พิมพ์หน้านี้ - โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: monnam0309 ที่ 09-06-2016 14:35:09

หัวข้อ: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 09-06-2016 14:35:09
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



โดนนนนน ตี วิดวะ

ตอนที่ 1


เช้าวันจันทร์ อันแสนธรรมดา ของเกียร์ เด็กหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรอยยิ้มที่ละลายใจสาวน้อย สาวใหญ่ หรือแม้กระทั่งหนุ่มๆ เวลาที่เขาเดินผ่าน……

แต่สำหรับเขาแล้ว วันนี้ไม่ธรรมดาสำหรับเขาอีกต่อไป…………………………….

เพราะวันนี้เป็นวันแรกในชุดนักศึกษาของเขา จากเด็กน้อยกางเกงน้ำเงิน วันนี้เขากลายเป็นหนุ่มเต็มตัว อยู่ในชุดนักศึกษา กางเกงสแล็กสีดำ เสื้อแขนยาวสีขาาว ผูกเทคไน หล่อเนี๊ยบ…ไม่เบา

เกียร์ยืนมองกระจก บ่นพึมพายิ้มๆ กับตัวเอง
“หล่ออ่ะ น่ารัก น่ากิน 555 บ้าไปล่ะ”
“เห้ยยย กี่โมงแล้วเนี่ยะ”

เกียร์รีบวิ่งลงบันไดเพื่อรีบไปมหาลัย เพราะวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ในเวลา 08.00 น. แต่ขณะนี้เวลา 07.30 น. แล้วเขายังไม่ได้ออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ

“ค่อยๆ ลูก เด่วก็ตกบันไดหรอก พ่อนักศึกษาใหม่” เสียงแม่ของเขาพูดจากหยอกล้อเขา
“หวัดดี ครับแม่ หวัดดี ครับพ่อ ผมไปก่อนนะ สายแล้ว” เกียร์ตอบแม่พร้อมรอยยิ้มหวานตามเคย
“ไปดีดีนะลูก ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของลูกนะ” พ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ครับบบบบบบบบบบ”
เกียร์ตอบเสียงหวานนนนนนน
พร้อมจุ๊บแก้มแม่กับพ่อ คนละหนึ่งฟอดใหญ่

บนบีทีเอส ที่ขณะนี้แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ถึงแม้ว่าเกียร์จะขึ้นต้นๆ สายแล้วก็ตาม แต่ด้วยที่เกือบจะสายแล้ว ทำให้เกียร์พยายามเข้าไปในรถไฟฟ้าขบวนนี้ให้ได้ เพื่อที่จะได้ไปทันเวลา
“ขอโทษครับ” เกียร์เอ่ยอย่างสุภาพ เนื่องจากมีคนเบียดเข้ามา ทำให้ต้องไปเบียดชนกับชายหนุ่มคนหนึ่ง
“ไม่เปนไรครับ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบกลับ ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เข้มๆ เหมือนใบหน้าของเขา

“ทำเป็นเข้ม เหมือนคิ้วเลย 55  พี่ชายชินจังหรือเปล่าเนี่ยะ” เกียร์คิดในใจ เพราะชายหนุ่มคนนั้น มีคิ้วเข้มสะดุดตาเอามากๆ

ทั้งคู่ลงสถานีเดียวกัน แต่ด้วยที่คนเยอะ ทำให้ไม่ได้สนใจซึ่งกันและกัน
แต่ทั้งคู่ก็เดินมาพบกันอีกครั้งตรบันไดลงสถานี เกียร์มองชายหนุ่มคนนั้น แล้วยิ้มหวานให้ตามความเคยชิน หนุ่มคนนั้นพยักหน้าตอบรับ ด้วยใบหน้าเข้มขรึม เหมือนเดิม

“หน้าจะเข้มไปไหนว่ะ?” เกียร์คิดในใจ

“เรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ” เกียร์เอ่ยถาม เพราะเพิ่งสังเกตว่าชายคนนั้น ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกับเขาเลย

“อืมม ใช่” ชายหนุ่มตอบ

“เราชื่อเกียร์นะ อยู่ดุริยางคศิลป์ไทย นายละ”

“ขลุ่ย วิศวะฯคอม” ชายหนุ่มตอบ

“อืมม ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เกียร์ เผลอยิ้มหวานอีกแล้ว

ทั้งคู่เดินเข้ามหาลัยไปด้วยกัน

“นี่นายยิ้มแบบนี้ทั้งวันเลยหรือไง” ขลุ่ยเอ่ยถาม

“อ้าว มันไม่ดีตรงไหนอ่ะ”

“เออ เปล่า” ขลุ่ย ตอบน้ำเสียงเรียบๆ

“งั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” ขลุ่ยเอ่ยก่อนเดินแยกไป

“นี่กูพูดว่าไว้เจอกันกับมันทำไมวะเนี่ยะ”

“คนอะไรจะยิ้มทั้งวันแบบนั้นว่ะ บ้าไปละมัน”

ขลุ่ยนึกพึมพำในใจ ขณะกำลังเดินไปที่คณะของตัวเอง

การปฐมนิเทศ ช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี….
ขณะนี้เกียร์กลายเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ และรุ่นพี่ในคณะไปเรียบร้อย อาจเป็นเพราะรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ และ ความเป็นกันเองของเขาก็เป็นได้


ณ คณะวิศวะ

"เกือบมาสายนะมึง" เพื่อนเอ่ยทักขลุ่ยขณะเดินออกจากหอประชุม
"เออ หิววะ หาไรกินกัน" ขลุ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสดใส เป็นกันเอง ต่างจากตอนเช้า พร้อมกอดคอเพื่อนสองคนเดินไปทางโรงอาหาร
"ใหญ่โฟไม่ผักครับพี่" ขลุ่ยสั่งเสียงใส
"แหมๆ ปากหวานจริงพ่อคู้นนน ป้าแก่แล้วเรียกป้าก้อพอลูก
"แหมก้อพี่ เฮ้ยป้ายังดูไม่แก่เลยนิครับ นึกว่ายังไม่สามสิบ" ขลุ่ยพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มออดอ้อน
"ปากหวานแบบนี้ป้าแถมลูกชิ้นให้สี่ลูกเลย" ป้ายิ้มเขิน หัวเราะชอบใจ ความทะเล้นของเด็กหนุ่ม
"ขอบคุณครับป้า น่ารักแบบนี้เด่วผมกินทุกวันเลย"
"มาจริงๆนะลูกเด่วป้าทำให้พิเศษเลย

"ครับบบบบบบ" น้ำเสียงตื่นเต้น

"โห ก๋วยเตี๋ยวน่ากินจังนะมึงลูกชิ้นเพียบเลย มะกี้กูเห็นนะที่มึงไปจีบป้าอะ"  บอยกล่าวล้อเลียนเพื่อน

"ตลกละมึง เด่วโดนถีบ" ขลุ่ยทำท่าขยับขา ทำให้บอยรีบลุกหลบไปนั่งข้างเจมส์ เพื่อนสนิทอีกคนของเขา

"มึงนี่ก็กัดกันตลอดเลยเนอะ ไอ้ขลุ่ยมันจะจีบป้าร้านก๋วยเตี๋ยวได้ไง ในเมื่อมันมีป้าร้านข้าวปากซอยบ้านมันเป็นเมียทั่งคน"

"อ้าว เหี้ย หนักกว่าไอ้บอยอีก มึงจะเอากะกูใช่มั้ย"

เจมส์หัวเราะเสียงดัง
"กูล้อเล่น โอ๋ๆๆ ไม่โกรธนะ"
"เออ มึงก้อพูดไป กูมีมึงสองคนเป็นเมียแล้ว จะมีกิ๊กอีกได้ไง"

"จริงด้วย ผัวขา" บอยพูดพลางลุกกลับมานั่งข้างขลุ่ยพร้อมกับเอียงคอซบไหล่

สามคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะพร้อมกันอย่างสนุกสนาน
การปฐมนิเทศน์จบลง ต่อจากนี้พวกเขาจะต้องเจอกับอะไรอีกมากมาย ชีวิตในรั้วมหาลัยกำลังรออพวกเขาอยู่......

"ขลุ่ยกลับเลยป่าววะ"

"เออ คงกลับเลยแร่ะ ง่วงวะ มะกี้กูแอบหลับในหอประชุมด้วย มึงจะกลับเลยหรือป่าวเจมส์"
"กูกะบอยจะไปสยามต่อวะ นัดเด็กไว้ ไปด้วยกันดิ แจ่มๆ ทั้งนั้นเลย"

"ไม่เอาวะ มึงสองคนไปกันเหอะ กูกลับไปนอนดีกว่า กูไปนะ" ขลุ่ยพูดพร้อมพยักหน้ากวนๆ ใส่เพื่อน

"เปลี่ยนใจกะตามมานะเว้ยยย"บอยตะโกนตามหลัง

ขลุ่ยส่ายหัว แล้วเดินจากไปยิ้มๆ

"ดี เจอกันอีกแล้วนะขลุ่ย"

เสียงนุ่มๆ ใสๆดังมาจากข้างหลังของเขา
ขลุ่ยหันมองตามเสียงนั้น สิ่งที่เขาเห็นคือรอยยิ้มกว้างๆ ของเกียร์

"บ้านนายอยู่แถวนี้เหรอขลุ่ย"

"แม่งจำชื่อกูแม่นจังวะ ย้ำชื่อกูอยู่ได้" ขลุ่ยคิด

"อืมมม อยู่คอนโดติดบีทีเอสนี่แร่ะ นายล่ะ"

"คอนโด ตรงปากซอยอ่ะเหรอ เราอยู่สุดซอย"

"อ๋อ อืม" ขลุ่ยตอบสั้นๆ
"ดีอ่ะ จะได้มีเพื่อนไปเรียนพร้อมกัน" เกียร์พูดเสียงแจ๋ว

"นี่กูไปสนิทกับมันตอนไหนว่ะเนี่ยะจะไปเรียนพร้อมกัน" ขลุ่ยครุ่นคิด หงุดหงิดในใจ

"เห้ย เหม่อคิดไรอยู่อะ บัตรประชาชนแตะออกจากบีทีเอสไม่ได้นะ" เกียร์พูดไปหัวเราะไป

ขลุ่ยผงะไปนิดนึง ทำหน้าเหวอ เพราะเขินที่เกียร์ขำที่เขามัวแต่คิดอะไรเพลินจนหยิบบัตรผิด

ขลุ่ยรีบควานหาบัตรบีทีเอสในกระเป๋า แตะออก และเดินอย่างไว


"อ้าวๆ จะรีบเดินไปไหน" เกียร์ตะโกนตามหลังแซว

"เปล่าๆ"
เกียร์สปีดเท้ามาเดินข้างๆ กับขลุ่ย แล้วพูดคุยอย่างสนิทสนม

"นายเพิ่งมาอยู่แถวนี้เหรอ ไม่คุ้นหน้าเลย เราอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เกิด คนแถวนี้รู้จักหมด"

"เออ ถึงคอนโดกูละ ไปก่อนนะ"

"โอเคๆ ไว้เจอกันนะขลุ่ย"
"ไว้เจอกันนะขลุ่ย" ขลุ่ยพูดน้ำเสียงล้อเลียนเกียร์ ขณะที่เขาอยู่ในลิฟท์

"บ้าหรือป่าววะ ไอ้เนี่ยะ คนอะไรจะร่าเริง ยิ้มทั้งวัน แล้วกูไปสนิทกะมึงตอนไหน" ขลุ่ยพึมพำเสียงดัง พร้อมเปิดประตูห้อง

ขลุ่ยล้มตัวนอนบนโซฟา และเผลอหลับไปด้วยความง่วง

หลังจากที่เกียร์กินข้าวเย็นกับพ่อแม่เสร็จ เกียร์อาสาเป็นคนล้างจาน พ่อกับแม่ยิ้มภูมิใจในตัวลูกชาย
"ล้างจานเสร็จแล้ว ผมขึ้นไปเล่นคอมบนห้องนะครับ" เกียร์กล่าวกับพ่อและแม่ที่กำลังนั่งดูละครเย็นเรื่องโปรด

"จ้าลูก อย่านอนดึกนะ"

"ครับแม่"
ไม่รู้อะไรทำให้เกียร์ ค้นหาชื่อขลุ่ยในช่องค้นหาในเฟสบุ๊คของตัวเอง..........

แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่เจอเฟสของคนที่เขากำลังหาอยู่


Destiny !!!

สเตตัส ที่เกียร์โพสต์ โดยไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงโพสต์แบบนี้

หลังจากที่เขาโพสต์ได้ไม่ถึงนาที ก้อมีคนกดไลค์ และคอมเม้นมากมาย บางคนถามด้วยความอยากรู้ แต่เพื่อนสองตัวแสบที่มาแซว ว่าแอบไปเจอใครกล้านอกใจเหรอ???

ไม่มีคำตอบจากเกียร์ มีเพียงอีโมชั่นรูปรอยยิ้ม แทนคำตอบ




ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับบบบบบ

เป็นการเขียนครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัว ด้วยนะครับบบบบบบบบบบบบบบบบ :mew1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 09-06-2016 15:47:45
จิ้มๆ มาต่อเรื่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คะ  :L2:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 09-06-2016 15:52:33
ขอบคุณมากนะครับบบบบบบบ มาต่อแน่นอนจ้าาาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 09-06-2016 17:05:13
ชื่อเรื่ิองแปลกดี 

#รักเด็กวิศวะฯ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 10-06-2016 14:47:14
ตอนที่ 2

“ถึงกูจะร้าย กูก็รักไม่น้อยกว่าเขา
แล้วเหตุใดเล่า จึงเป็นตัวเราที่แพ้เสมอ”
ตัวร้ายที่รักเธอ : ทศกัณฐ์ (วงทศกัณฐ์)
ฝากติดตามลิงค์ ต้นฉบับ ด้วยครับบบบ https://www.youtube.com/watch?v=gJe3BmlrZ8s (https://www.youtube.com/watch?v=gJe3BmlrZ8s)

เสียงริงโทน โทรศัพท์ของเกียร์ดังขึ้น

"มึงอยู่ไหน อยู่กับใคร รายงานกูมาซะดีดี ไปมอวันเดียวได้หญิงเลยเหรอมึง"

"ยาวเลยนะมึง ให้กูตอบคำถามไหนก่อน"

"ตอบมาอย่ามาแถ" เพื่อนสนิทตัวแสบคาดคั้นด้วยความอยากรู้

"อยู่บ้านดิว่ะ" เกียร์ตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญในความสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนรัก

"กูถามตั้งเยอะ ตอบสั้นจังนะมึง เห้ยยยยย นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะ มึงยังไม่ออกมาอีกเหรอ"

เกียร์ตกใจ สปริงตัวจากเก้าอี้หน้าคอม อย่างไว เหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้

"เออ โทษที กูลืมว่ะ เด่วกูรีบไป โอเค เด่วเจอกัน"

หลังจากวางสายเพื่อน เกียร์รีบไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็วแสง

5 นาทีต่อมา.....

เกียร์ยืนอยู่หน้ากระจก

"หล่อ ชิปหายยยยยยยยยยย" พร้อมยกมือจัดผมหนึ่งที เป็นอันว่าเสร็จ

เกียร์ในตอนนี้ กับ เกียร์เมื่อตอนเช้า ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง


เกียร์สวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืด พร้อมแจ็คเก็ตหนังคลุมทับอีกทีนึง ดูหล่อร้ายไม่เบา

ทรงผมที่เคยเนี๊ยบเมื่อตอนเช้า ณ ตอนนี้กลายเป็นผมที่ผ่านการเซ็ทตั้งแบบขั้นเทพ!!! ไปเสียแล้ว


"เด่วผมออกไปข้างนอก กลับดึกนะครับ"

"เหมือนเดิมนะคะ เด่วป้าบอกคุณพ่อกับคุณแม่ให้คะ"

"ขอบคุณครับ" เกียร์ตอบพร้อมกับคว้ากุญแจรถ ที่แขวนอยู่ในตู้เก็บกุญแจ

ถนนในยามค่ำคืน ขณะนี้ ยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และจอแจไม่ต่างจากเวลากลางวัน ต่างกันอย่างเดียวคือไม่มีแสงแดดแผดเผาจนเกือบละลาย

เกียร์ ขณะนี้.....

อยู่บนท้องถนนพร้อมกับรถคู่ใจของเขา

"Ducati Diavel XDiavel S ปี 2016"

ของขวัญชิ้นพิเศษจากพ่อแม่ของเขา สำหรับนักศึกษาใหม่

40 นาที ต่อมา..............................
รถของเกียร์เข้าจอดในโซนบิ๊กไบค์หน้าผับแห่งหนึ่ง

"มาแล้วเหรอ เกือบสายเลยนะมึง"  กู๊ดเพื่อนตัวแสบของเขากล่าว

"โทษทีวะ ก้อมาทันแล้วนี่ไง เหลือเวลาอีกตั้ง 10 นาที"  เกียร์รีบแก้ตัว


"เออๆ เตรียมตัว เด่วเลิกแล้วค่อยมาเคลียร์กะพวกกู" กัสเดินมาตบไหล่สมทบอีกคน


เวลา 22.00 น.  .......

เสียงเพลงดังขึ้น พร้อมกับแสงไฟ ที่สาดส่องไปบนเวที


“เสียงของคำว่ารักเธอคงไม่เข้าใจ
ใช้แววตาอย่างไรเธอคงไม่รู้
ทำได้เพียงห่วงใยในวันที่เธอไม่อยู่
แม้ลึกๆ จะรู้ว่าเธอมีใคร”
เพลงใจหมา ทีที
ติดตามฟังเพลงได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=lKJ3vwhpx9A (https://www.youtube.com/watch?v=lKJ3vwhpx9A)

เสียงร้องดังขึ้น พร้อมเสียงกรี๊ดของสาวๆ ภายในร้าน
สายตาทุกคู่ จับจ้องที่นักร้องนำบนเวที
นอกจากเสียงร้องที่ไพเราะทรงพลังแล้ว หน้าตาของเขายังสามารถดึงดูดสายตาของสาวๆ รวมถึงผู้ชาย (บางคน) จนไม่อาจละสายตาไปได้เลย

23.30 น.

ที่ข้างเวที

"ฮอตเหมือนเดิมเลยนะมึง  สาวๆ มองมึงเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว" กู๊ดเปิดประเด็น

"กูว่าสู้โต๊ะหน้าสุด ไม่ได้หรอก หน้าเหมือนอยากขย้ำมึงมากอะ" กัสเสริม

"โต๊ะหน้าสุด มันชายล้วนไม่ใช่เหรอวะ" เกียร์รีบแย้ง

กู๊ดกับกัส มองหน้ากันแล้วหัวเราะลั่น โดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองมักใจตรงกัน ตามประสาพี่น้องที่เป็นฝาแฝดกัน

"โง่ หรือ ซื่อ เนี่ยะ มึงอะ ถ้าคนที่มองมึงด้วยสายตาที่อยากจะขย้ำมึงขนาดนี้ มึงยังจะใช้คำว่าชายล้วนได้อีกหรอ"

"อะไรของพวกมึงเนี่ยะ" เกียร์ถามแบบงงๆ

"ช่างมันเหอะ แล้วสาวที่เดินสวนกับมึงมะกี้ ให้เบอร์มึงใช่มะ กูเห็นนะ แจ่มมากอะ" กัสเปลี่ยนเรื่องพร้อมยิงคำถามใส่เกียร์ด้วยความอยากรู้ ตามประสาคนชอบเผือกกกก

"เออ เขาบอกว่าถ้าคืนนี้ไม่รู้จะไปต่อไหน ให้โทรหาเขา"

"โทรเลย โทรเลย โทรเลย" ฝาแฝดประสานเสียงด้วยความพร้อมเพียง

เกียร์เงียบไปพักนึง ก่อนตอบสองเพื่อนซี้ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ไม่อะ กูไม่ชอบผู้หญิงที่เดินเข้ามาหากูก่อน"

"สาดดดดด หล่อเลือกได้" สองแฝดเอ่ยพร้อมกันอีกครั้ง

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงของสองแฝด เกียร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียง และสีหน้าที่กลุ้มกริ่ม

"แต่ถ้ากูชอบ เด่วกูเดินไปสอยเอง" พร้อมเปรยตาไปมองโต๊ะฝั่งตรงข้าม พร้อมยิ้มกว้าง

"เด่วกูมานะ" พูดเสร็จเกียร์สาวเท้าไปยังโต๊ะนั้นอย่างไว

ไม่นานนัก เกียร์เดินกลับมาพร้อมใบหน้าที่ฟินแบบสุดๆ จนเพื่อนๆ คันปากเอ่ยถาม

"เป็นไรของมึง ยิ้มจนปากจะฉีก"

"ได้เบอร์เป้าหมายอะดิ" กัสตอบแทนเกียร์

"ใช่แล้วครับบบบบบบบไอ้น้อง พวกเจ้าต้องฝึกฝนวิทยายุทธอีกเยอะกว่าจะเทียบชั้นข้าได้" เสียงเกียร์ดูภูมิอกภูมิใจ


"ข้าน้อยขอคารวะ" กัส&กู๊ด ทำท่าคารวะอย่างกับในหนังจีน

สามเพื่อนรัก เกียร์&กัส&กู๊ด สนิทกันมาก รู้จักกันตั้งแต่อนุบาล เรียนด้วยกันตลอด เพิ่งมาแยกกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย

อาจเพราะสาขาที่ชอบไม่เหมือนกัน และด้วยความขี้เกียจของสองแฝดด้วย จึงทำให้สองแฝดเลือกเข้ามหาลัยเอกชน แทนการเคร่งเครียดอ่านหนังสือเพื่อสอบแอดมิชชั่นเข้าคณะในฝัน

แต่ทั้งสามคนเชื่อว่าการที่ไม่ได้เรียนด้วยกัน จะไม่เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพอันยาวนายของพวกเขา

โดพวกเขาให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งวงดนตรีที่ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่สมัยม.ต้น ของพวกเขา

โดยเขาและเพื่อนๆ จะมาเล่นดนตรีที่ผับแห่งนี้ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ซึ่งผับแห่งนี้เป็นผับของพี่สาวกัสและกู๊ดนั่นเอง

บริเวณลานจอดรถโซนบิ๊กไบค์หน้าผับ ในเวลาที่เกือบจะตีหนึ่ง...................
“รถสวยดีนะน้อง” เสียงหนาทุ้ม ฟังดูอบอุ่นดังลอยตามสายลม มาจากด้านหลังของเกียร์ ที่กำลังจะสตาร์ทรถ เพื่อกลับบ้าน

“เอ่อ ขอบคุณครับ” เขาตอบกลับอย่างสุภาพ พร้อมเปรยตามองหาตามเสียงที่เขาได้ยิน

สิ่งที่เขาเห็นคือ ชายหนุ่ม รูปร่างสูง น่าจะประมาณ 190 เซนติเมตร ผิวขาว ใบหน้าคมเข้ม ยืนมองเขาด้วยรอยยิ้ม โดยชายหนุ่มคนนั้นเดินมาคร่อมบิ๊กไบค์ คันข้างๆ กับเขา โดยเขาเองเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า รถบิ๊กไบค์คันข้างๆ เหมือนรถของเขาทั้งสี ทั้งรุ่น

“รถพี่ก็สวยนะครับ” เกียร์พูดไปยิ้มไปเหมือนรู้กัน
“อืมมมม พี่ไปละ ไว้เจอกันนะ” พี่ชายคนนั้นพูดจบ พร้อมสตาร์ทรถออกไปอย่างรวดเร็ว คงเหลือไว้แต่ความเท่ห์ที่เกียร์ยังมองตามด้วยอย่างชื่นชม
เช้าวันต่อมา…………………………….

"เห้ยยยย นี่เผลอหลับจนเช้าเลยเหรอเนี่ยะ"

"โอ๊ยยย ปวดหลังชะมัด"

ขลุ่ยบ่นขณะกำลังงัวเงียลุกจากโซฟา สายตาของเขาเหลือบไปเห็นนาฬิกา ซึ่งขณะนี้เวลา 10 โมง 45 นาที

เห้ยยยย สายแล้ว ขลุ่ยตกใจรีบวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ ขณะที่กำลังรีบร้อนจนมือไม้สั่น ทำให้ทำแปรงสีฟันหล่นลงที่พื้น

ขลุ่ยรีบก้มเก็บ เลยไม่ทันระวัง ทำให้หัวโขกกับบานกระจกที่เปิดทิ้งไว้ตอนหยิบแปรงสีฟัน อย่างจัง

"โอ๊ยยยยย!" ขลุ่ยร้องลั่น

"ซวยไรแต่เช้าวะเนี่ยะ เอ่ออออ แต่วันนี้ไม่ต้องไปมหาลัยนี่หว่า แล้วจะรีบทำไมว่ะเนี่ยะ"

ขลุ่ยเงยหน้ามองกระจก ด้วยสีหน้าเซงสุดชีวิต  ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง

ขลุ่ยแปรงฟัน พร้อมกับเอ่ยกับตัวเองในกระจกว่า

"ทีหลังอย่ารน โง่นะมึงอ่ะ"

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย

เขาเดินไปเปิดตู้เย็นด้วยความหิว เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเย็น

!!!!!ตู้เย็นว่างเปล่า มีเพียงน้ำเปล่าไม่กี่ขวด"

"โง่ซ้ำซ้อนอีกแล้วนะมึง" เขาพึมพำบ่นกับตัวเอง

สาเหตุที่ตู้เย็นว่างเปล่า เป็นเพราะเขาเพิ่งย้ายมาอยู่คอนโดนี้ได้ไม่กี่วัน จัดข้าวของยังไม่เข้าที่เข้าทางเลยด้วยซ้ำ

เขาหยิบกระเป๋าตังค์ แล้วเดินออกจากห้อง เพื่อลงไปหาอะไรกินข้างล่าง โดยที่ตัวเขาเองก้อไม่รู้เหมือนกันว่าข้างล่างมีร้านอะไรให้เขากินบ้างหรือป่าว

ใต้คอนโดของขลุ่ยมีร้านกาแฟเก๋ๆ น่านั่งอยู่หนึ่งร้าน แต่ตอนนี้กาแฟ และขนมเค้ก คงไม่ตอบโจทย์ความหิวขั้นสุดของขลุ่ยได้

มองทางซ้าย และขวา เจอร้านซักรีด และเซเว่น (หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา) แต่เขาคิดว่าคงไม่แวะไป!! เพราะเขายังไม่ว้อนขนมจีบ ซาลาเปา และไม่ค่อยชอบข้าวกล่องใส่ไมโครเวฟเท่าไหร่


เขามุ่งหน้าออกจากคอนโด ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น มีความหวังว่า โลกภายนอกต้องมีอะไรอร่อยๆ ให้เขากินอย่างแน่นอน

และแล้วก็ไม่ผิดหวัง.........
ซอยข้างๆ คอนโด มีร้านอาหารตามสั่ง แถมบรรยากาศร้าน ร่มรื่น น่านั่งมากๆ

"กินอะไรดีพ่อหนุ่ม" น้ำเสียงดูใจดีเอ่ยถาม

"เอาข้าวผัดรวมมิตร ไม่ผัก พิเศษๆ เลยนะป้า หิวมาก" เขาสั่งข้าวพร้อมทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าหิวจนจะกินป้าอยู่แล้ว


"วันนี้ออกมาเร็วนะเนี่ยะ" ป้าเอ่ยถามลูกค้าประจำที่เดินเข้ามาในร้าน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ก็คิดถึงป้าไงเลยรีบออกมา" ชายหนุ่มพูดจาหยอกล้อ อย่างคุ้นเคย

"ดีดี งั้นป้าวานเอาข้าวไปเสิร์ฟโต๊ะนู้นหน่อย"


"ได้เลยครับป้า" เขาตอบรับด้วยความเต็มใจ


"ได้แล้วครับ ข้าวผัดไม่ผัก"

เมื่อสายตาทั้งสองคู่ หันมาประสานกัน

"นาย!!!!!!"

ทั้งคู่พูดประโยคนี้พร้อมกัน



ขอกำลังใจด้วยนะครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-06-2016 15:16:04
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-06-2016 15:53:03
น้องเกียร์ดูเท่ๆเนอะ บุคลิกน่าสนใจอ่ะ

หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-06-2016 18:30:13
ยังเดาไม่ออก ใครเมะ ใครเคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 11-06-2016 12:28:06
เด่วจะรีบอัพตอน 3 นะครับ

ฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆ จนจบนะครับ
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 2] 10.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-06-2016 18:45:40
หนุ่มขับบิ๊กไบค์ จะได้เจออีกมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 3] 11.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 11-06-2016 20:18:40
ตอนที่ 3

สายตาสองคู่ ประสานกันอยู่นาน เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ……………….

