ตอนที่ 14
“ขนมมาแล้ว มากินดิ” เสียงเกียร์ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้ามาในห้องซะอีก เกียร์ยิ้มแป้นเข้ามาในห้อง ไม่มีเสียงตอบกลับจากขลุ่ย เกียร์วางขนมบนโต๊ะ แล้วเดินไปที่เตียง เห็นขลุ่ยกำลังหลับสนิท เกียร์นั่งลงข้างๆ บนเตียง มองดูขลุ่ยที่กำลังหลับ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบหัวขลุ่ยเบาๆ “นี่มึงเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอว่ะ รถกูก็ขับ มอเตอร์ไซค์กูก็ขี่ กูไม่ใช่เหรอที่ต้องเหนื่อย แต่เวลามึงหลับนี่น่ารักดีว่ะ กูใช้อภัย” เกียร์ลุกจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ เพราะเขาเองต่างหากที่เหนื่อยมาทั้งวัน
เกียร์ออกมาจากห้องน้ำ พบขลุ่ยกำลังนั่งกินขนมอย่าเอร็ดอร่อย
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ กินไม่รอเลยมึง”
“เรื่องอะไรจะรอให้โง่ว่ะ รอมึง มึงก็กินหมดดิ”
“กินบ้างดิว่ะ แบ่งกูเลย กินด้วย” เกียร์เดินตรงมาแย่งขนมจากมือขลุ่ย
“เฮ้ยย!! ของกู กินห่ออื่นดิว่ะ มาแย่งกินห่อเดียวกับกูทำไมเนี่ยะ”
“แย่งมึงกินอร่อยดีว่ะ” เกียร์หยิบขนมเข้าปาก
“นิสัยว่ะมึงเนี่ยะ”
“นิสัยดีใช่ปะ”
ขลุ่ยยิ้มพร้อมพูดเบะปากไม่มีเสียง “เXย”
เกียร์หุบยิ้ม “แหมๆ หนีมาเที่ยวถึงเกาะ ตัวนี้ยังตามกูมาได้ด้วยเหรอว่ะ”
“ตลกนะมึงเนี่ยะ เออ แล้วไปสำรวจมาแล้ว แถวนี้มีอะไรกินบ้าง นอกจากขนมที่มึงซื้อมาเนี่ยะ กูหิวจนจะกินปลาโลมาได้แล้วเนี่ยะ”
“เอองั้นรอแปป เดี๋ยวกูเปลี่ยนชุดก่อนแล้วไปกินข้าวกัน หรือว่ามึงจะอาบน้ำก่อนเปล่า”
“อืมมม ไม่เอาอ่ะ ไปกินข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาอาบทีเดียว”
“ไปกัน กูเสร็จละ”
“ไปกินที่ไหนว่ะ”
“ข้างหน้าที่เราพักนี่แร่ะ มีร้านอาหาร เห็นพี่เขาบอกว่า ตอนกลางคืน มีโชว์ควงกระบองไฟด้วยนะเว้ยยย”
“เออ ดีๆ หาไรกิน จิบเบียร์ริมทะเล ชิวๆ รอดูโชว์ พูดแล้วก็รีบไปเหอะว่ะ หิวโครตเลย”
“โอเคไปดิ”
เกียร์และขลุ่ยเดินตรงไปยังร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศยามเย็น เหมาะกับการนั่งชิวจิบเบียร์อย่างที่ขลุยว่าจริงๆ
“อากาศดีว่ะ”
“อืมมม คนไม่เยอะด้วยว่ะ นั่งตรงนั้นดีมั๊ยว่ะ วิวสวยดี”
“เออเอาดิ ตามใจมึงเลย”
“เออ ว่าง่ายดีมาก”
“เยอะนะมึงเนี่ยะ ขอเมนูหน่อยครับ”
พนักงานยื่นเมนูให้ขลุ่ย และเกียร์
“ขอบคุณครับ” สองหนุ่มหยิบเมนูมาเปิดดู
“อยากกินอะไรว่ะขลุ่ย”
“เกียร์มึงอยากกินอะไรก็สั่งเลย”
“มึงชอบกินปลาหรือเปล่าว่ะ” เกียร์เอ่ยถาม
“ก็กินได้”
“แล้วปลาหมึกล่ะ”
“ก็กินได้”
“กุ้งล่ะชอบมั๊ย”
“เออก็กินได้”
“แล้ว…..”
“พอเลย กูกินได้หมดแร่ะ สั่งสักทีเถอะมึง”
“ให้กูสั่งให้เหรอ”
“เออ เอาเลยมึงสั่งเลย” ขลุ่ยปิดเมนูวางลงบนโต๊ะ
“เออ โอเค งั้นเอา ต้มยำโป๊ะแตกทะเล ยำรวมมิตรทะเล ปลากะพงราดพริก กุ้งแช่น้ำปลา”
“โห สั่งไรเยอะแยะว่ะเนี่ยะ จะกินหมดมั๊ย”
“ก็ไหนบอกว่าหิวไง” “เด่วครับน้อง เอาเบียร์ด้วย 2 ขวด ครับ”
“เอาที่สบายใจเลยมึง”
“เออตามนี้แร่ะ กูสบายใจ”
อาหารมาเต็มโต๊ะ สองหนุ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมจิบเบียร์ชมวิวทะเล แถมวิวฝรั่งสาวๆ เดินผ่านไปผ่านมา
“มองน้ำลายยืดเลยนะ” ขลุ่ยแซวเกียร์ที่มองตามสาวฝรั่งผิวขาว หุ่นดี อยู่ในชุดบิกินี่ เดินผ่านไป
“น้ำลายยืดอะไรของมึง กูก็มองไปทั่วๆ ไม่ได้โฟกัสอะไรสักหน่อย หึงกูหรือไง”
“หึงอะไรของมึง เลอะเทอะ”
“หึงกูก็บอกมาเหอะ เห็นกูมองผู้หญิงอื่นเป็นไม่ได้เลยนะ”
“เรื่องของมึง ขี้เกียจพูดล่ะ” ขลุ่ยยกเบียร์ขึ้นซด
“ทำเป็นเนียนเลยนะมึง” เกียร์ยกเบียร์ขึ้นซดบ้าง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องทะเลปกคลุมไปด้วยความมืด แต่ยังมีเสียงคลื่นสาดกระทบฝั่งให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้าไม่ได้มืดมนอย่างที่คิด ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้สว่างเพราะแสงดวงจันทร์ที่เต็มดวงส่องสะท้อนกับผืนน้ำทะเล มีดาวระยิบระยับให้เห็นถึงแม้จะไม่ได้มากนัก แต่มันก็ทำให้เขาทั้งคู่รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“บรรยากาศที่เสม็ดมันดีแบบนี้นี่เอง มิน่าละ”
“มิน่าอะไรว่ะ” ขลุ่ยสงสัย
“มึงไม่เคยได้ยินหรือไง ว่ามาเสม็ด…เสร็จทุกราย”
“นี่มึงคิดลามกอยู่เหรอวะ”
“ถ้ามึงไม่คิดแล้วรู้ได้ยังไงว่ากูคิด”
“กูเปล่า เอ่อ นู้นๆ ดูทางนู้น สงสัยเขาจะโชว์ควงกระบองไฟกันแล้วแร่ะ”
“เปลี่ยนเรื่องเลยนะ”
สองหนุ่มซดเบียร์กันตั้งแต่เย็น จนถึงเวลาแสดงโชว์ควงกระบองไฟ ที่ริมชายหาด เสียงดนตรีครึกครื่นสนุกสนาน สองหนุ่มมองดูการแสดงด้วยความสนใจ พร้อมๆ กับใบหน้าที่เริ่มแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“เด็กตัวเล็กนิดเดียว ควงกระบองเก่งดีเนอะ” ขลุ่ยเอ่ย
“เออเก่ง แต่กูควงกระบองเก่งกว่าเยอะ มึงอยากดูป่ละ”
“มึงควงกระบองเป็นด้วยเหรอว่ะ”
“ลองดูป่ะละ?” เกียร์ทำหน้ากรุ้มกริ่ม
“กูว่าไม่น่าใช่กระบองไฟละ ที่มึงพูดเมื่อกี้”
