โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข  (อ่าน 30066 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
«ตอบ #30 เมื่อ18-06-2016 23:17:32 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
«ตอบ #31 เมื่อ18-06-2016 23:35:34 »

แมนๆ เขาคุยกัน ชอบๆ  :laugh:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
«ตอบ #32 เมื่อ19-06-2016 00:27:20 »

อร๊ายยย.  นี้คือเขาชอบกันยังเนี่ยะ แมนเกิ๊นนน อิอิ

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 8

เกียร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า……………………..

เขาพบว่ามีใครบางคนกำลังนอนซบไหล่อุ่นๆ ของเขา

ใครคนนั้น   เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากขลุ่ยที่กำลังหลับปุ๋ย

“เวลานายหลับนี่มันน่า…………………….ชะมัด”

เกียร์นอนนิ่งไม่กล้าขยับตัว มองขลุ่ยอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน

ขลุ่ยขยับตัว..................

เกียร์แกล้งหลับตาเหมือนคนที่กำลังหลับอยู่

ขลุ่ยลืมตาขึ้นมา ตกใจเล็กน้อยที่ตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของเกียร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เค้าเองก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวแรงๆ เพราะกลัวว่าเกียร์จะตื่นขึ้นมาเห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้

ขลุ่ยค่อยๆ ขยับตัวเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเกียร์ แต่กลับถูกเกียร์เนียนทำเป็นละเมอกอดขลุ่ยเอาไว้แน่น

ขลุ่ยรู้สึกใจเต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาข้างนอก เขาพยายามขยับตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของเกียร์และรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที

เกียร์ลืมตามองตามหัวเราะชอบใจเบาๆ

“โอ๊ยยยย นี่มันอะไรของมันว่ะ เป็นบ้าอะไรเนี่ยะ ทำไมต้องรู้สึกแปลกๆ ตอนโดนมันกอดด้วยว่ะ” ขลุ่ยฟุ้งซ่านคิดไม่ตก

“ไม่ใช่ล่ะ เราแมนทั้งแท่งนี่หว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ” ขลุ่ยยังคงพึมพากับตัวเอง

“บ่นอะไรของมึงว่ะ แล้วกูมานอนที่นี่ได้ยังไง มึงทำมิดีมิร้ายกูหรือป่าวเนี่ยะ” เกียร์เดินมาพูดใกล้ๆ ด้านหลัง

“เฮ้ยยย จะบ้าหรอ พูดอะไรของมึง ก็เมื่อคืนกูจะไปส่งมึงที่บ้าน แต่ปลุกเรียกเท่าไหร่มึงก็ไม่ตื่นอีกิย่างกูไม่รู้ว่าบ้านมึงหลังไหน จะให้กูทำยังไง กูเลยตำเป็นต้องเอามึงมานอนที่นี่แร่ะ”

“อ๋อเหรอ นึกว่ามึงวางแผนจะอ่อยกูซะอีก”

“ไอ้บ้าเอ่ย ตลกล่ะ กูแมนทั้งแท่งเว้ย เหม็นเน่าอย่างมึงเมื่อคืนนี้ กูคงไม่พิศวาสหรอกนะ” พูดเสร็จพร้อมโยนผ้าเช็ดตัวใส่หน้าเกียร์

“ไปอาบน้ำเหอะมึง เน่าจนแมลงวันจะตอมล่ะ”

เกียร์ยืนยิ้มแป้นแล้น
“ปวดหัวไปหมด เนี่ยะปวดตัวด้วยว่ะ ปวดแขนมาก เหมือนมีคนนอนทับแขนทั้งคืนเลยว่ะ”

ขลุ่ยสะดุ้ง

“ใครจะไปนอนทับแขนมึง มึงนอนทับแขนตัวเองน่ะซิ ไปๆ ไปอาบน้ำ"

“อาบด้วยกันป่ะ”

“รีบไปก่อนที่กูจะอดใจไหว”

“จะอาบด้วยกันเหรอ”

“จะถีบมึงมากกว่า” ขลุ่ยทำท่ายกขาขึ้น

“โอเคๆ ไปละ” เกียร์ผิวปากเดินเข้าห้องน้ำ

เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำโดยใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เดินตรงมาที่ขลุ่ย

“เอ่ออออออ” ขลุ่ยตาค้างขณะที่ปากคาบขนมปังซึ่งเป็นอาหารเช้าของเขา

“นี่มึงจะโชว์ของตอนกูกินข้าวอีกแล้วเหรอว่ะ ไม่เอาน่ะ กูหิว เดี๋ยวกูแดกไม่ลงอีก”

“เปล่าๆ แล้วจะให้กูใส่อะไรล่ะ ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมเหรอไง เอ๊ะ! พูดแบบนี้เหมือนอยากดู เอาหน่อยป่ะละ” เกียร์ทำท่าสะบัดผ้าเช็ดตัวไปมา

“พอเลย พอเลย แปปนึง เดี๋ยวหาชุดมาให้”

“ดีมากเลยไอ้ลูกน้อง”

“ครับบบบบบบบบบบบบ คุณลูกพี่”

ขลุ่ยหายเข้าไปในห้องสักพัก กลับออกมาพร้อมเสื้อผ้า และโยนให้กับเกียร์

“อ่ะนี่ เอาไปใส่ได้เลย เพิ่งซื้อมายังไม่ได้ใส่เลย”

“เอาตัวเก่าๆ ก็ได้ กูไม่ถือหรอก” เขายื่นเสื้อผ้าคืนให้

“เอาไปเหอะ อย่าเยอะมึงอ่ะ ให้ใส่ก็ใส่ไป” ขลุ่ยตัดบท เดินไปที่ครัว

“ขอบใจนะ แล้วนี่นายทำไรกินอ่ะ ขอกินบ้างดิ เริ่มหิวแล้ววะ” เกียร์พูดน้ำเสียงออดอ้อน

“เออ เอาดิ ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย มีแค่นี้แร่ะ ขนมปังจะใส่นม หรือแยมอะ เดี๋ยวทำไว้ให้”

“อะไรก็ได้ อยากใส่อะไรให้ก็กินหมดแร่ะ”

“เหรอออออ เดี๋ยวพ่อใส่วิกซอลให้กินซะเลย ปากดีนัก” ขลุ่ยพึมพำเบาๆ

“ขอบคุณนะ” เกียร์เดินยิ้มมาหยิบขนมปังที่วางบนโต๊ะไปนั่งกินที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์

“กิน กิน แล้วก็รีบกลับบ้านไปเลยนะ”

“ทำไมต้องรีบไล่แต่เช้าด้วยว่ะ” เกียร์หันมองหน้าขลุ่ยด้วยอาการน้อยใจ

“กูแค่คิดว่าป่านนี้ที่บ้านมึงคงเป็นห่วงกันแล้ว เมื่อคืนก็ไม่ได้กลับบ้าน แถมไม่ได้โทรบอกอีก”

“เพราะแบบนี้เองเหรอ” เกียร์ยิ้มโล่งอก

“ก็เออดิว่ะ ทำไม มีอะไร”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” เกียร์รีบคว้าขนมปังมากินต่อ แล้วเดินไปที่ระเบียง

“วิวสวยดีนี่หว่า กลางคืนคงสวยกว่านี้ใช่มั้ย” เกียร์เอ่ยถามขลุ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“อืมมม สวยนะ แต่ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่หรอก” ขลุ่ยเดินมายืนข้างๆ

“ทำไมละ??”

“ไอ้โง่เอ๋ยยยยยย ก็กูเพิ่งย้ายมาได้ไม่กี่วัน ขนาดของยังไม่มีเวลาจัด จะเอาเวลาที่ไหนมายืนชมวิวว่ะ โง่แบบนี้อย่าเป็นเลยลูกพี่น่ะ”

“เออว่ะ ไม่น่าถามเลยเนอะ ขนาดคอนโดสวยๆ มึงยังปล่อยให้เป็นกองขยะได้ คงไม่ใช่คนสุนทรีย์มายืนชมวิวหรอกจริงมั้ย?”

“กวนTeen ละมึง”

“เออออ.... วันนี้มึงไปไหนหรือเปล่าวะ”

“มีอะไร จะชวนไปไหนอีกละ”

“ตอบมาแค่ว่างหรือไม่ว่างแค่นั้นพอ อย่าถามมาก ได้เปล่าว่ะ”

ขลุ่ยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบ

“ไม่ว่างว่ะ”

“อ้าวเหรอ ไม่เป็นไร งั้นกูกลับก่อนล่ะกัน เดี๋ยวชุดกูจะซักแล้วเอามาคืนให้นะ” เกียร์เดินกลับเข้ามาในห้อง และเก็บของเพื่อกลับบ้าน

ขลุ่ยมองดูเกียร์ที่กำลังเก็บของด้วยสีหน้าจ๋อยๆ รู้สึกโกรธตัวเองที่ตอบเขาไปว่าไม่ว่าง ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ว่าง

“กูกลับก่อนนะ” เกียร์เดินไปเปิดประตู

“ให้กูไปส่งมั้ย” ขลุ่ยรีบเดินมาประชิดด้านหลังเกียร์

“ไม่เป็นไรว่ะ กูกลับเองได้ แค่นี้เอง” แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

วินาทีนั้น ขลุ่ยรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกกับสิ่งที่พูดออกไป

หลังจากที่เกียร์กลับไปแล้ว

ขลุ่ยนั่งนิ่งครุ่นคิด เหมือนกำลังเกิดความสับสนครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นกับเขาซะแล้ว ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆ ที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับเกียร์ ทำไมถึงรู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ รู้สึกดีที่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน รู้สึกดีใจมากๆ กับเรื่องราวเมื่อ 2 ปีก่อน ที่เกียร์ยังจำได้ดี ไม่ลืมเลือน และเป็นฝ่ายอยากเข้ามาทำความรู้จักกับเขา ทำไมต้องรู้สึกใจหายทุกทีที่เกียร์หันหลังแล้วเดินจากไป เพราะอะไรกัน? ขลุ่ยนั่งคิดหาคำตอบ เพราะเขาเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกกับเกียร์เกินคำว่า “เพื่อน” เพราะที่ผ่านมาเขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเขาเป็นชายแท้ทั้งแท่ง

ขลุ่ยรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับเจมส์ และบอย ที่เป็นเพื่อนรักของเขาเลย ทั้งที่เขาสนิทกับเพื่อนทั้งสองคนมากๆ
“บ้าไปแล้วแน่ๆ เป็นไปไม่ได้ กูเป็นผู้ชาย” ขลุ่ยทนไม่ไหว ตะโกนออกมา

ทางด้านเกียร์เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็รีบขึ้นห้อง ทิ้งตัวลงนอนกางแขนขาบนเตียง ในสภาพคิดหนักไม่ต่างกัน

“นี่กูเป็นอะไรของกูว่ะเนี่ยะ”

เกียร์เองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกผิดหวังกับการถูกปฏิเสธครั้งนี้เอามากๆ

เกียร์นอนคิดถึงเรื่องราวเมื่อ 2 ปี ก่อน เขาคิดถึงสายตาคู่นั้นที่มองมาที่เขา มันทำให้เขาไม่มีวันลืมสายตาคู่นั้นได้อีกเลย
ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เกียร์ฝันถึงชายนิรนามคนนั้นบ่อยๆ ฝันเห็นสายตาคู่นั้น เห็นมือคู่นั้นที่ดึงเขามากอดเอวไว้ด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะตกจากรถ เกียร์เฝ้าคิดถึงเขาคนนั้นที่ช่วยชีวิตเขามาตลอด จนวันหนึ่งได้เจอกันอีกครั้ง มีโอกาสได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้น
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่กูคิดถึงผู้ชายมาตลอดเลยหรือว่ะ” เกียร์ระเบิดความรู้สึกของตัวเองออกมา

 











ฝากติดตามด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2016 18:25:32 โดย monnam0309 »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
สับสนกันอยู่ช่ายม่ะ เอาใจช่วยทั้งคู่จร้า ^^

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :man1: :man1: :man1: :man1: :man1:

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 9

4 วันผ่านไป.....................

ไม่มีการติดต่อใดๆ ระหว่างเกียร์ และ ขลุ่ย ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่ต่างรอคอยการติดต่อมาของอีกฝ่าย

"มึงหายหัวไปไหนว่ะ ทำไมไม่มากวน Teen กูเหมือนที่เคยทำ หรือว่ามึงไปกวน Teen คนอื่นแล้วโดนกระทีบตายไปแล้วว่ะ"

"สายแล้วนี่หว่า นั่งคิดอะไรเพ้อเจ้อว่ะเนี่ยะ ไปเรียนดีกว่า วันนี้วันแรกมีแววสายละกู"

เช้าวันเปิดเทอมวันแรก ขลุ่ยใช้บริการรถไฟฟ้าแทนการขับรถสปอร์ตไปเรียน......


