หวัดดีครับ... ไม่ได้มีบทร้อนแรงกันซะนาน... วันนี้เลยขอเรียก Rating หน่อยครับ...เด๋วจะลืม
รักคนอ่านของผมทุกคนเลยครับ อ่านแล้วก็เม้นท์ หรือโหวตให้กำลังใจกันบ้างนะครับ... ดิน
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ครับ
...........................................................
ตอนที่ 31 ความสัมพันธ์ที่พักที่ผมกับน้องๆ เข้าพัก เป็นโรงแรมเล็กๆ มีอยู่สิบกว่าห้อง ติดแม่น้ำโขง พวกน้องๆ จองกันมาแล้ว สี่ห้องก็เลยแยกย้ายกันเข้าพัก ผมพักกับลูกน้องผู้ชายคนนึงอายุไล่ๆ กัน...พร้อมกับคนขับรถที่ขอมาอาบน้ำ แต่ผมบอกว่าก็นอนในนี้แหละ ไม่ต้องไปนอนเมื่อยที่รถ... ก็เลยเอาถุงนอนมาปูที่พื้นข้างๆ (อย่าคิดมากนะครับ ผมไม่กินไก่วัด โดยเฉพาะ ไม่สเป็คอีกต่างหาก)
จัดแจงเรื่องที่พักเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินเที่ยวกัน ผมพยายามสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่ควรจะเป็นจุดสังเกต ที่พอจะจำได้ แต่ก็ได้แค่เค้าลางๆ เท่านั้น... มีแต่ถนนที่ทอดยาวจากพระธาตุจนถึงฝั่งโขงที่พอจะจำได้บ้าง... เอาน่ะ... แค่นี้ก็พอจะไหวมั๊ง... ผมนึก...
เราเดินกันจนเมื่อย น้องบางคนแยกไปไหว้พระธาตุฯ ส่วนผมกับน้องอีกบางส่วนแยกกลับมาที่พัก อาบน้ำเตรียมตัวรอ ไม่นาน พวกที่แยกไปก็กลับมา... เข้าไปอาบน้ำบ้าง พอเสร็จ พวกเราก็ไปทานข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารริมโขง... ก่อนจะกลับมานอน... (ก่อนนอน ก็มีการนับเลขกันนิดหน่อย พอเป็นกระสัยครับ)
แต่วันนี้ ต่างกับวันโน้น เมื่อยี่สิบสามปีที่แล้ว ลิบลับ...
............................................................................
เรากลับมาถึงบ้านป้าไอ้ชลก็ค่ำแล้ว ป้าทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อย สามคนนั่งทานอาหารเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นไอ้ชลเล่าถึงอาการของป้าผินที่มันช่วยพามาหาหมอที่ฝั่งไทยตอนกลางวัน ป้าไอ้ชลทำท่าตกใจ เพราะแกเองก็รู้จักป้าผินเหมือนกัน แต่ไอ้ชลบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก
“ออกพรรษาแล้ว ป้าจะไปเยี่ยมแกสักหน่อย ไม่ได้ข้ามไปฝั่งโน้นนานแล้วเหมือนกัน”
ป้าไอ้ชลพูด... ก็อย่างที่บอกแหละครับ คนสองฝั่งโขง (หรือ “ฝั่งของ” ในภาษาลาว) นั้นรู้จักเป็นพี่น้องกันมาหลายชั่วอายุคนจนแยกไม่ออกไม่ว่าแต่ละฟากจะมีการปกครองอย่างไร แต่คนของทั้งสองฝั่งกลับมีความสัมพันธ์ที่แน่นหนาไม่เคยคลอนแคลน
ทานอาหารเย็นเสร็จ ผมกับไอ้ชลก็ออกมาเดินเล่นที่ถนนหน้าพระธาตุ ที่อาบด้วยแสงสปอตไลท์ จนขาวสว่างโพลนเด่นเป็นสง่า น่าเลื่อมใส...