“ทำไม มึงคิดว่ากระบองไหนเหรอ”
เกียร์จ้องหน้าขลุ่ย ด้วยสายตาที่เหมือนจะกลืนกินขลุ่ยลงไปทั้งตัว จนขลุ่ยกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ทั้งหน้าและหูเริ่มแดงไปหมดแล้ว โดยไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอกอฮอล์ หรือ เพราะความรู้สึกอะไรกันแน่
“กูว่ากูไม่อยากดูเด็กควงกระบองแล้วว่ะ”
“อะไรนะ มึงพูดว่าอะไรนะ” ขลุ่ยเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก
“กูบอกว่า กูไม่อยากดูเด็กควงกระบองแล้ว อยากควงกระบองเองแล้วว่ะ”
ขลุ่ยทำหน้าตกใจ “เอ่อ หมายความว่าไงว่ะ”
“เปล่าไม่มีไรหรอก กูว่าเอาเบียร์ไปกินต่อในห้องดีกว่าว่ะ ยุงเริ่มกัดกูแล้วเนี่ยะ”
“เอ่อ….”
“ตามนี้แร่ะ พี่ครับ เอาเบียร์อีก 6 ขวดใส่ถุงให้ด้วยครับ แล้วเช็คบิลเลย”
เกียร์ถือถุงเบียร์เดินนำเข้าไปยังห้องพักของเขา โดยมีขลุ่ยเดินตามมาห่างๆ
เกียร์หันมามองขลุ่ย แล้วพูดว่า “ทำไมมึงเดินช้าจังว่ะ ยุงกัดเนี่ยะ” พร้อมเดินกลับมาจูงมือขลุ่ยให้รีบเดินไปยังห้องพักของพวกเขา”
“เฮ้ยยย จะรีบไปไหนเนี่ยะ”
เมื่อเข้ามาในห้องพัก ขลุ่ยนั่งลงบนเก้าอี้ทำหน้าตาอึกอัก
“เป็นอะไรของมึงห่ะ ทำหน้าแปลกๆ” พร้อมเทเบียร์ใส่แก้วยื่นให้ขลุ่ย
“เปล่าว่ะ ไม่ได้เป็นอะไร สงสัยกูเมาว่ะ”
“อ่อนว่ะ กินไม่เท่าไหร่เมาละ”
“ใครอ่อน?”
“มึงนั่นแร่ะอ่อนว่ะ ถ้าไม่อ่อนก็ยกให้หมดดิว่ะ สุดซอยนะเว้ย”
“เด็กๆ ว่ะ” ขลุ่ยยกแก้วเบียร์กินหมดแก้วในรวดเดียว สุดซอยตามที่เกียร์ท้า
"เออๆ เชื่อละ มาๆ เดี๋ยวเติมให้” เกียร์เทเบียร์เติมให้ขลุ่ยอีก แล้วยกแก้วชน “หมดแก้ว”
“เออ หมดแก้ว”
สองหนุ่มดวลเบียร์กันจนหมด จนต้องสั่งมาเพิ่มใหม่อีกชุดใหญ่
“มึงนี่คอแข็งเหมือนกันนี่หว่า ดีๆ กูชอบ ถ้ารู้ว่ามึงคอแข็งแบบนี้ กูชวนมึงดวลนานละ”
“ปกติกูไม่ค่อยกินว่ะ”
“เออๆ ไม่ต้องกินกับคนอื่นหรอก กินกับกูคนเดียว โอเคนะ” เกียร์เอื้อมมือคว้าคอขลุ่ยเข้ามาใกล้ๆ หน้าของเขา
“เออ เข้าใจแล้ว”
“ดีมากลูกน้อง” เกียร์ลูบหัวขลุ่ยเบาๆ
“ครับบบบบบบบบบบบบ ลูกพี่”
สองหนุ่มจ้องหน้ากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เกียร์ค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้กับหน้าของขลุ่ย ส่วนขลุ่ยเองเหมือนถูกสตาฟไว้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เกียร์ขยับหน้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนกำลังจะถึงปากของขลุ่ย