ขลุ่ยมองซ้าย มองขวา ตลอดทางขณะที่กำลังเดินไปสถานี หรือแม้แต่ตอนที่เขายืนอยู่บนชานชลา ขณะที่รถไฟฟ้ากำลังแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าของเขา เขาก็ยังพยายามมองหาใครบางคนอยู่ดี แต่เหมือนเขาจะพบกับความผิดหวัง

เขายืนอยู่บริเวณประตูของรถไฟฟ้า ซึ่งคนแน่นเบียดเสียดยัดเยียดมาก ไม่ต่างอะไรกับปลากระป๋องเหมือนที่ใครๆ เคยพูดเอาไว้จริงๆ

ถ้ามนุษย์ไฟไวเหมือนปลากัด คงท้องกันทั้งขบวนแน่ๆ

"เปิดเทอมวันแรก ทำไมหน้าตาไม่สดใสเลย"มีใครบางคนกระซิบเบาๆ ข้างๆ หู"

ขลุ่ยรีบหันหน้าตามเสียงนั้น ด้วยความที่รถไฟฟ้าแน่นมาก ทำให้หน้าของขลุ่ยหันมาชนกับจมูกของเกียร์เต็มๆ

ทั้งคู่นิ่งมองหน้ากันราวกับเวลาหยุดนิ่ง และตอนนี้มีเพียงแค่เขาสองคน


"ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับ"  เสียงพูดมาจากด้านหลัง เนื่องจากเขาสองคนยืนขวางประตูทางออกอยู่

"ครับๆ " ทั้งคู่เบี่ยงตัวหลบ ผู้คนที่เดินเบียดกันเพื่อขึ้นลงรถไฟฟ้า

"ขึ้นมาตอนไหน ทำไมไม่เห็น"

"แสดงว่ามองหาอยู่ตลอดเลยดิ" เกียร์ยิ้มหวาน

"ป่าวสักหน่อย ก็ตอนรอรถกูไม่เห็นมึงกะเท่านั่นแร่ะ"

"นึกว่ามึงมองหากูอยู่ตลอดซะอีก"

"ทำไมกูต้องมองหามึงด้วยว่ะ"

"ไม่รู้ดิ คิดถึงมั้ง"

"ใครจะ.... " ขลุ่ยยังพูดไม่ทันจบ เกียร์ก็พูดสวนขึ้นมา "กูคิดถึง"

ประโยคนี้ทำให้ขลุ่ยไม่กล้าที่จะพูดต่อ

"แล้วทำไมวันนี้ไม่ขับรถไปล่ะ" เกียร์สงสัย

"เปิดเทอมวันแรก มึงอยากเห็นกูเป็นตัวตลก โดนเพื่อนๆ พี่ๆ หมั่นไส้เหรอว่ะ  หน้ากูดูเหมือนคนขี้อวดหรือไง แล้วมึงล่ะ?  ไม่ขี่รถของมึงไปล่ะ สาวกรี๊ดกันทั้งมหาลัยแน่ๆ"

"กูเคยบอกมึงเหรอ ว่ากูซื้อรถมาขี่ให้สาวกรี๊ด กูแค่อยากเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนคนอื่น แต่รถคือสิ่งที่กูรัก และไม่ได้ซื้อมาไว้อวดใคร"

"กูก็คิดแบบนั้นแร่ะ แล้วมึงจะมาแกล้งแซวกูทำไมว่ะ"

"ไม่ไง กูเห็นมึงเรียนวิศวะ ขับรถเท่ๆ ไปคงดูดีน่ะ แต่กูเรียนดนตรีไทย ขี่บิ๊กไบค์มันดูขัดกันเปล่าว่ะ"

"กูว่าไม่เกี่ยวนะ ชอบอะไรกะทำไปดิว่ะ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร"

"อืมมมก็จริงนะ เป็นตัวของตัวเองดีสุด"

เกียร์รู้สึกได้ถึงความจริงใจ และความคิดของขลุ่ยที่เหมือนๆ กันกับเขา

สองหนุ่มเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในมหาวิทยาลัย

"ขอบใจนะ"

"ขอบใจอะไรว่ะ" ขลุ่ยงุนงง

"ขอบใจที่เดินมาส่งกูที่คณะไง"

ขลุ่ยเงยหน้าดู เห็นป้ายตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์

"คือแบบว่ามันเป็นทางผ่านพอดีป่ะว่ะ กูไม่ได้เดินมาส่งมึง เพ้อเจ้อใหญ่ละ กูไปก่อนนะ"

ขลุ่ยเดินตรงต่อไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกล



วันเปิดเทอมวันแรก ไม่ได้มีการเรียนการสอนที่จริงจัง ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการทำความรู้กัน ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ระหว่างเพื่อนใหม่ที่จะใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยร่วมกันถึง 4 ปี

เกียร์ค่อนข้างจะฮอตในหมู่สาวๆ เพราะคณะนี้มีผู้ชายเป็นคนส่วนน้อย


ต่างกับขลุ่ย ที่คณะของเขามีแต่ผู้ชายเป็นคนส่วนมาก สาวๆ มีไม่กี่คน แถมเป็นสาวหล่อหลายคนซะอีก


เย็นวันนั้น แต่ละคณะส่วนใหญ่จะมีการนัดทำกิจกรรม เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ ทำความรู้จักกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง


ณ ลานกิจกรรม คณะศิลปกรรม


"พี่นัดกี่โมง ทำไมถึงชักช้า เดินกันให้ไวๆ หน่อย " เสียงดุดันผ่านโทรโข่ง ทำให้รุ่นน้องปีหนึ่งรีบเดินมารวมกันกัน

ขณะที่คนส่วนใหญ่อยู่ที่ลานกิจกรรม แต่เกียร์ยังนั่งกินลูกชื้นปิ้งอยู่ที่โต๊ะหน้าตึกดุริยางคศิลป์อย่างสบายใจ

อืดดดดด อื๊ดดดดดดดดด

โทรศัพท์ของเกียร์ที่ปิดเสียงเอาไว้ สั่นไม่หยุด เนื่องจากบอยกำลังกระหน่ำโทรมาเขาอยู่

"ฮัลโหล ว่าไง"

"มึงอยู่ไหนเนี่ยะ คนอื่นเขามากันหมดแล้ว ไหนบอกไปฉี่แปปเดียวไง พี่เขากำลังเช็คชื่อแล้วนะเว้ย รีบๆ มา"

"อืมมมม โอเค" เสียงเกียร์ตอบเรียบๆ ไม่ได้ตื่นใจ ตกใจแต่อย่างใด และลุกขึ้นเดินมาทางลานกิจกรรมแบบชิวๆ

เกียร์เดินมาถึงลานกิจกรรม ในขณะที่ทุกคนนั่งกันอยู่อย่างเรียบร้อย


"น้องคนนั้นน่ะ ที่มาสาย มาข้างหน้าเลย"

เกียร์กำลังจะโดนรุ่นพี่เล่นงาน เนื่องจากเข้ากิจกรรมสายเป็นคนสุดท้าย

"ว่าไงเรา ทำไมมาสาย ไม่รู้เหรอไงว่าเจานัดกันกี่โมง" เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ

"ทราบครับ แต่พอดีผมปวดท้อง เลยไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาดันหิว เลยซื้อลูกชิ้นปิ้ง 2 ไม้ แล้วนั่งกินก่อนจะมานี่ครับ" พร้อมยิ้มให้

"นี่มึงกวน Teen กูเหรอ" รุ่นพี่เริ่มไม่พอใจกับคำตอบของเกียร์

"ป่าวพี่ ผมไม่ได้กวนTeen ผมพูดความจริง

“คือ 1 ผมปวดท้องจะให้ผมทนอั้นไว้ได้ยังไงพี่
2 ผมหิว ผมก็ต้องกินดิพี่ ไม่งั้นผมจะมีเอาแรงที่ไหนมาทำกิจกรรม

แต่ผมยอมรับว่าผมผิดที่มาสาย ไม่ตรงต่อเวลา ผมยินดีโดนทำโทษครับ”

"นี่นายอยากจะโชว์พราวกับเพื่อนใช่ไหม" รุ่นพี่คนหนึ่งที่ยืนอยู่เอ่ยแทรกขึ้นมา

"ป่าวเลยพี่ ผมไม่อยากโกหก ครับพี่ เลยพูดความจริงดีกว่า" เกียร์ตอบซื่อๆ

"ดี งั้นคุณควรจะเรียนรู้ถึงความสำคัญของการเข้ากิจกรรมให้มากกว่านี้ คุณผิด คุณจะต้องถูกทำโทษ ยอมครับได้ใช่มั๊ย" รุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมเดินมาตบไหล่

"ยอมรับครับ" เกียร์กล่าวหนักแน่น   

“ดี.................. งั้นเย็นวันพรุ่งนี้ นายต้องล่าลายชื่อเพื่อนๆ ปี 1 พร้อมเบอร์โทร ในคณะมาทั้งหมด และถ้าพี่ถามว่าเพื่อนคนไหนชื่ออะไรนายต้องตอบให้ได้ โอเคมั๊ย”

“พรุ่งนี้เลยเหรอพี่” เกียร์หน้าเหวอ

“ก็เออดิว่ะ ไหนบอกยอมรับผิดไง ในเมื่อนายไม่เห็นความสำคัญของกิจกรรม ไม่สนใจว่าเพื่อนๆ นั่งรออยู่ นายก็ต้องรู้จักเพื่อนทุกคนให้ลึกซึ้ง โอเคตามนี้ ไปนั่งได้”

“ซวยแล้วมึง” เพื่อนพูดเมื่อเกียร์นั่งลงข้างๆ เขา

“เออว่ะ โครตซวยเลย”

“คุยอะไรกัน ไม่ใช่เวลามาคุย อยากโดนทำโทษเพิ่มหรือไง” รุ่นพี่ตวาดเกียร์และเพื่อน

“ไม่ดีกว่าครับ” เกียร์ยิ้มแหยๆ

หลังจากเสร็จกิจกรรม

“จ๋อยเลยมึง” เพื่อนคนนึงตบไหล่เขาเบาๆ

“คณะของเรา มีทั้งหมด 4 เอก รวมๆ แล้วก็เกือบ 200 คน แล้วกูจะจำหมดหรือป่าวว่ะเนี่ย”

“แล้วตอนนี้มึงได้กี่ชื่อแล้วละ” เพื่อนๆ เริ่มเป็นห่วง

“ 34 ว่ะ เฉพาะเอกเรา ที่เหลือเดินตามไม่ทันว่ะ พอเลิกบุ๊ปสลายตัวปั๊ป พรุ่งนี้คงต้องวิ่งวุ่นแต่เช้าเลย”

“รายชื่อกูว่าไม่ยากหรอก พวกกูช่วยมึงได้ แต่มึงจะจำชื่อทุกคนได้ยังไงนี่ซิปัญหา”

“เออว่ะ แล้วที่มึงบอกว่ารายชื่อไม่ยากหมายความว่าไง”

“อ่ะ เอานี่ไป กูเพื่อนมึงนะเว้ย จัดมาให้แล้ว” เพื่อนคนนั้นยิ้มแป้นยื่นแผ่นกระดาษรายชื่อให้กับเกียร์

“เฮ้ยยย นี่มันรายชื่อครบทุกเอกเลยนี่หว่า มึงเอามาจากไหนเนี่ยะ มีชื่อเบอร์โทร ชื่อเล่นพร้อม” เกียร์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เด็กๆ ว่ะเพื่อน” ทำท่าภูมิอกภูมิใจเหมือนผู้ชนะ

“ยังไงว่ะ” เพื่อนคนอื่นเริ่มสงสัยตาม

“ง่ายๆ เลยเพื่อน กูก็ไปตีสนิทกับหัวหน้าห้องแต่ละเอก แล้วออดอ้อนขอรายชื่อมาไง ยังไงหัวหน้าห้องก็ต้องมีรายชื่อ และเบอร์โทรทุกคนอยู่ละ ถึงไม่มีก็ขอได้ไม่ยาก”

“สมองมึงที่ล้ำสุดๆ ไปเลยว่ะ นับถือๆ”

“ขอบใจว่ะ มึงนี่สุดยอดจริงๆ”

 “จริงๆ หัวหน้าเอกนาฏยศิลป์ โครตสวยอ่ะ กูเล็งไว้ตั้งแต่ปฐมนิเทศละ เลยได้โอกาสขอเบอร์ทำความรู้จัก 55”

“โธ่!! กูก็นึกว่ารักเพื่อน ที่แท้เพราะหญิง” เกียร์ส่ายหัวในความหน้าหม้อของเพื่อน

“มึงก็อย่าคิดแบบนั้นซิว่ะ เอาเป็นว่ามึงได้ประโยชน์ก็จบนะ งั้นกูกลับก่อนนะ พอดีนัดบี เด็กนาฏยศิลป์ ไปเลี้ยงไอติมเป็นการขอบคุณว่ะ”

“โง้วววววววววววววววววววววววววววว ไม่ธรรมดาว่ะ กูไปด้วยคนดิ” เพื่อนๆ รีบเสนอตัว

“เออไปดิๆ เห็นบีบอกว่าจะเอาเพื่อนไปด้วย มึงไปด้วยกันนะไอ้เกียร์ จะได้ทำความรู้จักด้วยไง”
“ไม่ไปว่ะ ระหว่างสาวๆ ไม่กี่คน กับกูต้องนั่งจำรายชื่อเป็นร้อย กูกับบ้านไปนั่งจำชื่อก่อนดีกว่า”

“เอองั้นตามใจ กูสองคนไปก่อนนะ กลับบ้านดีดี”

เพื่อนพากันเดินจ้ำอ้าวไปหาสาวๆ ที่ยืนรออยู่ไม่ไกล

“ยังไม่กลับอีกเหรอมึง”
เสียงคุ้นเคยดังลอยมา ทำให้เกียร์เงยหน้าขึ้นตามเสียง

“อ้าวมารับกูแล้วเหรอ รอตั้งนาน ช้านะมึง” เกียร์ตีหน้าเนียนใส่

“เดี๋ยวก่อนนะ ใครมารับคุณครับ ผมเดินมาของผม คือแบบว่าคณะของคุณมันเป็นทางผ่านครับ ไม่ได้มารับ หลงตัวเองไปล่ะ”

“อ้าวเหรอ โทษทีนะ กลับบ้านกันเหอะ” เกียร์ลุกขึ้น แล้วกอดคอขลุ่ยให้เดินกลับบ้านไปด้วยกัน

“อะไรของมึงเนี่ยะ ไม่สนิทอย่าเล่น” ขลุ่ยพยายามสะบัดแขนของเกียร์ที่กอดคอของเขาอยู่

“อย่ามาสะดีดสะดิ้ง เดินดีดี กูยิ่งเครียดๆ อยู่”

ขลุ่ยหยุดเดิน
“เครียดอะไรว่ะ”

เกียร์เล่าเหตุการณ์วันนี้ที่ลานกิจกรรมให้ขลุ่ยฟัง

“5555555555555555555555555555555555 ไอ้โง่เอ๋ย เลือกบอกเหตุผลปัญญาอ่อนไป”