เราเดินมาบนถนนที่ทอดยาวจากองค์พระธาตุไปจนถึงฝั่งโขง มีคนเดินเล่นอยู่พอสมควรเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันออกพรรษา มีงานบวงสรวงพระธาตุที่ถือว่าเป็นงานใหญ่อีกงานนึง นอกเหนือไปจากงานสมโภชตอนเดือนสาม
“พรุ่งนี้ตอนเช้า จะมีขบวนแห่ จากหน้าประตูฝั่งแม่น้ำโขง เดินมาตามทางนี้ ไปจนถึงวัด แล้วก็จะรำบวงสรวงกันตรงลานหน้าวัด” ไอ้ชลบอก... ตั้งแต่เดินออกมาจากบ้าน มันอธิบายงานบวงสรวงพระธาตุให้ผมฟังอย่างละเอียด
เราเดินเล่นกันจนเริ่มดึก ผู้คนเริ่มบางตา อากาศเริ่มเย็นลง จึงค่อยเดินกลับมาที่บ้าน...
อาบน้ำเสร็จ... ไอ้ชลมันก็มานอนกอดผมที่เตียง... ในท่าเดิม... กำลังจะเคลิ้มหลับไอ้ชลมันก็บีบเบาๆ ที่ลำท่อนของผมที่มันกำอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะรูดขึ้นรูดลงจนมันเริ่มขยับตัว พองขึ้น...
“ซนนะมึง...” ผมพึมพำทั้งยังหลับตา...
ไอ้ชลหัวเราะคิกคัก... “กูคิดว่ามึงหลับแล้ว...”
“เกือบแล้วละ... มึงจะทำไม”
“กูมีของเล่นใหม่อ่ะ...” มันบอก พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นไปรื้ออะไรกุกกักที่กระเป๋ากางเกงที่มันใส่ไปลาววันนี้ ไม่นาน มันก็กลับมาที่เตียง
ส่งของที่มันถืออยู่ในมือให้ผม... จากแสงจันทร์สลัวๆ ที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง... มันไม่ชัดนักหรอก แต่ผมก็รู้ว่ามันเป็นวงกลมคล้ายกำไล เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสองนิ้ว ทำด้วยวัตถุอะไรสักอย่าง เรียบลื่นสีขาวนวล
“อะไรวะ” ผมทำท่างง...
“กำไล... กูซื้อมาให้มึง... ทำจากงาช้างเชียวนะมึง”
ผมทำท่างงๆ “ก็มึงให้กำไลเงินกูมาแล้วไง แล้วอันนี้มันก็เล็กจะตาย... กูจะใส่ได้ไง”
ไอ้ชลหัวเราะหึๆ... “กูไม่ได้ซื้อให้มึงใส่ข้อมือ”
“อ้าว... แล้วมึง...” ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ “นี่... มึงอย่าบอกนะว่าซื้อมา...”
ไอ้ชลยิ้มในความมืด... “ก็ใช่น่ะสิ...” คว้ากำไลคืนแล้วเลื่อนตัวลงไปนอนพังพาบตรงหว่างขา ผมมองตามมันก่อนจะผงกหัวขึ้นมาเอาศอกเท้าที่นอน ดูไอ้ชลมันเล่นกับKผม... (จริงๆ ก็ชอบด้วยแหละ หุ หุ) เห็นมันเอากำไลสวมเข้ากับท่อนKผมรูดลงไปจนถึงโคน ขยับให้เข้าที่ มันหลวมนิดๆ กับขนาดของKผมที่กึ่มๆ อยู่ห้าหกสิบเปอร์เซ็นต์แบบนี้
“พอดีเลย” มันบอกผม
“เด๋วKกูแข็งมันก็รัดแน่นดิ”
ไอ้ชลไม่ตอบ จับKผมรูดสองสามที จุ๊บที่หัวบานๆ ก่อนจะอ้าอมเข้าไปไว้ในปาก... ใช้ลิ้นตวัดไล้เลียไปมาด้วยลีลาการ “อมK” ขั้นเทพ... ได้ผลครับ... Kผมผงาดแกร่ง แข็งขึ้นมาทันใจ
“อูยซซซซ” ผมคราง เพราะไอ้ห่วงกำไลที่หลวมๆ อยู่ตอนแรก พอKผมแข็งเพิ่มขนาดขึ้นมา กลับกลายเป็นกำไลที่รัดโคนKผมจนเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปน... หัวKที่บานอยู่แล้ว กลับบานขึ้นไปอีก แดงก่ำเหมือนชมพู่ม่าเหมี่ยวลูกเขื่องๆ
“คับไปเหรอ ดิน...” ไอ้ชลมันเงยหน้าขึ้นถาม
“มันเหมือนKกูถูกบีบแน่นๆ อ่ะ...”