“มึงจะทำอะไร” ขลุ่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำให้เกียร์ต้องหยุดชะงัก
“คือกู”
“มึงคงเมาแล้วล่ะ” ขลุ่ยถอยตัวออกไป แต่ถูกเกียร์คว้าตัวเข้ามาใกล้ๆ กับหน้าของเขาเช่นเดิม พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กูไม่ได้เมาว่ะ กูมีอะไรอยากจะบอกมึง”
“อะไร”
“มึงไม่รู้จริงๆ เหรอว่ะว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง”
“รู้สึกอะไรว่ะ”
“กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร เป็นกับมึงคนเดียว”
“ยังไง”
“กู เอ่อ กู”
“ถ้ามันยากนัก ก็ไม่ต้องพูดล่ะ แดกเบียร์ต่อเหอะ รินให้กูดิ”
“มึงอยากกินเบียร์ใช่ม่ะ”
“ก็เออดิว่ะ เร็วๆ ดิ” ขลุ่ยยกแก้วเบียร์ให้เกียร์รินให้ เกียร์รับแก้วเบียร์ของขลุ่ยมา และวางไว้บนโต๊ะ พร้อมยกแก้วเบียร์ตัวเองขึ้นดื่ม
“อ้าวมึง ของกูล่ะ” ขลุ่ยยังพูดไม่ทันจบ
เกียร์เข้ามาประชิดตัวขลุ่ย พร้อมบรรจงประกบปากของเขากับปากของขลุ่ย อย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะบดปากของเขากับขลุ่ยรุนแรงขึ้น
ขลุ่ยตกใจตาเหลือก เขยิบถอยหลัง แต่ถูกเกียร์โอบกอดไว้แน่น พร้อมบดปากอย่างร้อนแรง จนอาการตื่นตกใจของขลุ่ยกลายเป็นคล้อยตามแทน ก่อนที่ขลุ่ยจะรู้สึกตัว และผลักเกียร์ออก
“มึงทำอะไรของมึงไอ้เกียร์”
“มึงบอกอยากกินเบียร์ กูก็เอาให้มึงกินนี่ไง รสชาติดีกว่ากินใส่แก้วมั๊ย”
“ไอ้เxยเกียร์” ขลุ่ยกระชากคอเสื้อของเกียร์กำหมัดจะต่อย
“ถ้ามึงจะโกรธกู กูก็เข้าใจน่ะ แต่กูอยากบอกมึงว่า กูรักมึงนะ”
“มึง” มือที่กำหมัด พร้อมกระชากคอเกียร์ถูกปล่อยออก
“กูจะไม่แก้ตัว หรือขอโทษมึงว่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือไม่ได้ตั้งใจนะ กูตั้งใจทำทุกอย่าง กูผิดเองที่ยอมปล่อยให้ความรู้สึกตัวเองอยู่เหนือเหตุผล อยู่เหนือความถูกต้อง”
“พอล่ะ มึงไม่ต้องพูดแล้ว”
“กูต้องพูดเว้ยย กูไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ กูไม่เคยชอบผู้ชายคนไหน แต่ตั้งแต่วันนั้น วันที่มึงช่วยชีวิตกูไว้ ไม่เคยมีวันไหนเลย ที่กูไม่คิดถึงมึง มึงไม่รู้หรอกว่ากูดีใจมากแค่ไหนที่ได้เจอมึงอีกครั้ง กูอยากวิ่งเข้าไปกอดมึงมากแค่ไหนมึงรู้บ้างมั๊ย”
“แต่กูเป็นผู้ชาย”
“กูก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”
“มึงคิดว่าเรื่องของเราจะเป็นไปได้หรือว่ะ”
“กูไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นไปได้หรือเปล่า มันอยู่ที่มึงนั่นแร่ะ มึงคิดยังไงกับกู มึงรู้สึกเหมือนที่กูรู้สึกบ้างมั๊ย”
“กูไม่รู้ว่ะ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เกียร์เดินเข้ามาใกล้ๆ ขลุ่ย
“มึงบอกกูหน่อยได้มั๊ย ว่าเมื่อกี้ที่กูจูบมึง มึงรู้สึกยังไงว่ะ”
“มึงอย่าเพิ่งบีบคั้นกูได้ไหม กูไม่รู้ว่ะ”
“กูขอโทษว่ะ แต่กูไม่ได้รักมึงแบบเพื่อนจริงๆ ว่ะ ต่อจากนี้ถ้ามึงจะรังเกียจกู ไม่อยากคบกูเป็นเพื่อนแล้ว กูก็พร้อมจะเข้าใจ และยอมรับการตัดสินใจของมึงนะ ถ้าคืนนี้มึงรู้สึกอึดอัดที่จะนอนเตียงเดียวกับกู เดี๋ยวกูออกไปหาที่อื่นนอนก็ได้นะ” พูดจบเกียร์หันหลังเหมือนจะเดินออกไปข้างนอก
“มึงจะไปไหน” ขลุ่ยจับไหล่เกียร์เอาไว้จากด้านหลัง
“กูไม่อยากให้มึงลำบากใจ”
“แล้วกูพูดแล้วเหรอว่ากูลำบากใจ”
“ก็มึง”
ขลุ่ยเดินเข้ามาด้านหลังเกียร์ พร้อมเอาหัวซบลงที่แผ่นหลังของเกียร์
“ตอนนี้กูยังไม่รู้หรอกนะว่ารู้สึกยังไงกับมึง แต่กูไม่ได้รู้สึกรังเกียจมึงเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงมึง ไม่ได้เกลียดมึง กูมีความสุขนะที่ได้อยู่กับมึง”
เกียร์หันหน้ามาหาขลุ่ย
“แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว ขอบใจมึงนะ” เกียร์ยิ้มให้เกียร์ด้วยความรู้สึกขอบคุณ พร้อมโผกอดขลุ่ยไว้แน่น
“อืมมม” ขลุ่ยกอดตอบ “แล้วตกลงเราจะกินเบียร์ที่เหลือต่อมั๊ยว่ะ”
“มึงอยากกินมั๊ยล่ะ กูตามใจมึงเลยขลุ่ย”
“เออ เอาดิ กินๆ ให้หมดละกัน”
สองหนุ่มนั่งดวลเบียร์กันต่อด้วยบรรยากาศเงียบงัน ต่างคนต่างพากันซดเบียร์อย่างดุเดือด
“เบียร์หมดแล้วว่ะ เอาไงต่อดี”
“หมดก็นอนดิว่ะ มึงจะอาบน้ำเปล่าละ มึงยังไม่ได้อาบน้ำมาทั้งวันเลยนะขลุ่ย”
“เออ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนละกัน” ขลุ่ยเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ในขณะที่เกียร์เดินตรงไปที่เตียง จนขลุ่ยต้องเอ่ยถาม “เฮ้ย มึงจะไม่อาบน้ำอีกเหรอว่ะ ตัวเหม็นเบียร์”
“ก็กูอาบน้ำแล้วไงตอนเย็น”
“เฮ้ยไม่ได้ ตัวเหม็นเบียร์ไปหมดแล้ว อาบน้ำก่อน”
“ถ้าจะให้อาบอีกรอบ กูอาบพร้อมมึงเลยนะ”
“แล้วแต่มึงล่ะกัน”
?????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????