“ปัญญาอ่อนไรว่ะ กูพูดความจริง”

“ความจริงของมึงมันกวนTeen มากๆ เลยว่ะ ถ้ากูเป็นรุ่นพี่มึงจะจัดให้หนักกว่านี้อีก”

เกียร์ทำหน้าจ๋อย

“เห้ยๆ กูพูดเล่น แล้วมึงหารายชื่อได้เท่าไหร่แล้วละ”

“รายชื่อกูได้ครบล่ะ แต่จะทำยังไงให้กูจำชื่อทุกคนได้ ถ้ารุ่นพี่ถามกูพรุ่งนี้อ่ะดิ” เกียร์ถอนหายใจยาววววว

ขลุ่ยนิ่งเงียบเหมือนคิด

“กูคิดออกล่ะ”

“จริงหรือว่ะ ทำไงว่ะ”

“ใช้หลักจิตวิทยาไง รับรองได้ผลเชื่อกู”

“ยังไงๆ รีบบอกมาดิ”

“ไม่บอกว่ะ”

“อะไรของมึงเนี่ยะ ไม่บอก หรือ ไม่รู้”

“รู้แต่ยังไม่บอก”

“อ้าว กวน Teen กูล่ะ”

“มึงเลี้ยงข้าวกูก่อนดิ โครตหิวเลย แล้วกูจะบอก”

“โธ่เรื่องแค่นี้ บอกกูแต่แรกก็จบละ อยากกินอะไร เดี๋ยววันนี้ลูกพี่จัดให้เต็มที่เลย ขอให้วิธีของมึงได้ผลละกัน”

“แน่นอนดิว่ะ”

“ตกลงจะกินอะไร”

“ซื้อไรง่ายๆ ไปกินบนห้องก็ได้”

“นี่มึงชวนกูขึ้นห้องอีกละ คิดไรกับกูป่าวเนี่ยะ หรือว่ามึง?????????????? ติดใจซิกแพคกูใช่มะ”
“ปากเสียนะมึง ไม่ต้องไปล่ะ กูอารมณ์ไม่ดี”

“โอ๋ๆ ขอโทษนะ งอนไปได้นะตะเอง” เกียร์ทำตาปริบๆ ออดอ้อนขลุ่ยให้หายงอน

“เออๆ”

“ขลุ่ยน่ารักที่สุดในโลกเลย ใจดี หล่อ ดูดีมีชาติตระกูลมากๆ เลยครับบบบบบบบบบบบ”

“พอๆ ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมาก เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจนะ”

“โอเคครับ” เกียร์เอามือปิดปาก หยุดพูดทันที

เมื่อขึ้นมาถึงคอนโดยของขลุ่ย

“ตกลงต้องทำยังไงถึงจะจำชื่อทุกคนได้ในวันเดียว”

“ไม่มีหรอก จำชื่อ จำหน้า คนเป็นร้อยได้ในวันเดียว”

“อ้าววว นี่มึงหลอกกูเหรอ”

“ป่าวๆ ไม่ได้หลอกโว๊ย แต่มันพอจะมีวิธีที่จะให้มึงเอาตัวรอดได้ มึงรู้จักวิธีเกร็งข้อสอบป่าว ประมาณนั้นแร่ะ”
“ยังไงว่ะ ยิ่งพูดยิ่งงง”

“ก่อนอื่นมึงเอาลิสต์รายชื่อมาก่อน แล้วมึงก็เมมเบอร์พวกนี้เข้าไปให้ได้เยอะที่สุดก่อน”

“เมมทำไมว่ะ”

“อย่าพูดมาก รีบเอาโทรศัพพท์ของมึงมาเมมด่วนๆ เลย ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะมึง เดี๋ยวคนอื่นก็นอนหมดหรอก”

“มึงจะให้กูไล่โทรหาทีละคนเหรอ ตายพอดี จนเช้าก็ไม่ครบ”

“คุณลูกพี่ครับ โง่แล้วอยากเสือกพูดมากครับ ทำไปก่อน เดี๋ยวจะอธิบาย เอาชื่อของเอกอื่นก่อนนะ”

“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”

เกียร์ก้มหน้าก้มตาเมมเบอร์เพื่อนลงในโทรศัพท์มือถือของเขา

“ได้เยอะยังมาดูดิ”

ขลุ่ยคว้าโทรศัพท์เกียร์มาดู โดยกดเข้าไปที่ไลน์  ดูตรงเพื่อนใหม่ ที่เพิ่งแอดเข้าไป

“นี่ไงไลน์เด้งเพียบเลย ทีนี้มึงก็เห็นหน้าเพื่อนๆ ที่มึงเมมเบอร์เข้าไปแล้วนะ”

“โห แบบนี้นี่นะ มันจะช่วยกูยังไงว่ะเนี่ยะ ให้กูไล่ดูรูปโปรไฟล์เพื่อนทั้งคืนเหรอ”

“ไม่ใช่ ขอความช่วยเหลือดิวะ เดี๋ยวกูจัดการให้”

ขลุ่ยหยิบโทรศัพท์กดแชทและพิมพ์ข้อความถึงเพื่อนใหม่ในไลน์ของเกียร์

“Jumbo Gear” : หวัดดีเราเกียร์ดนตรีนะ อยากจะขอความช่วยเหลือเพื่อนๆ หน่อยได้มั๊ยครับ คือแบบนี้นะ...
Line 1 : OK
Line 2 : OK
Line 3 : OK
Line 4 : OK
Line 5 : OK
ฯลฯ
ขลุ่ยร่ายยาวคุยกับเพื่อนๆ ในแชทของเกียร์

“นี่นะ คนพวกนี้ กูลากมาเป็นไลน์กลุ่มเรียบร้อย เขาเต็มใจจะช่วยมึง มึงลองดูละกันว่ามีใครบ้าง หน้าตาเป็นยังไง จำชื่อคนพวกนี้ให้ได้ล่ะ รับรองมึงรอดแน่พรุ่งนี้”

“แล้วมึงจะรู้ได้ยังไงว่ะ ว่าพวกรุ่นพี่จะเรียกถามคนพวกนี้
“เอาน่า เชื่อกูเหอะ ไม่มีไรจะเสียนิจริงมั้ย ลองดูๆ”

“เออๆ กูจะลองเชื่อมึงดูสักครั้งละกัน ขอบใจมากว่ะ”

“อืมมม ไม่เป็นไร มึงนั่งดูไปล่ะกัน เดี๋ยวกูไปเวฟข้าวมาให้กิน”

“อืม โอเค ขอบใจว่ะ”

เกียร์หมกหมุ่นทำตามที่ขลุ่ยบอกอย่างขมักเขม่น

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง...................

“เป็นไงบ้าง จำได้หมดมั้ย”

“เกือบละ คุยกับทุกคนแล้ว โครตโชคดีเลย ที่เพื่อนๆ น่ารักมาก”

“เออ งั้นก็ดีแล้ว มึงดูต่อไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”

ขลุ่ยเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งเกียร์นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์

“เป็นไงบ้างว่ะ อ่าวววววววววววววววววววว” ขลุ่ยเดินเช็ดผมตรงมาที่โซฟาที่เกียร์นั่งอยู่ เขาพบว่าเกียร์เผลอหลับไปซะแล้ว มือยังถือโทรศัพท์อยู่เลย

“หมดสภาพเลยมึง” ขลุ่ยเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์จากมือของเกียร์ เอาไปชาร์ทแบตให้ พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้านวม มาห่มให้เกียร์ที่เผลอหลับไปเพราะความเพลีย

“ฝันดีนะ” ขลุ่ยเอ่ยเบาๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน





ราตรีสวัสดิ์นะครับทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 21:35:28 โดย monnam0309 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ช่ะ น่ารักอ่ะ ทั้งขลุ่ย ทั้งเกียร์ มีความเกรียนในตัวเอง 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 27-06-2016 20:12:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ เด่วจะรีบอัพต่อนะครับ

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
 :-[ เอ้าจริงๆนะ ใครจะได้ใครอ๊ะ นึกภาพไม่ออก รู้สึกว่า ขลุ่ย ก็เเมนๆ เกียร์ก็ออกเเมนๆ
เเต่ไปๆมาๆ ชักยังไง  :hao6:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ง้ออออออออออวววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 10


เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงง

ขลุ่ยลืมตา งัวเงีย

"อรุณสวัสดิ์นะ"

"อืมมม อรุณสวัสดิ์ ห๊ะ" ขลุ่ยขยี้ตาพยายามเรียกสติของตัวเองให้ตื่น สิ่งที่เขาเห็นคือ เกียร์นอนยิ้มอยู่ข้างๆ

"นี่มึงมานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ตั้งแต่เมื่อคืนไง"

"คำว่ามารยาทอ่ะ มีบ้างมั๊ย"

"ก็เพราะว่ามีมารยาทไง ถึงได้ไม่ปลุก เห็นว่ากำลังหลับสนิทเลย"

"ไม่ใช่ล่ะ เวลาเข้าห้องนอนคนอื่นต้องขออนุญาตเข้าห้องก่อนเปล่า ไม่ใช่นึกจะเข้าก็เข้า นี่สองรอบละนะ"


"อืมมม ขออนุญาตนะ"

"กวน Teen แต่เช้าเลยมึง มาขอทำห่าไรตอนนี้"

"กูไม่ได้ขอย้อนหลัง กูขอเผื่ออนาคตไปเลยไง โอเคมึงรับรู้แล้วนะ ทีหลังอย่าบ่นอีกละ"

เกียร์ลุกจากเตียงบิดขี้เกียจ พร้อมหยิบผ้าขนหนู เดินเข้าห้องน้ำราวกับบ้านตัวเอง

"เนียนเลยนะมึง" ขลุ่ยตะโกนตามหลัง

เกียร์ตะโกนสวนกลับมาจากห้องน้ำในทันที

"เตรียมชุดใส่ไปเรียนไว้ให้ด้วยนะ ขอบใจว่ะ"

"แล้วทำไมกูต้องเตรียมให้มึงด้วยว่ะ" แทนที่ขลุ่ยจะตะโกนตอบโต้กลับไป กลายเป็นเพียงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ  แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เลือกหาชุดตามคำร้องขอ


เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยผ้าขนหนูผืนไม่ใหญ่นัก และในเวลาเช้าแบบนี้ทำให้มองเห็นเนื้อเนียนขาวใส พร้อมซิกแพคเบาๆ ชวนหลงใหลไม่ใช่น้อย ที่สำคัญเกียร์พกนมชมพูมาด้วย

"มองอะไรว่ะ"

"เปล่า ใครมองอะไร"

"ก็เห็นอยู่ว่ามึงจ้องกูไม่กระพริบตาเลย หลงซิกแพคกูใช่ม่ะ" เกียร์ยกเอามือมาปิดนมชมพู พร้อมพูดต่อ

"คิดอะไรกับกูป่ะเนี่ยะ จ้องนมกูขนาดนี้"

"ตลกล่ะ ใครจะไปจ้องนมมึง กูก็มองทั่วๆ ไป ไม่ได้โฟกัสอะไรสักหน่อย ไปๆ ชุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน จะสายก็เพราะมึงนี่แร่ะ"


ขลุ่ยรีบเดินเข้าห้องน้ำ ทำให้เกียร์อดที่จะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ในท่าทางตลกๆ ของขลุ่ย


เกียร์หยิบชุดที่ขลุ่ยเตรียมไว้ให้มาใส่แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับกระจก

"ชุดใส่พอดีมั้ย" 

ขลุ่ยออกมาจากห้องน้ำยืนมองดูเกียร์ที่กำลังผูกเนกไท

"พอดีเลยว่ะ นี่เราใส่เสื้อผ้าไซส์เดียวกันเลยนะเนี่ยะ ดีว่ะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องกังวล"

"กังวลอะไรว่ะ"

"ก็ไม่ห่วงเวลามานอนห้องมึงไง ไม่ต้องเตรียมเสื้อผ้ามา อยากมาวันไหนก็มาได้เลย"

"ถามความสมัครใจกูยัง"

"ต้องถามด้วยเหรอ"

เกียร์หันมองขลุ่ยที่สวมผ้าขนหนู ที่กำลังเอาผ้าเช็ดผมอยู่

"เช็ดแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้ง"

พูดเสร็จเกียร์ขยับตัวเข้าประชิดตัวขลุ่ย พร้อมแย่งผ้าเช็ดผมจากมือ แล้วเช็ดผมให้ขลุ่ย

ขณะนี้หน้าของเขาทั้งสองเกือบจะชนกันอยู่แล้ว
ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน

ขลุ่ยยืนตัวแข็ง ไม่แม้แต่จะขยับตัว เหมือนถูกสตาฟเอาไว้

เกียร์เช็ดผมให้ขลุ่ยอย่างทะนุถนอม

"ต้องเช็ดแบบนี้เข้าใจมั๊ย"
"เข้าใจมั๊ยยยยย"

ไม่มีคำตอบ และการตอบโต้ใดๆ จากขลุ่ยเลย
เขายังคงยืนตัวแข็งทื่อเหมือนตกอยู่ในภวังค์ จนเกียร์อดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ รอยยิ้มนี้ช่างละลายใจซะเหลือเกิน

"เอ่ออ ขอบใจนะ" ขลุ่ยรู้สึกตัวคว้าเสื้อผ้าแล้วกลับเข้าห้องน้ำทีนที

"อ้าวมึง ทำไมไม่เปลี่ยนชุดตรงนี้ล่ะ"

"ไม่อ่ะ กูไม่ได้เป็นโรคจิต ชอบโชว์เหมือนมึง"

"มีของดีก็ต้องโชว์ดิว่ะ"

"ไอ้หลงตัวเอง" ขลุ่ยตะโกนตอบกลับเสียงดัง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สองหนุ่มไปมหาลัยพร้อมกัน

"มึงว่าวิธีของมึงจะได้ผลมั๊ยว่ะ"

