Chapter 24 ถ้าเธอไม่เจ็บปวด...
x
ขิงอยู่กับดาวจนครบอาทิตย์ ก็บินกลับภูเก็ตเเละสิ่งเเรกที่เจอคือป๊าของดาวยืนดักเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนถึงบันไดขึ้นชั้นสอง
“สวัสดีครับป๊า”
“ตกลงที่กลับมาช้านี่ลื้ออยู่กับอาดาวหรือไปอยู่กับใคร”
ขิงฟังแล้วขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“หึ เพื่อนๆ อั้วเซฟรูปส่งมาให้”
ขิงรับไอเเพดที่พ่อดาวยื่นให้มาดู
‘ทายาท GXX ควงเด็กในสังกัดขึ้นคอนโด เเซ่บไม่เเซ่บ!! ก็หายกันไปนานอยู่’ มันเป็นข่าวจากเพจซุบซิบดารา รูปหน้าเขากับโพนี่ชัดเชียวล่ะ ตั้งเเต่เดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น ยันเดินเข้าคอนโด ชัดขนาดนี้มึงเอาบัตรประชาชนกูมาลงเลยเหอะ
แถมยังขุดไปถึงตอนที่เขาเคยไปดูหนังกับโพนี่ตั้งแต่เมื่อปีก่อนอีก ถือป๊อปคอร์นกันหนุงหนิงเชียว
“หึ ถ้าไม่ได้รักลูกอั๊ว ก็เลิกไปซะ” พ่อดาวว่าเสียงเข้ม
“ในภาพนั้นขิงเองครับป๊า อีกคนก็เป็นเน็ตไอดอลในสังกัดบริษัทคุณพ่อ พอดีพี่เขาเสื้อเลอะเลยขึ้นไปเปลี่ยนที่คอนโดขิงครับ”
“ลื้อก็เห็นอยู่ว่ามันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ลื้อไปไหนมาไหนกับคนในรูปตั้งหลายครั้ง”
“ครับ”
“คิดว่าอาดาวเห็นแล้วจะรู้สึกยังไง ทำไมต้องทำให้ลูกอั้วเสียใจด้วย!!”
“ผมรักดาวครับ” ขิงย้ำคำไปแบบนั้น
“หึ!!” คุณดำรงกำมือแน่น หน้าแดงก่ำ ท่าทางมั่นคงของขิงยิ่งทำให้ความดันในเลือดเขาพุ่งขึ้นสูง
“มีเรื่องอะไรกัน” ก่อนที่ปากเสียงจะมากไปกว่านี้ เสียงผู้กุมอำนาจอีกคนของบ้านก็ดังขัดตาทัพ
“สวัสดีครับมะม๊า”
“หิวมั้ยขิง ม๊าแกงส้มไว้ให้ ปลาสดๆ เลย”
“เดี๋ยวขิงลงมากินตอนเวลาอาหารเย็นเลยก็ได้ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” เด็กหนุ่มยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสอง เเล้วก้าวเท้าขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงห้องเด็กหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงด้วยความเจ็บปวด
ขิงเครียดเรื่องดาวมาตลอดทางที่นั่งเครื่องบินกลับ แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามทำตัวร่าเริงขึ้นแค่ไหน เเต่ขิงก็เห็นว่าสายตาดาวไม่ได้เป็นประกายเหมือนก่อน เเถมเห็นงานที่ดาวหอบมาทำที่บ้านจนต้องนอนดึกๆ แล้วก็อดสงสารไม่ได้
ขิงกำลังสับสนว่าที่ตัวเองเสนอตัวมาช่วยงานป๊าดาวที่ภูเก็ตมันถูกต้องหรือเปล่า หรือเขาควรอยู่ให้กำลังใจดาวใกล้ๆ
แล้วพอมาเจอป๊าทักเรื่อง ‘ไม่รักดาว’ มันเหมือนเป็นคำต้องห้ามที่ทำให้หัวใจของขิงบาดเจ็บ ผู้ชายที่ไม่เคยร้องไห้กำลังมีหยดน้ำซึมลงมาที่หางตา ขิงปล่อยให้มันหยดลงไปบนที่นอนอย่างไม่คิดห้าม
ติ๊ง!
มือหนาหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดู
‘เจ้าเด็กถึงบ้านยัง’
ทั้งที่เขาสองคนหัวใจยังมั่นคงเหมือนเดิม เเต่สิ่งเเวดล้อมรอบข้างดูจะไม่เป็นใจเลย
“ขิงว่าขิงไม่ไหว...” เสียงเเหบโหยพึมพำ เป็นจังหวะเดียวกับดาวที่เปิดVDO Call มา คนอยู่ไกลเเค่เป็นห่วงว่าเจ้าเด็กที่น่าจะถึงบ้านนานเเล้วทำไมไม่ไลน์หาเขาสักที
ดาวไม่คิดว่าจะเห็นขิง...ร้องไห้
“เจ้าเด็กเป็นอะไร!!”
“เปล่าหรอก...” ใบหน้าเหนื่อยๆ นั้นฝืนยิ้ม ดาวร้อนรน เขานึกโกรธตัวเองที่กอดปลอบคนน้องไม่ได้ ทั้งที่เวลาเขาร้องไห้ ขิงจะโอบตัวเขาไว้เสมอ
“พี่ดาวอยู่ตรงนี้ขิง เป็นอะไรบอกพี่ดาวนะ”
“ไม่หรอก ผมเเค่...เหนื่อย...ได้คุยกับดาวเดี๋ยวก็หายเเหละ”
“เจ้าเด็กของพี่ดาว...” ดาวยกมือลูบหน้าจอ ราวกับมันจะช่วยซับน้ำตาให้ขิงได้
“ร้องเถอะ ถ้าไม่ไหวก็ร้องออกมานะครับ พี่ดาวอยู่ข้างๆ เจ้าเด็กนะ”
ยิ่งพูดเเบบนั้น คนที่เก็บทุกเรื่องไว้ในใจก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย
ดาวมองภาพนั้นอย่างสงสาร เขาไม่เคยเห็นขิงร้องไห้เลย ตอนเรื่องน้ำเพื่อนที่ขิงเเอบรักไม่สบายขิงก็เพียงทำหน้าเศร้า เเล้วนี่มันร้ายเเรงอะไรนักหรอ
คนตัวเล็กปล่อยให้น้องใช้น้ำตาระบายเรื่องราวในใจจนพอโดยไม่รบกวน เขาเพียงจ้องหน้าจอเเล้วสังเกตทุกความเปลี่ยนเเปลงบนใบหน้านั้น
“ดาว...ขิงมีข่าวกับพี่โพนี่ ดาวรู้จักมั้ย”
คนตัวเล็กขมวดคิ้ว พอหยุดร้องขิงก็เริ่มเล่า
“ข่าวเรื่อง?”
“ขิงพาเขาเข้าคอนโด มีภาพหลุดไปดูหนังด้วยกัน”
ดาวพยักหน้า
“โกรธสักหน่อยมั้ย”
“โกรธมาก”
“แต่มันไม่มีอะไรเลยนะ ขิงไม่ได้จะนอกใจดาว”
“ขิงโกรธโพนี่กับคุณอลงกรณ์ต่างหาก แม่งเลว!! เพราะสองคนนั้นใช่มั้ยที่ทำให้ขิงร้อง”
ขิงพยักหน้า “แต่ก็รวมๆ เรื่องอื่นด้วยอ่ะ ขิง...ไม่รู้ว่าที่ตัดสินใจมาอยู่ที่นี่เเล้วทิ้งดาวไว้ตรงนั้นมันถูกต้องรึเปล่า ขิงเหมือนกำลังทำร้ายดาวทางอ้อม”
พอพูดเรื่องนี้น้ำตาของเจ้าเด็กก็ทะลักออกมาอีกครั้ง
“ดาว...ขิงขอโทษนะ ฮึก” แม้พยายามจะข่มความอ่อนแอเท่าไหร่ แต่บ่อน้ำตาของของก็ไม่เป็นใจเลย เขาได้แต่สะอื้นเงียบๆ อย่างน่าอายต่อหน้าดาว
แต่น้ำตาของขิงกลับทำให้ดาวคิดได้
ดาวรู้ดี คนที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลงก็คือตัวเขาเองนี่เเหละ เขามันคนกากที่คอยเเต่จะโทษบริบทรอบข้าง ทั้งที่ขิงพยายามเพื่อเขามากมาย แต่เขากลับไม่ยอมเข้มเเข็งสักที
“เจ้าเด็ก เจ้าเด็กทำถูกแล้ว อย่าคิดมากเลยนะ”
“ดาว...ผมรู้ว่ามันไม่โอเค”
“มันดีแล้ว สิ่งที่เจ้าเด็กทำ มันดีสำหรับเราสองคนแล้ว”
“ดาว...”
