ตอนที่ 55 คลิปสุดรัก....
-ปอนด์-
“ป่ะเหอะ กินข้าวกัน... หิวแล้ว...”
“อือ....” ผมพยักหน้า มองข้อมือตัวเองถูกมันดึงให้ออกจากห้องไปด้วยกัน....
“ร้านที่กูจะพาไปกินวันนี้กุ้งแช่น้ำปลาอร่อยมาก มึงต้องชอบแน่ๆ”
“กวนตีน!!”
พอถึงร้านข้าวจริงๆ ไอ้ตุลย์ไม่ได้สั่งกุ้งแช่น้ำปลาอย่างที่บอกไว้แต่แรก เพราะคงรู้ว่าจะโดนด่ามิใช่น้อย กระนั้นมันยังไม่วายเอ่ยคำถามกวนใจ
“รู้ป่าว มึงน่ะ เป็นคนที่โชคร้ายสุดๆ”
“เหรอ ยังไงวะ”
“ก็กุ้งน่ะมันโคตรอร่อย คนที่แพ้กุ้งก็เลยโคตรโชคร้าย”
“กูว่าการที่กูรู้จักกะมึงน่ะ โชคร้ายกว่าอีก”
“นั่นสิ โชคร้าย เพราะมึงอิจฉาที่กูหล่อกว่า”
“แหวะ.....”
“มึงอ่ะ จะหัดชมกูบ้างไม่ได้เลยหรือไงนะ”
“ชมทำไม ชมบ่อยๆ ก็เหลิงหมด”
“ไม่ชมไม่เท่าไรหรอก นี่เอะอะก็จะด่า จะทับถมตลอด ไม่กลัวกูนึกน้อยใจบ้างหรือไงฮะ”
“ก็มึงอยากใจน้อยเองทำไม ใครใช้ให้น้อยใจล่ะ”
“กูผิดใช่ป่ะ?”
ผมไม่ตอบแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“พี่ครับ เอากุ้งแช่น้ำปลาจานนึงครับ” ไอ้ตุลย์หันไปโบกมือสั่งอาหารเพิ่ม
“สั่งมาทำไม รู้อยู่กูกินไม่ได้”
“มึงกินไม่ได้ แต่กูกินได้นี่” มันตอบแบบกวนตีน...แล้วเมินหน้าไป
เหอะ!! คนอะไรขี้งอนจริงวะ
ผมรู้สึกหมั่นไส้คนขี้งอนขึ้นมาทันควัน
ขากลับ..เราแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อตุนของกิน ผมอมยิ้มเมื่อเห็นพ่อกระต่ายเดินลิ่วไปหยิบน้ำองุ่นเป็นเป็นอย่างแรกทั้งๆ ที่ขวดมันใหญ่จนเกะกะ
“ยิ้มอะไร” มันถามกวนๆ
“เปล่า”
“เปล่าแปลว่ายิ้มเยาะกู”
“เออ มึงนี่ก็แปลได้....” คราวนี้ผมหัวเราะเบาๆ แล้วหันไปพินิจของกินที่เรียงรายอยู่ “แค่สงสัยเฉยๆ ว่ามึงชอบมันขนาดนั้นเลย”
“อือ ชอบ... เรียกว่าติดแล้วมั้ง มึงแหละ ทำให้ติด”
ผมเหล่มองมันนิดหนึ่งที่ดูจะหาเรื่องไปได้ทุกที
“ซื้อข้าวกล่องไปเก็บไว้ไหม เผื่อพรุ่งนี้หิวๆ จะได้ไม่ต้องออกมาซื้อ” มันเอ่ยถาม
“แล้วแต่สิ ไงมึงก็คนออกตังค์อยู่แล้วนี่”
“จะกินไรล่ะ...”
“อะไรก็ได้”
“ดี..งั้นข้าวต้มกุ้งนะ...”
ผมหันไปเหล่ตาพร้อมแยกเขี้ยวนิดๆ มันอมยิ้ม รีบเดินไปที่โซนข้าวกล่อง
ผมส่ายหน้าน้อยๆให้กับความกวนตีนของมัน ถึงมันจะกวนตีน ชอบแกล้งก็เถอะ แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไรนัก ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำ หลายครั้งที่แอบยิ้มกับตัวเอง บางทีก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองประหลาด ไม่อย่างนั้นคงไม่เผลอรักคนอย่างมันได้....ให้ตายสิคิดอะไรอยู่เนี่ย นี่มันเซเว่นนะ
ผมปัดความฟุ้งซ่านออกจากสมองแล้วหันไปมองที่เชลฟ์ขนมปัง จะว่าไป... ครัวซองต์นี่มันอร่อยเหรอวะ.....
.
.
.
เอแคลร์..... ให้ตายสิ เซเว่นมีของแบบนี้ขายตั้งแต่เมื่อไรกัน....