"ได้ผลดิว่ะ ถ้ามึงทำตามทุกอย่างที่กูบอก"

"อืมมม โอเค ไว้เจอกันตอนเย็นนะ"

"อืมมมมมม"


ขณะที่ขลุ่ยเดินต่อไปยังคณะวิศวะของตัวเอง เขานึกขึ้นได้ว่าเผลอตอบตกลงกับเกียร์เรื่องที่จะเจอกันเย็นนี้ นั่นแปลว่า เขาจะต้องรอกลับบ้านพร้อมกัน

"ตอบไม่คิดอีกแล้วกู ใครจะอยากกลับบ้านพร้อมมันว่ะ"

เย็นวันนั้น........ ณ ลานศิลปกกรรม

"นี่มึงทำได้ไงว่ะ ขั้นเทพเลยว่ะ ตอบรุ่นพี่ถูกทุกคนเลย โครตเจ๋งอ่ะ"

"ของแบบนี้มันต้องมีเทคนิคเว้ยยยย”

“ยังไงว่ะ บอกถูกที กูชอบเผือก บอกกูหน่อยนะ” เพื่อนคนนึงบีบไหล่ให้เกียร์ยอมบอกเทคนิคขั้นเทพที่เอาชนะรุ่นพี่มาได้

“คือแบบนี้นะเว้ยย” เกียร์เริ่มสาธยาย เทคนิคโดยใช้หลักจิตวิทยา
++ขั้นแรก กูขอความร่วมมือจากเพื่อนในคณะ ที่มึงหารายชื่อมาให้กูไง จัดการเมมเบอร์ แอดไลน์ขอความช่วยเหลือ

++ขั้นต่อมา กูนั่งจำรายชื่อที่กูล็อคเอาไว้ประมาณ 20 คน

++ ขั้นต่อมา เมื่อตอนเช้า กูขอความร่วมมือเพื่อนๆ ในคณะทุกเอก หลายสิบคน ใส่ทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่มีสีแดง แล้วไปเดินวนๆ เวียนๆ  แถวรุ่นพี่ โดยเฉพาะพวกพี่ว๊ากก  รวมถึงหาป้ายสีแดงๆ และอะไรสีแดงไปวางตามทางเต็มไปหมด

“อะไรว่ะ สีแดงๆ  งงว่ะ ไม่เข้าใจ” เพื่อนๆ เกาหัวแบบไปไม่เป็น

“มึงอย่าเพิ่งขัดดิวะ คืองี้ ก็ใส่ทุกอย่างที่เป็นสีแดงเท่าที่จะใส่ได้ เช่น โบว์ผูกผม นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า แว่น ทาปากสีแดง เคสโทรศัพท์สีแดง อะไรที่สีแดงๆ เอามาใส่ให้หมด”

“แล้วมันจะได้ผลยังไงว่ะ กูละไม่เข้าใจ” เพื่อนๆ ต่างทำหน้างงหนักกว่าเดิมอีก

++ขั้นต่อมา ก่อนที่กูจะเข้าไปลานกิจกรรม ก็นัดแนะกับเพื่อน ให้เหลือคนที่ใส่สีแดงๆ ไว้ 20 คน ตามที่กูท่องมา ส่วนคนที่เหลือ ให้แต่งตัวตามปกติ

“สรุปง่ายๆ ให้กูเข้าใจเลยได้มั้ย หลักจิตวิทยาของมึงคืออะไรว่ะ”

“เออ ง่ายๆ คือ กูทำให้รุ่นพี่ และพี่ว๊ากกก เห็นอะไรต่อมิอะไรที่เป็นสีแดงมาทั้งวัน มันทำให้เกิดภาพจำในสมอง ดังนั้น ตอนเย็นที่ลานกิจกรรม ก็ไม่แปลกที่พวกรุ่นพี่จะชี้ไปคนที่ใส่อะไรสีแดงๆ ไง”

“โหหหหหหหหหหหหหหหหสาดดดดดดดดดดดดดดด ลึกล้ำ....ย้ำดวงจันทร์ มากมึง”

“แล้วมึงแน่ใจได้ไงว่ะ ว่าจะได้ผล” เพื่อนๆ ยังอยากเผือกต่อ

“ไม่รู้ว่ะ เด็กวิดวะ แม่งบอกกูมา”

เพื่อนพร้อมใจพูดพร้อมกัน “แล้วมึงก็เชื่อมัน”

“เออ กูเชื่อมัน ก็มันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่หว่า”

“เออช่างมันเหอะ ไหนๆ ก็รอดมาได้ละ พวกกูกลับบ้านก่อนละกัน ไม่มีอะไรจะเผือกแล้ว”

“เออ โอเค ไว้เจอกัน”

“อ้าว แล้วมึงไม่กลับเหรอว่ะ”

“เออ พอดีนัดเพื่อนไว้ว่ะ”

“เค งั้นพวกกูไปนะ”

“โอเค เจอกัน”

เกียร์นั่งรอขลุ่ยอยู่หน้าคณะ จนเวลาผ่านไปเกือบจะสองทุ่ม เกียร์ยังคงนั่งรออยู่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย สายตาของเขาจ้องมองที่โทรศัพท์ คิดในใจว่าควรจะไลน์ไปถามหรือเปล่า หรือว่าควรจะรอต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คงมาเอง

“มึงยังรอกูอยู่อีกเหรอ” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็นัดกันไว้แล้วนิหว่า”

“นี่มึงคิดจริงๆ เหรอว่าเรานัดกัน”

“เออดิว่ะ ทำอะไรเนี่ยะ ทำไมเลิกดึกจังว่ะ”

“วันนี้ที่ลานเกียร์หนักเลยว่ะ รุ่นพี่แม่งจัดหนักพวกกูมากเลย”

“เออ ดูจากสภาพหน้ามึงละ กูพอเดาออกว่าเจอศึกหนักมา เลอะเทอะนะมึงเนี่ยะ”

เกียร์หยิบเสื้อยืดในกระเป๋าออกมาเช็ดหน้าให้ขลุ่ยอย่างทะนุถนอม

“เฮ้ยยย มึงทำอะไรน่ะ” ขลุ่ยตกใจก้าวถอยหลังหลายก้าวจนเกือบจะตกท่อ

“เห้ยย ระวัง” เกียร์ดึงขลุ่ยกลับมาก่อนที่จะถอยไปตกท่อ ทำให้ขลุ่ยตกอยู่ในอ้อมแขนอุ่นๆ ของเกียร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ (แต่รู้สึกดี)

เกียร์ยิ้มนิ่งเนียนกอดอยู่แบบนั้น

“เออ ขอบใจนะ” ขลุ่ยถอยหลังออกจากอ้อมแขนอุ่นๆ ของเกียร์

“ไม่เป็นไรว่ะ มึงมันเป็นลูกน้องที่ซุ่มซ่ามที่สุดเท่าที่กูเคยมีเลยนะ”

“เออ กลับบ้านได้ยัง”
“ ไปดิ ไปดิ” เกียร์เดินนำหน้ายิ้มแป้นแล้นตามเคย โดยมีขลุ่ยเดินตามหลังที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่แตกต่างกัน

“เห้ยเกียร์ สรุปได้ผลใช่ม่ะ มึงถึงหน้าบานขนาดนี้”

“เออว่ะ ลืมขอบใจเลย มึงแม่งโครตเจ๋ง ใช้ได้ผลจริงๆ ด้วย หลักจิตวิทยาของมึงอ่ะ มึงเอามาจากที่ไหนว่ะ”

“ดูหนัง”

“ห๊ะ อะไรนะ มึงว่าเอามาจากไหนนะ” เกียร์หยุดเดิน แล้วหันมามองหน้าขลุ่ยทำหน้าข้องใจ

“ก็บอกว่าดูหนังมาไง มึงหูหนวกเหรอไง”

“ดูมาจากหนัง แล้วมึงเคยใช้แล้วใช่มั้ย เลยมาแนะนำกูต่อ” เกียร์พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุน

“เปล่าว่ะ มึงใช้คนแรก”

“ไอ้บ้าเอ๊ยยย แล้วมึงรู้ได้ไงว่ะว่าจะได้ผล”
“ไม่รู้ว่ะ ในหนังมันได้ผลนะ” ขลุ่ยยิ้ม แล้วเดินเลยเกียร์ไป

“มึงเล่นกูแบบนี้เลยเหรอว่ะ” เกียร์รีบก้าวยาวมาคว้าแขนขลุ่ยไว้

“เห้ย อะไรของมึงเนี่ยะ กูหิว รีบๆ เดินเหอะ เดินๆ หยุดๆ อยู่นี่แร่ะ ประตูจะปิดแล้ว มึงจะนอนนี่หรือไง”

“ก็มึง”

ขลุ่ยแตะไหล่เกียร์ มองหน้าพูดจริงจัง

“กูขอโทษละกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวโอเคมั๊ย มื้อนี้จะจัดให้ใหญ่เลย โอเคนะ ไปเหอะ”

“เออๆ นี่กูไม่ได้เห็นแก่กินนะ แต่หิวจริงๆ ว่ะ มื้อนี้กูขอบุฟเฟ่ต์เลยนะ”

“เอาดิ อยากกินอะไรบอกมาเลย”

สองหนุ่มเดินคุยกันอย่างสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นเพื่อนกันมานาน บทสนทนาของเขาทั้งคู่ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนทั้งคู่เริ่มเปิดใจเข้าหากันมากขึ้น พูดดีบ้าง กัดกันบ้าง และเขาดูมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 21:36:09 โดย monnam0309 »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อ่านไป ยิ้มไป คนแมนๆ เขาคุยกัน ชอบๆ
แต่...เดาๆ ว่า ขลุ่ยน่าจะโดนจับกดนะ แบบ...เกียร์รุกแรง มีหยอดตลอดๆ อะ  :hao7:

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 11

“อิ่มสุดๆ ไปเลยว่ะ” เกียร์เดินลูบท้อง ยิ้มแป้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าคอนโดของขลุ่ย

“เออ อิ่มก็ดีแล้ว เอ่อ… คืนนี้กลับบ้านเปล่าวะ”

“ถามแบบนี้ แปลว่าอะไร อยากให้กูนอนด้วยใช่ม่ะ ได้ซิจ๊ะที่รัก ไปๆ” เกียร์กอดคอขลุ่ยเดินเข้าไปในคอนโด

“เฮ้ยๆ อย่ามาลามปาม กูก็แค่ถามเฉยๆ” ขลุ่ยดึงแขนเกียร์ออกจากไหล่ของเขา ขณะลิฟท์กำลังขึ้นไปที่ชั้น 7

ลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 7 ขลุ่ยก้าวเท้าออกจากลิฟท์ ในขณะที่เกียร์ยังยืนอยู่ในลิฟท์

“ตกลงอยากให้อยู่หรือไม่อยาก ถ้าไม่อยากกูกลับก็ได้” พร้อมกดลิฟท์ปิด
“เฮ้ยยยย”

ขลุ่ยเอามือมากันลิฟท์ที่กำลังจะปิด

“หัวก็ไม่ล้านขี้น้อยใจนะมึง ไปๆ อย่าเยอะมึงอะ”

ขลุ่ยดึงมือเกียร์ออกจากลิฟท์เดินตรงไปยังห้องของเขา โดยมีเกียร์เดินอมยิ้มไปตลอดทาง

“มึงเป็นไรมากมั๊ยเกียร์”
“อะไรของมึง กูเป็นอะไร”

“ก็มึงเดินยิ้มมากตลอดทาง จนตอนนี้มึงก็ยังนั่งยิ้มอยู่อีก คือจะนั่งยิ้มทั้งคืนใช่มั๊ยครับบบบบ งั้นกูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ ตามสบายเลย ขี้เกียจคุยกับคนบ้า”

“พล่ามจะยาวเลย แบบนี้เหรอที่เรียกว่า “ขี้เกียจ” ”

“กวน Teen กูอีกละ”

“เปล่าสักหน่อย กูอารมณ์ดีผิดหรือว่ะ วันนี้มีแต่เรื่องดีดี ไม่โดนรุ่นพี่ทำโทษ มีคนเลี้ยงข้าวอีก แล้วกูยิ้มมันผิดด้วยเหรอว่ะ”

“เออ ครับ เอาที่สบายใจครับคุณลูกพี่”

“เออ ขลุ่ย วันนี้กูเห็นมึงดูเหนื่อยๆ ฟาดบุฟเฟ่ต์ซะคุ้มเลยมึง ปกติเห็นกินข้าวนิดเดียวเอง”

“เหนื่อยๆ ว่ะ วันนี้ที่คณะโดนจัดหนักอยู่ว่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เกียร์”

“อะไรน่ะ อยากได้กูเหรอ กูว่าล่ะ มึงต้องคิดอะไรกับกูแน่ๆ เลย ชอบแอบมองกูแปลกๆ”

“กูหมายถึงเกียร์วิศวะโว๊ย เกียร์ดนตรีกูไม่เอาหรอก”

“ทำไมล่ะ กูก็คิดว่า.............................”
“อย่ามากวน กูอาบน้ำก่อนนะ”

“อาบด้วยดิ”

“ตลกแล้วมึง” พร้อมยกเท้ามาทางเกียร์

เกียร์หุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ล้อเล่นน้า ก็เผื่อฟลุ๊ค”
“ฟลุ๊คอะไรของมึง”

“เปล่าๆ ไปอาบน้ำเหอะ กูขอเปิดทีวีดูหน่อยนะ”

“เออ เอาดิ ตามสบาย”

“โอเค ขอบใจว่ะ”

เกียร์หยิบรีโมททีวีมาเปิดดู ในขณะที่ขลุ่ยไปอาบน้ำ

ขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ ตาค้างเมื่อเห็นภาพบนทีวี

“เฮ้ยยย มึงดูอะไรของมึงอ่ะ”
เกียร์สะดุ้งตกใจหันมาหาขลุ่ย

“ก็มันไม่มีอะไรดู เปิดไปเปิดมาเจอหนังเรื่องนี้ก็ดูมาเรื่อยๆ นี่แร่ะ”