“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนกินข้าวผัดไม่ใส่ผักหรือไง ส่งข้าวมาดิ หิวจะแย่อยู่แล้ว” พูดพลางหยิบจานข้าวจากมือของเด็กเสิร์ฟหน้าใส ไม่ใช่ใครที่ไหน เกียร์นั่นเอง

“ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง กินแล้วรับรองติดใจ” เกียร์พูดพร้อมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ยิ้มแป้นเล้น

ในขณะนี้ที่ขลุ่ยก้มหน้าก้มตากินข้าว ด้วยความหิว เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่จ้องมองเขาอยู่ ความรู้สึกนั้นไม่ได้น่ากลัวจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว เหมือนดูรายการคนอวดผี แต่ความรู้สึกนั้นทำให้เขารู้สึกใจเต้นแปลกๆ

“ไม่เคยเห็นคนกินข้าวเหรอไง” ขลุ่ยพูดในขณะที่ยังก้มหน้ากินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย

“เคยนะ เคยเห็นเด็กสองขวบกินข้าวผัดไม่ใส่ผัก แต่ไม่เคยเห็นเด็กปีหนึ่งกินข้าวผัดเด็กแบบนี้” เกียร์ตอบคำถามด้วยน้ำเสียวกวนๆ

ขลุ่ยวางช้อน เงยหน้ามองเกียร์ด้วยความหวุดหงิด

“เฮ้ย!! นายมีปัญหาอะไรกับเราป่าววะ” เสียงขลุ่ยชักเริ่มโมโห

“เฮ้ย เฮ้ย อย่าเพิ่งหงุดหงิดดิ ล้อเล่นนิดเดียว ขึ้นง่ายจริงนะ”
“ปากดี เด่วจับกดซะเลย” เกียร์มองหน้าขลุ่ยแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์กับความคิดของเขา แต่ต้องชะงัก เมื่อรู้สึกตัวว่าคิดอะไรแบบนี้ได้ไง กูเป็นผู้ชาย มันก็เป็นผู้ชายนี่หว่า

“กินข้าวเสร็จไปไหนต่อหรือป่าว” เกียร์ยังชวนคุยไปเลิก

“ก็ป่าวนะ ทำไมอ่ะ ถามจริง ทำไมนายยุ่งกับเราจังเลยว่ะ” เสียงขลุ่ยฟังดูจริงจัง หนักแน่น ที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

เกียร์รู้สึกตกใจกับน้ำเสียงของขลุ่ยเป็นอย่างมาก

“เราขอโทษนะ ที่ทำให้นายอึดอัดใจ เราแค่เห็นว่าบ้านอยู่ใกล้กัน  เรียนที่เดียวกัน น่าจะเป็นเพื่อนกันได้                 อีกอย่างเราคิดว่านายเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ ก็คงไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่รู้จักคนแถวนี้ เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว มีอะไรที่พอจะช่วยได้ ก็อยากช่วย  อะไรที่พอจะแนะนำได้ ก็อยากแนะนำก็เท่านั้นเอง”

“ถ้ามันทำให้นายลำบากใจ งั้นขอโทษแล้วกัน” พูดจบพร้อมลุกขึ้นจากโต๊ะทันที

แทนที่จะรู้สึกสบายใจ ขลุ่ยกับรู้สึกใจหายอย่างประหลาด

“เห้ยยย เมื่อกี้ถามว่ากินข้าวเสร็จไปไหนหรือป่าว ถามทำไม จะชวนไปไหนเหรอ” ขลุ่ยตะโกนตามหลังเกียร์เสียงดัง เหมือนกลัวเกียร์จะไม่ได้ยิน แล้วเดินจากเขาไปจริงๆ

เกียร์หยุดเดิน เหมือนมีใครมาดึงเบรกมือ จนเขาต้องดริฟเกือบหัวทิ่ม เขาหันตามเสียงตะโกน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ถ้าไม่มีไรทำ ไปเตะบอลกันเปล่า”

ขลุ่ยนิ่งเงียบ ไม่มีคำตอบใดๆ จนเกียร์เอ่ยปากก่อน
“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ไว้วันไหนเบื่อๆ ไม่มีไรทำก็บอกแล้วกัน” เกียร์ตัดบท พร้อมทำท่าจะเดินออกไปจากร้าน

“เดี๋ยวขึ้นไปเปลี่ยนชุดบนห้องก่อนดิ จะให้ไปชุดนี้เหรอไง” ขลุ่ยพูดตามหลัง พร้อมทำท่าทางให้เกียร์ดูสภาพชุดของเขา

“อืม โอเค” น้ำเสียงของเกียร์บ่งบอกถึงความดีใจ แถมหลักฐานบนใบหน้าของเขาก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน จากรอยยิ้มกว้าง ถึงกว้างมาก

“ป้าครับ เท่าไหร่ครับ” ขลุ่ยลุกเดินไปที่ป้าเพื่อจ่ายเงินค่าข้าวของเขา
“เป็นเพื่อนเกียร์หรือลูก งั้นวันนี้ป้าเลี้ยง ให้กินฟรีเลย ติดใจก็กลับมาอุดหนุนป้าอีกนะ” ป้ากล่าวอย่างเอ็นดู

ขลุ่ยมองหน้าเกียร์เหมือนจะขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยบอกป้า ว่าให้คิดเงินทีเถอะ แต่เหมือนจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ มีเพียงรอยยิ้มจากเขาเพียงเท่านั้น

“งั้นขอบคุณมากนะครับป้า ข้าวอร่อยมากๆ เลยครับ รับรองผมต้องมาฝากท้องไว้กับป้าเป็นการถาวรเลยครับ” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อดอ้อน

“ไปดิมึง” ขลุ่ยเอ่ยปากชวน

“อ้าวววววววว แล้วข้าวกูล่ะ ยังไม่ได้กินเลยนะ” เกียร์หน้าเหวอ รีบสวนกลับ

“ไม่ต้องกินหรอก ดูจากหน้าแล้ว มึงคงไม่ค่อยหิว ขึ้นไปห้องเป็นเพื่อนกูหน่อย จะได้ไปช่วยเลือกไง ว่าให้ใส่ชุดไรแบบไหน” ขลุ่ยพูดพร้อมผลักตัวเกียร์ออกจากร้าน

“นี่ตกลงเราสนิทกันแล้วใช่ป่ะ ชวนกูขึ้นห้อง”

“ทะลึ่งละมึง เป็นเพื่อนกันขึ้นห้องกันเป็นไรว่ะ หรือมึงป๊อด กลัวกูจะหลอกมึงไปปล้ำว่ะ” การสนทนาเริ่มเมามันส์ระหว่างทางที่เดินไปคอนโด

“เปล่าว่ะ กูกลัวว่ามึงแร่ะ ที่มาอ่อยให้กูปล้ำมากกว่าว่ะ” เกียร์ยียวนกลับ

สองหนุ่มมองหน้ากัน ขณะที่อยู่ในลิฟท์

“ตกลงใช่ ใช่ม่ะ?” ขลุ่ยทำเสียงล้อเลียนซีรีย์ดังในตอนนี้

“แกล่ะ ใช่ ใช่ม่ะ?” เกียร์ล้อเลียนกลับ

ทั้งคู่หัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกัน ตลกในท่าทางของอีกฝ่าย ที่พยายามจะเลียนแบบคำพูดยอดฮิต แต่ดูไม่จืดเลยจริงๆ ทั้งคู่

“เออ ถึงละ” ขลุ่ยปรับโทนเสียง ทำเป็นเข้ม
“พามาสวรรค์ชั้นเจ็ดเลยเหรอ ชักหวั่นใจแล้วนะเนี่ยะ” เกียร์เก็กเสียงหล่อ

**************************************747********************************************
“แค่เบอร์ห้องก็ชวนคิดลึกล่ะ นี่เราคิดถูกหรือผิดที่ตามมันขึ้นมาว่ะ” ความคิดของเกียร์กำลังขัดแย้งกันในหัว
“เอ่อ ไม่หรอกนะ มันก็ดูแมนนี่หว่า ไม่น่าใช่”

“ตกลงจะยืนอยู่หน้าห้องใช่มั้ย ตามใจนะ” ขลุ่ยยืนมองจากในห้อง

“เออๆ เข้าๆ ไรว่ะ ใจร้อนจัง” เกียร์สาวเท้าก้าวเข้าไปในห้องอย่างไว จนเกือบสะดุดกับลังกระดาษหลายใบ ที่กองอยู่ตามมุมต่างๆ อย่างไม่เป็นระเบียบ บ่งบอกว่าขลุ่ยเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ และยังไม่ได้จัดของให้เข้าที่เข้าทาง

“โหหหหหหหหหหหหหหหหห

โครตรกเลย นี่ห้องหรือกองขยะ”  เกียร์แอคติ้งสุดฤทธิ์ ทำท่าทางเดินหลบลัง ซ้าย ขวา ให้ความรู้สึกว่าห้องรกเหมือนกองขยะจริงๆ

“มึงนี่เว่อร์เนอะ แอคติ้งเยอะขนาดเนี่ยะ มึงย้ายไปเรียน เอกการแสดงเถอะ  รับรองมึงรุ่งชัวร์ ไม่ต้องเรียนดนตรีล่ะ ที่ว่างให้เดินเยอะแยะ เสือกไม่เดิน”

“จำได้ด้วยเหรอ ว่ากูเรียนดนตรี แอบคิดไรป่าวเนี่ยะ”  เกียร์ยิ้มกว้าง

“กูเด็กวิศวะนะ ไม่เก่ง ไม่หล่อ มาถึงจุดนี้ไม่ได้หรอก” ขลุ่ยคุยข่ม

“ตกลงมันเกี่ยวกันมั้ยว่ะ เออ! ช่างเหอะ ไป ไป รอนานละ ไปเปลี่ยนชุดดิ เดี๋ยวกูนั่งรอตรงนี้” เกียร์พูดพร้อมยกมือไล่ให้ไปเปลี่ยนชุดสักที

สิบนาทีผ่านไป++++++++++++++++++++++++++
ยังไม่เสร็จอีกเหรอ เกียร์ตะโกนถาม เพราะเริ่มรู้สึกว่านานไปล่ะ

“ยัง ยัง รอก่อน”

ขลุ่ยอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี ถูสบู่ซ้ายที ขวาที ขัดตัวแล้วขัดตัวอีก โดยไม่ได้สนใจว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือสนใจว่าคนรอจะรู้สึกอย่างไร

เวลาผ่านไป 30 นาที

ขลุ่ยเดินออกมาในชุดพร้อมแตะบอล หน้าใสปิ๊ง แต่สิ่งที่เขาเห็นคือ............................................


เกียร์กำลังเมามันส์กับการเล่นเกมส์ WINNING ELEVEN

“นั่นมันเกมส์กูนะ เล่นได้ไง ไม่ขออนุญาตกูเลยนะ” ขลุ่ยพูดพร้อมเดินมาดึงจอยเกมส์ออกจากมือของเกียร์

“เฮ้ยยย คนกำลังเล่นอยู่ มาดึงจอยไปได้ไงว่ะ หัดมีมารยาทบ้างดิ”

“มารยาท”

ขลุ่ยพูดทวนในใจ เบะปากมองบน

“มึงต่างหากที่ควรมีมารยาท นี่มันห้องกู แล้วก็เกมส์ของกู กูมีสิทธิ์จะให้เล่นหรือไม่ให้เล่นก็ได้” ขลุ่ยเสียงเข้มใส่

“มึงนี่หวงของเนอะ งกวะ ไม่เล่นก็ได้ ไปกันเหอะ”

ทีมึงอาบน้ำนาน ให้กูรอตั้งนาน กูก็เบื่อดิ มึงนั่นแร่ะไม่มีมารยาท” (เกียร์พึมพำเบาๆ แต่ขลุ่ยก็ยังได้ยินอยู่ดี)

“กูขอโทษแล้วกันนะ ที่ให้รอนาน” น้ำเสียงของขลุ่ยทำให้เกียร์โกรธไม่ลง

“เออ แล้วไหนบอกว่าให้กูมาช่วยเลือกชุดไง นี่มึงจัดเต็มมาขนาดนี้ จะไปลงแข่งลีดไหนเหรอ” เกียร์ถามเหมือนเพิ่งคิดขึ้นได้

“ก็กูหาเจอชุดเดียว ชุดนี้ แล้วจะเอาอะไรให้มึงเลือกล่ะ รีบไปกันเหอะ”  ขลุ่ยรีบตัดบท กลัวโดนยิงคำถามอีก

ทั้งคู่เดินลงมาถึงชั้นล่างก็พบว่า ฝนกำลังตกหนัก และดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก

“ทำไงละ เพราะนายช้า ดูดิฝนตกเลย”

“ทำไมมาโทษกันแบบนี้ละ ฝนมันนึกจะตกก็ตก ไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อย กูคิดว่าเราคงต้องไปเตะบอลกันบนห้องแล้ววะ”

“เฮ้ย มึงพูดไรเนี๊ยะ ไม่น่าไว้ใจ” เกียร์ทำเสียงตกใจ

“คิดไปถึงไหนเนี่ยะ วินนิ่งไง วัดกันหน่อยป่ะละ กล้าป่ะ?”

“ขอโทษนะครับ อย่ามาดูถูกกระผมแบบนี้ ผมไม่เคยแพ้ใครนะครับ แล้วอย่ามาร้องไห้อ้อนวอนให้กระผมปรานีนะครับ” เกียร์เกทับกลับ

สรุปวันนั้นทั้งวันช่วงบ่าย สองหนุ่มหมกมุ่นอยู่กับวินนิ่ง ที่ไม่มีใครยอมใคร พลัดกันแพ้กันชนะ หาข้อยุติไม่ได้ จนต้องตัดสินด้วยเกมส์ชี้ชะตา ถ้าใครแพ้เกมส์นี้ต้องเลี้ยงเหล้า 1 เมา (แพงแค่ไหนก็ต้องจ่าย โดยไม่มีข้อแม้) และต้องเรียกอีกฝ่ายว่าลูกพี่ตลอดปีการศึกษา

ศึกระหว่างเด็กวิศวะคอมฯ  และเด็กดนตรีไทย ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เด็กดนตรีไทย จะสู้เด็กวิศวะคอมฯ ที่มีความเป็นต่ออย่างมากได้หรือไม่

ผลสรุป จะเป็นเช่นไร


ต้องคอยติดตามชมตอนต่อไป

********************************************
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 3] 11.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-06-2016 21:06:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 3] 11.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 12-06-2016 15:35:18
อ่านไป ขำไป ข่มกันเกิ้นนน แมนทั้งคู่เลยย อะ ใครจะกดใครอะ ดูไม่ออกจริงๆ นะ  :-[
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 4] 12.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 12-06-2016 21:02:54
ตอนที่ 4

“พี่เตือนแล้วไงไอ้น้อง อย่ามาดูถูกพี่ ต่อไปรู้นะว่าต้องปฏิบัติต่อพี่ยังไง”

“ไอ้ลูกน้อง” พูดพร้อมเอามือตบหน้าขลุ่ยเบาๆ ก่อนลุกเดินไปที่ประตู

“พี่หิวแล้ว ไปหาข้าวกินกัน”

“เยอะเลยนะมึง” ขลุ่ยบ่นเบาๆ

“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”

“ป่าวๆ ก็ไปดิ”

ขลุ่ยปิดประตูห้องแล้วเดินตามไป

เกียร์ที่ยืนยิ้มรออยู่หน้าลิฟท์

“เร็วๆ หน่อยดิ พี่หิวแล้ว”

“จะกินอะไรล่ะ ห้าทุ่มกว่าแล้ว ร้านป้าปิดหรือยัง”

“ร้านป้าปิดตั้งแต่สามทุ่มแล้ว”

“อ้าววว แล้วจะกินอะไรล่ะทีนี้ งั้น ข้าวกล่องเซเว่นล่ะกันนะ” ขลุ่ยเสนอ

“ไม่อ่ะ ไม่อยากกิน ไปหาอะไรอร่อยๆ ข้างนอกกินดีกว่า ร้านนี้เด็ด”

“อืมมม ก็ได้ งั้นรอเด่ว” ขลุ่ยเดินกลับไปที่ห้อง และกลับออกมาในเวลาไม่นาน

“ไปไหนมาว่ะ ต้องให้รอตลอดเลยหรือไง” เกียร์เริ่มหงุดหงิด เพราะเริ่มหิว

“ก็ไปเอากุญแจรถ จะเดินไปหรือไง” เป็นจังหวะที่ลิฟท์เปิดพอดี ขลุ่ยเดินนำหน้าเข้าลิฟท์

“ไม่กินแล้วเหรอไง” ขลุ่ยทำท่ากดปิดลิฟท์

“เฮ้ยยยย รอด้วยดิวะ” เกียร์สปริงตัวเข้ามาในลิฟท์

“จะไปกินที่ไหน บอกมาแล้วกัน” ขลุ่ยเดินนำหน้าไปที่ลานจอดรถ

ขณะที่เค้ากำลังจะกดรีโมทรถของเขา ขลุ่ยหยุดชะงัก นิ่งเงียบเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

“นายมีรถมั้ย ไปรถนายดีกว่า”

“อะไรของนายว่ะ คนยิ่งหิวๆ เดินมาถึงลานจอดรถแล้วเนี่ยะ ทำไมไม่ขับไปเลยอะ งั้นนั่งแท็กซี่ไปง่ายกว่ามั้ย”

เป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาของเกียร์บังเอิญหันไปเห็นรถโฟล์คเก่าๆ คันหนึ่ง จอดอยู่ใกล้ๆ บริเวณที่ขลุ่ยยืนอยู่

“เฮ้ยยยย ไม่เป็นไรนะเว้ย เราเพื่อนกัน ไปแท็กซี่ก็ได้ แต่แค่อยากบอกให้รู้ว่า เพื่อนกันมันไม่ได้มองกันที่ภายนอกแบบนั้นนะเว้ย รถนายจะใหม่ จะเก่า เราก็เพื่อนกันป่ะวะ ไปๆ หิวแล้ว”

เกียร์หันหลังเดินนำหน้าเหมือนจะออกไปเรียกแท็กซี่หน้าคอนโด

(ตึ๊ด ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดด) เสียงกดรีโมทกุญแจรถดังขึ้น พร้อมเสียงเรียกดังลอยมา

“ขึ้นรถลูกพี่”

ขลุ่ยหันมาอึ้งกับสิ่งที่เห็น ยืนนิ่ง สตั้นไปหลายวิ

“ตกลงต้องเดินไปเปิดประตูให้ด้วยใช่มั้ยครับ ลูกพี่!!!! ได้ขอรับท่านลูกพี่ พูดพลางเดินมาฝั่งข้างขับรถเปิดประตูรถยืนยิ้ม

“เห้ยย มึงทำอะไรของมึงเนี่ยะ กูเปิดเอง ขึ้นเองได้ ไปๆ ไปขับรถ หิวจนจะกินเสาคอนโดอยู่แล้วเนี่ยะ”

“รับทราบครับลูกพี่” ขลุ่ยตอบกลับและรีบวิ่งมาด้านคนขับอย่างรวดเร็ว
“ตกลงเราจะไปกินร้านไหนกันเหรอลูกพี่”
“ทีแรกก็มีร้านในใจไว้แล้วอ่ะนะ แต่ถ้าขับรถคันนี้ไปกินดูจะไม่เหมาะว่ะ คงต้องเปลี่ยนร้าน เดี๋ยวคิดร้านใหม่ก่อนนะ”

“อ้าวทำไมอ่ะ รถคันนี้กินข้าวร้านนั้นไม่ได้เหรอ ร้านนั้นคงหรูหรามากเลยซินะ”

“หรูกับผีอะไร กูกะจะพามึงไปกินข้าวต้มโต้รุ่งข้างทาง แต่ดูสภาพรถมึงดิ”

“ ไอ้ห่าเอ้ย มีรถ (Lamborghini Aventador Superveloce Roadster 2016 สีแดง) ขับ ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นรถเต่าเก่าๆ คันนั้น แล้วจะพามันไปกินข้าวร้านไหนว่ะเนี่ยะ อารมณ์ตอนนี้อยากกินตีนไก่ซุปเปอร์ แต่ตอนนี้ดันนั่งรถซุปเปอร์-----คาร์ อดแดกละกู สงสัยต้องกินอาหารอิตาเลี่ยนแล้วมั้งเนี่ยะ” เกียร์คิดในใจ

“เป็นอารายไปว่ะ ร้านข้างทางกูก็กินได้ ไปดิ อยู่ตรงไหนล่ะ”

“เอาจริงนะ มึงกินได้หรือว่ะ”

“ทำไมว่ะ กินได้ดิ บอกทางมา กูเริ่มหิวขึ้นมาแล้ว”

“เออ ขับไปทางเส้นกัลปพฤกษ์ เด่วใกล้ๆ จะพออีกที”

“อืมมม โอเค”

ขลุ่ยขับรถออกจากคอนโด
บรรยากาศในรถเงียบกริบ ไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างผม และเกียร์

สิ่งที่ผมรู้ตอนนี้ คือ ผมดีใจที่เกียร์จะพาผมไปกินข้าวต้มโต้รุ่งข้างทาง ไม่ใช่เพราะผมงกนะครับ แต่เป็นเพราะเกียร์ทำให้ผมรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เขาไม่ได้มองคุณค่าของคนแค่เพียงภายนอก เหตุผลที่ผมไม่อยากใช้รถของผมตอนแรกก็เพราะเหตุผลนี้ ผมไม่รู้ว่าควรจะให้เกียร์รับรู้สถานะทางครอบครัวของผมในตอนนี้หรือป่าว ผมรู้สึกดีมากๆ ที่เกียร์คิดว่าผมอาจจะอายที่ขับรถคันเก่าๆ โดยที่เกียร์พยายามพูดให้ผมรู้สึกดี และแสดงให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้รังเกียจหากผมจะขับรถคันเก่าๆ คันนั้นขึ้นมาจริงๆ และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หรือมันจะเป็นพรหมลิขิต  ที่ทำให้ผมได้เจอกับเขา วันปฐมนิเทศวันนั้น ผมตัดสินใจขึ้นบีทีเอสไปมหาลัย แทนการขับรถแลมโบกินี่คันนี้ ผมไม่ต้องการเป็นจุดเด่นที่ใครๆ ต้องจับตามองผม ผมไม่ได้ต้องให้สาวๆ มากรี๊ดผม ผมไม่ได้ต้องการเพื่อนที่จะเข้ามาหาผม มองผมเพียงภายนอก ผมต้องการเพื่อน หรือใครสักคนที่จะเข้ามาหาผมด้วยความจริงใจ ชอบในแบบที่ผมเป็น แล้วตอนนี้ผมก็เจอคนๆ นั้นแล้วครับ

ขลุ่ยหันมายิ้มให้เกียร์อย่างอ่อนโยน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เกียร์หันมองหน้าขลุ่ยพอดี สายตาทั้งคู่ประสานกันชั่วขณะ

“มึงมองทาง มองหน้ากูทำไม” เกียร์ดึงตัวเองออกจากภวังค์

“โทษทีวะ ใกล้ถึงยัง”

“เดี๋ยวลงสะพานข้างหน้า ชิดซ้ายไว้ ร้านอยู่ซ้ายมือ”

“หน้าแตกเลยเรา” ความคิดของเกียร์พลุ่งพล่านเต็มหัวไปหมด แล้วหมอนั่นรวยซะขนาดนี้ จะกินข้างทางกับเราได้จริงๆ หรือป่าววะเนี่ยะ เอาว่ะ วัดกันไปเลย ถ้านายนั่นติดกินจริงอย่างที่ปากพูด ก็คงคบกันไปได้ยาว
เอ!!!!!! แล้ววันนั้นทำไมนั่งบีทีเอสไปมหาลัยแทนการขับรถคันนี้ไปนะ

หรือว่า!!!!!!!!!!!!!!!

“มันจะคิดเหมือนกับเรา” เกียร์นิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิด

“ร้านนี้ใช่มั้ย ถึงแล้ว” ขลุ่ยยื่นมือไปตบขาเกียร์ ส่งสัญญาณว่าถึงร้านแล้ว

ณ ร้านข้าวต้มโต้รุ่งข้างทาง ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ  ในเวลาเกือบๆ เที่ยงคืน

ณ ตอนนี้ มีเพียงชายหนุ่มสองคนนี้เท่านั้นเป็นลูกค้าภายในร้าน

สองหนุ่มสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย แย่งหมูย่างชิ้นสุดท้ายกันอย่างกับเด็กๆ

“ชิ้นนี้กูขอ”
“เห้ย เราคีบก่อนเราต้องได้กินดิ นายสั่งเอาใหม่ดิ”
“กูเป็นลูกพี่ เอามานี่” เกียร์พูดยังไม่ทันขาดคำ แย่งคีบหมูย่างจากตะเกียบของขลุ่ยเข้าปากด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
 
นอกจากวันนี้เขาสองคนจะแข่งกันเล่นวินนิ่งมาทั้งวันแล้ว ตกดึกยังเปิดศึกแย่งของอร่อยบนโต๊ะกันอีกด้วย

“อิ่มมาก อร่อยมาก วันหลังมากินกันอีกนะ” ขลุ่ยพูดขณะมองจานบนโต๊ะที่ว่างเปล่า ไม่หลงเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว จนดูไม่ออกเลยว่าก่อนหน้านี้บนโต๊ะเคยมีอาหารอยู่เต็มโต๊ะ

“โธ่ มันแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่เด็ดจริง ไม่พามาหรอก” เกียร์ยืดอกตอบแบบน่าหมั่นไส้
“มื้อนี้กูเลี้ยงนะ เท่าไหร่ครับพี่” ขลุ่ยตัดบทเดินไปจ่ายเงิน

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเลี้ยงเอง เป็นคนพามาก็ต้องเลี้ยงดิวะ แกติดเหล้า 1 เมา อย่ามาเหมารวมดิ”

“ไม่ทันละ จ่ายละ” ขลุ่ยหัวเราะ พร้อมเดินไปที่รถ

“ไม่ต้องห่วงหรอกน๊า ไม่ลืมหรอก 1 เมา เมื่อไหร่ ที่ไหน บอกมาได้เลย หรือจะไปต่อเลยป่าวละ”

“ไม่เอาอ่ะ อยากเมื่อไหร่แล้วจะบอกแล้วกัน กลับเหอะ ดึกละ”

ทั้งคู่ขึ้นรถขับออกไป…………………………………

“ทำไมไม่เลี้ยวเข้าคอนโดละ จะไปไหนว่ะ?” เกียร์รีบทักขณะที่รถกำลังขับเลยคอนโดของขลุ่ยไป

“ก็จะไปส่งนายที่บ้านไง อยู่ท้ายซอยไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวขับไปส่ง ไม่ต้องเดินเข้าไปมันมืดแล้ว”

“จอดเลย จอดเลย เดี๋ยวกูเดินเข้าไปเอง อีกอย่างกูเป็นผู้ชายนะเว้ย จะกลัวอะไรกับซอยมืดๆ ตอนกลางคืนว่ะ กูอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เกิดหลับตาเดินยังได้เลย จอดเลย จอดเดี๋ยวนี้”

ขลุ่ยเบรกรถกะทันหัน

“เอางั้นจริงดิ ไปส่งได้นะ” ขลุ่ยย้ำถาม

“เออ ไม่เป็นไรจริงๆ ขอบคุณมากที่เลี้ยงข้าว” พร้อมเปิดประตูจะออกจากรถ
“เออ!!!!!”

สองหนุ่มหันมาพูดพร้อมกัน

“มีไร นายพูดก่อนดิ” ขลุ่ยปัดให้เกียร์พูดก่อน

“ยืมโทรศัพท์หน่อยดิ”

“อ๋อ เออ ได้ดิ” พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้

เกียร์รับโทรศัพท์มากดเบอร์โทรออก  “ติดละ” แล้วยื่นกลับคืนให้ขลุ่ย

“นี่เบอร์กูนะ เผื่อมีไรก็โทรมาได้ กูไปล่ะ”

เกียร์พูดจบก็ปิดประตูรถและรีบเดินจากไป เหลือเพียงขลุ่ยที่นั่งมองเกียร์จากในรถจนเขาเดินหายลับตาไป


ณ คอนโด

ขลุ่ยเดินยิ้มเข้ามาในห้อง นั่งลงที่โซฟามองโทรศัพท์แล้วอมยิ้ม ก่อนที่จะกดโทรศัพท์เพื่อที่จะบันทึกชื่อในโทรศัพท์ของเขา
--------ลูกพี่เกียร์--------
เขาวางโทรศัพท์เดินยิ้มไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี

ณ บ้านเกียร์

“คุณหนู ทำไมวันนี้เตะบอลกลับดึกจังคะ”

“พอดีไปกินข้าวกับเพื่อนต่อครับป้า พ่อกับแม่นอนกันหมดแล้วหรือครับ”

“คะ รับนมอุ่นๆ สักแก้วก่อนนอนมั้ยคะ เดี๋ยวป้าไปเอาให้”

“ไม่เป็นไรครับป้า ขอบคุณมากครับ ตอนนี้อิ่มจนท้องจะแตกแล้วครับ เดี๋ยวผมอาบน้ำนอนเลยดีกว่า ฝันดีครับป้า” เกียร์เดินขึ้นห้องไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

หลังจากที่เกียร์อาบน้ำเสร็จ และกำลังจะเข้านอน

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดูบันทึกการโทร (สายไม่ได้รับ 1 สาย) เขากดเข้าไปดู บันทึกเบอร์
--------ลูกน้องขลุ่ย--------

เขาวางโทรศัพท์ และปิดไฟเพื่อเข้านอน

Lineeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeee

เสียงไลน์ในโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์มากดดู (เพิ่มเพื่อนจากเบอร์โทรศัพท์)
“ถึงบ้านยัง”

“ถึงแล้ว กำลังจะนอน”

“โอเค ฝันดีนะ”

“อืมม ฝันดี”

การสนทนาทางไลน์จบลงเพียงเท่านั้น
แต่ดูเหมือนความรู้สึกของทั้งสองคนจะไม่ได้จบลงไปด้วย
มันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาทั้งคู่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน












หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 4] 12.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 12-06-2016 21:24:53
เริ่มมีอาการละ เขิลๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 4] 12.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-06-2016 22:10:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 4] 12.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 13-06-2016 14:27:14
สนุกๆ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 14-06-2016 23:35:03
ตอน 5
 
 ตื๊ออออออตึง

ลูกพี่เกียร์: สติ๊กเกอร์ อรุณสวัสดิ์



สายตาเกียร์จับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ของเขา
 "ไม่เกิน 5 วิ หรอกกกกกกก"


อ่านแล้ว

"นั่นไง อ่านแล้ว"

หนึ่งงงงง
สองงงงงง
สามมมมมมมม
สี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วน้าาาา
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เจ็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แปดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เก้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
นานไปแล้วนะ
สิบ

พูดจบคว่ำโทรศัพท์ไว้บนเตียงและลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

"อ่านแล้วไม่ตอบบบบบ เยอะนะมึง" เกียร์พูดคนเดียวกับกระจกในห้องน้ำ ขณะที่เขากำลังอาบน้ำ


Lineeeeeeeeeeeeeeeeee


เกียร์ได้ยินเสียงไลน์ดัง จึงรีบวิ่งมาหยิบโทรศัพท์ดู

Air Axxx : Big Sale 0 บาท เปิดจองแล้ว
 
!!!!!!!!!!!!!!!!

