Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี Ch.18 (P.11)(28-9-2016) [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี Ch.18 (P.11)(28-9-2016) [จบแล้ว]  (อ่าน 193455 ครั้ง)

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Brother Ch.10





ผมพยายามลุกออกจากอ้อมแขนแกร่งที่ก่ายกอดผมไว้ แต่มันไม่เขยื้อนเลยสักนิดจนผมต้องดันแรงขึ้น
 
“อืม นอนเฉย ๆ น่า”
เขาปราม ผมพยายามดันแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นดิ้นรน
 
“บอกให้อยู่เฉย ๆ ไงเล่า!! หรืออยากได้อีกรอบ”
ผมหยุดดิ้นทันที ปล่อยหยาดน้ำตาให้ร่วงหล่นเงียบ ๆ
 
“ขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลย เราเป็นพี่น้องกันนะ”
 
“ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นน้อง”
คำนั้นทำเอาผมเจ็บยิ่งกว่าถูกพี่ทำร้ายร่างกายซะอีก น้ำตาผมร่วงหนักยิ่งกว่าเดิม
 
“ทำไมพี่ต้องเกลียดผมขนาดนี้ด้วย”
ผมถามเสียงสะอื้น ไร้คำตอบรับ ผมหมดแรงที่จะขัดขืน ได้แต่นอนเงียบ ๆ ในอ้อมแขนของคนที่เกลียดตัวเองต่อไปจนเช้า
 
ผมตื่นอีกทีตอนตีห้ากว่า ๆ จริง ๆ อยากชิ่งหนี แต่พี่ทัศน์กอดไว้แน่น
 
“อย่าคิดหนีไปไหนล่ะ ไปทำอาหารเช้าให้ด้วย เมื่อวานกินแค่ตัวนายมันไม่อิ่มท้องเท่าไหร่หรอก”
ผมหน้าร้อนผ่าวไปกับคำพูดราบเรียบนั้น ผมรีบสลัดตัว เดินกลับห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ออกมาทำอาหารให้ กะว่ารีบทำให้เสร็จจะได้รีบไปโรงเรียน แต่ถูกพี่ทัศน์รั้งไว้อีกรอบ
 
“กินข้าวก่อน”
 
“ไม่เป็นไร ผมจะไปกินที่โรงเรียน”
 
“กิน”
 
“ไม่”
 
“ถ้าไม่กิน ฉันจะปล้ำนายจนไปโรงเรียนไม่ได้เลย”
 
ผมรีบเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที ตักข้าวกินจนอิ่ม รีบคว้ากระเป๋า เดินลิ่ว ๆ จะออกจากบ้าน แต่ถูกคว้าแขนไว้อีกรอบ
 
“ปล่อย”
 
“จะไปส่ง”
 
“ไม่ต้อง”
 
พี่ทัศน์บีบข้อมือแรงขึ้นจนผมเบ้หน้า
 
“ก็ได้”
เขาปล่อยมือผมให้เป็นอิสระ ผมเดินตามเงียบ ๆ ไปยังรถหรูคันนั้น พอนั่งได้ก็เอาแต่มองนอกหน้าต่างกระทั่งมาถึงโรงเรียน
 
 
“เป็นไงบ้าง”
แนนรีบถามทันทีที่พี่ทัศน์ขับรถออกไป
 
“ไม่มีอะไรหรอก”
ผมบอกให้เพื่อนคลายใจ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด กระทั่งเที่ยง
 
“แนนช่วยเราหาที่พักหน่อยสิ”
 
แนนเลิกคิ้วสงสัย
 
“สงสัยเราคงต้องเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าปกติแล้วล่ะ”
 
“แน่ใจนะ”
 
ผมพยักหน้า
 
“ได้ แล้วแนนจะช่วย”
 
พอตกบ่าย ผมเข้าเรียนแบบไม่มีสมาธิเหมือนเมื่อเช้า เมื่อพี่ทัศน์บีบบังคับให้ผมต้องเป็นคนอื่น ผมก็พร้อมที่จะเป็นเหมือนกัน
 
เลิกเรียน ผมกับแนนไปหาพี่โจอี้เพื่อบอกว่ากำลังหาที่พัก
 
“จริง ๆ ที่นี่มีที่พอทำเป็นห้องพักได้นะ ถ้าไม่ติดสบายเกินไป”
 
ผมยิ้ม
 
“ยังไงก็ได้ ผมอยู่ได้หมดเลย ขอแค่มีที่หลับนอนก็พอ”
 
แล้วพี่โจอี้ก็พาผมไปที่ชั้นสองของร้าน จริง ๆ มันเป็นหนึ่งในห้องเก็บของ
 
“คงต้องจัดเก็บหน่อยนะ”
 
“ไม่มีปัญหาครับ กว้างกว่าห้องผมหลายเท่าเลย”
 
“งั้นว่าง ๆ ก็มาทำความสะอาดได้เลย”
 
“งั้นผมขอทำเลยละกัน แนนช่วยหน่อยนะ”
ผมหันไปบอกเพื่อน
 
“เอาสิ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”
 
แล้วผมกับแนนก็ลงมือจัดการยกข้าวของที่ไม่ได้ใช้ไปทิ้ง ที่นี่เป็นเหมือนโรงยิมขนาดย่อม ตรงกลางเปิดโล่งจนเห็นหลังคา มีระเบียงที่เดินวนได้จนรอบ ห้องที่ผมได้ อยู่แถบซ้ายมือ ส่วนห้องอื่น ๆ เป็นห้องเก็บของและขายพวกของแต่งรถชนิดต่าง ๆ จริง ๆ โรงยิมนี้เป็นของพ่อพี่โจอี้ แล้วให้พี่โจอี้อีกที ลูกค้าเยอะครับ แต่คนงานมีกันแค่สองสามคน พี่โจอี้พักอยู่ห้องใหญ่สุด ที่นี่มีระเบียงที่เห็นดาวได้ด้วย ผมไม่เคยรู้หรอกจนวันนี้แหละ
 
“แคก ๆ ๆ ๆ”
แนนไอใหญ่เลย ผมลูบหลังเพื่อนเบา ๆ
 
มีคนโทรเข้าเครื่อง พอยกดูก็รู้ว่าเป็นใคร ผมไม่สนใจที่จะกดรับ เสียงเรียกเงียบไปนานเลย เขาคงยอมแพ้แล้วล่ะมั้ง
 
แล้วสักพักมือถือแนนก็ดังขึ้น
 
“ค่ะ ๆ”
 
“ไทม์”
 
ผมหันไปมอง
 
“ของไทม์”
 
“ใคร”
 
แนนทำหน้าแหยง ๆ ผมรับมาแนบหู
 
“อยู่ไหน”
เสียงคุ้นหูแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ทัศน์
 
“ทำงาน”
 
“ทำที่ไหน เลิกกี่โมง”
ผมกดปิดทันที ไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น
 