ภาพที่ขลุ่ยเห็นขณะนี้คือ โต้ง และ มิว ในรักแห่งสยามกำลังบดปากกันอย่างเมามันในสวนหลังบ้าน ซึ่งขลุ่ยเองอึ่งไม่ต่างจากสินจัยที่รับบทเป็นแม่ของโต้งในเรื่องที่บังเอิญผ่านมาเห็นลูกตัวเองกำลังจูบปากดูดดื่มกับมิว

“เอ่อ อ๋อ รักแห่งสยาม ไม่ได้ดูนานแล้วเนอะ มาริโอ้โครตหล่อเลยเนอะ”
“อืมมม มึงเป็นไรเปล่าเนี่ยะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยวะ คิดอะไรอยู่เนี่ยะ”

“เปล่าๆ”

“ใช่เปล่า คิดลึกป่ะเนี่ยะ เห้ยยย หรือมึงคิดจะทำแบบนั้นกับกูเหรอ” เกียร์ยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเอง

“บ้าไปละ ใครจะทำแบบนั้น ที่กูหน้าแดง เพราะเมื่อกี้อาบน้ำร้อนโว๊ย ไร้สาระนะมึง” ขลุ่ยรีบเดินกลับเข้าห้องนอนไปแต่งตัวทันที

“เขินอะดิ” เกียร์ยิ้มบ่นพึมพำเบาๆ

เกียร์เดินเข้ามาด้านหลังของขลุ่ย ที่กำลังแต่งตัวอยู่ เขาเอามือเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ด้านหน้าของขลุ่ย

“เฮ้ย มึงทำอะไรของมึง” ขลุ่ยตกใจนึกว่าเกียร์กำลังเอื้อมมือมาจากกอดเขาจากด้านหลัง

“อะไรมึง ร้องซะดัง เล่นใหญ่มากกกกกกกก”

“ก็มึงจะกอดกู”

“กอดมึง? บ้าละ กูแค่จะเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัว”

“หยิบผ้าเช็ดตัวทำไมมึงไม่หยิบดีดี มาเอื้อมผ่านกูทำไม”

“ก็มึงยืนขวางอยู่นี่หว่า กูขี้เกียจเดินอ้อม ผิดด้วยหรอว่ะ เพ้อเจ้อนะมึงเนี่ยะ กูไปอาบน้ำก่อนนะ”

“ไปเลย รีบไปไกลๆ Teen กูเลย”

“อยากให้กูตัวหอมเร็วๆ ใช่ป่ะ นอนรอกูบนเตียงเลยนะ เดี๋ยวพี่รีบมา”

“กูไม่ขำ”

“ล้อเล่นน่ะ แค่นี้ต้องเสียงดุด้วยเหรอว่ะ ไปก็ได้ว่ะ รอแปปนะที่รัก”

“ยังอีก ถ้ายังไม่หยุดอีก มึงโดนกูเตะแน่”

“เออ ไปละ”

“รีบไปให้ด่วนๆ เลย”

ผ่านไป 15 นาที

เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นชุดนอนวางอยู่บนเก้าอี้

“ขอบใจว่ะ”

ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากขลุ่ย ทำให้เกียร์หันมองหาขลุ่ย เขาพบว่าขลุ่ยนอนหลับไปซะแล้ว
“อ้าวหลับแล้วเหรอ อะไรว่ะหลับง่ายชะมัด”

เกียร์ค่อยๆ ขยับตัวเบาๆ นอนลงบนเตียงข้างๆ กับขลุ่ย และนอนมองหน้าขลุ่ยอย่างไม่ละสายตา พร้อมกับค่อยๆ ขยับตัวเข้ามานอนติดกับขลุ่ย
หน้าของเขาทั้งสองคนหันเข้าหากัน ในขณะนี้จมูกของเกียร์ใกล้กับจมูกของขลุ่ยมากๆ จนเกือบจะชนกันอยู่แล้ว สายตาของเกียร์ที่มองขลุ่ยบ่งบอกถึงอะไรหลายสิ่ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น และอีกนัยแววตาคู่นั้นเหมือนกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่

“ทำไมกูถึงรู้สึกแบบนี้นะ ทำไมว่ะ” ความคิดของเกียร์พลุ่งพล่าน
สิ่งที่เขากำลังคิดตอนนี้คือ ทำไมใบหน้าของขลุ่ยถึงมีแรงดึงดูดต่อเขามากขนาดนี้ ทำไมถึงอยากมองอยู่แบบนี้ไม่อยากละสายตาหนีไปไหน
และทำไมถึงอยาก…………………………………………………
อยาก
อยากจูบ มากๆ ก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ที่เขาไม่เคยคิดอะไรแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน
เกียร์พยายามหักห้ามความคิด และความรู้สึกของตัวเอง ที่มันกำลังจะล้นทะลักออกมา
เขาใช้วิธีหลับตาเพื่อที่จะได้ไม่เห็นใบหน้าที่เหมือนมีแรงดึงดูดนั้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะถึงแม้เขาจะหลับตาแต่ใบหน้าของขลุ่ยก็จะลอยอยู่ในหัวของเขาอยู่ดี
“นี่เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อยู่ๆ ก็อยากจูบผู้ชาย” ความคิดในหัวของเขากำลังยกพวกตีกันอย่างรุนแรง

เกียร์มองหน้าขลุ่ยนิ่งคิดเหมือนกำลังตัดสินใจ ใบหน้าของเกียร์ดูเคร่งเครียด
เกียร์เม้มกัดปากตัวเองเหมือนกับว่าความรู้สึกจะเอาชนะทุกอย่างซะแล้ว

เกียร์ค่อยๆ เอียงหน้าเข้าใกล้หน้าของขลุ่ยเข้าไปอีก ปากของเกียร์กำลังจะชนกับปากของขลุ่ยด้วยระยะทางไม่เกินเซน
แต่
สุดท้ายเกียร์เลื่อนปากของเขาไปจุ๊บบนหน้าผากของขลุ่ยอย่างแผ่วเบาแทน แล้วค่อยๆ ถอยตัวออกมาเบาๆ แล้วนอนหงายข้างๆ กับขลุ่ยแทน

“มึงจะโกรธกูมั๊ย ถ้ารู้ว่ากูแอบทำแบบนี้กับมึง” เกียร์ยังคงคิดหนักกับการกระทำของตัวเอง

เช้าวันต่อมา

ขลุ่ยตื่นก่อนอีกตามเคย เขาหันมองเกียร์ที่ยังนอนหลับสนิทแล้วอมยิ้ม เหมือนว่าเช้านี้เป็นวันที่สดใสและแสนดีซะเหลือเกิน เขาจ้องมองเกียร์ด้วยสายตาที่อ่อนโยน และค่อยๆ ลุกจากเตียงเบาๆ เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“อะไรว่ะ เคาะทำไม คนอาบน้ำอยู่”
“กูปวดฉี่ ขอเข้าไปหน่อย”
“เฮ้ยย จะบ้าเหรอ รอแปป กูสระผมอยู่”

“ไม่ไหวแล้ว เร็วๆ หน่อย ไม่งั้นกูฉี่ราดห้องมึงนะ”

“เฮ้ยยยยยยยยยยยย อย่า แปปๆ” ขลุ่ยรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่ง ทั้งที่ฟองแชมพูยังเต็มหัว แล้วรีบเปิดประตู
“อะไรของมึงว่ะเนี่ยะ”

“โอ๊ยยย ไม่ต้องพูดมาก หลบ กูปวดฉี่” เกียร์วิ่งมาในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เร็วจนขลุ่ยยังไม่ทันจะออกจากห้องน้ำด้วยซ้ำ

“เด่วๆ วันซวยอะไรเนี่ยะ ต้องมาดูมึงฉี่เนี่ยะ”
ขลุ่ยกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ แต่พอนึกถึงสภาพตัวเองที่ตัวเต็มไปด้วยฟองแชมพูสระผม เขาคิดว่าสภาพเช่นนี้คงต้องทำให้ห้องเลอะเทอะแน่ๆ เขาจึงยืนหันหลังให้เกียร์แทน

“เสร็จแล้ววะ”

“เออดี รีบออกไปเลยกูจะอาบน้ำต่อ” ขลุ่ยหันหน้ามาทางเกียร์ แล้วต้องตกตะลึงกับภาพที่เขาเห็น

“ยืนอึ้งอะไรของมึง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กูอาบน้ำพร้อมกันไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา สายละ”

“เฮ้ยย ใครจะอาบน้ำพร้อมกับมึง โอ๊ยยย ซวยแน่ๆ กูวันนี้”

“ซวยอะไรกัน โชคดีมากว่าไม่ว่า ได้เห็นพญามังกรแต่เช้า
มาๆ อย่าเยอะ มาอาบน้ำกัน เพื่อนผู้ชาย เขาก็อาบน้ำด้วยกันเป็นปกติเปล่าว่ะ คิดอะไรมาก นี่มึงไม่เคยเรียน รด หรือไง”

“เคย แต่ไม่เคยมีใครโรคจิตเหมือนมึง อยู่ๆ ก็เสือกแก้ผ้า”

“พูดมากนะมึง รีบๆ แก้เลย มึงพูดมากแบบนี้ มึงอายหนอนน้อยของมึงใช่มั้ย มาดูดิ”

เกียร์เดินเข้ามาดึงผ้าเช็ดตัวของขลุ่ยหลุดออก

“ไอ้สัx เอามา เอาผ้ากูคืนมา”

“จะเอาไปทำไม คนจะอาบน้ำ” เกียร์หันขวักบัว ฉีดน้ำมาที่ขลุ่ย

“ไม่เล่นๆ เปียกหมดแล้ว”

“ไม่ได้เล่น มานี่! เดี๋ยวล้างผมให้” เกียร์ดึงตัวขลุ่ยเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอาน้ำค่อยๆ ล้างผมให้ขลุ่ย การกระทำนี้ของเกียร์ทำให้ขลุ่ยถึงกับเงียบกริบพูดไม่ออก ยืนตัวแข็งทื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนด้วยเช่นกัน

“โอเค ผมมึงเกลี้ยงละ ถูสบู่ที่หลังให้กูหน่อยดิ กูเอื้อมไม่ถึง”

“มึงก็ถูเองดิว่ะ อาบน้ำเองไม่เป็นหรือไง โตเป็นควายล่ะ”

“ปากมึงนี่มัน!!! ถูให้หน่อยดิ ทีกูยังล้างหัวให้มึงเลย”

“กูไม่ต้องขอร้องมึงสักหน่อย เสือกอยากทำเอง”

“เออๆ กูมันเสือกเอง แม่งใจดำว่ะ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ เพื่อนห่าอะไรว่ะ” เกียร์งอนหันหน้าหนี

“เออๆ เดี๋ยวกูถูให้ ไอ้เพื่อนเวร”

ขลุ่ยกดสบู่ใส่มือ แล้วถูหลังให้เกียร์อย่างแผ่วเบา

ตึ๊กตึ๊ก ตึกตึก ตึ๊กตึ๊ก ตึกตึก

เกียร์หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งตอนนี้ขลุ่ยเองก็หัวใจเต้นแรงจนจะทะลุออกมาข้างนอกไม่ต่างกัน

“เออ พอละ ขอบใจว่ะ”

“อืมมมม”

เกียร์หันไปล้างตัว เหมือนอยากจะผ่านจุดๆ นี้ไปให้ได้ เขารู้สึกว่าเขากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ความรู้สึกของเขาที่มีต่อขลุ่ยมันกำลังจะทะลักออกมากองตรงนี้แล้ว

“โอ๊ยยย ไม่ไหวแล้วโว๊ย”
เกียร์วางขวักบัวแล้วหันหน้ามาจับแขนขลุ่ยแทน

“มึงเป็นอะไรว่ะ อะไรเนี่ยะ มึงจะทำอะไร”

“ขลุ่ยกูขอโทษ”

“มึงเป็นอะไรเกียร์”

“กูอึดอัดว่ะ กูไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดอะไรแบบนี้”

“อะไรมึงเป็นอะไรของมึง”

“เมื่อกี้”
“เมื่อกี้ ทำไม”

“เมื่อกี้ตอนมึงถูสบู่ให้กู กูรู้สึกแปลกๆ ใจแม่งเต้นโครตแรง เหมือนจะระเบิด”

“มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“มึงเป็นเหมือนกูบ้างมั๊ย” เกียร์ตัดสินใจถามออกมา

“กู คือ กู …………………………กูไม่รู้วะ ไม่มีอะไรหรอก มึงคิดมากไปเอง คงเขินกูละซิ ทำเป็นเก๋า ใช่ม่ะ?”