"กูไม่เห็นจะเคยจองทัน แล้วบินด้วยเงิน 0 บาท สักที"

 "มึงเด้งมาทำไมตอนนี้"

เกียร์โยนโทรศัพท์ลงบนเตียงด้วยความเซง หันหลังเพื่อเดินกลับไปอาบน้ำต่อ


ตื๊ดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดด

"โฆษณาไรอีกว่ะ เด่วพ่อจะบล็อคให้หมด"

"แต่เสียงมันเหมือนวิดิโอคอลโทรเข้านี่หว่า"

เกียร์จับโทรศัพท์ เห็นชื่อ ลูกน้องขลุ่ย ดีใจรีบกดรับ

ขลุ่ยอ้าปากค้าง พร้อมคาบช้อนที่เขากำลังกินข้าวค้างไว้

"โทรมาทำไมไม่พูดไรว่ะ"

ขลุ่ยนิ่ง ปากยังคงคาบช้อนไว้

ลูกพี่เกียร์ "ฮัลโหลๆ  ได้ยินป่าว ๆ"

ขลุ่ยดึงสติกลับมา
ลูกน้องขลุ่ย "เห้ยยยย ผีเปรตหลอก"

ลูกพี่เกียร์ "อะไรของมึง คิดถึงกูใช่มั้ย โทรมาหา"

ช้อนหยุดจากปากขลุ่ย
 "ผะ ผะ ผะ"

"อะไรของมึงเนี่ยะ"

"ผะ ผ้า นุ่งผ้าก่อนมั้ย กูแดกข้าวไม่ลงแล้ว"

"ห๊าาาาาาาาา อะไรนะ"
เกียร์ก้มลงดูสภาพตัวเอง ตกใจแรงมาก เพราะตอนนี้เขาอยู่ในสภาพเปลือง ล่อนจ้อน ไม่มีแม้แต่ผ้าขนหนูปิดบังส่วนลับ และไม่ลับสักชิ้น

"เฮ้ยยยย" เกียร์โยนโทรศัพท์ลงเตียง วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นุ่งผ้าขนหนูออกมา

เกียร์มองโทรศัพท์ของเขาที่คว่ำหน้าอยู่บนเตียง ไม่รู้จะพูดอะไรเป็นประโยคแรกดี

ฟอร์มที่เคยเก็กมาตลอดตอนนี้มันป่นปี้ไปหมดแล้ว

เกียร์รวบรวมความกล้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

"เออ มีไรว่ามา"

"เออ ไม่รู้วะ เห็นมึงทักมาแต่เช้า นึกว่ามีธุระ" ขลุ่ยพยายามสะกดอารมณ์ตอบไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาหน้าแดงกว่าตูดเด็กไปซะแล้ว

"ป่าวนิ สงสัยส่งผิด" เกียร์แก้ตัว

"เออ ไอ้ข้อความช่างแม่งเหอะ แต่มึงมาโชว์ของไรแต่เช้าว่ะ แล้วนี่กูจะแดกข้าวลงมั้ย"

เกียร์อึกอักไม่รู้ว่าจะตอบขลุ่ยว่ายังไงดี ทำไมเค้าถึงรีบรับสายจนลืมนุ่งผ้า เกียร์นิ่งคิดดดดด ก่อนตอบ

"กูแค่อยากสั่งสอนให้มึงรู้ว่า ลูกพี่ ยังไงก็เป็นลูกพี่วันยันค่ำ เห็นแล้วซินะ รู้ตัวแล้วใช่ป่ะ ว่าอย่าคิดมาเทียบชั้นกู จำไว้นะไอ้ลูกน้อง"

"เออ แค่นี้ก่อนนะ" เกียร์ตัดสายทิ้ง

"โอ๊ยยยยยยยย กูพูดอะไรไปเนี่ยะ ฟังขึ้นป่าวว่ะ ตอนนี้มันจะคิดว่าเราเป็นพวกโรคจิต ชอบโชว์ของ แล้วไม่คุยกับเราอีกเลยหรือป่าวเนี่ยะ"


เกียร์เอามือขยี้หัวตัวเองอย่างแรง อย่างคิดหนัก แล้วเดินกลับไปอาบน้ำต่อให้เสร็จ




ณ คอนโดขลุ่ย

ขลุ่ยลุกออกจากโต๊ะกินข้าว ทั้งที่อาหารยังเต็มจาน

เขามานั่งเอนหลังที่โซฟา พร้อมสายตาเหม่อลอย นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว

Lineeeeeeeeeeeeeeeeee

ขลุ่ยรีบหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อความ

เจมส์บอนส์ : วันนี้ว่างป่าว ไปดูหนังกัน ไอ้บอยมันนัดหญิงดูหนัง

BigFlute : พอดีกูปวดหัวว่ะ ไปดูกันเถอะ

เจมส์บอนส์ : อืมมม โอเค เด่วขอไลน์สาวมาเผื่อ Bye..

ขลุ่ยทำหน้าผิดหวัง แต่เขาไม่ได้ผิดหวังที่ไม่ได้ไปดูหนังกับเพื่อน แต่เป็นเพราะคนที่ไลน์มาไม่ใช่คนที่เขากำลังรออยู่ต่างหาก


Lineeeeeeeeeeeeeeeeee

ลูกพี่เกียร์ : ว่างป่าว?

ลูกน้องขลุ่ย : ว่าง!

ลูกพี่เกียร์ : ลงมาข้างล่างหน่อยดิ

ลูกน้องขลุ่ย : มีไร?

ลูกพี่เกียร์ : บอกให้ลงก็ลงมาเหอะ อย่าถามมาก

ลูกน้องขลุ่ย : เออๆ รอก่อนละกัน

ลูกพี่ขลุ่ย : เร็วๆ ให้ว่องดิวะ

ลูกน้องขลุ่ย : รอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็ไม่ต้องรอ

สองนาทีต่อมา

"เรียกมามีไร"
ขลุ่ยยืนอยู่ข้างหลังเกียร์

"ทำไมเร็วจังว่ะ"

" เร็วเหรอ ไม่นะ ตกลงมีอะไรไอ้บ้ากาม"

"อ้าวไอ้นี่!!" เกียร์พูดพร้อมทำท่าถลกแขนเสื้อแล้วเดินมาใกล้ เหมือนจะต่อยขลุ่ย

"ก็ไม่มีอะไร พอดีคืนนี้มีเล่นดนตรีที่ผับ ถ้าว่างๆ ไม่มีไรทำ ไปนั่งฟังเพลงได้นะ"

"คิดดูก่อนได้ป่าววะ"

"ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าว่างไง"

"ก็ตอนนี้ว่าง แต่นายชวนคืนนี้ไม่รู้ว่าจะว่างป่าว พอดีเพื่อนมันก็ชวนๆ ไปดูหนังอยู่ พอดีนัดสาวไว้ด้วย"

"อืมม งั้นก็ไม่เป็นไร" เกียร์สีหน้าบางบอกถึงความจ๋อย

ทางด้านขลุ่ยเอง ก็นึกโมโหตัวเองในใจที่พูดออกไปแบบนั้น

"ไม่มีอะไรแล้วใช่มั่ยลูกพี่ งั้นขึ้นห้องก่อนนะ"

"เออขลุ่ย!!!"

"ว่าไง"

"ที่ห้องมีกีตาร์หรือป่าว?"

"มี"

"เออ งั้นดีเลย ขอขึ้นไปซ้อมแกะเพลงใหม่หน่อยนะ พอดีเพื่อนเพิ่งส่งเพลงมาให้ ยังไม่คล่องเลย"

พูดพร้อมเดินนำหน้าไปที่ลิฟท์

"มาดิเร็ว  ยืนเซ่ออยู่ได้"

"เออๆ" ขลุ่ยตอบแบบงงๆ เดินเกาหัวตามมาตรงหน้าลิฟท์

......


หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 14-06-2016 23:40:10
นี้ก็สายยิ้มทั้งวันเหมือนเกียร์เลยค่ะ :D(บางทีเพื่อนก็ถาม ยิ้มอะไร เหมือนโรคจิต ฮ่าๆ :D)
เป็นกำลังใจให้นะคะ :) น่ารัก น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-06-2016 18:30:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 15-06-2016 19:23:12
เนียนเข้าห้องลูกน้องหรอจ้ะ ลูกพี่เกียร์ 5555
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-06-2016 20:04:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 15-06-2016 20:26:31
สรุปคือแอบกั๊กความอู้ฟ่าไว้ทั้งคู่ ผู้ชายสนิทกันคือดีงาม  :hao6:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 5] 14.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 16-06-2016 13:40:45
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 6] 17.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 17-06-2016 14:24:13
มาต่อให้แล้ววววจ้า

ตอนที่ 6

“เปิดซิครับบบบบ คุณลูกน้อง จะให้พี่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทำหน้าที่เป็น รปภ. คอนโด หรือไงครับ”

“ครับบบบบบบบบบบบบบ ลูกพี่” ขลุ่ยลากเสียงประชด พร้อมเดินไปเปิดประตู

“อะไรของนายเนี่ยะ ป่านนี้ยังไม่จัดของให้เข้าที่เข้าทางอีกเหรอ สภาพนี้ เป็นกูนี่!!!ไม่กล้ารับแขกนะเนี่ยะ”

“เออ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าผมเป็นคนเรียนเชิญให้ลูกพี่มาที่ห้องผมหรือครับ นายอยากมาเองไม่ใช่เหรอ” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสะบัดในประโยคสุดท้าย

“เออๆ แค่นี้ต้องขึ้นเสียงด้วยเหรอว่ะ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ วันนี้ป๊าอารมณ์ดี แล้วช่วยจัดห้องให้เอาป่ะ?”

“ไม่เป็นไร ไหนบอกว่าจะขึ้นมาซ้อมเพลงไง”

“สภาพห้อง รกแบบนี้ จะเอาอารมณ์ที่ไหนมาซ้อมเพลงล่ะ อย่าเรื่องมาก ไปๆ ช่วยกันเก็บของ”

“นายบอกเหตุผลดีดีมาซักข้อมาก่อนดิ ว่า ทำไมถึงอยากช่วย ทำไมถึงคอยมาอยู่ใกล้ๆ” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และรอฟังคำตอบ

เกียร์หันมามองหน้าขลุ่ย ด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน

“เอาจริงๆ เลยนะ กูอยากเป็นเพื่อนกับมึงไง”

“เหตุผลมีแค่นี้น่ะเหรอ แล้วทำไมถึงอยากเป็นเพื่อนกับกู คนอื่นมีเยอะๆ”

“อยากรู้จริงๆ ใช่มั้ย”

“เออ ใช่ดิว่ะ”

“เออ ไม่รู้ว่ามึงยังจำเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ได้หรือป่าว”

เกียร์กำลังพาขลุ่ยย้อนไปในเหตุการณ์เมื่อ 2 ปี ก่อน

2 ปี ก่อนหน้านี้

เสียงโทรศัพท์ของเกียร์ดังขึ้น

“ไอ้เกียร์ๆ มึงออกไปดู กู๊ดหน่อยดิ มันโทรมาบอกกูว่า จะไปหาพวกไอ้แบงค์ที่แย่งเด็กมันไปอ่ะ มันลุยไปคนเดียว พอดีตอนนี้กูอยู่พัทยา กลัวไปไม่ทัน แต่จะรีบตามไปนะ” กัสพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ และเป็นห่วง   กู๊ดมาก

“เออ ได้ๆ เดี๋ยวกูรีบไปเลย”  หลังจากวางสาย เกียร์รีบควบ Ducati Monster S2R S Ti ออกจากบ้านไปทันที


เมื่อเกียร์ไปถึง สิ่งที่เขาเห็นคือ กู๊ดกำลังถูกรุมกระทืบ จากกลุ่มวัยรุ่น 5-6 คน ณ ตอนนั้นทั้งคน และรถของกู๊ดพังยับเยินไม่ต่างกัน

“เฮ้ยหยุดนะ อย่าหมาหมู่ดิว่ะ” เกียร์รีบวิ่งเข้าไปพร้อมตะโกนใส่กลุ่มวัยพวกนั้น

“ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่เกียร์”

“อ๋อนึกว่าใคร มึงจะช่วยเพื่อนของมึงใช่มั้ย คิดว่าจะช่วยได้เหรอ” วัยรุ่นที่ชื่อแบงค์ จิกหัวกู๊ดที่ใบหน้าเต็มใบด้วยเลือดขึ้นมา พร้อมหัวเราะเยาะเสียงดัง

“ปล่อยเพื่อนกูไป แน่จริงมึงมาตัวๆ กับกู” เกียร์พูดด้วยสีหน้าโกรธจัด

“แล้วทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยว่ะ สั่งสอนให้มันเลิกปากดีหน่อยดิ” พร้อมพยักหน้าส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ เข้ามารุมที่เกียร์แทน

การชกต่อยเริ่มต้นขึ้น ต่างฝ่ายต่างแลกมัดกันพัลวัน เกียร์สู้อย่างไม่ลดละ ถึงแม้ว่าจะมาเพียงคนเดียว ก็สามารถแจกมัดให้ฝั่งตรงข้ามนับดาวได้ไม่น้อย แต่ยังไงฝั่งที่มีคนมากกว่าก็ย่อมได้เปรียบอยู่ดี
เกียร์ถูกล็อคตัวไว้
“เก่งนักนะมึง ต่อไปจะได้เลิกปากเก่งสักที” แบงค์ก้าวเท้าเข้ามา มือของเขาถือท่อนเหล็กยาว พร้อมยกขึ้นเพื่อฟาดมาที่เกียร์

เกียร์ฮึดสู้ถีบเข้าที่หน้าอกของแบงค์ และดิ้นหลุดจากการถูกล็อคตัว และชกพวกหมาหมู่คว่ำไปหลายราย

“กู๊ดดด มึงหนีไป”

“ไม่ กูไม่ทิ้งมึง” กู๊ดตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

“มึงรีบไปตามคนมาช่วยกู กูไหว แค่นี้เด็กๆ” เกียร์หันมายิ้มให้กู๊ด เหมือนพยายามทำให้กู๊ดมั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะศัตรูได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องเป็นห่วงเขา

“ไป รีบไป เอารถกูไป ไปดิวะ กูขอร้อง มึงอยู่ กูก็เป็นกังวล ไป ไปเร็ว” เกียร์ตะโกนไปพร้อมๆ กับเตะเสยคางคู่ต่อสู้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อน

“ไป…………”

“เกียร์ กูจะรีบกลับมา” กู๊ดตะเกียกตะกาย ลุกขึ้นยืน ทั้งๆ ที่เกือบจะลุกไม่ไหว โดยมีเกียร์ไปยืนขวางกันไม่ให้มีใครตามกู๊ดไปได้

“มึงเข้ามาเลย เข้ามา” เกียร์ท้าทาย

จังหวะนั้นเอง เกียร์ถูกท่อนเหล็กตีจากด้านหลัง ทำให้ล้มคว่ำกองลงกับพื้น
“กูขี้เกียจจะเล่นกับมึงแล้ว” แบงค์ควักมีดออกมาจากกระเป่าหลังกางเกง เดินตรงเข้ามาที่เกียร์
ขณะนี้เกียร์ทุกล็อคไว้ด้วยชายถึงสามคน อีกทั้งแรงที่จะต่อต้านก็ลดน้อยลงทุกที

แบงค์เดินตรงเข้ามาปักมีดตรงกลางลำตัวของเกียร์ ยืนมองด้วยสายตาไร้ความปรานี
“กูบอกมึงแล้ว อย่ามาปากดีกับกู”
“ถูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มึงก็เก่งแต่หมาหมู่แร่ะว่ะ” เกียร์ถุยน้ำลายใส่หน้าแบงค์ ทำให้แบงค์โกรธมาก

“มึงตายซะเถอะ” แบงค์กำลังจะหยิบท่อนเหล็กที่หล่นอยู่ข้างๆ หวังจะฟาดเกียร์ให้ตายคามือ เป็นจังหวะเดียวกับที่เกียร์ รวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายสะบัดหลุดจากการล็อคตัว ชิงหยิบท่อนเหล็ก ฟาดซ้าย ฟาดขวา เหมือนคนบ้าคลั่ง 

เกียร์ถอยหลังมาตั้งหลัก ตอนนี้พวกของแบงค์มาสมทบเพิ่มอีกหลายคน เขารู้ดีว่าสู้ไปยังไงก็คงไม่รอดแน่งานนี้ แทนที่เขาจะห่วงตัวเอง เขากลับคิดถึงเพื่อน เป็นห่วงว่าจะถึงที่ปลอดภัยหรือยัง

เกียร์ยิ้มกว้างออกมา พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ทำให้คู่ต่อสู้พากันงงกับท่าทางของเกียร์ในตอนนี้

“ถ้ากูต้องตาย กูไม่ยอมตายข้างๆ คนอย่างพวกมึงหรอก”

“เห้ยยยย พวกมึงมาช่วยกูแล้วเหรอ” เกียร์ตะโกนเสียงดัง จนทำให้คู่ต่อสู้ต่างพากันหันไปมองด้านหลัง เป็นจังหวะดี ทำให้เกียร์มีโอกาสที่จะวิ่งหนีออกมา

“มันหายไปไหนแล้ว ตามมันไป”

เกียร์วิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง ล้มลุกคลุกคลาน เลือดที่ไหลไม่หยุด เริ่มจากมาจากร่างของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เกียร์ยังคงวิ่งต่อไป บริเวณนั้นไม่มีใครเลย เวลานั้นเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว เสียงที่จะร้องเรียกขอความช่วยเหลือก็แผ่วเบาลงทุกที

เกียร์หันไปเห็นแสงไฟจากรถคันหนึ่งกำลังวิ่งผ่านมา เกียร์ควักมือ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่รถคันนั้นก็แล่นผ่านไปโดยไม่มีทีท่าจะจอดให้ความช่วยเหลือ รถแล่นผ่านไปสองถึงสามคัน เกียร์เริ่มหมดหวัง แต่ก็ยังกระเสือกกระสนลุกเดินต่อไป

ขณะนั้นเขาเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งกำลังจะวิ่งตรงมาที่เขา ในใจของเขาคิดว่านี่จะเป็นคันสุดท้ายแล้วที่เขาจะขอความช่วยเหลือ

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

รถคันนั้นจอดตรงหน้าของเขา ไฟหน้ารถสาดมาที่ตาของเขา

“เป็นอะไรหรือป่าว โดนอะไรมา” เสียงจากชายนิรนามคนนั้นกล่าวถาม ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ชายนิรนามคนนั้น หันไปเห็นกลุ่มชายกำลังวิ่งมาทางนี้หลายคน จึงพอจะเดาสถานการณ์ได้

“ไป รีบไปเร็ว ดูท่ามันจะตามมาล่ะ” ชายนิรนามวิ่งเข้ามาประครองเกียร์ ให้รีบไปขึ้นรถ

แต่ด้วยสภาพเกียร์ที่เต็มไปด้วยเลือดตอนนี้ การซ้อนรถมอเตอร์ไซค์จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากพอดู

ชายนิรนามคนนั้นประคองเกียร์ไว้ให้ขึ้นรถ และดึงมือเกียร์มากอดไว้ที่เอว และจับมือไว้ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าเกียร์จะตกรถ เขารีบสตาร์ทรถออกไปด้วยความรวดเร็ว

เกียร์ในสภาพที่เกือบหมดสติ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะกอดเอวชายนิรมานคนนั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองตกจากรถที่กำลังขี่ด้วยเร็ว

“อดทนหน่อยนะ นายเข้มแข็งหน่อยนะ อีกเดี๋ยวจะถึงโรงพยาบาลแล้ว” ชายนิรนามเอ่ยพร้อมกับเขย่ามือเกียร์เบาๆ ให้เขารู้สึกตัวตลอดเวลา

ถึงแม้ร่างกายของเกียร์จะบอบซ้ำขนาดหนัก แต่สายตาของเขายังจดจำใบหน้าชายนิรนามที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างดี
จำรอยสักที่ต้นคอของชายนิรมานคนนั้น ที่เขาซบและมองดูมันตลอดทางที่ขี่รถมา

เมื่อถึงโรงพยาบาล…..

เกียร์ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินทันที

“และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากูก็ไม่เคยเจอชายนิรมานคนนั้นอีกเลย จนเช้าวันปฐมนิเทศ บนบีทีเอส” เกียร์เอ่ยขึ้นพร้อมมองหน้าขลุ่ย

“นายจำเราไม่ได้ใช่มั้ย” เกียร์เอ่ยถาม

“หน้าตานายเยินขนาดนั้น แถมอยู่ในสภาพเลือดท่วม สภาพตอนนั้นต่อให้เป็นญาตินาย ยังไม่รู้จะจำนายได้หรือป่าวเลย” ขลุ่ยตอบด้วยน้ำเสียงยียวน

“งั้นแสดงว่าลูกพี่ติดหนี้ลูกน้องอย่างกระผมน่ะซิครับ” ขลุ่ยยิ้มกว้างให้เกียร์

“เออ อยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” เกียร์กลับมาเก็กเสียงทำตัวเป็นลูกพี่เหมือนเดิม

“ไว้นึกออกจะบอกแล้วกันนะ ตอนนี้ไปเก็บของก่อนไป ไหนบอกจะช่วยจัดห้องไง” ขลุ่ยชี้มือให้ไปจัดของ

“โอเค ได้ๆ” เกียร์รับคำสั่งอย่างว่าง่าย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ขลุ่ยยืนมองเกียร์ที่กำลังเก็บลังที่กองเกะกะ จัดให้เข้าที่เข้าทาง

“นี่นายจำเราได้จริงๆ มันใช่แค่เรื่องบังเอิญซินะ” ขลุ่ยคิดในใจ

“จะยืนเป็นคุณชายเลยเหรอไง จะให้ยกลังไปไว้ไหนเนี่ยะ”  เกียร์พูดลอยมา

“เอาไปไว้ตรงนู้น” พร้อมเดินไปข้างๆ เพื่อช่วยยก

กว่าจะจัดของเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง

“นี่จะสองทุ่มแล้วเหรอเนี่ยะ โครตเหนื่อยเลย จะมีแรงร้องเพลงมั้ยเนี่ยะ” เกียร์บ่นพร้อมเอนตัวนอนบนโซฟา ทำท่าเหมือนคนหมดแรง

“โทษทีว่ะ ไหวป่ะเนี่ยะ” ขลุ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“เออ นั่นดิ เดี๋ยวเสียงานเสียการล่ะแย่เลย งั้นเด่วนายขับรถไปส่งหน่อยนะ แล้วก็นั่งรอรับกลับด้วย เนี่ยะช่วยนายทั้งวัน ไม่มีแรงขับรถล่ะ”

ขลุ่ยเงียบใช้ความคิด

“โอเค เงียบถือว่าตกลง”

“เห้ยย อะไรว่ะ ยังไม่ได้รับปากเลย แต่… เออๆ ไปก็ได้ แทนคำขอบใจที่มาช่วยจัดห้องล่ะกัน”

“สบายแล้วโว๊ย เด่วจะหลับตลอดทางเลย”

“ช่วยบอกทางกูก่อนจะหลับด้วยนะ”

ขลุ่ยขับรถมาจอดที่หน้าผับ เขายิ้มมองดูเกียร์ที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่

“เวลานายหลับนี่แร่ะ น่ารักที่สุดเลย ตื่นมาแล้วงี่เง่า” ขลุ่ยพึมพำเบาๆ

“คิดอะไรกับกูป่าวเนี่ยะ” เกียร์พูดขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่

ขลุ่ยตกใจ เปิดประตูลงจากรถทันที

เกียร์ลืมตา แล้วยิ้ม ให้กับอาการเขินของขลุ่ย แล้วเปิดประตูตามลงมา

“จะไปไหน” เกียร์เอ่ยถามขลุ่ย

“ก็เข้าไปในร้านไง” ขลุ่ยหันหน้าหนีแล้วจึงตอบ
“ล็อครถก่อนมั้ย”

“เออ ลืม” ขลุ่ยยิ่งเขินกับความเอ๋อของตัวเอง รีบล็อครถ และเดินนำเข้าไปในร้าน

“เด่ว นายไปนั่งรอโต๊ะข้างๆ เวทีแล้วกัน”

“ขลุ่ย นี่กู๊ด กับ กัส เพื่อนกูนะ” เกียร์แนะนำขลุ่ยให้รู้จักกับสองเพื่อนรักของเขา

“กู๊ด กัส นี่ไอ้ขลุ่ยนะ ลูกน้องกูเอง”

“เพื่อน เรียนที่มหาลัยเดียวกันน่ะ หวัดดีนะ”  ขลุ่ยแนะนำตัว

“เออ หวัดดี” กู๊ด กัส กล่าวพร้อมกันด้วยท่าทางเป็นมิตร

วันนี้เกียร์ยังคงทำหน้าที่ของเขาได้ดีเหมือนทุกๆ ครั้ง และยังคงเป็นขวัญใจสาวน้อย สาวใหญ่ เหมือนเคย

หลังจากเล่นดนตรีเสร็จ เกียร์รีบเดินตรงมาที่โต๊ะด้านข้างเวที
“เป็นไงกูร้องเพราะมั้ย เคลิ้มเลยดิ” เปิดประเด็นแซวขลุ่ยที่นั่งรออยู่

“เออ เพราะดีว่ะ”

“ถ้าชอบก็มาฟังบ่อยๆ ได้นะ กูไม่ว่าอะไรมึงหรอก”

ขลุ่ยยังไม่ทันจะตอบคำถามของเกียร์ ก็มีสาวสวยเดินเข้ามาประชิดด้านหลังของเกียร์
“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ร้องเพลงเพราะมากเลยคะ”

“อ๋อครับ ขอบคุณครับ” เกียร์ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ถ้าอยากขอเบอร์ เผื่ออยากฟังเพลงเป็นการส่วนตัวจะได้มั้ยคะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ายวน น่าหลงใหล พร้อมยื่นโทรศัพท์ของเธอกับเกียร์

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีวันนี้แฟนผมมาด้วย แล้วแฟนผมก็ขี้หึงมากด้วยครับ” เกียร์ยิ้ม พร้อมยื่นมือมาจับมือขลุ่ย ที่วางอยู่บนโต๊ะ

ขลุ่ยสะดุ้งตกใจ

“เอ่อ คือว่า” ขลุ่ยกำลังจะปฏิเสธ

เกียร์รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไรจ๊ะที่รัก อย่าเพิ่งขึ้น” พร้อมเข้ามาโอบไหล่ขลุ่ยไว้ พร้อมทำหน้าส่งสัญญาณไห้ตามน้ำไปก่อน

“เก้งกวาง ก็ไม่บอก เสียเวลา” หญิงสาวพูดพร้อมสะบัดบ๊อปเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือน ณ จุดๆ นี้ ชะนีไม่มีที่ยืน
“อะไรของมึง มึงพูดอะไรออกไป กูเสียหายนะ” ขลุ่ยรีบต่อว่าเกียร์
“นึกว่าชอบซะอีก ไปฉี่ก่อนนะ” เกียร์ยิ้ม แล้วเดินจากไป   
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 6] 17.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 17-06-2016 19:18:43
เกียร์...ชัดไปแล้วนะ 5555
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 6] 17.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-06-2016 20:45:30
อร๊ายยย. อีเกียร์เล่นไรอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 6] 17.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-06-2016 23:14:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 6] 17.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 18-06-2016 13:48:45
 :z1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่7] 18.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 18-06-2016 22:52:33
ตอนที่ 7

“ทำไมไปเข้าห้องน้ำนานจังว่ะ?” ขลุ่ยทำหน้าหงุดหงิด ขณะที่เกียร์เดินยิ้มแป้นกลับมาที่โต๊ะ

“นานอะไรว่ะ แปปเดียวเอง คิดถึงกูเหรอ”

“อะไรกันสองคน เมื่อกี้กูได้ยินว่าคิดถง คิดถึงอะไรกัน ยังไงเนี่ยะ” เสียงกัสแซวมาจากด้านหลัง

“ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนของพวกนายมันโรคจิตน่ะ”

“ไอ้เกียร์มันคงแซวขลุ่ยเล่นแร่ะ ไอ้เกียร์มันแมนจะตาย มึงก็รู้นิ” กู๊ดเดินเข้ามาเสริมทัพ

“เออๆ ก็ขำๆ กันเปล่าว่ะ มึงนี่ก็คิดมากน่ะ เล่นนิดเล่นหน่อยไม่ได้เลย” เกียร์พูดปิดเพื่อยุติเรื่องเมื่อสักครู่

“เออ พอดีเลย วันนี้กูมีคนขับรถมาว่ะ เพราะงั้น วันนี้กูเมาได้ เลี้ยงเหล้ากูหน่อยดิ” เกียร์หันไปกอดคอเพื่อนทั้งสอง

“ได้ดิ ไม่มีปัญหา รอแปป เดี๋ยวจัดให้” พูดเสร็จกัสเดินไปที่บาร์พร้อมจัดเหล้ามาชุดใหญ่

“ชนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน” สามหนุ่มยกแก้วชนพร้อมกัน

“อ้าวนายทำไมไม่ยกล่ะ” เกียร์เอ่ยถามขลุ่ยที่นั่งนิ่ง ไม่ยกแก้วเหล้าชนพร้อมๆ กับคนอื่น

“ก็กระผมมาเป็นคนขับรถนี่ครับ จะกินได้ยังไง ตามสบายเลย” พร้อมยกเป๊ปซี่กระดกลงคอแทนแอลกอฮอล์?

“อืมม งั้นดี เอ้า! พวกเราชน”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาตีสองที่ผับปิด

“ผับปิดแล้ว จะกลับหรือยัง”

“ไม่ต้องห่วงๆ ผับปิดแล้วก็กินต่อได้ ที่นี่ผับของพี่สาวไอ้กู๊ดกับไอ้กัสมัน ไม่ต้องกังวลๆ” เกียร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับแอลกอฮอล์ไปซะแล้ว

“เปล่าไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น ดึกแล้ว พอได้แล้วมั้ง”

“เออ กูก็เริ่มเมาแล้วด้วย สงสัยคืนนี้กูสองคนนอนร้านแน่เลย แฟนมึงบอกให้กลับบ้านแล้วก็รีบๆ กลับไปดิว่ะไอ้เกียร์” กัสพูดแบบลิ้นพันกันตามประสาคนเมา

“เออจริงด้วย แฟนบอกให้กลับก็ต้องรีบกลับ ไปจ๊ะที่รัก” เกียร์พูดพลางกอดคอ และเอาหน้าซบลงที่ไหล่ของขลุ่ย

“ตลกละ ใครแฟนมึง” ขลุ่ยสะบัดเกียร์ออกจนเกียร์เกือบตกเก้าอี้
“เออ ใครแฟนมึง ใครพูดว่ะ กูป่าวพูดนะ” เกียร์ปฏิเสธเป็นพัลวัน ตัวโอนเอนทำท่าจะตกจากเก้าอี้
ขลุ่ยรีบดึงเกียร์ไว้ แล้วเข้าประคอง

“กู๊ด กัส เดี๋ยวเรากับเกียร์ขอตัวกลับก่อนนะ ดูสภาพมันไม่น่าจะไหวแล้ว”

“อืมม โอเค ไปๆ ทางนี้ไม่ต้องห่วง” กู๊ดเอ่ย

ขลุ่ยประคองเกียร์ที่เดินโซเซออกจากร้านมาที่ลานจอดรถ

“ไม่ต้องประคอง เดินเองได้ นี่เด็กๆ พี่ยังไม่เมาหรอกน้อง เหล้าแค่นี้ทำไงพี่ไม่ได้ เดี๋ยวพี่เดินให้ดู” เกียร์ผละตัวออกจากขลุ่ยทำท่าจะเดินไปที่รถเอง

“ไม่ใช่ทางนั้น รถกูจอดทางนี้” ขลุ่ยตะโกนใส่เกียร์ที่กำลังเดินไปผิดทาง

“อ๋อๆ กูจำได้ แหมๆ ก็แค่เล่นมุกขำๆ เดินอ้อมออกกำลังกายไง” เกียร์กลับหลังหันทำท่าจากเดินต่อ ยังไม่ทันถึงสองก้าว ขาพันกันล้มลงไปกองกับพื้น

“เฮ้ยยยยยย!!!!”

