9
ตึ่ง! ตึ่ง! ตึ่ง!
“เอ็มอี เอ็มอี ของเรา ภาคเครื่องยิ่งใหญ่ เฮ้!!!!”
เสียงกลองกระหึ่มพอๆกับเสียงคำราม เป็นซิกเนเจอร์ของภาคเครื่องกลครับ เพราะเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด ผู้ชายเยอะที่สุด คือถ้าเป็นในแฮรี่พวกมันจะเป็นไอโรงเรียนที่ตีลังกาเปิดตัวอ่ะครับ แม่งเหมือนเดินดีๆไม่ได้ต้องส่งเสียงดัง ภาคอุตภาคคอมก็จะค่อยๆเขย่งก้าวโปรยลมหายใจประหนึ่งโรงเรียนกระโปรงฟ้า ส่วนพวกผมภาคโลจิสต์
อะไรนะ? เป็นฮอกวอร์ด?
โอ่ยยย หรูไปครับ นู่น เป็นด๊อบบี้ นั่งเด๋อๆท่ามกลางสนามรบ
“เอาหล่ะครับสำหรับวันนี้ที่ลอยคอ”
“รอคอย!!”
ตะลึ่งตึ่งโป๊ะ แฉ่!!
อืมมมมมมมมมมมมมมม มุขเบสิคตั้งแต่สมัยไดโนเสาร์ยังใช้เล่นกันเองหลังแดกใบไม้เสร็จ
“เราขอเปิดกีฬาสีวิดกำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับบบบบบบบบ”
“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ” เยี่ยงคนมาชุมนุม มีอะไรเคาะแล้วเกิดเสียงก็เคาะหมดครับ เสียดายเติ้ลไม่อยู่ ถ้าเคาะหัวมันหน่อยนี่เสียงกังวานแบบใสๆเลย
“วันนี้ก็ฤกษ์งามยามดีนะครับ”
“เพราะฟ้าเปิดใช่มั้ยครับคุณเก่ง”
“เปล่าครับ ยามดีเพราะยามซื่อสัตย์ ตะหลึ่งตึ่งโป๊ะ แฮ่”
...
กริบทั้งสนาม
“แหม่ เรียกได้ว่ากริบยิ่งกว่าเสียงหมาเยี่ยว พวกมึงนี่จะช่วยขำให้กูไม่ได้เลยหรอ”
“เพื่อเป็นการกู้เศษหน้าพวกกู เอาเป็นว่าขอเชิญหลีดโจ๊กภาคแรก เครื่องกลลลลลลลลลลลลล”
“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
เหล่าชายเครื่องกลทุบพื้นกันเสียงดังอีกครั้งครับ ข่มขวัญศัตรูกันสุดๆ แต่ตัดภาพมาเห็นลีดโจ๊กของภาค แม่งใส่บ๊อกเซอร์มัดจุก ถอดเสื้อโชว์ก้างแห้งๆ แต่งหน้าด้วยแป้งกับลิปสติกสีแดงแบบที่แพรี่พายยังต้องไหว้ เพราะน่ากลัวมากๆ ไม่ไหว้ไม่ได้แล้วแบบนี้
ซึ่งขัดกับเสียงกองเชียร์แมนๆโดยสิ้นเชิง เต้นสันกันสุดฤทธิ์สุดเดช ท่าประจำคือเด้งเป้า ถามว่าสาวๆปิดตากันมั้ย อนาจารขนาดนี้
โอ๊ยยยยยยยย หมดยุคเอาสองนิ้วปิดตาแล้วครับ นี่ถ่ายรูปกรี๊ดกันสุดเสียง ส่วนกระเทยนี่รั้งกันเองอย่างเหนียวแน่น อย่าให้หลุดออกมาลูบเป้าได้ซักคน ไม่งั้นคงจะเกิดสงครามควักไข่ อันนี้น่าจะอนาจารของจริง
กว่าการแสดงภาคเครื่องจะจบลงไปได้ก็ล่อพี่กระเทยทั้งหลายเสียไปหลายน้ำครับ
หมายถึงเหงื่อ!
ก็เล่นหักห้ามใจตัวเองกันซะยิ่งกว่าอะไรดี! พี่มงคลนี่ถึงกับต้องนั่งสมาธิพึ่งทางธรรมกันเลยครับ อดความอยากระงับด้วยสติ
“จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับหลีดโจ๊กภาคเครื่องกล แหม ก็เรียกได้ว่ากวาดรางวัลสาขาเขย่าไข่กันไปเลยทีเดียว”
“ภาคต่อไปปป ภาคโลลลลลลลลลลลลลล”
ตึ่ง! ตึ่ง! ตึ่ง!