“ไม่อะ กูไม่ได้เขิน กูไม่เคยทำแบบนี้กับใคร”

“อ้าวไหนว่าอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายบ่อยไง”

“กูไม่ได้บอกว่าบ่อยสักหน่อย แค่ถามมึงว่าไม่เคยอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายหรือไง”

“อ้าววว มึง”

“ขลุ่ย”

“อะไร”

“ถ้ากูรู้สึกกับมึง”

“หยุดเลย อย่าพูดอะไรต่อ เราเป็นผู้ชายนะเว้ย กูกับมึงเพื่อนกัน มึงคงสับสน”

“แต่กู”

“เอาไว้มึงแน่ใจจริงๆ ก่อน ค่อยมาคุยกันใหม่ กูว่าตอนนี้รีบๆ อาบน้ำให้เสร็จเหอะ กลัวฟ้าฝ่าว่ะ แม่งผู้ชายสองคนมายืนแก้ผ้าคุยกันในห้องน้ำ แม่งไม่ไหวว่ะ”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน”

สองหนุ่มรีบอาบน้ำต่อจนเสร็จ

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังแต่งตัว

“เออ ขลุ่ย กูว่าจะถามมึงหลายทีละ แต่ไม่มีโอกาสสักที”

“ถามอะไรว่ะ”

“กูเจอมึงแทบทุกวัน ไม่เห็นแฟนมึงมาหาบ้างเลย ตกลงแฟนไม่มา หรือแฟนไม่มีว่ะ”

“มึงจะรู้ไปทำไมว่ะ”

“อ้าววว ก็มึงเป็นเพื่อนสนิทกู กูก็ควรรู้เปล่าว่ะ”

“ตกลงกูกับมึงสนิทกันเลย”
“สนิทไม่สนิท มึงก็เห็นมังกรกูแล้ว ส่วนกูก็เห็นหนอนน้อยของมึงแล้ว ถือว่าสนิทมาก”

“มึงนี่ไร้สาระเนอะ แล้วทีมึงยังไม่เคยเล่าเรื่องแฟนให้กูฟังบ้างเลย”

“ก็มึงไม่ถามนี่หว่า ถ้ามึงอยากรู้เดี๋ยวกูเหลาให้ฟัง”

“มึงก็ไม่เคยถามกูเหมือนกันเปล่าวะ ถ้าอยากเหลา มึงก็เหลามากเลย อย่าลีลา”

“อยากรู้อะดิ”

“เออ กูไม่อยากรู้ละ”

“แม่งขี้ใจน้อยหนักกว่ากูอีก !!! กูอ่ะตอนนี้โสดสนิท สนิทมากกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด เลิกกันมาเป็นปีล่ะ ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย”

“ทำไมถึงเลิกกันว่ะ”

“อืมมม ผิดที่กูเองแร่ะ ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็เลยไปหาคนอื่นที่มีเวลาให้มากกว่ากู”

“สรุปโดนทิ้งเหรอ 5555555”

“มึงขำอะไร่เนี่ยะ มึงไม่เคยโดนทิ้งหรอไงว่ะ”
“ไม่เคยว่ะ”

“โห!!!!!!!!!!!!! สัx ขั้นเทพว่ะ”
ขลุ่ยหันมายิ้มเหวอๆ

“คือแบบว่า กูไม่เคยมีแฟนน่ะ เลยไม่เคยโดนทิ้ง”

“อะไรนะ มึงไม่เคยมีแฟน อย่าบอกนะว่ามึงยังจิ้นอยู่”

“จิ้นอะไรของมึง ไม่ได้จิ้นโว๊ยยยย”

“โตเป็นควายละ ยังไม่เคยได้แอ้มสาว นี่มึงเป็นหรือป่าวเนี่ยะ”

“เป็นอะไร มึงพูดมาดีดีนะเว้ย บอกว่าไม่ได้จิ้นไง”

“สมัยนี้ยังเหลือผู้ชายเวอร์จิ้นแบบมึงอีกเหรอว่ะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยเนี่ยะ”

“หยุดพูดเลยมึง ใครจะเก่งเหมือนมึง พ่อนักรบร้อยสนาม”

“พูดแบบนี้กูเสียหายดิว่ะ ไม่ได้ขนาดนั้นเว้ย กูไม่ได้มั่วนะมึง คบใครก็คบจริงจังเป็นคนๆ เว้ย”

“เออ กูจะเชื่อมึงดีมั๊ยเนี่ยะ”
“เชื่อได้ล้านเปอร์เซ็นต์ กูรักใครรักจริงนะ”

“กูไม่ใช่สาวๆ ของมึง ไม่ต้องมาบอกกูหรอก”

“กูคิดว่ามึงควรจะรู้น่ะ” เกียร์ยิ้มมุมปาก

“แต่งเสร็จยังมึง มัวแต่พูดมาก สายแล้วเนี่ยะ”

“โอเคเสร็จแล้ว ไปกันเหอะ”




ฝากติดตาม และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 10:59:38 โดย monnam0309 »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
สนุกคะ ชอบๆ มาต่อบ่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คะ  :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 12

เย็นวันศุกร์
“คืนนี้มึงต้องไปร้องเพลงหรือเปล่าว่ะ”

“ถามทำไม อยากไปด้วยเหรอไง”

“ก็แค่ถามดูว่ะ”

“คืนนี้ไม่ได้ไปว่ะ ตอนนี้ที่ร้านปิดปรับปรุง ตกแต่งร้านใหม่น่ะ คงได้พักยาวๆ เลย แต่ว่าเย็นนี้ไปธุระด้วยกันหน่อยนะ”

“ไปไหนว่ะ???”

“เหอะนะ อย่าถามมาก” เกียร์เดินกอดคอขลุ่ยออกจากมหาลัย

“จะไปไหนไม่ขึ้นห้องหรือไง” ขลุ่ยเอ่ยถามเมื่อเกียร์ทำท่าจะเดินเลยคอนโดของเขาไป

“ไปทำธุระเป็นเพื่อนกูก่อน เร็วดิ”

“เออๆ ไปไหนว่ะ”

“ไปบ้านกูไง”
“บ้านมึง??? ไปทำไมว่ะ”

“มึงหยุดสงสัยบ้างก็ดีนะ”

เกียร์เดินนำหน้าเข้าซอยไปยังบ้านของเขา

ณ บ้านของเกียร์

“หวัดดีครับป้า คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่หรือครับ”
“ค่ะ ท่านไปงานเลี้ยงคงกลับดึกค่ะ คุณหนูไม่กลับบ้านหลายวันเลยนะค่ะ  เอ๊ะ นั่นพาใครมาด้วยค่ะเนี่ยะ”

“เพื่อนสนิทครับป้า” เกียร์เดินเข้ามากอดคอแน่น บ่งบอกให้รู้ว่าสนิทกันมาก

“สวัสดีครับป้า” ขลุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

“สวัสดีค่ะ ตามสบายเลยนะค่ะ หน้าตาน่ารักเชียวพ่อหนุ่ม ชื่ออะไรจ๊ะ”

“ขอบคุณครับป้า ผมชื่อขลุ่ยครับ”

“ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ ป้าไม่กวนแล้ว”

“ไปๆ ไปดิ”

“ไปไหนว่ะ”

“กูชักรำคาญมึงแล้วนะ พูดมากจริงๆ” เกียร์เดินขึ้นบันไดไปด้านบน

“รอด้วยดิว่ะ พากูมาบ้านมึงทำไมเนี่ยะ”

“มาช่วยกูเก็บของไง” เกียร์เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา

“เก็บของเหรอ เก็บไปไหนว่ะ”

“นี่ชาติก่อนมึงเกิดเป็นเจ้าหนูจำไม หรือไงว่ะ ขี้สงสัยจริง”

“ก็เก็บของไปอยู่กับมึงไง มึงจะให้กูใส่เสื้อผ้าของมึงตลอดไปเลยเหรอไง”

“ไปอยู่กับกูเนี่ยะนะ” ขลุ่ยทำหน้างงๆ

“เออ อยู่ไม่ได้เหรอว่ะ เด่วกูให้ค่าเช่าก็ได้”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน นี่ห้องนอนมึงเหรอ ทำไมเรียบร้อยจังว่ะ โครตเป็นระเบียบเลย” ขลุ่ยเริ่มเดินสำรวจในห้อง

“มึงคิดว่าห้องเรียบร้อยขนาดนี้ เป็นฝีมือกูเหรอไง”

“เออว่ะ คนอย่างมึงไม่น่าใช่คนละเอียดอ่อน คงเป็นฝีมือแม่บ้านซินะ”

“เออ แต่ที่ว่าอย่างกูไม่ใช่คนละเอียดอ่อน นี่หมายความว่ายังไงว่ะ”

“ปล่อยผ่านละกัน ช่างมันเหอะ”

“ทำไมห้องมึงมีขลุ่ยเยอะจังว่ะ”

“ทำไมกูจะมีไม่ได้ว่ะ กูเรียนดนตรีน่ะเว้ย”

“เออจริงว่ะ เปล่าๆ  ไม่มีอะไรหรอก เห็นมันสวยดีน่ะ เรียนดนตรีต้องมีขลุ่ยเยอะขนาดนี้เลยเหรอว่ะ”

“เปล่าหรอก ของสะสมกูน่ะ กูชอบขลุ่ย”

“เออดี แอบชอบกูมานานยัง?”

“นานล่ะ!!!!!!! เห้ยยยย กูหมายถึงขลุ่ยที่เป็นเครื่องดนตรีนะ สะสมมานานล่ะ มึงเล่นมุกกับเขาเป็นด้วยเหรอว่ะ”

“ก็หัดๆ เล่นดู เผื่อจะเวิร์ค”
“เออๆ แล้วแต่มึงล่ะกัน กูเก็บของเสร็จล่ะ ไปกันได้ล่ะ”
“เอาขลุ่ยไปด้วยดิว่ะ กูอยากเห็นมึงเป่าว่ะ”

“อยากให้กูเป่าขลุ่ยให้…………………………..ฟัง หรอว่ะ เออๆ ก็ได้ ว่างๆ เดี๋ยวเป่าให้ฟังนะ” เกียร์หยิบขลุ่ยแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

“เฮ้ยยย รอด้วยดิว่ะ” ขลุ่ยรีบเดินตามออกไป

คอนโดของขลุ่ย

“นี่มึงขนของมาเยอะขนาดนี้ กะจะมาอยู่ถาวรเลยหรือไงว่ะ”

“เออ กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไล่กูออกไป โอเคมั๊ย”

“กูไล่เลยได้เปล่าว่ะ???”

“จริงดิ กูไม่ไปว่ะ กูหน้าด้าน” เกียร์กระโดดขึ้นนอนบนเตียงของขลุ่ยหน้าตาเฉย
“เอาที่มึงสบายใจเลยล่ะกัน เออ แล้วจะกินข้าวหรือเปล่าว่ะ จะสองทุ่มแล้วเนี่ยะ ว่าไง จะกินหรือเปล่า” ขลุ่ยหันมาเพื่อหาคำตอบ เขาพบว่าเกียร์เผลอหลับไปซะแล้ว

“อ้าววว อะไรว่ะ หลับจริงเหรอเนี่ยะ เฮ้ยยยเกียร์ เกียร์”

ขลุ่ยเดินออกจากห้องนอนมุ่งหน้าไปที่ตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรที่พอจะกินได้บ้าง
ขลุ่ยมองดูตู้เย็นของเขา ที่อัดแน่นไปด้วยของกิน อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“โห!! ทำไมของกินเยอะขนาดนี้ว่ะเนี่ยะ ต้องเป็นฝีมือไอ้ลูกพี่เกียร์แน่นอน มันแอบซื้อมาตอนไหนว่ะ
เออแต่ก็ดีเหมือนกัน กำลังหิวเลย กินอะไรดีว่ะ”

ขลุ่ยค้นหาของกินในตู้เย็น เห็นอาหารแช่แข็งหลายอย่าง จึงเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ

“เกียร์ เกียร์ ไอ้เกียร์” ขลุ่ยตะโกนเรียกเสียงดัง

“เห้ย อะไรว่ะ เสียงดังโวยวายอะไรเนี่ยะ คนกำลังนอนสบายๆ”

“กินข้าวกัน อุ่นไว้ให้แล้ว วางไว้ที่โต๊ะนะ”

“เออๆ ขอบใจว่ะ น่ารักจริงๆ เลย” เกียร์ลุกขึ้นจากเตียง เอามือสองข้างหยิกแก้มขลุ่ยเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“เฮ้ยย ทำอะไรของมึงเนี่ยะ” ขลุ่ยปัดมือเกียร์ออก

“กูมึงทำตัวน่ารักนี่หว่า”

เกียร์เดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร แล้วนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่รอกูเลยนะ”

“เดินช้าเด่วกูกินหมดไม่รู้นะเว้ย”

“เอ้ยยยยยยยยยเด่ว รอก่อน ของใครของมันดิว่ะ”

สองหนุ่มแย่งกันกินอย่างสนุกสนาน

“อิ่มมากเลยว่ะ ขอบใจนะที่ทำตัวเป็นเมียที่ดี”

“ไอ้สัx ใครเมียมึง?”

“กูล้อเล่นน่ะ จะบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีน่ะ พูดเล่นนิดเดียวต้องดุด้วยหรือว่ะ”

“ก็มึงมันปากหมานี่หว่า”

“เออ กูขอโทษ มึงนี่ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงเลยนะ”

“เริ่มปากเสียอีกแล้วนะมึง”

“ก็พูดเล่นหน่า ใจน้อยจังมึง เออพรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกันนะ”

“พรุ่งนี้เหรอว่ะ จะไปที่ไหนว่ะ”

“เออนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ กูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ เริ่มง่วงละ”

“อะไรของมึง ความลับเยอะจริงเลยมึง”

“เออน่า รีบๆ อาบน้ำนอน พรุ่งนี้ไปแต่เช้า”

“เออ ถ้ารีบขนาดนั้นให้กูเข้าไปอาบน้ำพร้อมมึงเลยมั๊ย” ขลุ่ยตะโกนตามหลัง

เกียร์โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ

“เข้ามาซิจ๊ะที่ร๊ากกกกกกกกกกกกก”

ขลุ่ยยกเท้าใส่เกียร์

“แค่นี้ต้องโหดใส่กูด้วย ก็ถามเผื่อฟรุ๊คว่ะ”

“ฟรุ๊คห่าไรของมึง”

“เปล่าๆ” เกียร์รีบปิดประตูห้องน้ำ


เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที
“อาบน้ำโครตนานเลยมึง กูเกือบหลับแล้วเนี่ยะ”

“โทษทีว่ะ เพลินไปหน่อย มึงรีบอาบดิ จะได้มาเก็บเสื้อผ้า”

“ตกลงจะไปจริงหรอว่ะ?”