ขลุ่ยตกใจรีบวิ่งไปประคองเกียร์ที่นอนยิ้มอยู่กับพื้น

“ยังไหว ยังไหว”

“ไม่ต้องพูดแล้ว” ขลุ่ยไม่สนใจฟังคำพูดของเกียร์ที่พร่ำเรื่อยเปื่อย พูดมากจนน่ารำคาญ ขณะนี้เขาประคองเกียร์เข้ามาอยู่ในรถ พร้อมคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย

ขลุ่ยมองหน้าเกียร์ในสภาพเมาแอ๋อยู่ข้างคนขับ
“นึกว่าจะแน่!!!” แล้วขับรถออกไป

ขลุ่ยพยายามเขย่าเกียร์ให้ตื่นขณะที่เขาขับรถเข้าไปในซอยบ้านของเกียร์

“เกียร์บ้านของนายหลังไหนว่ะ ตื่นๆ เกียร์ บอกก่อนว่าบ้านนายหลังไหน จะได้ไปจอดส่งถูกบ้าน”

“อืมมมม อะไร ง่วงงงง คนจะนอน อย่ามายุ่ง”

“เห้ยยย ไม่บอกจะรู้ได้ยังไงว่ะ ว่าบ้านอยู่หลังไหน ทำยังไงล่ะทีนี้?”
“โห จะตีสามแล้วด้วย ถ้ามันเข้าบ้านสภาพนี้ พ่อแม่มันจะหาว่าพาลูกเขาไปเสียคนหรือป่าวว่ะเนี่ยะ” ขลุ่ยบ่นพึมพำกับตัวเอง

“เอาว่ะ คืนนี้นอนห้องกูก่อนแล้วกันนะ” ขลุ่ยสะกิดบอกเกียร์ที่หลับอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีคำตอบใดๆ ตอบกลับมา

ขลุ่ยเลี้ยวรถเข้าจอดรถที่คอนโด เขาพยุงเกียร์อย่างทุลักลุเล

“โอ๊ยยยยย ทำไมเมาแล้วตัวหนักอย่างนี้ว่ะ เวรกรรมอะไรของกูเนี่ยะ กูต้องคอยตามเก็บมึงตามข้างทางตลอดเลยหรือไง ครั้งก่อนก็โชกเลือด ครั้งนี้ก็เมาแอ๋ กรรมของกูจริงๆ” พูดเสร็จก็ทิ้งเกียร์ลงบนโซฟา
“ตัวเหม็นหึ่งขนาดนี้ อย่าหวังจะได้เข้าห้องนอนกู กูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ Good Night”

ขลุ่ยกำลังเพลิดเพลินกับการอาบน้ำ เพราะรู้สึกเหนื่อย และเหนียวเหนอะหน่ะตัวมาทั้งวัน 

ทางด้านเกียร์เขานอนหลับอยู่บนโซฟา แต่เป็นจังหวะที่เขาพลิกตัว ทำไมตกจากโซฟาดังแอ่กกกกก

“โอ๊ยยยยยยยยยยย ไรว่ะเนี่ยะ มานอนตรงนี้ได้ไงว่ะ” เกียร์ลุกขึ้นยืน เดินโงนเงน มองซ้ายมองขวา แล้วเดินไปทางห้องนอนของขลุ่ย พร้อมกับล้มตัวนอนลงบนเตียงของขลุ่ย

ขลุ่ยผิวปากอย่างอารมณ์ดี
“ค่อยสดชื่นขึ้นหน่อย”  เขาเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปที่เตียงกำลังจะทิ้งตัวนอน

“เฮ้ยยยย!!! มึงมาอยู่ตรงนี้ได้ไงว่ะ” ขลุ่ยตกใจ เมื่อพบว่าเกียร์มานอนอยู่บนเตียงของเขา

“ลุกเดี๋ยวนี้เลย ลุกออกไป ตัวโครตเหม็นเลย” ขลุ่ยพยายามดึงเกียร์ให้ลุกออกจากเตียง

“ไม่เอา คนจะนอน จะนอนเตียงนุ่มๆ ไม่เอาโซฟา มันปวดหลัง” เกียร์ก็พยายามขัดขืนสุดฤทธิ์

“ไม่ได้ ลงไปเดี๋ยวนี้ อย่าให้ต้องใช้กำลังน่ะเว้ย”

“ไม่ จะนอนตรงนี้” เกียร์ยังตอบอย่างหน้ามึน

“เออ กูเตือนมึงแล้วนะ” ยังไม่ทันสิ้นเสียงของขลุ่ย

(แอ๊กกกกกกกกกกกกกก โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย)

ขลุ่ยถีบเกียร์ลงจากเตียงด้วยความรำคาญในมันมึนของเกียร์ที่ไม่รู้ว่ามาจากนิสัย หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“โอ๊ยยยยย เจ็บนะเว้ย พูดกันดีดีไม่ได้หรือไง แค่นี้ต้องใช้ความรุนแรงด้วยเหรอว่ะ” เกียร์เหมือนสติเริ่มจากกลับมา

“ผมพูดกับคุณดีดีแล้วครับ แต่คุณไม่ฟังผมเลย ผมง่วง ผมจะนอน โอเคนะครับ เชิญครับ ที่นอนของคุณอยู่ข้างนอก” ขลุ่ยล้มตัวนอนบนเตียงหยิบผ้ามาห่มอย่างสบายใจที่สามารถยึดเตียงกับมาเป็นของตัวเองได้อีกครั้ง

“เออ นอนข้างนอกก็ได้ว่ะ แม่งใจดำว่ะ ข้างนอกหนาวก็หนาว โซฟาก็แข็ง” เกียร์ทำน้ำเสียงจ๋อยๆ เรียกร้องความสนใจ แต่ไม่มีท่าทีใดจากขลุ่ยตอบกลับมา หนำซ้ำขลุ่ยยังปิดไฟ และเอาผ้าคลุมโปงเป็นการส่งสัญญาณว่าให้ออกรีบออกไปเร็วๆ

กลางดึก ขลุ่ยสะดุ้งตื่นขึ้นมา นึกเป็นห่วงเกียร์ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นไงบ้าง จึงทำท่าจะลุกขึ้นไปดูเกียร์ข้างนอก แต่ปรากฏว่าเมื่อเขาเปิดไฟที่หัวเตียง สิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรก ก็คือ……………………..

“มึงมานอนอยู่ข้างกูได้ไงว่ะ” ขลุ่ยทำท่าจะปลุกเกียร์ให้ตื่น แต่ก็ชะงักและเปลี่ยนเป็นนั่งมองดูเกียร์ที่กำลังหลับปุ๋ยแทน

“มึงนี่สุดตีนจริงๆ เลยว่ะ” ขลุ่ยบ่นเกียร์ออกมาเบาๆ แล้วก็เผลอยิ้มออกมา

ขลุ่ยขยับตัวเบาๆ เอื้อมมือไปห่มผ้าให้เกียร์ และล้มตัวลงนอนหลับไปข้างๆ กัน

เกียร์ขยับตัวเบาๆ แอบนอนอมยิ้ม ทั้งๆ ที่ยังคงหลับตา

………………………………………………


ฝากติดตามด้วยนะครับบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-06-2016 23:17:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-06-2016 23:35:34
แมนๆ เขาคุยกัน ชอบๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 7] 18.06.16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-06-2016 00:27:20
อร๊ายยย.  นี้คือเขาชอบกันยังเนี่ยะ แมนเกิ๊นนน อิอิ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 8] 22.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 22-06-2016 21:20:31
ตอนที่ 8

เกียร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า……………………..

เขาพบว่ามีใครบางคนกำลังนอนซบไหล่อุ่นๆ ของเขา

ใครคนนั้น   เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากขลุ่ยที่กำลังหลับปุ๋ย

“เวลานายหลับนี่มันน่า…………………….ชะมัด”

เกียร์นอนนิ่งไม่กล้าขยับตัว มองขลุ่ยอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน

ขลุ่ยขยับตัว..................

เกียร์แกล้งหลับตาเหมือนคนที่กำลังหลับอยู่

ขลุ่ยลืมตาขึ้นมา ตกใจเล็กน้อยที่ตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของเกียร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เค้าเองก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวแรงๆ เพราะกลัวว่าเกียร์จะตื่นขึ้นมาเห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้

ขลุ่ยค่อยๆ ขยับตัวเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเกียร์ แต่กลับถูกเกียร์เนียนทำเป็นละเมอกอดขลุ่ยเอาไว้แน่น

ขลุ่ยรู้สึกใจเต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาข้างนอก เขาพยายามขยับตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของเกียร์และรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที

เกียร์ลืมตามองตามหัวเราะชอบใจเบาๆ

“โอ๊ยยยย นี่มันอะไรของมันว่ะ เป็นบ้าอะไรเนี่ยะ ทำไมต้องรู้สึกแปลกๆ ตอนโดนมันกอดด้วยว่ะ” ขลุ่ยฟุ้งซ่านคิดไม่ตก

“ไม่ใช่ล่ะ เราแมนทั้งแท่งนี่หว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ” ขลุ่ยยังคงพึมพากับตัวเอง

“บ่นอะไรของมึงว่ะ แล้วกูมานอนที่นี่ได้ยังไง มึงทำมิดีมิร้ายกูหรือป่าวเนี่ยะ” เกียร์เดินมาพูดใกล้ๆ ด้านหลัง

“เฮ้ยยย จะบ้าหรอ พูดอะไรของมึง ก็เมื่อคืนกูจะไปส่งมึงที่บ้าน แต่ปลุกเรียกเท่าไหร่มึงก็ไม่ตื่นอีกิย่างกูไม่รู้ว่าบ้านมึงหลังไหน จะให้กูทำยังไง กูเลยตำเป็นต้องเอามึงมานอนที่นี่แร่ะ”

“อ๋อเหรอ นึกว่ามึงวางแผนจะอ่อยกูซะอีก”

“ไอ้บ้าเอ่ย ตลกล่ะ กูแมนทั้งแท่งเว้ย เหม็นเน่าอย่างมึงเมื่อคืนนี้ กูคงไม่พิศวาสหรอกนะ” พูดเสร็จพร้อมโยนผ้าเช็ดตัวใส่หน้าเกียร์

“ไปอาบน้ำเหอะมึง เน่าจนแมลงวันจะตอมล่ะ”

เกียร์ยืนยิ้มแป้นแล้น
“ปวดหัวไปหมด เนี่ยะปวดตัวด้วยว่ะ ปวดแขนมาก เหมือนมีคนนอนทับแขนทั้งคืนเลยว่ะ”

ขลุ่ยสะดุ้ง

“ใครจะไปนอนทับแขนมึง มึงนอนทับแขนตัวเองน่ะซิ ไปๆ ไปอาบน้ำ"

“อาบด้วยกันป่ะ”

“รีบไปก่อนที่กูจะอดใจไหว”

“จะอาบด้วยกันเหรอ”

“จะถีบมึงมากกว่า” ขลุ่ยทำท่ายกขาขึ้น

“โอเคๆ ไปละ” เกียร์ผิวปากเดินเข้าห้องน้ำ

เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำโดยใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เดินตรงมาที่ขลุ่ย

“เอ่ออออออ” ขลุ่ยตาค้างขณะที่ปากคาบขนมปังซึ่งเป็นอาหารเช้าของเขา

“นี่มึงจะโชว์ของตอนกูกินข้าวอีกแล้วเหรอว่ะ ไม่เอาน่ะ กูหิว เดี๋ยวกูแดกไม่ลงอีก”

“เปล่าๆ แล้วจะให้กูใส่อะไรล่ะ ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมเหรอไง เอ๊ะ! พูดแบบนี้เหมือนอยากดู เอาหน่อยป่ะละ” เกียร์ทำท่าสะบัดผ้าเช็ดตัวไปมา

“พอเลย พอเลย แปปนึง เดี๋ยวหาชุดมาให้”

“ดีมากเลยไอ้ลูกน้อง”

“ครับบบบบบบบบบบบบ คุณลูกพี่”

ขลุ่ยหายเข้าไปในห้องสักพัก กลับออกมาพร้อมเสื้อผ้า และโยนให้กับเกียร์

“อ่ะนี่ เอาไปใส่ได้เลย เพิ่งซื้อมายังไม่ได้ใส่เลย”

“เอาตัวเก่าๆ ก็ได้ กูไม่ถือหรอก” เขายื่นเสื้อผ้าคืนให้

“เอาไปเหอะ อย่าเยอะมึงอ่ะ ให้ใส่ก็ใส่ไป” ขลุ่ยตัดบท เดินไปที่ครัว

“ขอบใจนะ แล้วนี่นายทำไรกินอ่ะ ขอกินบ้างดิ เริ่มหิวแล้ววะ” เกียร์พูดน้ำเสียงออดอ้อน

“เออ เอาดิ ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย มีแค่นี้แร่ะ ขนมปังจะใส่นม หรือแยมอะ เดี๋ยวทำไว้ให้”

“อะไรก็ได้ อยากใส่อะไรให้ก็กินหมดแร่ะ”

“เหรอออออ เดี๋ยวพ่อใส่วิกซอลให้กินซะเลย ปากดีนัก” ขลุ่ยพึมพำเบาๆ

“ขอบคุณนะ” เกียร์เดินยิ้มมาหยิบขนมปังที่วางบนโต๊ะไปนั่งกินที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์

“กิน กิน แล้วก็รีบกลับบ้านไปเลยนะ”

“ทำไมต้องรีบไล่แต่เช้าด้วยว่ะ” เกียร์หันมองหน้าขลุ่ยด้วยอาการน้อยใจ

“กูแค่คิดว่าป่านนี้ที่บ้านมึงคงเป็นห่วงกันแล้ว เมื่อคืนก็ไม่ได้กลับบ้าน แถมไม่ได้โทรบอกอีก”

“เพราะแบบนี้เองเหรอ” เกียร์ยิ้มโล่งอก

“ก็เออดิว่ะ ทำไม มีอะไร”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” เกียร์รีบคว้าขนมปังมากินต่อ แล้วเดินไปที่ระเบียง

“วิวสวยดีนี่หว่า กลางคืนคงสวยกว่านี้ใช่มั้ย” เกียร์เอ่ยถามขลุ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“อืมมม สวยนะ แต่ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่หรอก” ขลุ่ยเดินมายืนข้างๆ

“ทำไมละ??”

“ไอ้โง่เอ๋ยยยยยย ก็กูเพิ่งย้ายมาได้ไม่กี่วัน ขนาดของยังไม่มีเวลาจัด จะเอาเวลาที่ไหนมายืนชมวิวว่ะ โง่แบบนี้อย่าเป็นเลยลูกพี่น่ะ”

“เออว่ะ ไม่น่าถามเลยเนอะ ขนาดคอนโดสวยๆ มึงยังปล่อยให้เป็นกองขยะได้ คงไม่ใช่คนสุนทรีย์มายืนชมวิวหรอกจริงมั้ย?”

“กวนTeen ละมึง”

“เออออ.... วันนี้มึงไปไหนหรือเปล่าวะ”

“มีอะไร จะชวนไปไหนอีกละ”

“ตอบมาแค่ว่างหรือไม่ว่างแค่นั้นพอ อย่าถามมาก ได้เปล่าว่ะ”

ขลุ่ยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบ

“ไม่ว่างว่ะ”

“อ้าวเหรอ ไม่เป็นไร งั้นกูกลับก่อนล่ะกัน เดี๋ยวชุดกูจะซักแล้วเอามาคืนให้นะ” เกียร์เดินกลับเข้ามาในห้อง และเก็บของเพื่อกลับบ้าน

ขลุ่ยมองดูเกียร์ที่กำลังเก็บของด้วยสีหน้าจ๋อยๆ รู้สึกโกรธตัวเองที่ตอบเขาไปว่าไม่ว่าง ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ว่าง

“กูกลับก่อนนะ” เกียร์เดินไปเปิดประตู

“ให้กูไปส่งมั้ย” ขลุ่ยรีบเดินมาประชิดด้านหลังเกียร์

“ไม่เป็นไรว่ะ กูกลับเองได้ แค่นี้เอง” แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

วินาทีนั้น ขลุ่ยรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกกับสิ่งที่พูดออกไป

หลังจากที่เกียร์กลับไปแล้ว

ขลุ่ยนั่งนิ่งครุ่นคิด เหมือนกำลังเกิดความสับสนครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นกับเขาซะแล้ว ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆ ที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับเกียร์ ทำไมถึงรู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ รู้สึกดีที่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน รู้สึกดีใจมากๆ กับเรื่องราวเมื่อ 2 ปีก่อน ที่เกียร์ยังจำได้ดี ไม่ลืมเลือน และเป็นฝ่ายอยากเข้ามาทำความรู้จักกับเขา ทำไมต้องรู้สึกใจหายทุกทีที่เกียร์หันหลังแล้วเดินจากไป เพราะอะไรกัน? ขลุ่ยนั่งคิดหาคำตอบ เพราะเขาเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกกับเกียร์เกินคำว่า “เพื่อน” เพราะที่ผ่านมาเขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเขาเป็นชายแท้ทั้งแท่ง

ขลุ่ยรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับเจมส์ และบอย ที่เป็นเพื่อนรักของเขาเลย ทั้งที่เขาสนิทกับเพื่อนทั้งสองคนมากๆ
“บ้าไปแล้วแน่ๆ เป็นไปไม่ได้ กูเป็นผู้ชาย” ขลุ่ยทนไม่ไหว ตะโกนออกมา

ทางด้านเกียร์เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็รีบขึ้นห้อง ทิ้งตัวลงนอนกางแขนขาบนเตียง ในสภาพคิดหนักไม่ต่างกัน

“นี่กูเป็นอะไรของกูว่ะเนี่ยะ”

เกียร์เองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกผิดหวังกับการถูกปฏิเสธครั้งนี้เอามากๆ

เกียร์นอนคิดถึงเรื่องราวเมื่อ 2 ปี ก่อน เขาคิดถึงสายตาคู่นั้นที่มองมาที่เขา มันทำให้เขาไม่มีวันลืมสายตาคู่นั้นได้อีกเลย
ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เกียร์ฝันถึงชายนิรนามคนนั้นบ่อยๆ ฝันเห็นสายตาคู่นั้น เห็นมือคู่นั้นที่ดึงเขามากอดเอวไว้ด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะตกจากรถ เกียร์เฝ้าคิดถึงเขาคนนั้นที่ช่วยชีวิตเขามาตลอด จนวันหนึ่งได้เจอกันอีกครั้ง มีโอกาสได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้น
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่กูคิดถึงผู้ชายมาตลอดเลยหรือว่ะ” เกียร์ระเบิดความรู้สึกของตัวเองออกมา

 











ฝากติดตามด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 8] 22.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-06-2016 23:34:54
สับสนกันอยู่ช่ายม่ะ เอาใจช่วยทั้งคู่จร้า ^^
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 8] 22.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2016 01:03:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 8] 22.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-06-2016 10:24:14
 :man1: :man1: :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 27-06-2016 19:35:37
ตอนที่ 9

4 วันผ่านไป.....................

ไม่มีการติดต่อใดๆ ระหว่างเกียร์ และ ขลุ่ย ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่ต่างรอคอยการติดต่อมาของอีกฝ่าย

"มึงหายหัวไปไหนว่ะ ทำไมไม่มากวน Teen กูเหมือนที่เคยทำ หรือว่ามึงไปกวน Teen คนอื่นแล้วโดนกระทีบตายไปแล้วว่ะ"

"สายแล้วนี่หว่า นั่งคิดอะไรเพ้อเจ้อว่ะเนี่ยะ ไปเรียนดีกว่า วันนี้วันแรกมีแววสายละกู"

เช้าวันเปิดเทอมวันแรก ขลุ่ยใช้บริการรถไฟฟ้าแทนการขับรถสปอร์ตไปเรียน......


ขลุ่ยมองซ้าย มองขวา ตลอดทางขณะที่กำลังเดินไปสถานี หรือแม้แต่ตอนที่เขายืนอยู่บนชานชลา ขณะที่รถไฟฟ้ากำลังแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าของเขา เขาก็ยังพยายามมองหาใครบางคนอยู่ดี แต่เหมือนเขาจะพบกับความผิดหวัง

เขายืนอยู่บริเวณประตูของรถไฟฟ้า ซึ่งคนแน่นเบียดเสียดยัดเยียดมาก ไม่ต่างอะไรกับปลากระป๋องเหมือนที่ใครๆ เคยพูดเอาไว้จริงๆ

ถ้ามนุษย์ไฟไวเหมือนปลากัด คงท้องกันทั้งขบวนแน่ๆ

"เปิดเทอมวันแรก ทำไมหน้าตาไม่สดใสเลย"มีใครบางคนกระซิบเบาๆ ข้างๆ หู"

ขลุ่ยรีบหันหน้าตามเสียงนั้น ด้วยความที่รถไฟฟ้าแน่นมาก ทำให้หน้าของขลุ่ยหันมาชนกับจมูกของเกียร์เต็มๆ

ทั้งคู่นิ่งมองหน้ากันราวกับเวลาหยุดนิ่ง และตอนนี้มีเพียงแค่เขาสองคน


"ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับ"  เสียงพูดมาจากด้านหลัง เนื่องจากเขาสองคนยืนขวางประตูทางออกอยู่

"ครับๆ " ทั้งคู่เบี่ยงตัวหลบ ผู้คนที่เดินเบียดกันเพื่อขึ้นลงรถไฟฟ้า

"ขึ้นมาตอนไหน ทำไมไม่เห็น"

"แสดงว่ามองหาอยู่ตลอดเลยดิ" เกียร์ยิ้มหวาน

"ป่าวสักหน่อย ก็ตอนรอรถกูไม่เห็นมึงกะเท่านั่นแร่ะ"

"นึกว่ามึงมองหากูอยู่ตลอดซะอีก"

"ทำไมกูต้องมองหามึงด้วยว่ะ"

"ไม่รู้ดิ คิดถึงมั้ง"

"ใครจะ.... " ขลุ่ยยังพูดไม่ทันจบ เกียร์ก็พูดสวนขึ้นมา "กูคิดถึง"

ประโยคนี้ทำให้ขลุ่ยไม่กล้าที่จะพูดต่อ

"แล้วทำไมวันนี้ไม่ขับรถไปล่ะ" เกียร์สงสัย

"เปิดเทอมวันแรก มึงอยากเห็นกูเป็นตัวตลก โดนเพื่อนๆ พี่ๆ หมั่นไส้เหรอว่ะ  หน้ากูดูเหมือนคนขี้อวดหรือไง แล้วมึงล่ะ?  ไม่ขี่รถของมึงไปล่ะ สาวกรี๊ดกันทั้งมหาลัยแน่ๆ"

"กูเคยบอกมึงเหรอ ว่ากูซื้อรถมาขี่ให้สาวกรี๊ด กูแค่อยากเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนคนอื่น แต่รถคือสิ่งที่กูรัก และไม่ได้ซื้อมาไว้อวดใคร"

"กูก็คิดแบบนั้นแร่ะ แล้วมึงจะมาแกล้งแซวกูทำไมว่ะ"

"ไม่ไง กูเห็นมึงเรียนวิศวะ ขับรถเท่ๆ ไปคงดูดีน่ะ แต่กูเรียนดนตรีไทย ขี่บิ๊กไบค์มันดูขัดกันเปล่าว่ะ"

"กูว่าไม่เกี่ยวนะ ชอบอะไรกะทำไปดิว่ะ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร"

"อืมมมก็จริงนะ เป็นตัวของตัวเองดีสุด"

เกียร์รู้สึกได้ถึงความจริงใจ และความคิดของขลุ่ยที่เหมือนๆ กันกับเขา

สองหนุ่มเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในมหาวิทยาลัย

"ขอบใจนะ"

"ขอบใจอะไรว่ะ" ขลุ่ยงุนงง

"ขอบใจที่เดินมาส่งกูที่คณะไง"

ขลุ่ยเงยหน้าดู เห็นป้ายตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์

"คือแบบว่ามันเป็นทางผ่านพอดีป่ะว่ะ กูไม่ได้เดินมาส่งมึง เพ้อเจ้อใหญ่ละ กูไปก่อนนะ"

ขลุ่ยเดินตรงต่อไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกล



วันเปิดเทอมวันแรก ไม่ได้มีการเรียนการสอนที่จริงจัง ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการทำความรู้กัน ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ระหว่างเพื่อนใหม่ที่จะใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยร่วมกันถึง 4 ปี

เกียร์ค่อนข้างจะฮอตในหมู่สาวๆ เพราะคณะนี้มีผู้ชายเป็นคนส่วนน้อย


ต่างกับขลุ่ย ที่คณะของเขามีแต่ผู้ชายเป็นคนส่วนมาก สาวๆ มีไม่กี่คน แถมเป็นสาวหล่อหลายคนซะอีก


เย็นวันนั้น แต่ละคณะส่วนใหญ่จะมีการนัดทำกิจกรรม เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ ทำความรู้จักกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง


ณ ลานกิจกรรม คณะศิลปกรรม


"พี่นัดกี่โมง ทำไมถึงชักช้า เดินกันให้ไวๆ หน่อย " เสียงดุดันผ่านโทรโข่ง ทำให้รุ่นน้องปีหนึ่งรีบเดินมารวมกันกัน

ขณะที่คนส่วนใหญ่อยู่ที่ลานกิจกรรม แต่เกียร์ยังนั่งกินลูกชื้นปิ้งอยู่ที่โต๊ะหน้าตึกดุริยางคศิลป์อย่างสบายใจ

อืดดดดด อื๊ดดดดดดดดด

โทรศัพท์ของเกียร์ที่ปิดเสียงเอาไว้ สั่นไม่หยุด เนื่องจากบอยกำลังกระหน่ำโทรมาเขาอยู่

"ฮัลโหล ว่าไง"

"มึงอยู่ไหนเนี่ยะ คนอื่นเขามากันหมดแล้ว ไหนบอกไปฉี่แปปเดียวไง พี่เขากำลังเช็คชื่อแล้วนะเว้ย รีบๆ มา"

"อืมมมม โอเค" เสียงเกียร์ตอบเรียบๆ ไม่ได้ตื่นใจ ตกใจแต่อย่างใด และลุกขึ้นเดินมาทางลานกิจกรรมแบบชิวๆ

เกียร์เดินมาถึงลานกิจกรรม ในขณะที่ทุกคนนั่งกันอยู่อย่างเรียบร้อย


"น้องคนนั้นน่ะ ที่มาสาย มาข้างหน้าเลย"

เกียร์กำลังจะโดนรุ่นพี่เล่นงาน เนื่องจากเข้ากิจกรรมสายเป็นคนสุดท้าย

"ว่าไงเรา ทำไมมาสาย ไม่รู้เหรอไงว่าเจานัดกันกี่โมง" เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ

"ทราบครับ แต่พอดีผมปวดท้อง เลยไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาดันหิว เลยซื้อลูกชิ้นปิ้ง 2 ไม้ แล้วนั่งกินก่อนจะมานี่ครับ" พร้อมยิ้มให้

"นี่มึงกวน Teen กูเหรอ" รุ่นพี่เริ่มไม่พอใจกับคำตอบของเกียร์

"ป่าวพี่ ผมไม่ได้กวนTeen ผมพูดความจริง

“คือ 1 ผมปวดท้องจะให้ผมทนอั้นไว้ได้ยังไงพี่
2 ผมหิว ผมก็ต้องกินดิพี่ ไม่งั้นผมจะมีเอาแรงที่ไหนมาทำกิจกรรม

แต่ผมยอมรับว่าผมผิดที่มาสาย ไม่ตรงต่อเวลา ผมยินดีโดนทำโทษครับ”

"นี่นายอยากจะโชว์พราวกับเพื่อนใช่ไหม" รุ่นพี่คนหนึ่งที่ยืนอยู่เอ่ยแทรกขึ้นมา

"ป่าวเลยพี่ ผมไม่อยากโกหก ครับพี่ เลยพูดความจริงดีกว่า" เกียร์ตอบซื่อๆ

"ดี งั้นคุณควรจะเรียนรู้ถึงความสำคัญของการเข้ากิจกรรมให้มากกว่านี้ คุณผิด คุณจะต้องถูกทำโทษ ยอมครับได้ใช่มั๊ย" รุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมเดินมาตบไหล่

"ยอมรับครับ" เกียร์กล่าวหนักแน่น   

“ดี.................. งั้นเย็นวันพรุ่งนี้ นายต้องล่าลายชื่อเพื่อนๆ ปี 1 พร้อมเบอร์โทร ในคณะมาทั้งหมด และถ้าพี่ถามว่าเพื่อนคนไหนชื่ออะไรนายต้องตอบให้ได้ โอเคมั๊ย”

“พรุ่งนี้เลยเหรอพี่” เกียร์หน้าเหวอ

“ก็เออดิว่ะ ไหนบอกยอมรับผิดไง ในเมื่อนายไม่เห็นความสำคัญของกิจกรรม ไม่สนใจว่าเพื่อนๆ นั่งรออยู่ นายก็ต้องรู้จักเพื่อนทุกคนให้ลึกซึ้ง โอเคตามนี้ ไปนั่งได้”

“ซวยแล้วมึง” เพื่อนพูดเมื่อเกียร์นั่งลงข้างๆ เขา

“เออว่ะ โครตซวยเลย”

“คุยอะไรกัน ไม่ใช่เวลามาคุย อยากโดนทำโทษเพิ่มหรือไง” รุ่นพี่ตวาดเกียร์และเพื่อน

“ไม่ดีกว่าครับ” เกียร์ยิ้มแหยๆ

หลังจากเสร็จกิจกรรม

“จ๋อยเลยมึง” เพื่อนคนนึงตบไหล่เขาเบาๆ

“คณะของเรา มีทั้งหมด 4 เอก รวมๆ แล้วก็เกือบ 200 คน แล้วกูจะจำหมดหรือป่าวว่ะเนี่ย”

“แล้วตอนนี้มึงได้กี่ชื่อแล้วละ” เพื่อนๆ เริ่มเป็นห่วง

“ 34 ว่ะ เฉพาะเอกเรา ที่เหลือเดินตามไม่ทันว่ะ พอเลิกบุ๊ปสลายตัวปั๊ป พรุ่งนี้คงต้องวิ่งวุ่นแต่เช้าเลย”

“รายชื่อกูว่าไม่ยากหรอก พวกกูช่วยมึงได้ แต่มึงจะจำชื่อทุกคนได้ยังไงนี่ซิปัญหา”

“เออว่ะ แล้วที่มึงบอกว่ารายชื่อไม่ยากหมายความว่าไง”

“อ่ะ เอานี่ไป กูเพื่อนมึงนะเว้ย จัดมาให้แล้ว” เพื่อนคนนั้นยิ้มแป้นยื่นแผ่นกระดาษรายชื่อให้กับเกียร์

“เฮ้ยยย นี่มันรายชื่อครบทุกเอกเลยนี่หว่า มึงเอามาจากไหนเนี่ยะ มีชื่อเบอร์โทร ชื่อเล่นพร้อม” เกียร์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เด็กๆ ว่ะเพื่อน” ทำท่าภูมิอกภูมิใจเหมือนผู้ชนะ

“ยังไงว่ะ” เพื่อนคนอื่นเริ่มสงสัยตาม

“ง่ายๆ เลยเพื่อน กูก็ไปตีสนิทกับหัวหน้าห้องแต่ละเอก แล้วออดอ้อนขอรายชื่อมาไง ยังไงหัวหน้าห้องก็ต้องมีรายชื่อ และเบอร์โทรทุกคนอยู่ละ ถึงไม่มีก็ขอได้ไม่ยาก”

“สมองมึงที่ล้ำสุดๆ ไปเลยว่ะ นับถือๆ”

“ขอบใจว่ะ มึงนี่สุดยอดจริงๆ”

 “จริงๆ หัวหน้าเอกนาฏยศิลป์ โครตสวยอ่ะ กูเล็งไว้ตั้งแต่ปฐมนิเทศละ เลยได้โอกาสขอเบอร์ทำความรู้จัก 55”

“โธ่!! กูก็นึกว่ารักเพื่อน ที่แท้เพราะหญิง” เกียร์ส่ายหัวในความหน้าหม้อของเพื่อน

“มึงก็อย่าคิดแบบนั้นซิว่ะ เอาเป็นว่ามึงได้ประโยชน์ก็จบนะ งั้นกูกลับก่อนนะ พอดีนัดบี เด็กนาฏยศิลป์ ไปเลี้ยงไอติมเป็นการขอบคุณว่ะ”

