M ♠ M
31
ผมมองดูคนที่ยืนล้อมอยู่ห้าหกชีวิต จากตอนแรกที่มีแค่ไอ้มายะคนเดียว...
มาสเตปนี้แล้ว แม่งจะอะไรซะอีกล่ะ นอกจากทั้งหมดเป็นแผนเพื่อล่อผมออกมายำ
แม่งกูไม่เข้าใจอ่ะ! แค่โด้กระดาษไปไม่กี่แผ่น แต่พวกมึงกะจะเล่นกูถึงตายเลยป่ะเนี่ย?
บรรยากาศของยากุซ่าผมเฉยๆ นะ พวกมาเฟียฮ่องกง หรือแถวเซี่ยงไฮ้ที่ผมเคยอยู่ ดูจะเถื่อนกว่านี้ แต่สำหรับผมก็ไม่ประมาทหรอก เพราะพวกญี่ปุ่นนี่ความคิดสร้างสรรค์เขาเยอะ ผมอาจเจออะไรแปลกๆ เข้าก็ได้
ตอนแรกก็สงสัยทำไมถึงเจอนีออนอยู่กับไอ้มายะ กูว่า กูก็ไม่ได้ไปเดินโชว์ตัวกับเขานี่เว้ย ยกเว้นตอนแรกๆ ที่มาแค่นั้น... ผมค่อยๆ สังเกตทีละคน และคุ้นหน้าอยู่คนนึง ที่เหมือนจะเคยเห็นตอนมาวันแรก
พอจำได้เท่านั้น แม่งกูพลาดฉิบหาย! ไอ้เห้นี่มันอยู่อิจิยะ แล้วเสือกมาเห็นผมอยู่กับนีออนอีก เอาเข้าไป แม่งยิ้มมุมปากนิดๆ ให้ผมด้วยนะ
สัด จะอ่อยกูหรือยังไง?
ไม่ค่อยอยากเชื่อว่านี่คือเรื่องบังเอิญที่มันเข้ามาพัวพันกับทั้งผมและนีออน โลกนี้มันไม่มีหรอกเว้ย เรื่องบังเอิญ แต่ก็เพราะเหตุใดผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันที่มันไปโผล่หัว ณ ที่อพาร์ตเมนต์ของผมในวันนั้น…
กูไม่เข้าใจ
กูโง่
หรือกูเซ่อ?
ผมพลาดอะไรไปวะ?
“เป็นไง? ตกใจไหมที่ได้เจอกันอีก?” ไอ้มายะถามภาษาอังกฤษ ไม่โชว์โง่เหมือนครั้งแรกที่เจอกัน ที่แม่งพ่นภาษาถิ่นมันไฟแล่บใส่ผม
ขอเถอะสัด กูเกลียดรอยยิ้มมึงว่ะ
“แล้วหน้าตากูดูตกใจเหรอ?” ผมถามมันกลับ
“ก็ดูตกใจมากอยู่นะ ตอนที่เห็นมายด์” ไอ้สัด กูไม่ตกใจเท่าตอนเจอพวกมึงร้านราเมงหรอก อาการอย่างนั้นนี่ถ้าไม่เกรงใจเพื่อนบ้านกูนี่เตรียมทำยุทธหัตถีไปแล้ว
“เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานนะ” ไอ้มายะพล่ามต่อ
“แต่เรื่องมายด์... ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นอะไรกัน แต่ผมไม่ยกเขาให้ใครหรอก”
เลือด!!!!!
เลือดมาเต็มครับ!! ปีนขึ้นมาอยู่บนหน้าผมแบบเฉียบพลัน
แถวบ้านนี่เรียกเลือดขึ้นหน้าขั้นอีโว!!!
ใครมายั่วยุอะไรผมไม่เคยหวั่นไหวนะ แต่ครั้งนี้คือนีออนแม่งไม่บอกอะไรผมเลย ไม่รู้โดนมันล้างสมองอะไรมาหรือเปล่า ถ้าผมไม่ไปเจอเองสงสัยคงกะให้รู้ชาติหน้ามั้งว่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น แถมอยู่คนละวงโคจรกับผมอีก แม่งโคตรเฮงซวยชัดๆ
นี่ไม่ได้หึงนะ แต่มาหยามกันแบบนี้ผมไม่ชอบว่ะ
“มึงจะรู้สึกเหี้ยไรกับใครก็เรื่องของมึง ไม่ต้องมาบอก ที่กูอยากรู้ตอนนี้คือมึงจะบวกเมื่อไหร่ มึงว่ามาไอ้สัด”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมเอาคืนแน่ ...ตอนนี้ก็แค่สงสัย ว่ามายด์เป็นอะไรกับนาย ทำไมต้องไปฉุดกระชากเขาขนาดนั้น รู้ไหม ถ้าเขาไม่ขอร้องผม ป่านนี้มันคงไม่มาจบที่นี่หรอก..”
“จบที่ไหนก็เหมือนกันว่ะ คราวนี้มึงได้แดกตีนกูจนอิ่มแน่”
ไม่อยากเสียเวลาสนทนาแล้วเว้ย!
ล่อแม่งเลยแล้วกัน!
เข้าใจคำว่าเลือดขึ้นหน้าก็คราวนี้แหล่ะ พลังที่ผมสะสมไว้นี่เอามาปลดปล่อยที่นี่จนแทบหมดแม็ก
จาก 6 เหลือ 2 ใครอยากได้มือ ใครอยากได้ตีน
ผมนี่แจกยับ!
“ไม่เบาเหมือนเดิมเลยนะ” อีก 1 ชีวิตที่เหลือพูดขึ้น ถามว่ารู้จักมันไหม คือไม่... แต่ที่แน่ๆ มันคือคนที่นำพาหายนะมาให้ผมในวันนี้
ผมพุ่งหลาวเข้าไปจะซัดมัน
แต่มันหลบครับ หลบพลิ้วแล้วแทงศอกเข้ามา ผมก้มหลบจะเตะตัดขา มันก็กระโดดหลบได้อีก
ผลัดกันแลก แต่ก็ล้มมันไม่ลงสักที จนผมชักสงสัยว่ามันไปสักวัดไหนมาวะ แคล้วคลาดไปถึงไหนมึง!
“ผมเองดีกว่ายูอิโตะซัง” ไอ้มายะดันตัวเองขึ้นมาเผชิญหน้ากับผม แล้วปล่อยอีกฝ่ายให้หลบไป
หน้าตามันดูโคตรชิว แต่กูไม่ชิวนะบอกเลย คดีมึงเยอะสุดๆ ถ้ามันไม่ตายคาตีนผมวันนี้ ผมคงนอนไม่หลับ
ไอ้มายะ เดี๋ยวกูจะสอนดาราศาสตร์มึงเอง ว่าแกแลกซี่มีดาวกี่ดวง กูจะให้มึงไปนอนนับจนพอใจเลย !
ไม่ต้องเสียเวลาไหว้ครูกันเลยจังหวะนี้ ในเมื่อไอ้คนที่แค้นมาหลายวันยืนอยู่ตรงหน้า และความแค้นยิ่งอัดทะลุจุดเดือด พอเห็นมันอยู่กับนีออน กลยุทธที่ร่ำเรียนมาทั้งหมด ผมใส่ไม่มียั้ง แต่ก็ยอมรับว่ามันแม่งหลบเก่งจริง หลบได้เกือบหมดทุกกระบวนท่า
“อย่าคิดว่าตัวเองเหนืออยู่คนเดียว” ไอ้มายะโม้ทันทีที่มันหลบหมัดสุดท้ายผมได้ แต่สเตปมึงกูเมมไว้ในสมองหมดแล้ว ไอคิวกู 220 อย่าคิดว่าจะมาโม้ต่อหน้ากูได้
ผมทำทีจะพุ่งไปอัดมันตรงๆ มันเบี่ยงหลบตามที่คิด แต่ผมกระโดดพลิกตัวกะทันหันทำให้มันต้องเบี่ยงตัวไกลออกไปอีกจนขาที่รับน้ำหนักเสียสมดุล
ถึงกูจะเคยสอนเลขนะเว้ย แต่หลักฟิสิกส์กูมาเต็ม
ขาไม่ใช่ส่วนที่ผมจะประเคนให้มัน แต่เป็นหลังเท้าเบอร์ 40 ของกูนี่ล่ะที่อยากจะให้มันได้ชิม
ปั้ก!!!
เข้าเบ้าหน้าตามประสงค์
เห็นเลือดหยดลงมาตามมุมปากทันที ผมแสยะยิ้ม
“มึงรุกเก่งไม่เท่ากูหรอก ไม่ต้องสะเออะอยากไปเป็นเจ้าของใคร” ถ้าฉลาดคงรู้ว่าผมหมายถึงนีออน นีออนที่ร้อยวันพันปีไม่มีใครมาสนใจ แต่พอเป็นเมียผมเท่านั้นแหล่ะ ปัญหามาทันที
ไอ้มายะเอาหลังมือปาดเลือด มันมองเหมือนเจ็บใจอยู่แป้บนึง แล้วบอก
“แต่ถ้าเต็มใจให้เป็น มันก็อีกเรื่องใช่ไหมล่ะ?”
“แล้วถ้ากูไม่ให้ มึงจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไม ถ้าเขาเลือกจะอยู่กับผม”
เลือด!!! แม่งปีนขึ้นหน้ากูอีกแล้ว คราวนี้ผมแทบจะกระโจนเข้าไปซัดมันแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย หลบได้หลบไป ถ้าแรงมึงเหลือพอบวกกู!!
ไอ้มายะยกมือกันหมัดผม แต่ด้วยแรงแค้นก็ทำให้มันต้านผมไม่ไหว ต้องล้มลงไปนอนนับดาวอย่างที่ผมตั้งปณิธานไว้นั่นแหล่ะ
“มายะ! เรื่องส่วนตัวน่ะเอาไว้ก่อน!” ไอ้ข้างหลังตะโกน แล้วออกมาเผชิญหน้ากับผมเอง ไอ้มายะทำหน้าขัดใจแล้วค่อยลุกขึ้นยืนแบบทุลักทุเล
“ขอโทษครับ ยูอิโตะซัง” ภาษาญี่ปุ่นที่กูแปลออก สรุปมันชื่อนี้?
อ่อ.... ผมพยักหน้าเข้าใจ ดาต้าที่ไอ้ซาจิเคยให้ผม คุซาวะ ยูอิโตะ นี่มันระดับหัวหน้าเขตเลยนะ ถ้าเล่นมันได้สงสัยผมได้เป็นตำนานชั่วข้ามคืนแน่
“เอกสารที่มึงเอาไป ถ้าไม่เอามาคืนภายในพรุ่งนี้ อย่าหวังว่ามึงจะอยู่ที่นี่ต่อได้ นอกจากไม่มีที่อยู่แล้ว มึงจะเสียคนสำคัญไปด้วย”
“มีปัญญาอะไรมาขู่กู?” แม่งพูดเหมือนกูอยู่ในยุคขี่เกวียนไปทำงานเลยนะมึง
“มีแบบที่มึงคิดไม่ถึงยังไงล่ะ....”
“ก็เอาดิ”
กริ๊ก
ไอเทมที่ผมไม่ได้เห็นมานาน
แต่เห็นแล้วก็นึกถึงหน้านีออนขึ้นมาทันที
มีช่วงหนึ่งนะ ที่ผมเห็นเขาประกอบปืน แล้วยังยิงปืนแม่นแบบโคตรไม่เข้ากับหน้าตาอีก
ใครว่าผมเกรียนลืมเมีย ที่จริงไม่ใช่ ผมน่าสงสารกว่านั้น ผมเกรียนจนเมียลืม แล้วไปยุ่งกับไอ้ยุ่นหัวแดงนี่มากกว่า
“มึงจะยิงกู นี่มึงถามความเห็นแฟนคลับกูยังว่าเขาจะยอมไหม?” ไอ้สองตัวทำหน้าหมางงใส่ผม
อ้าว ก็งงดิ
บอกเลยว่าผมไม่กระจอกนะ
ตอนแรกผมมาเดี่ยว แต่แป้บเดียวผมใช้คาถาแยกเงาได้ 10 ร่างภายในเวลา 3 นาที
ปืนน่ะ กูไม่ชอบใช้บอกแล้ว
แต่ถ้าให้คนอื่นใช้น่ะ มันก็อีกเรื่อง
“ถ้าไม่ยิง กูยิง” ใครเร็วกว่าได้เปรียบ วิธีนี้ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังใช้ได้ดีเหมือนเดิม พูดจบผมได้ยินเสียงขึ้นนกจากไอ้ยูอิโตะ แต่คงช้ากว่าคนที่มันเล็งรออยู่ก่อนแล้ว
ช่วยไม่ได้ที่มันไม่ 1-1 กับผม เอาพวกมาข่มก่อน
มันมีแบ็ค ผมก็มีแบ็ค
กูรู้.... กูเรียนมา
ฟึ่บ!
ปืนเก็บเสียง ผมชอบนะ แต่ภาพที่เห็นตอนนี้มันไม่ใช่ว่ะ
ก็รู้อยู่นะว่านีออนกระจอก
แต่ก็ไม่คิดว่าจะโง่ขนาดนี้
ตุบ!
ล้มเหมือนตุ๊กตาเสียขาเลยครับ
ผมยืนตัวแข็งอยู่กับที่
ไม่นึกมาก่อนว่าเขาจะโผล่มาตอนนี้ ในเวลาแบบนี้...
ไม่สิ
คนที่โง่คือผมเอง
ผมเห็นนีออนล้มพับลงไปต่อหน้าต่อตา และเลือดค่อยๆ ไหลซึมผ่านเสื้อกันหนาวตัวหนาสีอ่อนออกมาอย่างรวดเร็ว
ขาผมเหมือนเป็นอัมพาต แต่ก็ไม่รู้แม่งพากูมาล้มอยู่ตรงหน้าเขาได้ยังไง
ผมค่อยๆ ประคองนีออนที่นอนนิ่ง เบิกตากว้างมองผมขึ้นมาบนตัก ดูตำแหน่งเลือดที่พุ่งออกมา อยู่ใกล้หัวใจมากจนผมกลัว
แต่แค่นี้ก็รู้แล้ว
หัวใจผมเต้นแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...
ความกลัวที่ลืมมันไปนานแล้ว...
รู้สึกแบบนี้เองเหรอวะ...
กลัวจนเหมือนจะขาดลมหายใจ
ผมประคองนีออนขึ้นมาแล้วกอดเขาไว้แน่น...
ไม่นะเว้ย! ไม่นะเว้ย!!... ไม่นะเว้ย!!!!
มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิวะ!!!
“มายด์..” เสียงที่เรียกเขาเหมือนไม่ใช่เสียงผม มันทั้งสั่น ทั้งเบา จนแทบไม่ได้ยิน
“มายด์...คุ..ณ...อ ย่าเป็นแบบนี้สิวะ!...” ผมเค้นเสียงออกมาจากลำคอ พร้อมไอ้น้ำบ้าๆ ที่มันเอ่อออกมาจากตาไม่หยุด มายด์นอนนิ่ง อ้าปากเหมือนจะพูด แต่ไม่พูด
“เจ็บเหรอ? เจ็บใช่ไหม อยู่นิ่งๆ นะ ผมจะพาคุณไปหาหมอ”
“............................” มายด์ตัวกระตุก ตาโตจ้องมองผม พร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเหมือนเจ็บปวด ผมทนดูไม่ได้ กอดเขาไว้แน่น ไม่กล้าขยับตัวอีกเพราะกลัวแผลเขาสะเทือน สิ่งรอบข้างเป็นยังไง ผมลืมหมดทุกสิ่ง
“เฮ้ย! อดทนหน่อย รถพยาบาลกำลังมาแล้ว” ไอ้มายะดึงไหล่ผมไว้ แขนผมเกร็งแน่นจนแทบไร้ความรู้สึก
แต่พอก้มลงดูหน้าเขาอีกที ก็เห็นว่าเขานอนหลับตา หายใจรวยรินเต็มที
ผมเจอคนมาก็มาก ที่ตายเป็นศพให้นอนแดกก็เยอะ ที่ใกล้ตายก็ไม่น้อย
ประสบการณ์ไม่ได้ทำให้เข้มแข็งขึ้นมาได้เลย ลืมแม้กระทั่งเหตุผลทุกอย่างพอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังจะตาย...
“มายด์! ตื่น มายด์!!! อย่าเพิ่งหลับสิวะ มายด์!!” ผมพยายามตบหน้าเขาเบาๆ เรียกสติ
“ถ้าอยากนอน ก็ไปนอนบ้านเรานะ! ตรงนี้....มันไม่ใช่ว่ะ โธ่เว้ย! ผมไม่ให้คุณตายนะเว้ย!!! มายด์!!” ผมก้มลงกอดเขา แนบหน้าเปื้อนไอ้น้ำบ้าๆ กับหน้าเขา ที่หนักกว่านี้ ที่โหดกว่านี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่ายังผ่านมาได้ ทำไมเรื่องโง่ๆ แบบนี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นกับเขาด้วยวะ! มันจะเหี้ยเกินไปหน่อยไหม
“มายด์.. มายด์… พูดอะไรสักคำ!! มายด์!!” ผมเรียกเขาเหมือนคนบ้า เหมือนคนสติแตก ไม่ได้สนใจรอบข้าง แค่คนตรงหน้าเท่านั้น แต่เหมือนเสียงของผมจะส่งไปไม่ถึง...
“อ ย่า..... ขอร้อง”
“...................”
“ผมรักคุณ”
“………………………”
“อยากฟังใช่ไหม คุณตื่นมาฟังผมดิ ผมรัก.... อึก...”
“..............................”
โลกหยุดหมุน
และผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งกอดมายด์อยู่ในท่านั้นนานเท่าไหร่
♠♠♠
น้ำตาที่ชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้เห็น
พี่เมฆร้องไห้!! ผู้ชายอย่างเขาที่เรื่องหนักหนาสาหัสกว่านี้ ทำให้เจ็บตัวกว่านี้ ทั้งโดนยิง โดนแทง แผลลึกเลือดท่วมแค่ไหนก็ไม่เห็นเขาจะเคยทำหน้าเจ็บปวดเลยสักครั้ง
แต่มาวันนี้ ผมกลับเห็นน้ำตาของเขา
ผมร้าวรานไปเขา รู้สึกแหลกสลายไปกับเขา และรู้สึกตื้นตันกว่าครั้งไหนๆ ที่ได้ยินเขาพูดว่า ‘รัก’ ผม
คำที่ผมอยากได้ยินมาตลอด
แม้พี่เมฆจะชอบทำตัวไม่น่าเชื่อถือ ชอบล้อผม หลอกผมเหมือนเป็นเด็กโง่ๆ แต่คำนี้เท่านั้นที่เขาไม่เคยพูดออกมา แม้ว่าผมจะสารภาพจะพูดไปแล้วหลายครั้งเขาก็ทำเป็นไม่สนใจ บางทีออกจะทำท่าเหมือนไม่อยากรับรู้ด้วยซ้ำ
ทั้งหมดมันคืออะไร มันทำให้ผมไม่มั่นใจ ผมอยู่ได้โดยการรักเขา และยอมรับการดูแลห่วงใยที่พี่เมฆให้แค่นี้ก็พอ
คิดว่ามันน่าจะพอ สำหรับผม...
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าได้รักตอบมันก็คงจะดี
ผมจะได้ไม่รู้สึกครึ่งๆ กลางๆ อีกต่อไป
ผมหลับตาลง ซึบซับช่วงเวลาและคำพูดนี้ไว้ให้นานที่สุด มันคงเป็นความทรงจำที่ผมคงไม่มีวันลืม
พี่เมฆนั่งกอดผมท่าเดิม ท่ามกลางความรู้สึกที่เหมือนทุกอย่างมันหยุดนิ่งไป ผมรู้สึกเปียกที่แก้มกับน้ำตามากมายของเขา ผมเองก็เช่นกัน ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเลย
เมื่อไหร่จะขยับตัวได้สักทีวะ?
ผมจะได้กอดเขาตอบ
แล้วก็จะปลอบเขาให้หายช้อคด้วย
คิดแล้วมันก็ไม่น่าเป็นไปได้นะ... ไม่คิดเลยจริงๆ
H
ใกล้จะถึงความจริง TT^TT