โลจิสติกส์ !! โลจิสติกส์!!
มาแล้วภาคผม เปิดภาพมาด้วยสาวน้อยในภาคครับ แค่สาวน้อยโผล่ออกมา ชาวคณะเราก็โห่ร้องกันเยี่ยงลิงช่วงผสมพันธุ์ ตามบทแล้วผู้หญิงคนนี้วิ่งหนีสัตว์ประหลาดมา ส่วนคนเล่นเป็นสัตว์ประหลาดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนกัน หน้าตาคุ้นเคย หน้าขาวๆเอ๋อๆ
...ไอ้ปันครับ
ซึ่งแม่งเป็นสัตว์ประหลาดสวมหูกระต่ายที่สะดุดขาตัวเองตั้งแต่สามวิแรกจนล้มไปกองกับพื้น ต้องไปผู้หญิงดึงมือขึ้นแล้วเข้าบทหนีต่อ ไร้ซึ่งความน่ากลัว ขู่ผู้หญิงเป็นหมาชิวาว่ากลัวแมลง ถ้ามีจัดอันดับสัตว์ประหลาดที่โหด แม่งคงรั้งท้าย
“กรี๊ดดดดดด อย่าเข้ามานะ”
“แฮ่ๆ นี่แหน่ะๆ”
แฮ่เหี้ยไรเนี่ย สัตว์ประหลาดขู่หรือมึงเรอไอ้ปันนนนน
“หยุดนร้า!!!!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงวิเศษตะโกนลั่นมาทันที ว่าแต่นร้าอะไรของมัน พอผมหันไปมองก็ต้องช็อคโลกครับ
ไอ้พี่แป๊ะ!!!!!!!
แต่งตัวอะไรของเมิ้งงงงงงงงงง!!!
“พวกเราคือผู้พิทักษ์เหล่าร้าย” ไม่มีอะไรร้ายไปกว่ามึงแล้ววววว โฮฮฮฮฮฮฮ เสียสายตาสุดๆ ต้องมาทนดูผู้ชายร่างบึกใส่วิกสีเหลือง มัดจุกสองข้างกับกระโปรงสั้น เห็นบ๊อกเซอร์เหี่ยวย่นที่ซ่อนอยู่ด้านใน อยากจะร้องไห้
“สาวน้อยน่ารัก ผู้พิทักษ์ความรักและกระทรวงยุติธรรม!”
“ความยุติธรรมมึงไม่ใช่กระทรวงยุติธรรม”
“เออๆ และความยุติธรรม!!”
มึงแก้บทกันหน้าด้านๆแบบนี้เลยก็ได้หรอ!!
ไอ้เติ้ลผู้ใส่วิกชมพูเดินออกมาขนาบข้างพี่แป๊ะผู้หัวสีเหลือง ทำสายตาแน่วแน่ประหนึ่งจะไปฆ่าสัตว์ประหลาดร้ายตัวเท่าไททัน แต่ความจริงคือเป็นแค่ไอ้ปันที่สวมหูกระต่าย กูนี่แยกไม่ออกแล้วเนี่ยว่าฝั่งไหนสัตว์ประหลาด ฝั่งไหนผู้พิทักษ์
“พะ พะ พวกแกคือใคร” ไอ้ปันทำท่ากลัว แต่ท่าทางน่าจะกลัวจริงครับ ไม่กลัวก็แย่แล้ว หลอกหลอนสายตาขนาดนี้
“มันไม่รู้จักเราว่ะบีหนึ่ง”
“งี้แหล่ะบีสอง ดูหน้าก็รู้ว่าบ้านยังใช้หินจุดไฟ” ไอ้ปีศาจหน้าเอ๋อได้มองหน้าผู้พิทักษ์สลับไปสลับมาอย่างงงๆ เหมือนมึงไม่ได้เตี๊ยมบทกันมาอ่ะ แล้วไหงผู้พิทักษ์ถึงจริตเหยียดเยี่ยงตัวร้ายอะไรได้ขนาดนั้น
“หึ ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง”
“พวกเราก็พร้อมที่จะฟักไข่”
“แถลงไขพี่แป๊ะ แถลงไข”
“เออๆ พวกเราก็พร้อมที่จะแถลงไข!!”
“ พวกเราคือ”
“ สลัมมูน!!!”