พี่ดาวจะฮึบๆ แล้ว จะไม่งอเเงเเล้ว” ดาริณยิ้มให้ขิง เป็นยิ้มกว้างทั้งน้ำตาเช่นกัน
“ขอบคุณนะขิง ขอบคุณที่..ฮึก..ทำเพื่อดาวขนาดนี้”
“อยากจูบเลยหวะดาว” และประโยคนั้นมันก็เปลี่ยนอารมณ์ทุกอย่างให้หวานขึ้น
“เจ้าเด็กอย่าทำให้พี่คิดถึงไปมากกว่านี้สิ”
“เดี๋ยววันเสาร์ก็เจอกันเเล้วนะ” ขิงบอก แต่คราวนี้ดาวส่ายหน้า
“เสาร์นี้พี่ดาวไปหามั่ง ขิงจะได้ไม่เหนื่อย ผลัดกัน”
“เเฟนใครทำไมน่ารักจัง”
“แฟนขิงสุดหล่อไง”
“ดาววววว อยากบีบให้เเก้มเเตก หมั่นเขี้ยว”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน แล้วสิ่งที่กวนใจดาวมาหลายวันก็เหมือนตกผลึก เขาไม่อยากให้ความพยายามของขิงสูญเปล่าอีกแล้ว
“ขิง ถ้าดาวจะไปอยู่ญี่่ปุ่นสักปีนึงขิงโอเคมั้ย”
“ไปทำงานหรอ”
“อื้อ ดาวอยากลองไปทำดูให้เต็มที่แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยออกมาเป็นฟรีเเลนซ์อยู่บ้านช่วยงานป๊าไปด้วย”
“จะมีความสุขใช่มั้ย ถ้ากลับมาอยู่บ้าน” คนน้องถามในเรื่องที่เป็นกังวล
“ดาวอยากอยู่ใกล้ขิงแล้ว ดาวไม่อยากอยู่ห่างกันเเบบไม่มีจุดสิ้นสุดเหมือนตอนนี้ ถ้ามีกำหนดเวลาชัดเจน ดาวจะได้ไม่งี่เง่าอีก”
“ที่ผ่านมาดาวก็ไม่ได้งี่เง่าหรอก” ขิงปลอบ
“แต่ดาวทำให้ขิงเป็นห่วง...”
