อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ
บทที่ 21
Anubis Lord of the Death
กลิ่นกายจากร่างสูงที่โถมเข้าใส่อบอวลไปด้วยความฉุนของเหล้าและบุหรี่เต็มคราบ ใบหน้าที่ซบลงมาบนบ่าก็ดูเลื่อนลอย
ไม่เป็นผู้คนเมื่อเวทิศพยายามผลักให้ปาลออกห่างแต่ก็ไม่สำเร็จ
“ไอ้ผู้กอง ไอ้ขวดเหล้าเดินได้ ปล่อยกูเลยเหม็นชิบหาย แดกเข้าไปได้ไงขนาดนี้”
“อย่าดุนักสิ กลัวแล้วคร้าบ”
เสียงอ้อแอ้ดังออกมาจากปากฟังแทบไม่รู้เรื่อง ดวงตาของเวทิศแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ที่เขานั่งดื่มเพียงคน
เดียวจนกระทั่งผับปิด เจ็บใจที่ถูกกวินตราเอ่ยปากของเลิกประกอบกับความเหงาทำให้ปาลไม่อาจกลับไปนอนคนเดียวที่บ้านของเขาได้
แต่ก็แปลกที่แม้แต่ในช่วงเมามายกลับมีเพียงเวทิศเท่านั้นที่เขานึกถึงและพาตัวเองมาถึงที่พักของเวทิศได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิด
อุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน
“อุตส่าห์มาหาด้วยความคิดถึง ยิ้มรับหน่อยก็ไม่ได้”
“ยิ้มเหี้ยอะไร ใครจะยิ้มออกวะมาสภาพแบบนี้”
เวทิศส่งเสียงโล้งเล้ง เขาพยายามเบือนหน้าหนีเพราะไม่ชอบกลิ่นเหล้าและบุหรี่ แต่ฝ่ามือที่ยึดลำตัวของเขาไว้ก็ไม่ปล่อย
ให้เวทิศทำได้อย่างใจคิด นึกโมโหจนต้องกลั้นลมหายใจแล้วหันไปมองหน้าปาล ร่องรอยความรู้สึกที่ยังฉายชัดอยู่บนใบหน้านายตำรวจ
หนุ่มทำให้เวทิศพอจะเดาออกว่าทำไมปาลถึงได้กระหน่ำดื่มเหล้าเสียขนาดนี้ และสิ่งที่เขาคิดนั้นสร้างความเจ็บแปลบจนนึกอยากจะก่น
ด่าตัวเองที่รู้สึกเช่นนั้น
“เฮอะ ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าถูกผู้หญิงเทมาล่ะสิ ก็ดูทำตัวเข้า สมควรแล้วที่เขาทิ้ง”
“เวทิศ!”
คำพูดของเวทิศยิ่งตอกย้ำให้ปาลเดือดเพราะความเสียหน้า ความเป็นผู้ชายแท้ๆที่เกลียดการถูกหยามศักดิ์ศรีทำให้เขา
กระชากต้นแขนของเวทิศเข้าหาตัวพร้อมกับบีบแน่นจนเวทิศหน้าเสีย
“ปล่อยนะผู้กอง ผมเจ็บนะโว้ย”
“ด่าอีกสิ แน่จริงก็ด่ามาอีกไอ้คนปากเสีย”
เสียงตะคอกของปาลทำให้เวทิศยิ่งน้อยใจเพิ่มขึ้นมาอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่ปาลโมโหเช่นนี้ก็คงเพราะรักกวินตรามาก มากจน
แตะต้องไม่ได้
“เออ ไอ้คนนิสัยไม่ดี ใจร้อน ขี้โมโหขี้วีนขี้เหวี่ยง ขี้เมาเอาแต่ใจ ใครจะไปทนอยู่ด้วยได้วะ สมน้ำหน้าที่ถูกทิ้ง อุ๊บ!”
โดยไม่ทันตั้งตัวสักนิดเวทิศก็ต้องตกใจเมื่อร่างของเขาถูกผลักจนหงายหลังลงไปกับพื้นห้อง ศีรษะกระแทกพื้นแม้จะไม่แรง
นักแต่เขาก็มึนไปหมด และเขาก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเพราะปาลทิ้งกายหนักลงมาทับอยู่บนร่างของเขา แขนทั้งสองถูกตรึงไว้เหนือหัว
บนพื้นเย็นๆ เวทิศมองเห็นเพียงใบหน้าของปาลที่ก้มลงมาจนกระทั่งมันปิดปากช่างต่อว่าของเขาไว้จนไม่อาจเอื้อนเอ่ยอะไรได้อีก
“อึก อื้อ...”