ก็ได้หรอ!!!
เซเลอร์มูนตกอับไม่มีใครจ่ายค่าแรงเลยกลับดาวไม่ได้หรอถามใจดู
พูดจบไอ้พี่แป๊ะก็ร่ายรำเหมือนเจ้าเข้า แล้วจบด้วยท่ายิงกระสุนรักทำมือเป็นไอเลิฟยูอยู่ที่หัว ดูแล้วอารมณ์ทางเพศติดลบที่สุด
“ตัวแทนแห่งบางระจัน จะลงทันฑ์แกเอง!!!!”
ได้หรอวะ!!
แล้วไหงเซเลอร์มูนที่บ้านเกิดอยู่บนดาวเคราะห์กลายมาเป็นนายทองเหม็นได้วะไอ้พี่แป๊ะ!!
สุดท้ายนิทานก็เละเทะตุ้มเป๊ะครับ เอาบางระจันมาบวกกับเซเลอร์มูน โจมตีปีศาจกระต่าย โดยการเรอใส่ ไล่เรอใส่หน้าไอ้ปัน จบลงแบบไม่มีสาระมีแต่ความอุบาทชาติชั่วที่เปลี่ยนแปลงการ์ตูนวัยเด็กของคุณไปตลอดกาล
ต่อจากการโชว์ลีดโจ๊กครบทุกภาคนั่นคือเล่นเกมส์ตามฐานครับ ก็แบ่งกันไปเล่น ฐานก็จะจัดขึ้นโดยพี่แต่ละภาค ซึ่งเกมก็หนีไม่พ้นความจังไรของพี่ๆ เหมือนสร้างฐานมาเพื่อลงโทษน้องเล่นๆ เราก็จะวนเล่นฐานของพี่ๆทุกภาคแล้วมาจบที่ภาคของตัวเองครับ ซึ่งฐานภาคโลจิสพี่ก็ให้เล่นเกมส์ปาลูกโป่งน้ำครับ โดยผู้ชายจะต้องถอดเสื้อออกมาให้ผู้หญิงใช้เป็นที่ลองรับลูกโป่งจากรุ่นพี่แล้วเอาตัวเองไปยืนเป็นกำแพง เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้หญิงไปได้อย่างดี
“เหยดเข้ อู้ มึงโคตรผอม” ไอ้ปันที่เพิ่งถอดเสื้อแล้วส่งไปให้ผู้หญิงข้างๆเล่นเกมกันมาบอกผม
ใช่สิครับ นอกจากสูงน้อยแล้วก็ยังผอมอีก ถอดออกมา มีอวดได้ก็แค่สีหัวนม
“โห อู้ มึงโดนลูกโป่งมึงจะแตกแทนลูกโป่งมั้ยเนี่ย”
“เริ่มเกมมมมมมมมมม!!” ลูกโป่งน้ำถูกปามาเป็นคอมโบครับ ซึ่งลูกแรกก็โดนเต็มๆ
โดนผ้า?
หัวกูนี่แหล่ะครับ!!!
อะโหหหหหหหหห เปียกยันไข่
พี่แม่งปาไม่เว้นระยะ จุดมุ่งหมายคือกะให้เปียกโดยแท้จริง ยังดีครับผมเตี้ย พวกเพื่อนเลยพอเป็นกำบังได้บ้าง ไอ้ปันสูงกว่าผมหน่อยนี่โดนจนต้องยกแขนบัง
พี่หญิงนี่ตัวดีเลย พี่แกดูสนุกมากครับ หัวเราะใหญ่เลย เพราะไม่มีใครกล้าปากลับ เนื่องจากพกอาวุธสูง190กว่ายืนหน้ายักษ์อยู่ด้านหลัง ไม่ได้พูดอะไร แต่หน้าตานี่บอกหมดเลยว่าลองทำเสื้อหญิงเปียกซักหยดสิ กูจะปลิดชีวิตมึง ผลคือพี่จะปากลับเลยจิกลูกโป่งให้น้ำแตกใส่ตัวเองแทน นับเป็นการฆ่าตัวตายในหน้าที่ที่ทุกคนเห็นใจ
แต่มันก็มีจังหวะพลาดครับที่น้องปาลูกโป่งน้ำกลับไปทางฝั่งรุ่นพี่แล้วมันดันไปโดนพี่หญิง พี่แกใส่เสื้อขาวมาเวลาเปียกงี้แนบเนื้อ ขนาดไอ้ผมมันชายแท้นี่ยังยอมรับเลยครับว่าพอผมพี่หญิงลู่ไปกับหน้านี่โคตรเหมือนทอม ยิ่งพี่มันขาวสว่างส่องแสงด้วยเลยยิ่งหน้ามองไปอีก แต่ก็ไม่ได้จ้องนานครับ เพราะเกรงใจสายตาไอ้พี่พี่ ถามว่าหวงมั้ยดูจากหน้าที่หดเป็นยักษ์ก็คงเกรงครับ แต่ด้วยความที่พี่หญิงเป็นผู้ชาย พี่พี่เลยไม่ได้หิ้วพาตัวออกไปอะไรขนาดนั้นแต่ดูจากหน้าก็รู้ว่าหงุดหงิดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน พี่หญิงเลยต้องหันไปลูบหัวลูบหางให้ใจเย็นๆ