“รู้สึกดีที่ได้เป็นห่วง”
“ซาดิสม์หรอ” ดาวถาม
คนน้องยักคิ้วอย่างกวนตีนทั้งที่ใจจริงกำลังอิ่มเอมที่สุด ขิงดีใจที่ดาวก้าวผ่านจุดอ่อนเเอของตัวเองมาได้
“ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความเข้มเเข็งของพี่”
“อื้อ ขอบคุณนะ ที่เป็นส่วนหนึ่งในความเข้มเเข็งของดาว”
ขิงคิดว่านี่คือความรักที่ดี เราเป็นเเค่ส่วนหนึ่งของกันเเละกันเท่านั้นไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตทั้งหมดของอีกคน ดังนั้นเราควรจะมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยอนุญาตให้คนรักกลายมาเป็นความสุขที่เพิ่มมากขึ้น เติมทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ให้สุกสกาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
ดาวนำทางของขิง ดาวนำทางของดาริณ ดวงดาวที่เรียกว่า ‘ความรัก’
“รักหวะ รักชิปหาย รักจะเป็นจะตายเเล้วเนี่ย” ขิงสารภาพความในใจออกไป น้อยครั้งที่เขาจะพูดคำหยาบกับดาว เเต่ตัวตนของคนพี่ก็ทำให้เขารู้สึกเช่นที่พูดจริงๆ
ดาวหัวเราะร่วน ถ้าขิงอยู่ใกล้ๆ เขาคงโผเข้ากอดแล้วฟัดขิงจนน่วมคาเตียงเเน่ๆ ให้สาสมกับพูดที่น่าฟังเหลือเกินนั้น
“พี่ก็รัก รักจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” มันเป็นคำเดิมที่ขิงบอกเขาคราวที่ขอเป็นเเฟน เเละเกือบสองปีที่คบกันมานี่ เจ้าเด็กก็ทำให้เขารู้สึกเเบบนั้นได้จริงๆ
รักของขิง รักของดาว รักของเรา ที่ยินดีจะให้อีกคนเดินไปตามทางของตัวเองได้อย่างเต็มที่โดยมีเราคอยเดินเคียงอยู่ข้างๆ
วันรุ่งขึ้นขิงเดินลงมาที่โต๊ะอาหารตามปกติ ไม่นานป๊าก็ลงมานั่งพร้อมหน้าตาที่ยังบอกบุญไม่รับ ขิงที่คุยกับดาวเเล้วเข้าใจกันด้วยดีจึงไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไรอีก แต่สิ่งที่เเปลกคือมะม๊ากับพี่ชายของดาวยังไม่ลงมา นานเข้าหน่อยพ่อก็เริ่มฮึดฮัดดูทั้งนาฬิกาสลับกับชะโงกดูบันได
โครก~ ท้องขิงเอง
“อาขิง หิวก็กินไปก่อนเลย อั๊วไปดูม๊าก่อน”
“ครับ” ขิงพยักหน้าเเอบแลบลิ้นในความไม่มีกาลเทศะของท้องตัวเอง
แต่ป๊าไม่ทันจะลุกขึ้นไป มะม๊าก็ก้าวลงบันไดมาพร้อมพี่สะใภ้สองคนของดาว ที่จริงครอบครัวพี่ดาวแยกบ้านไปแล้ว แต่ยังอยู่ในรั้วเดียวกัน เช้าๆ แบบนี้ก็จะเเวะมาทานอาหารรวมกัน เพราะกลัวว่าม๊าที่ไม่ได้ออกไปทำงานจะเหงา
ขิงมองม๊าด้วยความฉงน ส่วนป๊านั้นตาค้างไปเลย
“ลื้อคือตี่ก่อ!?” เสียงเข้มๆ ถามว่าจะไปไหนเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่ขิงเริ่มจะเเปลอออกบ้างเเล้ว
ป๊าเต้นผ่างเป็นงิ้วลงเเบบนั้นเพราะม๊าเล่นเดินมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบมโหฬารชนิดที่ว่าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไปหลายวัน
“เกาหลี”
“ทำไมอั๊วไม่รู้ว่าลื้อจะไปอ่ะอาเนี๊ย ไปกี่วัน”
“ยังไม่มีกำหนดกลับ”
“ซี้ซั้วต่า!!”
“อั้วไม่ซี้ซั้วอะไรทั้งนั้นอ่ะ แต่ลื้ออาจจะซี้เลี้ยวอ่า.. ลองอยู่คนเดียวดูบ้างนะอาเฮีย ลองดูว่าไปแยกคนรักกันแล้วรู้สึกยังไง หึ!” ม๊าจากไปอย่างรวดเร็วเหมือนมีลมพายุพัดพร้อมกับพี่สะใภ้ทั้งสองที่พี่ชายดาวเข้ามาช่วยลากกระเป๋าให้
“อาตี๋ แล้วลื้อก็ยอมให้เมียไปง่ายๆ แบบนี้อ่า?”