“โง้วววววววววววววววววววววววววววว ไม่ธรรมดาว่ะ กูไปด้วยคนดิ” เพื่อนๆ รีบเสนอตัว

“เออไปดิๆ เห็นบีบอกว่าจะเอาเพื่อนไปด้วย มึงไปด้วยกันนะไอ้เกียร์ จะได้ทำความรู้จักด้วยไง”
“ไม่ไปว่ะ ระหว่างสาวๆ ไม่กี่คน กับกูต้องนั่งจำรายชื่อเป็นร้อย กูกับบ้านไปนั่งจำชื่อก่อนดีกว่า”

“เอองั้นตามใจ กูสองคนไปก่อนนะ กลับบ้านดีดี”

เพื่อนพากันเดินจ้ำอ้าวไปหาสาวๆ ที่ยืนรออยู่ไม่ไกล

“ยังไม่กลับอีกเหรอมึง”
เสียงคุ้นเคยดังลอยมา ทำให้เกียร์เงยหน้าขึ้นตามเสียง

“อ้าวมารับกูแล้วเหรอ รอตั้งนาน ช้านะมึง” เกียร์ตีหน้าเนียนใส่

“เดี๋ยวก่อนนะ ใครมารับคุณครับ ผมเดินมาของผม คือแบบว่าคณะของคุณมันเป็นทางผ่านครับ ไม่ได้มารับ หลงตัวเองไปล่ะ”

“อ้าวเหรอ โทษทีนะ กลับบ้านกันเหอะ” เกียร์ลุกขึ้น แล้วกอดคอขลุ่ยให้เดินกลับบ้านไปด้วยกัน

“อะไรของมึงเนี่ยะ ไม่สนิทอย่าเล่น” ขลุ่ยพยายามสะบัดแขนของเกียร์ที่กอดคอของเขาอยู่

“อย่ามาสะดีดสะดิ้ง เดินดีดี กูยิ่งเครียดๆ อยู่”

ขลุ่ยหยุดเดิน
“เครียดอะไรว่ะ”

เกียร์เล่าเหตุการณ์วันนี้ที่ลานกิจกรรมให้ขลุ่ยฟัง

“5555555555555555555555555555555555 ไอ้โง่เอ๋ย เลือกบอกเหตุผลปัญญาอ่อนไป”

“ปัญญาอ่อนไรว่ะ กูพูดความจริง”

“ความจริงของมึงมันกวนTeen มากๆ เลยว่ะ ถ้ากูเป็นรุ่นพี่มึงจะจัดให้หนักกว่านี้อีก”

เกียร์ทำหน้าจ๋อย

“เห้ยๆ กูพูดเล่น แล้วมึงหารายชื่อได้เท่าไหร่แล้วละ”

“รายชื่อกูได้ครบล่ะ แต่จะทำยังไงให้กูจำชื่อทุกคนได้ ถ้ารุ่นพี่ถามกูพรุ่งนี้อ่ะดิ” เกียร์ถอนหายใจยาววววว

ขลุ่ยนิ่งเงียบเหมือนคิด

“กูคิดออกล่ะ”

“จริงหรือว่ะ ทำไงว่ะ”

“ใช้หลักจิตวิทยาไง รับรองได้ผลเชื่อกู”

“ยังไงๆ รีบบอกมาดิ”

“ไม่บอกว่ะ”

“อะไรของมึงเนี่ยะ ไม่บอก หรือ ไม่รู้”

“รู้แต่ยังไม่บอก”

“อ้าว กวน Teen กูล่ะ”

“มึงเลี้ยงข้าวกูก่อนดิ โครตหิวเลย แล้วกูจะบอก”

“โธ่เรื่องแค่นี้ บอกกูแต่แรกก็จบละ อยากกินอะไร เดี๋ยววันนี้ลูกพี่จัดให้เต็มที่เลย ขอให้วิธีของมึงได้ผลละกัน”

“แน่นอนดิว่ะ”

“ตกลงจะกินอะไร”

“ซื้อไรง่ายๆ ไปกินบนห้องก็ได้”

“นี่มึงชวนกูขึ้นห้องอีกละ คิดไรกับกูป่าวเนี่ยะ หรือว่ามึง?????????????? ติดใจซิกแพคกูใช่มะ”
“ปากเสียนะมึง ไม่ต้องไปล่ะ กูอารมณ์ไม่ดี”

“โอ๋ๆ ขอโทษนะ งอนไปได้นะตะเอง” เกียร์ทำตาปริบๆ ออดอ้อนขลุ่ยให้หายงอน

“เออๆ”

“ขลุ่ยน่ารักที่สุดในโลกเลย ใจดี หล่อ ดูดีมีชาติตระกูลมากๆ เลยครับบบบบบบบบบบบ”

“พอๆ ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมาก เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจนะ”

“โอเคครับ” เกียร์เอามือปิดปาก หยุดพูดทันที

เมื่อขึ้นมาถึงคอนโดยของขลุ่ย

“ตกลงต้องทำยังไงถึงจะจำชื่อทุกคนได้ในวันเดียว”

“ไม่มีหรอก จำชื่อ จำหน้า คนเป็นร้อยได้ในวันเดียว”

“อ้าววว นี่มึงหลอกกูเหรอ”

“ป่าวๆ ไม่ได้หลอกโว๊ย แต่มันพอจะมีวิธีที่จะให้มึงเอาตัวรอดได้ มึงรู้จักวิธีเกร็งข้อสอบป่าว ประมาณนั้นแร่ะ”
“ยังไงว่ะ ยิ่งพูดยิ่งงง”

“ก่อนอื่นมึงเอาลิสต์รายชื่อมาก่อน แล้วมึงก็เมมเบอร์พวกนี้เข้าไปให้ได้เยอะที่สุดก่อน”

“เมมทำไมว่ะ”

“อย่าพูดมาก รีบเอาโทรศัพพท์ของมึงมาเมมด่วนๆ เลย ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะมึง เดี๋ยวคนอื่นก็นอนหมดหรอก”

“มึงจะให้กูไล่โทรหาทีละคนเหรอ ตายพอดี จนเช้าก็ไม่ครบ”

“คุณลูกพี่ครับ โง่แล้วอยากเสือกพูดมากครับ ทำไปก่อน เดี๋ยวจะอธิบาย เอาชื่อของเอกอื่นก่อนนะ”

“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”

เกียร์ก้มหน้าก้มตาเมมเบอร์เพื่อนลงในโทรศัพท์มือถือของเขา

“ได้เยอะยังมาดูดิ”

ขลุ่ยคว้าโทรศัพท์เกียร์มาดู โดยกดเข้าไปที่ไลน์  ดูตรงเพื่อนใหม่ ที่เพิ่งแอดเข้าไป

“นี่ไงไลน์เด้งเพียบเลย ทีนี้มึงก็เห็นหน้าเพื่อนๆ ที่มึงเมมเบอร์เข้าไปแล้วนะ”

“โห แบบนี้นี่นะ มันจะช่วยกูยังไงว่ะเนี่ยะ ให้กูไล่ดูรูปโปรไฟล์เพื่อนทั้งคืนเหรอ”

“ไม่ใช่ ขอความช่วยเหลือดิวะ เดี๋ยวกูจัดการให้”

ขลุ่ยหยิบโทรศัพท์กดแชทและพิมพ์ข้อความถึงเพื่อนใหม่ในไลน์ของเกียร์

“Jumbo Gear” : หวัดดีเราเกียร์ดนตรีนะ อยากจะขอความช่วยเหลือเพื่อนๆ หน่อยได้มั๊ยครับ คือแบบนี้นะ...
Line 1 : OK
Line 2 : OK
Line 3 : OK
Line 4 : OK
Line 5 : OK
ฯลฯ
ขลุ่ยร่ายยาวคุยกับเพื่อนๆ ในแชทของเกียร์

“นี่นะ คนพวกนี้ กูลากมาเป็นไลน์กลุ่มเรียบร้อย เขาเต็มใจจะช่วยมึง มึงลองดูละกันว่ามีใครบ้าง หน้าตาเป็นยังไง จำชื่อคนพวกนี้ให้ได้ล่ะ รับรองมึงรอดแน่พรุ่งนี้”

“แล้วมึงจะรู้ได้ยังไงว่ะ ว่าพวกรุ่นพี่จะเรียกถามคนพวกนี้
“เอาน่า เชื่อกูเหอะ ไม่มีไรจะเสียนิจริงมั้ย ลองดูๆ”

“เออๆ กูจะลองเชื่อมึงดูสักครั้งละกัน ขอบใจมากว่ะ”

“อืมมม ไม่เป็นไร มึงนั่งดูไปล่ะกัน เดี๋ยวกูไปเวฟข้าวมาให้กิน”

“อืม โอเค ขอบใจว่ะ”

เกียร์หมกหมุ่นทำตามที่ขลุ่ยบอกอย่างขมักเขม่น

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง...................

“เป็นไงบ้าง จำได้หมดมั้ย”

“เกือบละ คุยกับทุกคนแล้ว โครตโชคดีเลย ที่เพื่อนๆ น่ารักมาก”

“เออ งั้นก็ดีแล้ว มึงดูต่อไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”

ขลุ่ยเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งเกียร์นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์

“เป็นไงบ้างว่ะ อ่าวววววววววววววววววววว” ขลุ่ยเดินเช็ดผมตรงมาที่โซฟาที่เกียร์นั่งอยู่ เขาพบว่าเกียร์เผลอหลับไปซะแล้ว มือยังถือโทรศัพท์อยู่เลย

“หมดสภาพเลยมึง” ขลุ่ยเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์จากมือของเกียร์ เอาไปชาร์ทแบตให้ พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้านวม มาห่มให้เกียร์ที่เผลอหลับไปเพราะความเพลีย

“ฝันดีนะ” ขลุ่ยเอ่ยเบาๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน




ราตรีสวัสดิ์นะครับทุกคน
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-06-2016 19:58:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 27-06-2016 20:12:09
ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ช่ะ น่ารักอ่ะ ทั้งขลุ่ย ทั้งเกียร์ มีความเกรียนในตัวเอง 5555
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 29-06-2016 10:52:58
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ เด่วจะรีบอัพต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 29-06-2016 13:18:10
 :-[ เอ้าจริงๆนะ ใครจะได้ใครอ๊ะ นึกภาพไม่ออก รู้สึกว่า ขลุ่ย ก็เเมนๆ เกียร์ก็ออกเเมนๆ
เเต่ไปๆมาๆ ชักยังไง  :hao6:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 9] 27.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 29-06-2016 17:19:13
ง้ออออออออออวววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 10] 29.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 29-06-2016 21:24:35
ตอนที่ 10


เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงง

ขลุ่ยลืมตา งัวเงีย

"อรุณสวัสดิ์นะ"

"อืมมม อรุณสวัสดิ์ ห๊ะ" ขลุ่ยขยี้ตาพยายามเรียกสติของตัวเองให้ตื่น สิ่งที่เขาเห็นคือ เกียร์นอนยิ้มอยู่ข้างๆ

"นี่มึงมานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ตั้งแต่เมื่อคืนไง"

"คำว่ามารยาทอ่ะ มีบ้างมั๊ย"

"ก็เพราะว่ามีมารยาทไง ถึงได้ไม่ปลุก เห็นว่ากำลังหลับสนิทเลย"

"ไม่ใช่ล่ะ เวลาเข้าห้องนอนคนอื่นต้องขออนุญาตเข้าห้องก่อนเปล่า ไม่ใช่นึกจะเข้าก็เข้า นี่สองรอบละนะ"


"อืมมม ขออนุญาตนะ"

"กวน Teen แต่เช้าเลยมึง มาขอทำห่าไรตอนนี้"

"กูไม่ได้ขอย้อนหลัง กูขอเผื่ออนาคตไปเลยไง โอเคมึงรับรู้แล้วนะ ทีหลังอย่าบ่นอีกละ"

เกียร์ลุกจากเตียงบิดขี้เกียจ พร้อมหยิบผ้าขนหนู เดินเข้าห้องน้ำราวกับบ้านตัวเอง

"เนียนเลยนะมึง" ขลุ่ยตะโกนตามหลัง

เกียร์ตะโกนสวนกลับมาจากห้องน้ำในทันที

"เตรียมชุดใส่ไปเรียนไว้ให้ด้วยนะ ขอบใจว่ะ"

"แล้วทำไมกูต้องเตรียมให้มึงด้วยว่ะ" แทนที่ขลุ่ยจะตะโกนตอบโต้กลับไป กลายเป็นเพียงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ  แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เลือกหาชุดตามคำร้องขอ


เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยผ้าขนหนูผืนไม่ใหญ่นัก และในเวลาเช้าแบบนี้ทำให้มองเห็นเนื้อเนียนขาวใส พร้อมซิกแพคเบาๆ ชวนหลงใหลไม่ใช่น้อย ที่สำคัญเกียร์พกนมชมพูมาด้วย

"มองอะไรว่ะ"

"เปล่า ใครมองอะไร"

"ก็เห็นอยู่ว่ามึงจ้องกูไม่กระพริบตาเลย หลงซิกแพคกูใช่ม่ะ" เกียร์ยกเอามือมาปิดนมชมพู พร้อมพูดต่อ

"คิดอะไรกับกูป่ะเนี่ยะ จ้องนมกูขนาดนี้"

"ตลกล่ะ ใครจะไปจ้องนมมึง กูก็มองทั่วๆ ไป ไม่ได้โฟกัสอะไรสักหน่อย ไปๆ ชุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน จะสายก็เพราะมึงนี่แร่ะ"


ขลุ่ยรีบเดินเข้าห้องน้ำ ทำให้เกียร์อดที่จะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ในท่าทางตลกๆ ของขลุ่ย


เกียร์หยิบชุดที่ขลุ่ยเตรียมไว้ให้มาใส่แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับกระจก

"ชุดใส่พอดีมั้ย" 

ขลุ่ยออกมาจากห้องน้ำยืนมองดูเกียร์ที่กำลังผูกเนกไท

"พอดีเลยว่ะ นี่เราใส่เสื้อผ้าไซส์เดียวกันเลยนะเนี่ยะ ดีว่ะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องกังวล"

"กังวลอะไรว่ะ"

"ก็ไม่ห่วงเวลามานอนห้องมึงไง ไม่ต้องเตรียมเสื้อผ้ามา อยากมาวันไหนก็มาได้เลย"

"ถามความสมัครใจกูยัง"

"ต้องถามด้วยเหรอ"

เกียร์หันมองขลุ่ยที่สวมผ้าขนหนู ที่กำลังเอาผ้าเช็ดผมอยู่

"เช็ดแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้ง"

พูดเสร็จเกียร์ขยับตัวเข้าประชิดตัวขลุ่ย พร้อมแย่งผ้าเช็ดผมจากมือ แล้วเช็ดผมให้ขลุ่ย

ขณะนี้หน้าของเขาทั้งสองเกือบจะชนกันอยู่แล้ว
ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน

ขลุ่ยยืนตัวแข็ง ไม่แม้แต่จะขยับตัว เหมือนถูกสตาฟเอาไว้

เกียร์เช็ดผมให้ขลุ่ยอย่างทะนุถนอม

"ต้องเช็ดแบบนี้เข้าใจมั๊ย"
"เข้าใจมั๊ยยยยย"

ไม่มีคำตอบ และการตอบโต้ใดๆ จากขลุ่ยเลย
เขายังคงยืนตัวแข็งทื่อเหมือนตกอยู่ในภวังค์ จนเกียร์อดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ รอยยิ้มนี้ช่างละลายใจซะเหลือเกิน

"เอ่ออ ขอบใจนะ" ขลุ่ยรู้สึกตัวคว้าเสื้อผ้าแล้วกลับเข้าห้องน้ำทีนที

"อ้าวมึง ทำไมไม่เปลี่ยนชุดตรงนี้ล่ะ"

"ไม่อ่ะ กูไม่ได้เป็นโรคจิต ชอบโชว์เหมือนมึง"

"มีของดีก็ต้องโชว์ดิว่ะ"

"ไอ้หลงตัวเอง" ขลุ่ยตะโกนตอบกลับเสียงดัง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สองหนุ่มไปมหาลัยพร้อมกัน

"มึงว่าวิธีของมึงจะได้ผลมั๊ยว่ะ"

"ได้ผลดิว่ะ ถ้ามึงทำตามทุกอย่างที่กูบอก"

"อืมมม โอเค ไว้เจอกันตอนเย็นนะ"

"อืมมมมมม"


ขณะที่ขลุ่ยเดินต่อไปยังคณะวิศวะของตัวเอง เขานึกขึ้นได้ว่าเผลอตอบตกลงกับเกียร์เรื่องที่จะเจอกันเย็นนี้ นั่นแปลว่า เขาจะต้องรอกลับบ้านพร้อมกัน

"ตอบไม่คิดอีกแล้วกู ใครจะอยากกลับบ้านพร้อมมันว่ะ"

เย็นวันนั้น........ ณ ลานศิลปกกรรม

"นี่มึงทำได้ไงว่ะ ขั้นเทพเลยว่ะ ตอบรุ่นพี่ถูกทุกคนเลย โครตเจ๋งอ่ะ"

"ของแบบนี้มันต้องมีเทคนิคเว้ยยยย”

“ยังไงว่ะ บอกถูกที กูชอบเผือก บอกกูหน่อยนะ” เพื่อนคนนึงบีบไหล่ให้เกียร์ยอมบอกเทคนิคขั้นเทพที่เอาชนะรุ่นพี่มาได้

“คือแบบนี้นะเว้ยย” เกียร์เริ่มสาธยาย เทคนิคโดยใช้หลักจิตวิทยา
++ขั้นแรก กูขอความร่วมมือจากเพื่อนในคณะ ที่มึงหารายชื่อมาให้กูไง จัดการเมมเบอร์ แอดไลน์ขอความช่วยเหลือ

++ขั้นต่อมา กูนั่งจำรายชื่อที่กูล็อคเอาไว้ประมาณ 20 คน

++ ขั้นต่อมา เมื่อตอนเช้า กูขอความร่วมมือเพื่อนๆ ในคณะทุกเอก หลายสิบคน ใส่ทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่มีสีแดง แล้วไปเดินวนๆ เวียนๆ  แถวรุ่นพี่ โดยเฉพาะพวกพี่ว๊ากก  รวมถึงหาป้ายสีแดงๆ และอะไรสีแดงไปวางตามทางเต็มไปหมด

“อะไรว่ะ สีแดงๆ  งงว่ะ ไม่เข้าใจ” เพื่อนๆ เกาหัวแบบไปไม่เป็น

“มึงอย่าเพิ่งขัดดิวะ คืองี้ ก็ใส่ทุกอย่างที่เป็นสีแดงเท่าที่จะใส่ได้ เช่น โบว์ผูกผม นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า แว่น ทาปากสีแดง เคสโทรศัพท์สีแดง อะไรที่สีแดงๆ เอามาใส่ให้หมด”

“แล้วมันจะได้ผลยังไงว่ะ กูละไม่เข้าใจ” เพื่อนๆ ต่างทำหน้างงหนักกว่าเดิมอีก

++ขั้นต่อมา ก่อนที่กูจะเข้าไปลานกิจกรรม ก็นัดแนะกับเพื่อน ให้เหลือคนที่ใส่สีแดงๆ ไว้ 20 คน ตามที่กูท่องมา ส่วนคนที่เหลือ ให้แต่งตัวตามปกติ

“สรุปง่ายๆ ให้กูเข้าใจเลยได้มั้ย หลักจิตวิทยาของมึงคืออะไรว่ะ”

“เออ ง่ายๆ คือ กูทำให้รุ่นพี่ และพี่ว๊ากกก เห็นอะไรต่อมิอะไรที่เป็นสีแดงมาทั้งวัน มันทำให้เกิดภาพจำในสมอง ดังนั้น ตอนเย็นที่ลานกิจกรรม ก็ไม่แปลกที่พวกรุ่นพี่จะชี้ไปคนที่ใส่อะไรสีแดงๆ ไง”

“โหหหหหหหหหหหหหหหหสาดดดดดดดดดดดดดดด ลึกล้ำ....ย้ำดวงจันทร์ มากมึง”

“แล้วมึงแน่ใจได้ไงว่ะ ว่าจะได้ผล” เพื่อนๆ ยังอยากเผือกต่อ

“ไม่รู้ว่ะ เด็กวิดวะ แม่งบอกกูมา”

เพื่อนพร้อมใจพูดพร้อมกัน “แล้วมึงก็เชื่อมัน”

“เออ กูเชื่อมัน ก็มันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่หว่า”

“เออช่างมันเหอะ ไหนๆ ก็รอดมาได้ละ พวกกูกลับบ้านก่อนละกัน ไม่มีอะไรจะเผือกแล้ว”

“เออ โอเค ไว้เจอกัน”

“อ้าว แล้วมึงไม่กลับเหรอว่ะ”

“เออ พอดีนัดเพื่อนไว้ว่ะ”

“เค งั้นพวกกูไปนะ”

“โอเค เจอกัน”

เกียร์นั่งรอขลุ่ยอยู่หน้าคณะ จนเวลาผ่านไปเกือบจะสองทุ่ม เกียร์ยังคงนั่งรออยู่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย สายตาของเขาจ้องมองที่โทรศัพท์ คิดในใจว่าควรจะไลน์ไปถามหรือเปล่า หรือว่าควรจะรอต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คงมาเอง

“มึงยังรอกูอยู่อีกเหรอ” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็นัดกันไว้แล้วนิหว่า”

“นี่มึงคิดจริงๆ เหรอว่าเรานัดกัน”

“เออดิว่ะ ทำอะไรเนี่ยะ ทำไมเลิกดึกจังว่ะ”

“วันนี้ที่ลานเกียร์หนักเลยว่ะ รุ่นพี่แม่งจัดหนักพวกกูมากเลย”

“เออ ดูจากสภาพหน้ามึงละ กูพอเดาออกว่าเจอศึกหนักมา เลอะเทอะนะมึงเนี่ยะ”

เกียร์หยิบเสื้อยืดในกระเป๋าออกมาเช็ดหน้าให้ขลุ่ยอย่างทะนุถนอม

“เฮ้ยยย มึงทำอะไรน่ะ” ขลุ่ยตกใจก้าวถอยหลังหลายก้าวจนเกือบจะตกท่อ

“เห้ยย ระวัง” เกียร์ดึงขลุ่ยกลับมาก่อนที่จะถอยไปตกท่อ ทำให้ขลุ่ยตกอยู่ในอ้อมแขนอุ่นๆ ของเกียร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ (แต่รู้สึกดี)

เกียร์ยิ้มนิ่งเนียนกอดอยู่แบบนั้น

“เออ ขอบใจนะ” ขลุ่ยถอยหลังออกจากอ้อมแขนอุ่นๆ ของเกียร์

“ไม่เป็นไรว่ะ มึงมันเป็นลูกน้องที่ซุ่มซ่ามที่สุดเท่าที่กูเคยมีเลยนะ”

“เออ กลับบ้านได้ยัง”
“ ไปดิ ไปดิ” เกียร์เดินนำหน้ายิ้มแป้นแล้นตามเคย โดยมีขลุ่ยเดินตามหลังที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่แตกต่างกัน

“เห้ยเกียร์ สรุปได้ผลใช่ม่ะ มึงถึงหน้าบานขนาดนี้”

“เออว่ะ ลืมขอบใจเลย มึงแม่งโครตเจ๋ง ใช้ได้ผลจริงๆ ด้วย หลักจิตวิทยาของมึงอ่ะ มึงเอามาจากที่ไหนว่ะ”

“ดูหนัง”

“ห๊ะ อะไรนะ มึงว่าเอามาจากไหนนะ” เกียร์หยุดเดิน แล้วหันมามองหน้าขลุ่ยทำหน้าข้องใจ

“ก็บอกว่าดูหนังมาไง มึงหูหนวกเหรอไง”

“ดูมาจากหนัง แล้วมึงเคยใช้แล้วใช่มั้ย เลยมาแนะนำกูต่อ” เกียร์พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุน

“เปล่าว่ะ มึงใช้คนแรก”

“ไอ้บ้าเอ๊ยยย แล้วมึงรู้ได้ไงว่ะว่าจะได้ผล”
“ไม่รู้ว่ะ ในหนังมันได้ผลนะ” ขลุ่ยยิ้ม แล้วเดินเลยเกียร์ไป

“มึงเล่นกูแบบนี้เลยเหรอว่ะ” เกียร์รีบก้าวยาวมาคว้าแขนขลุ่ยไว้

“เห้ย อะไรของมึงเนี่ยะ กูหิว รีบๆ เดินเหอะ เดินๆ หยุดๆ อยู่นี่แร่ะ ประตูจะปิดแล้ว มึงจะนอนนี่หรือไง”

“ก็มึง”

ขลุ่ยแตะไหล่เกียร์ มองหน้าพูดจริงจัง

“กูขอโทษละกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวโอเคมั๊ย มื้อนี้จะจัดให้ใหญ่เลย โอเคนะ ไปเหอะ”

“เออๆ นี่กูไม่ได้เห็นแก่กินนะ แต่หิวจริงๆ ว่ะ มื้อนี้กูขอบุฟเฟ่ต์เลยนะ”

“เอาดิ อยากกินอะไรบอกมาเลย”

สองหนุ่มเดินคุยกันอย่างสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นเพื่อนกันมานาน บทสนทนาของเขาทั้งคู่ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนทั้งคู่เริ่มเปิดใจเข้าหากันมากขึ้น พูดดีบ้าง กัดกันบ้าง และเขาดูมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน











หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 10] 29.06.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 29-06-2016 21:39:15
อ่านไป ยิ้มไป คนแมนๆ เขาคุยกัน ชอบๆ
แต่...เดาๆ ว่า ขลุ่ยน่าจะโดนจับกดนะ แบบ...เกียร์รุกแรง มีหยอดตลอดๆ อะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] P.2 แก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 04-07-2016 16:38:06
ตอนที่ 11

“อิ่มสุดๆ ไปเลยว่ะ” เกียร์เดินลูบท้อง ยิ้มแป้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าคอนโดของขลุ่ย

“เออ อิ่มก็ดีแล้ว เอ่อ… คืนนี้กลับบ้านเปล่าวะ”

“ถามแบบนี้ แปลว่าอะไร อยากให้กูนอนด้วยใช่ม่ะ ได้ซิจ๊ะที่รัก ไปๆ” เกียร์กอดคอขลุ่ยเดินเข้าไปในคอนโด

“เฮ้ยๆ อย่ามาลามปาม กูก็แค่ถามเฉยๆ” ขลุ่ยดึงแขนเกียร์ออกจากไหล่ของเขา ขณะลิฟท์กำลังขึ้นไปที่ชั้น 7

ลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 7 ขลุ่ยก้าวเท้าออกจากลิฟท์ ในขณะที่เกียร์ยังยืนอยู่ในลิฟท์

“ตกลงอยากให้อยู่หรือไม่อยาก ถ้าไม่อยากกูกลับก็ได้” พร้อมกดลิฟท์ปิด
“เฮ้ยยยย”

ขลุ่ยเอามือมากันลิฟท์ที่กำลังจะปิด

“หัวก็ไม่ล้านขี้น้อยใจนะมึง ไปๆ อย่าเยอะมึงอะ”

ขลุ่ยดึงมือเกียร์ออกจากลิฟท์เดินตรงไปยังห้องของเขา โดยมีเกียร์เดินอมยิ้มไปตลอดทาง

“มึงเป็นไรมากมั๊ยเกียร์”
“อะไรของมึง กูเป็นอะไร”

“ก็มึงเดินยิ้มมากตลอดทาง จนตอนนี้มึงก็ยังนั่งยิ้มอยู่อีก คือจะนั่งยิ้มทั้งคืนใช่มั๊ยครับบบบบ งั้นกูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ ตามสบายเลย ขี้เกียจคุยกับคนบ้า”

“พล่ามจะยาวเลย แบบนี้เหรอที่เรียกว่า “ขี้เกียจ” ”

“กวน Teen กูอีกละ”

“เปล่าสักหน่อย กูอารมณ์ดีผิดหรือว่ะ วันนี้มีแต่เรื่องดีดี ไม่โดนรุ่นพี่ทำโทษ มีคนเลี้ยงข้าวอีก แล้วกูยิ้มมันผิดด้วยเหรอว่ะ”

“เออ ครับ เอาที่สบายใจครับคุณลูกพี่”

“เออ ขลุ่ย วันนี้กูเห็นมึงดูเหนื่อยๆ ฟาดบุฟเฟ่ต์ซะคุ้มเลยมึง ปกติเห็นกินข้าวนิดเดียวเอง”

“เหนื่อยๆ ว่ะ วันนี้ที่คณะโดนจัดหนักอยู่ว่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เกียร์”

“อะไรน่ะ อยากได้กูเหรอ กูว่าล่ะ มึงต้องคิดอะไรกับกูแน่ๆ เลย ชอบแอบมองกูแปลกๆ”

“กูหมายถึงเกียร์วิศวะโว๊ย เกียร์ดนตรีกูไม่เอาหรอก”

“ทำไมล่ะ กูก็คิดว่า.............................”
“อย่ามากวน กูอาบน้ำก่อนนะ”

“อาบด้วยดิ”

“ตลกแล้วมึง” พร้อมยกเท้ามาทางเกียร์

เกียร์หุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ล้อเล่นน้า ก็เผื่อฟลุ๊ค”
“ฟลุ๊คอะไรของมึง”

“เปล่าๆ ไปอาบน้ำเหอะ กูขอเปิดทีวีดูหน่อยนะ”

“เออ เอาดิ ตามสบาย”

“โอเค ขอบใจว่ะ”

เกียร์หยิบรีโมททีวีมาเปิดดู ในขณะที่ขลุ่ยไปอาบน้ำ

ขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ ตาค้างเมื่อเห็นภาพบนทีวี

“เฮ้ยยย มึงดูอะไรของมึงอ่ะ”
เกียร์สะดุ้งตกใจหันมาหาขลุ่ย

“ก็มันไม่มีอะไรดู เปิดไปเปิดมาเจอหนังเรื่องนี้ก็ดูมาเรื่อยๆ นี่แร่ะ”

ภาพที่ขลุ่ยเห็นขณะนี้คือ โต้ง และ มิว ในรักแห่งสยามกำลังบดปากกันอย่างเมามันในสวนหลังบ้าน ซึ่งขลุ่ยเองอึ่งไม่ต่างจากสินจัยที่รับบทเป็นแม่ของโต้งในเรื่องที่บังเอิญผ่านมาเห็นลูกตัวเองกำลังจูบปากดูดดื่มกับมิว

“เอ่อ อ๋อ รักแห่งสยาม ไม่ได้ดูนานแล้วเนอะ มาริโอ้โครตหล่อเลยเนอะ”
“อืมมม มึงเป็นไรเปล่าเนี่ยะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยวะ คิดอะไรอยู่เนี่ยะ”

“เปล่าๆ”

“ใช่เปล่า คิดลึกป่ะเนี่ยะ เห้ยยย หรือมึงคิดจะทำแบบนั้นกับกูเหรอ” เกียร์ยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเอง

“บ้าไปละ ใครจะทำแบบนั้น ที่กูหน้าแดง เพราะเมื่อกี้อาบน้ำร้อนโว๊ย ไร้สาระนะมึง” ขลุ่ยรีบเดินกลับเข้าห้องนอนไปแต่งตัวทันที

