม่ได้ทำอีกเยอะ
“เดี๋ยว อ่ะนี่....” มันรั้งก่อนจะยื่นสิ่งที่ใหญ่กว่าแฟรชไดรฟ์มาให้ มันคือรายงานที่ปรินท์ออกมาแล้ว
ผมรีบหยิบมาอ่านปก ที่มีชื่อตัวเองหรา แล้วเปิดผ่านเข้าไปอ่านข้างใน เนื้อความที่ตัวเองทำไว้ค้างๆ คาถูกต่อเติมให้จนเสร็จเรียบร้อยดีตามหัวข้อที่ได้รับมา... มองดูเหมือนมันช่วยพิมพ์ให้อีกครึ่งเล่มเลยทีเดียว
“เอ่อ... ขอบใจนะเว้ย ที่จริงมึงไม่ต้องทำให้ก็ได้นะ มึงน่าจะปลุกกูมากกว่า” ผมบอกอ้อมแอ้มอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไร แค่นี้เรื่องเล็กน้อย...” ก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบบางอย่างเบาๆ ที่ข้างหู ทำให้ผมหน้าร้อนผะผ่าวจนต้องรีบเด้งตัวลุกขึ้นยืน
“กูไปแล้วนะ” ผมบอกมันและหันไปยิ้มให้เพื่อนของมันก่อนจะกอดหนังสือที่หิ้วมาด้วยพร้อมรายงานที่เพิ่งได้รับไว้กับอก เดินขึ้นบันไดไปส่งงานที่ห้องอาจารย์ ระหว่างนั้นเอง...
“อ้าวปอนด์ มาส่งรายงานเหรอ?” นี่เสียงทักจาก จุ๊บจิ๊บเพื่อนรัก
“อือ...” ตอบรับแค่นั้น
“ไหนเอามาดูหน่อย...” จิ๊บบอกแล้วยื่นมือมาดึงเล่มรายงานนั้นไปเปิดดู
“โห เนี้ยบจัง... จิ๊บยังนึกห่วงว่าปล่อยให้ทำเองคนเดียวจะรอดไหม ที่ไหนได้กิ๊งเลย...”
ผมยิ้มเขินๆ ไม่กล้าบอกว่าเพราะมีคนช่วยทำให้
“ปอนด์รอนี่แล้วกันนะ เดี๋ยวจิ๊บเอาเข้าไปส่งให้” จุ๊บจิ๊บบอกแล้วเดินเข้าไปในห้องภาค
ผมยืนอยู่หน้าห้องแล้วอดนึกขอบคุณคนช่วยทำรายงานให้ไม่ได้ ช่วยทำตั้งเยอะ แต่ไม่ได้ทำออกมาลวกๆ หรือชุ่ยเลย นึกๆ ดูก็เกรงใจเหมือนกัน แต่คิดอีกทีไม่ดีกว่าก็มันบอกเองนี่ว่า
“ไม่เป็นไร แค่นี้เรื่องเล็กน้อย... ก็เมียทั้งคน ทำไมจะทำให้ไม่ได้” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีจ้า มิตรรัก แฟนคลับกระต่าย+พระจันทร์ 55+
ตอนพิเศษตอนที่ 1 ออกมาแล้วนะ ตอนที่ 2 จะตามมาเร็วๆ นี้แหละ (ไม่รู้อีกกี่วัน)
เขียนเรื่องนี้จบนี่เหงาเลย ถึงแต่ละตอนจะออกมานานๆ ที แต่มีนานี้ก็ครบ 4ปีเลยนะ
จนนักอ่านที่มาอ่านแรกๆ หายสาบสูญกันไปหมดแล้ว เศร้า อยากให้คนที่เคยตามสมัยแต่งแรกๆ กลับมาอ่านกันซะทีเพราะตอนนี้จบแล้ว คงไม่ค้างคากันอีก
ส่วนตอนพิเศษนี่ก็ไม่มีดราม่าให้หน่วงนะ มีแต่หวานๆ แล้วไม่รู้จะผิดคอนเซเสปกระต่ายห่ามเปล่า ช่วงนี้ออกมาใจดีเชียว 55+
ยังไงนิก็ขอขอบคุณทุกคนจริงๆ นะคะ ที่ติดตามเป็นกำลังใจกันมาได้ยาวนานขนาดนี้
ถ้าไม่มีคนตามทวง ไม่มีคนคอยเมนท์ก็คงเขียนไม่จบ 555+ ขอบคุณจริงๆค่ะ