“ครับป๊า จะรั้งไว้ทำไม ป๊าก็รู้บ้านเราเมียเป็นใหญ่”
ขิงแทบกลั้นขำไม่อยู่
“แล้วนี่ไม่มีใครเจี๊ยะปึงกับอั๊ว?”
พ่อยังเรียกร้องหาคนกินข้าวด้วย ขิงเลยชี้ตัวเองยิกๆ
“ลื้อมัน ฮึ่ย!!” คนพ่อหงุดหงิดลงกับใครไม่ได้เลยชี้หน้าขิงมือสั่นริกๆ ขิงเลยคีบปลานึ่งบ๊วยใส่ถ้วยข้าวต้มกุ๊ยให้ ป๊าจะได้เย็นลงหน่อย
“หอเจี๊ยะ” ขิงพยักเพยิดให้ป๊าชิม the last supper ที่ม๊าทำทิ้งไว้ให้ ก่อนจะก้มลงกินมื้อเช้าของตัวเองเงียบๆ ไม่เเปลกใจเลยที่ดาวจะทั้งเเสบทั้งซนสงสัยจะได้ม๊ามาเต็มที่
เมื่อคืนตอนดึกๆ ม๊าเเวะไปคุยกับเขาเผื่อถามไถ่ข่าวคราวของลูกชายคนเล็ก ขิงเล่าไปตามจริงว่าดาวร้องไห้หนักขนาดไหน หัวใจคนเป็นเเม่แทบจะทนไม่ไหว นึกภาพใบหน้าน่ารักนั้นที่ถนอมมาตั้งเเต่เด็ก พูดจ้อยๆ ว่าน้องดาวอย่างนั้นน้องดาวอย่างนี้.... คิดถึงภาพแบบนั้นเเล้วมะม๊าก็น้ำตาปริ่มๆ กัดขอบผ้าเช็ดหน้าสะอื้นบอกว่าต้องไปคุยกับป๊าให้รู้เรื่องแล้ว
แต่ขิงก็ไม่คิดว่าวิธีที่ม๊าจะเจรจากับป๊าจะเป็นเเบบนี้ เก็บกระเป๋าหนีไปเลย ให้ป๊าอยู่คนเดียวให้เข็ด!
ขิงทานมื้อเช้าเสร็จวางตะเกียบลงบนถ้วย ก็เห็นป๊าที่ยังช็อคไม่หายยังไม่เเตะข้าวต้มในชามสักคำ
“ป๊าครับ ผมไปเรียนก่อนนะครับ”
“อาขิง”
“ครับ?”
“อยู่ห่างอาดาวเเบบนี้ลื้อทนไหวได้ยังไงว่ะ”
อ่าวป๊า....อยู่มาหกเดือนกว่าเเล้วพึ่งมาถาม
“ก็อยู่ด้วยความหวังอ่ะป๊า รอให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ จะได้ไปเห็นหน้าเค้า”
“อั๊วห่างม๊าแค่ 15นาทีก็จะตายเเล้วหวะ”
“ให้ผมโทรห้ามม๊ามั้ยครับ”
“ปล่อยอีไป ให้อีไปพักผ่อนบ้างก็ดี อั๊วเองก็เอาเเต่ทำงานไม่ได้พาอีไปเที่ยวไหนเลย”
“ครับ”
ป๊าทำท่าเหมือนจะพูดอะไรอีก แต่ก็นิ่งไปแล้วก้มลงพุ้ยข้าวเข้าปาก
“ป๊าอย่าลืมกินยาหลังอาหารนะ” ขิงเตือนเพราะปกติม๊าต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชให้กิน พอม๊าไม่อยู่เขาก็กลัวป๊าจะไม่กินอีก ป๊าคิ้วกระตุกทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็ก ขิงละอยากจะขำให้เเต่ก็กลัวบาป ตอนเขากับดาวเเยกกัน ดาวยังไม่งอเเงขนาดนี้เลยน๊า
“เดี๋ยวป้าช่วยดูให้ค่ะ คุณขิงไปเรียนเถอะ” ป้าน้อยเเม่บ้านที่อยู่มานานเดินเข้ามาบอก ขิงกล่าวขอบคุณเเล้วก็เดินไปที่รถที่ป๊ายกให้เขาใช้ตอนอยู่ที่ภูเก็ต
เลิกเรียนขิงกลับถึงบ้าน เตรียมไปช่วยงานป๊า แต่กลับได้ยินเสียงร้องเพลงจีนผิดคีย์มาเเต่ไกล แถมยังดูอ้อแอ้เมามายอีก
เปี๋ยเวิ่นหว่อซื่อเว่ยเสย (โปรดอย่าถามว่าฉันร้องไห้เพื่อใคร)
จิ้วรั่งหว่อวั่งเลอเจ้ออีเชี่ย (จงปล่อยให้ฉันลืมสิ้นทั้งหมดนี้)
อา...เก่ยหว่ออี้เปยวั่งฉิงสุ่ย (อา...ขอน้ำลืมรักให้ฉันสักแก้ว)
ห้วนหว่ออีเยี่ยปู้หลิวเล่ย (แลกกับสักหนึ่งราตรีที่ไม่ต้องเสียน้ำตา)
อ่ะเป็นเอาหนักพ่อตากู เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเดินไปเกาะขอบตู้ไม้สักฉลุลายมังกร ทีวีจอเเบนขนาดใหญ่ขึ้นภาพคาราโอเกะ เพลงวั่งฉิงสุ่ยหรือน้ำลืมรัก ของหลิวเต๋อหัวมิน่าล่ะเขาถึงเห็นกาเหล้าจีนวางอยู่บนโต๊ะ
“อาขิงงง มาๆ มาดื่มเป็นเพื่อนอั๊วหน่อย”
ขิงจะหันหลังหนีเเต่ไม่ทัน ป๊าลากคอเสื้อเขาเข้าไปร่วมวงเหมือนลูกแมวเลย
“เฮียไปไหนล่ะครับ” ขิงถามถึงพี่ชายของดาว รู้สึกต้องการตัวช่วยตะหงิด
“ช่างหัวอีเหอะ พวกลูกๆ กลัวเมียทั้งหลาย ไม่ได้เรื่อง”
ขิงพยักหน้า ได้ข่าวว่าป๊าก็เป็นเเกนนำเลยนะครับสมาคมกลัวเมียของบ้านนี้
“ดื่ม...ให้ลืมเธอ” ป๊าเทเหล้าใส่จอก แล้วยื่นให้ขิง เราร่ำสุรากันเหมือนจอมยุทธิ์นักรัก
“อีกสักจอก”
“ป๊าเมาเเล้วนะ”
“เอามาทั้งไหเลย อั๊วจะเป็นไอ้หนุ่มหมัดเมา...” ขิงปวดกบาล สงสัยนิสัยชอบคอสเพลย์ของดาวก็คงมีพื้นเพมาจากคนเเถวนี้กระมัง
เพลงในทีวียังวนลูปเป็นเพลงเดิมไปเรื่อย จนถึงเนื้อท่อนหนึ่ง
หรูกั่วหนี่ปู้เฉิงซินซุ่ย (หากเธอไม่เคยใจสลาย)
หนี่ปู๋ฮุ่ยต่งเต๋อหว่อซางเปย (เธอไม่มีวันเข้าใจความปวดร้าวของฉัน)
“มะม๊าลื้อใจร้ายจังอาดาว มะม๊าลื้อใจร้ายกับป๊า...”
“ป๊าเข้าใจเเล้ว ป๊าเข้าใจเเล้วว่าลื้อทรมานแค่ไหน”
ขิงนั่งยองๆ มองป๊าที่คอพับไปกับโซฟาเเล้วพึมพำอยู่ในลำคอว่าจะเอายังไงดีว่ะ
ยังไม่ทันได้เรียกลุงคนสวนมาช่วยกันประคองไปนอนบนห้อง เสียงรถ Alphardประจำครอบครัวก็จอดลงหน้าบ้าน ขิงชะโงกหน้าไปดู ทั้งพี่ชายดาวสองคน พี่สะใภ้แล้วก็มะม๊าเดินเรียกกันเข้ามาครบอย่างกับซีนเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ฮาฮ่า~
“มะม๊า!?” ขิงเรียกอย่างงงวย ไหนบอกไปเกาหลีกลับเร็วจังอ่ะ หรือแค่จะไปร้านอาหารเกาหลีแล้วเขาได้ยินไม่ชัด
“เป็นไงอาขิง ป๊าลื้อทุรนทุรายมั้ย”
“มากๆ ม๊า เมาสลบไปเลย”
“หึ!! ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ใจสลายไม่รู้ถึงความร้าวร้าน”
ขิงคิดในใจแค่ม๊าไปเที่ยวแค่นี้ ทำป๊าใจสลายได้เลยหรือว่ะ เฉียบเกิ๊น!
“ทำอะไรไม่รู้จักคิดถึงใจลูกบ้าง ปากบอกรักๆ เเต่ไม่เคยจะเข้าใจว่าอาดาวต้องการอะไร ไปพรากคู่เค้า เป็นไงกรรมตามสนองเลยเมียทิ้ง!!” ม๊าดูอินน์มากๆ แต่ขิงอยากจะบอกว่าม๊าไปยังไม่ถึง 8ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
หลังเหตุการณ์ม๊าไปเกาหลี ป๊าก็ดูสงบลงไม่หาเรื่องขิง ไม่กระเเนะกระเเหนดาวอีก และวันเสาร์ที่ดาวบอกว่าจะกลับบ้านก็มาถึง คนตัวเล็กอ้อนม๊าอย่างน่ารักเหมือนเดิม ส่วนป๊าเขาเว้นระยะห่างไว้หน่อย ม๊าเหยียดตามองอย่างสะใจ ไงละ...เมื่อก่อนหนะเป็นคนโปรด อะไรก็น้องดาวๆ จะไปหาปะป๊า อ้อนปะป๊าปากงุ้ยงุ้ยงุ้ย เจอลูกเมินเข้าให้ หน้าซีดเป็นไก่ไหว้เจ้าค้างคืนเลยมั้ย
“ป๊าครับ” ดาวเรียกเสียงเรียบ
“ดาวโดนชวนไปทำงานญี่ปุ่น ดาวจะมาลาไปทำงานเก็บประสบการณ์ เก็บคอนเนคชั่น 1ปี แล้วดาวจะกลับมาเป็นฟรีเเลนซ์ที่บ้าน ควบกับช่วยป๊าม๊าดูเเลกิจการนะครับ”
“คิดได้ก็ดี” ยัง..ป๊ายังเเสร้งทำขรึมจนม๊าอยากบิดพุงให้เขียว
“จะไปตั้งปีเลยหรอคะน้องดาว”
“เเป๊บเดียวเองม๊า”
คนเป็นเเม่ถอนหายใจแล้วถาม “น้องขิงทนได้มั้ย ถามเเฟนรึยังลูก”
ดาวหันมายิ้มให้ขิง เจ้าเด็กของเขาเก่งที่สุด
“ขิงเข้าใจครับ เราจะรอวันที่กลับมาพบกันอีกครั้ง ดาวว่าตอนนั้นเราคงรักกันมากกว่านี้อีก”
มะม๊าน้ำตาคลอ เธอเหมือนเห็นลูกชายโตขึ้นไปอีกขั้น สามารถจัดการกับชีวิตตัวเองได้เเล้ว
“หึ ทำเป็นพูดดีไป ภูเก็ต-ญี่ปุ่นบินไม่กี่ชั่วโมง ไปได้อาทิตย์เดียวคร้านจะวิ่งเเจ้นตามกันไปหา” ป๊าพยายามมีส่วนร่วม ดาวเห็นเเบบนั้นก็อ่อนใจ รีบกลับไปกอดซุกพุงอ้อนเหมือนตอนตัวเล็กๆ
“ถ้าป๊าคิดถึง ป๊าก็เรียกอั๊วกลับมาซี่ น้องดาวจะกลับมาให้ป๊าหอมๆ แล้วค่อยกลับไปก็ได้”
ป๊าน้ำตาซึม ฟังดาวอ้อนเเบบนั้นเเล้วก็คิดย้อนไปถึงวันวาน เจ้าเด็กก้อนๆ ตัวเบาๆ ที่เขาอุ้มได้ด้วยเเขนเดียวบัดนี้โตเสียเเล้ว และยังมีคนที่ดูเเลดาวได้ดีกว่าป๊าเสียอีก เจ้าเด็กขิง...คนที่ไม่เคยทำให้ดาวเสียน้ำตาเลยสักหยด
เเต่เขาเป็นพ่อเเท้ๆ กลับทั้งบังคับทั้งกดดัน แถมยังทำให้เด็กน้อยต้องอยู่คนเดียวอย่างว้าเหว่ด้วย
“น้องดาว..ป๊าขอโทษนะ ปะป๊าขอโทษ”
“ฮรือ…” ดาริณปล่อยโฮอย่างไม่อาย โซ่ตรวณที่รัดพันจนเเน่นอกบัดนี้ถูกคลายออกเเล้ว
ดาวส่ายหน้ากับพุงป๊าเหมือนตอนเด็กๆ เขาไม่โกรธป๊าเลย มีเเต่ขอบคุณที่ป๊าให้อะไรเขามากมายมาตลอดชีวิต ภาพน่ารักๆ ที่เหมือนย้อนวัยไปสมัยเด็กๆ ทำให้ม๊าน้ำตาซึมตาม ในเมื่อสามีเธอเข้าใจโลกสักทีก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว
TBC
ตอนนี้เม้นให้ชื่นใจหน่อยนะคะ เพราะตอนหน้าจบเเล้วนะ อยากให้จบ 25 ตอนชอบเลขมงคล 555
เราชอบความดาวเเละขิงในตอนนี้มาก ที่แบบพอถึงเวลาที่น้องมันไม่ไหว คนพี่ก็จะเเบบฮึบขึ้นมา แบบไม่ปล่อยให้ใครพยายามอยู่คนเดียว และความรักของขิงที่มีต่อดาว เรารู้สึกว่าขิงแบบชอบในความเป็นดาวอ่ะ ชีวิตเเบบน่าสนใจจัง วาดการ์ตูน คอสเพลย์ มีความมุ่งมั่น ไม่รู้เคยมีใครเป็นมั้ย ที่แบบหลงรักคนๆ นึงเพราะชีวิตเค้าน่าสนใจจังเลย (ไรต์เป็น 555) แล้วก็ขิงรู้สึกว่าดาวเค้าสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเค้าเองเเล้ว แต่การที่มีขิงเข้าไป คือไปทำให้ more than complete ซึ่งเป็นความรักที่ดีนะคะ เเก้ปัญหาการเรียกร้องความสนใจมากกว่าที่จำเป็น
ลากันไปประมาณนี้ มีคาใจประเด็นไหน ถามทิ้งไว้ได้นะ ตอนหน้ามาตอบให้ ส่วนเเก้เเค้นอลง และโพนี่ เดี๋ยวตอนฟน้ามาเเน่ เพราะเรื่องในบ้านเค้าจบละ ไปสู้ศึกนอกบ้านต่อ
สำหรับรูปเล่ม เราส่งสำนักพิมพ์พิจารณาไปแล้วนะคะ รอผลน่าจะ 3 เดือนโดยประมาณไม่รู้จะผ่านมั้ย ถ้ามีอะไรอัพเดทเดี๋ยวคุยกันเรื่อยๆ นะคะ
เราเล่นทวิตเตอร์นะ @sweetherthansw เผื่อใครอยากคุยด้วย หรือ อีเมล wkonlineshopอย่าแสดงเมลบนบอร์ด
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ปล. มีอีกเรื่องที่น้องขิง ไปโผล่อยู่ ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมใจนะคะ
เปลี่ยนเพื่อนให้เป็นเเฟนhttps://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68101.msg3875111#msg3875111