กลิ่นแอลกอฮอลล์และนิโคตินระเหยออกมาจากปลายลิ้นที่ฉวยโอกาสฉกเข้ามาในโพรงปากของเวทิศราวกับงูร้าย มันทำ
ให้เวทิศมึนงงไปพร้อมรสจูบหนักหน่วงที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ลิ้นลื่นนั้นตวัดอย่างช่ำชองจนเวทิศตกใจ รสจูบของปาลดึงสติ
สัมปชัญญะทั้งหมดของเวทิศจนหมดแรงต้านทาน มือทั้งสองที่พยายามดิ้นรนจึงค่อยๆหยุดนิ่งตกแนบไปกับพื้นจนกระทั่งปาลไม่จำเป็น
ต้องยึดมันไว้อีกต่อไป
เวทิศได้ยินเสียงเสื้อยืดตัวเก่าแสนย้วยและกางเกงขาสั้นที่เขาใช้ใส่นอนถูกฉีกขาดอย่างง่ายดาย นึกเจ็บใจที่เขาขาดความ
ระมัดระวังป้องกัน ก็ใครจะนึกว่าจะถูกรุกรานแบบนี้ในห้องพักของตัวเองกันเล่า และยิ่งเจ็บใจมากขึ้นที่ตนเองนั้นไร้เรี่ยวแรงจะต่อสู้ คน
อย่างเวทิศสนใจการออกกำลังกายเสียเมื่อไหร่ จะมีแรงที่ไหนไปสู้กับนายตำรวจที่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างปาล แถมยังได้ฤทธิ์
เหล้าเข้าไปช่วยเสริมทำให้ตอนนี้ปาลก็เหมือนกระทิงเปลี่ยวที่กำลังกลัดมัน
เสียงที่ได้ยินตามมาคือเสียงรูดซิปกางเกงยีนส์ของปาล มันสร้างความหวาดหวั่นให้กับเวทิศเมื่อเดาได้ว่าจุดประสงค์ของ
ปาลคืออะไร เวทิศเบิกตาโตเมื่อปาลไม่สนใจจะถอดยีนส์ตัวนั้นออกให้หมดด้วยซ้ำ เขาทำเพียงงัดความเป็นชายอันแข็งแกร่งออกมา
ภายนอกและจับท่อนขาของเวทิศให้ยกสูง เวทิศเค้นแรงผลักไหล่ของปาลออกได้เพียงให้ริมฝีปากผละออกจากกัน ปากของเขาสั่นระริก
ยามเอ่ยห้ามปาล
“อย่านะผู้กอง ผมไม่...”
อึก!
เสียงห้ามเงียบดับไปทันทีเมื่อปาลชำแรกความเป็นชายเข้ามาในร่างกายของเวทิศ ความเจ็บปวดเมื่อกล้ามเนื้อปริแยกจาก
กันทำให้เขาร้องไม่ออก มันเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตจนเขาไม่อาจประมาณได้เวทิศเกร็งกายอ้าปากค้าง เหงื่อไหลซึมไปทั่วทุกอณู
ขุมขนแม้ว่าเขาจะเปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ
ความคับแน่นรัดรึงจากช่องทางที่ไม่ได้ผ่านการเตรียมตัวและปฏิกิริยาตอบโต้ของเวทิศดึงสติกลับคืนมาสู่ปาลได้จนเกือบ
จะหายเมา เขาชะงักงันและสบถออกมาขณะประสานสายตากับดวงตาที่ยังเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเขาดันกายเข้าไปทีเดียวเสียเกิน
ครึ่ง ช่องทางของเวทิศร้อนระอุและบีบคั้นจนเขาอึดอัด แม้จะพอมีสติขึ้นมาบ้างแต่ความต้องการของปาลกลับไม่ได้ลดลงเลย หากแต่
เขาก็นึกสงสารเวทิศกับความเจ็บปวดที่ปาลรู้ว่ามันเป็นครั้งแรกของเวทิศแน่ๆ
“เวทิศ ใจเย็นนะ”
ปาลเอ่ยปลอบขณะหยุดพักและใช้ท่อนแขนเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเวทิศ ความเจ็บปวดที่พอจะคลายลงบ้างทำให้เวทิศก
ลับคืนมาสู่ความจริง เวทิศผงกหัวขึ้นมามองปาลอย่างเจ็บใจ
“ไอ้เหี้ยผู้กอง เอาของมึงออกไป”
ยกมือผลักไสแต่หากถูกรวบไว้ด้วยมือสากของปาลที่บัดนี้มองเขาอย่างอ่อนโยนกว่าที่เคยมอง
“ผมขอโทษ ผมเสียใจ แต่มันล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว อย่าให้เรื่องทั้งหมดมันสูญเสียไปเปล่าๆเลยนะ”
“จะทำอะไรอีกไอ้ผู้กอง อ๊ะ!”
อีกครั้งที่เวทิศเสียท่า ปาลก้มหน้ามาช่วงชิงกลีบปากของเขาได้อีก แต่คราวนี้มันไม่ได้หนักหน่วงรุนแรงเหมือนจูบแรก ทว่า
มันกลับเรียกร้องและทำให้เวทิศสติหลุดเสียยิ่งกว่า มือสากร้อนผ่าวแตะต้องไปตามเนื้อตัวบางเบาสลับบีบเค้นจนสมองของเวทิศหลงลืม
ไปสิ้นทุกสิ่งอย่าง และไม่เหลือเรี่ยวแรงจะห้ามปรามยามร่างกายทั้งสองขยับประสานลึกล้ำจนสุดทาง
เวทิศปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขากำลังเตลิดไปกับการกระทำของปาลอย่างแท้จริง มันเป็นความแปลกใหม่ที่คนคงแก่เรียน
อย่างเขาไม่เคยรู้จัก ปาลกำลังสอนให้เขาได้รับรู้อีกประสบการณ์หนึ่งของชีวิตเมื่อตอนนี้ร่างกายของเขาตกเป็นของปาลโดยสิ้นเชิง เวทิ
ศผวาทุกครั้งยามปลายลิ้นอุ่นแตะต้องไปตามเนื้อตัวและยามที่ปาลขยับกายขับเคลื่อนอยู่ในช่องทางของเขาที่เปิดทางตอบรับในที่สุด
“อา...เวทิศ อีกนิดนะ”
“ผู้กอง อื้อ เบาๆ ผม โอย”
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางปาลก็กลายเป็นผู้นำ เขาทั้งปลุกปลอบและรุกเร้าพาให้เวทิศตามติดไปกับความสัมพันธ์ที่แสน
ลึกซึ้ง เวทิศมีสติรับรู้ทุกอย่างแต่ก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้ตกหลุมของปาลได้ ร่างกายของเวทิศตื่นไปกับสิ่งที่ปาลกำลังกระทำอยู่
“ผู้กอง ผมไม่ไหวแล้ว”
สองแขนที่สอดไปรอบบ่ากว้างกระชับเบียดแนบแน่นเมื่อเวทิศสั่นไปทั้งตัว ปาลกัดฟันรับความตอดถี่ของผนังโดยรอบที่กด
รัดจนเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหว ปาลโอบกอดเวทิศไว้และช้อนกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ออกแรงช่วงสุดท้ายได้อย่างเต็มที่ เสียงหอบ
หายใจกระเส่าร้อนรุมเป่ารดกันอยู่ข้างแก้มเมื่อร่างกายเบียดอัดกันจนไม่เหลือช่องว่าง
“พร้อมกันนะเวทิศ”
ไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงของตัวเองนั้นหวานกว่าที่เคย ปาลออกแรงโยกรั้งอยู่ในร่างกายของเวทิศบนพื้นห้องแข็งกระด้าง หาก
แต่มันไม่เป็นอุปสรรคสักนิด เขาปรนเปรอเวทิศด้วยจูบอีกครั้งก่อนที่เขาจะชักนำเวทิศให้รู้จักกับความสุขที่ไม่เคยพบพานจนกระทั่งทิ้ง
กายซบลงไปด้วยกันอย่างหมดแรง
ความเหน็ดเหนื่อยและปวดร้าวมาเยือนร่างกายของเวทิศ เขาหอบหนักจนตัวโยนแม้แต่ตอนที่ปาลถอนกายออกอย่าง
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ถึงกระนั้นเวทิศก็ยังต้องนิ่วหน้า เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นเวทิศจึงกลับมาเป็นตัวตนของเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มที่