กว่าจะจบเกม เรียกได้ว่าช้ำไปทั้งตัว พวกผมก็มานั่งตัวเปียกๆ บางคนก็สวมเสื้อกลับแล้ว บางคนก็ถอดเสื้อเอาเสื้อพาดบ่าไว้ ซึ่งผมอยู่ในจำพวกที่ยังไม่ได้สวมครับ เพราะผู้หญิงที่เอาเสื้อผมไปเล่นเกมอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เลยต้องนั่งโชว์หัวนมชมพูตัวเองไปอย่างอายๆ ต้องเอานิ้วชี้นิ้วนางปิดเอาไว้
อ้อ สำหรับพี่โย รู้สึกว่าจะมีผู้หญิงในภาคเป็นลม พี่แกเลยจำเป็นจะต้องพาน้องไปโรงพยาบาลครับ ตามภาษาหน่วยปฐมพยาบาล ได้ข่าวว่าโชว์แมนอุ้มน้องขึ้นรถ พี่รหัสใครวะ โคตรเท่เลย
“ครับเราก็มาถึงช่วงสำคัญของวันนี้แล้วนะครับ นั่นก็คืออออออ”
“คือออออออ”
“คืออออออออออออออออ”
อ่ะๆ มึงกลับไปเล่นที่บ้านก่อนก็ได้นะพี่
“คืออ ช่วงประกาศผลการแข่งขันนั่นเองครับ!!”
“สำหรับภาคที่ชนะนะครับ โอ้โห ภาคนี้ทุกปี” ตามมาด้วยเสียงรัวกองตึ่งๆ ปลุกใจครับ ทุกภาคต่างก็ตะโกนชื่อภาคตัวเอง
“ภาค!!!”
“ภาคคคคคคคค!!”
“ภาคเหนือครับ!!! เอ้า ต่อนยอนต๊ะต่อนย๊อน”
...กริบทั้งสนามอีกรอบ
“พวกมึงจะช่วยกูทำมาหากินไม่ได้เลยวะ ไอ้พวกปีหนึ่ง ห่า” อะโห ก็ดูมุขพี่ดิ ไม่ขำไม่เท่าไหร่ แต่จังหวะนรกมาก
“อะไม่เล่นแล้วครับ เพราะเหมือนกูเล่นไปตลกซักมุข สำหรับภาคที่ชนะนะครับ”
“โลจิสต์ๆ”
“เครื่องกลๆ”
“ภาคคอม ภาคคอม”
“ผลก็คือออออออ ไม่มีภาคไหนชนะ คะแนนเท่ากันนั่นเองครับบบบบ!! เอ้าๆ อย่าเพิ่งโห่ ไอ่สัส รีบเหี้ยไรกัน ฟังกูอธิบายก่อน เนื่องจากกีฬาสีเราจัดขึ้นเพื่อกระชับมิตรในคณะ ไม่อยากให้น้องๆมองเป็นการแข่งขัน จุดประสงค์ของเราคืออยากให้น้องๆปีหนึ่งและรุ่นพี่ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน อ่ะๆ หล่อเลยกู” กิจกรรมที่ว่านี่คือไอ้สลัมมูนเนี่ยอ่ะหรอ มึงกระชับมิตรตรงไหน ไหนบอกมาซิ!
“แต่!!! การแข่งขันจริงๆนั้นก็คือกีฬามหาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเราไม่เคยมาเล่นๆนะครับน้องๆ!! พี่อยากจะขอให้น้องๆเต็มที่ทุกการแข่งขัน ไม่ว่าจะสแตนด์เชียร์ ผู้นำเชียร์ รวมไปถึงกีฬาทุกชนิด ต่อให้มีเป่ากบพวกมึงก็ต้องเป่าให้เหมือนกบแล้วชนะมาให้ได้ เพราะพวกเราคือวิศวกรรมศาสตร์ ข้าใจมั้ย!!!!!”
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!
จากนั้นก็มีการกล่าวปลุกระดมจิตใจชาววิศวะให้ฮึกเหิมไปอีกซักพัก พี่เค้าก็นัดวันเวลาว่าอาทิตย์หน้าจะเริ่มคัดลีดคณะกับสแตนด์คณะแล้ว ให้มารวมตัวกันที่สเตเดี้ยม พร้อมกับย้ำด้วยว่าให้มาทุกคน ก่อนจะปล่อยเรากลับหอครับ
“อู้ๆ เราขอโทษนะเราทำเสื้ออู้ขาดอ่ะ ฮือออออ” ผมหันไปหาทราย ทรายเป็นดาวภาคครับ ตัวเล็กนิดเดียว ในมือถือเสื้อที่อดีตน่าจะเคยสวยเพราะซื้อมาจากสยามของผมที่ตอนนี้รุ่งริ่งไปแล้วเรียบร้อย
“เห้ย ไม่เป็นไรๆ”
“ฮืออออ พี่เค้าเข้ามาแกล้ง เราเลยดึงหลบมันเลยขาด ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรๆ
“ขอโทษจริงๆนะ” ผมรับซากเสื้อมา ทรายขอโทษผมอีกสองสามครั้งแล้วก็วิ่งไปรวมกับเพื่อน ผมก็เตรียมเดินกลับหอพร้อมเพื่อน แต่ก่อนจะได้เดินก็โดนดึงแขนไว้ซะก่อน
“เห้ย พี่หมอ! ตกใจหมด!” เสื้อยืดบนตัวพี่มันเปียกน้ำเล็กน้อยครับ สายตาคมที่มองมาดูดุอยู่นิดๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าจะมองดุๆกันทำไม
“ทำไมมึงยังแก้ผ้าอยู่”
“แค่ถอดเสื้อโว้ย” มาแก้พงแก้ผ้าอะไร ผมรีบยกมือขึ้นมากอดอกปิดบังหัวนมพูทันที
“เสื้อมึงไปไหน”
“ขาดดิ พวกพี่แม่งเล่นกันแรง” ผมกางเสื้อให้พี่มันดู พี่หมอทำเสียงจิจ๊ะขัดใจเล็กน้อย มือมันเสยผมหน้าม้าที่เปียกน้ำขึ้นลวกๆ ตั้งใจจะปาของในมือใส่ผม แต่พอผมย่นคอหนี มันก็ถอนหายใจยาวๆ เปลี่ยนจากจะปาใส่มาเป็นสะบัดเสื้อในมือออกแทน
...เสื้อชอป
“ใส่ไป” เออะ พอพี่มันเห็นผมอ้ำๆอึ้งๆ มันเลยสะบัดมาคลุมตัวผม ผมเลยต้องยืดแขนใส่อย่างงงๆ ติดกระดุมมือสั่นเลย เสื้อพี่หมอตัวใหญ่มากครับ คลุมเลยต้นขาไปเยอะเลย ด้วยความวันนี้กะจะมาลุยเล่นฐานผมเลยใส่กางเกงบอลมา ผลคือชอปพี่มันคลุมเลยกางเกงไปอีกจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไรข้างใน
“ขะ ขอบคุณครับ” อยากจะตีปากตัวเอง ที่ดันรู้สึกแปลกๆจนลิ้นพันกันไปหมด แถมยังพูดสุภาพครับออกไปอีกต่างหาก โว้ยยยยย ไม่ได้เขินอ่ะเข้าใจอารมณ์ป่ะ คือไม่ได้เขิน แต่ทำตัวไม่ถูกเฉยๆ
“อืม”
“...”
“...”
“...”
ห่า บรรยากาศอะไรวะเนี่ย!!
ทำตัวไม่ถูกไปหมดแล้ว
“งะ งั้นเดี๋ยวกลับไปซักให้ละกัน”
“ไม่ต้องหรอก ชอปปกติกูไม่ซัก เดี๋ยวสีซีด” อื้อหือ ไม่กล้าดมเลยกู
“แล้วพี่อ่ะ”
“กูรอเก็บฐานก่อน”
“อ่อ”
“อู้!! ไปยังวะ”
พอดีกับที่พวกเพื่อนผมตะโกนเรียก ผมเลยรีบวิ่งไปหาพวกมัน ท่ามกลางความงง แต่ก็ขอบคุณที่เรียกได้ตรงจังหวะมากๆ กูกำลังนึกคำพูดไม่ออกเลย จู่ๆลิ้นก็ชาหน้าชาขาชาไอ้นั่นก็ชา ขนาดปรอทยังวัดไม่ได้
“เฮ้ย มึงเอาชอปใครมาใส่เนี่ย ใส่กางเกงรึเปล่า” ไอ้เติ้ลที่เลิกเป็นตัวแทนแห่งบางระจันรีบยิ่งคำถามใส่ผมทันที
“เสื้อกูมันขาด ใส่ดิ” นี่ ดึงชอปขึ้นโชว์กางเกงมันซะเลย
“อะโห กูก็เกือบจะถามแล้วว่าชอปใครเห็นติดEG23 แต่พอเห็นด้านหลังนี่รู้เลยขรั่บ” อะไรวะ ผมพยายามหันคอไปดูว่ามันหมายถึงอะไร ซึ่งก็มองไม่เห็น
“อะไรวะ”
“ปักเครื่องกลเต็มแถบ เดี่ยวนี้แรดใส่ชอปสามีหรอครับน้องอู้”
“โว้ยยยย พี่มันให้ใส่เพราะกูไม่มีเสื้อใส่เฉยๆโว้ย!!”
ผมเดินกลับหอพร้อมกับพวกมันโดยตกเป็นเป้าสายตาอย่างชัดเจน ผู้หญิงบางคนเห็นก็แอบถ่ายก่อนจะขยับนิ้วรัวเลย อะไรวะ ใส่เสื้อชอปรุ่นพี่แค่นี้เอง แปลกตรงไหน!!
กว่าจะถึงหอ เรียกได้ว่าถูกแอบถ่ายมาตลอดทาง วิถีเซเลปโคตรๆ ทำไมครับทำไม วิศวะใส่ชอปมันแปลกตรงไหนนักหนา พอเข้าห้องได้สิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยก็คืออาบน้ำครับ เพราะหน้าโดนปะแป้ง เขียนด้วยลิปสติก กลัวหน้าจะแหกไปซะก่อน
อ้อ ไม่ลืมเอาชอปไอ้พี่เข้ามาซักมือด้วย กลัวซักเครื่องไม่ทันครับ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้พี่มันต้องใส่ชอปเรียนรึเปล่า
เสร็จแล้วก็เปิดแอร์นอนกลิ้งบนเตียง รอเวลาลงไปกินข้าวเย็น แหม่ๆ หอในที่มีโรงอาหารอยู่ใกล้ๆมันก็สบายแบบนี้แหล่ะครับ สบายปากแต่หนักพุง
แต่เพราะว่าตัวอมน้ำมาทั้งวันมาเจอกับเตียงนิ่มๆ บวกกับแอร์เย็นๆ ก็นั่นครับตามสูตร
คร่อกกกกกกกกกกก
หลังจากที่ร่างเล็กหลับตาไปเพียงไม่กี่นาที ประตูห้องก็เปิดออกด้วยมือเจ้าของห้องอีกคน
คนเข้ามาใหม่จำต้องปิดประตูให้เบาที่สุดเมื่อเข้ามาเห็นร่างบนเตียงที่นอนเป็นปลาดาวซึ่งเป็นท่าประจำทุกครั้งที่เจ้าตัวผ่านกิจกรรมหนักๆมา ตาคมมองเลยผ่านหน้าต่างไปเมื่อเห็นอะไรแกว่งไปแกว่งมา เมื่อเพ่งสายตาดูดีๆ ก็ค้นพบว่ามันคือเสื้อชอปตัวใหญ่ของเค้าที่แขวนตากอยู่คู่กับเสื้อบอลไซต์เล็ก
อา...
เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว
-----------
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ทุกวิวนะคะ <3
และขอขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกรีวิวในกระทู้หรือในแทค #เด็กหอหมออู้ ด้วย
อยากให้ทุกคนที่แวะมาอ่าน ได้ยกยิ้มขึ้นได้ซักครั้งในวันเครียดๆมา 55555555555555555
แต่ก็นั่นแหล่ะ เป็นนิยายรักนะคะ นิยายรัก!!
พี่แป๊ะนี่โผล่มาคิลมู้ดนิยายรักตลอดเลยโว้ย!!!