“เขินอะดิ” เกียร์ยิ้มบ่นพึมพำเบาๆ

เกียร์เดินเข้ามาด้านหลังของขลุ่ย ที่กำลังแต่งตัวอยู่ เขาเอามือเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ด้านหน้าของขลุ่ย

“เฮ้ย มึงทำอะไรของมึง” ขลุ่ยตกใจนึกว่าเกียร์กำลังเอื้อมมือมาจากกอดเขาจากด้านหลัง

“อะไรมึง ร้องซะดัง เล่นใหญ่มากกกกกกกก”

“ก็มึงจะกอดกู”

“กอดมึง? บ้าละ กูแค่จะเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัว”

“หยิบผ้าเช็ดตัวทำไมมึงไม่หยิบดีดี มาเอื้อมผ่านกูทำไม”

“ก็มึงยืนขวางอยู่นี่หว่า กูขี้เกียจเดินอ้อม ผิดด้วยหรอว่ะ เพ้อเจ้อนะมึงเนี่ยะ กูไปอาบน้ำก่อนนะ”

“ไปเลย รีบไปไกลๆ Teen กูเลย”

“อยากให้กูตัวหอมเร็วๆ ใช่ป่ะ นอนรอกูบนเตียงเลยนะ เดี๋ยวพี่รีบมา”

“กูไม่ขำ”

“ล้อเล่นน่ะ แค่นี้ต้องเสียงดุด้วยเหรอว่ะ ไปก็ได้ว่ะ รอแปปนะที่รัก”

“ยังอีก ถ้ายังไม่หยุดอีก มึงโดนกูเตะแน่”

“เออ ไปละ”

“รีบไปให้ด่วนๆ เลย”

ผ่านไป 15 นาที

เกียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นชุดนอนวางอยู่บนเก้าอี้

“ขอบใจว่ะ”

ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากขลุ่ย ทำให้เกียร์หันมองหาขลุ่ย เขาพบว่าขลุ่ยนอนหลับไปซะแล้ว
“อ้าวหลับแล้วเหรอ อะไรว่ะหลับง่ายชะมัด”

เกียร์ค่อยๆ ขยับตัวเบาๆ นอนลงบนเตียงข้างๆ กับขลุ่ย และนอนมองหน้าขลุ่ยอย่างไม่ละสายตา พร้อมกับค่อยๆ ขยับตัวเข้ามานอนติดกับขลุ่ย
หน้าของเขาทั้งสองคนหันเข้าหากัน ในขณะนี้จมูกของเกียร์ใกล้กับจมูกของขลุ่ยมากๆ จนเกือบจะชนกันอยู่แล้ว สายตาของเกียร์ที่มองขลุ่ยบ่งบอกถึงอะไรหลายสิ่ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น และอีกนัยแววตาคู่นั้นเหมือนกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่

“ทำไมกูถึงรู้สึกแบบนี้นะ ทำไมว่ะ” ความคิดของเกียร์พลุ่งพล่าน
สิ่งที่เขากำลังคิดตอนนี้คือ ทำไมใบหน้าของขลุ่ยถึงมีแรงดึงดูดต่อเขามากขนาดนี้ ทำไมถึงอยากมองอยู่แบบนี้ไม่อยากละสายตาหนีไปไหน
และทำไมถึงอยาก…………………………………………………
อยาก
อยากจูบ มากๆ ก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ที่เขาไม่เคยคิดอะไรแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน
เกียร์พยายามหักห้ามความคิด และความรู้สึกของตัวเอง ที่มันกำลังจะล้นทะลักออกมา
เขาใช้วิธีหลับตาเพื่อที่จะได้ไม่เห็นใบหน้าที่เหมือนมีแรงดึงดูดนั้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะถึงแม้เขาจะหลับตาแต่ใบหน้าของขลุ่ยก็จะลอยอยู่ในหัวของเขาอยู่ดี
“นี่เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อยู่ๆ ก็อยากจูบผู้ชาย” ความคิดในหัวของเขากำลังยกพวกตีกันอย่างรุนแรง

เกียร์มองหน้าขลุ่ยนิ่งคิดเหมือนกำลังตัดสินใจ ใบหน้าของเกียร์ดูเคร่งเครียด
เกียร์เม้มกัดปากตัวเองเหมือนกับว่าความรู้สึกจะเอาชนะทุกอย่างซะแล้ว

เกียร์ค่อยๆ เอียงหน้าเข้าใกล้หน้าของขลุ่ยเข้าไปอีก ปากของเกียร์กำลังจะชนกับปากของขลุ่ยด้วยระยะทางไม่เกินเซน
แต่
สุดท้ายเกียร์เลื่อนปากของเขาไปจุ๊บบนหน้าผากของขลุ่ยอย่างแผ่วเบาแทน แล้วค่อยๆ ถอยตัวออกมาเบาๆ แล้วนอนหงายข้างๆ กับขลุ่ยแทน

“มึงจะโกรธกูมั๊ย ถ้ารู้ว่ากูแอบทำแบบนี้กับมึง” เกียร์ยังคงคิดหนักกับการกระทำของตัวเอง

เช้าวันต่อมา

ขลุ่ยตื่นก่อนอีกตามเคย เขาหันมองเกียร์ที่ยังนอนหลับสนิทแล้วอมยิ้ม เหมือนว่าเช้านี้เป็นวันที่สดใสและแสนดีซะเหลือเกิน เขาจ้องมองเกียร์ด้วยสายตาที่อ่อนโยน และค่อยๆ ลุกจากเตียงเบาๆ เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“อะไรว่ะ เคาะทำไม คนอาบน้ำอยู่”
“กูปวดฉี่ ขอเข้าไปหน่อย”
“เฮ้ยย จะบ้าเหรอ รอแปป กูสระผมอยู่”

“ไม่ไหวแล้ว เร็วๆ หน่อย ไม่งั้นกูฉี่ราดห้องมึงนะ”

“เฮ้ยยยยยยยยยยยย อย่า แปปๆ” ขลุ่ยรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่ง ทั้งที่ฟองแชมพูยังเต็มหัว แล้วรีบเปิดประตู
“อะไรของมึงว่ะเนี่ยะ”

“โอ๊ยยย ไม่ต้องพูดมาก หลบ กูปวดฉี่” เกียร์วิ่งมาในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เร็วจนขลุ่ยยังไม่ทันจะออกจากห้องน้ำด้วยซ้ำ

“เด่วๆ วันซวยอะไรเนี่ยะ ต้องมาดูมึงฉี่เนี่ยะ”
ขลุ่ยกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ แต่พอนึกถึงสภาพตัวเองที่ตัวเต็มไปด้วยฟองแชมพูสระผม เขาคิดว่าสภาพเช่นนี้คงต้องทำให้ห้องเลอะเทอะแน่ๆ เขาจึงยืนหันหลังให้เกียร์แทน

“เสร็จแล้ววะ”

“เออดี รีบออกไปเลยกูจะอาบน้ำต่อ” ขลุ่ยหันหน้ามาทางเกียร์ แล้วต้องตกตะลึงกับภาพที่เขาเห็น

“ยืนอึ้งอะไรของมึง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กูอาบน้ำพร้อมกันไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา สายละ”

“เฮ้ยย ใครจะอาบน้ำพร้อมกับมึง โอ๊ยยย ซวยแน่ๆ กูวันนี้”

“ซวยอะไรกัน โชคดีมากว่าไม่ว่า ได้เห็นพญามังกรแต่เช้า
มาๆ อย่าเยอะ มาอาบน้ำกัน เพื่อนผู้ชาย เขาก็อาบน้ำด้วยกันเป็นปกติเปล่าว่ะ คิดอะไรมาก นี่มึงไม่เคยเรียน รด หรือไง”

“เคย แต่ไม่เคยมีใครโรคจิตเหมือนมึง อยู่ๆ ก็เสือกแก้ผ้า”

“พูดมากนะมึง รีบๆ แก้เลย มึงพูดมากแบบนี้ มึงอายหนอนน้อยของมึงใช่มั้ย มาดูดิ”

เกียร์เดินเข้ามาดึงผ้าเช็ดตัวของขลุ่ยหลุดออก

“ไอ้สัx เอามา เอาผ้ากูคืนมา”

“จะเอาไปทำไม คนจะอาบน้ำ” เกียร์หันขวักบัว ฉีดน้ำมาที่ขลุ่ย

“ไม่เล่นๆ เปียกหมดแล้ว”

“ไม่ได้เล่น มานี่! เดี๋ยวล้างผมให้” เกียร์ดึงตัวขลุ่ยเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอาน้ำค่อยๆ ล้างผมให้ขลุ่ย การกระทำนี้ของเกียร์ทำให้ขลุ่ยถึงกับเงียบกริบพูดไม่ออก ยืนตัวแข็งทื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนด้วยเช่นกัน

“โอเค ผมมึงเกลี้ยงละ ถูสบู่ที่หลังให้กูหน่อยดิ กูเอื้อมไม่ถึง”

“มึงก็ถูเองดิว่ะ อาบน้ำเองไม่เป็นหรือไง โตเป็นควายล่ะ”

“ปากมึงนี่มัน!!! ถูให้หน่อยดิ ทีกูยังล้างหัวให้มึงเลย”

“กูไม่ต้องขอร้องมึงสักหน่อย เสือกอยากทำเอง”

“เออๆ กูมันเสือกเอง แม่งใจดำว่ะ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ เพื่อนห่าอะไรว่ะ” เกียร์งอนหันหน้าหนี

“เออๆ เดี๋ยวกูถูให้ ไอ้เพื่อนเวร”

ขลุ่ยกดสบู่ใส่มือ แล้วถูหลังให้เกียร์อย่างแผ่วเบา

ตึ๊กตึ๊ก ตึกตึก ตึ๊กตึ๊ก ตึกตึก

เกียร์หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งตอนนี้ขลุ่ยเองก็หัวใจเต้นแรงจนจะทะลุออกมาข้างนอกไม่ต่างกัน

“เออ พอละ ขอบใจว่ะ”

“อืมมมม”

เกียร์หันไปล้างตัว เหมือนอยากจะผ่านจุดๆ นี้ไปให้ได้ เขารู้สึกว่าเขากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ความรู้สึกของเขาที่มีต่อขลุ่ยมันกำลังจะทะลักออกมากองตรงนี้แล้ว

“โอ๊ยยย ไม่ไหวแล้วโว๊ย”
เกียร์วางขวักบัวแล้วหันหน้ามาจับแขนขลุ่ยแทน

“มึงเป็นอะไรว่ะ อะไรเนี่ยะ มึงจะทำอะไร”

“ขลุ่ยกูขอโทษ”

“มึงเป็นอะไรเกียร์”

“กูอึดอัดว่ะ กูไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดอะไรแบบนี้”

“อะไรมึงเป็นอะไรของมึง”

“เมื่อกี้”
“เมื่อกี้ ทำไม”

“เมื่อกี้ตอนมึงถูสบู่ให้กู กูรู้สึกแปลกๆ ใจแม่งเต้นโครตแรง เหมือนจะระเบิด”

“มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ขลุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“มึงเป็นเหมือนกูบ้างมั๊ย” เกียร์ตัดสินใจถามออกมา

“กู คือ กู …………………………กูไม่รู้วะ ไม่มีอะไรหรอก มึงคิดมากไปเอง คงเขินกูละซิ ทำเป็นเก๋า ใช่ม่ะ?”

“ไม่อะ กูไม่ได้เขิน กูไม่เคยทำแบบนี้กับใคร”

“อ้าวไหนว่าอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายบ่อยไง”

“กูไม่ได้บอกว่าบ่อยสักหน่อย แค่ถามมึงว่าไม่เคยอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายหรือไง”

“อ้าววว มึง”

“ขลุ่ย”

“อะไร”

“ถ้ากูรู้สึกกับมึง”

“หยุดเลย อย่าพูดอะไรต่อ เราเป็นผู้ชายนะเว้ย กูกับมึงเพื่อนกัน มึงคงสับสน”

“แต่กู”

“เอาไว้มึงแน่ใจจริงๆ ก่อน ค่อยมาคุยกันใหม่ กูว่าตอนนี้รีบๆ อาบน้ำให้เสร็จเหอะ กลัวฟ้าฝ่าว่ะ แม่งผู้ชายสองคนมายืนแก้ผ้าคุยกันในห้องน้ำ แม่งไม่ไหวว่ะ”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน”

สองหนุ่มรีบอาบน้ำต่อจนเสร็จ

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังแต่งตัว

“เออ ขลุ่ย กูว่าจะถามมึงหลายทีละ แต่ไม่มีโอกาสสักที”

“ถามอะไรว่ะ”

“กูเจอมึงแทบทุกวัน ไม่เห็นแฟนมึงมาหาบ้างเลย ตกลงแฟนไม่มา หรือแฟนไม่มีว่ะ”

“มึงจะรู้ไปทำไมว่ะ”

“อ้าววว ก็มึงเป็นเพื่อนสนิทกู กูก็ควรรู้เปล่าว่ะ”

“ตกลงกูกับมึงสนิทกันเลย”
“สนิทไม่สนิท มึงก็เห็นมังกรกูแล้ว ส่วนกูก็เห็นหนอนน้อยของมึงแล้ว ถือว่าสนิทมาก”

“มึงนี่ไร้สาระเนอะ แล้วทีมึงยังไม่เคยเล่าเรื่องแฟนให้กูฟังบ้างเลย”

“ก็มึงไม่ถามนี่หว่า ถ้ามึงอยากรู้เดี๋ยวกูเหลาให้ฟัง”

“มึงก็ไม่เคยถามกูเหมือนกันเปล่าวะ ถ้าอยากเหลา มึงก็เหลามากเลย อย่าลีลา”

“อยากรู้อะดิ”

“เออ กูไม่อยากรู้ละ”

“แม่งขี้ใจน้อยหนักกว่ากูอีก !!! กูอ่ะตอนนี้โสดสนิท สนิทมากกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด เลิกกันมาเป็นปีล่ะ ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย”

“ทำไมถึงเลิกกันว่ะ”

“อืมมม ผิดที่กูเองแร่ะ ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็เลยไปหาคนอื่นที่มีเวลาให้มากกว่ากู”

“สรุปโดนทิ้งเหรอ 5555555”

“มึงขำอะไร่เนี่ยะ มึงไม่เคยโดนทิ้งหรอไงว่ะ”
“ไม่เคยว่ะ”

“โห!!!!!!!!!!!!! สัx ขั้นเทพว่ะ”
ขลุ่ยหันมายิ้มเหวอๆ

“คือแบบว่า กูไม่เคยมีแฟนน่ะ เลยไม่เคยโดนทิ้ง”

“อะไรนะ มึงไม่เคยมีแฟน อย่าบอกนะว่ามึงยังจิ้นอยู่”

“จิ้นอะไรของมึง ไม่ได้จิ้นโว๊ยยยย”

“โตเป็นควายละ ยังไม่เคยได้แอ้มสาว นี่มึงเป็นหรือป่าวเนี่ยะ”

“เป็นอะไร มึงพูดมาดีดีนะเว้ย บอกว่าไม่ได้จิ้นไง”

“สมัยนี้ยังเหลือผู้ชายเวอร์จิ้นแบบมึงอีกเหรอว่ะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยเนี่ยะ”

“หยุดพูดเลยมึง ใครจะเก่งเหมือนมึง พ่อนักรบร้อยสนาม”

“พูดแบบนี้กูเสียหายดิว่ะ ไม่ได้ขนาดนั้นเว้ย กูไม่ได้มั่วนะมึง คบใครก็คบจริงจังเป็นคนๆ เว้ย”

“เออ กูจะเชื่อมึงดีมั๊ยเนี่ยะ”
“เชื่อได้ล้านเปอร์เซ็นต์ กูรักใครรักจริงนะ”

“กูไม่ใช่สาวๆ ของมึง ไม่ต้องมาบอกกูหรอก”

“กูคิดว่ามึงควรจะรู้น่ะ” เกียร์ยิ้มมุมปาก

“แต่งเสร็จยังมึง มัวแต่พูดมาก สายแล้วเนี่ยะ”

“โอเคเสร็จแล้ว ไปกันเหอะ”



ฝากติดตาม และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] 04.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 04-07-2016 17:41:29
สนุกคะ ชอบๆ มาต่อบ่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คะ  :L2:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] 04.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-07-2016 19:37:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] 04.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 06-07-2016 22:27:08
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] 04.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 07-07-2016 01:07:00
 :mew2:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 11] 04.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-07-2016 14:10:20
 o22 o22
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 12] 21.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 21-07-2016 22:27:28
ตอนที่ 12

เย็นวันศุกร์
“คืนนี้มึงต้องไปร้องเพลงหรือเปล่าว่ะ”

“ถามทำไม อยากไปด้วยเหรอไง”

“ก็แค่ถามดูว่ะ”

“คืนนี้ไม่ได้ไปว่ะ ตอนนี้ที่ร้านปิดปรับปรุง ตกแต่งร้านใหม่น่ะ คงได้พักยาวๆ เลย แต่ว่าเย็นนี้ไปธุระด้วยกันหน่อยนะ”

“ไปไหนว่ะ???”

“เหอะนะ อย่าถามมาก” เกียร์เดินกอดคอขลุ่ยออกจากมหาลัย

“จะไปไหนไม่ขึ้นห้องหรือไง” ขลุ่ยเอ่ยถามเมื่อเกียร์ทำท่าจะเดินเลยคอนโดของเขาไป

“ไปทำธุระเป็นเพื่อนกูก่อน เร็วดิ”

“เออๆ ไปไหนว่ะ”

“ไปบ้านกูไง”
“บ้านมึง??? ไปทำไมว่ะ”

“มึงหยุดสงสัยบ้างก็ดีนะ”

เกียร์เดินนำหน้าเข้าซอยไปยังบ้านของเขา

ณ บ้านของเกียร์

“หวัดดีครับป้า คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่หรือครับ”
“ค่ะ ท่านไปงานเลี้ยงคงกลับดึกค่ะ คุณหนูไม่กลับบ้านหลายวันเลยนะค่ะ  เอ๊ะ นั่นพาใครมาด้วยค่ะเนี่ยะ”

“เพื่อนสนิทครับป้า” เกียร์เดินเข้ามากอดคอแน่น บ่งบอกให้รู้ว่าสนิทกันมาก

“สวัสดีครับป้า” ขลุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

“สวัสดีค่ะ ตามสบายเลยนะค่ะ หน้าตาน่ารักเชียวพ่อหนุ่ม ชื่ออะไรจ๊ะ”

“ขอบคุณครับป้า ผมชื่อขลุ่ยครับ”

“ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ ป้าไม่กวนแล้ว”

“ไปๆ ไปดิ”

“ไปไหนว่ะ”

“กูชักรำคาญมึงแล้วนะ พูดมากจริงๆ” เกียร์เดินขึ้นบันไดไปด้านบน

“รอด้วยดิว่ะ พากูมาบ้านมึงทำไมเนี่ยะ”

“มาช่วยกูเก็บของไง” เกียร์เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา

“เก็บของเหรอ เก็บไปไหนว่ะ”

“นี่ชาติก่อนมึงเกิดเป็นเจ้าหนูจำไม หรือไงว่ะ ขี้สงสัยจริง”

“ก็เก็บของไปอยู่กับมึงไง มึงจะให้กูใส่เสื้อผ้าของมึงตลอดไปเลยเหรอไง”

“ไปอยู่กับกูเนี่ยะนะ” ขลุ่ยทำหน้างงๆ

“เออ อยู่ไม่ได้เหรอว่ะ เด่วกูให้ค่าเช่าก็ได้”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน นี่ห้องนอนมึงเหรอ ทำไมเรียบร้อยจังว่ะ โครตเป็นระเบียบเลย” ขลุ่ยเริ่มเดินสำรวจในห้อง

“มึงคิดว่าห้องเรียบร้อยขนาดนี้ เป็นฝีมือกูเหรอไง”

“เออว่ะ คนอย่างมึงไม่น่าใช่คนละเอียดอ่อน คงเป็นฝีมือแม่บ้านซินะ”

“เออ แต่ที่ว่าอย่างกูไม่ใช่คนละเอียดอ่อน นี่หมายความว่ายังไงว่ะ”

“ปล่อยผ่านละกัน ช่างมันเหอะ”

“ทำไมห้องมึงมีขลุ่ยเยอะจังว่ะ”

“ทำไมกูจะมีไม่ได้ว่ะ กูเรียนดนตรีน่ะเว้ย”

“เออจริงว่ะ เปล่าๆ  ไม่มีอะไรหรอก เห็นมันสวยดีน่ะ เรียนดนตรีต้องมีขลุ่ยเยอะขนาดนี้เลยเหรอว่ะ”

“เปล่าหรอก ของสะสมกูน่ะ กูชอบขลุ่ย”

“เออดี แอบชอบกูมานานยัง?”

“นานล่ะ!!!!!!! เห้ยยยย กูหมายถึงขลุ่ยที่เป็นเครื่องดนตรีนะ สะสมมานานล่ะ มึงเล่นมุกกับเขาเป็นด้วยเหรอว่ะ”

“ก็หัดๆ เล่นดู เผื่อจะเวิร์ค”
“เออๆ แล้วแต่มึงล่ะกัน กูเก็บของเสร็จล่ะ ไปกันได้ล่ะ”
“เอาขลุ่ยไปด้วยดิว่ะ กูอยากเห็นมึงเป่าว่ะ”

“อยากให้กูเป่าขลุ่ยให้…………………………..ฟัง หรอว่ะ เออๆ ก็ได้ ว่างๆ เดี๋ยวเป่าให้ฟังนะ” เกียร์หยิบขลุ่ยแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

“เฮ้ยยย รอด้วยดิว่ะ” ขลุ่ยรีบเดินตามออกไป

คอนโดของขลุ่ย

“นี่มึงขนของมาเยอะขนาดนี้ กะจะมาอยู่ถาวรเลยหรือไงว่ะ”

“เออ กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไล่กูออกไป โอเคมั๊ย”

“กูไล่เลยได้เปล่าว่ะ???”

“จริงดิ กูไม่ไปว่ะ กูหน้าด้าน” เกียร์กระโดดขึ้นนอนบนเตียงของขลุ่ยหน้าตาเฉย
“เอาที่มึงสบายใจเลยล่ะกัน เออ แล้วจะกินข้าวหรือเปล่าว่ะ จะสองทุ่มแล้วเนี่ยะ ว่าไง จะกินหรือเปล่า” ขลุ่ยหันมาเพื่อหาคำตอบ เขาพบว่าเกียร์เผลอหลับไปซะแล้ว

“อ้าววว อะไรว่ะ หลับจริงเหรอเนี่ยะ เฮ้ยยยเกียร์ เกียร์”

ขลุ่ยเดินออกจากห้องนอนมุ่งหน้าไปที่ตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรที่พอจะกินได้บ้าง
ขลุ่ยมองดูตู้เย็นของเขา ที่อัดแน่นไปด้วยของกิน อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“โห!! ทำไมของกินเยอะขนาดนี้ว่ะเนี่ยะ ต้องเป็นฝีมือไอ้ลูกพี่เกียร์แน่นอน มันแอบซื้อมาตอนไหนว่ะ
เออแต่ก็ดีเหมือนกัน กำลังหิวเลย กินอะไรดีว่ะ”

ขลุ่ยค้นหาของกินในตู้เย็น เห็นอาหารแช่แข็งหลายอย่าง จึงเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ

“เกียร์ เกียร์ ไอ้เกียร์” ขลุ่ยตะโกนเรียกเสียงดัง

“เห้ย อะไรว่ะ เสียงดังโวยวายอะไรเนี่ยะ คนกำลังนอนสบายๆ”

“กินข้าวกัน อุ่นไว้ให้แล้ว วางไว้ที่โต๊ะนะ”

“เออๆ ขอบใจว่ะ น่ารักจริงๆ เลย” เกียร์ลุกขึ้นจากเตียง เอามือสองข้างหยิกแก้มขลุ่ยเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“เฮ้ยย ทำอะไรของมึงเนี่ยะ” ขลุ่ยปัดมือเกียร์ออก

“กูมึงทำตัวน่ารักนี่หว่า”

เกียร์เดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร แล้วนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่รอกูเลยนะ”

“เดินช้าเด่วกูกินหมดไม่รู้นะเว้ย”

“เอ้ยยยยยยยยยเด่ว รอก่อน ของใครของมันดิว่ะ”

สองหนุ่มแย่งกันกินอย่างสนุกสนาน

“อิ่มมากเลยว่ะ ขอบใจนะที่ทำตัวเป็นเมียที่ดี”

“ไอ้สัx ใครเมียมึง?”

“กูล้อเล่นน่ะ จะบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีน่ะ พูดเล่นนิดเดียวต้องดุด้วยหรือว่ะ”

“ก็มึงมันปากหมานี่หว่า”

“เออ กูขอโทษ มึงนี่ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงเลยนะ”

“เริ่มปากเสียอีกแล้วนะมึง”

“ก็พูดเล่นหน่า ใจน้อยจังมึง เออพรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกันนะ”

“พรุ่งนี้เหรอว่ะ จะไปที่ไหนว่ะ”

“เออนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ กูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ เริ่มง่วงละ”

“อะไรของมึง ความลับเยอะจริงเลยมึง”

“เออน่า รีบๆ อาบน้ำนอน พรุ่งนี้ไปแต่เช้า”

“เออ ถ้ารีบขนาดนั้นให้กูเข้าไปอาบน้ำพร้อมมึงเลยมั๊ย” ขลุ่ยตะโกนตามหลัง

เกียร์โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ

“เข้ามาซิจ๊ะที่ร๊ากกกกกกกกกกกกก”

ขลุ่ยยกเท้าใส่เกียร์

“แค่นี้ต้องโหดใส่กูด้วย ก็ถามเผื่อฟรุ๊คว่ะ”

“ฟรุ๊คห่าไรของมึง”

“เปล่าๆ” เกียร์รีบปิดประตูห้องน้ำ


เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที
“อาบน้ำโครตนานเลยมึง กูเกือบหลับแล้วเนี่ยะ”

“โทษทีว่ะ เพลินไปหน่อย มึงรีบอาบดิ จะได้มาเก็บเสื้อผ้า”

“ตกลงจะไปจริงหรอว่ะ?”

“ก็เออดิว่ะ พูดมากตลอดมึง ไป ไป รีบอาบน้ำ”

เกียร์เดินมาผลักขลุ่ยให้เข้าไปอาบน้ำ

“ไม่ต้องดัน เดินเองได้ รู้แล้ว รู้แล้ว”

“รู้แล้วก็รีบไปดิ ถ้าช้ากูจะเข้าไปอาบให้แล้วนะ”

“โอเค ไปแล้ว”

อาบน้ำเสร็จ ขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เฮ้ยย มึงทำอะไรว่ะ”

“เก็บเสื้อผ้าให้มึงไง รอมึงเก็บไม่ต้องไปพอดี กูเก็บเรียบร้อยแล้วนะ รีบๆ นอนพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”

“เก็บหมดแล้วเหรอ หมายความว่าไง”
“กูเก็บเสื้อผ้ามึง ของใช้จำเป็นทุกอย่างใส่กระเป๋าใบนี้เรียบร้อยแล้วไง” เกียร์พูดพร้อมตบเบาๆ ที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างเตียง

“แล้วพวกของใช้ส่วนตัวละ” ขลุ่ยทำหน้าเขินๆ

“หมายถึงอะไรว่ะ อ๋อๆ หมายถึงกางเกงในเหรอ ไม่ต้องห่วง กูเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว พอใส่แน่นอน ไม่ต้องกลับหน้าเอ หน้าบี ชัวร์”

“เฮ้ยย นี่มึงยุ่งกับของกูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยรีบหยิบกระเป๋าเป้มาเปิดดู เขาพบว่าภายในกระเป๋าถูกจัดอย่างเรียบร้อย มีของใช้และเสื้อผ้าครบถ้วน

“ทำไมว่ะ ก็ว่างๆ อยู่ก็ช่วยจัดให้ นี่มึงเขินอะไรกูเนี่ยะ หน้าแดงเชียว”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

“หรือว่ามึงเขินกางเกงในสายหวานของมึงเหรอ กูไม่บอกใครหรอก”

ขลุ่ยหน้าและหูแดงเอามากๆ

“สายหวานห่าไรของมึง ตลกละ”

“กูเห็นนะในตู้เสื้อผ้ามีแต่สีหวานๆ สีชมพู สีแดง สีฟ้า ออกแนวพาสเทล เลยนะ กูเลยจัดให้มึงครบทุกสี คิดว่ามึงคงชอบ”

“ชอบห่าไรละ กูไม่ได้ชอบเว้ย พอดี มีคนซื้อมาให้เว้ย ไม่ค่อยได้ใส่หรอก”

“ใครว่ะ????? ซื้อกางเกงในให้มึง แฟนคลับเหรอ โรคจิตเปล่าว่ะ?

“โรคจิตกะผีอะไร แม่กูเอง ซื้อส่งมาให้จากเมืองนอก ชอบคิดว่ากูเป็นเด็กๆ”

เกียร์กลั้นขำไว้ไม่อยู่ ขำออกมาชุดใหญ่ จนขลุ่ยออกอาการหมั่นไส้

“เล่นใหญ่ไปล่ะ จะขำอะไรขนาดนั้น อย่าให้กูรู้ความลับของมึงบ้างนะ กูจะล้อสามวันสามคืนไม่เลิกเลย”

“แล้วแต่ละกัน แต่ที่แน่ๆ กูไม่มีกางเกงในสายมุ้งมิ้งเหมือนมึงแน่นอน”

“กวนตีนกูล่ะ!!”

“นอนกันเหอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้า”

“ตกลงจะไปไหนเนี่ยะ บอกกูได้ยัง”

“มึงนี่ขี้สงสัยจนน่ารำคาญเนอะ พรุ่งนี้ก็รู้เองแร่ะ แล้วนั่นมึงทำอะไร จะเอากางเกงในสายหวานไปไหนว่ะ ใส่นี่แร่ะน่ารักดีกูชอบ” เกียร์คว้ากางเกงในสายหวานจากมือของขลุ่ยยัดใส่กระเป๋าตามเดิม

“เออๆ กูว่ามึงนี่แร่ะโรคจิต”

“กูก็เริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่ะ ว่าอาการโรคจิตของกูอยู่ขั้นไหนแล้ว เพราะตอนนี้กูกำลังจินตนาการตอนมึงใส่กางเกงในสายหวานอยู่ว่ะ”

“ไอ้สัxx มึงยังไม่เลิกพูดอีกใช่มั้ย” ขลุ่ยวิ่งมาเตะตูดเกียร์

สองหนุ่มกลายเป็นวิ่งไล่จับ วิ่งวนกันในห้องนอน

“พอ พอ กูเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจอาบน้ำใหม่”

“งั้นมึงก็หยุดล้อกูได้ล่ะ ไม่งั้นกูไม่ปลง ไม่ไปแม่งล่ะ”

“โอเค โอเค ไม่ล้อแล้ว พักรบนะ นอนนะ”

“เออ กูจะเริ่มร้อนแล้ว เพราะมึงคนเดียว”

“เออ กูขอโทษนะ นอนกันเถอะ ตื่นมาพรุ่งนี้จะได้มีแรงซึมซับรรยากาศริมทะเลเต็มที่

“เออ เอาที่มึงสบายใจว่ะ กูปิดไฟนะ”

“ตามนั้น” เกียร์กระโดดลงนอนบนเตียง

สองหนุ่มนอนหงายอยู่คนละฝั่งของเตียง ดวงตายังคงเบิกโพลง ไม่ยอมหลับ มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน

“ขลุ่ย หลับยัง”

“ยัง ทำไมมึงยังไม่นอน ขยับตัวอยู่นั่นแร่ะ แล้วกูจะหลับได้ยังไง”

เกียร์เบี่ยงตัวหันมานอนตะแคงหันหน้ามาทางขลุ่ย

“มึง มึง”

“อะไรของมึงว่ะเกียร์” ขลุ่ยตะแคงข้างหันหน้ามาทางเกียร์

ทั้งสองมองหน้ากัน สายตาจับจ้องที่กันและกัน

“นี่มึงมานอนมองหน้ากูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นก่อน

“ไม่รู้ว่ะ นอนไม่หลับ” เกียร์ค่อยๆ เขยิบตัวเข้ามาใกล้กับขลุ่ย

“ขยับเข้ามาทำไมเนี่ยะ”

“ปกติกูนอนที่ห้องต้องกอดหมอนข้างว่ะ มึงไม่เห็นเหรอบนห้องนอนกูมีหมอนบนเตียงเยอะมากกกกก”

“เออ ก็จริงว่ะ” ขลุ่ยนึกย้อนตามที่เกียร์พูด “แล้วไงว่ะ”

“เป็นหมอนข้างให้กูหน่อยดิ”

“ไม่เอา จะบ้าเหรอไง”

“นะ นะ หน่อยนะ” เกียร์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าออดอ้อน

“มึงอย่ามาทำเสียงแบบนี้ กูขนลุกว่ะ”

“ถ้ามึงไม่ยอม กูจะพูดแบบนี้ทั้งคืนเลย นะนะ มาเป็นหมอนข้างให้กูหน่อยนะ”

“หยุดเลยๆ พอๆ ไม่ไหวว่ะ ขนลุกไปหมดแล้ว หยุดเหอะ”

“ตกลงจะเป็นหรือเปล่าล่ะ”

“แล้วทำไมคืนอื่น มึงก็นอนได้”

“ก็คืนอื่นกูเหนื่อย เพลีย เลยเผลอหลับไป แต่คืนนี้นอนไม่หลับว่ะ แล้วมึงลืมไปแล้วเหรอ ตื่นมาทีไรกูก็นอนกอดมึงทุกที”

“เอ่อออออออออออออออออออออออออออออออออออออ” ขลุ่ยนิ่งอึ้งไป

“มึงนี่เล่นตัวชะมัดเลยว่ะ”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน” ขลุ่ยพูดจบ นอนหันหลังให้เกียร์ ด้วยสีหน้าเขินอาย

“จริงดิ” เกียร์พูดพร้อมกับขยับเข้ามาประชิดตัวขลุ่ยจากด้านหลัง เขายื่นแขนมาโอบกอดขลุ่ย พร้อมขาที่ก่ายตัวขลุ่ยเอาไว้ด้วย

“เยอะไปแล้วป่ะเนี่ยะ” ขลุ่ยบิด สะบัดตัวเล็กน้อย

“อย่าดิ้นดิว่ะ คนกำลังจะหลับ” เกียร์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก

ขลุ่ยนอนอมยิ้ม ไม่มีทีท่าจะสะบัดมือของเกียร์ออกอีก ส่วนเกียร์เองก็ดูเหมือนจะนอนหลับฝันดีไปซะแล้ว


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 12] 21.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2016 23:30:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 12] 21.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-07-2016 11:29:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 12] 21.07.16 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-07-2016 13:59:38
ย้ายมาอยู่ด้วยกันแว้วววว มีนอนกอดกันอีก อร๊ายยยย
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 31-07-2016 23:15:06
ตอนที่ 13

“ตื่นแต่เช้าเลยนะมึง...... ไหนบอกไม่อยากไปไง” สีหน้าของเกียร์ดูมีความสุข เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาเห็นขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ ในขณะที่ขลุ่ยรีบหุบยิ้มทันที ทำคิ้วขมวดใส่

“เปล่าสักหน่อย กูไม่ได้อยากไปสักหน่อย พอดีกูปวดขี้ เลยลุกมาเข้าห้องน้ำ แล้วเห็นว่ามันเช้าแล้วก็เลยอาบน้ำเลย ทำไมว่ะ ไม่ได้เหรอ”

เกียร์หัวเราะลั่น
“กูก็ไม่ได้ว่าอะไรมึงสักหน่อย ร้อนตัวเลยนะ” เกียร์กระโดดลงจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำพร้อมตะโกนออกมาจากห้องน้ำ “รอแปปนะ เด่วอาบน้ำ 5 นาที”

“เรื่องของมึงเหอะ เอาที่สบายใจ ไม่ต้องรีบก็ได้นะ ไม่ต้องไปเลยก็ดี”  คำพูดของขลุ่ยช่างต่างจากอาการของเขาตอนนี้โดยสิ้นเชิง เพราะเขากำลังเลือกชุดหล่ออยู่ เอาชุดนั้น ชุดนี้มาทาบตัว โดยไม่รู้ว่าจะใส่ตัวไหนดี นี่เหรอคือความรู้สึกของคนที่ไม่อยากไป

“มาแล้วครับ ไวทันใจมั๊ยจ๊ะที่รัก” เกียร์เดินเข้ามาประชิดจากทางด้านหลัง พร้อมเอ่ยต่ออีกว่า “โห ชุดจัดเต็มขนาดนี้ ไม่อยากไปเลยเนอะ”

“ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมาก กูไม่ปงไม่ไปแม่งล่ะ!!”

“เห้ยยย ใจเย็น ไม่พูดล่ะ” เกียร์ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุดอย่างไวภายในไม่กี่นาที “ไปกันเหอะ พร้อมแล้ว” เกียร์พูดพร้อมยกกระเป๋าเป้ของตัวเองและขลุ่ยขึ้นมามุ่งตรงไปยังหน้าประตู

“อะไรของมึงเนี่ยะ นึกจะไปก็ไป เห้ยกระเป๋ากู เดี๋ยวกูยกเองได้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนี้กูบริการมึงเอง”

ขลุ่ยเดินมาหลังเกียร์ไปที่ลิฟต์อย่างว่าง่าย


สองหนุ่มขึ้นรถขับออกไป โดยมีเกียร์เป็นสารถีขับรถ

“มึงชอบเที่ยวทะเล แบบไหนว่ะ”

“แบบไหนก็ได้ว่ะ ได้หมดแร่ะ อ่าวววว นี่มึงยังไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือเนี่ยะ” ขลุ่ยทำหน้าสงสัย

“มีแล้วว่ะ ก็ลองๆ ถามดู แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าไปเที่ยวกะกูเนี่ยะ ต้องลุยๆ ง่ายๆ ไม่เน้นหรูนะมึง โอเคป่ะ”

“เออ ว่าไงว่ากัน ตามนั้นแร่ะ”

“โอเค ดีมาก ทำตัวน่ารักแบบนี้ทุกวันดิว่ะ” เกียร์ยิ้มแป้น ขับรถมุ่งหน้าสู่ทะเลตามที่เขาได้วางแผนเอาไว้

เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง รถแล่นมาถึงท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ เกียร์หันมาขลุ่ย
“ถึงแล้วนะ อ่าววว หลับไปตั้งแต่ตอนไหนว่ะเนี่ยะ” เกียร์นั่งมองหน้าขลุ่ยอย่างพินิจพิเคราะห์ มองไล่ตั้งแต่ผม คิ้ว ตา จมูก มาหยุดที่ปาก เขาเพ่งมองอยู่นาน เหมือนริมฝีปากนั้นมีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้เลย เกียร์ค่อยๆ ขยับตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับริมฝีปากนั้น จนเกือบจะชนกันอยู่แล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่ขลุ่ยลืมตาขึ้นมา มีอาการตกใจที่เห็นหน้าของเกียร์ของใกล้กับหน้าของเขาขนาดนั้น
“มึงจะทำอะไรน่ะ”

“เปล่าๆ พอดีกูจะปลุกมึงว่าถึงแล้วนะ ไป เดี๋ยวเราต้องนั่งรอข้ามไปเกาะอีก ไปเร็วเดี๋ยวเรือออก”

“อ๋อ ถึงแล้วเหรอ”

เกียร์ลงจากรถพร้อมกระเป๋าเป้ 2 ใบ ตรงไปยังเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเรือ

“รอด้วยดิ เดี๋ยวกูถือกระเป๋าเอง”

เกียร์ไม่ได้ฟังคำพูดของขลุ่ย เดินไปอย่างรวดเร็ว

“ตั๋วไป-กลับ 2 คน ครับ” เกียร์เอ่ยซื้อตั๋วแก่เจ้าหน้าที่ขายตั๋วเรือ

“นี่จ๊ะ ขึ้นเรือได้เลยค่ะ เรือกำลังจะออกแล้วค่ะ”

“โอเค ขอบคุณครับ”

“เดินเร็วดิว่ะ ชักช้าจริงมึง เรือจะออกแล้ว”

“เออๆ รีบแล้ว” ขลุ่ยวิ่งตามหลังเกียร์มาติดๆ เพื่อไปขึ้นเรือ

บนเรือที่กำลังแล่นอยู่กลางท้องทะเล มุ่งหน้าสู่เกาะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ขลุ่ยนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา จนเกียร์ต้องเอ่ยปากถาม

“มึงเป็นอะไรว่ะ นั่งนิ่งเลย ไม่พูดไม่จา เป็นอะไร ปวดขี้เหรอไง”

“เปล่า กูแค่สงสัย ว่าทำไมมึงพากูมาเที่ยวที่นี่”

“ทำไมว่ะ แปลกตรงไหนเนี่ยะ”

“ไม่แปลกเหี้x ไร พากูมาเสม็ดนี่นะ”

“อืมม เสม็ดแล้วไงว่ะ”

“ก็ใครมาเสม็ด แม่งเอ่อ เอ่อ”

“ติดอ่างอะไรของมึง ใครมาเสม็ดแล้วทำไม”

“ก็ใครมาเสม็ด เสร็จทุกรายอ่ะ นี่มึงคิดอะไรกับกูเปล่าเนี่ยะ”

“5555” เกียร์หัวเราะเสียงดัง “นี่มึงเชื่อคำพูดแบบนี้ด้วยเหรอว่ะ ปัญญาอ่อน”
“เออๆ กูคงคิดมากไป มึงคงไม่คิดแบบนั้นหรอก”

“เออ กูคิดว่ะ”

“ห๊า อะไรนะ”

“ล้อเล่นน่ะมึง กูแค่เป็นว่ามันใกล้กรุงเทพฯ ทะเลสวยดี ก็เท่านั้นแร่ะ ไม่ได้มานานแล้วด้วย”

“เออๆ กูก็คิดว่างั้นแร่ะ”

เรือเข้าเทียบท่า....................

“แล้วเราจะไปไหนกันต่อเนี่ยะ ไปยังไง มึงจองที่พักไว้หรือยัง” ขลุ่ยเอ่ย พร้อมหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่สู้กับแสงแดดจ้าในตอนนี้

“ยังว่ะ ไม่ได้จอง ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ คิดไรมากว่ะ ไปๆ ตามกูมา”

“ชวนกูซะดิบดี นึกว่าเตรียมตัวพร้อม อะไรว่ะ ร้อนนะเว้ย”

“อย่ามาเยอะ ผู้ชายห่าไรตากแดดแปปเดียวก็บ่น”

“กูไม่ได้บ่น พูดเฉยๆ”

เกียร์เดินตรงไปที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์

“เช่ารถคันนึงครับพี่”

“เช่ากี่วัน”

“ยังไม่แน่ใจครับพี่ 2 วันก่อนแล้วกันครับ”

“วันละ 200 บาท ขอบัตรประชาชนด้วย”

“นี่ครับ”

“ตอนเอารถมาคืน เติมน้ำมันให้เหลือ 3 ขีด เท่าตอนเอาไปด้วยนะ”

“อ๋อ ครับพี่”

เกียร์กระพายเป้ ขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์

“ขึ้นดิว่ะ มองอะไร”

“ทำไมมึงเช่าคันเดียวว่ะ มา 2 คน”
“ก็เพราะมา 2 คนไง ถึงเช่าคันเดียว มึงนี่บ้าไปล่ะ จะเช่า 2 คัน ให้เปลืองตังค์ทำไมว่ะ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว ไปคันเดียวกันนี่แร่ะ อย่าเรื่องมาก ขึ้นมาไวๆ”

ขลุ่ยยืนลังเลสักพัก ก่อนจะก้าวขาขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซต์ที่เกียร์เป็นคนขี่

“เขยิบเข้าหน่อยดิว่ะ นั่งซะห่างเลย กูไม่กัดมึงหรอก”

“เออๆ จะให้เขยิบอะไรหนักหนาว่ะ ตรงนี้ก็ดีแล้ว”

“เข้ามาอีก”

“เออ นี่ไง พอยัง”

“อีกนิดนึง”

“ใกล้กว่านี้ก็ขี่คอมึงแล้วแร่ะ”

“เออ โอเค ไปแล้วนะ”

เกียร์สตาร์ทเครื่องรถ พร้อมดึงมือขลุ่ยมาโอบเอวของเขาไว้ พร้อมขี่รถออกไป
“เห้ยยย”

“จะร้องไรหนักหนา”

“มึงจับมือกูมากอดเอวมึงทำไมเนี่ยะ”

“กูหวังดีกลัวมึงตกรถไง อะไรว่ะ หวังดีแท้ๆ”

“กูจับเองได้ ปล่อยมือกูได้ละ”

“อย่าดิ้นมากดิว่ะ ขี่รถอยู่ ไม่มีสมาธิเลยเนี่ยะ”

“ปล่อยมือกูก่อน”

“เออ ก็ได้”

“แล้วเราจะขี่ไปไหนว่ะเนี่ยะ”

“ก็ขับรถเล่นไปรอบๆ เกาะก่อนแร่ะ เดี๋ยวดูว่ามีอะไรน่ากิน ค่อยแวะกินละกันเนอะ จะเที่ยงแล้วด้วย”

“เออ แล้วแต่มึงละกัน”

สองหนุ่มตะลอน แว้นรถรอบเกาะ อย่างสนุกสนาน

“อากาศดีจังเลยว่ะ อยู่ๆ แดดก็ไม่ร้อน ดีว่ะ”

“เออ บรรยากาศแม่งโครตเป็นใจเลยว่ะ เดี๋ยวไปแวะหาดข้างหน้าหาไรกินกัน”

“อืมมม”

“ขลุ่ย”

“อะไรว่ะ”

“ข้างหน้าทางชันว่ะ เกาะกูดีดีนะ” เกียร์เอื้อมมือไปจับมือของขลุ่ยมาโอบไว้ที่เอวของเขา แต่ครั้งนี้ไม่มีอาการขัดขืนใดๆ จากขลุ่ย

“เกาะแน่นๆ นะ” เกียร์ชำกับขลุ่ย ก่อนบิดมอเตอร์ไซต์ขึ้นทางชันอย่างระมัดระวัง

“นี่ก็แน่นจนแทบจะสิงล่ะ”

“ก็ลองสิงดูดิ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง”

“ตลกแล้วมึง” ขลุ่ยปล่อยมือออกจากเอวของเกียร์

เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นลงเขา พาเขาทั้งสองคนมาถึงชายหาดที่มีน้ำใสๆ ทรายละเอียดๆ

“สวยว่ะ จอดๆ รีบจอดเลย” ขลุ่ยกระโดดลงจากรถ ทั้งที่รถยังจอดไม่สนิทเลยด้วยซ้ำ”

“เห้ย ระวังหน่อยดิ เด่วก็หกล้มหรอก รอกูด้วย” เกียร์รีบจอดรถแล้ววิ่งตามขลุ่ยไปที่ชายหาด “ไหนมึงบอกไม่อยากมาไง เห็นทะเลปุ๊ปก็วิ่งลงเล่นน้ำเลยนี่นะ”

“ก็น้ำใสดีนิหว่า ไม่ได้มาตั้งนานแล้วด้วย ไหนๆ ก็มาแล้ว มึงจะไปโดนน้ำทะเลบ้างเลยหรือไง”

“เออๆ แล้วแต่มึง เดี๋ยวกูนั่งเฝ้าของให้ตรงนี้แล้วกัน” เกียร์นั่งมองขลุ่ยที่เพลิดเพลินกับการเดินลุยน้ำเล่นเป็นเด็กๆ เขาอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายรูปของขลุ่ยเอาไว้หลายรูป


“เห้ยย นั่นมึงทำอะไรว่ะ แอบถ่ายรูปกูเหรอ”

“เปล่า กูถ่ายวิว มึงนี่หลงตัวเองเนอะ ใครจะไปถ่ายรูปมึง”

“ก็ไม่รู้เหรอ เห็นหันกล้องมาทางกู”

“ก็ทะเลอยู่ข้างหน้ากู กูไม่เล็งกล้องไปทางนี้ จะให้หันไปถ่ายข้างหลังหรือไง”

“เออก็จริงของมึง มาเดินเล่นเปล่า น้ำใสนะเว้ย”

“เอาก่อนเลย” เกียร์หันหน้าหลบ  ถอยหายใจเฮือกใหญ่ โล่งอก ที่แก้ตัวไปได้น้ำขุ่นๆ
ขลุ่ยเดินตรงมาที่เกียร์  “หิวแล้วว่ะ หาอะไรกินเหอะ”

“เออ ไปดิ ตรงนั้นน่าจะมีอะไรกินน่ะ”

“ไปๆ” ขลุ่ยเดินตัวปลิวไปทางร้านอาหาร

“สบายเลยนะมึง”

“ก็มึงอยากอาสาถือให้เองนิหว่า ตอนนี้อย่ามาทำเป็นบ่น”

“เออ มันเป็นหน้าที่ของกูอยู่ล่ะ”

ขลุ่ยหยุดเดิน “หน้าที่อะไรว่ะ???”

“หน้าที่ของผัวไง จริงมั๊ยจ๊ะเมียจ๋า”

“ไอ้เกียร์มึง ใครเมียมึง อีกแล้วนะ” ขลุ่ยทำหน้าตาขึงขังเอาเรื่อง

“กูพูดเล่น ใจเย็น เห้ย ใจเย็น” เกียร์วิ่งหนีไปทางร้านอาหาร

“ไอเกียร์หยุดเลย มาให้กูเตะซะดีดี”

“กูขอโทษ กูพูดเล่น หิวข้าวแล้ว จบนะ จบ”

“มึง”

“ขอโทษแล้วไง อย่าเยอะดิมึง นะนะ ดีกัน ดีกัน หิวจะตายแล้วเนี่ยะ”

“คร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงท้องของขลุ่ยดังลั่น จนต้องเอามือลูบท้อง “กินข้าวก่อนก็ได้ ฝากไว้ก่อนนะมึง”

“เออๆ กินข้าวเหอะ สั่งข้าวหน่อยครับ”

หลังจากสองหนุ่มกินข้าวกันเรียบร้อย ก็พากันขี่รถออกไปยังหาดอื่น เพื่อหาที่พักสำหรับคืนนี้

“สรุปมึงจะไม่พูดกับกูเลยหรือไง งอนจริงดิ”

“ไม่ได้งอนเว้ย แต่ไม่มีไรจะพูด”

“ไม่เอาน่า ดีกันนะ กูพูดเล่นน่ะ ไม่แซวแล้ว โอเคมั๊ย มาเที่ยวทั้งทีอย่าทำบรรยากาศเสียดิว่ะ นะนะ กูขอโทษ” เกียร์ปล่อยมือจากแฮนด์หนึ่งข้าง ยกนิ้วก้อย ทำท่าขอคืนดี

“ขี่รถไปเลย ไม่ต้องมาทำท่าปัญญาอ่อน”

“ดีกับกูก่อนดิ” เกียร์ยังคงยกนิ้วก้อย รอให้ขลุ่ยเกี่ยวตอบ

“เออๆ ขับรถไป”

“เกี่ยวก้อยคืนดีกับกูก่อนดิ”

“ไม่เอา ไม่ทำ”

“นะนะ ดีกันนะ” เกียร์พยายามตื้อให้ขลุ่ยเกี่ยวก้อยคืนดีกับเขาให้ได้

“เออๆ ดีก็ดี” ขลุ่ยยกนิ้วก้อยเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเกียร์แล้วรีบดึงออกเพื่อตัดรำคาญ

“ก็แค่นี้แร่ะ” เกียร์อมยิ้มไปตลอดทาง เหมือนกันกับที่ขลุ่ยแอบอมยิ้มไปตลอดทางเช่นกัน

รถมาจอดที่ทางลงหาด
“ไหนว่ะทางเข้าหาด” ขลุ่ยมองซ้ายมองขวา

“ซอยเล็กๆ ตรงนั้นไง เมื่อกี้เห็นมีฝรั่งเดินเข้าไป”

“ใช่เปล่ามึง”

“คงใช้แร่ะ ก็เห็นรถมอไซต์จอดเพียบเลยไม่เห็นเหรอ ตามกูมาเหอะ กูเช็ค อากู ดูแล้ว หาดนี้มีที่พัก ร้านอาหาร น้ำใส”

“ใครว่ะอากู”

“ Google ไง มึงไม่รู้จักเหรอ ตามกูมา”

“ถุย กูก็คิดว่ามีญาติอยู่แถวนี้”

“เป็นญาติกับอากู รู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้นะมึง อ่อ มึงต้องหัดมีเป็นญาติกับอาพัน ด้วยนะ อยากรู้อะไรมีคำตอบหมด”

“อาพัน ไหนอีกว่ะ”

“พันทิปไง ฟายยยยยยยยยย บ้านมึงมีอินเตอร์เน็ตเล่นเปล่าเนี่ยะ”

“หลายดอกแล้วนะมึงวันนี้”

“เออ กูพูดเล่น เดินหาที่พักกันดีกว่า” เกียร์กอดคอขลุ่ยเดินตรงไปยังชายหาด

“เออ”

“เนี่ยะเค้าบอกว่าตอนกลางคืน ริมหาดมีโชว์กระบองไฟด้วยนะมึง”

“เหรอ เออก็ดี”

สองหนุ่มได้ที่พักเป็นที่เรียบร้อย จัดแจงเก็บของไว้ในที่พัก

“ของีบหน่อยนะ เหนื่อยว่ะ แว้นมาทั้งวัน” ขลุ่ยทิ้งตัวลงบนเตียง

“อะไรว่ะ มาทะเลทั้งที มานอน”

“พักแปปนึง อย่าเพิ่งกวน”

“เออๆ ไม่กวนก็ได้ แล้วแต่มึง งั้นกูไปเดินเล่นสำรวจแถวนี้ก่อนนะ”

“เออ เอาเลย ตามสบาย ซื้อขนมมาฝากกูด้วย”

“โอเคตามนั้น”



 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2016 02:39:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 01-08-2016 08:31:53
มาเสม็ด? เสร็จกันเถอะ เพี้ยงงง  :hao6:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 01-08-2016 12:11:46
ต้องติดตามนะครับ อิอิ
:jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 01-08-2016 12:50:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 01-08-2016 17:24:51
ขอบคุณขาประจำทุกท่านเลยนะครับ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกอ่ะ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 01-08-2016 18:22:36
ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 13] 31.07.16 P.2 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 21-08-2016 23:03:32
ตอนที่ 14

“ขนมมาแล้ว มากินดิ”  เสียงเกียร์ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้ามาในห้องซะอีก เกียร์ยิ้มแป้นเข้ามาในห้อง ไม่มีเสียงตอบกลับจากขลุ่ย เกียร์วางขนมบนโต๊ะ แล้วเดินไปที่เตียง เห็นขลุ่ยกำลังหลับสนิท เกียร์นั่งลงข้างๆ บนเตียง มองดูขลุ่ยที่กำลังหลับ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบหัวขลุ่ยเบาๆ “นี่มึงเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอว่ะ รถกูก็ขับ มอเตอร์ไซค์กูก็ขี่ กูไม่ใช่เหรอที่ต้องเหนื่อย แต่เวลามึงหลับนี่น่ารักดีว่ะ กูใช้อภัย” เกียร์ลุกจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ เพราะเขาเองต่างหากที่เหนื่อยมาทั้งวัน


เกียร์ออกมาจากห้องน้ำ พบขลุ่ยกำลังนั่งกินขนมอย่าเอร็ดอร่อย
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ กินไม่รอเลยมึง”

“เรื่องอะไรจะรอให้โง่ว่ะ รอมึง มึงก็กินหมดดิ”

“กินบ้างดิว่ะ แบ่งกูเลย กินด้วย” เกียร์เดินตรงมาแย่งขนมจากมือขลุ่ย

“เฮ้ยย!! ของกู กินห่ออื่นดิว่ะ มาแย่งกินห่อเดียวกับกูทำไมเนี่ยะ”

“แย่งมึงกินอร่อยดีว่ะ” เกียร์หยิบขนมเข้าปาก

“นิสัยว่ะมึงเนี่ยะ”

“นิสัยดีใช่ปะ”

ขลุ่ยยิ้มพร้อมพูดเบะปากไม่มีเสียง “เXย”

เกียร์หุบยิ้ม “แหมๆ หนีมาเที่ยวถึงเกาะ ตัวนี้ยังตามกูมาได้ด้วยเหรอว่ะ”

“ตลกนะมึงเนี่ยะ เออ แล้วไปสำรวจมาแล้ว แถวนี้มีอะไรกินบ้าง นอกจากขนมที่มึงซื้อมาเนี่ยะ กูหิวจนจะกินปลาโลมาได้แล้วเนี่ยะ”
“เอองั้นรอแปป เดี๋ยวกูเปลี่ยนชุดก่อนแล้วไปกินข้าวกัน หรือว่ามึงจะอาบน้ำก่อนเปล่า”

“อืมมม ไม่เอาอ่ะ ไปกินข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาอาบทีเดียว”

“ไปกัน กูเสร็จละ”

“ไปกินที่ไหนว่ะ”

“ข้างหน้าที่เราพักนี่แร่ะ มีร้านอาหาร เห็นพี่เขาบอกว่า ตอนกลางคืน มีโชว์ควงกระบองไฟด้วยนะเว้ยยย”

“เออ ดีๆ หาไรกิน จิบเบียร์ริมทะเล ชิวๆ รอดูโชว์ พูดแล้วก็รีบไปเหอะว่ะ หิวโครตเลย”

“โอเคไปดิ”

เกียร์และขลุ่ยเดินตรงไปยังร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศยามเย็น เหมาะกับการนั่งชิวจิบเบียร์อย่างที่ขลุยว่าจริงๆ

“อากาศดีว่ะ”

“อืมมม คนไม่เยอะด้วยว่ะ นั่งตรงนั้นดีมั๊ยว่ะ วิวสวยดี”

“เออเอาดิ ตามใจมึงเลย”

“เออ ว่าง่ายดีมาก”

“เยอะนะมึงเนี่ยะ ขอเมนูหน่อยครับ”

พนักงานยื่นเมนูให้ขลุ่ย และเกียร์
“ขอบคุณครับ” สองหนุ่มหยิบเมนูมาเปิดดู
“อยากกินอะไรว่ะขลุ่ย”

“เกียร์มึงอยากกินอะไรก็สั่งเลย”

“มึงชอบกินปลาหรือเปล่าว่ะ” เกียร์เอ่ยถาม

“ก็กินได้”

“แล้วปลาหมึกล่ะ”

“ก็กินได้”

“กุ้งล่ะชอบมั๊ย”

“เออก็กินได้”

“แล้ว…..”

“พอเลย กูกินได้หมดแร่ะ สั่งสักทีเถอะมึง”

“ให้กูสั่งให้เหรอ”

“เออ เอาเลยมึงสั่งเลย” ขลุ่ยปิดเมนูวางลงบนโต๊ะ

“เออ โอเค งั้นเอา ต้มยำโป๊ะแตกทะเล ยำรวมมิตรทะเล ปลากะพงราดพริก กุ้งแช่น้ำปลา”

“โห สั่งไรเยอะแยะว่ะเนี่ยะ จะกินหมดมั๊ย”

“ก็ไหนบอกว่าหิวไง” “เด่วครับน้อง เอาเบียร์ด้วย 2 ขวด ครับ”

“เอาที่สบายใจเลยมึง”

“เออตามนี้แร่ะ กูสบายใจ”

อาหารมาเต็มโต๊ะ สองหนุ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมจิบเบียร์ชมวิวทะเล แถมวิวฝรั่งสาวๆ เดินผ่านไปผ่านมา

“มองน้ำลายยืดเลยนะ” ขลุ่ยแซวเกียร์ที่มองตามสาวฝรั่งผิวขาว หุ่นดี อยู่ในชุดบิกินี่ เดินผ่านไป

“น้ำลายยืดอะไรของมึง กูก็มองไปทั่วๆ ไม่ได้โฟกัสอะไรสักหน่อย หึงกูหรือไง”

“หึงอะไรของมึง เลอะเทอะ”

“หึงกูก็บอกมาเหอะ เห็นกูมองผู้หญิงอื่นเป็นไม่ได้เลยนะ”

“เรื่องของมึง ขี้เกียจพูดล่ะ” ขลุ่ยยกเบียร์ขึ้นซด

“ทำเป็นเนียนเลยนะมึง” เกียร์ยกเบียร์ขึ้นซดบ้าง

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องทะเลปกคลุมไปด้วยความมืด แต่ยังมีเสียงคลื่นสาดกระทบฝั่งให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้าไม่ได้มืดมนอย่างที่คิด ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้สว่างเพราะแสงดวงจันทร์ที่เต็มดวงส่องสะท้อนกับผืนน้ำทะเล มีดาวระยิบระยับให้เห็นถึงแม้จะไม่ได้มากนัก แต่มันก็ทำให้เขาทั้งคู่รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

“บรรยากาศที่เสม็ดมันดีแบบนี้นี่เอง มิน่าละ”
“มิน่าอะไรว่ะ” ขลุ่ยสงสัย

“มึงไม่เคยได้ยินหรือไง ว่ามาเสม็ด…เสร็จทุกราย”

“นี่มึงคิดลามกอยู่เหรอวะ”

“ถ้ามึงไม่คิดแล้วรู้ได้ยังไงว่ากูคิด”

“กูเปล่า เอ่อ นู้นๆ ดูทางนู้น สงสัยเขาจะโชว์ควงกระบองไฟกันแล้วแร่ะ”

“เปลี่ยนเรื่องเลยนะ”

สองหนุ่มซดเบียร์กันตั้งแต่เย็น จนถึงเวลาแสดงโชว์ควงกระบองไฟ ที่ริมชายหาด เสียงดนตรีครึกครื่นสนุกสนาน สองหนุ่มมองดูการแสดงด้วยความสนใจ พร้อมๆ กับใบหน้าที่เริ่มแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“เด็กตัวเล็กนิดเดียว ควงกระบองเก่งดีเนอะ” ขลุ่ยเอ่ย

“เออเก่ง แต่กูควงกระบองเก่งกว่าเยอะ มึงอยากดูป่ละ”

“มึงควงกระบองเป็นด้วยเหรอว่ะ”

“ลองดูป่ะละ?” เกียร์ทำหน้ากรุ้มกริ่ม

“กูว่าไม่น่าใช่กระบองไฟละ ที่มึงพูดเมื่อกี้”

“ทำไม มึงคิดว่ากระบองไหนเหรอ”

เกียร์จ้องหน้าขลุ่ย ด้วยสายตาที่เหมือนจะกลืนกินขลุ่ยลงไปทั้งตัว จนขลุ่ยกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ทั้งหน้าและหูเริ่มแดงไปหมดแล้ว โดยไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอกอฮอล์ หรือ เพราะความรู้สึกอะไรกันแน่

“กูว่ากูไม่อยากดูเด็กควงกระบองแล้วว่ะ”

“อะไรนะ มึงพูดว่าอะไรนะ” ขลุ่ยเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก

“กูบอกว่า กูไม่อยากดูเด็กควงกระบองแล้ว อยากควงกระบองเองแล้วว่ะ”

ขลุ่ยทำหน้าตกใจ “เอ่อ หมายความว่าไงว่ะ”

“เปล่าไม่มีไรหรอก กูว่าเอาเบียร์ไปกินต่อในห้องดีกว่าว่ะ ยุงเริ่มกัดกูแล้วเนี่ยะ”

“เอ่อ….”

“ตามนี้แร่ะ พี่ครับ เอาเบียร์อีก 6 ขวดใส่ถุงให้ด้วยครับ แล้วเช็คบิลเลย”

เกียร์ถือถุงเบียร์เดินนำเข้าไปยังห้องพักของเขา โดยมีขลุ่ยเดินตามมาห่างๆ

เกียร์หันมามองขลุ่ย แล้วพูดว่า “ทำไมมึงเดินช้าจังว่ะ ยุงกัดเนี่ยะ” พร้อมเดินกลับมาจูงมือขลุ่ยให้รีบเดินไปยังห้องพักของพวกเขา”

“เฮ้ยยย จะรีบไปไหนเนี่ยะ”

เมื่อเข้ามาในห้องพัก ขลุ่ยนั่งลงบนเก้าอี้ทำหน้าตาอึกอัก
“เป็นอะไรของมึงห่ะ ทำหน้าแปลกๆ” พร้อมเทเบียร์ใส่แก้วยื่นให้ขลุ่ย

“เปล่าว่ะ ไม่ได้เป็นอะไร สงสัยกูเมาว่ะ”

“อ่อนว่ะ กินไม่เท่าไหร่เมาละ”

“ใครอ่อน?”

“มึงนั่นแร่ะอ่อนว่ะ ถ้าไม่อ่อนก็ยกให้หมดดิว่ะ สุดซอยนะเว้ย”

“เด็กๆ ว่ะ” ขลุ่ยยกแก้วเบียร์กินหมดแก้วในรวดเดียว สุดซอยตามที่เกียร์ท้า

"เออๆ เชื่อละ มาๆ เดี๋ยวเติมให้” เกียร์เทเบียร์เติมให้ขลุ่ยอีก แล้วยกแก้วชน “หมดแก้ว”

“เออ หมดแก้ว”

สองหนุ่มดวลเบียร์กันจนหมด จนต้องสั่งมาเพิ่มใหม่อีกชุดใหญ่

“มึงนี่คอแข็งเหมือนกันนี่หว่า ดีๆ กูชอบ ถ้ารู้ว่ามึงคอแข็งแบบนี้ กูชวนมึงดวลนานละ”

“ปกติกูไม่ค่อยกินว่ะ”

“เออๆ ไม่ต้องกินกับคนอื่นหรอก กินกับกูคนเดียว โอเคนะ” เกียร์เอื้อมมือคว้าคอขลุ่ยเข้ามาใกล้ๆ หน้าของเขา

“เออ เข้าใจแล้ว”

“ดีมากลูกน้อง” เกียร์ลูบหัวขลุ่ยเบาๆ

“ครับบบบบบบบบบบบบ ลูกพี่”

สองหนุ่มจ้องหน้ากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เกียร์ค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้กับหน้าของขลุ่ย ส่วนขลุ่ยเองเหมือนถูกสตาฟไว้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน  เกียร์ขยับหน้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนกำลังจะถึงปากของขลุ่ย
“มึงจะทำอะไร” ขลุ่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  ทำให้เกียร์ต้องหยุดชะงัก
“คือกู”

“มึงคงเมาแล้วล่ะ” ขลุ่ยถอยตัวออกไป แต่ถูกเกียร์คว้าตัวเข้ามาใกล้ๆ กับหน้าของเขาเช่นเดิม พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กูไม่ได้เมาว่ะ กูมีอะไรอยากจะบอกมึง”

“อะไร”

“มึงไม่รู้จริงๆ เหรอว่ะว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง”

“รู้สึกอะไรว่ะ”

“กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร เป็นกับมึงคนเดียว”

“ยังไง”

“กู เอ่อ กู”

“ถ้ามันยากนัก ก็ไม่ต้องพูดล่ะ แดกเบียร์ต่อเหอะ รินให้กูดิ”

“มึงอยากกินเบียร์ใช่ม่ะ”

“ก็เออดิว่ะ เร็วๆ ดิ” ขลุ่ยยกแก้วเบียร์ให้เกียร์รินให้ เกียร์รับแก้วเบียร์ของขลุ่ยมา และวางไว้บนโต๊ะ พร้อมยกแก้วเบียร์ตัวเองขึ้นดื่ม
“อ้าวมึง ของกูล่ะ” ขลุ่ยยังพูดไม่ทันจบ

เกียร์เข้ามาประชิดตัวขลุ่ย พร้อมบรรจงประกบปากของเขากับปากของขลุ่ย อย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะบดปากของเขากับขลุ่ยรุนแรงขึ้น
ขลุ่ยตกใจตาเหลือก เขยิบถอยหลัง แต่ถูกเกียร์โอบกอดไว้แน่น พร้อมบดปากอย่างร้อนแรง จนอาการตื่นตกใจของขลุ่ยกลายเป็นคล้อยตามแทน ก่อนที่ขลุ่ยจะรู้สึกตัว และผลักเกียร์ออก

“มึงทำอะไรของมึงไอ้เกียร์”

“มึงบอกอยากกินเบียร์ กูก็เอาให้มึงกินนี่ไง รสชาติดีกว่ากินใส่แก้วมั๊ย”

“ไอ้เxยเกียร์” ขลุ่ยกระชากคอเสื้อของเกียร์กำหมัดจะต่อย

“ถ้ามึงจะโกรธกู กูก็เข้าใจน่ะ แต่กูอยากบอกมึงว่า กูรักมึงนะ”
“มึง” มือที่กำหมัด พร้อมกระชากคอเกียร์ถูกปล่อยออก
“กูจะไม่แก้ตัว หรือขอโทษมึงว่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือไม่ได้ตั้งใจนะ กูตั้งใจทำทุกอย่าง กูผิดเองที่ยอมปล่อยให้ความรู้สึกตัวเองอยู่เหนือเหตุผล อยู่เหนือความถูกต้อง”

“พอล่ะ มึงไม่ต้องพูดแล้ว”

“กูต้องพูดเว้ยย กูไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ กูไม่เคยชอบผู้ชายคนไหน แต่ตั้งแต่วันนั้น วันที่มึงช่วยชีวิตกูไว้ ไม่เคยมีวันไหนเลย ที่กูไม่คิดถึงมึง มึงไม่รู้หรอกว่ากูดีใจมากแค่ไหนที่ได้เจอมึงอีกครั้ง กูอยากวิ่งเข้าไปกอดมึงมากแค่ไหนมึงรู้บ้างมั๊ย”

“แต่กูเป็นผู้ชาย”

“กูก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”

“มึงคิดว่าเรื่องของเราจะเป็นไปได้หรือว่ะ”

“กูไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นไปได้หรือเปล่า มันอยู่ที่มึงนั่นแร่ะ มึงคิดยังไงกับกู มึงรู้สึกเหมือนที่กูรู้สึกบ้างมั๊ย”

“กูไม่รู้ว่ะ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เกียร์เดินเข้ามาใกล้ๆ ขลุ่ย
“มึงบอกกูหน่อยได้มั๊ย ว่าเมื่อกี้ที่กูจูบมึง มึงรู้สึกยังไงว่ะ”
“มึงอย่าเพิ่งบีบคั้นกูได้ไหม กูไม่รู้ว่ะ”

“กูขอโทษว่ะ แต่กูไม่ได้รักมึงแบบเพื่อนจริงๆ ว่ะ ต่อจากนี้ถ้ามึงจะรังเกียจกู ไม่อยากคบกูเป็นเพื่อนแล้ว กูก็พร้อมจะเข้าใจ และยอมรับการตัดสินใจของมึงนะ ถ้าคืนนี้มึงรู้สึกอึดอัดที่จะนอนเตียงเดียวกับกู เดี๋ยวกูออกไปหาที่อื่นนอนก็ได้นะ” พูดจบเกียร์หันหลังเหมือนจะเดินออกไปข้างนอก

“มึงจะไปไหน” ขลุ่ยจับไหล่เกียร์เอาไว้จากด้านหลัง

“กูไม่อยากให้มึงลำบากใจ”

“แล้วกูพูดแล้วเหรอว่ากูลำบากใจ”

“ก็มึง”

ขลุ่ยเดินเข้ามาด้านหลังเกียร์ พร้อมเอาหัวซบลงที่แผ่นหลังของเกียร์
“ตอนนี้กูยังไม่รู้หรอกนะว่ารู้สึกยังไงกับมึง แต่กูไม่ได้รู้สึกรังเกียจมึงเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงมึง ไม่ได้เกลียดมึง กูมีความสุขนะที่ได้อยู่กับมึง”

เกียร์หันหน้ามาหาขลุ่ย

“แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว ขอบใจมึงนะ” เกียร์ยิ้มให้เกียร์ด้วยความรู้สึกขอบคุณ พร้อมโผกอดขลุ่ยไว้แน่น

“อืมมม” ขลุ่ยกอดตอบ   “แล้วตกลงเราจะกินเบียร์ที่เหลือต่อมั๊ยว่ะ”

“มึงอยากกินมั๊ยล่ะ กูตามใจมึงเลยขลุ่ย”

“เออ เอาดิ กินๆ ให้หมดละกัน”

สองหนุ่มนั่งดวลเบียร์กันต่อด้วยบรรยากาศเงียบงัน ต่างคนต่างพากันซดเบียร์อย่างดุเดือด

“เบียร์หมดแล้วว่ะ เอาไงต่อดี”

“หมดก็นอนดิว่ะ มึงจะอาบน้ำเปล่าละ มึงยังไม่ได้อาบน้ำมาทั้งวันเลยนะขลุ่ย”

“เออ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนละกัน” ขลุ่ยเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ในขณะที่เกียร์เดินตรงไปที่เตียง จนขลุ่ยต้องเอ่ยถาม “เฮ้ย มึงจะไม่อาบน้ำอีกเหรอว่ะ ตัวเหม็นเบียร์”

“ก็กูอาบน้ำแล้วไงตอนเย็น”

“เฮ้ยไม่ได้ ตัวเหม็นเบียร์ไปหมดแล้ว อาบน้ำก่อน”

“ถ้าจะให้อาบอีกรอบ กูอาบพร้อมมึงเลยนะ”

“แล้วแต่มึงล่ะกัน”

?????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 14] 21.07.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-08-2016 12:13:44
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 14] 21.07.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 23-08-2016 22:05:46
น่ะ...มีอาบน้ำด้วยกัน อิย๊ะะะ รอฉากในห้องน้ำด้วยใจจดจ่อ  :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 09.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 09-11-2016 22:48:50
ตอนที่ 15

หลังจากกลับจากเกาะเสม็ด..........

"นั่งคิดถึงใครอยู่ คิดถึงกูใช่ม่ะ" เกียร์เดินมาแตะไหล่ของขลุ่ยพร้อมเอ่ยถาม

"เออ ก็ใช่ดิ ให้นั่งรอโครตนาน ตอนนี้หิวจนจะกินได้ทั้งโรงอาหารล่ะ!!" ขลุ่ยบ่นคิ้วขมวดที่นั่งรอเกียร์มากินข้าวกลางวันด้วยกันที่โรงอาหารตึกวิศวะ แต่เกียร์มาช้ากว่าเวลาที่นัดกันไว้มาก

"ขอโทษนะครับ อย่างอนนะ โอ๋ๆ อยากกินอะไร เดี๋ยวกระผมจะบริการไปซื้อให้พร้อมกับป้อนให้ถึงปากเลย ดีม่ะ?"

"เว่อร์ละมึง รีบๆ ไปซื้อข้าวเลย หิวจะเป็นลมล่ะ"

"ครับที่รัก" เกียร์ตอบรับเสียงหวาน เดินอมยิ้มไปสั่งข้าวอย่างอารมณ์ดี

ไม่นานนักเกียร์เดินกลับมาพร้อมข้าว 2 จาน

"รอแปปนะจ๊ะ เดี๋ยวไปซื้อน้ำให้"

"หยุดทำเสียงแปปนี้ได้มั่ยว่ะไอ้เกียร์ ขนลุกว่ะ"

"เสียงอะไรหรือครับ เนี่ยะปกติมากกกกกก"
"เออ ปกติมากกกกกกก"

หลังจากกินข้าวเสร็จ เกียร์ทำตาปริบๆ เหมือนมีอะไรจะพูด
"มึงเป็นอะไรเนี่ยะ ทำหน้าตาแปลก มีอะไรว่ามา"

"เอ่ออออ..."

"ลีลามาก กูไม่ฟังล่ะ ไปเรียนดีกว่า" ขลุ่ยทำท่าจะลุกจากโต๊ะ จนเกียร์ต้องรีบคว้ามือไว้

"เฮ้ยย เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่งไป"

"ตกลงมีอะไรว่ามา?"

"บ่ายนี้มีเรียนกี่ตัว"

"ตัวเดียว ทำไม?"

"โดดไปดูหนังกันป่ะ?"

"จะดูหนังนี่นะ ตอนเย็นเลิกเรียนค่อยไปดูก็ได้"

"ก็อยากดูตอนนี้อ่ะ"

"อะไรเนี่ยะ อารมณ์ไหน"

"ไปนะ นะ นะ" เกียร์ทำตาอ้อนวอนจนน่าหมั่นไส้

"เออๆ ไปก็ไป กูรำคาญหน้ามึง อ้อนจนน่าถีบ"

"โอเคงั้นไปกันเลย" เกียร์คว้ามือขลุ่ยเดินออกไปจากโรงอาหารตรงไปที่รถของเขา

----ระหว่างทางในรถ----

"จะดูเรื่องอะไร ที่ไหน"

เกียร์ยิ้ม ไม่ตอบคำถามของขลุ่ย จนถึงที่หมาย

"อ้าว ไม่เดินไปซื้อตั๋วอ่ะ จะดูเรื่องอะไร"

"จองไว้แล้ว" เกียร์จูงมือขลุ่ยให้เดินตามมาที่โรงหนัง ซึ่งเป็นโรงหนังที่แพงที่สุดในประเทศไทย

"สวัสดีค่ะ ...ยินดีต้อนรับค่ะ คุณเกียร์ที่จองไว้ใช่มั้ยค่ะ เชิญด้านในค่ะ อันนี้เป็นเมนูอาหารนะคะ จะรับตรงนี้ หรือในโรงหนังดีค่ะ"

"มึงว่าไง ทำหน้าเอ๋ออยู่นั่นละ"
"เออ เพิ่งกินข้าวมา ยังอิ่มอยู่เลยว่ะ งั้นในโรงแล้วกันครับ"
"ได้ค่ะ จะรับอะไรเพิ่มอีกมั้ยค่ะ"
"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณครับ" ขลุ่ยตอบพนักงานที่นั่งคุกเข่าข้างๆ อย่างเกรงใจ แล้วหันหน้ามาคุยกับเกียร์
"ทำไมโรงนี้ไม่เห็นมีใครดูเลยว่ะ"
"ไม่รู้ดิมึง" เกียร์ตอบสั้นๆ
"หนังเรื่องอะไรมึงก็ไม่บอก แถมไม่มีคนอื่นดูอีก จะสนุกมั่ยเนี่ยะ" ขลุ่ยบ่นพึมพำ
"บ่นไรหนักหนาเนี่ยะ"
"เปล่า ช่างเหอะ"
"ไป ได้เวลาหนังฉายละ" เกียร์จับมือขลุ่ยจูงเข้าโรงหนัง
"จับมือบ่อยจังนะ" ขลุ่ยบ่นเบาๆ
"ทำไมอ่ะ จะจับไม่ได้หรือไง"
"เรื่องของมึง"
"เรื่องของกู กูก็จะจับ นั่งๆ"

"เออ รู้แล้ว"

"มาล่ะ มาล่ะ ตั้งใจดูดิ"
"อะไรของมึงเนี่ยะ ทำหน้าตื่นเต้นทำไมเนี่ยะ มันฉายหนังตัวอย่างก่อนป่ะ" ขลุ่ยแซวเกียร์ที่ดูตื่นเต้นจนผิดปกติ

เสียงดนตรีดังขึ้น ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ ไม่ใช่ตัวอย่างหนัง หรือโฆษณาเหมือนทุกๆ ครั้งที่เคยดูมา แต่กลายเป็นรูปของขลุ่ยที่ค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาทีละรูป โดยรูปเหล่านั้นเป็นรูปที่ขลุ่ยเองไม่เคยเห็นมาก่อน ขลุ่ยตะลึงกับภาพตรงหน้า

ข้อความใต้ภาพปรากฏขึ้นช้าๆ

♡♡นายรู้มั๊ย ว่าตั้งแต่วันนั้น วันที่เราบังเอิญเจอกัน
 ไม่มีวันไหนที่จะไม่คิดถึงนายเลย
นายเข้ามาอยู่ในหัวตลอด
มันมากจน คิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
พยายามทำทุกทางที่จะได้พบนายอีกครั้ง
จนฉันได้เจอนายจริงๆ
ฉันพบนายแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะเข้าไปทัก
ฉันกลัวนายว่าฉันเป็นโรคจิต
ฉันเฝ้าดูนายอยู่แบบนั้น
ทุกวัน.......
คอยตามนายไปเกือบทุกที่
โดยที่นายไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ขอโทษนะ
ขอโทษที่ไม่กล้าพอ
แต่สุดท้าย วันนั้นก็มาถึง
วันที่ฉันกล้าเดินเข้าหานาย "บีทีเอส"
ขอสารภาพตามตรง ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ฉันตั้งใจให้นายเห็น และหวังว่านายจะจำฉันได้
แล้วมันก็เป็นจริงสักที

"ขลุ่ยนิ่งมองดูภาพและข้อความบนหน้าจอ"

"เห้ยเกียร์"

"นายอย่าเพิ่งพูดอะไร ดูให้จบก่อนได้ป่ะ

“ขลุ่ย”
“เรามีอะไรจะบอก”
“ตั้งใจฟังอยู่ใช่มั๊ย??”
“เรารักนายนะ”
“รัก”
“รักแบบที่คนๆ นึงสามารถรักใครอีกคนได้หมดหัวใจ”
“รัก ที่มากกว่าคำว่าเพื่อน”
“รัก ที่มากกว่าคำว่าแฟน”
“รัก ที่มันมากจนระบุสถานะไม่ได้”
“ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่านายจะโกรธ จะเกลียดเรามั๊ย”
“แต่ก็อยากบอกให้นายได้รับรู้เอาไว้”
“ไม่อยากปล่อยเวลาให้มันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลยอีกแล้ว”
“ขอโทษนะ”
“มีอีกอย่างที่กูอยากบอกมึง”
“กูเป็นผู้ชายนะ”
“แต่กูรักมึงจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้เป็นกับมึงคนเดียว”

ขลุ่ยหันมามองหน้าเกียร์ที่ยิ้มมุมปาก น้ำตาคลอๆ อยู่ แล้วลุกยืนขึ้น
“นี่มึงทำอะไรของมึงไอ้เกียร์”
“ทำไมมึงต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย” ขลุ่ยคิ้วขมวดจนเกียร์หน้าเสีย
“กูขอโทษ มึงคงโกรธกูมากเลยใช่มั๊ย มึงจะเลิกคบกูใช่มั๊ย มึงอายคนอื่นใช่มั๊ย”

ขลุ่ยนิ่งเงียบ
“เปล่า กูคิดว่ามันเปลืองตังว่ะ บอกกูตรงๆ ที่คอนโด หรือที่อื่นก็ได้ม่ะ ไม่ต้องเปลืองตังค์”
“ห๊า อะไรนะ หมายความว่าไง”
“ก็มึงเล่นใหญ่มาก ปิดโรงหนังมาสารภาพรักกูนี่นะ หน้ากูดูสาวมากขนาดจะต้องน้ำตาคลอกระโดดกอดมึงเหรอไง”
“เอ่ออออ” เกียร์นิ่งอึ้งกับคำตอบของขลุ่ย “สรุปคือมันยังไงกันว่ะเนี่ยะ"

“นี่มึงโง่จริง หรือ แกล้งโง่เนี่ยะเกียร์”

เกียร์ทำหน้างงต่อ

“กูก็รักมึงเหมือนกัน แล้วก็รู้สึกไม่ต่างจากที่มึงรู้สึกเลยสักนิด มีหลายอย่างที่กูอยากบอกมึงเหมือนกัน”

“อะไร”
“มึงอยากรู้จริงๆ เหรอ”

“ก็เออ ดิว่ะ อะไร”

“ถ้าอยากรู้กูยังไม่บอกมึงดีกว่า ปล่อยให้อยากรู้ไปก่อน”

“อ้าว อะไรว่ะ”

“สรุปแล้วตกลง วันนี้กูไม่ได้ดูหนังใช่ม่ะ คือ กูโดดเรียนมาให้มึงสารภาพรักเนี่ยะนะ”

“อืมมม ก็ใช่ไง แล้วรักป่ะละ”
“เออ ก็รักไง ตอบไปแล้ว”

“งั้นเราเป็นแฟนกันนะ” เกียร์เอื้อมมือมาจับมือของขลุ่ยไว้แน่น

“แล้วที่ผ่านมา เราดูไม่เหมือนแฟนกันหรือไง นอนเตียงเดียวกัน อยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วย แถมตอนกลางคืน มึงก็ชอบเนียนมากอดกู หอมกูออกจะบ่อย”

“นี่มึงรู้ด้วยเหรอ”
“ก็เออดิ ไม่ได้โง่เหมือนมึงนะ”

“แปลว่ามึงอ่อยกูอะดิ”
“ตลกละมึง ปากดี ไม่ปงไม่เป็นแม่งละแฟน”

“เห้ยย ล้อเล่นจ๊ะที่รัก”

“หยุดเลย หยุดเรียกกูแบบนั้นเลย ขนลุกว่ะ”
“ไม่ให้เรียกที่รัก แล้วจะให้เรียกอะไรอ่ะ”

“ก็เรียกชื่อกูเหมือนที่เคยเรียกนั่นแร่ะ”
“อืมก็ได้”

เกียร์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนเอ่ยถาม
“นายจะอายคนอื่นมั๊ย ที่มีแฟนเป็นผู้ชาย หรือว่าเราจะแอบคบกัน”

“นายอยากแอบคบหรือไง ถามแบบนี้ นายเองหรือเปล่าที่อาย”

“เปล่าเลย กูไม่อายหรอก พร้อมเปิดเผยอยู่แล้ว”

“กูก็ไม่อายหรอกนะ ถ้าคนๆ นั้นเป็นมึง” ขุล่ยจับมือเกียร์ไว้แน่น

เกียร์มองหน้าขลุ่ยด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข แล้วยิ้มกว้าง

“เลิกยิ้มได้แล้ว กลับบ้านกันเหอะ อยากกลับบ้านล่ะ” 

ขลุ่ยจูงมือเกียร์ออกจากโรงหนัง โดยไม่สนว่าจะมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขาสองคน ที่เดินจับมือกันกันมีความสุข

คอนโดของขลุ่ย
“ทำอะไรอ่ะ” เกียร์เดินเข้ามาสวมกอดขลุ่ยจากด้านหลัง ในขณะที่ขลุ่ยยืนกินน้ำอยู่หน้าตู้เย็น
“ก็เห็นอยู่ว่ากินน้ำ กอดอะไรเนี่ยะ ยอมแล้วเอาใหญ่เลยนะ”
“ก็มันอุ่นนิ กอดแล้วอุ่นดี กูชอบ” เกียร์กอดขลุ่ยไว้แน่นแล้วเดิม

“แน่นไปล่ะ ปล่อยเลย”
“ไม่ปล่อยนายก็บอกมาก่อน ว่ามีเรื่องอะไรที่อยากจะบอกแล้วไม่ได้บอก”
“นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก”

“ไม่ลืมอ่ะ เรื่องของมึง กูไม่เคยลืม”

“ที่มึงบอกว่ามึงเฝ้าดูกูมาตลอด แล้ววันที่เราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอ่ะ กูอยากจะบอกมึงว่า สำหรับกูแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหมือนกันนะ”

“หมายความว่าไง” เกียร์ดึงตัวให้ขลุ่ยหันหน้ามาหาเขา มองตาไม่กระพริบ

“อืมมม มึงคิดว่าจู่ๆ กูมาซื้อคอนโดที่นี่ทำไม ถ้าไม่อยากเจอมึง”

“มึงว่าอะไรนะ”

“เออ กูบอกว่ากูมาซื้อคอนโดที่นี่ เพราะอยากเจอมึง แล้ววันนั้นกูก็ตั้งใจไปยืนรอมึงที่รถไฟฟ้า”

“มึงพูดจริงเหรอ”

“ก็เออดิว่ะ”
“หมายความว่า มึงเองก็แอบตามกูเหมือนกันว่างั้น”
“ก็เออดิ”

“อ้าวไอ้โรคจิต”
“มึงก็โรคจิตเหมือนกันแร่ะ หลอนกว่ากูอีก กูก็แค่ให้นักสืบ สืบว่ามึงเรียนที่ไหน ทำอะไร อยู่ที่ไหน ชอบไปไหนบ้าง แต่มึงเล่นแอบตามกูเลย มีแอบถ่ายรูปด้วย หลอนกว่ากูเยอะ”

“โห่”

“แต่กูก็ชอบนะ”
“จิงดิ มึงชอบโรคจิตจริงเหรอ” เกียร์เดินเข้ามาประชิดตัวขลุ่ย จนขลุ่ยต้องถอยหลังหนี จนหลังติดตู้เย็น

“ทำไมมึงต้องทำหน้าตาโรคจิตแบบนี้ด้วยว่ะ”

“ก็เห็นมึงบอกว่าชอบนิ ป๋าก็เลยจัดให้” เกียร์ขยับหน้าเข้าใกล้ขลุ่ยไปอีก จนปากเกือบจะชนกันอยู่แล้ว

ขลุ่ยเบี่ยงหน้าหลบ “มึงจะทำอะไรเนี่ยะ”

“ทำหน้าที่แฟนไง”
เกียร์บรรจงจูบที่ริมฝีมือของขลุ่ยอย่างแผ่วเบา  และไม่มีทีท่าขัดขืนใดๆ จากขลุ่ย
รสจูบของเกียร์เริ่มรุนแรงขึ้น บดขยี้ปากของขลุ่ยอย่างร้อนแรง
ในขณะนี้ทั้งคู่บรรเลงเพลงจูบกันอย่างดูดดื่ม และเร้าร้อน มือไม้ของทั้งคู่เริ่มอยู่ไม่สุข
เกียร์ปลดกระดุมกางเกงของขลุ่ยออก ในขณะที่ขลุ่ยเองก็ไม่ยอมแพ้ ปลดกระดุมกางเกงของเกียร์ออกเช่นกัน
คืนที่แสนจะธรรมดา กลายเป็นคืนที่เร้าร้อนไปซะแล้ว
กว่าที่พระอาทิตย์ของเช้าวันใหม่จะขึ้น คอนโดแห่งนี้คงลุกเป็นไฟไปแล้วก็เป็นได้

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 09-11-2016 23:12:51
หายไปนานมาก นึกว่าจะไม่มาต่อละ สนุกดีค่ะ ตอนนี้ ^^
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-11-2016 12:31:28
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-11-2016 21:43:10
เข้าใจตั้งชื่อนะ ไร้ท
เกียร์  เรียนดุริยางค์ศิลป์ไทย
ขลุ่ย  เรียนวิศวะฯคอม
สุดท้าย ต่างฝ่ายต่างตามกันเอง
แล้วรักกันด้วย
เอ่อ....แล้ว.....กันด้วย :z1: :pighaun: :haun4:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: thanapontigy ที่ 10-11-2016 23:15:01
อร๊ายย กลับมาต่อด้วยนะคะ
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 08-04-2018 20:43:35
จบแล้วนะครับ รบกวนย้ายให้หน่อยครับ

เรื่องนี้อาจจะสั้นไม่หน่อยนะครับ เนื่องจากด้วยเวลาค่อนข้างน้อยครับ

ยังไงเรื่องต่อไปสัญญาว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา

เป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลยครับ สำหรับผลงานชิ้นแรก ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW จบแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 19-04-2018 05:43:43
 o13 เป็นกำลังใจให้ค่า
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW จบแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 19-04-2018 10:04:13
ขอบคุณมากๆ เลยจ้า :L2: :mew1:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW จบแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 20-04-2018 07:33:19
สนุกครับ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW จบแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 20-04-2018 11:57:31
ขอบคุณมากจ้า  :mew1: :mew1: 

คนอ่านครบ 10,000 เมื่อไหร่ จะลงเรื่องใหม่นะคร๊าบบบบบบบบ รับรองฟินกันยาวๆ ต่อเนื่องเลยคราวนี้

ฝากติดตามด้วยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-07-2018 18:09:33
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 21-07-2018 05:43:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-07-2018 01:11:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 22:34:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 17-04-2020 20:10:31
ขอบคุณนะคะ จบตั้งนานแล้ว แต่มีคนมาอ่านด้วย
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 18-04-2020 04:55:33
 :hao6:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 18-04-2020 23:14:43
เหคุเกิดง่ายๆ ได้ไม่ยาก. น่ารักดี
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 19-04-2020 17:02:37
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 21-04-2020 22:50:47
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] จบแล้วครับ ฉบับแก้ไข
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 18-05-2020 21:11:56
 :mew1:ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: โดนนนนน ตี ❤ วิดวะ [ตอนที่ 15] 9.11.16 P.3 NEW
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 29-05-2022 23:00:45
ถ้ามีภาคต่อมีใครอยากอ่านบ้างยกมือขึ้น ห่างหายไปนานเลย คิดถึงกันบ้างมั๊ย

จบแล้วนะครับ รบกวนย้ายให้หน่อยครับ

เรื่องนี้อาจจะสั้นไม่หน่อยนะครับ เนื่องจากด้วยเวลาค่อนข้างน้อยครับ

ยังไงเรื่องต่อไปสัญญาว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา

เป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลยครับ สำหรับผลงานชิ้นแรก ขอบคุณมากครับ