“เจ็บเหรอ...” มันถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันอึดอัดอ่ะ เหมือน... เหมือนใส่รองเท้าคับๆ ว่ะ” ผมทำหน้าเหยเก...
ไอ้ชลมันมองKผมที่เส้นเลือดกับเม็ดมุกโปนปูดแข่งกัน ส่วนหัวบานแดงก่ำ ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าเก่าด้วยซ้ำไป ก่อนจะอ้าปากอมเลียเข้าไปในปากอีกครั้งนึง
“อูยซซซซ ซี๊ดซซ” ผมแหงนหน้าคราง ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันก้ำกึ่งระหว่างความอึดอัดที่ถูกรัดโคนK กับความเสียวจากการที่ถูกไอ้ชลมันอมดูดลำKเข้าไปกว่าครึ่งลำ....
“อาซซซ์ กูเสียว...” ผมครางเป็นระยะๆ เพราะลีลาการ “ดูดK” ขั้นเทพของไอ้ชล... ที่ใช้ทั้งมือทั้งปากประกอบกัน รีดเร้นอารมณ์เสียวของผมให้ก่อตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ
เสียงไอ้ชลครางอึกอักเพราะอมKของผมอยู่เต็มปาก... ก่อนจะคายออกมากระซิบเสียงกระเส่าไม่แพ้ผม “ดิน... มึงเอาน้ำมาให้กูกิน... นะ...กูอยากกินน้ำมึง...นะครับ...”
“อูยยซซซี๊ด... มึงดูดKกูแรงๆ...” ผมครางแอ่นตัว ก้นไม่ติดพื้นกับลีลาการดูดKของไอ้ชล...
ลำพังตอนยังไม่รัดK ผมก็อึดมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มีห่วงกำไลรัดอยู่โคนKด้วย ทำให้ความรู้สึกของผมยิ่งเพิ่มความอึดมากขึ้นไปอีก... แต่ไอ้ชลมันก็ไม่ยั่นครับ เพราะบางทีผมยังนอนให้มันดูดKอย่างเดียว มากกว่าสามชั่วโมงก็เคยมาแล้ว
ความเสียวค่อยๆ เพิ่มขึ้น... ทีละน้อยๆ จนกระทั่ง... “อูยซซซซซี๊ด... ชลมึงดูดKกูแรงอีก กูจะแตกแล้ว... แรงอีก... ซี๊ด.... ดี... อูยวซซ์ อ๊าซซซ์”
ไอ้ชล ดูดKผมอย่างแรง ตามที่ผมบอก สองมือมันยังกดที่ห่วงรัดK... จนKผมถอกออกมาสุดๆ ผมแหงนหน้า กัดฟันสูดปากด้วยความเสียว ตัวแอ่นเกร็งกระตุก น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากปลายKอย่างมากมาย ถึงแม้มันจะไม่พุ่งออกมาแรง เพราะมีห่วงรัดที่โคนขวางอยู่ แต่ก็ทะลักหลั่งพลั่งออกมาเป็นระลอกๆ ก่อนจะเยิ้มลงมาอาบที่ลำKจนเหมือนราดด้วยกระทิ...ลงบนกล้วยเชื่อมทั้งลูก...
แต่ไอ้ชลก็ไม่ปล่อยให้เสียเปล่า ปลายลิ้นสีชมพูของมัน ค่อยๆ ปาดเลียน้ำเงี่ยนของผมที่หลั่งทะลักอยู่บนท่อนลำ ตวัดเข้าปากจนเกลี้ยงสะอาด เท่านั้นยังไม่พอ มันยังรีดส่วนที่ตกค้างอยู่ในลำท่อนออกมา ก่อนจะไล้เลียเข้าปากมันไปจนหมด ก่อนจะตวัดลิ้นเลียริมฝีปากแผล็บเหมือนเด็กที่กินอาหารเลอะเทอะ
ตลอดเวลาผมนอนมองการกระทำของไอ้ชล แล้วก็อดขำกับท่าทางของมันไม่ได้ พอมันมองสบตาผมก็เลยถาม “อร่อยไม๊... อิ่มยัง”
ไอ้ชลจุ๊บที่ส่วนหัวบานๆ ของKผมอีกที ก่อนบอก “อร่อย... ไม่เคยบอกสักทีว่า อิ่มนะ...มึงมีอีกไหมล่ะ...”
ผมหัวเราะหึๆ “กูให้มึงดูดทั้งคืนก็ได้ แต่มึงเอาห่วงที่รัดKกูออกก่อนได้ป่ะ... อึดอัดว่ะ”
ไอ้ชลหัวเราะหึๆ “กูเคยอ่านหนังสือ... คนจีนสมัยโบรานเค้าใส่เหมือนกัน เป็นห่วงหยก... ว่ากันว่า จะได้แข็งอยู่ได้นานๆ ไม่อ่อนง่าย”
“แล้วKกูอ่อนง่ายเหรอ” ผมถามมันยิ้มๆ...
“เปล่า... กูเห็นมันสวยดี แล้วมันก็พอเหมาะกับKมึง เลยซื้อมาให้มึงใส่เล่นอ่ะ...” มันบอกยิ้มๆ ก่อนจะค่อยๆ ขยับห่วงออกมาทีละนิดๆ เพราะความแน่น... ลำบากทุลักทุเลพอใช้ ยิ่งตอนที่ต้องผ่านเม็ดมุก มันต้องค่อยๆ เอานิ้วดันให้เม็ดมุกลอดผ่านห่วงทีละเม็ด ๆ แต่ในที่สุดก็หลุดออกมาจนได้ พร้อมกับเสียงถอนหายใจของผมกับไอ้ชลดังขึ้นพร้อมกัน...
“เฮ้อ...” เราสองคนหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน... ผมดึงมันขึ้นมากอด... จูบที่แก้มมันฟอดนึง ก่อนจะบอก “ขยันหาของมาเล่นกับKกูเหลือเกินนะ...”
ไอ้ชลอาย หลบตาพึมพัม “ก็Kมึงอ่ะ...ใหญ่ดี... แข็งด้วย” มือไอ้ชลกำไอ้ที่มันบอกว่า ‘ใหญ่ดี...แข็งด้วย’ ไม่ปล่อย... แถมรูดเล่นอย่างมีจุดประสงค์
“ดิน...” ไอ้ชลกระซิบเสียงพร่า
“หือม...” ผมรับคำเบาๆ
“กูอยาก...” มันบอก
“มึงทำดิ...” ผมบอกมัน
มันพลิกตัวไปข้างเตียง ประเดี๋ยวเดียว ก็มีหลอดเจลหล่อลื่นติดมือมา... จัดแจงบีบใส่มือมาลูบไล้ที่ท่อนKของผมจนลื่นเป็นมัน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งยองๆ จับKผมให้ตั้งตรง จ่อตรงรูของมัน พอได้ที่มันก็กดลงมา
“อาซซซ.... ซี๊ดซซ ใหญ่ชิป...” ไอ้ชลบ่นเมื่อหัวบานของผมแทรกเข้าไปในร่องหลืบมันจนมิดเงี่ยง
“หุ หุ... กูเอามึงมา นับไม่ถ้วนครั้งแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ” ผมแกล้งถามมันล้อๆ เบนความสนใจ พร้อมกับกระดืบหน้าท้องให้Kผมแทรกลึกเข้าไปเรื่อยๆ
“อูยซซซ...ซี๊ดซซซ ก็มันใหญ่เกินมนุษย์มนานี่หว่า... อูยซซซ์ซ์” ไอ้ชลทำหน้าเบี้ยวเมื่อเม็ดมุกเม็ดแรก แทรกผ่านกล้ามเนื้อหูรูดของมันเข้าไป...
ผมปล่อยให้มันค่อยๆ กดลงมา ขยับสะโพกเด้งสวนให้Kผมแทรกลึกลงไปอีก ไอ้ชลอ้าปากพ่นลมออกมาไม่หยุดเมื่อเม็ดมุกเม็ดต่อมาแทรกผ่านหูรูดของมัน สอง สาม สี่ ห้า หก... จนครบ ผมก็จับสะโพกมันยึดเอาไว้ ก่อนจะเกร็งกล้ามเนื้อ กระเด้าสะโพกสวนขึ้นมาจนKขนาดความยาวร่วมเจ็ดนิ้ว จมหายเข้าไปในตัวมันจนหมด
“อ๊ากซซซ ดิน... อูยซซซ” ไอ้ชลคราง ตัวสั่นระริก ก้มหน้าลงประกบปาก แทรกลิ้นข้ามาในปากผม “อือม...หืมม์” จนพักใหญ่ที่มันกดสะโพกให้Kผมแทรกจมมิดอยู่ในรูมัน กว่าจะเริ่มขยับตัวช้าๆ ก่อนจะเริ่มเร็วขึ้นๆ...