“ก็เออดิว่ะ พูดมากตลอดมึง ไป ไป รีบอาบน้ำ”

เกียร์เดินมาผลักขลุ่ยให้เข้าไปอาบน้ำ

“ไม่ต้องดัน เดินเองได้ รู้แล้ว รู้แล้ว”

“รู้แล้วก็รีบไปดิ ถ้าช้ากูจะเข้าไปอาบให้แล้วนะ”

“โอเค ไปแล้ว”

อาบน้ำเสร็จ ขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เฮ้ยย มึงทำอะไรว่ะ”

“เก็บเสื้อผ้าให้มึงไง รอมึงเก็บไม่ต้องไปพอดี กูเก็บเรียบร้อยแล้วนะ รีบๆ นอนพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”

“เก็บหมดแล้วเหรอ หมายความว่าไง”
“กูเก็บเสื้อผ้ามึง ของใช้จำเป็นทุกอย่างใส่กระเป๋าใบนี้เรียบร้อยแล้วไง” เกียร์พูดพร้อมตบเบาๆ ที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างเตียง

“แล้วพวกของใช้ส่วนตัวละ” ขลุ่ยทำหน้าเขินๆ

“หมายถึงอะไรว่ะ อ๋อๆ หมายถึงกางเกงในเหรอ ไม่ต้องห่วง กูเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว พอใส่แน่นอน ไม่ต้องกลับหน้าเอ หน้าบี ชัวร์”

“เฮ้ยย นี่มึงยุ่งกับของกูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยรีบหยิบกระเป๋าเป้มาเปิดดู เขาพบว่าภายในกระเป๋าถูกจัดอย่างเรียบร้อย มีของใช้และเสื้อผ้าครบถ้วน

“ทำไมว่ะ ก็ว่างๆ อยู่ก็ช่วยจัดให้ นี่มึงเขินอะไรกูเนี่ยะ หน้าแดงเชียว”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

“หรือว่ามึงเขินกางเกงในสายหวานของมึงเหรอ กูไม่บอกใครหรอก”

ขลุ่ยหน้าและหูแดงเอามากๆ

“สายหวานห่าไรของมึง ตลกละ”

“กูเห็นนะในตู้เสื้อผ้ามีแต่สีหวานๆ สีชมพู สีแดง สีฟ้า ออกแนวพาสเทล เลยนะ กูเลยจัดให้มึงครบทุกสี คิดว่ามึงคงชอบ”

“ชอบห่าไรละ กูไม่ได้ชอบเว้ย พอดี มีคนซื้อมาให้เว้ย ไม่ค่อยได้ใส่หรอก”

“ใครว่ะ????? ซื้อกางเกงในให้มึง แฟนคลับเหรอ โรคจิตเปล่าว่ะ?

“โรคจิตกะผีอะไร แม่กูเอง ซื้อส่งมาให้จากเมืองนอก ชอบคิดว่ากูเป็นเด็กๆ”

เกียร์กลั้นขำไว้ไม่อยู่ ขำออกมาชุดใหญ่ จนขลุ่ยออกอาการหมั่นไส้

“เล่นใหญ่ไปล่ะ จะขำอะไรขนาดนั้น อย่าให้กูรู้ความลับของมึงบ้างนะ กูจะล้อสามวันสามคืนไม่เลิกเลย”

“แล้วแต่ละกัน แต่ที่แน่ๆ กูไม่มีกางเกงในสายมุ้งมิ้งเหมือนมึงแน่นอน”

“กวนตีนกูล่ะ!!”

“นอนกันเหอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้า”

“ตกลงจะไปไหนเนี่ยะ บอกกูได้ยัง”

“มึงนี่ขี้สงสัยจนน่ารำคาญเนอะ พรุ่งนี้ก็รู้เองแร่ะ แล้วนั่นมึงทำอะไร จะเอากางเกงในสายหวานไปไหนว่ะ ใส่นี่แร่ะน่ารักดีกูชอบ” เกียร์คว้ากางเกงในสายหวานจากมือของขลุ่ยยัดใส่กระเป๋าตามเดิม

“เออๆ กูว่ามึงนี่แร่ะโรคจิต”

“กูก็เริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่ะ ว่าอาการโรคจิตของกูอยู่ขั้นไหนแล้ว เพราะตอนนี้กูกำลังจินตนาการตอนมึงใส่กางเกงในสายหวานอยู่ว่ะ”

“ไอ้สัxx มึงยังไม่เลิกพูดอีกใช่มั้ย” ขลุ่ยวิ่งมาเตะตูดเกียร์

สองหนุ่มกลายเป็นวิ่งไล่จับ วิ่งวนกันในห้องนอน

“พอ พอ กูเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจอาบน้ำใหม่”

“งั้นมึงก็หยุดล้อกูได้ล่ะ ไม่งั้นกูไม่ปลง ไม่ไปแม่งล่ะ”

“โอเค โอเค ไม่ล้อแล้ว พักรบนะ นอนนะ”

“เออ กูจะเริ่มร้อนแล้ว เพราะมึงคนเดียว”

“เออ กูขอโทษนะ นอนกันเถอะ ตื่นมาพรุ่งนี้จะได้มีแรงซึมซับรรยากาศริมทะเลเต็มที่

“เออ เอาที่มึงสบายใจว่ะ กูปิดไฟนะ”

“ตามนั้น” เกียร์กระโดดลงนอนบนเตียง

สองหนุ่มนอนหงายอยู่คนละฝั่งของเตียง ดวงตายังคงเบิกโพลง ไม่ยอมหลับ มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน

“ขลุ่ย หลับยัง”

“ยัง ทำไมมึงยังไม่นอน ขยับตัวอยู่นั่นแร่ะ แล้วกูจะหลับได้ยังไง”

เกียร์เบี่ยงตัวหันมานอนตะแคงหันหน้ามาทางขลุ่ย

“มึง มึง”

“อะไรของมึงว่ะเกียร์” ขลุ่ยตะแคงข้างหันหน้ามาทางเกียร์

ทั้งสองมองหน้ากัน สายตาจับจ้องที่กันและกัน

“นี่มึงมานอนมองหน้ากูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นก่อน

“ไม่รู้ว่ะ นอนไม่หลับ” เกียร์ค่อยๆ เขยิบตัวเข้ามาใกล้กับขลุ่ย

“ขยับเข้ามาทำไมเนี่ยะ”

“ปกติกูนอนที่ห้องต้องกอดหมอนข้างว่ะ มึงไม่เห็นเหรอบนห้องนอนกูมีหมอนบนเตียงเยอะมากกกกก”

“เออ ก็จริงว่ะ” ขลุ่ยนึกย้อนตามที่เกียร์พูด “แล้วไงว่ะ”

“เป็นหมอนข้างให้กูหน่อยดิ”

“ไม่เอา จะบ้าเหรอไง”

“นะ นะ หน่อยนะ” เกียร์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าออดอ้อน

“มึงอย่ามาทำเสียงแบบนี้ กูขนลุกว่ะ”

“ถ้ามึงไม่ยอม กูจะพูดแบบนี้ทั้งคืนเลย นะนะ มาเป็นหมอนข้างให้กูหน่อยนะ”

“หยุดเลยๆ พอๆ ไม่ไหวว่ะ ขนลุกไปหมดแล้ว หยุดเหอะ”

“ตกลงจะเป็นหรือเปล่าล่ะ”

“แล้วทำไมคืนอื่น มึงก็นอนได้”

“ก็คืนอื่นกูเหนื่อย เพลีย เลยเผลอหลับไป แต่คืนนี้นอนไม่หลับว่ะ แล้วมึงลืมไปแล้วเหรอ ตื่นมาทีไรกูก็นอนกอดมึงทุกที”

“เอ่อออออออออออออออออออออออออออออออออออออ” ขลุ่ยนิ่งอึ้งไป

“มึงนี่เล่นตัวชะมัดเลยว่ะ”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน” ขลุ่ยพูดจบ นอนหันหลังให้เกียร์ ด้วยสีหน้าเขินอาย

“จริงดิ” เกียร์พูดพร้อมกับขยับเข้ามาประชิดตัวขลุ่ยจากด้านหลัง เขายื่นแขนมาโอบกอดขลุ่ย พร้อมขาที่ก่ายตัวขลุ่ยเอาไว้ด้วย

“เยอะไปแล้วป่ะเนี่ยะ” ขลุ่ยบิด สะบัดตัวเล็กน้อย

“อย่าดิ้นดิว่ะ คนกำลังจะหลับ” เกียร์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก

ขลุ่ยนอนอมยิ้ม ไม่มีทีท่าจะสะบัดมือของเกียร์ออกอีก ส่วนเกียร์เองก็ดูเหมือนจะนอนหลับฝันดีไปซะแล้ว


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ย้ายมาอยู่ด้วยกันแว้วววว มีนอนกอดกันอีก อร๊ายยยย

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนที่ 13

“ตื่นแต่เช้าเลยนะมึง...... ไหนบอกไม่อยากไปไง” สีหน้าของเกียร์ดูมีความสุข เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาเห็นขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ ในขณะที่ขลุ่ยรีบหุบยิ้มทันที ทำคิ้วขมวดใส่

“เปล่าสักหน่อย กูไม่ได้อยากไปสักหน่อย พอดีกูปวดขี้ เลยลุกมาเข้าห้องน้ำ แล้วเห็นว่ามันเช้าแล้วก็เลยอาบน้ำเลย ทำไมว่ะ ไม่ได้เหรอ”

เกียร์หัวเราะลั่น
“กูก็ไม่ได้ว่าอะไรมึงสักหน่อย ร้อนตัวเลยนะ” เกียร์กระโดดลงจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำพร้อมตะโกนออกมาจากห้องน้ำ “รอแปปนะ เด่วอาบน้ำ 5 นาที”

“เรื่องของมึงเหอะ เอาที่สบายใจ ไม่ต้องรีบก็ได้นะ ไม่ต้องไปเลยก็ดี”  คำพูดของขลุ่ยช่างต่างจากอาการของเขาตอนนี้โดยสิ้นเชิง เพราะเขากำลังเลือกชุดหล่ออยู่ เอาชุดนั้น ชุดนี้มาทาบตัว โดยไม่รู้ว่าจะใส่ตัวไหนดี นี่เหรอคือความรู้สึกของคนที่ไม่อยากไป

“มาแล้วครับ ไวทันใจมั๊ยจ๊ะที่รัก” เกียร์เดินเข้ามาประชิดจากทางด้านหลัง พร้อมเอ่ยต่ออีกว่า “โห ชุดจัดเต็มขนาดนี้ ไม่อยากไปเลยเนอะ”

“ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมาก กูไม่ปงไม่ไปแม่งล่ะ!!”

“เห้ยยย ใจเย็น ไม่พูดล่ะ” เกียร์ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุดอย่างไวภายในไม่กี่นาที “ไปกันเหอะ พร้อมแล้ว” เกียร์พูดพร้อมยกกระเป๋าเป้ของตัวเองและขลุ่ยขึ้นมามุ่งตรงไปยังหน้าประตู

“อะไรของมึงเนี่ยะ นึกจะไปก็ไป เห้ยกระเป๋ากู เดี๋ยวกูยกเองได้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนี้กูบริการมึงเอง”

ขลุ่ยเดินมาหลังเกียร์ไปที่ลิฟต์อย่างว่าง่าย


สองหนุ่มขึ้นรถขับออกไป โดยมีเกียร์เป็นสารถีขับรถ

“มึงชอบเที่ยวทะเล แบบไหนว่ะ”

“แบบไหนก็ได้ว่ะ ได้หมดแร่ะ อ่าวววว นี่มึงยังไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือเนี่ยะ” ขลุ่ยทำหน้าสงสัย

“มีแล้วว่ะ ก็ลองๆ ถามดู แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าไปเที่ยวกะกูเนี่ยะ ต้องลุยๆ ง่ายๆ ไม่เน้นหรูนะมึง โอเคป่ะ”

“เออ ว่าไงว่ากัน ตามนั้นแร่ะ”

“โอเค ดีมาก ทำตัวน่ารักแบบนี้ทุกวันดิว่ะ” เกียร์ยิ้มแป้น ขับรถมุ่งหน้าสู่ทะเลตามที่เขาได้วางแผนเอาไว้

เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง รถแล่นมาถึงท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ เกียร์หันมาขลุ่ย
“ถึงแล้วนะ อ่าววว หลับไปตั้งแต่ตอนไหนว่ะเนี่ยะ” เกียร์นั่งมองหน้าขลุ่ยอย่างพินิจพิเคราะห์ มองไล่ตั้งแต่ผม คิ้ว ตา จมูก มาหยุดที่ปาก เขาเพ่งมองอยู่นาน เหมือนริมฝีปากนั้นมีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้เลย เกียร์ค่อยๆ ขยับตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับริมฝีปากนั้น จนเกือบจะชนกันอยู่แล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่ขลุ่ยลืมตาขึ้นมา มีอาการตกใจที่เห็นหน้าของเกียร์ของใกล้กับหน้าของเขาขนาดนั้น
“มึงจะทำอะไรน่ะ”

“เปล่าๆ พอดีกูจะปลุกมึงว่าถึงแล้วนะ ไป เดี๋ยวเราต้องนั่งรอข้ามไปเกาะอีก ไปเร็วเดี๋ยวเรือออก”

“อ๋อ ถึงแล้วเหรอ”

เกียร์ลงจากรถพร้อมกระเป๋าเป้ 2 ใบ ตรงไปยังเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเรือ

“รอด้วยดิ เดี๋ยวกูถือกระเป๋าเอง”

เกียร์ไม่ได้ฟังคำพูดของขลุ่ย เดินไปอย่างรวดเร็ว

“ตั๋วไป-กลับ 2 คน ครับ” เกียร์เอ่ยซื้อตั๋วแก่เจ้าหน้าที่ขายตั๋วเรือ

“นี่จ๊ะ ขึ้นเรือได้เลยค่ะ เรือกำลังจะออกแล้วค่ะ”

“โอเค ขอบคุณครับ”

“เดินเร็วดิว่ะ ชักช้าจริงมึง เรือจะออกแล้ว”

“เออๆ รีบแล้ว” ขลุ่ยวิ่งตามหลังเกียร์มาติดๆ เพื่อไปขึ้นเรือ

บนเรือที่กำลังแล่นอยู่กลางท้องทะเล มุ่งหน้าสู่เกาะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ขลุ่ยนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา จนเกียร์ต้องเอ่ยปากถาม

“มึงเป็นอะไรว่ะ นั่งนิ่งเลย ไม่พูดไม่จา เป็นอะไร ปวดขี้เหรอไง”

“เปล่า กูแค่สงสัย ว่าทำไมมึงพากูมาเที่ยวที่นี่”

“ทำไมว่ะ แปลกตรงไหนเนี่ยะ”

“ไม่แปลกเหี้x ไร พากูมาเสม็ดนี่นะ”

“อืมม เสม็ดแล้วไงว่ะ”

“ก็ใครมาเสม็ด แม่งเอ่อ เอ่อ”

“ติดอ่างอะไรของมึง ใครมาเสม็ดแล้วทำไม”

“ก็ใครมาเสม็ด เสร็จทุกรายอ่ะ นี่มึงคิดอะไรกับกูเปล่าเนี่ยะ”

“5555” เกียร์หัวเราะเสียงดัง “นี่มึงเชื่อคำพูดแบบนี้ด้วยเหรอว่ะ ปัญญาอ่อน”
“เออๆ กูคงคิดมากไป มึงคงไม่คิดแบบนั้นหรอก”

“เออ กูคิดว่ะ”

“ห๊า อะไรนะ”

“ล้อเล่นน่ะมึง กูแค่เป็นว่ามันใกล้กรุงเทพฯ ทะเลสวยดี ก็เท่านั้นแร่ะ ไม่ได้มานานแล้วด้วย”

“เออๆ กูก็คิดว่างั้นแร่ะ”

เรือเข้าเทียบท่า....................