แนนมองผมแหยง ๆ ไม่รู้พี่ทัศน์เอาเบอร์แนนมาได้ไง แต่ผมไม่สนใจหรอก สักพักเสียงมือถือของแนนก็ดังขึ้นอีก แนนกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะกดรับ
 
“ค่ะ ๆ”
แนนรับสายหวาด ๆ
 
“คือพี่เขาบอกว่า ถ้าไม่โทรกลับภายในหนึ่งนาทีนี้ จะโทรหาแม่”
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ทัศน์จะโทรหาแม่เรื่องอะไร แต่ผมไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหา
 
“ทำงานอยู่ที่ไหน เลิกกี่โมง”
เขาถามเสียงเหี้ยม ผมถอนหายใจเบา ๆ
 
“อู่พี่โจอี้ เลิกสี่ทุ่ม”
 
แล้วเขาก็กดตัดสายไป ผมมองโทรศัพท์ ถอนหายใจแรงอย่างคิดไม่ตก
 
“ดูพี่เขาเป็นห่วงไทม์นะ”
 
“หึ หวงหรือ…” มากกว่า
 
“รีบ ๆ ทำเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหาซื้อพวกที่นอนปิกนิกกันดีกว่า”
 
แนนพยักหน้า


[50%]


พวกเรารื้อค้นนู่นนี่กันอยู่สักพัก ผมรวบเก็บของที่ไม่ได้ใช้ลงลังแล้วยกมันขึ้นไปไว้บนชั้นเก็บของ ได้หลายลังอยู่เหมือนกัน ของพวกนี้ไม่กล้าทิ้ง แล้วค่อยยกไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของข้าง ๆ อีกที
 
กล่องมันใหญ่ แทบยกไม่ขึ้น แต่ดีที่มือใหญ่ของใครบางคนมาช่วยดันให้เบา ๆ ผมหันไปมอง

“พี่ทัศน์...”
ผมรีบถอยกรูดไปด้านหลัง แนนคงเอาผ้าถูพื้นไปซัก
 
“นี่ไทม์ ไม่ต้องซื้อพวกชุดที่นอนปิกนิกแล้วนะ พวกพี่ ๆ แนนบอกว่าจะเอาพวกที่นอนกับของใช้จำเป็นมาให้ พวกเตาแก๊สกับเครื่องครัวก็…”
แนนเบรกตัวกึก หลังเห็นคนแปลกหน้าภายใน มือหนึ่งถือไม้ถู อีกมือถือถังน้ำใสสะอาด
 
พี่ทัศน์หันไปมอง
 
“ดีค่ะ พี่ทัศน์”
 
พี่ทัศน์พยักหน้านิดหน่อย
 
“อะนี่โคมไฟ แฟนพี่บอกให้เอามาให้ อยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกนะ น่าจะมีครบทุกอย่าง อ้าวคุณลูกค้านั่นเอง วันนี้ต้องการทำอะไรดีครับ”
 
“เปล่า มีธุระคุยกับน้องคนนี้นิดหน่อย”
 
ผมทำท่าอึกอัก
 
“หมายความว่ายังไง”
พี่ทัศน์ถามเสียงเย็น ผมไม่ได้ตอบอะไร รับโคมไฟไปตั้งไว้ตรงจุดที่คิดว่าน่าจะทำเป็นที่นอน
 
“ฉันถามว่าหมายความว่าไง”
พี่ทัศน์บีบแขนผมแน่น
 
“ผมจะย้ายออกมาอยู่คนเดียว”
 
พี่ทัศน์มองหน้าผมอึ้ง ๆ
 
“หมายความว่ายังไง”
 
“ไม่ไง แค่คิดว่าถึงเวลาที่จะทำให้พี่กับแม่สบายใจซะที แค่นั้นแหละ”
ผมมองตา บิดมือตัวเองออกเบา ๆ แย่งผ้าถูพื้นจากแนนมาถือ ก้มถูพื้นไม่สนใจอีก
 
พี่ทัศน์ไม่พูดอะไร หันหลังเดินจากไป
 
“น่ากลัวจังเลย” แนนรีบเข้ามาจับแขน
 
“หูย แดงเลย”
แนนยกแขนผมดู เป็นรอยมือเลย ผมเพียงแค่ยิ้ม
 
“ใครเหรอไทม์” พี่โจอี้ถามต่อ
 
“คนรู้จักน่ะครับ”
ผมตอบแค่นั้น พี่โจอี้มองหน้า
 
“พี่ชายไทม์ใช่ไหม”
ผมยิ้มให้นิดเดียว ไม่ตอบคำถามอะไรอีก พี่โจอี้ไม่เซ้าซี้ต่อ เดินออกไป
 
 
 
ห้าทุ่มกว่า ผมก็แยกทางกับแนนกลับบ้าน ดึกป่านนี้พี่คงนอนแล้วล่ะ ผมจะกลับไปแพ็คของ เตรียมย้าย
 
เพียงแค่ก้าวเข้าบ้านก็เห็นใครบางคนนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่บนโซฟา ผมเดินเลยขึ้นห้อง แอบหวั่น ๆ เหมือนกันว่าจะโดนทำอะไรหรือเปล่า
 
ยังดีที่พี่ไม่สนใจ
 
หึ คงดีใจล่ะสิที่ผมจะออกไปจากชีวิตพี่เขาได้สักที
 
ผมนั่งพับเสื้อผ้าและจัดเรียงข้าวของจำเป็นลงกระเป๋า เอาเข้าจริง ของผมไม่เยอะหรอก มีแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นกับหนังสือเรียนแค่นั้นเอง ผมเอากระดาษห่อของขวัญที่พี่ทัศน์เคยให้มาด้วย ถึงมันจะเป็นเพียงกระดาษ แต่มันก็มีค่ากับผมมากจริง ๆ
 
ได้ยินเสียงเคาะประตูแรง ผมสะดุ้ง หันไปมอง แต่ไม่คิดจะเปิด พี่เคาะแรงขึ้นจนผมกลัวว่าถ้าไม่เปิดจริง ๆ มีหวังเขาคงพังประตูเข้ามาเองแน่ ๆ
 
และผมจะซวยถ้าแม่รู้
 
พี่ยืนเมาแอ๋อยู่ตรงหน้า มองผมตาเชื่อม
 
“หึ ทำไมย้ายไปอยู่ในที่แบบนั้น ทำไมไม่ไปอยู่กับไอ้อิฐ หรือคนเลี้ยงเขาให้เงินไม่ดีถึงได้ย้ายไปอยู่แบบนั้น”
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ ไม่สนใจคนเมา เดินกลับไปแพ็คของต่อ
 
“น้ำหน้าอย่างนายจะไปทำอะไรได้ นอกจากขายตัวประทังชีวิต”
 
ผมมองหน้าพี่ทัศน์
 
“จะขายหรือไม่ขายมันก็เรื่องของผม พี่ก็น่าจะดีใจที่ผมออกไปให้พ้นหูพ้นตาพี่ไม่ใช่รึไง”
ผมมองซ้ายมองขวา ดูว่ามีอะไรตกหล่นอีกบ้าง พอไม่มีก็จัดการรูดซิป ยกกระเป๋าเตรียมจะเดินออกจากห้องไป
 