บททำรักด้วยปากของไอ้ชลเรียกว่าขั้นเทพ แต่บทรักที่มันกำลังทำให้ผมอยู่ ต้องถือว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เพราะมีทั้งส่าย ควง บด กระแทก เป็นจังหวะสลับกันไปมา ซึ่งผมที่นอนอยู่ข้างล่างก็ได้แต่คอยยกสะโพกกระเด้าKรับการควบของมันตามจังหวะ... พร้อมกับสูดปากครางด้วยความมันส์
“อูย.... ชล...มึงสุดยอด...ซี๊ดดซซซ”
ไอ้ชลพอเห็นว่าสามารถทำให้ผมครางได้ มันยิ่งเร่งการควบควงสะโพกของมันไม่หยุด... แต่มันคงลืมไปว่า ยิ่งกระแทกแรงเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความเสียวกระสันให้มันมากเหมือนกัน
“อูยซซซ ดิน...กูก็เสียว... อูวซซซซี๊ดดดซซซ”
แล้วมันเองนั่นแหละครับ ที่เป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ “อูยวซซ์ ดิน... กูแตกแล้วซซซี๊ดซซ”
ไอ้ชลมันกระแทกหนักๆ อีกหลายที แล้วมันก็กระตุกเยือก... น้ำแตกทะลักออกมาจากไอ้ชลน้อยจนหน้าอก หน้าท้องของผมเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนของมัน....
พอมันเสร็จ... ก็ทำท่าจะยกธงขาวยอมแพ้ดื้อๆ... แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ หลังจากให้มันพักไม่นาน ผมก็ผลักมันนอนหงายลงกับที่นอน จับขามันขึ้นพาดบ่า กระเด้าสะโพกใส่มันอย่างหนักหน่วงสุดมันส์
ไอ้ชลเอามือลูบไล้ที่หน้าอกและหน้าท้องของผม ครางกระสัน... “อาว์ซซ ดิน...มึงโคตร เซ็กซี่เลย...อูยซซซี๊ดซซซ มีงเอากูแรงๆ แรงอีก...แรงอีก... อาซซซ”
ผมเร่งกระหน่ำกระเด้ามันอย่างหนักหน่วง นัยน์ตาผมมองมันอย่างหื่นกระหาย...ความเสียวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
“อูยซซซ... กูแตกอีกแล้ว... ซี๊ดซซซซ”
“อ๊าซซซ ชล รอกูด้วย กูก็แตกแล้ว... ซี๊ดซซซ” ผมกระแทกหนักๆ อีก สี่ห้าครั้งก่อนจะบดสะโพกกดแน่น ลำKเกร็งกระตุก พ่นน้ำเงี่ยนเข้าใส่ในรูของไอ้ชลหลายต่อหลายครั้ง...
... รอจนกระทั่งอาการเกร็งกระตุกของเราสองคนหมดลง ผมจึงค่อยเอาขามันลงจากบ่า ก่อนจะนอนทาบทับไปบนตัวของไอ้ชล... จูบที่ปลายจมูกของมันเบาๆ...กระซิบ
“มันส์ไม๊ครับ... เมียครับ”
ไอ้ชลพยักหน้า ผมเห็นน้ำตามันไหลออกทางหางตาข้างละหยดเอามือกอดผมไว้แน่น กระซิบ...
“กูรักมึง ดิน... รักมาก... อย่างที่กูไม่คิดว่ากูลจะรักใครได้มากเท่ามึงอีกแล้ว...”
ผมกอดตอบมัน... ก่อนจะนอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนด้วยกันทั้งสองคน...
.................................................................................................
ช่วงนี้อาจจะโพสห่างอีกแล้วครับ มีทริปต้องไปต่างประเทศครับ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะเข้ามาโพสครับ
ก็...ผมคิดถึงเพื่อนคนอ่านของผมนี่ครับ
ดิน
................................................................................................