“แล้วเราจะไปไหนกันต่อเนี่ยะ ไปยังไง มึงจองที่พักไว้หรือยัง” ขลุ่ยเอ่ย พร้อมหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่สู้กับแสงแดดจ้าในตอนนี้

“ยังว่ะ ไม่ได้จอง ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ คิดไรมากว่ะ ไปๆ ตามกูมา”

“ชวนกูซะดิบดี นึกว่าเตรียมตัวพร้อม อะไรว่ะ ร้อนนะเว้ย”

“อย่ามาเยอะ ผู้ชายห่าไรตากแดดแปปเดียวก็บ่น”

“กูไม่ได้บ่น พูดเฉยๆ”

เกียร์เดินตรงไปที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์

“เช่ารถคันนึงครับพี่”

“เช่ากี่วัน”

“ยังไม่แน่ใจครับพี่ 2 วันก่อนแล้วกันครับ”

“วันละ 200 บาท ขอบัตรประชาชนด้วย”

“นี่ครับ”

“ตอนเอารถมาคืน เติมน้ำมันให้เหลือ 3 ขีด เท่าตอนเอาไปด้วยนะ”

“อ๋อ ครับพี่”

เกียร์กระพายเป้ ขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์

“ขึ้นดิว่ะ มองอะไร”

“ทำไมมึงเช่าคันเดียวว่ะ มา 2 คน”
“ก็เพราะมา 2 คนไง ถึงเช่าคันเดียว มึงนี่บ้าไปล่ะ จะเช่า 2 คัน ให้เปลืองตังค์ทำไมว่ะ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว ไปคันเดียวกันนี่แร่ะ อย่าเรื่องมาก ขึ้นมาไวๆ”

ขลุ่ยยืนลังเลสักพัก ก่อนจะก้าวขาขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซต์ที่เกียร์เป็นคนขี่

“เขยิบเข้าหน่อยดิว่ะ นั่งซะห่างเลย กูไม่กัดมึงหรอก”

“เออๆ จะให้เขยิบอะไรหนักหนาว่ะ ตรงนี้ก็ดีแล้ว”

“เข้ามาอีก”

“เออ นี่ไง พอยัง”

“อีกนิดนึง”

“ใกล้กว่านี้ก็ขี่คอมึงแล้วแร่ะ”

“เออ โอเค ไปแล้วนะ”

เกียร์สตาร์ทเครื่องรถ พร้อมดึงมือขลุ่ยมาโอบเอวของเขาไว้ พร้อมขี่รถออกไป
“เห้ยยย”

“จะร้องไรหนักหนา”

“มึงจับมือกูมากอดเอวมึงทำไมเนี่ยะ”

“กูหวังดีกลัวมึงตกรถไง อะไรว่ะ หวังดีแท้ๆ”

“กูจับเองได้ ปล่อยมือกูได้ละ”

“อย่าดิ้นมากดิว่ะ ขี่รถอยู่ ไม่มีสมาธิเลยเนี่ยะ”

“ปล่อยมือกูก่อน”

“เออ ก็ได้”

“แล้วเราจะขี่ไปไหนว่ะเนี่ยะ”

“ก็ขับรถเล่นไปรอบๆ เกาะก่อนแร่ะ เดี๋ยวดูว่ามีอะไรน่ากิน ค่อยแวะกินละกันเนอะ จะเที่ยงแล้วด้วย”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน”

สองหนุ่มตะลอน แว้นรถรอบเกาะ อย่างสนุกสนาน

“อากาศดีจังเลยว่ะ อยู่ๆ แดดก็ไม่ร้อน ดีว่ะ”

“เออ บรรยากาศแม่งโครตเป็นใจเลยว่ะ เดี๋ยวไปแวะหาดข้างหน้าหาไรกินกัน”

“อืมมม”

“ขลุ่ย”

“อะไรว่ะ”

“ข้างหน้าทางชันว่ะ เกาะกูดีดีนะ” เกียร์เอื้อมมือไปจับมือของขลุ่ยมาโอบไว้ที่เอวของเขา แต่ครั้งนี้ไม่มีอาการขัดขืนใดๆ จากขลุ่ย

“เกาะแน่นๆ นะ” เกียร์ชำกับขลุ่ย ก่อนบิดมอเตอร์ไซต์ขึ้นทางชันอย่างระมัดระวัง

“นี่ก็แน่นจนแทบจะสิงล่ะ”

“ก็ลองสิงดูดิ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง”

“ตลกแล้วมึง” ขลุ่ยปล่อยมือออกจากเอวของเกียร์

เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นลงเขา พาเขาทั้งสองคนมาถึงชายหาดที่มีน้ำใสๆ ทรายละเอียดๆ

“สวยว่ะ จอดๆ รีบจอดเลย” ขลุ่ยกระโดดลงจากรถ ทั้งที่รถยังจอดไม่สนิทเลยด้วยซ้ำ”

“เห้ย ระวังหน่อยดิ เด่วก็หกล้มหรอก รอกูด้วย” เกียร์รีบจอดรถแล้ววิ่งตามขลุ่ยไปที่ชายหาด “ไหนมึงบอกไม่อยากมาไง เห็นทะเลปุ๊ปก็วิ่งลงเล่นน้ำเลยนี่นะ”

“ก็น้ำใสดีนิหว่า ไม่ได้มาตั้งนานแล้วด้วย ไหนๆ ก็มาแล้ว มึงจะไปโดนน้ำทะเลบ้างเลยหรือไง”

“เออๆ แล้วแต่มึง เดี๋ยวกูนั่งเฝ้าของให้ตรงนี้แล้วกัน” เกียร์นั่งมองขลุ่ยที่เพลิดเพลินกับการเดินลุยน้ำเล่นเป็นเด็กๆ เขาอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายรูปของขลุ่ยเอาไว้หลายรูป


“เห้ยย นั่นมึงทำอะไรว่ะ แอบถ่ายรูปกูเหรอ”

“เปล่า กูถ่ายวิว มึงนี่หลงตัวเองเนอะ ใครจะไปถ่ายรูปมึง”

“ก็ไม่รู้เหรอ เห็นหันกล้องมาทางกู”

“ก็ทะเลอยู่ข้างหน้ากู กูไม่เล็งกล้องไปทางนี้ จะให้หันไปถ่ายข้างหลังหรือไง”

“เออก็จริงของมึง มาเดินเล่นเปล่า น้ำใสนะเว้ย”

“เอาก่อนเลย” เกียร์หันหน้าหลบ  ถอยหายใจเฮือกใหญ่ โล่งอก ที่แก้ตัวไปได้น้ำขุ่นๆ
ขลุ่ยเดินตรงมาที่เกียร์  “หิวแล้วว่ะ หาอะไรกินเหอะ”

“เออ ไปดิ ตรงนั้นน่าจะมีอะไรกินน่ะ”

“ไปๆ” ขลุ่ยเดินตัวปลิวไปทางร้านอาหาร

“สบายเลยนะมึง”

“ก็มึงอยากอาสาถือให้เองนิหว่า ตอนนี้อย่ามาทำเป็นบ่น”

“เออ มันเป็นหน้าที่ของกูอยู่ล่ะ”

ขลุ่ยหยุดเดิน “หน้าที่อะไรว่ะ???”

“หน้าที่ของผัวไง จริงมั๊ยจ๊ะเมียจ๋า”

“ไอ้เกียร์มึง ใครเมียมึง อีกแล้วนะ” ขลุ่ยทำหน้าตาขึงขังเอาเรื่อง

“กูพูดเล่น ใจเย็น เห้ย ใจเย็น” เกียร์วิ่งหนีไปทางร้านอาหาร

“ไอเกียร์หยุดเลย มาให้กูเตะซะดีดี”

“กูขอโทษ กูพูดเล่น หิวข้าวแล้ว จบนะ จบ”

“มึง”

“ขอโทษแล้วไง อย่าเยอะดิมึง นะนะ ดีกัน ดีกัน หิวจะตายแล้วเนี่ยะ”

“คร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงท้องของขลุ่ยดังลั่น จนต้องเอามือลูบท้อง “กินข้าวก่อนก็ได้ ฝากไว้ก่อนนะมึง”

“เออๆ กินข้าวเหอะ สั่งข้าวหน่อยครับ”

หลังจากสองหนุ่มกินข้าวกันเรียบร้อย ก็พากันขี่รถออกไปยังหาดอื่น เพื่อหาที่พักสำหรับคืนนี้

“สรุปมึงจะไม่พูดกับกูเลยหรือไง งอนจริงดิ”

“ไม่ได้งอนเว้ย แต่ไม่มีไรจะพูด”

“ไม่เอาน่า ดีกันนะ กูพูดเล่นน่ะ ไม่แซวแล้ว โอเคมั๊ย มาเที่ยวทั้งทีอย่าทำบรรยากาศเสียดิว่ะ นะนะ กูขอโทษ” เกียร์ปล่อยมือจากแฮนด์หนึ่งข้าง ยกนิ้วก้อย ทำท่าขอคืนดี

“ขี่รถไปเลย ไม่ต้องมาทำท่าปัญญาอ่อน”

“ดีกับกูก่อนดิ” เกียร์ยังคงยกนิ้วก้อย รอให้ขลุ่ยเกี่ยวตอบ

“เออๆ ขับรถไป”

“เกี่ยวก้อยคืนดีกับกูก่อนดิ”

“ไม่เอา ไม่ทำ”

“นะนะ ดีกันนะ” เกียร์พยายามตื้อให้ขลุ่ยเกี่ยวก้อยคืนดีกับเขาให้ได้

“เออๆ ดีก็ดี” ขลุ่ยยกนิ้วก้อยเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเกียร์แล้วรีบดึงออกเพื่อตัดรำคาญ

“ก็แค่นี้แร่ะ” เกียร์อมยิ้มไปตลอดทาง เหมือนกันกับที่ขลุ่ยแอบอมยิ้มไปตลอดทางเช่นกัน

รถมาจอดที่ทางลงหาด
“ไหนว่ะทางเข้าหาด” ขลุ่ยมองซ้ายมองขวา

“ซอยเล็กๆ ตรงนั้นไง เมื่อกี้เห็นมีฝรั่งเดินเข้าไป”

“ใช่เปล่ามึง”

“คงใช้แร่ะ ก็เห็นรถมอไซต์จอดเพียบเลยไม่เห็นเหรอ ตามกูมาเหอะ กูเช็ค อากู ดูแล้ว หาดนี้มีที่พัก ร้านอาหาร น้ำใส”

“ใครว่ะอากู”

“ Google ไง มึงไม่รู้จักเหรอ ตามกูมา”

“ถุย กูก็คิดว่ามีญาติอยู่แถวนี้”

“เป็นญาติกับอากู รู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้นะมึง อ่อ มึงต้องหัดมีเป็นญาติกับอาพัน ด้วยนะ อยากรู้อะไรมีคำตอบหมด”

“อาพัน ไหนอีกว่ะ”

“พันทิปไง ฟายยยยยยยยยย บ้านมึงมีอินเตอร์เน็ตเล่นเปล่าเนี่ยะ”

“หลายดอกแล้วนะมึงวันนี้”

“เออ กูพูดเล่น เดินหาที่พักกันดีกว่า” เกียร์กอดคอขลุ่ยเดินตรงไปยังชายหาด

“เออ”

“เนี่ยะเค้าบอกว่าตอนกลางคืน ริมหาดมีโชว์กระบองไฟด้วยนะมึง”

“เหรอ เออก็ดี”

สองหนุ่มได้ที่พักเป็นที่เรียบร้อย จัดแจงเก็บของไว้ในที่พัก

“ของีบหน่อยนะ เหนื่อยว่ะ แว้นมาทั้งวัน” ขลุ่ยทิ้งตัวลงบนเตียง

“อะไรว่ะ มาทะเลทั้งที มานอน”

“พักแปปนึง อย่าเพิ่งกวน”

“เออๆ ไม่กวนก็ได้ แล้วแต่มึง งั้นกูไปเดินเล่นสำรวจแถวนี้ก่อนนะ”

“เออ เอาเลย ตามสบาย ซื้อขนมมาฝากกูด้วย”

“โอเคตามนั้น”



 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
มาเสม็ด? เสร็จกันเถอะ เพี้ยงงง  :hao6:

ออฟไลน์ monnam0309

  • มิสเตอร์เค
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ต้องติดตามนะครับ อิอิ
:jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด