ตอนที่ 10 Trick OR Treat? : รักหรือลวง?
(ตอนที่ 10/1)
Rate: NC-17, SM, Rape, Twincest
ใกล้ค่ำแล้ว ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองของคลับหรู แขกผู้มาเยือนกำลังนั่งเอกเขนกรอคอยบนโซฟานุ่ม ประตูเปิดออก ใบหน้าใสมีรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นชายร่างสูงผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงเดินเข้ามาหา แล้วทรุดตัวนั่งด้านข้างอย่างคุ้นเคย
ร่างเล็กที่รออยู่ก่อนจ้องมองใบหน้าคร้ามแดดที่ดูแกร่งและสูงกว่าอีกครั้งชัด ๆ สีหน้าของคนผู้นั้นคล้ายยังอยู่ในห้วงความคิดบางอย่าง แต่แววตานั้นเป็นประกายกล้า แสดงให้เห็นได้ว่าเจ้าของดวงตานั้นตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว แม้จะยังมีความลังเลอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม
“เรียกชั้นมา คงจะมีงานสินะ” คนบนโซฟาถามเบา ๆ ดวงตากลมโตมองมาอย่างเป็นห่วง ด้วยความที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ เพราะรับรู้ความคิดกลัดกลุ้มจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีจากแววตาคู่นั้น ไม่ว่าจะเก็บซ่อนอย่างไรก็ปิดไม่มิด
ใบหน้าใสที่ดูน่ารักราวเด็ก ๆ แม้ว่าวัยที่แท้จริงจะย่างเข้า 23 แล้วมองคู่สนทนาอย่างจริงจัง เขารู้ดี ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ คนผู้นี้ ย่อมไม่ให้เขาออกทำงานแน่ ๆ
คนถูกถามนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดขึ้น “ใช่ เป็นงานที่สำคัญมาก ฉันไม่ไว้ใจใคร…นอกจากนายคนเดียว” เขาตอบอย่างครุ่นคิด “แต่งานนี้ค่อนข้างอันตราย พวกมัน…ร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดไว้มากนัก เราต้องเอาข้อมูลจากพวกมันให้ได้มากที่สุด และทำลายมันให้ได้ เพื่อการนี้ ฉันอยากให้นาย…เข้าไปใกล้ชิดกับคน ๆ หนึ่ง”
“หืม ใครกัน” คนบนโซฟาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ส่วนใหญ่งานของเขาคือการวางแผนกลยุทธ์ในที่ลับ มีเพียงไม่กี่ครั้งที่จะต้องลงมือเอง เพราะเขานั้นคือมันสมองชั้นเลิศขององค์กร รวมถึงเป็นคนสำคัญระดับสูงผู้อยู่ในเงามืดเสียด้วย น้อยคนนักแม้กระทั่งคนในองค์กร ที่จะรู้จักกับเขา
“ยามาโนะ เรอิจิ” ร่างสูงว่าพลางส่งรูปถ่ายให้ จากภาพเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง ที่อายุมากกว่าเขา คงจะอายุราว ๆ 35 ปีได้ ใบหน้าในภาพถ่ายมียักคิ้วหลิ่วตาให้พร้อมชูสองนิ้วสบตากล้อง แม้เป็นภาพแอบถ่าย แสดงให้เห็นได้ว่า คนผู้นี้รู้ตัวดีว่าถูกถ่ายภาพ ใบหน้าขี้เล่นดูยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร ที่ถ้าดูแค่ภายนอกแม้ไม่ได้พบตัวจริง ก็ยังดูท่าน่าคบหาเป็นเพื่อนด้วย แต่จากสภาพการณ์ที่เห็น คนผู้นี้คงจะเป็นคนที่คาดเดายากและจัดการลำบากเอาการ
"คน ๆ นี้ ทำงานให้กับองค์กรลับจากการรวมตัวกันหลายประเทศทั่วโลก เป็นองค์กรแปลกประหลาดที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไป รวมถึงการดำเนินงาน แต่ที่แน่ ๆ …พวกนั้น...กำลังคิดต่อต้านพวกเราอยู่ และทำงานได้ลึกลับมาก ทั้งเงียบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ คนของเราหายสาปสูญไปหลายคนแล้ว เพราะพวกนี้"
ดวงตาคมมองร่างบนโซฟาพลางพูดต่อไป "แต่สายของเรา ก็สามารถคนพบคน ๆ นี้ ว่าเป็นผู้หนึ่ง ที่อยู่ในตำแหน่งสูงพอสมควรในองค์กร หน้าที่ของนายคือตีสนิทเขา และสืบหาข้อมูลเอามาเพื่อเป็นกำลังให้กับทางเราให้ได้"
ร่างสูงถอนใจยาว "วันนี้…ที่ชั้นนัดนายมาที่นี่ ก็เพราะเขา...ชอบมาดื่มที่คลับนี้เป็นประจำตอนเย็น ๆ ไม่แน่ว่า…เขาอาจจะสืบรู้แล้วก็ได้ ว่าคลับแห่งนี้ เป็นของพวกเรา ที่สำคัญ…สายยังรายงานมาอีกว่า จุดอ่อนของคน ๆ นี้...คือความใจอ่อน ดังนั้น เราจะเริ่มแผนการกันวันนี้เลย"
สีหน้าของเขาจริงจังขึ้น เมื่อหันมาพูดกับอีกฝ่าย "เพื่อการนี้...ฉันอาจจะต้องรุนแรงกับนายสักหน่อย เพื่อให้เหยื่อตายใจ....นายจะว่าอะไรมั้ย"
คนคนโซฟานิ่งฟังอย่างเยือกเย็น ดวงตาคู่สวยสบตาคู่สนทนาจริงจัง เขารู้ดี ว่าเรื่องครั้งนี้ สำคัญมาก ไม่เช่นนั้นคนตรงหน้า คงหาคนอื่นให้ทำงานนี้แทนไปแล้ว
"ถ้าเพื่อนาย ต่อให้ต้องตาย ฉันก็จะทำ"
"ฉันเชื่อใจนายนะ ว่าจะไม่ทรยศต่อองค์กรเราอย่างแน่นอน" ชายหนุ่มพึมพำ ดวงตาคมเข้มมองกลับไปอย่างไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยแม้แต่น้อย
"เราก็มีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น…พี่ชาย…ถ้าชั้นทรยศ...ฆ่าชั้น...ด้วยมือคู่นั้นของนายได้เลย แต่ตอนนี้..." มือเรียวโอบรอบคอแข็งแรงนั้น "ชั้นต้องการนายนะ…ถ้าจะต้องทำอะไรกับร่างกายนี้…ขอเป็นนายก็แล้วกัน รุนแรงกับชั้นสิ…มาโอะ"
"นายไม่เปลี่ยนใจแน่นะ" เขาถามซ้ำ อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ใจที่สื่อถึงกันได้ ไม่จำเป็นต้องอธิบายเป็นคำพูดใด ๆ อีก
"ได้เลยที่รัก" ใบหน้าคมเข้มแย้มยิ้มรับ ประคองอีกฝ่ายไว้หลวม ๆ ก่อนก้มลงหา ปากนุ่มถูกประกบแนบแน่น ลิ้นชาญชำนาญแทรกเข้าหา ไล้เลียแล้วขบกัด สัมผัสได้ถึงเลือดอุ่น ๆ ที่ปลายลิ้น กลิ่นคาวเลือดกลับปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบขึ้นโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากแกร่งบดขยี้ซ้ำจนช้ำ หากอีกฝ่ายกลับตอบสนองด้วยความร้อนแรงกว่าเดิม
มือแข็งแรงกดร่างบอบบางนอนลงบนโซฟากว้างนั้น ยึดจับที่ปกเสื้อเชิร์ตของอีกฝ่าย แล้วฉีกกระชากจนกระดุมหลุดกระเด็นลงกับพื้น ผิวกายขาวนวลปรากฏเด่นชัด เรือนร่างเย้ายวนตรงหน้ายิ่งมองยิ่งเชิญชวน
ร่างสูงโน้มลงจนแทบจะแนบชิด สัมผัสเสียดสีแกมจั๊กจี้ลูบไล้แผ่วเบาก่อนจูบเน้นย้ำหนักหน่วงที่ซอกคอขาวแล้วกัดซ้ำ รอยจูบแดงจ้ำช้ำรอยฟันเด่นชัดตัดผิวผ่อง นิ้วกร้านนวดเฟ้นไล่เรื่อยไปยังส่วนอกแล้วดูดดึงรุนแรง ยอดอกตื่นตัวชูชันชวนบดขยี้ ฟันคมขบซ้ำไม่มีออมแรง
"อ๊า.." ร่างระหงหลุดเสียงครางสูง มือเรียวยึดเกาะคอหนาเกร็งเป็นพัก ๆ ตามแรงกระตุ้น ลมหายใจเริ่มหอบถี่เมื่อรู้สึกได้ถึงการปลุกเร้า ราวร่างบอบบางนั้นกำลังถูกขย้ำด้วยพยัคฆ์ร้ายที่บ้าคลั่ง
"แรงอีกสิ...ทำอีก...ไม่ต้องยั้ง" เสียงใสสั่งต่อ ไม่ได้ใส่ใจต่อการถูกกระทำสักเท่าใด...แน่นอน ถ้าทุกอย่าง ทำเพื่อคน ๆ นี้ เพื่อองค์กรที่พวกเขาร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา และเพื่อ...ชีวิตอีกหลายชีวิต ที่ต้องพึ่งพาอาศัยพวกเขาอยู่ด้วย
มือนั้นเริ่มต้นดึงสิ่งกีดขวางในร่างนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวทั่วทั้งร่างก็เปลือยเปล่า ปลายนิ้วที่ลูบไล้เริ่มไล่ลงล่าง ก่อนจับเรียวขาบางแกมบังคับให้อ้าออก ทั้งบดขยี้บีบเค้นสะโพกกระชับจนแดงเป็นแนวตามรอยมือ
นิ้วแกร่งกวาดไล้เข้าไปในโพรงปากอุ่น รู้สึกได้ถึงแรงดูดเบา ๆ ปลายลิ้นสีสวยตวัดเลียจนชุ่มก่อนที่อีกฝ่ายจะดึงออก นิ้วนั้นขยับมาสัมผัสที่ร่องก้นแล้วบังคับแทรกเข้าทางคับแคบแบบดึงดันโดยไม่มีหล่อลื่นใด ๆ เพิ่มเติมอีก
"เจ็บหน่อยนะ" ร่างสูงพึมพำ แม้เป็นคนลงมือ แต่กลับแทบเจ็บตามไปด้วย ดวงตาเคร่งเครียดสบตาหวาน ที่ยังคงส่งยิ้มปลอบใจมาให้
"ทำต่อไปเถอะ...จำไว้ ยิ่งรุนแรงมากเท่าไหร่...ชั้นจะยิ่งปลอดภัย...มากเท่านั้น" ร่างบอบบางกระซิบต่อด้วยน้ำเสียงเย้ายวน หากเป็นคนผู้นี้ ต่อให้เจ็บสักแค่ไหน เขาก็ทนได้
คนด้านล่างสะท้านเฮือกเจ็บแปลบจนน้ำตาเล็ด เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกพร้อมกับร่างกายที่เกร็งแน่น ร่างสูงด้านบนดึงผมสีเข้มแกมบังคับให้เงยหงาย เสียงอื้ออึงอึดอัดพยายามดิ้นรนผ่อนลงยามลิ้นแตะลิ้น ตวัดไล้ดูดดึงชักนำอารมณ์จนเคลิบเคลิ้มคล้อยตาม
นิ้วที่รุกเข้าหายังคงขยับไม่หยุดแม้ช่องทางจะคับแคบ เพียงแค่ส่วนปลายนิ้วที่ดึงดันแทรกเข้าได้ ก็ขยับไล้จุดอ่อนไหวจนอีกฝ่ายไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกต่อไป บั้นท้ายกระชับกระตุกเสียววูบ ช่องทางที่ผ่อนคลายขึ้นจากการกระตุ้นได้ถูกจุดทำให้การรุกคืบเข้าเบื้องลึกทำได้ไม่ยากเย็นนัก
เสียงอ๊าดังกว่าเดิมเมื่อรู้สึกได้ถึงการแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่า แม้ไม่ได้ผ่อนคลายจนถึงจุด ช่องทางร้อนผ่าวปวดหนึบบีบรัดรุนแรง คนทำขมวดคิ้วค่อยถอนตัวออกก่อนดึงดันเข้าใหม่ไม่มียั้ง
คนด้านล่างร้องจนเสียงแทบหมดสิ้น เหงื่อผุดพรายซึมไรผมชุ่ม ดวงตาพร่าพรางด้วยน้ำตาจนยากจะมองได้ชัด มือเรียวไขว่คว้าหาอ้อมกอดแกร่งที่คุ้นเคย กัดฟันทนต่อการทำทารุณโดยไม่มีคำอ้อนวอนขอให้หยุด แรงกระแทกที่สวนเข้าทำภายในแทบฉีกขาด ริมฝีปากถูกขบกดซ้ำ เลือดไหลออกมาอีก แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงมันอีกต่อไป
"ชั้น...รักนาย...รักนายคนเดียว" เสียงอ่อนล้าพึมพำ แขนเรียวยาวกอดรัดแนบแน่น ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงรุกเข้าหาราวพายุลูกโตที่บ้าคลั่ง จวบจนร่างกายนั้นยากจะฝืนต้านทานไว้ได้ ร่างบอบบางนั้นก็หมดสติไป แม้คนทำจะไม่ได้หยุดเลยสักนิดจนถึงจุดปลดปล่อยก็ตาม
ร่างสูงผ่อนลมหายใจลง แม้ปลดปล่อยจนปลอดโปร่ง แต่ในใจกลับไม่ได้ถูกปลดปล่อยอย่างแท้จริง ดวงตาคมมองร่างที่บอบช้ำด้วยฝีมือตัวเองอย่างสะทกสะท้านใจ ถึงจะเป็นการลงมือตามแผน แต่เขาก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน
ทว่า...เพื่อสิ่งที่เขาต้องรักษาไว้ เขาจะต้องทำให้ได้...และที่สำคัญ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ก็เพื่อพวกเขาทั้งสอง เมื่อขึ้นหลังเสือแล้ว ย่อมยากจะลงหรือถอนตัวจริง ๆ จะทำการใหญ่ ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขายึดมั่นเสมอมา
...เพื่อที่พวกเขา จะได้อยู่ร่วมกันต่อไป...
มือแกร่งลูบไล้ผมเปียกชื้นแผ่วเบาพลางถอนใจยาว "ขอโทษนะ โคโตะ อดทนอีกหน่อยก็แล้วกัน" เสียงราบเรียบพูดขึ้นหลังจากติดตะขอกางเกงเรียบร้อย ขยับเอื้อมกายไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่มาห่อร่างที่ไม่ได้สติทั้งเปลือยเปล่า แขนแข็งแรงจับร่างเบาหวิวนั้นตลบอุ้มพาดบ่า ก้าวเดินออกมาจากห้องลงสู่ชั้นล่าง
ที่บาร์ชั้นล่าง ด้านหนึ่งจัดวางโซฟาโค้งพร้อมโต๊ะตัวใหญ่ตั้งอยู่หลบมุม ที่คนของเขามักจะมาดื่มและนั่งเล่นฆ่าเวลา ยามสถานการณ์สงบ แต่หากทางร้านมีเรื่องขึ้นเมื่อใด กลุ่มคนเหล่านี้จะออกทำงาน ไล่แขกที่ทางร้านไม่ต้องการออกไป
ดังนั้นพวกที่ทำงานนี้ จึงมีแต่พวกหยาบกระด้างและชื่นชอบต่อการทำร้ายคนอ่อนแอกว่า แม้เขาไม่ได้รู้จักใครในนี้เป็นพิเศษ แต่แน่ใจได้ว่า คนพวกนี้จะไม่หยุด จนกว่าจะพอใจ
"เคลียร์โต๊ะซิ" เสียงมีอำนาจสั่ง ลูกน้องที่กำลังก๊งเหล้ากันอย่างสบายอารมณ์เห็นดังนั้นก็รีบยกข้าวของออกจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว
"อื้อ..." ร่างที่อยู่บนบ่าครางแผ่วเบาเมื่อถูกจับโยนลงบนโต๊ะกลางกลุ่ม เสียงราบเรียบทรงอำนาจบอกขึ้นว่า
"ของฝาก"
ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะหันหลังเดินกลับขึ้นไปชั้นสอง โดยไม่ใส่ใจอีก
"เฮ้ย ของชั้นดีนี่หว่า" เสียงย่ามใจร้องบอกพรรคพวก เมื่อตัดสินใจแหวกคลี่ผ้าผืนโตที่ห่อหุ้มอยู่ออกมา แล้วก็พบกับเรือนร่างขาวผ่องเปลือยเปล่า ทั่วทั้งร่างนั้นบอบช้ำไปทั้งตัว ใบหน้าขาวซีดที่อยู่ในสภาพแทบจะไร้ซึ่งสติสัมปัชชัญญะ หากยังคงความงดงามไว้เต็มเปี่ยม เรียวขานวลกลมกลึง บั้นท้ายกระชับได้รูป สวยราวสตรีเพศ แม้จะเห็นคราบเลือดและสภาพที่เป็นอยู่ ก็ไม่ได้ช่วยให้คนกลุ่มนี้นึกเวทนาสงสารขึ้นมาได้
...นอกจากปลุกสัญชาตญาณดิบขึ้นมามากกว่าเดิมเท่านั้น...
น้ำลายถูกกลืนลงคอแห้งผาก แววตาคล้ายนักล่าจ้องตะครุบเหยื่อปิดบังไม่มิดล้วนมองมายังเขา ร่างบนโต๊ะขยับตัวอย่างลำบาก ร่างกายที่ถูกทำรุนแรงจนยากจะครองสติได้ด้วยซ้ำ ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านใด ๆ
"ทำได้จริง ๆ เหรอวะ" คนด้านข้างพึมพำอย่างไม่มั่นใจ ดวงตาเหลือบมองขึ้นไปชั้นสอง นี่เป็นครั้งแรก ที่เจ้านายของพวกเขาทำเรื่องแบบนี้ จะนับว่าแปลก ก็แปลกอยู่ แต่คนตรงหน้าที่ยังอยู่ในสภาพกึ่งสลบไสล กลับเย้ายวนใจยิ่งกว่า
"ก็เจ้านายว่างั้นนี่หว่า" ชายร่างเตี้ยกำยำอีกคนว่าพลางหัวเราะชั่วร้าย ลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายที่จะเริ่มลงมือ ตะขอกางเกงถูกปลดออก ก่อนจะพูดต่อไปว่า "ถ้าแกกลัวนัก ข้าก่อนก็ได้"
"ฮ่า ๆ ๆ ทำไปเหอะ เจ้านายคงเบื่อของเล่นนี่แล้วล่ะมั้ง" เสียงหัวเราะเสียดแทงหัวใจ "น่าสงสารนะ คงจะเหงาแย่แล้ว ที่โดนทิ้ง พวกเราก็เอ็นดูกันหน่อยละกัน"
กลุ่มคนในยามนี้มีอยู่ห้าคน และแต่ละคนกระเหี้ยนกระหือรือที่จะจัดการคนเบื้องหน้าโดยไม่ใส่ใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใด ๆ โดยเฉพาะตอนนี้ ที่เจ้านายใหญ่เปิดไฟเขียวให้ จะมีใครต้องเกรงใจอีก ว่าแล้วทั้งหมดก็ล้อมวงเข้ามาอย่างคุกคามกว่าเดิม ร่างบอบบางพยายามจะดิ้นรนหนี หากเรี่ยวแรงนั้นกลับไม่มีหลงเหลือ ดวงตาคู่งามหลับลงอย่างอ่อนเพลีย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่ได้ขัดขืน
"ว่าง่าย ๆ แบบนี้สิ แล้วพวกเราจะพาขึ้นสวรรค์เอง โอ้โห...พวกมึงดูสิ คราบนี่น่ะ พึ่งทำกันสด ๆ เลยสินะ เจ้านายก็ซาดิสม์ไม่หยอกนี่หว่า"
"อย่ามัวพูดอยู่เลยน่า ถ้าแกไม่เริ่ม พวกเราก่อนก็ได้นะ"
"เรื่องอะไรล่ะวะ" คนพูดกระหยิ่มยิ้มย่อง มือที่ตะกละตะกลามลูบไล้บั้นท้ายสวยก่อนสอดนิ้วเข้าช่องทางเปิดที่บอบช้ำนั้น คนถูกทำสะดุ้งเฮือก ยังคงปวดร้าวไปทั้งตัวจนไม่อาจต่อต้านอันใดได้ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง เสียงแผ่วล้าพึมพำห้ามอย่างไร้ซึ่งความสามารถจะหยุดยั้ง
"อย่า..อย่านะ..."
ปลายนิ้วที่แทรกเข้า รู้สึกได้ถึงน้ำเหนียวข้นภายใน เจ้าตัวพึมพำอย่างตื่นเต้น "ปล่อยข้างในไว้เต็มเชียวว่ะ สุดยอด! ไม่ต้องหล่อลื่นเลย" นิ้วนั้นขยับแทรกเข้ามาลึก ใบหน้าสวยขมวดคิ้วบิดเบี้ยว สัมผัสที่รับได้...ยิ่งรุกเข้ายิ่งรู้สึกขยะแขยงจนแทบคลื่นไส้ ร่างบอบบางดิ้นแรงขึ้นด้วยกำลังเฮือกสุดท้าย
"ช่วยด้วย!!!"
"กดไว้สิเฟ้ย จับขาไว้ด้วย" คนทำสั่ง มือจับอาวุธในร่มผ้าจรดจ่อช่องทาง เตรียมพร้อมปฏิบัติการหื่นเต็มพิกัด
ทว่าก่อนจะได้ทำมากกว่านั้น ก็ถูกหมัด ๆ หนึ่งชกจนกระเด็นไป
"โครม!" เสียงดังของโต๊ะที่ถูกร่างซึ่งกระเด็นไปทับจนหักลง ทำให้ทุกคนในกลุ่มมองมาเป็นตาเดียว
ร่างสูงแข็งแรงของชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มมึนเมา คงจะดื่มมาได้สักพักแล้ว เห็นได้ชัดจากการยืนที่ไม่ตรงนัก ทีท่าสบาย ๆ ในชุดลำลอง ดูไม่คล้ายคนชอบแส่เรื่องชาวบ้านสักเท่าใด และยิ่งไม่คล้าย คนที่กล้าท้าทายกลุ่มนักเลงตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
"รุมข่มขืนกันแบบนี้ ไม่อายฟ้าอายดินกันบ้างรึไงพวก"
สี่คนที่เหลือมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นหันไปจะฉุดเพื่อนผู้ลงไปนอนวัดพื้นเมื่อครู่ขึ้นมา "เฮ้ย หมัดคนเมาแค่เนี้ย ทำเป็นสลบสำออยไปได้" หากพอมองชัด จึงเห็นว่าเพื่อนตนเองนั้นสลบเหมือดไปแล้ว ปากเจ่อยังคงมีเลือดกลบเต็ม ที่โดนไปคงเป็นหมัดหนักเอาการ ผิดจากภาพลักษณ์ภายนอกของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง
"ระวังนะ มันไม่ธรรมดา" คนดูอาการร้องเตือนสติเพื่อนที่เหลือ ทั้งหมดจึงขยับมายืนล้อมคุมเชิง ด้วยทีท่าเอาจริงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"ฆ่ามัน!" หนึ่งในนั้นสั่งห้วน ทุกคนที่อารมณ์ค้าง ตั้งท่าระบายเต็มที่กับคนด้านหน้า เพื่อที่จะได้กลับมาจัดการคนบนโต๊ะต่อได้เสียที
เสียงร้องโหยหวนดังมาจากคนจู่โจมเข้า เมื่อโดนหักแขนดังกร็อบ คนถัดมาเข้าหาอย่างระวังมากขึ้นอีก หากไม่อาจสู้กับชายผู้นั้นได้ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก็เหลือเพียงร่างที่ร้องโอดโอยกองอยู่บนพื้นทั้งหมด
ร่างสูงถอนใจยาวเมื่อเห็นสภาพคนบนโต๊ะ ที่ตอนนี้สลบไปแล้ว ท่าทางเขาจะเผลอตัวก่อเรื่องไม่เป็นเรื่องจนเสียการจนได้ซะแล้ว จะอย่างไร ก็คงต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ไหนจะกับคน ๆ นี้ ถ้าทิ้งเอาไว้ คงหนีไม่พ้นโดนรุมโทรมอีกรอบเป็นแน่
ปล่อยไว้ไม่ได้...คงจะต้องพากลับไปด้วยเสียแล้ว เขาคิดต่ออย่างรวดเร็ว แล้วตัดสินใจโอบอุ้มขึ้นอย่างระวัง มืออีกข้างวางเงินไว้แทนที่ แล้วก้าวออกมา โดยไม่มีใครกล้าขวางอีก ท่าทีมึนเมาเมื่อครู่ ดูคล้ายสลายหายไปราวกับไม่ได้ดื่มมาก่อนด้วยซ้ำ
ภาพชายหนุ่มที่กำลังเดินไปที่จอดรถ พร้อมร่างบอบบางในอ้อมแขน ทำให้ร่างสูงที่ยืนแอบมองที่หน้าต่างชั้นสองมีรอยยิ้ม
ในที่สุด...ปลาก็กินเหยื่อ!
................................................