ผมถอนใจเมื่อแหวกถุงเพื่อเอาข้าวกล่องแช่ตู้เย็นแล้วพบกับของกินที่เหมือนไม่ได้ล้มรสของมันมานานปี...ที่ไอ้ตุลย์ซื้อมา
“มึง... รินน้ำองุ่นให้กินหน่อย อ้อ เอาขนมมากินด้วย...” เสียงมันสั่ง แสดงว่าจะกินตอนนี้สินะ
มีห่อเดียวซะด้วยสิ...แถมยังน้อยชิ้นสุดๆ อีกตะหากเฮ้อ.... ถ้าขอมันต้องไม่ให้แน่เลย
ผมถอนใจแล้วรินน้ำองุ่นใส่แก้วเดินเอาไปวางเบื้องหน้ามัน ตุลย์กำลังเล่นเกมปัญญาอ่อนในคอมของผมอย่างติดพันจนแทบไม่ได้มองมา
ผมลากเก้าอี้ไปใกล้ แล้ววางเอแคลที่หน้าคอม ส่วนผมแกะครัวซองขึ้นกิน...
“หือ....” ผมส่งเสียงสั้นๆ ทั้งที่ในใจนี่โวยวายว่าทำไมมันจืดนัก...
“เป็นไร....” เสียตุลย์หันมาถาม
“เปล่า...”
“ไม่อร่อยเหรอ...”
“ก็แค่ไม่คิดว่าจะจืดขนาดนี้”
“กินคู่กับกาแฟ หรือนมคงอร่อย ไม่ได้ซื้อมาเหรอไง”
ผมส่ายหน้า....
“ไม่ชอบแล้วซื้อมาทำไม”
ทำไมน่ะเหรอ....
“เอ่อ ผมเอาครัวซองต์ที่พี่ชอบ.....”
“พี่เป็นใครอ่ะ”
“อ๋อ..พี่เป็นพ....”
“แฟนใหม่พี่เองแหละเอ....”
“เฮ้ย....!!”
“ถ้ามึงยังอยากได้ได้ซีดีคืน อยู่เฉยๆ แล้วเงียบไว้ดีกว่า”
.
.
“ทำไมต้องโกหกด้วย...” ผมถามขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อนึกถึงสีหน้าเศร้าสร้อยของเด็กคนนั้น หลังจากรับฟังคำโกหกงี่เง่านั้น เขายัดถุงครัวซองต์ใส่มือผมก่อนจะขอตัวกลับไปอย่างรีบร้อน
“กูก็แค่ยากให้มันเลิกยุ่งกับกูเสียที”
“กูว่าเด็กมันก็น่ารักดี ถ้าไม่นึกถึงข้อหาพรากผู้เยาว์ล่ะก็ กูเองก็อยากกิ๊กเด็กไว้เป็นยาอายุวัฒนะบ้างเหมือนกัน”
“เอมันไม่ได้เด็กขนาดนั้นซะหน่อย อ่อนกว่าเราปีเดียวเอง”
“จริงดิ หน้าเด็กเชียว ” ผมบอกพลางยิ้มด้วย
“ชอบมันเหรอ?”
“ฮะ....เปล่า ก็แค่อาหารตาอ่ะนะ ปกติเจอแต่พวกแก่แดดนี่...”
“กูคิดไม่ผิดใช่ไหมว่าเสป๊กมึงยังเป็นผู้ชายน่ารักๆ ไม่ใช่ตัวใหญ่เป็นยักษ์อย่าง......”
“ถ้าจะวนกลับไปที่เดิม เลิกพูดดีกว่า ไหนล่ะ ซีดีที่สัญญาว่าจะให้ คงไม่เบี้ยวใช่ไหม”
มันถอนใจก่อนจะไปหยิบของที่ต้องการมาให้ ผมเลยยื่นถุงครัวซองต์เป็นการแลกเปลี่ยน...
“ปัญหาของกู กูจัดการเองได้ มึงอย่ามายุ่งดีกว่า... เพราะลงท้ายแล้วต่อให้กูไม่ได้คบอยู่กับตุลย์ คนที่กูจะคบก็คงไม่ใช่มึงอยู่ดี อย่ามาจับผิดอะไรให้มันรกสมองดีกว่า กูว่า น้องคนเมื่อกี้ก็น่ารักดี แล้วก็เหมือนจะชอบมึงมากด้วย ทำไมไม่ลอง....”
“มันเป็นน้องเทคกู กูไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัด...”
“ก็แค่คำพังเพย ที่จริงพระก็กินไก่ได้นะ ถ้าคนอื่นเค้าทำให้ฉัน ถ้าพระท่านไม่ได้ ไปฆ่าไก่เองก็ไม่เห็นเป็นไร อีกอย่างกูก็ไม่เห็นเคยได้ยินว่ามีตรรกะข้อไหนบอกว่าห้ามเป็นแฟนกะน้องเทคตัวเองสักหน่อย”
“ก็ใช่...ไม่แน่นะ ... ถ้ากูไม่ได้ชอบมึงก่อน กูอาจจะชอบมันก็ได้....”
นี่มันแอบชอบผมมานานขนาดนั้นเลยเหรอ....
ผมเผลอถอนใจออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อหัวค่ำ เหตุผลที่ผมซื้อครัวซองต์มากินก็เพราะ ผมเห็นน้องคนนั้นซื้อมาฝากไอ้โต้งก็เลยอยากกินบ้างเท่านั้นเอง...แต่จะบอกออกไปก็คงไม่ดีสินะ
“แค่ขนมปังอันเดียวไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้น่า....”
ผมทำหน้าปั้นยากเมื่อไอ้ตุลย์เกิดคิดไปเองว่าผมเครียดเรื่องขนมปัง...
“เปล่าซะหน่อย”
มันยิ้มแล้วยื่นมือมาคว้าครัวซองต์ที่กัดไปนิดหนึ่งแล้วของผมไปถือไว้แล้วไสเอแคลร์ที่ยังไม่ได้แกะของมันมาให้
“แลกกันมะ”
ผมมองมันด้วยสีหน้าประหลาด เหมือนไม่เคยรู้จักมันมาก่อน...
“อะไร... อย่าบอกว่านอกจากกุ้ง มึงแพ้เอแคลร์ด้วยอีกอย่าง?” มันทำหน้าตกใจ
“เปล่า... แต่ของกูมันไม่อร่อยนะ...”
“อร่อยดิ เดี๋ยวกูกินกะน้ำองุ่น....” มันบอกพร้อมยื่นมือที่ว่างมาโยกหัวผม...
แค่เรื่องราวเล็กๆ ในชีวิตของเรา...ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก
แค่น้ำใจเล็กๆ ที่หยิบยื่นให้ กับช่วงเวลาสั้นที่เรานั่งกินขนมกันเงียบๆ กลับทำให้รู้สึกอบอุ่น... จนผมเกือบลืมไปหมดแล้วว่า ว่าจะมาถึงตอนนี้ เราเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง....
“ตุลย์...” ผมเอ่ยเรียกเมื่อเอแคลร์หายเข้าปากไปหมดแล้วและผมแย่งน้ำองุ่นมาดื่มล้างปาก...
“หือ...”
“ซีดีนั่นน่ะ.... กูโยนทิ้งถังขยะไปแล้วนะ...”
“เฮ้ย ทิ้งไปได้ไง บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ของรักเลยนะ...”
“ก็..กูไม่อยากให้มึงเก็บไว้ นี่”
“แล้วมึงไม่กลัวกูแอบถ่ายเก็บไว้อีกหรือไง...”
“เอาดิ... ถ้าอยากได้ขนาดนั้น.... จะแอบถ่ายหรือจะตั้งกล้องก็ได้ แต่อันเก่านั่น..ทิ้งไปเหอะนะ...”
“เป็นอะไร... อย่าบอกนะว่าเมาเอแคล์”
“จะบ้าเหรอ?”
“งั้นบอกมาดิ ซีดีอันนั้นมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงยอมให้ถ่ายใหม่ หน้าบางอย่างมึงเนี่ยนะ”
“ก็ทุกวันนี้เราคบกันแล้วนี่ กูอาจจะไม่แฮปปี้มากแต่มันก็โอเค แต่...”
“แล้วไงต่อ....”
“คือไอ้ที่มึงอัดไว้มึงก็รู้ว่ามันเป็นครั้งแรกของกู แล้วตอนนั้นกูก็ไม่ได้...เต็มใจ แล้วถ้าคนอื่นมาฟังมันก็จะเข้าใจไปได้อย่างเดียวเลยคือกูถูก.....เอ่อ....”
“ข่มขืน?”
“กูไม่ได้พูดนะ”
“แล้วไงอีก มึงเลยไม่สบายใจที่จะให้เก็บมันไว้ใช่ไหม?”
“อือ... กูไม่รู้สำหรับมึงแล้วรู้สึกยังไง แต่สำหรับกู มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าจำสำหรับกูเท่าไรหรอก ถ้าเราจะเก็บอะไรไว้จริงๆ ทำไมเราไม่เก็บแค่สิ่งดีๆไว้ล่ะ...”
“ก็ได้.... จะทิ้งก็ได้...”
“จริงเหรอ?” ถามอย่างดีใจ
“แต่ถ่ายใหม่ 5คลิป”
“สัด มึงนี่มัน!!!” ผมโวยวายอย่างโมโห
“ซีดีนั่นอยู่ไหน....”
“อะไร ก็บอกแล้วไง ทิ้งไปแล้ว..”
“ไม่เชื่อ เอามาเลย อย่าให้โมโหนะ...”
“.....” ใจแข็งไว้ ๆมันไม่รู้หรอกว่า....
“วอก....ชักช้าเพิ่มเป็น10คลิป...”
ผมมองหน้ามันแบบโมโหๆ รู้สึกน้อยใจขึ้นมาว่าผมพยายามอธิบายขนาดนี้แล้วทำไม่ไม่เข้าใจนะ
ตัวผมเองไม่เท่าไรหรอก เรื่องมันนานจนหายโกรธไปหมดแล้ว แต่เพราะคลิปบ้านั่นแท้ๆ โต้งมันเลยไม่เลิกบ้าซะทีแล้ว...จะให้ผมวางใจเก็บไว้ได้ยังไงกัน
“อ้ะ...” ผมยื่นซองซีดีที่เพิ่งได้กลับคืนมานั้นไปตรงหน้ามันด้วยใบหน้าเซ็งจัด ไม่ยอมมองหน้ามันด้วยซ้ำ ผมรู้สึกโมโหแต่ก็เหมือนทุกๆ ครั้งที่มันออกคำสั่งเอาแต่ใจแล้วผมทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมแพ้ทุกที
กร๊อบ!!
เสียงบางอย่างทำให้ผมหันไปมองอย่างสงสัย...
แล้วพบว่า ตุลย์หักซีดีนั่นไปแล้ว...
“แค่ทิ้งยังไม่ปลอดภัยหรอก หักไปเลยดีกว่า ถึงจะแน่ใจว่า ไม่เหลือจริงๆ ขอโทษนะที่กูไม่เข้าใจ กูก็เหมือนผู้ชายปกตินี่แหละที่ไม่ค่อยเข้าใจจิตใจคนที่ตัวเองรักเท่าไร และมันจะดีมาก ถ้ามึงมีอะไรแล้วพูดออกมาตรงๆอย่างวันนี้ กูจะได้ไม่ต้องเดา ไม่ต้องแปลมั่วๆ ให้มึงหงุดหงิด โอเคนะ...”
ครับ.... แค่นั้นแหละ...ความขุ่นเคืองใจที่เคยรู้สึกมันก็มลายหายไปหมดแล้ว... ผมยิ้มกว้างแล้วปล่อยให้มันดึงไปกอดแต่โดยดี....
วันต่อมา เราตื่นแต่เช้าเพราะตุลย์จะแวะพาผมไปเอารถที่ซ่อมไว้ก่อนผมไปชมรม และเราตกลงแยกกันที่หน้าร้านมอเตอร์ไซค์
“อ้อ... เมื่อคืนกูถ่ายไปละ1 คลิปไม่รู้จะชอบป่าว กูส่งเข้ามือถือมึงไปละ ส่วนอีก4 คลิปที่สัญญาไว้ค่อยทยอยผ่อนใช้วันหลังนะ...”
มันบอกก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป ปล่อยให้ผมยืนทำหน้าเหวอ หน้าร้อนผ่าวอยู่หน้าร้านซ่อมรถคนเดียว...
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วค่อยๆไสรถตัวเองออกมาให้ห่างไกลผู้คน เพื่อเช็คคลิปในมือถือด้วยความสงสัย เพราะเมื่อคืนถึงเราจะมีอะไรกันก็จริงแต่ผมไม่ทันสังเกตว่ามันได้ยกมือถือขึ้นมาอัดเก็บอะไรไว้ตอนไหน หรือจะมีแต่เสียงอีก...
นี่ไง... เจอแล้ว...
สิ่งที่ผมเห็นในนั้นเมื่อเปิดคลิปดู....
คือตัวเองที่กำลังนอนคว่ำหน้าหลับปุ๋ยอยู่บนหมอนนุ่ม
มือใครบางคนที่ค่อยๆ เกลี่ยไล้ข้างแก้มผมทำให้ผมรำคาญจนเอียงแก้มหนี
“หึหึ...” เสียงหัวเราะของมันฟังดูอารมณ์ดี
ไม่นานมันก็ขยับเคลื่อนศีรษะเข้ามาหอมที่ข้างแก้มผมเบาๆ พร้อมกับเอ่ยบางอย่างออกมา
“รักมึงนะ...”
TBC.
HAPPY NEW YEAR อีกครั้งนะคะทุกคน ขอให้ปีนี้ โชคดีมีความสุขทุกคนเลยนะคะ *-*
“รัก.คนอ่าน.นะ”
ปล. ที่บอกดราม่าหมายถึงก่อนจบอ่ะค่ะ ส่วนตอนจบนั้น happy ending อยู่แล้วค่ะ อิอิ