เพิ่งจะหายเหนื่อยกำหมัดแน่นและต่อยเข้าที่โหนกแก้มของปาลดังเปรี้ยง
ปาลหน้าหันไปตามแรงหมัด มันไม่ได้รุนแรงนักหากแต่ก็เรียกความรับรู้ผิดชอบชั่วดีกลับคืนมาได้ เขาหันกลับมาเผชิญ
หน้ากับเวทิศที่มองเขาด้วยความเจ็บใจ ปาลหายเมาเป็นปลิดทิ้งใบหน้าของเขาสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“เวทิศ ผมขอโทษ”
เวทิศผลักบ่ากว้างออกให้พ้นตัวก่อนกระเสือกกระสนลุกขึ้นนั่ง ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธและเจ็บใจ ความ
สูญเสียทางกายยังไม่เท่าที่สูญเสียทางใจเมื่อเขารู้ดีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะปาลเมาไม่ใช่เพราะความต้องการด้วยใจอย่าง
แท้จริง นี่ต่างหากที่ทำให้เขาเสียใจ
“ไปให้พ้นหน้าผมไอ้ผู้กอง”
“แต่เราเพิ่งจะ...”
“ช่างแม่ง”
เวทิศสบถออกมาพร้อมเบือนหน้าหนี มันทำให้ปาลสำนึกผิดและสงสารเวทิศที่ต้องตกเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของ
เขา แต่ปาลก็อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เพิ่งจะจบลงไปมันทำให้เขารู้สึกดีกับเวทิศอย่างน่าแปลกใจ
“ผมควรจะรับผิดชอบ”
“โว้ย ผมไม่ใช่เด็กอายุสิบห้า”
เวทิศโวย เขายกเท้าถีบเข้าที่สีข้างของปาลก่อนจะร้องโอดโอยเพราะเจ็บบั้นท้าย ปาลรีบฉวยโอกาสนั้นพุ่งเข้ารวบตัวของ
เวทิศแล้วดึงเข้ามากอด เวทิศพยายามขัดขืนแต่เมื่ออ้อมกอดนั้นอ่อนโยนกว่าที่คิดทำให้เวทิศยอมสงบลงแต่ก็ยังฮึดฮัดอยู่ในอ้อมกอด
นั่น
“ยกโทษให้ผมนะ”
“ง่ายไปผู้กอง ผมไม่ใช่เครื่องมือบำบัดความใคร่ ระบายความเศร้าของใคร”
เวทิศค่อนขอด เขาผลักหน้าของปาลที่ก้มต่ำมาหาเขา ความคิดที่ว่าปาลอกหักแล้วมาลงกับเขายังวนเวียนอยู่ในสมองจน
ไม่อาจมองเป็นอย่างอื่น
“ตอนแรกก็คิดอย่างนั้นนะ” ปาลสารภาพ “แต่เมื่อมันจบลงผมโคตรรู้สึกดีกับคุณเลย คุณไม่คิดแบบผมเลยสักนิดเหรอ”
เวทิศเม้มปากแน่น จะให้บอกได้อย่างไรว่าเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน หากปาลมีความสัมพันธ์กับเขาโดยไม่มีเรื่องกวินตราเข้า
มาเกี่ยวข้อง เวทิศอาจจะมีความสุขทั้งกายและใจมากกว่านี้
เวทิศตกใจตัวเอง
คำตอบที่ก้องอยู่ในหัวมันจะเป็นประการใดไม่ได้นอกจากว่าเขาจะตกหลุมรักปาลเข้าเสียแล้ว
“ถ้ามึงอยากรู้อยากเข้าใจ ก็ลองมีความรักดูสิ”
คำท้าทายของอาศิรก้องขึ้นมาฉับพลัน หัวใจของเวทิศเต้นรัวขึ้นมาทันควันเมื่อจำเป็นต้องยอมรับ
เขารักปาล
มีต่ออีกนิด...