จริง ๆ อยากอาลัยอาวรณ์ห้องเป็นครั้งสุดท้ายดี ๆ สักที แต่พอดีพี่ทัศน์อยู่เลยทำไม่ลง
 
ก้าวยังไม่พ้นขอบประตู ก็ถูกกระชากเด้งกลับมาที่เดิม
 
“หึ ๆ ไหน ๆ ก็จะไปรับแขกหลายคนแล้ว น่าจะรับแขกคนนี้บ้างสิ เดี๋ยวจะจ่ายให้งาม ๆ”
พี่ทัศน์คว้าผมไปไว้ในอ้อมแขน ก่อนเหวี่ยงแรงไปนอนอยู่บนเตียง
 
“พี่ทัศน์!”
ผมรีบเด้งตัวลุก แต่ร่างสูงใหญ่ขึ้นคร่อม ผมพยายามต่อสู้ดิ้นรน แต่สิ่งที่ได้คือแรงกดหนักและแรงโถมทับที่มีมากขึ้น
 
ผมนอนน้ำตาไหลภายใต้เรือนร่างของพี่ชายตัวเอง มีเสี้ยวหนึ่งของจังหวะรัก ผมกอดพี่เขาไว้แน่น เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่ใกล้พี่มันแล้ว
 
และคงจะไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพี่ทัศน์ พี่ชายของผม หรือพี่ทัศน์ ผู้ชายที่ได้สัมผัสเรือนร่างนี้ 
 
 
 
 
ผมรอเวลาให้พี่ทัศน์หลับสนิท ค่อย ๆ ดันตัวลุกจากเตียง ยิ้มนิด ๆ ให้คนหลับ ก้มลงไปกระซิบคำบางคำข้างหู
 
“ผมรักพี่นะ”
 
ผมแต่งตัว หิ้วกระเป๋า ก้าวออกจากห้องที่มีใครนอนอยู่อีกครั้ง
 
ไม่ได้โทรบอกแม่เลย แล้วแม่จะสนใจไหม โทรบอกแกหน่อยก็ดี แกจะได้สบายใจ ไงก็เป็นแม่
 
พอรุ่งเช้าผมรีบโทรหาแม่ แอบหวังไว้ลึก ๆ ว่าแกจะยื้อหรือต่อว่าอะไรบ้าง
 
แต่สิ่งที่ได้ก็คือ…
 
“ถ้าตัดสินใจดีแล้วก็ตามใจ”
แม่บอกแค่นั้น วางสายไป ผมนั่งกอดเข่าร้องไห้ ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตรเลย
 
ผมกวาดมองไปทั่วห้องนอนว่างเปล่า ทั้งห้องมีเพียงโคมไฟกับกระเป๋าใบเดียวที่ผมหิ้วมา บอกตามตรง ตอนนี้ผมเหงา เหงาเอามาก ๆ


[80%]

วันนี้ผมตื่นเช้าไปโรงเรียนตามปกติ พอเลิกเรียนก็กลับบ้าน(หลังใหม่) แล้วทำงานต่อ พี่โจอี้เน้นสอนแต่งรถให้ แกบอกว่าผมหัวดีเรื่องนี้ เพิ่งรู้ว่าเงินดีสุด ๆ พี่โจอี้หอบเอาพวกนิตยสารแต่งรถมาให้ศึกษาเพียบเลย
 
ผ่านมาร่วมอาทิตย์ ไม่มีคนโทรหาผมเลยสักคน
 
ทั้งพ่อทั้งแม่หรือพี่ชาย
 
หึ…
พวกเขาคงดีใจแน่ ๆ ที่ผมออกมาจากชีวิตของพวกเขาได้
 
ผมนอนอยู่ใต้ท้องรถ เช็กอาการรถอยู่ ได้ยินเสียงมือถือดังเบา ๆ ผมล้วงหยิบมากดรับโดยไม่มองเบอร์
 
“ครับ”
 
“ไทม์ พรุ่งนี้ว่างไหม พี่จะชวนไปงานฉลองวันเกิดพี่ซะหน่อย”
 
“หะ โอ๊ย!!”
ผมหน้าตื่นทันที รีบกระดกหัวแรงจนชนท้องรถเข้า
 
“เป็นไร”
 
“อู้ย ไม่เป็นไรครับแค่ชนท้องรถนิดหน่อย”
 
“หือ?”
 
“ซ่อมรถอยู่น่ะครับ”
 
“รถใคร? รถไทม์เหรอ ทำไมไม่เอาเข้าศูนย์”
 
“เปล่าครับ รถลูกค้า”
 
“อ้าว แล้วงานทำความสะอาดบ้านล่ะ”
 
“เลิกทำแล้วครับ ซ่อมรถได้เงินดีกว่าเยอะ” ผมพูดทีเล่นทีจริง “ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้วันเกิดพี่”
 
“ไทม์ไม่เคยถามนี่”
 
“ฮ่า ๆ นั่นน่ะสิ แล้วจัดกี่โมงครับ ที่ไหน”
 
“บ้านพี่เอง เริ่มตอนหกโมงเย็น พี่จะไปรับ”
 
“แหม แค่บอกทางมาก็ได้”
 
“ไม่ได้หรอกคนสำคัญ”
 
ผมหัวเราะหึ ๆ ดึงสายสมอลทอล์คมาเสียบหู คุยไปทำงานไป
 
“ชวนแนนด้วยได้ไหม”
 
“เอาสิ”
 
ผมยิ้ม พรุ่งนี้คงต้องชวนแนนไปหาของขวัญก่อนแล้ว
 















วันนี้แนนดูสวยมากกว่าปกติในชุดแซกสีหวานจ๋า ในขณะที่ผม…
 
“นี่ เอาจริงเหรอแนน”
 
“ช่วยไม่ได้ พี่นุ่นบอกว่ายังไงเราก็ต้องใส่”
ชุดที่ผมใส่ตอนนี้ มันดูเหมือนชุดพวกคุณหนูคุณชายยังไงพิกล หวานจ๋าเลย
 
พี่นุ่นลงทุนมาจับเราแต่งตัวกันถึงที่อู่เลย (โดนแนนลากมา)
 
“แหม น่ารักจัง” พี่นุ่นชม
 
“ผมว่ามันดูแต๋ว ๆ ยังไงพิกล”
 
“ไม่หรอก เหมาะกับไทม์ดี หน้าตาออกจะน่ารัก แต่งตัวโทรม ๆ อยู่ได้”
 
“ผมซ่อมรถนะครับ”
 
“ซ่อมอะไรก็ไม่เกี่ยวกันหรอก นอกเหนือเวลางาน เราต้องแต่งตัวให้ดูดีเข้าไว้ คนจะได้หลง”
 
“พอดีผมไม่อยากให้ใครมาหลงซะด้วย”
 
“เพราะไทม์มีคนที่ชอบอยู่แล้วใช่ม้า”
 
ผมมองตาพี่นุ่น
 
“เปล่าซะหน่อย”
 
“อย่ามาโกหกพี่ให้ยาก พี่ดูคนเก่ง”
 
“มั้งครับ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก รักพระจันทร์ยังสมหวังมากกว่าอีก”
 
พี่นุ่นเลิกคิ้ว
 
“ก็อย่างน้อยพระจันทร์ไม่เคยทำให้เราเจ็บ และอยู่เคียงข้างเราเสมอทุกครั้งที่แหงนมอง”
 
ทุกคนมองผมนิ่ง ๆ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ
 
“เอาละ เรียบร้อย พร้อมสำหรับหนุ่ม ๆ แล้ว”
แล้วพี่นุ่นก็ผลักเราสองคนลงไปชั้นล่าง ประจวบเหมาะกับที่พี่อิฐเดินเข้ามาพอดี พี่อิฐมองมาตาค้างเลย
 
“อย่ามองเพื่อนผมตาค้างแบบนั้นสิครับ”
ผมแซว
 
“มองไทม์ต่างหาก”
 
พี่อิฐรีบแก้ ผมเขินจนทำอะไรแทบไม่ถูก
 
“ไปกันได้แล้วครับ”
พูดจบพี่อิฐก็เดินมายื่นแขนให้ผมคล้อง
 
ผมมองอึ้ง ๆ
 
“เอ่อ…ผมว่าอย่าดีกว่าครับพี่อิฐ ผมเป็นผู้ชายนะ”
 
“พี่อยากควงคนน่ารักไปงานนี่ครับ นะ ตามใจเจ้าของงานหน่อย”
โห มาพูดกันแบบนี้แล้วผมจะปฏิเสธได้ยังไงกัน ผมจำต้องคล้องแขนคนตัวสูงไว้ พี่อิฐยิ้ม ยื่นอีกแขนไปให้แนนควงบ้าง
 
แนนมองอึ้งไม่ต่าง แก้มแดงก่ำ แต่ก็ยอมคล้องแขนดี ๆ พากันเดินตรงไปที่รถ
 
ผมว่าผมคิดผิดนะที่ควงแขนพี่อิฐมาแบบนี้ เพราะพอเดินเข้าไปภายในบ้าน ทุกคนพากันหันมามองแล้วส่งเสียงแซวจนผมกับแนนทำตัวแทบไม่ถูก
 
“ควงสองเลยนะไอ้อิฐ ว่าแต่คนไหนตัวจริง”
จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ทำได้ยากแล้วครับ เพราะเล่นคล้องแขนเขามาแบบนี้
 
“ก็…”
ยังไม่ทันที่พี่อิฐจะบอก แขนผมก็ถูกกระชากจนตัวถลาไปปะทะอกกว้างของใครบางคน ผมเงยหน้ามอง
 
“พี่ทัศน์”
รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาทันที ผมพยายามดึงตัวออก
 
“อะไรทัศน์ อย่าเสียมารยาทกับไทม์”
พี่อิฐรีบเข้ามาหาผมทันที
 
“พอดีพี่น้องเขามีเรื่องต้องพูดคุยกัน”
พูดจบพี่ทัศน์ก็ลากผมออกมาจากงานเลี้ยง ผมช็อกไปกับคำนั้น ทิ้งให้พี่อิฐยืนงงอยู่ข้าง ๆ แนน
 
“ดะ เดี๋ยวช้า ๆ”
ผมรีบเบรกคนที่ยังไม่หยุดกระชากร่างผมให้เดินตาม ผมเซจะล้ม ดีว่าคนลากไหวตัวทันโฉบแขนรองรับได้
 
“นี่ พี่ทัศน์ปล่อยนะ”
แล้วพี่ทัศน์ก็ปล่อยผมจริง ๆ จนผมล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ผมรีบพยุงตัวลุกทันที มองหน้าคนทำเคือง ๆ
 
“มีอะไรก็พูดมาอย่ามาทำรุ่มร่ามกันแบบนี้”
 
“ก็แค่คิดถึง อยากรื้อฟื้นความทรงจำบางอย่างด้วยแค่นั้นเอง ไม่ต้องห่วงน่า รับรองจ่ายงาม”
 
“อย่าคิดอะไรบ้า ๆ นะพี่ทัศน์ ผมไม่ได้ขายตัวหรือทำอะไรอย่างที่พี่คิดทั้งนั้น”
 
“หึ อย่าคิดมาโก่งค่าตัวน่า บอกว่าจ่ายก็จ่ายสิ”
แล้วพี่ทัศน์ก็ลากผมไปโยนไว้เบาะหลังของรถ 
 
“จะทำอะไร นี่มันข้างนอกนะ”
ผมท้วงตื่น ๆ เมื่อเขาขยับตามเข้ามาด้วย ผมรีบหันหลังหวังจะเปิดประตูลงอีกด้าน แต่พี่ทัศน์รวบจับมือผมไว้ ดึงขาผมแรงจนตัวราบไปกับเบาะ คนตัวสูงยกยิ้ม คร่อมร่างผมไว้ 
 
“พี่ทัศน์! อย่า”
ผมห้ามได้เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นผมได้เพียงปิดปากเงียบ ไม่ให้เสียงใด ๆ ดังเล็ดลอดออกมาให้ใครได้ยิน ปล่อยร่างกายให้ถูกรังแกอย่างหาทางหลีกเลี่ยงไม่ได้
_____B.T._____
อยู่ก็ไม่ได้ ไปก็ไม่พ้น TT ทำไมถึงเป็นแบบนี้ โดดเอาไม้ทุบหัวพี่ทัศน์แรง ๆ
#หนึ่งเม้นท์หนึ่งกำลังใจนะคะ



ปล. เปิดจองหนังสือรอบแรกแล้วนะคะ จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 สิงหาคมค่ะ
ดูรายละเอียดที่นี่ค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55039.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2016 06:46:14 โดย memew »

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จะหนีพ้นไหมเนี่ย :mew2:

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
ไม่น่าพ้แน่เลยอ่าาา :ling1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
คงจะพ้นหรอกตามติดซะขนาดนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ไม่น่าพ้น แต่อยากให้พ้นนะ เอาใจช่วยไทม์ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
จะรอดม้ายยย พี่ทัศน์รู้จักร้านนี่หน่าา  :katai1:

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จะหนีพ้นไหมเนึ่ย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หนีให้พ้นนะไทม์ หนีให้ไกลยิ่งดี :m16:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
นี้อยากให้เล่นใหญ่หนีหายกันไปเป็นปีๆเลยคะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ไม่พ้นหรอก เบื่อม้านนนนนนนน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หลังจาก.......
ไอ้พี่ทัศน์ เปลี้ยนไป๋ ดูหวงๆ
มีขับรถไปส่งด้วย ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยทำ น่าสงสัยจริงๆ :katai1: :katai1: :katai1:
มีจะโทรหาแม่ด้วย ขู่อีกแน่ะ :เฮ้อ:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ขอเชียร์นายเอกสุดตรีน

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
น้องไทม์จะหนีไปได้กี่วัน พี่ทัศน์คงอกแตกตายแน่ๆงานนี้  :katai1: ยังมีคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ สู้ๆ นะไทม์ คุณแม่หมางเมินน้องจังเลย น้องไปทำอะไรให้กัน  :m15:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2016 21:14:05 โดย Pam_ban »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ถ้าอยากให้พ้นไทม์ควรหนีหายไปไกลกว่านี้แต่ก็อย่างว่าแหละติดเรียนไหนจะเรื่องเงินอีก ถ้าไทม์เรียนจบไวๆคงดี

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เอาใจช่วยน้องไทม์

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อกไซค์เอ. นี้ ต้องใส่เสื้อซับก็พอนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
CHAPTER No.11



“แต่งตัวให้เรียบร้อย”
เขาสั่งเสียงเรียบ ผมขยับพาร่างสั่น ๆ ของตัวลุกขึ้นแต่งตัวดี ๆ ดีว่าครั้งนี้พี่ใส่ถุงด้วยจึงไม่เลอะเทอะมากเท่าไหร่ ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ทัศน์มีอะไรกับใครในรถ แต่นั่นคือผู้หญิง คือคนที่สมยอม ไม่ใช่น้องชาย และคนที่ขัดขืนแบบผม
 
พอเห็นว่าผมเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็ดึงผมลงจากรถ จะพากลับเข้าไปในงานต่อ แต่ผมยื้อไว้
 
“ผมจะกลับ”
เขาไม่ฟัง กระชากดึงผมแรงขึ้นให้ก้าวตาม ผมทำหน้าแทบไม่ถูก เพราะเพิ่งทำเรื่องแบบนั้นกับพี่ชายมา ไม่รู้จะมีใครสังเกตเห็นไหม พี่อิฐรีบเดินเข้ามาหาทันทีที่เห็น ตามมาติด ๆ ด้วยแนน
 
“ไทม์เป็นไงบ้าง นี่มันหมายความว่ายังไง”
พี่อิฐถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง หันไปถามพี่ทัศน์ต่อ พี่มันยักไหล่ขยับมาโอบไหล่ผมไว้เบา ๆ ผมพยายามจะดันตัวออกทำหน้าแทบไม่ถูก
 
“ไทม์เป็นน้องกู”
 
“ทำไมไม่เคยบอก”
 
“ก็ไม่เคยถามเอง”
 
ผมแอบดีใจอยู่ลึก ๆ ที่พี่พูดแบบนี้ นี่พี่ทัศน์ยอมรับผมเป็นน้องแล้วเหรอ
 
“ไม่เห็นรู้มาก่อนว่ามีน้อง นามสกุลก็ไม่เหมือนกัน”
 
พี่ทัศน์ยักไหล่อีกรอบ
 
“ลูกพี่ลูกน้อง”
 
ผมปวดแปลบไปทั่วหัวใจ ดันตัวออกเดินไปจับข้อมือแนน
 
“พี่อิฐ ผมขอตัวไปคุยธุระกับแนนสักครู่นะครับ”
 
พี่อิฐพยักหน้า ผมจูงมือแนนเดินไปยังพื้นที่ที่เงียบ ๆ ด้วยกัน
 
“ไม่เป็นไรนะ”
ทันทีที่อยู่กันเพียงลำพัง ผมคว้าตัวเพื่อนมาซบไหล่ร้องไห้ทันที
 
“ไทม์”
 
ผมได้แต่ร้องไห้ แนนไม่ถามอะไรลูบหลังปลอบใจเบา ๆ นานทีเดียวกว่าผมจะสงบใจได้ แนนผลักผมออกเบา ๆ
 
“ดูสิ หมดหล่อเลย”
 
ผมยิ้มให้นิด ๆ
 
“เราพยายามหนีแล้วนะ ทำไมยังไม่พ้นสักที”
 
“ไม่นานหรอก เชื่อแนนสิ”
 
ผมพยักหน้า ปรับสีหน้าให้ดี ๆ อีกที เดินออกไป
 
ทั้งที่ผมพยายามหนี แต่พี่ทัศน์ก็ยังประกบติดไม่หยุด โดยอ้างความเป็นพี่ชายมาคุมขังผมไว้
 
“น้องไทม์น่ารักจัง”
เพื่อนพี่อิฐคนหนึ่งทำสายตากรุ้มกริ่ม
 
“แต่เสียใจ ไทม์อะของกู”
พี่อิฐออกตัวโทง ๆ ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลย
 
“โห”
 
พี่อิฐยักไหล่ ยิ้มกริ่ม
 
“รอแต่เจ้าตัวจะตอบตกลงแค่นั้นแหละ”
 
“แต่เสียใจด้วยนะ พอดีไทม์เขามีแฟนอยู่แล้ว”
 
ผมหันขวับไปมองคนพูด ๆ พอ ๆ กับพี่อิฐที่มองหน้าผมสลับกับพี่ทัศน์เหมือนกัน
 
“จริงเหรอไทม์”
พี่อิฐถามเสียงเครียด
 
“ไม่มีครับ”
 
“มี”
 
“ไอ้ทัศน์ ไม่ต้องมาทำตัวเป็นพี่หวงน้องเลย”
พี่คนนั้นว่า พี่อิฐมองตาผมอีกที
 
“ไม่มีหรอกครับ” ผมปฏิเสธ
 
“มี อยากให้บอกไหมว่าใคร”
พี่ทัศน์หันมาขู่ทางตา ผมทำท่าอึดอัด กำมือแน่น ทำไมต้องมาบีบบังคับกันแบบนี้ด้วย
 
“ไทม์”
พี่อิฐเรียกด้วยน้ำเสียงหวั่นไหว
 
“แล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟังทีหลังนะครับพี่อิฐ”
ผมจำต้องพูดไปแบบนี้เพื่อให้ทุกคนยุติบทสนทนาอันแสนอึดอัดนี้ลง
 
หลังงานเลิกพี่ทัศน์ลากผมขึ้นรถกลับด้วย ผมขัดขืนได้ไม่มาก เพราะจะทำให้คนอื่นสงสัยเอา
 
“ปล่อยผมลงตรงนี้แหละ”
ผมบอกหลังพ้นเขตบ้านพี่อิฐมาได้ พี่ทัศน์ไม่พูดอะไร เหยียบคันเร่งเร็วขึ้นกระทั่งรถวิ่งเข้ามาจอดสนิทภายในรั้วบ้าน ผมก้าวลงจากรถ เดินตรงไปที่หน้าประตู แต่ถูกรั้งจับมือไว้
 
“เข้าบ้าน”
 
“ผมมีที่พักอยู่แล้ว”
 
“อย่ามาทำตัวร่านแบบนี้”
 
“คำว่าร่านเป็นคำที่พี่ยัดเยียดให้ไม่ใช่สิ่งที่ผมเป็น”
ผมตอบกลับเสียงแข็ง มองเห็นแวววูบไหวจากดวงตาคู่นั้น แต่เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ซึ่งบางทีผมอาจคิดไปเองก็ได้
 
“ผมออกไปเพื่อจะได้ไม่อยู่ขวางหูขวางตาพี่แล้ว เลิกยุ่งกับผมสักที”
ผมพยายามดึงมือออก แต่มันไม่หลุด แล้วพี่ทัศน์ก็กระชากผมเข้าไปชิด ตรึงท้ายทอยผมไว้ กดจูบลงมา ผมอยากขัดขืน แต่เขาบล็อกทุกการดิ้นรนผมลง
 
ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะหวั่นไหว แต่ตอนนี้สมองผมกำลังพร่าเลือนไปกับรสจูบอันนุ่มนวลจากคนตัวสูง เขาถอนริมฝีปากออกช้า ๆ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น มองตาคนตรงหน้า
 
“ปล่อยผมไปเถอะ ผมรู้ว่าพี่เกลียดผมมาก ผมสัญญาว่าผมจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้พี่ ไม่ทำให้เสียชื่อเสียงมาถึงวงศ์ตระกูล ไม่ทำให้แม่เดือดร้อน และไม่ทำให้คนรู้ว่าผมเป็นใคร ขอแค่พี่ปล่อยผมไปเท่านั้น”
 
ผมค่อย ๆ ก้มหน้าลง ปล่อยน้ำตาให้ไหลริน
 
“ปล่อยผมไป แล้วก็เลิกทำแบบนี้สักที ผมไม่ได้ขายตัว ไม่ได้มั่วหรือสำส่อนที่ไหนทั้งนั้น ผมรู้ว่าพี่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าร่างกายนี้ใครกันแน่ที่ได้ครอบครอง พี่ผ่านเรื่องบนเตียงมาเยอะ ก็น่าจะดูออก ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้พี่ปักใจเชื่อว่าผมเป็นคนนิสัยไม่ดี แต่ผมไม่ใช่ ผมไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร ผมขอแค่อย่างเดียว ปล่อยผมไป อย่ายุ่งกับผมอีก แค่นี้ก็พอ”
 
มือที่รัดผมอยู่ค่อย ๆ คลายออกพอ ๆ กับที่ตัวผมค่อย ๆ ก้าวถอยไปด้านหลัง
 
ผมเดินน้ำตารินก้าวตรงไปทางหน้าประตู แต่ยังไม่ทันจะถึงก็ถูกรั้งกลับมาอีกรอบ ลากเดินเข้าบ้าน
ผมยื้อมาตลอดทั้งเส้นทางกระทั่งมาหยุดอยู่กลางห้องรับแขก
 
“ปล่อย” ผมพยายามดึงมือออก “พี่ทำแบบนี้ทำไม ผมรู้ว่าพี่เกลียดผมมาก แต่พอเถอะ ผมออกไปจากชีวิตพี่แล้ว อย่าทำแบบนี้กับผมอีกเลย”
 
พี่ทัศน์มองผมนิ่ง ๆ
 
“แม่ให้นายกลับมาอยู่บ้าน”
 
“หึ คุยกับแม่ล่าสุด ท่านออกจะดีใจที่ผมออกไปอยู่คนเดียวได้”
มองเห็นแวววูบไหวจากดวงตาคู่นั้นอีกรอบ
 
“ปล่อย”
 
“หึ อยากออกไปอยู่คนเดียว เพื่อจะได้ล่าผู้ชายง่าย ๆ รึไง อ้อ ก็ลืมไปว่าพวกผู้ชายขับรถแข่งลีลามันเร้าใจ แถมเงินดีอีกต่างหาก ฉาบหน้าทำเป็นล้างรถ แต่เบื้องหลังคงล้างไปถึงไหนต่อไหนของผู้ชายล่ะสิ”
แต่ละน้ำคำของพี่ทัศน์คล้ายเครื่องสูบที่ดูดเอาพลังวิญญาณของผมออกจากร่างไป ผมหมดเรี่ยวแรงที่จะคัดค้าน เถียงไปก็ไม่เชื่ออยู่ดี
 
“ใช่ เงินดี ลีลาดี ทุกอย่างดีไปหมด เพราะงั้นปล่อยคนสกปรกอย่างผมไปเถอะ อย่าเก็บเอาไว้ให้รกบ้านพี่เลย”
 
“หึ จริง ๆ ก็ไม่อยากจะยุ่งนักหรอกนะ ของเกลือกกลั้วกับชาวบ้าน แต่ก็อยากพิสูจน์เหมือนกัน ว่าลีลาพวกนักแข่งกับฉัน ใครจะทำให้นายพอใจได้มากกว่ากัน”
เขากระชากดึงผมเข้าไปใกล้ กดจูบลงมา อยากขัดขืนอยากดิ้นรน แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงของผมมันหมดไปเพราะใจหมดกำลัง ผมขยับปากตอบรับรสจูบรุกเร้าของอีกคน น้ำตาผมยังคงไหลรินไม่หยุด เขากระชากร่างผมปลิวก้าวขึ้นบันได ตรงเข้าไปยังขุมนรกที่ผมเคยพานพบมาแล้ว
 
“อย่าพี่ทัศน์”
ผมส่ายหัว มองกลับอย่างเรียกร้องหวังให้อีกคนเห็นใจ เขยิบหนีขึ้นไปทางหัวเตียง พี่ทัศน์ไม่พูดอะไร ปลดเปลื้องปราการที่ห่อหุ้มร่างกายตัวเองออก ผมน้ำตาริน ส่ายหัวอีกครั้งอย่างไร้เสียงที่จะเปล่งออกมา เขาย่างสามขุมขึ้นมาบนเตียง กระชากดึงผมลงไปนอนใต้ร่างของตัวเอง ผมกางกั้นร่างนั้นไว้ด้วยสองมือ น้ำตาร่วงรินหนักหน่วง
 
พี่ทัศน์ไม่สนใจน้ำตาผมเลยสักนิด กระชากปราการทุกชิ้นออกจากตัวผมโยนทิ้งไปไกล ซุกหน้ากับซอกคอ กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้ง ผมสะอื้นฮัก พยายามดันปากที่กำลังซุกคอนั้นออก เรี่ยวแรงที่มีน้อยนิดก่อนหน้า แทบไม่มีเหลือหลอเมื่อร่างกายกำลังถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟแห่งความปรารถนา เสียงครางผสมสะอื้นของผมดังให้ได้ยินอยู่เป็นพัก ๆ สองมือใหญ่ฟ้อนเฟ้น มันทั้งคุกคามและปรนเปรอในเวลาเดียวกัน
 
แม้จะเสียใจกับเรือนร่างที่ถูกเชื่อมประสาน แต่ในเวลาเดียวกันธรรมชาติก็รังสรรค์ความซาบซ่านเข้ามาสู่หัวใจผม ร่างสูงใหญ่ก่ายเกยโถมทับ ปากร้อนแนบสนิทกับปากผม สองฝ่ามือลามไล้ ท่อนล่างขับบรรเลงเป็นจังหวะ
 
ถึงผมจะเครือครางเพราะร่างกายถูกกระตุ้นจากแรงอารมณ์ขนาดไหน แต่ความรู้สึกเสียใจนั้นมีมากกว่า
 
แม้แต่ห้วงอารมณ์สุดท้ายที่ผมถูกชักนำให้ไปถึงปลายทาง น้ำตาก็ยังไม่หมดไปจากใบหน้าของผม
 
 


กระทั่งรุ่งเช้า
พี่ทัศน์ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้หนีไปแม้แต่น้อย รัดร่างผมแน่นในอ้อมแขนใหญ่
 
“ปล่อยพี่ทัศน์ ผมต้องไปโรงเรียน”
 
“อืม หยุดสักวัน จะโทรไปลาให้”
 
“ไม่ ปล่อยนะ” ผมดิ้นรน
 
“พูดมากน่า”
แล้วพี่ทัศน์ก็จัดการคร่อมร่างผมไว้อีกรอบ ผมได้แต่นอนไร้แรงกระทั่งผ่านไปอีกครึ่งวัน
 
 
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนพี่ทัศน์กำลังกดวางสายจากใครสักคน
 
“ลาโรงเรียนให้แล้ว”
 
ผมไม่ได้โต้ตอบอะไร ดึงผ้าห่มมาห่อร่างเป็นดักแด้จะเดินเข้าห้องน้ำ แต่พี่ทัศน์ดึงผมทั้งผ้าห่มไปนั่งบนตัก ผมหน้าร้อนผ่าวจ้องหน้าคนตัวสูงตื่น ๆ
 
“ขี้เหร่”
 
“งั้นก็ปล่อยซะสิ”
 
เขายักไหล่ ปล่อยผมลง ผมห่อตัวแน่นขึ้น เดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาไม่นานก็เดินห่อตัวออกมา กำลังจะก้มหยิบเสื้อผ้าชุดเดิมมาใส่ แต่พี่เบรกไว้
 
“ใส่ชุดนี้”
พี่ทัศน์ยื่นเสื้อของตัวเองมาให้
 
“ไม่เป็นไร ผมใส่ชุดนี้ก็ได้ เดี๋ยวกลับไปเอาที่ห้อง”
 
“ใส่ชุดนี้!!”
เขาสั่งเสียงเข้ม ผมไม่ทำตาม หยิบชุดเดิมมาถือ พี่ทัศน์กระชากชุดนั้นออกไป
 
“ชอบนักรึไงชุดแบบนี้ อยากใส่ก็ตามใจ”
แล้วเขาก็จัดการฉีกชุดนั้นจนขาดวิ่น ผมมองตาค้าง
 
“อ่ะ ใส่ได้ตามสบาย”
พี่แกยื่นคืนมาให้ ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
 
“พี่ทำแบบนี้ทำไม นั่นชุดของพี่นุ่นเขา คนให้เขาจะรู้สึกยังไง”
 
พี่ทัศน์ยักไหล่เดินออกจากห้องไป ผมจำต้องหยิบเสื้อของคนตัวสูงมาใส่ พับชุดที่ขาดเข้าด้วยกันน้ำตาร่วงเปาะแปะ
 
ผมเดินลงไปข้างล่าง พี่ทัศน์ยืนเท่กอดอกอยู่ตรงปลายบันได
 
“ไปกินข้าวกันก่อน”
 
“ไม่ ผมจะกลับบ้าน”
 
“นี่แหละบ้าน”
 
“ของพี่ ไม่ใช่ของผม”
 
“หึ ที่รก ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้ชายแบบนั้น เขาไม่เรียกว่าบ้านหรอก ซ่องมากกว่า แล้วไอ้เจ้าของร้านนั่นคงเป็นหนึ่งในลูกค้า หรือไม่ก็เป็นพ่อเล้าหาเหยื่อให้ล่ะสิ”
 
ผมฟาดมือใส่หน้าคนตัวสูงสุดแรง
 
“พี่จะดูถูกผมยังไงก็ได้ แต่อย่ามาดูถูกคนที่มีบุญคุณกับผมแบบนี้”

80%

พี่ทัศน์บดกรามแน่น ผมรอคอยว่าเขาจะโต้กลับยังไง แต่เขาไม่พูดอะไร คว้าจับต้นแขนผมลากกึ่งจูงเดินไปที่รถ
 
“จะไปไหน”
เขาไม่พูดอะไร ลากพาผมมานั่งอยู่ในร้านอาหารแบบสบาย ๆ ร้านหนึ่ง พอมาถึงก็สั่งอาหารมากมายจนเต็มโต๊ะไปหมด
 
แต่แปลกไหม รู้สึกว่าอาหารทั้งหมดจะเป็นอาหารที่ผมชอบทั้งนั้นเลย
 
ไม่หรอก คงเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
 
ผมนั่งหวิวจำใจนั่งกินไปเงียบ ๆ โดยมีพี่ทัศน์นั่งกินอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้จะเตือนใจว่าเป็นพี่น้อง แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีก แต่ผมก็อดใจเต้นไม่ได้   
 
“พี่ทัศน์”
กินยังไม่ทันจะถึงครึ่งท้อง เสียงหวาน ๆ ของสาวนางบางคนก็ดังขึ้น ผมกับพี่ทัศน์หันไปมอง สาวนางปรายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่พูดอะไรทิ้งตัวลงนั่งบนตักพี่ทัศน์แบบไม่เกรงใจใคร
 
รู้สึกคนนี้พี่ทัศน์จะเคยคั่วแล้วทิ้งมาก่อน
 
“บังเอิญจังเลยเนอะ ไม่คิดว่าจะเจอพี่ทัศน์ที่นี่ ว่าแต่...นี่ใครคะ”
 
สงสัยจะจำผมไม่ได้
ก็นะ แต่ก่อนใส่แว่นกับแต่งตัวโทรมกว่านี้ (ตัดผมทรงใหม่ด้วยครับ พี่นุ่นตัดให้) 
 
“แฟน”
พี่ทัศน์ตอบสั้น ๆ สาวนางหันขวับมามอง เบิกตากว้าง
 
“นะ นี่พี่ทัศน์เปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่”
 
พี่ทัศน์ยักไหล่ไม่พูดอะไร สาวนางอึ้งไปนาน ก่อนคลี่ยิ้ม
 
“ตกใจเหมือนกัน แต่หล่อ ๆ แบบพี่ทัศน์คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่หรอก งั้นขอริต้ากลับไปเป็นหนึ่งในนั้นได้ไหม” ผู้หญิงสมัยนี้นี่กล้าดีจริง ๆ
 
พี่ทัศน์ไม่ตอบ ล้วงหยิบเงินมาวาง ลุกขึ้นจนอีกคนหลุดออกจากตัก กระชากแขนผมเดินไปด้วยกัน
 
“เดี๋ยวพี่ทัศน์ ยังกินไม่อิ่มเลย”
 
“กลับไปทำกินที่บ้าน”
เขาบอกแค่นั้น ผมหันกลับไปมองหญิงสาว รายนั้นยืนหน้าเสียอยู่กับที่ ทำท่าเหมือนจะโวยวาย แต่ระงับไว้ สงสัยจะกลัวเสียหน้า ผมหันกลับไปมองคนที่ยังไม่หยุดลากแขนผมออกไปจากที่เกิดเหตุ
 
เสียดายอาหารครับ อร่อยด้วย แต่เอาเถอะ เข้าใจว่ารีบชิ่งเพราะอะไร
 
“นั่นแหละคือผลของการสำส่อนไม่เลือกของพี่”
ผมว่าตามใจคิด พี่ทัศน์เบรกกึกจนผมที่เดินตามมาชนเขาเข้าเต็ม ๆ
 
“เหมาะกันดีนี่ นายก็สำส่อนไม่แพ้กัน”
 
ผมวาดมือหวังฟาดใส่หน้า แต่พี่ทัศน์รวบจับไว้แน่น
 
“ทั้งสำส่อนทั้งซาดิสม์ อย่าเพิ่งมามีอารมณ์ตอนนี้ไทม์ รอกลับถึงบ้านก่อน จะบริการให้ถึงพริกถึงขิงเลย”
 
ผมยื้อจะฟาดอีกรอบ แต่พี่ทัศน์รัดมือผมแน่นจนเจ็บไปหมด
 
“ปล่อย!!”
เขาไม่ปล่อย ซ้ำยังจับแน่นกว่าเดิมอีก
 
“ไม่มีของที่บ้านเหลือแล้ว ไปซูเปอร์หาซื้อข้าวของแล้วกลับไปทำกินที่บ้าน”
 
“มีเงินก็หาซื้อกินเองสิ ไม่ทำ”
ผมพยายามจะดึงมือกลับ พี่ทัศน์มองผมนิ่ง ๆ จนผมต้องยอมเงียบปาก เขาลากผมขึ้นรถไปหาซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
 
หวิวมาก...
ผมใส่เสื้อพี่ทัศน์ไว้ตัวเดียว กางเกงขาสั้นก็ไม่มี ดีว่าไม่ฉีกชั้นในทิ้งไปด้วย คนมองกันใหญ่ ถึงเสื้อจะหนาแต่ก็ดูไม่เรียบร้อยอยู่ดี
 
ผมพยายามยืนนิ่ง ๆ ไม่สนใจสายตาผู้คนที่พากันมองมารอบ ๆ เดินเลือกซื้อของใส่รถเข็นเงียบ ๆ
 
พี่ทัศน์เดินหายไปตรงแผนกข้าวของผู้ชาย คงไปซื้อพวกโฟมล้างหน้าไม่ก็น้ำยาโกนหนวด ผมเลือกขนมปังแถวเอาไว้ให้พี่กินวันหลัง จริง ๆ ไม่ได้อยากสนใจมากนักหรอก แต่เขาอยู่คนเดียวแบบนี้ ไม่รู้จะกินอาหารดี ๆ ถูกหลักบ้างไหม หน้าก็คล้ำ ๆ ลง ไม่รู้เพราะอาหารหรือเพราะร่อนสาวหนักไป
 
แต่น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า
 
ผมสะดุ้ง เพราะอยู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า
 
“เอ่อ ขอโทษ มาคนเดียวเหรอ น้องมีเบอร์ไหม”
มาถึงก็รีมิกซ์เลย
 
ผมอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าจะโดนจีบตรง ๆ แบบนี้
 
ถามหน้าตาว่าผ่านไหม
 
ก็โอเลยนะ
 
แต่ว่า…
 
“ไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับผัว”
คนพูดไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่เป็นพี่ทัศน์ พี่แกยืนหน้าเรียบอยู่ด้านหลังผู้ชายคนนั้น คนแปลกหน้ารีบหันไปมอง
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ
 
“เอ่อ ขอโทษครับ”
แล้วเขาก็เดินจากไป
 
“อย่ามายั่วผู้ชายแถวนี้”
พี่ทัศน์บีบต้นแขนผมแน่น
 
“ไม่ได้ยั่ว”
 
“หึ ไม่ยั่วแล้วไอ้หมอนั่นจะมาขอเบอร์ได้ไง”
 
“ไม่รู้ ปล่อย พี่ทัศน์ ผมเจ็บ”
พี่ทัศน์ก้มมองมือตัวเองนิด ๆ สะบัดออกแรงด้วยสีหน้าโมโห ผมก้มมองข้อมือตัวเอง
 
ทีกับคนอื่นล่ะอ่อนโยน ทีกับน้องตัวเองล่ะบีบเอาบีบเอา ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยนอนกับพี่เหมือนกันนะ
 
อยากตะโกนบอกแบบนี้เหมือนกัน แต่มันไม่เหมาะ และไม่ควรจะเหมาะด้วย
 
เราควรจะหยุดความสัมพันธ์แบบนี้ลง
 
เพราะเราเป็นพี่น้องกัน



_____B.T._____
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2016 19:58:24 โดย memew »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ถึงเราจะสายดราม่าแต่ก็ไม่ชอบการบังคับแบบไร้เหตุผลแบบนี้นะ ไอ่พี่ทัศน์แย่มากอะ

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ไม่ชอบอิพี่จริงๆนะ เอะอะก็ลากไปปล้ำ ชอบพูดจาดูถูกทั้งๆที่รู้ว่าน้องเป็นคนยังไง

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ถ้าทัศน์ยังทำอย่างนี้เรื่อยๆ ซักวันนึงน้องต้องพีคมากแล้วก็จะไปในที่ๆใครตามก็หาไม่เจอ แล้วจะรู้สึก

ออฟไลน์ Shin b

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เมื่อไหร่จะหนีพ้นอะ ...สงสารไทม์

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
พี่แม่งก็หื่นเหลือเกิน เอะอะจับกดๆตลอด

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
รู้สึกว่านิยายแต่ละเรื่องของคนแต่ง มันวนลูปมาที่เดิมอีกแล้ว พระเอกก็ไม่รู้เป็น อะไรตอนมีอะไร
กับเขาก็รู้วายังบริสุมธิ์ แต่ชอบด่านายเอกจัง ว่าร่าน ขายตัว (แต่ก็บังคับจะเอาเขาให้ได้)
นายเอกก็ตัวอ่อนเหลือเกิน  เราว่านางควรสู้คนมากกว่านี้ ถึงจะตัวเล็กกว่าแต่ยังไงก็ผู้ชาย

อันนี้แค่ความรู้สึกเรานะ มันอาจจะเป็น Stly ของคนเขียนก็ได้
ถึงยังไงยังติดตามต่อคะ

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
เรื่องไม่ไปไหนเลยค่ะ วนลูปอยู่แบบนี้


ติดตามนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด